Immortality Chapter 487 Immortal Slashing Flying Blade
นิยาย เรื่อง อมตะ 487 มีดบินพิฆาตเซียน.
Chapter 487 Immortal Slashing Flying Blade
斩仙飞刀
มีดบินพิฆาตเซียน.
ท้ายที่สุดก็ถึงวันที่กู่เฉิงตงจะทำการแยกสวรรค์,สะบั้นปฐพีแล้ว.
ในวันนี้,เมืองบรรพกาลศักดิ์สิทธิ์นั้น,มีผู้คนเดินทางมา,หากแต่ไม่ได้รับอนุญาตให้เข้ามาในเมือง,ทว่าพวกเขาก็ซ่อนตัวอยู่รอบๆ.
การแยกสวรรค์,สะบั้นปฐพีนั้น,นั้นสร้างความสนใจต่อผู้คนมากมาย,ข่าวนี้กระจายไปทั่วหล้านานแล้ว,ทำให้มีคนมากมายมารวมตัวกัน,และแน่นอนว่างานใหญ่ในครั้งนี้,ย่อมซ่อนอันตรายเอาไว้มากมายด้วยเช่นกัน.
ในอดีตนั้นการกลายเป็นเซียน,เมื่อต้องเผชิญหน้ากับอำนาจสวรรค์,เพื่อให้สวรรค์ยอมรับ,และหลีกเลี่ยงหายนะ,เมื่อได้รับการยอมรับสวรรค์ก็จะสามารถกลายเป็นเซียนได้,ทว่าตอนนี้แตกต่างออกมา,นี่คือการแยกสวรรค์,สะบั้นปฐพี,กู่เฉิงตงต้องการทำลายพลังของสวรรค์,หากว่าไม่สลายก็พร้อมตาย.
เหล่าผู้ฝึกตนมากมายที่ต่อต้านสวรรค์,กล่าวแล้วดูเหมือนว่าจะเกินจริงไปหน่อย,ใครกันล่ะที่จะต่อต้านสวรรค์?
นี่ไม่ต่างจากเรื่องตลกเท่านั้น,ทว่ากู่เฉิงตงนั้นต้องการที่จะเปลี่ยนเรื่องเหล่านั้นให้เป็นเรื่องจริง,ไม่เพียงแค่ต่อต้านสวรรค์เท่านั้น,เขาต้องการทำลายสวรรค์,ทำลายกฎเกณฑ์สวรรค์ให้พังทลายไป.
ความหาญกล้าของกู่เฉิงตงนั้นเหนือล้ำยิ่งกว่าผู้ฝึกตนทั่วไปเป็นอย่างมาก,ต้องการกำราบพลังของสวรรรค์.
กว่าแสนปีแล้ว,ใคร?มีใครอย่างงั้นรึที่มีความกล้ามากมายขนาดนี้?
เหล่าทหารและพลเรือนของราชวงศ์สวรรค์ต้าโหลวในเวลานี้ต่างก็ปิดบ้านแน่น,ออกมาอยู่ด้านนอกเมือง,ภายในเมืองบรรพกาลสวรรค์ไม่อนุญาตใครออกมาเพ่นพาน,พื้นที่รอบๆที่เงียบงัน,รอบๆเมืองบรรพกาลศักดิ์สิทธิ์เวลานี้เต็มไปด้วยความตรึงเครียดและกลิ่นอายที่ทรงพลังกระจายออกไปรอบๆ,พื้นที่รอบๆเมืองเวลานี้แม้แต่เหล่าผู้ฝึกตนของเผ่าพยัคฆ์เองก็เดินทางมาอย่างครบครัน.ในเวลานี้อาจจะเรียกได้ว่าที่นี่เป็นสถานที่รวบรวมเหล่าคนที่แข็งแกร่งก็ว่าได้.
ในเวลานี้,ทุกคนต่างก็รอคอยอย่างใจเย็น,รอคอยการปรากฏตัวของกู่เฉิงตง.
