วันพฤหัสบดีที่ 31 ตุลาคม พ.ศ. 2562

Immortality Chapter 487 Immortal Slashing Flying Blade

Immortality Chapter 487  Immortal Slashing Flying Blade

นิยาย เรื่อง อมตะ  487 มีดบินพิฆาตเซียน.

Chapter 487  Immortal Slashing Flying Blade
มีดบินพิฆาตเซียน.

ท้ายที่สุดก็ถึงวันที่กู่เฉิงตงจะทำการแยกสวรรค์,สะบั้นปฐพีแล้ว.

ในวันนี้,เมืองบรรพกาลศักดิ์สิทธิ์นั้น,มีผู้คนเดินทางมา,หากแต่ไม่ได้รับอนุญาตให้เข้ามาในเมือง,ทว่าพวกเขาก็ซ่อนตัวอยู่รอบๆ.



การแยกสวรรค์,สะบั้นปฐพีนั้น,นั้นสร้างความสนใจต่อผู้คนมากมาย,ข่าวนี้กระจายไปทั่วหล้านานแล้ว,ทำให้มีคนมากมายมารวมตัวกัน,และแน่นอนว่างานใหญ่ในครั้งนี้,ย่อมซ่อนอันตรายเอาไว้มากมายด้วยเช่นกัน.

ในอดีตนั้นการกลายเป็นเซียน,เมื่อต้องเผชิญหน้ากับอำนาจสวรรค์,เพื่อให้สวรรค์ยอมรับ,และหลีกเลี่ยงหายนะ,เมื่อได้รับการยอมรับสวรรค์ก็จะสามารถกลายเป็นเซียนได้,ทว่าตอนนี้แตกต่างออกมา,นี่คือการแยกสวรรค์,สะบั้นปฐพี,กู่เฉิงตงต้องการทำลายพลังของสวรรค์,หากว่าไม่สลายก็พร้อมตาย.

เหล่าผู้ฝึกตนมากมายที่ต่อต้านสวรรค์,กล่าวแล้วดูเหมือนว่าจะเกินจริงไปหน่อย,ใครกันล่ะที่จะต่อต้านสวรรค์? นี่ไม่ต่างจากเรื่องตลกเท่านั้น,ทว่ากู่เฉิงตงนั้นต้องการที่จะเปลี่ยนเรื่องเหล่านั้นให้เป็นเรื่องจริง,ไม่เพียงแค่ต่อต้านสวรรค์เท่านั้น,เขาต้องการทำลายสวรรค์,ทำลายกฎเกณฑ์สวรรค์ให้พังทลายไป.

ความหาญกล้าของกู่เฉิงตงนั้นเหนือล้ำยิ่งกว่าผู้ฝึกตนทั่วไปเป็นอย่างมาก,ต้องการกำราบพลังของสวรรรค์.

กว่าแสนปีแล้ว,ใคร?มีใครอย่างงั้นรึที่มีความกล้ามากมายขนาดนี้?

เหล่าทหารและพลเรือนของราชวงศ์สวรรค์ต้าโหลวในเวลานี้ต่างก็ปิดบ้านแน่น,ออกมาอยู่ด้านนอกเมือง,ภายในเมืองบรรพกาลสวรรค์ไม่อนุญาตใครออกมาเพ่นพาน,พื้นที่รอบๆที่เงียบงัน,รอบๆเมืองบรรพกาลศักดิ์สิทธิ์เวลานี้เต็มไปด้วยความตรึงเครียดและกลิ่นอายที่ทรงพลังกระจายออกไปรอบๆ,พื้นที่รอบๆเมืองเวลานี้แม้แต่เหล่าผู้ฝึกตนของเผ่าพยัคฆ์เองก็เดินทางมาอย่างครบครัน.ในเวลานี้อาจจะเรียกได้ว่าที่นี่เป็นสถานที่รวบรวมเหล่าคนที่แข็งแกร่งก็ว่าได้.

ในเวลานี้,ทุกคนต่างก็รอคอยอย่างใจเย็น,รอคอยการปรากฏตัวของกู่เฉิงตง.

