วันจันทร์ที่ 7 ตุลาคม พ.ศ. 2562

Immortality Chapter 458 Pours the blood mildew Buddhist Gui Yuan

Immortality Chapter 458  Pours the blood mildew Buddhist Gui Yuan

นิยาย เรื่อง อมตะ ตอนที่  458 อรหันต์กุยหยวนผู้โชคร้าย.


Chapter 458  Pours the blood mildew Buddhist Gui Yuan
倒血霉的元佛
อรหันต์กุยหยวนผู้โชคร้าย.

อรหันต์กุยหยวนที่จ้องมองมายังเทียนหลิงเอ๋อด้วยสีหน้าแววตาที่จริงจัง.

แม้ว่าเทียนหลิงเอ๋อนั้นจะเป็นกงจูก็ตาม,ทว่ากุยหยวนนั้นด้วยในแต่ละวันหนึ่งจะต้องจัดการงานเป็นหมื่นๆเรื่องย่อมไม่รู้จัก,ใยเขาต้องรู้จักรูปร่างหน้าตาของกงจูราชวงศ์ต่างๆด้วยล่ะ?



ดังนั้น,ทันที่ที่เห็นเทียนหลิงเอ๋อมีชะตาลิขิตที่สูง,ก็เป็นเป็นงงงวย,ประหลาดใจและไม่แน่ใจ.

"ขอถามจงซานอีกครั้งจะกลับแดนเทพพิสุทธิ์กับพวกเราอีกครั้งหรือไม่!"ปู่ซาเพียวเซี่ยงที่กล่าวออกมาด้วยเสียงที่เย็นชา.

"มันถึงเวลาพูดของเจ้าอย่างงั้นรึ?"ดวงตาของเสวียนหยวนที่ชำเลืองมองออกไป.

ทันใดนั้น,เสวียนหยวนที่ปล่อยลมหายใจชะตะวิถีออกไปเช่นกัน,และทำให้ปู่ซาเพียวเซี่ยงรู้สึกเจ็บปวดหวาดกลัวขึ้นมาเหมือนกัน.

อรหันต์กุยหยวนที่จ้องมองไปยังเสวียนหยวน,โบกมือขึ้นให้ปู่ซาเพียวเซี่ยงเงียบ,ห้ามนางไม่ให้พูดอีก! ปู่ซาเพียวเซี่ยงที่เงียบไปในทันที.

จงซานจ้องมองอย่างเย็นชา,เมื่ออรหันต์กุยหยวนที่จ้องมองมายังจงซาน,ราวกับว่ากำลังเตือนเทียนหลิงเอ๋ออยู่.

นับตั้งแต่,อรหันต์กุยหยวนที่ได้มาเป็นอรหันต์ลำดับหนึ่ง,นั่นก็หมายความว่าพลังฝึกตนของเขานั้นทรงพลังที่สุดอย่างแท้จริง,ถึงแม้ว่าเสวียนหยวนจะปล่อยพลังชะตาวิถีออกมาได้ด้วยก็ตาม,ถึงแม้ว่าเขาจะเป็นผู้ฝึกตนระดับสวรรค์แท้,ทว่าอรหันต์เสวียนหยวนหาได้หวาดกลัวเขาแต่อย่างใด,อรหันต์กู่หยวนสามารถบอกได้เลยด้วยว่า,ด้วยพลังของเขานั้น,ไม่มีใครในนี้สามารถต่อกรได้.

หากแต่ในเวลานี้,หญิงสาวที่อยู่ด้านหน้านี่เป็นที่สงสัยทำให้เขาไม่แน่ใจเป็นอย่างมาก.

หญิงสาวคนนี้ถึงกับสามารถปัดเป่าชะตาวิถีของเขาได้,ทั้งที่เขาปล่อยปล่อยลมหายใจชะตาวิถีทั้งหมดออกไปแล้วก็ตาม,หนำซ้ำมันจะสะท้อนกลับคืนมา,เป็นไปได้อย่างไร? นางเป็นใครกัน?

