Immortality Chapter 476 Golden pupil
นิยาย เรื่อง อมตะ 476 เนตรสีทอง.
Chapter 476 Golden pupil
金色瞳孔
เนตรสีทอง.
จงซานและจงเทียนยืนอยู่คู่กัน,จ้องมองไปยังแท่นอรหันต์และเมืองศักดิ์สิทธิ์ได้หายไปแล้ว,ตอนนี้เหล่าผู้เยี่ยมยุทธ์กลังเข้าต่อสู้กันอย่างดุร้ายโหดเหี้ยม,ต่างก็ใช้วิชาที่แตกต่างกันเข้าห้ำหั่นอีกฝ่าย.
สงครามได้ปะทุขึ้นแล้ว,พื้นที่รอบๆนั้นเต็มไปด้วยผู้ฝึกตนชั้นสูง,การต่อสู้ที่หนักหน่วงรุนแรงมากขึ้นและมากขึ้น,พร้อมกับเริ่มลามออกมาเรื่อยๆ.
"อู๋เหิน,นำทัพออกไปจากแดนเทพพิสุทธิ์!"จงซานที่ออกคำสั่งในทันที.
"รับทราบ!"สุ่ยอู๋เหินที่รับคำในทันที,พร้อมกับสั่งการเหล่าผู้ใต้บังคับบัญชาถอนกำลังอย่างรวดเร็ว.
"เทียนเอ๋อ,นำคนของวิหารต้าหมิงจากไปในทันที,ไม่เช่นนั้นหากมีอรหันต์พบเห็นเข้า,จะต้องเข้าโจมตีสังหารเจ้าแน่!"จงซานกล่าว.
"ครับ!"จงเทียนที่ตอบรับในทันที.
"เห่าเม่ยลี,เจ้าเป็นอย่างไรบ้าง?"จงซานสอบถามออกไป.
"เยี่ยม,ยอดเยี่ยมเลย,พวกเรารีบไปเถอะ,ข้ารู้สึกว่าอรหันต์จินฉานนั้นคงจะพบแล้วบางที่อาจจะส่งคนมายังที่นี่เนื่องค่ายกลของเขาถูกทำลาย."เห่าเม่ยหลีกล่าว.
"เช่นนั้นรีบถอนกำลังกันเถอะ."
"อืม!"เห่าเม่ยลีที่พยักหน้ารับในทันที.
อนุสาวรีย์อมตะ,11 อัน,ได้ถูกคว้าไปแล้วถือว่าประสบความสำเร็จแล้ว.
กองทัพได้อพยพอย่างรวดเร็ว,จงซานที่ตรงไปยังพื้นที่ของเซียนเซิงซือที่เดินทางไปยังสุสานอรหันต์,เพื่อที่จะขุดศพของปู่ซาและอรหันต์ออกมา,ซึ่งเซียนเซิงซือที่เข้าไปในสุสานอรหันต์ด้วยตัวเอง,แม้ว่าตอนนี้จะมองไม่เห็นเซียนเซิงซือ,ทว่าเขาก็ยังเชื่อว่าเซียนเซิงซืออยู่ในนั้น.
"พวกเจ้ากลับไปก่อน,ข้าจะไปเรียกเซียนเซิงซือเอง!"จงซานที่เอ่ยออกมาทันที.
"รับทราบ!"ทุกคนที่รับคำในทันที.
ขณะที่จงซานพุ่งตรงไปยังโลกสีดำเพื่อที่จะเข้าไปหาเซียนเซิงซือ,หลังจากผ่านโลกสีขาว,ขณะที่ผ่านลานพักขนาดเล็ก,จงซานต้องขมวดคิ้วเล็กน้อย,ซึ่งลานขนาดเล็กนี้,เป็นที่พักของปู่ซาเพียวเซี่ยง,ซึ่งตอนนี้นางได้ตายไปแล้ว,สถานที่แห่งนี้จึงเป็นที่พักร้าง.
ที่ไกลออกไป.
"ฟิ้ว!!!"
อาจารย์ของเนียนโหยวโหยวที่ออกคำสั่งให้,เนียนโหยวโหยวปล่อยศรปราณออกไป,พุ่งตรงไปยังร่างของจงซานในทันที.
"พรึบ!"
ศรจิวซือที่พุ่งตรงออกไป,พริบตาเดียวลูกศรสีดำก็พุ่งตรงมาที่ต้นขาของเขาแล้ว.
จงซานถึงกับดวงตาเบิกกว้าง,พยายามขัดขืนเต็มที่
กายาเทพอสูร,ระดับห้า,เปิด!