ทั่วท้องฟ้าเมืองบรรพกาลศักดิสิทธิ์ในเวลานี้,เต็มไปด้วยเมฆสายฟ้ามากมายไม่มีที่สิ้นสุด,ท้องฟ้าที่มืดคลึ้มไปหมด,ปิดบังแสงไม่ให้สาดส่องมายังเมืองบรรพกาลศักดิ์สิทธิ์,เมฆสายฟ้าที่ลั่นเปรี๊ยๆ,สายฟ้าที่ส่องออกมาเป็นระยะๆ,และดูเหมือนว่าจะหนาแน่นเป็นอย่างมาก,มันได้ย้อมท้องฟ้าให้กลายเป็นสีแดง,น้ำเงิน,ม่วง,เหลือง,ที่เกิดจากสายฟ้าที่แตกต่างกัน,แสงที่ส่องสว่างราวกับคบเพลิง,ดูแล้วน่าหวาดกลัวมาก,เสียงดังโหยหวน,ที่ราวกับจะแทรกไปจนถึงจิตวิญญาณ,ท้องฟ้าในเวลานี้ดูน่ากลัวอย่างที่สุด.

พื้นที่บริเวณแม้ว่าจะมีคนมากมายทุกคนต่างก็รอคอยอย่างเงียบสงบ,จ้องมองจากพื้นที่ห่างไกลเข้าไปในเมืองบรรพกาลศักดิ์สิทธิ์,ในเวลานี้เป็นเวทีของกู่เฉิงตง,ไม่มีใครสามารถเข้าไปยุ่งเกี่ยวได้,พวกเขาที่รอคอยจับจ้องมองไปยังการแยกสวรรค์,สะบั้นปฐพีอยู่.
The Great Luo Heavenly Dynasty army dispersed in all directions.
เหล่ากองกำลังทหารของราชวงศ์สวรรค์ต้าโหลวนั้นได้แยกออกไปคนละทิศคนล่ะทางกระจายไปทั่วเมือง.

สองเดือนก่อนที่จะประกาศอย่างเป็นทางการ,สามราชวงศ์สวรรค์แลยังมีสามแดนเทวะที่ได้ประกาศว่าห้ามมิให้ใครสร้างความลำบากกับราชวงศ์สวรรค์ต้าโหลว,ทำให้ตลอดหกเดือนมานี้เหล่าประชาชนของต้าโหลวห้าหมื่นล้านคนเองต่างก็ได้รับการปกป้องไปพร้อมๆกันด้วย.

ใครกันที่จะกล้าสร้างปัญหาในเวลานี้,ด้วยสามราชวงศ์สวรรค์แม้แต่สามแดนเทวะยังเข้าร่วมด้วย.

ราชวงศ์สวรรค์ต้าโหลว,ประชากรห้าหมื่นล้าน,นี่นับเป็นฐานจำนวนประชากรขนาดใหญ่,ในเวลานี้ไม่เพียงแค่ราชวงศ์สวรรค์ต้าโหลวเท่านั้นที่เอาใจช่วย,ทว่าผู้คนทั่วหล้าต่างก็เอาใจช่วยเหตุการณ์ในครั้งนี้ด้วย.

เมืองบรรพกาลศักดิ์สิทธิ์เวลานี้,รอบๆเมืองเต็มไปด้วยผู้ฝึกตนมากมาย.

จงซานในเวลานี้เองก็อยู่ที่ทิศตะวันออกเฉียงใต้,บนยอดเขาขนาดมหึมาแห่งหนึ่ง.
จงซานที่นำกู่เฉียนโหยว,สุ่ยอู๋เหิน,หลิวอู๋ซ่าง,จื่อเห่า,อาต้า,อ้าเอ้อ,เซียนเซิงสุ่ยจิงและคนอื่นๆเองมาชุมนุมที่นี่ด้วย,พร้อมกับจ้องมองไปยังสถานที่แห่งหนึ่งที่มีสายฟ้ามากมายปกคลุม.

กู่เฉียนโหยวที่จับมือจงซานแน่น,ดวงตาที่เต็มไปด้วยความกังวล,จงซานที่กำมือนางแน่นเพื่อปลอบใจเช่นกัน.