มีชะตาวิถีมากกว่าเขาอย่างงั้นรึ? มีแค่เพียงเซียนเท่านั้น,เซียน? แล้วเซียนจะมาอยู่ที่แห่งนี้ได้อย่างไร,เป็นไปไม่ได้.

พลังอำนาจเซียนของนาง,ทำให้เขาไม่เข้าใจเลยแม้แต่น้อย,เช่นนั้นก็มีเพียงแค่ต้องพิสูจน์.

อรหันต์กุยหยวนที่ยื่นมือขวาออกไปพร้อมกับชี้นิ้วออกไป,นิ้วชี้ที่ชี้ไปบนท้องฟ้า,กลิ่นอายที่ยิ่งใหญ่ทรงพลังถูกปล่อยออกมา.ปรากฏดวงตาขนาดใหญ่ดวงหนึ่งที่จับจ้องมองไม่ใส่ใจปุถุชนธรรมดาปลดปล่อยกลิ่นอายความยิ่งใหญ่สูงศักดิ์ออกมา.

เห็นอรหันต์กุยหยวนส่งสัญญาณมือดังกล่าวออกมา,ดวงตาของเสวียนหยวนเปลี่ยนเป็นเย็นชา,ปลดปล่อยความโกรธเกรี้ยวออกจากดวงตา,เห็นได้ชัดเจนว่า,เสวียนหยวนตระหนักได้ถึงการกระทำของอรหันต์กุยหยวนได้.

เห็นสัญลักษณ์มือ,จงซานไม่เข้าใจความหมายแต่อย่างใด,ทว่าในใดนั้นเทียนหลิงเอ๋อที่เผยท่าทางที่อัศจรรย์ออกมา,ทันใดนั้นมือขวาของนางก็ยื่นออกไปด้านหน้า.

เห็นการกระทำของเทียนหลิงเอ๋อ,เสวียนหยวนที่อยู่ข้างๆถึงกับตกใจเล็กน้อย! กุยหยวนที่อยู่ฝั่งตรงข้ามเองถึงกับสูดหายใจลึก,พร้อมกับเก็บนิ้วของตัวเอง,แววตาที่เปลี่ยนเป็นจริงจัง,จากนั้นมือขวาของเขาที่นำมาวางที่บนท้องน้อย,ก่อนที่จะค่อยๆยกเลื่อนขึ้นมาเล็กน้อย,อยู่ตำแหน่งอก,ดวงตาที่เผยสีหน้าแววตาที่มั่นใจ,ดูเหมือนว่านี่จะเป็นส่งสัญญาณพูดคุยกันด้วยสัญญาณมือกันระหว่างอรหันต์กุยหยวนและเทียนหลิงเอ๋อ.

เสวียนหยวนที่จ้องมองอย่างเย็นชาออกมา,พร้อมกับสูดหายใจลึก,จากนั้นก็จ้องมองไปยังเทียนหลิงเอ๋อ.

เทียนหลิงเอ๋อที่เห็นการกระทำของอรหันต์กุยหยวน,ก็ตกใจเล็กน้อย,ก่อนที่จะส่ายหน้าไปมา,ก่อนที่จะยื่นมือออกไปสองข้าง,นิ้วทั้งสิบที่ชี้ไปยังสถานที่แห่งหนึ่ง.

ตอนนี้ทุกคนต่างก็มองไปยังเทียนหลิงเอ๋อและอรหันต์กุยหยวนที่ขยับสัญลักษณ์มือไปมาราวกับว่ากำลังทายปริศนากันอยู่! แน่นอนว่าบางทีคงมีเพียงอาวุโสเวียนหยวนเท่านั้นที่สามารถเข้าใจได้,ดวงตาของเสวียนหยวนที่จับจ้องมองไปยังการพูดคุยของคนทั้งสองด้วยสายตาที่จริงจัง,จากนั้นก็จ้องมองอย่างเหยียดหยันไปยังอรหันต์กุยหยวน.