ทั่วท้องฟ้าเมืองบรรพกาลศักดิสิทธิ์ในเวลานี้,เต็มไปด้วยเมฆสายฟ้ามากมายไม่มีที่สิ้นสุด,ท้องฟ้าที่มืดคลึ้มไปหมด,ปิดบังแสงไม่ให้สาดส่องมายังเมืองบรรพกาลศักดิ์สิทธิ์,เมฆสายฟ้าที่ลั่นเปรี๊ยๆ,สายฟ้าที่ส่องออกมาเป็นระยะๆ,และดูเหมือนว่าจะหนาแน่นเป็นอย่างมาก,มันได้ย้อมท้องฟ้าให้กลายเป็นสีแดง,น้ำเงิน,ม่วง,เหลือง,ที่เกิดจากสายฟ้าที่แตกต่างกัน,แสงที่ส่องสว่างราวกับคบเพลิง,ดูแล้วน่าหวาดกลัวมาก,เสียงดังโหยหวน,ที่ราวกับจะแทรกไปจนถึงจิตวิญญาณ,ท้องฟ้าในเวลานี้ดูน่ากลัวอย่างที่สุด.
พื้นที่บริเวณแม้ว่าจะมีคนมากมายทุกคนต่างก็รอคอยอย่างเงียบสงบ,จ้องมองจากพื้นที่ห่างไกลเข้าไปในเมืองบรรพกาลศักดิ์สิทธิ์,ในเวลานี้เป็นเวทีของกู่เฉิงตง,ไม่มีใครสามารถเข้าไปยุ่งเกี่ยวได้,พวกเขาที่รอคอยจับจ้องมองไปยังการแยกสวรรค์,สะบั้นปฐพีอยู่.
The Great Luo Heavenly Dynasty army
dispersed in all directions.
เหล่ากองกำลังทหารของราชวงศ์สวรรค์ต้าโหลวนั้นได้แยกออกไปคนละทิศคนล่ะทางกระจายไปทั่วเมือง.
สองเดือนก่อนที่จะประกาศอย่างเป็นทางการ,สามราชวงศ์สวรรค์แลยังมีสามแดนเทวะที่ได้ประกาศว่าห้ามมิให้ใครสร้างความลำบากกับราชวงศ์สวรรค์ต้าโหลว,ทำให้ตลอดหกเดือนมานี้เหล่าประชาชนของต้าโหลวห้าหมื่นล้านคนเองต่างก็ได้รับการปกป้องไปพร้อมๆกันด้วย.
ใครกันที่จะกล้าสร้างปัญหาในเวลานี้,ด้วยสามราชวงศ์สวรรค์แม้แต่สามแดนเทวะยังเข้าร่วมด้วย.
ราชวงศ์สวรรค์ต้าโหลว,ประชากรห้าหมื่นล้าน,นี่นับเป็นฐานจำนวนประชากรขนาดใหญ่,ในเวลานี้ไม่เพียงแค่ราชวงศ์สวรรค์ต้าโหลวเท่านั้นที่เอาใจช่วย,ทว่าผู้คนทั่วหล้าต่างก็เอาใจช่วยเหตุการณ์ในครั้งนี้ด้วย.
เมืองบรรพกาลศักดิ์สิทธิ์เวลานี้,รอบๆเมืองเต็มไปด้วยผู้ฝึกตนมากมาย.
จงซานในเวลานี้เองก็อยู่ที่ทิศตะวันออกเฉียงใต้,บนยอดเขาขนาดมหึมาแห่งหนึ่ง.
จงซานที่นำกู่เฉียนโหยว,สุ่ยอู๋เหิน,หลิวอู๋ซ่าง,จื่อเห่า,อาต้า,อ้าเอ้อ,เซียนเซิงสุ่ยจิงและคนอื่นๆเองมาชุมนุมที่นี่ด้วย,พร้อมกับจ้องมองไปยังสถานที่แห่งหนึ่งที่มีสายฟ้ามากมายปกคลุม.
กู่เฉียนโหยวที่จับมือจงซานแน่น,ดวงตาที่เต็มไปด้วยความกังวล,จงซานที่กำมือนางแน่นเพื่อปลอบใจเช่นกัน.
"วูซซซ"
ที่ด้านข้างจงซาน,ทันใดนั้นก็ปรากฏคนผู้หนึ่งท่ามกลางคนมากมาย,แทบจะไม่มีใครรับรู้การมาของเขาได้เลย,ทำให้ทุกคนตื่นตกใจ,ราวกับว่าเขาได้แหวกอากาศออกมายืนอยู่ข้างๆ.