"วูซซซ"

ที่ด้านข้างจงซาน,ทันใดนั้นก็ปรากฏคนผู้หนึ่งท่ามกลางคนมากมาย,แทบจะไม่มีใครรับรู้การมาของเขาได้เลย,ทำให้ทุกคนตื่นตกใจ,ราวกับว่าเขาได้แหวกอากาศออกมายืนอยู่ข้างๆ.

"คารวะจือจุ้น."จื่อเห่าที่กล่าวออกมาในทันที.

คนที่มาคือตี้เสวียนชา,จือจุ้นเผ่าหมาป่า.

จื้อจุ้น?อาต้าและอาเอ้อที่สูดหายใจที่เย็นเยือบเข้ามา,ทว่าเห็นจงซานไม่ได้แสงท่าทางอะไรก็สามารถที่จะยับยั้งความตื่นกลัวเอาไว้ได้,ตี้เสวียนชามาหาจงซาน.

"พวกเจ้าไปยังยอดเขาตรงนั้น."จงซานเอ่ยปากออกมาในทันที.

"รับทราบ!"ทุกคนที่ถอยห่างออกไปในทันที,ก่อนที่จะขยับไปยังยอดเขาอีกลูกที่อยู่ใกล้ๆ.

บนยอดเขาสูงแห่งนี้,จึงมีเพียงแค่จงซาน,กู่เฉียนโหยวและตี้เสวียนชาสามคน.

"ท่านมาสายนะ."จงซานกล่าว.

"จะสายได้อย่างไร,ในเมื่อยังไม่เริ่มด้วยซ้ำ?"ตี้เสวียนชากล่าว.

"ฟิ้ว!"

ไม่ไกลออกไปบนยอดเขาที่วางเปล่าได้ปรากฏคนผู้หนึ่งขึ้นมาในทันที.

ชุดสีขาวล้วน,ใบหน้าท่าทางเหมือนกับบัณฑิต,เจ้าตำหนักศาลาเทวะ,เสวียนหยวน.

เสวียนหยวนที่ไกลออกไปจ้องมองมายังจงซาน,ที่มีสามคน,เผยสีหน้าท่าทางตกใจเล็กน้อย,พร้อมกับเผยยิ้มออกมา,และพยักหน้าให้.

จงซานพยักหน้ารับ.

"เจ้ารู้จักเสวียนหยวนด้วยรึ?"ตี้เสวียนชาขมวดคิ้วเล็กน้อยแสดงท่าทางประหลาดใจ.

"รู้จักเมื่อครั้งไปเกาะหงส์เพลิง."จงซานพยักหน้ารับ.

ที่ไกลออกไปอีก,จงซานสามารถมองเห็นได้,ที่ตำหนักทางเหนือ,ปรากฏคนผู้หนึ่งขึ้น,ไม่,สองคนต่างหาก.

เนี่ยฟ่านเฉินและอู๋จิวเทียน.

สองผู้ฝึกตนระดับสูงบนยอดเขาแห่งหนึ่ง,และยังมีคนของราชวงศ์สวรรค์ต้าหลีอีกด้วยที่กระจายอยู่รอบๆ,คนทั้งสองที่รอคอยอย่างสงบ.

เนี่ยฟ่านเฉินที่สวมมงกุฏหยก,ชุดมังกรสีม่วง,ดูโอ่อ่าอลังการเป็นอย่างมาก,ดูสูงศักดิ์จนไม่มีใครกล้าเข้าไปรบกวน.

ตี้เสวียนชาที่พยักหน้าให้กับคนทั้งสอง,เนี่ยฟ่านเฉินและอู๋จิวเทียนที่พยักหน้าให้กับตี้เสวียนชาเช่นกัน.

เห็นได้อย่างชัดเจนว่า,เหล่าผู้ฝึกตนสวรรค์แท้ต่างก็ยอมรับการปรากฏตัวของกันและกัน,และเป็นการให้ความเคารพต่อกันด้วย.

ที่ทิศเหนือนั้น,ยังมีอีกสถานที่แห่งหนึ่ง,แน่นอนว่าจงซานไม่สามารถมองเห็นได้อย่างชัดเจน,เพราะว่ามันอยู่ไกลมาก,ด้วยพลังฝึกตนของเขาแล้ว,ไม่มีทางที่จะเห็นได้อย่างชัดเจน,ทว่า,เขาก็เห็นตี้เสวียนชาพยักหน้าให้,ดูเหมือนว่าจะเป็นผู้ฝึกตนสวรรค์แท้เช่นกัน.

