วันอังคารที่ 1 ตุลาคม พ.ศ. 2562

Immortality Chapter 457 Presses the life by the life

Immortality Chapter 457  Presses the life by the life

นิยาย เรื่อง อมตะ ตอนที่ 457   สะกดข่มชะตาด้วยชะตา.


Chapter 457  Presses the life by the life
以命
  สะกดข่มชะตาด้วยชะตา.

"กลับไป,นำเจดีย์อมตะมา!"เนี่ยฟ่านเฉินกล่าว.

"รับด้วยเกล้า!"ขันทีชราด้านหลังเนี่ยฟ่านเฉินรับคำจากนั้นก็หายไปด้วยความรวดเร็ว.



เซียนเซิงซือที่นำแผ่นริ้วหยกของอักขระดังกล่าวออกมา,มันมีขนาดรูปร่างเหมือนกับไพ่นกกระจอก,หากแต่เป็นหยกสีขาว,ที่บนนั้นมีรูนสีน้ำเงิน,มีลักษณะเหมือนรอยสลักอสูร,ที่กำลังลอยอยู่บนหยกสลัก! พร้อมกับยื่นมันให้กับจงซานเบาๆ.

จงซานที่แสดงท่าทางประหลาดใจเล็กน้อย,จ้องมองไปยังหยกสลัก,ก่อนที่จะยื่นมันออกไป.

เนี่ยฟ่านเฉินที่สะบัดมือ,แผ่นริ้วหยกก็หายไปในทันที!

จงซานที่จ้องมองอย่างลึกล้ำ,จ้องมองไปยังเซียนเซิงซือ,เนี่ยฟ่านเฉินที่เผยยิ้มเป็นนัยน์,ก่อนที่จะหายไปจากหน้าจงซานในทันที.

จงซานไม่จำเป็นต้องกังวลที่เนี่ยฟ่านเฉินจะปฏิเสธมอบเจดีย์อมตะให้เขา,ต้องไม่ลืมว่า,คำพูดของเซิ่งซ่างนั้น,มีน้ำหนักราวกับกฏของสวรรค์!

เป็นความจริง,ไม่นานหลังจากนั้น! ขันทีชราก็บินกลับมาอย่างรวดเร็ว.

"คลืนนนน"

อนุสาวรีย์อมตะ 11 อัน,ที่ถูกโยนลงมา,ก่อนที่ขันทีชราจะหายไปอย่างรวดเร็วเช่นกัน.

ก่อนที่จงซานจะสะบัดมือเก็บมัน,เสวียนหยวนที่จ้องมอง,หากแต่ไม่ได้กล่าวสิ่งใดออกมา.

"สหายเต๋าเสวียนหยวน,ก่อนหน้านี้ขณะที่ข้ากล่าวว่าต้องการเจดีย์อมตะเห็นทุกคนประหลาดใจ,ไม่รู้ว่ามันมีอะไรอย่างงั้นรึ?"จงซานสอบถาม.

"หืม?"เสวียนหยวนที่แสดงท่าทางประหลาดใจเล็กน้อย.

"มันมีความลับอะไรซ่อนอยู่อย่างงั้นรึ?"จงซานที่สอบถามออกมา.

"ไม่รุ้อย่างงั้นรึ?"เสวียนหยวนที่แสดงท่าทางตื่นตะลึงไปเลยทีเดียว,ไม่รู้ว่าเจดีย์อมตะใช้ทำอะไร,กับเอ่ยปากออกมาอย่างงั้นรึ? นอกจากนี้ยังต่อรองกับเนี่ยฟ่านเฉินอีกด้วย.

"ข้าเพียงแค่ช่วยสหายรวบรวมมันเท่านั้น!"จงซานกล่าว.

"สหายรึ?"เสวียนหยวนที่กล่าวออกมาด้วยท่าทางประหลาดใจ.

"มีปัญหาอะไรอย่างงั้นรึ? เจดีย์อมตะมันสามารถใช้ทำอะไรได้? ข้ารู้เพียงแค่ว่ามันเป็นของราชวงศ์ต้าหง,และตอนนี้กระจัดกระจายกันอยู่! มีอะไรพิเศษนั้น,ข้าเองก็ไม่รู้,สหายเสวียนหยวนรู้อย่างงั้นรึ?"จงซานกล่าวออกมาด้วยท่าทางสงสัย.