อรหันต์กุยหยวนที่เห็นเทียนหลิงเอ๋อส่ายหน้าไปมา,พร้อมกับยื่นนิ้วทั้งสิบออกมา,ก็ขมวดคิ้วไปมา,แสดงท่าทางประหลาดใจ,พร้อมกับเปลี่ยนเป็นจริงจังมากขึ้นและมากขึ้น,จากนั้นเขาที่กำมือทั้งสองข้างของเขา,ก่อนที่เท้าขวาจะยกขึ้น,พร้อมกับก้าวลงไปยังผืนปฐพีเบาๆ.

"คลืนนนนน"

บนพื้นที่ดินที่เกิดคลื่นขึ้นมาในทันที,ราวกับว่ามันได้แปรเปลี่ยนเป็นผืนปฐพีอันใหม่เกิดขึ้น.

นี่คือแสดงพลังของอรหันต์กู่หยวน,สายตาที่เย็นชาของเขาจ้องมองไปยังเทียนหลิงเอ๋อ.

เทียนหลิงเอ๋อที่เห็นการกระทำของอรหันต์กุยหยวนแล้วทันใดนั้นก็เผยยิ้มที่ดูแคลนขึ้นมา,มือของนางที่สะบัดออกไป,เกิดเป็นเมฆขนาดเล็กขึ้นที่ฝ่ามือของนาง,จากนั้นก็จ้องมองไปยังท้องฟ้า.

เห็นการกระทำของเทียนหลิงเอ๋อแล้ว,ทันใดนั้นเสวียนหยวนที่อยู่ใกล้ๆก็เผยท่าทางอัศจรรย์ใจ,ดวงตาที่ดูประหลาดใจไม่แน่ใจ,ราวกับว่ามันเป็นเรื่องที่ถูกกำหนดไว้แล้ว.

อรหันต์กุยหยวนที่อยู่ฝั่งตรงข้ามราวกับรับรู้สัมผัสได้ถึงพลังที่ยิ่งใหญ่กว่า,ในมือของเขาที่สั่นไหวด้วยความหวั่นเกรง,เห็นชัดเจนว่าการกระทำของเทียนหลิงเอ๋อนั้นยิ่งใหญ่กว่า.

ผ่านไป 5-6 ลมหายใจ,เทียนหลิงเอ๋อก็ยื่นมือของนางพร้อมกับควบคุมเมฆเหล่านั้นให้ขนายใหญ่ขึ้นโดยไม่สนใจเขา.

เทียนหลิงเอ๋อที่จ้องมองตัวเองพร้อมกับก้าวลงไปบนเมฆ,ร่างของนางที่ยืนอยู่บนเมฆสีขาว.

ในเวลานั้นดวงตาของอรหันต์กุยหยวนที่เบิกกว้าง,ราวกับว่าไม่อยากเชื่อแม้แต่น้อย,ทว่าท้ายที่สุดก็ราวกับว่าใจหายไปทันที,นำฝ่ามือของตัวเองกลับมา,ผ่านไปอีกไม่กี่อึดใจก็ยกมือขึ้นคารวะ,พร้อมกับเก็บพลังลมหายใจชะตาวิถีกลับคืนมาในทันที,ดูเหมือนว่าเขาจะไม่กล้าท้าทายเทียนหลิงเอ๋อแล้ว.

"ใคร่ขอถามนามของท่านได้หรือไม่?"อรหันต์กุยหยวนท้ายที่สุดถึงกับต้องเผยคำพูดออกมา.

แทบจะในทันทีที่เขาเอ่ยปากพูด,การบำเพ็ญด้วยการปิดปากนั้นก็ได้สูญสิ้นพังทลายไปในที่สุด! แม้ว่าจะทำให้เขาเสียใจเป็นอย่างมาก,ทว่าก็อดไม่ได้ที่จะถามออกมาจริงๆ,ปู่ซาเพียวเซี่ยงที่จับจ้องมองออกไปด้วยความตื่นตกใจ,ญาณแตกรึ? เป็นไปได้อย่างไร,หญิงสาวฝ่ายตรงข้ามทำให้ญาณบำเพ็ญปิดปากของอรหันต์ต้องจบลงอย่างงั้นรึ?