ถึงแม้ว่าตี้เสวียนชาจะอยู่ห่างไกลจากเมืองบรรพกาลศักด์สิทิ์มา,หากแต่ก็สามารถมองเห็นทุกอย่างที่อยู่รอบๆเมืองบรรพกาลศักดิ์สิทธิ์ได้,ดูเหมือนว่าจะยังมีผู้ฝึกตนสวรรค์แท้อีกหลายคนที่เขาพยักหน้าให้.

หลังจากนั้น,ดูเหมือนว่าสายตาของตี้เสวียนชาจะจับจ้องมองไปยังทิศตะวันตกไปหยุดที่คนผู้หนึ่ง.

จงซานเองก็จับจ้องมองไปยังทิศตะวันตกเช่นเดียวกัน,ที่บนยอดเขาสูงนั้น,มีคนผู้หนึ่งที่ยืนอยู่บนเขาคนเดียว,ไม่มีใครกล้าเข้าใกล้เขา.

จงซานรู้สึกสนใจคนผู้นี้เป็นอย่างมาก,ตราบเท่าที่เข้าใกล้ระยะหนึ่งร้อยลี้,ทุกคนย่อมหวั่นเกรงจนต้องหลบเลี่ยงถอยออกมา,พลังกดดันวิญญาณที่หนักหน่วงของเขาที่แผ่ออกมาน่าหวั่นเกรงเป็นอย่างมาก.

สามารถมองเห็นได้ว่าบนยอดเขานั้น,รูปร่างหน้าตาของเขาที่เหมือนกับปุถุชนอายุ 40 ปี,หน้าผากที่ดูเด่น,ดูดุร้าย,ผมสีทองยาว,ทิ้งยาวไปด้านหลัง,ความหนาวเย็นที่หมุนวนรอบๆร่างกายของเขา,ราวกับว่าอากาศรอบๆนั้นจะหลบหลีกเขาออกไป,เขาสวมชุดพรตเต๋าสีเหลืองทอง,ที่ด้านหลังของเขาได้แบกน้ำเต้าอยู่,และยังเป็นน้ำเต้าขนาดใหญ่สีทองอีกด้วย.

น้ำเต้าของเขานั้นมีขนาดใหญ่มากราวกับว่ามีขนาดเท่ากับคนๆหนึ่ง,สะพายเฉียงเอาไว้,ราวกับว่ามันใช้ในการบรรจุใส่ของบางอย่าง,ตี้เสวียนชาจ้องมองไปยังเขา,เขาที่หันหน้ามาสบตากับตี้เสวียนชา.

หลังจากนั้น,จงซานที่มองเห็นพลังจิต,พลังจิตที่ทรงพลัง,สัมผัสถึงพลังจิตที่เข้าปะทะกัน,พลังที่เกิดจากการมอง,จนทำให้อากาศบิดเบี้ยวขึ้นมา.

ไร้ซึ่งแรงกดดันวิญญาณใดๆ,ทว่ากลับสัมผัสได้ถึงพลานุภาพที่ยิ่งใหญ่,แน่นอนนี่คือพลังของตัวตนระดับสูง,ที่ดูแคลนคนทั่วไปทั้งหมด.

ชายในสะพายน้ำเต้าดูเหมือนว่าจะทรงพลังร้ายกาจเป็นอย่างมาก.

ก่อนที่เขาจะพยักหน้าให้กับตี้เสวียนชา,และตี้เสวียนชาพยักหน้าให้กับเขา.

จงซานที่จ้องมองไปยังตี้เสวียนชา,และจ้องมองไปยังชายคนดังกล่าว,ที่ดูเหมือนว่าจะปะทะทักทายกันเล็กน้อย.

น่าเกรงขามยิ่งนัก,นี่คือระดับสวรรค์แท้อย่างงั้นรึ? นี่คือระดับสวรรค์แท้? ต่อหน้าระดับสวรรค์แท้แล้ว,เขาไม่สามารถที่จะต้านทานได้เลย,หากไม่เพราะว่าคนทั้งสองเก็บกลิ่นอายเอาไว้,เกรงว่าพลังที่หนักหน่วงรุนแรงคงจะระเบิดออกมาเป็นแน่แท้.