เสวียนหยวนที่สูดหายใจลึกและกล่าวว่า,"สิ่งนี้เป็นสิ่งของผู้ฝึกตนบำเพ็ญชื่อเสียงขั้นสูง,ข้าเองก็ไม่รู้เช่นกัน,รู้เพียงสิ่งหนึ่ง,สิ่งนี้เซิ่งซ่างเห่าเทียน,คราแรกนั้นได้เตรียมใช้มันเพื่อที่จะแบกรับอำนาจสวรรค์,หากแต่ด้วยเหตุผลอะไรไม่รู้,มันไม่สามารถใช้ได้ในครั้งนั้น,ดูเหมือนว่าในราชวงศ์ต้าโหลวเองก็มีสิ่งที่เหมือนกันอยู่ด้วยเช่นกัน!"

"หืม?"จงซานที่แสดงท่าทางสงสัยเล็กน้อย.

"ราชวงศ์สวรรค์ต้าโหลวนั้น,มีศาลาเจ็ดดาว,มีสำนักเทียนชู,เทียนเสวียน,เทียนจี,เทียนฉวน,ยวีเหิง,ไคหยางและเหยากวง เจ็ดสำนักขนาดใหญ่?"เสวียนหยวนถาม.

"ใช่!"จงซานพยักหน้าพลางขมวดคิ้วเล้กน้อย.

สำนักไคหยางที่เขาออกมานั้น,ไม่มีส่วนใหนที่ทำการบำเพ็ญชื่อเสียงเลยไม่ใช่รึ?

"ดูเหมือนว่าสำนักทั้งเจ็ดนั้น,จะตั้งกันเป็นค่ายกลกระบวยใหญ่?"จงซานที่พอรู้มาบางและกล่าวสอบถามออกไป.

"ค่ายกลกระบวยใหญ่อย่างงั้นรึ?"เสวียนหยวนส่ายหน้าไปมาเผยยิ้มบางๆออกมา.

"อาจไม่ใช่อย่างงั้นรึ?"จงซานสอบถาม.

"เจ้าควรจะได้ยิน,ก้าวเจ็ดดารา,ต่อต้านสวรรค์,ต่อต้านชะตาหรือไม่?"เสวียนหยวนสอบถาม.

สายตาของจงซานที่ส่องประกาย,แม้ว่าจะไม่เคยได้ยิน,ทว่าก็ไม่ใช่ว่าจะไม่เข้าใจ,กู่เฉิงตงจงใจตั้งก้าวเจ็ดดาราขึ้นมาอย่างงั้นรึ?

"ท่านจะบอกว่าสำนักทั้งเจ็ด,ที่จริงแล้วเป็นการแปลงชะตาของเซิ่งซ่างต้าโหลวอย่างงั้นรึ?"จงซานที่ขมวดคิ้วสอบถามออกไป.

"ข้าเองก็รู้อะไรไม่มากนัก!"เสวียนหยวนที่ส่ายหน้าไปมา.

"ขอบคุณ!"จงซานพยักหน้า.

ไม่ว่าอย่างไร,ก็นับว่าเป็นข้อมูลที่ดีอย่างหนึ่ง! เจดีย์อมตะ,ดูเหมือนว่าจะไม่ใช่สิ่งที่จะสามารถใช้ประโยชน์ได้ง่ายๆ,เป็นสิ่งที่มีความแข็งแกร่งที่สุดรึ?ไม่สงสัยว่ามันกระจายอยู่ในราชวงศ์สวรรค์และแดนเทวะ.

หลังจากกลับมายังค่าย,หลังจากแยกจากเสวียนหยวนและเซียนเซิงซือแล้ว,เขาก็เข้าไปในเรือนพักขนาดใหญ่ในค่ายทันที.

"หลิงเอ๋อ,อู๋จิวเทียนไปแล้วรึ?"จงซานสอบถาม.

"อืม,เจ้าไม่ได้เห็น,มีเรื่องลึกลับเกิดขึ้น,ขนของเสี่ยวหง งอกออกมายาวสมบูรณ์แล้ว!"เทียนหลิงเอ๋อกล่าวออกมาด้วยความตื่นเต้น,พร้อมกับถกแขนเสื้อของนางออกมาให้จงซานดู.