"ข้าสกุลเทียน,พวกเจ้ารีบไปให้พ้น!"เทียนหลิงเอ๋อที่เอ่ยออกมาด้วยความฉุนเฉียว.

อรหันต์กุยหยวนและปู๋ซาเพียวเซี่ยงที่โค้งคำนับเล็กน้อย,จากนั้นก็หายไปในทันที.

ในเวลานี้,เสวียนหยวนที่แสดงใบหน้าท่าทางหวั่นเกรง,จ้องมองไปยังเทียนหลิงเอ๋อด้วยความสงสัย,แววตาที่เต็มไปด้วยความประหลาดใจไม่แน่ใจ.

"สหายเต๋าเสวียนหยวน,มีอะไรพิเศษเกิดขึ้นอย่างงั้นรึ?"จงซานที่สอบถามออกมาในทันที.

"กงจูหลิงเอ๋อที่กล่าวก่อนหน้านี้,เป็นความจริงรึ?"เสวียนหยวนที่ประหลาดใจ,พร้อมกับจ้องมองไปยังเซียนเซิงซือที่อยู่ข้างๆด้วย.

"อะไรจริงรึ? ที่ปฏิเสธนักบวชนั่นนะรึ? แน่นอนอยู่แล้ว."เทียนหลิงเอ๋อกล่าวออกมาทันที.

"ปฏิเสธ? ปฏิเสธอย่างงั้นรึ?"เสวียนหยวนที่แสดงท่าทางสงสัย.

เทียนหลิงเอ๋อที่จ้องมองไปยังเสวียนหยวนด้วยความสงสัย,อะไรของคนผู้นี้?

จงซานที่ราวกับว่าตะหนักได้ถึงอะไรบางอย่าง,จ้องมองไปยังเสวียนหยวน,"ไม่รู้ว่าก่อนหน้านี้อรหันต์กุยหยวนแสดงความหมายใดออกมาอย่างงั้นรึ?"

เสวียนหยวนที่ปรับอารมณ์,จากนั้นก็จ้องมองไปยังจงซานและกล่าวออกมาว่า"ก่อนหน้านี้อรหันต์กุยหยวนชี้นิ้วขึ้นไปบนท้องฟ้า,แสดงให้เห็นว่า,"ภายใต้สวรรค์บนพื้นดินนั้น,จงรู้จักเข้าใจความสามารถของตัวเอง,กงจูหลิงเอ๋อที่ยื่นฝ่ามือห้านิ้วผลักออกไป,กล่าวถึงห้าสัญญาณมรณะแห่งสวรรค์,อีกไม่นานหลังจากนี้ทุกคนก็ต้องตาย,อรหันต์กุยหยวนที่ยืนฝ่ามือไปด้านหน้า,พร้อมกับบอกว่าสามารถยกระดับชะตาวิถี,ก้าวไปสู่ชะตาเซียนเพื่อเดินทางสู่ความเป็นอมตะได้,กงจูหลิงเอ๋อที่ยื่นมือออกไปสิบนิ้ว,ส่ายหน้าไปมา,อยู่ภายในฝ่ามือ,ยังไงก็ต้องตายเหมือนหมา.อรหันต์กุยหยวนที่กระทืบลงบนพื้น,กล่าวว่าแดนเทพพิสุทธิ์ใครกล้ากำแหง.กงจูหลิงเอ๋อที่สร้างเมฆขึ้นมา,จ้องมองขึ้นไปบนท้องฟ้า,บนเมฆ,กล่าวว่ามาจากบนสวรรค์,อรหันต์กู่หยวนที่เข้าใจได้ทันทีว่าอะไรอยู่บนเมฆ,กลัวว่าจะกระทำอะไรผิดพลาด,ด้วยกงจูหลิงเอ๋อนั้นได้แสดงท่าทางที่ชัดเจนว่า,นางยืนอยู่บนเมฆสีขาวลงมาจากบนสวรรค์,หรือก็คือหมายถึงดินแดนข้างบนนั่นเอง."