"คารวะจือจุ้น."จื่อเห่าที่กล่าวออกมาในทันที.
คนที่มาคือตี้เสวียนชา,จือจุ้นเผ่าหมาป่า.
จื้อจุ้น?อาต้าและอาเอ้อที่สูดหายใจที่เย็นเยือบเข้ามา,ทว่าเห็นจงซานไม่ได้แสงท่าทางอะไรก็สามารถที่จะยับยั้งความตื่นกลัวเอาไว้ได้,ตี้เสวียนชามาหาจงซาน.
"พวกเจ้าไปยังยอดเขาตรงนั้น."จงซานเอ่ยปากออกมาในทันที.
"รับทราบ!"ทุกคนที่ถอยห่างออกไปในทันที,ก่อนที่จะขยับไปยังยอดเขาอีกลูกที่อยู่ใกล้ๆ.
บนยอดเขาสูงแห่งนี้,จึงมีเพียงแค่จงซาน,กู่เฉียนโหยวและตี้เสวียนชาสามคน.
"ท่านมาสายนะ."จงซานกล่าว.
"จะสายได้อย่างไร,ในเมื่อยังไม่เริ่มด้วยซ้ำ?"ตี้เสวียนชากล่าว.
"ฟิ้ว!"
ไม่ไกลออกไปบนยอดเขาที่วางเปล่าได้ปรากฏคนผู้หนึ่งขึ้นมาในทันที.
ชุดสีขาวล้วน,ใบหน้าท่าทางเหมือนกับบัณฑิต,เจ้าตำหนักศาลาเทวะ,เสวียนหยวน.
เสวียนหยวนที่ไกลออกไปจ้องมองมายังจงซาน,ที่มีสามคน,เผยสีหน้าท่าทางตกใจเล็กน้อย,พร้อมกับเผยยิ้มออกมา,และพยักหน้าให้.
จงซานพยักหน้ารับ.
"เจ้ารู้จักเสวียนหยวนด้วยรึ?"ตี้เสวียนชาขมวดคิ้วเล็กน้อยแสดงท่าทางประหลาดใจ.
"รู้จักเมื่อครั้งไปเกาะหงส์เพลิง."จงซานพยักหน้ารับ.
ที่ไกลออกไปอีก,จงซานสามารถมองเห็นได้,ที่ตำหนักทางเหนือ,ปรากฏคนผู้หนึ่งขึ้น,ไม่,สองคนต่างหาก.
เนี่ยฟ่านเฉินและอู๋จิวเทียน.
สองผู้ฝึกตนระดับสูงบนยอดเขาแห่งหนึ่ง,และยังมีคนของราชวงศ์สวรรค์ต้าหลีอีกด้วยที่กระจายอยู่รอบๆ,คนทั้งสองที่รอคอยอย่างสงบ.
เนี่ยฟ่านเฉินที่สวมมงกุฏหยก,ชุดมังกรสีม่วง,ดูโอ่อ่าอลังการเป็นอย่างมาก,ดูสูงศักดิ์จนไม่มีใครกล้าเข้าไปรบกวน.
ตี้เสวียนชาที่พยักหน้าให้กับคนทั้งสอง,เนี่ยฟ่านเฉินและอู๋จิวเทียนที่พยักหน้าให้กับตี้เสวียนชาเช่นกัน.
เห็นได้อย่างชัดเจนว่า,เหล่าผู้ฝึกตนสวรรค์แท้ต่างก็ยอมรับการปรากฏตัวของกันและกัน,และเป็นการให้ความเคารพต่อกันด้วย.
ที่ทิศเหนือนั้น,ยังมีอีกสถานที่แห่งหนึ่ง,แน่นอนว่าจงซานไม่สามารถมองเห็นได้อย่างชัดเจน,เพราะว่ามันอยู่ไกลมาก,ด้วยพลังฝึกตนของเขาแล้ว,ไม่มีทางที่จะเห็นได้อย่างชัดเจน,ทว่า,เขาก็เห็นตี้เสวียนชาพยักหน้าให้,ดูเหมือนว่าจะเป็นผู้ฝึกตนสวรรค์แท้เช่นกัน.