เห็นเพียงแค่บนแขนของนางนั้น,มีรอยสักหงส์เพลิงสลักอยู่,มีรูปลักษณ์เหมือนกับหงสาเพลิงมาก,เหมือนกับรอยสักที่จงซานเคยเห็นที่โลกมนุษย์,ดูแล้วไม่ต่างจากนกกระจอกสีแดงเลย.

"มันคืออะไรอย่างงั้นรึ?"จงซานกล่าวออกมาด้วยท่าทางประหลาดใจ.

"คือเสียวหงไงล่ะ,เสี่ยวหงกินผลไม้ประหลาดเข้าไปก่อนหน้านี้,หลังจากนั้นมันก็โกรธเกรี้ยวเป็นอย่างมาก,หากแต่ขนของมันก็งอกออกมาสมบูรณ์,พร้อมกับเปลี่ยนร่าง,และเข้ามาในร่างของข้า,และเปลี่ยนเป็นรอยสักนี่ล่ะ!"เทียนหลิงเอ๋อกล่าว.

"ไม่ใช่ว่าอู๋จิวเทียน,ต้องนำหงสาเพลิงกลับไปหรอกรึ?"จงซาที่สอบถามออกมาด้วยท่าทางประหลาดใจ.

"ไม่,เสี่ยวหงนั้นต้องการอยู่กับข้า,เจี่ยเจี่ยอู๋บอกว่าเสี่ยวหงต้องการจำศีล,และจะไม่ตื่นง่ายๆ,หากแต่หลังจากตื่นแล้ว,จะออกมาเอง."เทียนหลิงเอ๋อกล่าว.

"จำศีลรึ? แล้วมีผลอะไรกับเจ้าหรือไม่?"จงซานที่กล่าวออกมาด้วยความกังวล.

แม้ว่าจะไม่เข้าใจการกระทำของอู๋จิวเทียน,ทว่าการที่หงสาเพลิงจำศิลในร่างของหลิงเอ๋อ,ก็ทำให้จงซานรู้สึกไม่ดีเช่นกัน.

"ไม่ๆ,หลังจากที่เสี่ยวหงกลายเป็นลายสักแล้ว,ข้าพบว่าพลังงานความร้อนในกายของข้าเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ,พลังฝึกตนเองก็เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว,ไม่,ไม่เพียงเท่านั้น,พลังฝึกตนของข้ายังมั่นคงอีกด้วย!"เทียนหลิงเอ๋อที่ครุ่นคิดและกล่าวออกมา.

"หืม?"จงซานที่จ้องมองไปยังหงสาเพลิงด้วยท่าทางประหลาดใจ.

อาจจะเป็นโชคลาภไม่ใช่ภัยพิบัติก็ได้! ในเมื่อเป็นเช่นนี้,ก็ไม่จำเป็นต้องกังวลชั่วคราว.

กองกำลังจงซาน,ตอนนี้อออกจากเมืองหลีโห่วเซิ่งหมดแล้ว,พร้อมกับมุ่งหน้าตรงไปยังทิศทางของราชวงศ์สวรรต์ต้าโหลวเต็มกำลัง,ซึ่งมีเสวียนหยวนที่เป็นผู้ฝึกตนที่ทรงพลังคุ้มกันกลับมา,จึงไม่จำเป็นต้องเป็นห่วงเรื่องอันตรายใดๆ.

ท้ายที่สุด,ก็ผ่านมาสองเดือนแล้ว,และได้ออกมาจากเขตแดนของราชวงศ์สวรรค์ต้าหลีแล้ว.

กองกำลังของพวกเขาที่ยังคงเดินทางไม่หยุดหย่อน,เสวียนหยวนที่หลายๆครั้งพยายามสอบถามเซียนเซิงซือ,ทว่าเซียนเซิงซือยังคงปิดเงียบ,ไม่ได้กล่าวสิ่งใดกลับเสวียนหยวย,ถึงกับทำให้เสวียนหยวนต้องส่ายหน้าพลางถอนหายใจเบาๆ..

ในวันนี้,ขณะที่ทัพของพวกเขาเคลื่อนที่มาถึงทะเลทรายแห่งหนึ่ง.

ทันใดนั้นเสวียนหยวนก็ยกมือขึ้นขวางจงซานเอาไว้.

จงซานขมวดคิ้วไปมา,พร้อมกับหยุดทัพเอาไว้.