กงจูหลิงเอ๋อที่อ้าปากค้างทีเดียว,คาดไม่ถึงเลยว่าการกระทำดังกล่าวนั้น,มีความหมายเช่นนั้นเหรอ?

"ก่อนหน้านี้กงจูหลิงเอ๋อนั้นมีชะตาวิถีที่ไม่ธรรมดา,ราวกับว่าเป็นชะตาเซียน,ดูเหมือนว่านางเองอาจจะเป็นคนที่เดินทางมาจากดินแดนเบื้องบนใช่หรือไม่?"เสวียนหยวนที่กล่าวออกไปด้วยคำถามที่จริงจัง.

จงซานที่จ้องมองไปยังท่าทางของเทียนหลิงเอ๋อ,พอจะรับรู้แน่นอนนี่จะต้องเป็นเรื่องที่เข้าใจผิดเป็นแน่.

เห็นท่าทางของเทียนหลิงเอ๋อที่แสดงท่าทางแปลกๆเขาจึงได้ถามออกไปว่า"หลิงเอ๋อสิ่งที่เจ้าแสดงท่าทางก่อนหน้านี้หมายความว่าอย่างไรรึ? เขาถามอะไรเจ้า,แล้วเจ้าตอบเขาไปว่าอย่างไร?"

"อืม,ก่อนหน้านี้พวกเขาไม่ได้บอกว่าต้องการให้เจ้าเดินทางไปยังแดนเทพพิสุทธิ์หรอกรึ?"เทียนหลิงเอ๋อกล่าว.

"ใช่,ปู่ซาเพียวเซี่ยงเป็นคนกล่าว!"จงซานพยักหน้า.

"ข้าคิดว่านักบวชนั่นต้องการถามว่าเจ้าจะเอาอย่างไร? หลังจากนั้น,นักบวชนั่นก็ยื่นนิ้วออกมาห้านิ้ว,ข้าคิดว่าเขาหมายความว่า,ขอเชิญเจ้าไปกินอาหาร."เทียนหลิงเอ๋อกล่าว.

"ขอให้ข้าไปกินอาหารอย่างงั้นรึ?"ใบหน้าของจงซานที่เผยท่าทางแปลกๆ.

เสวียนหยวนที่แสดงท่าทางตื่นตระหนก,ขอให้ไปกินอาหารอย่างงั้นรึ? จื่อเห่าและชิงหงที่เผยรอยยิ้มออกมา.

"ใช่,ข้ายื่นนิ้วออกไป,พร้อมกับส่ายหน้าไปมา,บอกว่าพวกเราไม่ไป!"เทียนหลิงเอ๋อกล่าวต่อ.

ส่วนเสวียนหยวนนั้นกับคิดว่าเป็น ห้าสัญญาณมรณะแห่งสวรรค์รึ?,จงซานที่แสดงท่าทางแปลกประหลาด,ชิงหงที่อดไม่ได้ที่ต้องหัวเราะออกมาเบาๆ,เสวียนหยวนเวลานี้ถึงกับหลั่งเหงื่อที่เย็นเยือบออกมา.

"แล้วนักบวชนั่นยังยกมือมาด้านหน้า,พร้อมกับยกมือขึ้นบนท้องน้อยช้าๆ,ทำเหมือนเป็นชามข้าว,แน่นอนว่าเขาจะต้องบอกว่า,ที่แดนเทพพิสุทธิ์นั้นมีเครื่องดื่มและข้าวต้มด้วย!"เทียนหลิงเอ๋อกล่าว.

"ให้ข้าไปกินข้าวต้มอย่างงั้นรึ?"จงซานที่แสดงท่าทางที่ประหลาดใจยิ่งขึ้น.