ลูกศรจิวซือนั้นเร็วมาก,ไม่มีเวลาให้เขาครุ่นคิดแม้แต่น้อย.
"ซี่"
ถึงแม้ว่าจงซานจะใช้พลังเต็มที่เพื่อป้องกัน,ศรสีดำก็ยังทะลวงต้นขา,ปักขาเขาตั้งตรงทีเดียว.
"นี่มัน!"
จงซานที่ถูกลูกศรดำยิง,ไม่ลังเลเลยต้องหลบเข้ามาในโลกสีดำ.
"มีร่างกายที่แข็งแกร่งร้ายกาจมาก,กายเนื้อคาดไม่ถึงว่าจะมีระดับเดียวกับระดับจักรพรรดิแท้?"อาจารย์ของเนียนโหยวโหยวกล่าวออกมา.
ส่วนเนียนโหยวโหยวนั้น,ราวกับว่าถอนหายใจยาว,แม้ว่าศรจะปักเข้าไปที่ขาของเขา,ทว่าก็ไม่ใช่จุดตายแต่อย่างใด.
"โหยวโหยว,ก่อนหน้านี้เจ้าจงใจ,ใช่ใหม?"หญิงสาวคนดังกล่าวจ้องมองไปยังเนียนโหยวโหยว.
"อาจารย์,ท่านอย่าบังคับข้า!"ใบหน้าของเนียนโหยวโหยวที่บิดเบี้ยว,อสูรน้อยเทพบรรพชนบนไหล่ของนางที่แสดงท่าทางไม่ดีนัก,ดวงตาที่กระพริบไปมาปริบๆ.
"หืม,ไม่ใช่ว่าเจ้ารู้แล้วรึ? ตอนนี้แม้ว่าจงซานจะมีระดับหลอมกายธาตุ,ทว่าบางที่คงจะเทียบได้กับระดับจักรพรรดิแท้,พัฒนาการของจงซานนั้นเร็วมาก,หากว่ายังปล่อยเขาไป,เจ้าจะไม่สามารถทำอะไรเขาได้อีก,บางที่หลังจากนี้,คงจะไม่มีโอกาสแล้ว."หญิงสาวคนดังกล่าวเอ่ย.
"อาจารย์,ไม่มีโอกาสแล้ว,อาจารย์,ข้าไม่......."เนียนโหยวโหยวที่หวาดอมขมกลืน.
"บังอาจ,เจ้าต่างกับอาจารย์,เจ้ายังจำก่อนหน้านี้ได้สาบาน,เอาไว้อย่างไร?
ก่อนที่เจ้าจะเรียนวิชาตัดรักลืมหัวใจ,เจ้ากล่าวว่าอย่างไร?"หญิงสาวคนดังกล่าวชำเลืองมองออกไป.
"ชั่วชีวิตศิษย์จะตัดความรัก,หากว่าไม่สามารถสังหารคนที่รักได้ล่ะก็,ข้าจะต้องตกนรกอเวจีไปตลอดกาล."เนียนโหยวโหยวที่กัดริมฝีปากทั้งน้ำตา.
"จำได้ก็ดีแล้ว."
"แต่ว่า,อาจารย์,ข้าทำไม่สำเร็จแน่."เนียนโหยวโหยวกล่าวออกมาด้วยความโศกเศร้า.
"ทำไมได้ก็ต้องทำ,เจ้าไม่สามารถปล่อยให้จงซานเติบโตมากกว่านี้ได้,เขาจะต้องตาย,ในวันนี้,ข้ากับเจ้า,จะต้องหาวิธีจนกว่าเขาจะตาย,เขาจะต้องตาย,ไม่ว่าจะใช้วิธีใด,หนึ่งครั้งไม่ตาย,เจ้าก็ต้องยิงต่อไปจนกว่าเขาจะตาย!"หญิงสาวคนดังกล่าวเอ่ย.
"อาจารย์!"เนียนโหยวโหยวที่กล่าวออกมาด้วยความเจ็บปวด.
"ตราบเท่าที่เขาออกมาจากโลกซีกมืด,เจ้าจะต้องฆ่าเขา,ยิงจนกว่าเขาจะตาย,"หญิงสาวคนดังกล่าวที่นำศรปราณทะลวงออกมาให้กับนางอีกดอก.
เป็นความจริง,เนียนโหยวโหยวเวลานี้,เต็มไปด้วยความวุ่นวายสับสน,นางที่ไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรดี?
"อาจารย์,เขาคงไม่ออกมาแล้ว,เขาจะต้องหนีออกไปจากโลกซีกมืดอย่างแน่นอน"เนียนโหยวโหยวที่กล่าวตอบออกมาในทันที.