"มีอะไรรึ?"เทียนหลิงเอ๋อที่กล่าวออกมาด้วยความสงสัย.

"อย่าเพิ่งพูด!"จงซานที่กล่าวออกมาด้วยเสียงที่แผ่วเบา.

สุ่ยอู๋เหินที่สั่งการให้กองกำลังตั้งกระบวน,เซียนเซิงซือ,หลินเซียวและคนอื่นๆต่างก็ออกมาอยู่ข้างๆจงซาน.

"เป็นอรหันต์องค์ใดที่มา,โปรดเผยตัวออกมา!"เสวียนหยวนที่เอ่ยออกไปเบาๆ.

กับคำพูดของเสวียนหยวน,ภายในใจของจงซานที่รัดตรึง,พร้อมกับกุมมือเทียนหลิงเอ๋อ กระซิบบอกกล่าวไม่ให้นางเผยตัวออกมา.

อรหันต์?! แดนเทพพิสุทธิ์ถึงกับลงมือตั้งแต่เขายังไม่กลับถึงเมือง,ส่งอรหันต์มาขวางเขาด้วยตัวเองเลยรึ?

"วูซซ วูซซ,วูซซซ"

หลังจากนั้นก็ได้ยินเสียงจากที่ไกลออกไป,ปรากฏเป็นแสงสีขาวที่แผ่ออกมา,พร้อมกับพื้นที่สีเขียวที่อยู่บนพื้น,ปรากฏออกมากระจายไปทั่วทิศทาง.

แสงสีขาว,ที่กลบแสงสีเขียว,ปรากฏเป็นพื้นที่อุดมสมบูรณ์ขนาดเล็ก,ก่อนที่มันจะขยายออกไปเรื่อยๆมากขึ้นและก็มากขึ้น,ท้ายที่สุดพื้นทรายก็หายไป,ทะเลทรายเวลานี้มันได้กลายเป็นภูเขาที่เต็มเปี่ยมไปด้วยป่าไม้ที่เขียวขจี.

ในเวลาเดียวกัน,ตำแหน่งหนึ่งที่มีแสงสว่างเจิดจ้าส่งออกมานั้น,ปรากฏบุรุษผู้หนึ่งที่สวมผ้าคลุมสีทอง,ใบหน้าที่ดูเคร่งขรึม,ยกมือเป็นรูปดอกบัวครึ่งเดียวบนหน้าอก,ที่บนศีรษะนั้นมีกรรมวาสนาเป็นบารมีทรงกลมแผ่ออกมารอบๆ.

24 กงล้อสวรรค์ที่จงเทียนได้รับมาก่อนหน้านี้,ตอนนี้มันกำลังหมุนวนอยู่ล้อมรอบร่างกายของเขา,ในเวลานี้เขาดูเหมือนกับเทพเซียน,ที่จ้องมองมายังปุถุชนธรรมดา,ผู้ที่อยู่แตกต่างกันคนละโลกเลยทีเดียว.

แดนเทพพิสุทธิ์! อรหันต์ปัจจุบันกุยหวน!

อรหันต์ที่แข็งแกร่งที่สุดในแดนเทพพิสุทธิ์,และยังมีปู่ซาเพียวเซียงอยุ่ข้างๆอีกด้วย.

สายตาของทุกคนที่จ้องมองไปยังอรหันต์กุยหยวนที่ลึกลับ,ภายในใจรู้สึกไม่สบายใจนัก,ราวกับว่ามีแสงนับล้านๆกำลังพุ่งผ่านร่างเขาออกมา,เป็นแรงกดดันที่แผ่นกดทับทุกคนอยู่.

หลายๆคนที่ไม่สามารถคงสติได้ย่อมต้องนั่งลงกราบด้วยความเคารพเลยทีเดียว.

จงซานที่เผยสีหน้าแววตาเจ็บปวด,กำลังต่อต้านพลังที่กดทับมาไม่หยุด,ราวกับว่ามีเสียงระฆังที่ก้องกังวานทรงพลัง,เป็นพลังวิญญาณที่หนักหน่วง,ร้ายกาจอำนาจของเซียนที่กำลังกดทับคนธรรมดาทั่วไปอยู่.

พลังที่บังคับให้เขาต้องเทิดทูนรึ? ดูเหมือนว่าภายในใจของเขาจะมีเสียงที่ดังซ้ำๆให้เขาคุกเข่าลงกราบให้จงได้.