"ใช่ๆ,จากนั้นข้าจึงยื่นมือออกไปทั้งหมด,บอกเขาว่า,อาหารยังไม่กิน,จะเป็นไปได้อย่างไรที่จะกินข้าวต้ม?"เทียนหลิงเอ๋อที่กล่าวออกมาเป็นปรกติ.

ในเวลานั้น,ชิงหงและจื่อเห่าที่ไม่สามารถทนได้อีกต่อไปแล้ว,พรึด ๆ หัวเราะออกมาเสียงดัง,เสวียนหยวนที่จ้องมองไปยังเทียนหลิงเอ๋อด้วยสายหน้าที่เต็มไปด้วยความอัศจรรย์ใจ,ชวนไปกินข้าวต้มรึ?

"หลังจากนั้นล่ะ? อรหันต์กุยหยวนที่ยกเท้าขึ้น,พร้อมกับเหยียบไปบนพื้น,เจ้าเข้าใจว่าอย่างไรรึ?"จงซานสอบถาม.

"นักบวชคนนั้นเขาบอกว่า,หากไม่กินก็ไม่ให้ไป!"เทียนหลิงเอ๋อกล่าว.

ในเวลาเดียวกัน,หลินเซียวที่อยู่ข้างๆก็ไม่สามารถทนได้อีกต่อไป,เริ่มหัวเราะอย่างบ้าคลั่งด้วยเช่นกัน,แม้แต่เซี่ยนเซิงซือที่ยากจะเห็นยังต้องเผยยิ้มออกมา.

เสวียนหยวนที่แข็งกลายเป็นรูปปั้นจ้องมองไปยังเทียนหลิงเอ๋อ,ไม่กินไม่ให้ไปอย่างงั้นรึ?

"จากนั้นล่ะ?"จงซานที่สอบถามออกมาอีกครั้ง.

"จากนั้นข้าก็สร้างเมฆขึ้นมา,บอกเขา,ข้าไม่เดินไปก็ได้,พวกเราจะบินไป" เทียนหลิงเอ๋อที่เผยยิ้มและจ้องมองขึ้นไปบนท้องฟ้า.

"หลังจากนั้น,นักบวชนั่นทำท่าไม่เชื่อยังชี้ไปยังเมฆในมือข้า,ว่ามันเล็ก,เขาคิดว่ามันเล็ก,ข้าก็เลยขยายมันให้ใหญ่ขึ้นและขึ้นไปยืนอยู่บนก้อนเมฆไงล่ะ,พร้อมกับบอกเขาว่ายกเลิกพวกเราจะไม่ไปกินข้าวกับเขา."เทียนหลิงเอ๋อกล่าว.

"ไม่,ไม่ไหวแล้ว,ไมไหวแล้ว!"ชิงหงที่กุมท้องตัวเองหัวเราะเป็นบ้าเป็นหลัง,จื่อเห่าเองถึงกับต้องเช็ดน้ำหูน้ำตา,แสดงท่าทางไม่ไหวเช่นกัน.

"ฮ่าอ่าฮ่าฮ่าฮ่า!"หลินเซียวที่ไม่สามารถทนหัวเราะอย่างบ้าคลั่งในที่สุดเช่นกัน.

เซียนเซิงซือที่ส่ายหน้าไปมาเผยยิ้มออกมา,คาดไม่ถึง,คาดไม่ถึงเลยว่ากับความเข้าใจผิดเล็กน้อย,จะทำให้สามารถขับไล่อรหันต์กู่หยวนให้จากไป,เช่นนี้เป็นโชคลาภที่คาดไม่ถึงเลยจริงๆ.

เสวียนหยวนที่อยู่ข้างๆ,ที่นิ่งงันราวกับไม้สลักก่อนที่จะค่อยขยับ,ไม่อยากเชื่อเลยแม้แต่น้อย,จ้องมองขึ้นไปบนท้องฟ้า,อรหันต์กุยหยวน,ท้ายที่สุด,ท้ายที่สุดเจ้าก็มีวันนี้เช่นกัน.