ถึงแม้ว่าตี้เสวียนชาจะอยู่ห่างไกลจากเมืองบรรพกาลศักด์สิทิ์มา,หากแต่ก็สามารถมองเห็นทุกอย่างที่อยู่รอบๆเมืองบรรพกาลศักดิ์สิทธิ์ได้,ดูเหมือนว่าจะยังมีผู้ฝึกตนสวรรค์แท้อีกหลายคนที่เขาพยักหน้าให้.
หลังจากนั้น,ดูเหมือนว่าสายตาของตี้เสวียนชาจะจับจ้องมองไปยังทิศตะวันตกไปหยุดที่คนผู้หนึ่ง.
จงซานเองก็จับจ้องมองไปยังทิศตะวันตกเช่นเดียวกัน,ที่บนยอดเขาสูงนั้น,มีคนผู้หนึ่งที่ยืนอยู่บนเขาคนเดียว,ไม่มีใครกล้าเข้าใกล้เขา.
จงซานรู้สึกสนใจคนผู้นี้เป็นอย่างมาก,ตราบเท่าที่เข้าใกล้ระยะหนึ่งร้อยลี้,ทุกคนย่อมหวั่นเกรงจนต้องหลบเลี่ยงถอยออกมา,พลังกดดันวิญญาณที่หนักหน่วงของเขาที่แผ่ออกมาน่าหวั่นเกรงเป็นอย่างมาก.
สามารถมองเห็นได้ว่าบนยอดเขานั้น,รูปร่างหน้าตาของเขาที่เหมือนกับปุถุชนอายุ
40
ปี,หน้าผากที่ดูเด่น,ดูดุร้าย,ผมสีทองยาว,ทิ้งยาวไปด้านหลัง,ความหนาวเย็นที่หมุนวนรอบๆร่างกายของเขา,ราวกับว่าอากาศรอบๆนั้นจะหลบหลีกเขาออกไป,เขาสวมชุดพรตเต๋าสีเหลืองทอง,ที่ด้านหลังของเขาได้แบกน้ำเต้าอยู่,และยังเป็นน้ำเต้าขนาดใหญ่สีทองอีกด้วย.
น้ำเต้าของเขานั้นมีขนาดใหญ่มากราวกับว่ามีขนาดเท่ากับคนๆหนึ่ง,สะพายเฉียงเอาไว้,ราวกับว่ามันใช้ในการบรรจุใส่ของบางอย่าง,ตี้เสวียนชาจ้องมองไปยังเขา,เขาที่หันหน้ามาสบตากับตี้เสวียนชา.
หลังจากนั้น,จงซานที่มองเห็นพลังจิต,พลังจิตที่ทรงพลัง,สัมผัสถึงพลังจิตที่เข้าปะทะกัน,พลังที่เกิดจากการมอง,จนทำให้อากาศบิดเบี้ยวขึ้นมา.
ไร้ซึ่งแรงกดดันวิญญาณใดๆ,ทว่ากลับสัมผัสได้ถึงพลานุภาพที่ยิ่งใหญ่,แน่นอนนี่คือพลังของตัวตนระดับสูง,ที่ดูแคลนคนทั่วไปทั้งหมด.
ชายในสะพายน้ำเต้าดูเหมือนว่าจะทรงพลังร้ายกาจเป็นอย่างมาก.
ก่อนที่เขาจะพยักหน้าให้กับตี้เสวียนชา,และตี้เสวียนชาพยักหน้าให้กับเขา.
จงซานที่จ้องมองไปยังตี้เสวียนชา,และจ้องมองไปยังชายคนดังกล่าว,ที่ดูเหมือนว่าจะปะทะทักทายกันเล็กน้อย.
น่าเกรงขามยิ่งนัก,นี่คือระดับสวรรค์แท้อย่างงั้นรึ?
นี่คือระดับสวรรค์แท้?
ต่อหน้าระดับสวรรค์แท้แล้ว,เขาไม่สามารถที่จะต้านทานได้เลย,หากไม่เพราะว่าคนทั้งสองเก็บกลิ่นอายเอาไว้,เกรงว่าพลังที่หนักหน่วงรุนแรงคงจะระเบิดออกมาเป็นแน่แท้.