"ตราบเท่าที่เขาอยู่ในแดนเทพพิสุทธิ์,ข้าจะต้องให้เจ้าสังหารมันให้ได้."สาวตาของหญิงสาวดังกล่าวเอ่ยออกมาเสียงดัง.
ที่ไกลออกไปนั้น.
"ฝ่าบาท,ท่านเป็นไรหรือไม่?."เซียนเซิงซือที่บินตรงมาหาจงซาน.
จงซานนั่งอยู่บนพื้น,จ้องมองไปยังศรปราณที่ทะลวงขาตัวเอง,พร้อมกับฝืนยิ้มออกมา.คาดไม่ถึงเลยว่าจะมีใครกำลังซุ่มโจมตีเขาอยู่,นับว่าโชคดีที่ยิงไปที่ขา.
จงซานที่ยืนมือออกไปถอนศรปราณทะลวงออกมา,พร้อมกับใช้แกนแท้รักษาต้นขาอย่างรวดเร็ว,ซึ่งตอนนี้บาดแผลได้ปิดลงแล้ว,ทว่ากางเกงของเขาก็ชุ่มไปด้วยโลหิต.
"ไม่เป็นไร,อีกสองวันก็กลับมาเหมือนเดิม."จงซานส่ายหน้าไปมาพร้อมกับลุกขึ้นยืนด้วยท่าทางลำบากเล็กน้อย.
แม้ว่าจะไม่ได้เป็นไรมาก,ทว่าด้วยการถูกยิงด้วยศรปราณ,ก็ทำให้เขาเคลื่อนไม่ค่อยสะดวกนัก.
"ไม่โดนจุดสำคัญนับว่าโชคดี!"เซียนเซิงซือที่สูดหายใจลึก.
"แล้วการขุดสุสานอรหันต์เป็นอย่างไรบ้าง?"จงซานสอบถาม.
"ได้หนึ่งศพอรหันต์,ก็นับว่ายอดเยี่ยมแล้ว!"เซียนเซิงเซิงซือกล่าว.
"ดี,เวลากระชั้นชิด,พวกเราจะต้องเร่งรีบ,เมื่อขุดได้แล้ว,พวกเราควรที่จะจากไปในทันที."จงซานกล่าว.
"รับทราบ"เซียนเซิงซือที่รับคำในทันที.
จงซานที่ยืนขึ้นด้วยท่าที่ทุกลักทุเลไม่ค่อยสะดวกนัก,จ้องมองไปยังโลหิตที่อาบไปทั่วขากางเกง,หากแต่ไม่มีเวลา,ที่จะรักษาให้ฟื้นฟูเต็มที่,ไว้ออกจากแดนเทพพิสุทธิ์ค่อยรักษาอีกครั้ง.
ด้วยการรักษาขั้นต้นแล้ว,ขณะนี้เขาจ้องมองไปยังพื้นที่รอบๆ,เหล่าผู้เยี่ยมยุทธ์ที่กำลังต่อสู้กันหนักหน่วง,โลหิตชะโลมกาย,ตอนนี้ใกล้เข้ามาถึงพื้นที่ที่เขาอยู่แล้ว,ตอนนี้เขาจำเป็นต้องหลบเหลี่ยงให้เร็วที่สุด.
ส่วนศรปราณทะลวงก่อนหน้านี้,จงซานมองออกไปรอบๆไม่เห็นร่องรอยแม้แต่นิดเดียว,แน่นอนว่าจะต้องถูกยิงมาจากโลกซีกมืด.
จงซานที่ขมวดคิ้วไปมา,จ้องมองไปยังโลกซีกสีขาวที่พักของปู่ซาเพียวเซี่ยง,ภายในใจกำลังครุ่นคิดอะไรบางอย่าง.
ท้ายที่สุด,จงซานก็ตัดสินใจ,ดวงตาที่ตั้งมั่น,ร่างกายที่เคลื่อนที่ด้วยความเร็ว,ออกไปยังซีกโลกสีขาว,พุ่งตรงไปยังที่พักของปู่ซาเพียวเซี่ยง.
เห็นจงซานที่วิ่งออกไป,เซียนเซิงซือที่ขมวดคิ้วไปมา,ฝ่าบาทต้องการทำอะไร?ออกไปให้คนสังหารรึ?
ทำไมถึงต้องวิ่งออกไป?
"ออกมาแล้ว,ยิง,ยิงมันเร็วเข้า!"อาจารย์ของเนียนโหยวโหยวที่เอ่ยออกมาในทันที.