จวบจนชายในชุดสีทองหันหน้ากลับไป,จงซานจึงรู้สึกผ่อนคลาย,ความตรึงเครียดที่หายไป,แรงกดดันที่มองไม่เห็นนั้นได้หายไป.

"น่าหวาดกลัวมาก,ชายผู้นั้นเป็นใครกัน?"กู่เฉียนโหยวที่กล่าวออกมาด้วยท่าทางประหลาดใจ.

"เขานะรึ?"ตี้เสวียนชาที่เผยยิ้มออกมาเล็กน้อย.

จงซานที่จับจ้องมองไปยังตี้เสวียนชา,เห็นได้ชัดเจนว่าเขาก็ต้องการรู้เช่นกัน.

"เขาเป็นคนของแดนเทพเทพอมตะ,เต๋าจวินเซิ่งหยา(อีกาเทวะ). "

"เต๋าจวินเซิ่งหยา(อีกาเทวะ)รึ?"จงซานที่สูดหายใจลึก.

เต๋าจวิน=อรหันต์= เซิ่งซ่าง,คนเหล่านี้ต่างอยู่ในมรรคาระดับสูงสุดของโลกใบนี้,มีพลังที่ไม่ธรรมดา,เป็นผู้ฝึกตนระดับสูงของโลกใบหนี้.

"เทียนเขากับท่านล่ะ?"จงซานกล่าว.

"ไม่แน่ชัด,หากแต่ไม่ด้อยกว่าแน่นอน,เขาที่เคยต่อสู้กับประมุขเซิ่งหยา(อีกาเทวะ)ในอดีต,ไม่มีใครเห็นเช่นกัน,แต่รู้ว่าประมุขคนเก่าได้ตายไปด้วยมือของเขาไป."ตี้เสวียนชากล่าว.

"อะไรที่อยู่ในน้ำเต้าอย่างงั้นรึ?"กู่เฉียนโหยวที่สอบถามออกมา.

"สิ่งนั้นรึ? ตามประวัติของแดนเทพอมตะแล้วมันคือของวิเศษที่แข็งแกร่งที่สุดที่หลอมขึ้นมาได้,กล่าวกันว่าหนึ่งแสนปีแล้วไม่เคยมีใครสร้างหลอมมันขึ้นมาได้,ทว่าเต๋าจวินเซิ่งหยา(อีกาเทวะ)นั้นคือคนที่มีพรสวรรค์ที่เหนือล้ำ,คาดไม่ถึงเลยว่าเขาจะสามารถหลอมมันขึ้นมาได้,มันถูกเรียกว่า,มีดบินพิฆาตเซียน."ตี้เสวียนชาตอบ.

"มีดบินพิฆาตเซียนอย่างงั้นรึ?,มันอยู่ในน้ำเต้าอย่างงั้นรึ?"กู่เฉียนโหยวที่ขมวดคิ้วไปมาแสดงท่าทางประหลาดใจ.

"มีดบินพิฆาตเซียนนั้นอยู่ในน้ำเต้า,อย่าได้ประเมินมันต่ำไป,ของวิเศษมากมายในทวีปศักดิ์สิทธิ์แห่งนี้,มีดบินพิฆาตเซียนนั้นถือว่าเป็นหนึ่งในสิบทีเดียว,และพลังของมันนั้นสามารถที่จะตัดเซียนฉี(อุปกรณ์เซียน)ได้อีกด้วย,พลังของมันนั้นไม่ธรรมดาแม้แต่น้อย."ตี้เสวียนชาตอบ.

"ทำลายเซียนฉีอย่างงั้นรึ?"กู่เฉียนโหยวออกมาด้วยท่าทางประหลาดใจ.

"เซียนฉีรึ? แน่นอนเซียนฉีเองก็มีระดับของมันเช่นกัน,สำหรับเซียนฉีทั่วไป? ของวิเศษของกู่เฉิงตงเองก็ทำลายเซียนฉีทั่วไปได้เช่นกัน,ทว่าดูเหมือนว่าเขาไม่ได้นำมันออกมาใช้,แม้แต่ก่อนหน้านี้จะเข้าล้อมแดนเทพพิสุทธิ์,เขาก็ยังไม่ได้ใช้มันออกมา."ตี้เสวียนชากล่าว.