จวบจนชายในชุดสีทองหันหน้ากลับไป,จงซานจึงรู้สึกผ่อนคลาย,ความตรึงเครียดที่หายไป,แรงกดดันที่มองไม่เห็นนั้นได้หายไป.
"น่าหวาดกลัวมาก,ชายผู้นั้นเป็นใครกัน?"กู่เฉียนโหยวที่กล่าวออกมาด้วยท่าทางประหลาดใจ.
"เขานะรึ?"ตี้เสวียนชาที่เผยยิ้มออกมาเล็กน้อย.
จงซานที่จับจ้องมองไปยังตี้เสวียนชา,เห็นได้ชัดเจนว่าเขาก็ต้องการรู้เช่นกัน.
"เขาเป็นคนของแดนเทพเทพอมตะ,เต๋าจวินเซิ่งหยา(อีกาเทวะ).
"
"เต๋าจวินเซิ่งหยา(อีกาเทวะ)รึ?"จงซานที่สูดหายใจลึก.
เต๋าจวิน=อรหันต์=
เซิ่งซ่าง,คนเหล่านี้ต่างอยู่ในมรรคาระดับสูงสุดของโลกใบนี้,มีพลังที่ไม่ธรรมดา,เป็นผู้ฝึกตนระดับสูงของโลกใบหนี้.
"เทียนเขากับท่านล่ะ?"จงซานกล่าว.
"ไม่แน่ชัด,หากแต่ไม่ด้อยกว่าแน่นอน,เขาที่เคยต่อสู้กับประมุขเซิ่งหยา(อีกาเทวะ)ในอดีต,ไม่มีใครเห็นเช่นกัน,แต่รู้ว่าประมุขคนเก่าได้ตายไปด้วยมือของเขาไป."ตี้เสวียนชากล่าว.
"อะไรที่อยู่ในน้ำเต้าอย่างงั้นรึ?"กู่เฉียนโหยวที่สอบถามออกมา.
"สิ่งนั้นรึ? ตามประวัติของแดนเทพอมตะแล้วมันคือของวิเศษที่แข็งแกร่งที่สุดที่หลอมขึ้นมาได้,กล่าวกันว่าหนึ่งแสนปีแล้วไม่เคยมีใครสร้างหลอมมันขึ้นมาได้,ทว่าเต๋าจวินเซิ่งหยา(อีกาเทวะ)นั้นคือคนที่มีพรสวรรค์ที่เหนือล้ำ,คาดไม่ถึงเลยว่าเขาจะสามารถหลอมมันขึ้นมาได้,มันถูกเรียกว่า,มีดบินพิฆาตเซียน."ตี้เสวียนชาตอบ.
"มีดบินพิฆาตเซียนอย่างงั้นรึ?,มันอยู่ในน้ำเต้าอย่างงั้นรึ?"กู่เฉียนโหยวที่ขมวดคิ้วไปมาแสดงท่าทางประหลาดใจ.
"มีดบินพิฆาตเซียนนั้นอยู่ในน้ำเต้า,อย่าได้ประเมินมันต่ำไป,ของวิเศษมากมายในทวีปศักดิ์สิทธิ์แห่งนี้,มีดบินพิฆาตเซียนนั้นถือว่าเป็นหนึ่งในสิบทีเดียว,และพลังของมันนั้นสามารถที่จะตัดเซียนฉี(อุปกรณ์เซียน)ได้อีกด้วย,พลังของมันนั้นไม่ธรรมดาแม้แต่น้อย."ตี้เสวียนชาตอบ.
"ทำลายเซียนฉีอย่างงั้นรึ?"กู่เฉียนโหยวออกมาด้วยท่าทางประหลาดใจ.
"เซียนฉีรึ? แน่นอนเซียนฉีเองก็มีระดับของมันเช่นกัน,สำหรับเซียนฉีทั่วไป?
ของวิเศษของกู่เฉิงตงเองก็ทำลายเซียนฉีทั่วไปได้เช่นกัน,ทว่าดูเหมือนว่าเขาไม่ได้นำมันออกมาใช้,แม้แต่ก่อนหน้านี้จะเข้าล้อมแดนเทพพิสุทธิ์,เขาก็ยังไม่ได้ใช้มันออกมา."ตี้เสวียนชากล่าว.