เนียนโหยวโหยวที่เห็นจงซานวิ่งออกมา,ดวงตาเบิกกว้าง,เต็มไปด้วยแววตาบ่นว่า,ทำไม,ทำไมเจ้าต้องออกมาด้วย,เจ้าออกมาทำไมกัน?
อย่าออกมา.
"ยิง,โอกาสมีครั้งเดียวเท่านั้น,อย่าได้พลาดโอกาส,"อาจารย์ของเนียนโหยวโหยวเอ่ยออกมา,มือของนางกุมมือเนียนโหยวโหยวทั้งสองข้าง,ง้างคันศรจิวซือเล็งไปที่จงซาน.
จงซานที่เข้าไปในที่พักของปู่ซาเพียงเซี่ยงเพียงพริบตาเดียวเท่านั้น,จากนั้นก็เร่งรีบออกมา,พร้อมกับตรงดิ่งไปยังซีกโลกมืดตรงไปยังทิศทางของเซียนเซิงซือ.
"ยิง!!!"
ส่วนหญิงสาวคนดังกล่าวที่บังคับเนียนโหยวโหยวที่ทำให้นางน้ำตาไหลพรากๆ,ปล่อยมือ,ศรปราณทะลวงพุ่งตรงไปยังตำแหน่งของจงซาน,ที่กำลังวิ่งออกมา.
ศรจิวซือ,เป็นของวิเศษที่ไม่ธรรมดา,พุ่งออกไปด้วยความเร็วที่น่าอัศจรรย์,พริบตาเดียวก็มาอยู่ด้านหน้าจงซานแล้ว.
เสียงของลูกศรที่ฉีกอากาศเข้าปะทะเสียงดังสนั่น.
จงซานเตรียมป้องกันศรปราณเอาไว้แล้ว,ทว่าศรปราณนั้นกลับรวดเร็วมากมาๆ,ด้วยระดับหลอมกายธาตุ,การจะหลบเลี่ยงนั้นไม่มีทางทำได้,เขาที่สร้างม่ายพลังป้องกัน,และเกร็งกล้ามเนื้อไปทั่วร่าง.
จ้องมองอย่างช่วยไม่ได้ศรปราณที่ทะลวงมายังตำแหน่งอก,ตำแหน่งเดียวกับเรือนหยาง.
"ตูมมมมมม"
ศรปราณทะลวงที่ยิงเข้าตำแหน่งของเรือนหยางจงซาน,กระแทกจงซานกระเด็นเข้าไปในซีกโลกด้านมืด.
เรือนหยาง,ลูกศรที่กระแทกไปที่เรือนหยาง,เนียนโหยวโหยวที่ยืนนิ่งกลายเป็นโง่งม,แววตาที่สิ้นหวังพังทะลายไปทั้งหมด.
"ดี,โหยวโหยว,ท้ายที่สุดเจ้าก็สังหารเขาได้,มันตายแล้วแน่นอน,เพราะนั่นคือศรกระจายวิญญาณ,เมื่อศรเข้าไปในร่างกาย,ยิ่งตำแหน่งตรงเรือนหยาง,เพียงแค่เล็กน้อยก็ต้องตายอย่างไม่ต้องสงสัย,แม้แต่ผู้ฝึกตนจักรพรรดิแท้จริงๆ,วิญญาณเทวะยังสลาย,กระจายไปในทันที,เขาจะต้องตายแน่นอน,ตายอย่างไม่ต้องสงสัย."หญิงสาวคนดังกล่าวเอ่ยออกมาด้วยความประหลาดใจดีใจเป็นอย่างมาก.
"ศรกระจายวิญญาณ? ท่านพูดอะไร?
ศรกระจายวิญญาณรึ? เป็นไปไม่ได้,ท่านไม่ได้บอกเลยว่ามันเป็นศรกระจายวิญญาณ?"ดวงตาของเนียนโหยวโหยวที่แสดงท่าทางต่อต้านหญิงสาวคนดังกล่าว.
ศรกระจายวิญญาณ,ตราบเท่าที่ปักเข้าร่างจงซานเขาจะต้องตายทันที,จะต้องตายอย่างแน่นอน,ไม่มีทางรอดอย่างไม่ต้องสงสัย.
เนียนโหยวโหยวที่จ้องมองหญิงสาวคนดังกล่าวด้วยความแค้นใจอย่างที่สุด,อย่างไรก็ตามหญิงสาวคนดังกล่าวหาได้สนใจ,ตราบเท่าที่โหยวโหยวกลายเป็นเซียนได้,จะเกลียดนางลงอย่างงั้นรึ?