"ข้ากล่าวอะไรผิดไปอย่างงั้นรึ?"เทียนหลิงเอ๋อที่จ้องมองไปยังจงซาน.

จงซานในเวลานี้รู้สึกมีความสุขราวกับว่าสวรรค์กำลังพลิกคว่ำไปเลยทีเดียว,อรหันต์กุยหยวนที่ต้องมาพบกับเทียนหลิงเอ๋อ,นับว่าดวงซวยสุดๆ,ตอนนี้หากรับรู้เรื่องที่เกิดขึ้นคงร้องไห้โฮ,ไม่รู้ว่าจะดีใจหรือร้องไห้ออกมาดี.

"เจ้าช่างเป็นดาวนำโชคของข้าจริงๆ,"จงซานที่จับมือเทียนหลิงเอ๋อและกล่าวออกมา.

นับตั้งแต่ครั้งแรกที่เขาพบกับเทียนหลิงเอ๋อ,ตลอดเวลาที่นางอยู่ข้างกาย,มันจะมีเรื่องให้ประหลาดใจ,คาดไม่ถึงอยู่ตลอดเวลา,ในเกาะหมาป่าสวรรค์เองก็มีหลายอย่างที่เกิดขึ้นตลอดการเดินทางร่วมกับนาง,แม้ว่าจะมีเหตุการณ์ที่ต้องพบกับอันตราย,แต่แท้จริงแล้วกับพบกับโชควาสนาด้วย,ตอนนี้ก็ด้วย,กับอรหันต์ที่น่าเกรงขาม,คาดไม่ถึงเลยว่าจะถูกเทียนหลิงเอ๋อจัดการจนอยู่หมัด?

"นับว่าเป็นดาวนำโชคจริงๆ,ข้าได้ยินมาว่าอรหันต์กุยหยวนนั้นได้ปิดปากบำเพ็ญ,นี่คือหนึ่งวิชาที่ทรงพลังมาก,คาดไม่ถึงเลยว่าจะถูกเทียนหลิงเอ๋อทำลายญาณบารมีนี้ไป,ข้าคิดว่า,หากอรหันต์กุยหยวนรู้เรื่องเข้า,คงต้องกระอักเลือดตายเป็นแน่,"ชิงหงที่กล่าวออกมาด้วยรอยยิ้ม.

"ใช่แล้ว,การปิดปากบำเพ็ญเพียรนั้น,ความจริงเป็นการฝึกที่ทรงพลังน้อยคนนักที่จะฝึกได้,คาดไม่ถึงเลยว่าวันนี้จะต้องตบะแตก,สวรรค์ลิขิตแล้ว!"เสวียนหยวนที่แสดงท่าทางอัศจรรย์ใจส่ายหน้าไปมา.

"จอมพล,หากพวกเขารู้,อรหันต์กุยหยวนไม่โกรธเกรี้ยวหรอกรึ?"หลินเซียวที่สอบถามด้วยรอยยิ้ม.


"แน่นอน,หากว่าอรหันต์กุยหยวนรู้คงต้องการฉีกร่างพวกเราเป็นชิ้นๆแน่! อย่างไรก็ตาม,ตอนนี้ไม่จำเป็นต้องกังวล,รอให้ข้ากลับสุ่เขตแดนอาณาจักรสวรรค์ต้าโหลวก็พอแล้ว."จงซานกล่าวออกมาพลางหัวเราะเสียงดัง.




ที่มาจากhttps://lnmtl.com/novel/immortality

#นิยาย เรื่องอมตะ #Immortality#นิยายแปลไทย
Author(s)


สนใจสนับสนุนพวกเรา,เข้าร่วมกลุ่ม VIP ====> Click

***เว็ปฟรีอัพ สองวันหนึ่งตอน
***กลุ่มลับ อัพ 2-3 ตอนต่อวัน.

 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น