"จริงๆรึ?"ใบหน้าของกู่เฉียนโหยวที่แสดงท่าทางดีใจ.
"เฮ้เฮ้,ข้าจำเป็นต้องหลอกหญิงสาวอย่างเจ้าด้วยรึ?
ของวิเศษของกู่เฉิงตรงนั้น,อาจจะนับเป็นของวิเศษโบราณสิบชิ้นก็ได้,พลังของมันนั้นไม่ธรรมดา,แข็งแกร่งและมีชื่อเสียงกว่ามีดบินสังหารเซียนซะอีก."ตี้เสวียนชากล่าว.
"หืม? ข้าไม่เห็นรู้มาก่อนเลย?"กู่เฉียนโหยวที่ขมวดคิ้วไปมา.
"การใช้ชีวิตภายใต้สวรรค์แห่งนี้จำเป็นต้องซ่อนพลังเอาไว้,สำหรับราชวงศ์วาสนาแล้ว,กู่เฉิงตงนับว่าเป็นคนที่แข็งแกร่งที่สุด,เซิ่งซ่างราชวงศ์สวรรค์,แน่นอนว่ายิ่งต้องซ่อนความแข็งแกร่งให้ลึกยิ่งกว่าเดิม,อาวุธวิเศษของเขา,เขานำมันมาใช้ไม่ถึงห้าครั้งเท่านั้น,ดังนั้นคนจำนวนมากจึงไม่มีคนรู้,ข้าเองเคยเห็นมันครั้งหนึ่ง."ตี้เสวียนชาที่ขมวดคิ้วแสดงท่าทางจริงจัง.
"มันคืออะไรอย่างงั้นรึ?
"ขวานสะบั้นสวรรค์!"ตี้เสวียนชาที่สูดหายใจลึก.
"เหมือนกับมีดบินพิฆาตเซียน,มันคือหนึ่งในสิบของวิเศษโบราณชั้นยอดอย่างงั้นรึ?"จงซานที่กล่าวออกมาด้วยท่าทางประหลาดใจ.
"อืม,ในเมื่อมันคือหนึ่งในสมบัติโบราณชั้นยอด,แน่นอนว่ามันย่อมมีพลังที่ทำให้สวรรค์สะท้านปฐพีสะเทือนได้,อย่างไรก็ตามเต๋าจวินเซิ่งหยา(อีกาเทวะ),เขาเป็นคนที่น่าสะพรึงกลัวมาก,ทางที่ดีอย่างไปยุแหย่เขา,คนผู้นี้ดุร้าย,โหดเหี้ยมที่สุด,ตอนนี้เจ้าไม่ใช่คุ่มือของเขา,เขายังเป็นคนที่ฉุนเฉียวอารมณ์ไม่คงที่,ทางที่ดีเป็นไปได้อย่าไปใกล้เลยดีกว่า."ตี้เสวียนชากล่าวเตือน.
"ขอบคุณ!"จงซานพยักหน้า.
ยุแหย่รึ? มีแต่หาเรื่องพินาศเท่านั้น,มีเหรอที่เขาจะหาญกล้า,อย่างไรก็ตาม,การที่ตี้เสวียนชากล่าวเตือน,ก็ทำให้จงซานรู้สึกขอบคุณเช่นกัน.
เต๋าจวินเซิ่งหยา(อีกาเทวะ)?
จงซานที่จ้องมองไปยังชายคนดังกล่าว,ที่เต็มไปด้วยความอหังการกวาดตามองทุกคนที่อยู่รอบๆเมืองบรรพกาลศักดิ์สิทธิ์.
ที่มาจากhttps://lnmtl.com/novel/immortality
#นิยาย เรื่องอมตะ #Immortality#นิยายแปลไทย
Author(s)
สนใจสนับสนุนพวกเรา,เข้าร่วมกลุ่ม VIP ====> Click
***เว็ปฟรีอัพ สองวันหนึ่งตอน
***กลุ่มลับ อัพ 2-3 ตอนต่อวัน.
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น