"ใช่,มันคือศรกระจายวิญญาณ,เจ้าได้ยิงเข้าร่างจงซาน,และจงซานได้ตายแล้ว,จงซานตายด้วยมือของเจ้าไงล่ะ."หญิงสาวคนดังกล่าวเผยยิ้มงดงามหยดย้อยออกมา.
"ข้าสังหารจงซานรึ?
ข้าเป็นคนสังหารจงซานรึ?เนียนโหยวโหยวเดิมก็น้ำตาไหลอาบแก้มอยู่แล้ว,ในเวลานี้น้ำตาของนางที่กลายเป็นสายโลหิต,ใบหน้าที่ไม่อยากยอมรับเจ็บปวดอย่างถึงที่สุด.
ทันใดนั้น,ดวงตาของนางที่แข็ง,ตาค้าง,ดวงตาสีดำทันใดนั้นก็เปลี่ยนเป็นสีทอง,ส่องประกายแสงสีทองออกมา.
"อ๊ากๆๆๆๆ"
เนียนโหยวโหยวที่ตะโกนออกมาอย่างรุนแรง,สัตว์อสูรน้อยเทพบรรพชนที่บนไหลของนางสั่นไหวถึงกับกระโดดบินหนีไปในทันที,ทว่าอาจารย์ของนางที่จับมันเอาไว้,ร่างของเนียนโหยวโหยวที่อาบไปด้วยแสงสีทอง,ผมยาวสลวยของนางกลายเป็นสีทอง,กำลังโบกสะบัดร่ายรำกับอากาศ,กลิ่นอายที่น่าเกรงขามได้ปะทุออกมาจากร่างของเนียนโหยวโหยว,เป็นสนามพลังสายลมที่รุนแรงโบกสะบัดพัดปลิวทุกอย่างให้ลอยเคล้งไปหมด.
สนามพลังสายลมที่พัดโบกสูงขึ้นไปบนท้องฟ้าราวกับว่าจะทะลวงไปถึงสวรรค์.
"ระดับราชันย์แท้,วิชาของเซียนสืบทอด,ช่างโดดเด่นจริงๆ,คาดไม่ถึงเลยว่า,ในระยะเวลาสั้นๆจะทะลวงผ่านระดับ,ระดับราชันย์แท้,ฮ่าฮ่า,ระดับราชันย์แท้,อีกไม่นานก็จะทะลวงไปยังระดับสวรรค์แท้,โหยวโหยว,เจ้าทำสำเร็จแล้วระดับราชันย์แท้แล้ว."หญิงสาวคนดังกล่าวที่เอ่ยออกมาด้วยความตื่นเต้นดีใจ.
ระดับราชันย์แท้?
เนียนโหยวโหยวที่คำรามออกมาเสียงดังสนั่น,ก่อนที่จะค่อยๆสงบลง,อสูรน้อยเทพบรรพชนที่กระโดดเข้าไปหาเนียนโหยวโหยวทันที,ด้วยท่าทางตื่นเต้นดีใจกับพลังฝึกตนของนางที่เพิ่มขึ้น,ทว่าความหนาวเย็น,เย็นชาของนางที่แผ่ออกมา.
ระดับราชันย์แท้,เนียนโหยวโหยวได้เลือนระดับไปยังระดับราชันย์แท้แล้ว.
"โหยวโหยว!"หญิงสาวคนดังกล่าวจ้องมองไปยังเนียนโหยวโหยว.
เนียนโหยวโหยวในเวลานี้,จ้องมองหญิงสาวคนดังกล่าวอย่างไร้ความรู้สึก,ราวกับไม่ใช่ศิษย์อาจารย์,สายตาที่เย็นชา,นางก้าวออกไป,ไม่สนใจหญิงสาวคนดังกล่าว,จากไปอย่างรวดเร็ว.
เห็นเนียนโหยวโหยวที่เปลี่ยนไป,หญิงสาวคนดังกล่าวเผยยิ้มพึงพอใจเป็นอย่างมาก,เก็บคันศรจิวซือ,พร้อมกับถอนหายใจอย่างเบาใจ,วิชาตัดรักลืมหัวใจ,เนียนโหยวโหยวได้ก้าวไปหนึ่งขั้นแล้ว,ตอนนี้นางยังใจไม่สงบพอ,หลังจากนี้นางจะดีขึ้นเรื่อยๆ.
ที่มาจากhttps://lnmtl.com/novel/immortality
#นิยาย เรื่องอมตะ #Immortality#นิยายแปลไทย
Author(s)
สนใจสนับสนุนพวกเรา,เข้าร่วมกลุ่ม VIP ====> Click
***เว็ปฟรีอัพ สองวันหนึ่งตอน
***กลุ่มลับ อัพ 2-3 ตอนต่อวัน.
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น