"จริงๆรึ?"ใบหน้าของกู่เฉียนโหยวที่แสดงท่าทางดีใจ.

"เฮ้เฮ้,ข้าจำเป็นต้องหลอกหญิงสาวอย่างเจ้าด้วยรึ? ของวิเศษของกู่เฉิงตรงนั้น,อาจจะนับเป็นของวิเศษโบราณสิบชิ้นก็ได้,พลังของมันนั้นไม่ธรรมดา,แข็งแกร่งและมีชื่อเสียงกว่ามีดบินสังหารเซียนซะอีก."ตี้เสวียนชากล่าว.

"หืม? ข้าไม่เห็นรู้มาก่อนเลย?"กู่เฉียนโหยวที่ขมวดคิ้วไปมา.

"การใช้ชีวิตภายใต้สวรรค์แห่งนี้จำเป็นต้องซ่อนพลังเอาไว้,สำหรับราชวงศ์วาสนาแล้ว,กู่เฉิงตงนับว่าเป็นคนที่แข็งแกร่งที่สุด,เซิ่งซ่างราชวงศ์สวรรค์,แน่นอนว่ายิ่งต้องซ่อนความแข็งแกร่งให้ลึกยิ่งกว่าเดิม,อาวุธวิเศษของเขา,เขานำมันมาใช้ไม่ถึงห้าครั้งเท่านั้น,ดังนั้นคนจำนวนมากจึงไม่มีคนรู้,ข้าเองเคยเห็นมันครั้งหนึ่ง."ตี้เสวียนชาที่ขมวดคิ้วแสดงท่าทางจริงจัง.

"มันคืออะไรอย่างงั้นรึ?

"ขวานสะบั้นสวรรค์!"ตี้เสวียนชาที่สูดหายใจลึก.

"เหมือนกับมีดบินพิฆาตเซียน,มันคือหนึ่งในสิบของวิเศษโบราณชั้นยอดอย่างงั้นรึ?"จงซานที่กล่าวออกมาด้วยท่าทางประหลาดใจ.

"อืม,ในเมื่อมันคือหนึ่งในสมบัติโบราณชั้นยอด,แน่นอนว่ามันย่อมมีพลังที่ทำให้สวรรค์สะท้านปฐพีสะเทือนได้,อย่างไรก็ตามเต๋าจวินเซิ่งหยา(อีกาเทวะ),เขาเป็นคนที่น่าสะพรึงกลัวมาก,ทางที่ดีอย่างไปยุแหย่เขา,คนผู้นี้ดุร้าย,โหดเหี้ยมที่สุด,ตอนนี้เจ้าไม่ใช่คุ่มือของเขา,เขายังเป็นคนที่ฉุนเฉียวอารมณ์ไม่คงที่,ทางที่ดีเป็นไปได้อย่าไปใกล้เลยดีกว่า."ตี้เสวียนชากล่าวเตือน.

"ขอบคุณ!"จงซานพยักหน้า.

ยุแหย่รึ? มีแต่หาเรื่องพินาศเท่านั้น,มีเหรอที่เขาจะหาญกล้า,อย่างไรก็ตาม,การที่ตี้เสวียนชากล่าวเตือน,ก็ทำให้จงซานรู้สึกขอบคุณเช่นกัน.


เต๋าจวินเซิ่งหยา(อีกาเทวะ)? จงซานที่จ้องมองไปยังชายคนดังกล่าว,ที่เต็มไปด้วยความอหังการกวาดตามองทุกคนที่อยู่รอบๆเมืองบรรพกาลศักดิ์สิทธิ์.



ที่มาจากhttps://lnmtl.com/novel/immortality

#นิยาย เรื่องอมตะ #Immortality#นิยายแปลไทย
Author(s)


สนใจสนับสนุนพวกเรา,เข้าร่วมกลุ่ม VIP ====> Click

***เว็ปฟรีอัพ สองวันหนึ่งตอน
***กลุ่มลับ อัพ 2-3 ตอนต่อวัน.

 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น