"ทหารถอย!"สุ่ยอู๋เหินที่ออกคำสั่งในทันที.

กองกำลังจงทั้งหมดที่ถอนกำลังอย่างรวดเร็ว,อรหันต์กุยหยวนนั้นหาได้สนใจแม้แต่น้อย.

จากนั้น,ยังคงเหลือจงซานและคนอื่นๆที่ยังพอสามารถทนแรงกดทับทางจิตได้,ทว่าถึงแม้ว่าจะเป็นจื่อเห่าและชิงหง,ระดับจักรพรรดิแท้ทั้งสองคน,ทุกคนยังเผยสีหน้าแววตาเจ็บปวด,ราวกับว่าไม่สามารถทนแรงกดดันนี้เอาไว้ได้.

มีเพียงสองคนที่ไม่ได้รับผล,หนึ่งคือกุยหยวน,อีกหนึ่งที่จริงก็คือเทียนหลิงเอ๋อ!

"จงซาน,เจ้า?อย่าได้ทำให้ข้ากลัว!"เทียนหลิงเอ๋อที่เอ่ยออกมาด้วยความตื่นตกใจ.

เห็นเทียหนลิงเอ๋อที่ไม่เป็นอะไร,จงซานที่ตื่นตกใจเล็กน้อย,เซียนเซิงซือ,จื่อเห่าชิงหง,หลินเซียวเองก็ตื่นตะลึงเช่นกัน,แม้แต่เสวียนหยวนที่ไม่ได้เป็นอะไรเช่นกันก็ตกใจ! ไม่ต้องเอ่ยถึงอรหันต์กุยหยวนและปู่ซาเพียวเซี่ยงที่อยู่ไกลออกไปยังประหลาดใจด้วย.

เทียนหลิงเอ่อที่มีพลังฝึกตนเพียงระดับหลอมกายธาตุ,กับไม่เป็นไรอย่างงั้นรึ?

"อรหันต์กุยหยวน,เจ้าต้องการทำอะไร? เพียงแค่ต้องการวัดชะตาวิถีกับพวกเขาเท่านั้นอย่างงั้นรึ?"เสวียนหยวนแค่นเสียงเย็นชา.

ชะตาวิถีรึ? ดวงตาของจงซานที่หรี่ตาเล็กลง,ท้ายที่สุดเขาก็เข้าใจว่าหมายความว่าอย่างไร,ชะตาวิถี,ผู้ฝึกตนสวรรค์แท้นั้นเป็นผู้มีชะตาวิถีมากกว่าตัวเขา,ใช้ชะตากดชะตา,คนที่มีชะตาอ่อนแอกว่า,ย่อมไม่สามารถทนแรงกดทับทางจิตได้!ดูเหมือนว่าตัวเขาจะเป็นคนปรกติ,ด้วยชะตาของตัวเขาแล้วจะเทียบกับชะตาของอรหันต์กุยหยวนได้อย่างไร.

กล่าวอีกอย่างหนึ่ง,ชะตาของเขานั้นด้อยกว่าอรหันต์กุยหยวนมาก,แม้แต่ไม่มีโอกาสได้เป็นเซียนได้ด้วยซ้ำ,อย่างไรก็ตามชะตาของเขานั้น,ที่จริงแล้วมันเป็นชีวิตที่เขาจะต้องฝืน,เป็นชะตาวิถีที่เขาต้องคว้ามันมาด้วยตัวเอง,ดูเหมือนว่าชะตาของเขาอ่อนแอที่สุดจึงถูกกดทับด้วยแรงกดดันที่มากยิ่งกว่าคนอื่นๆ.

นี่คือการกดทับชะตาด้วยชะตา!

ส่วนเสวียนหยวนและเทียนหลิงเอ๋อที่ปลอดภัยนั้น,เป็นเพราะว่าเสวียนหยวนมีชะตาวิถีในระดับเดียวกับอรหันต์กุยหยวน,แน่นอนว่าย่อมไม่มีผล,ทว่าเทียนหลิงเอ๋อนั้นเพราะว่านางมีหงสาเพลิง,หงสาเพลิงที่มีชะตาวิถี,เป็นชะตาเซียนอยู่แล้ว,ด้วยพลังของชะตาแม้แต่กดทับฝ่ายตรงข้ามได้เลยไม่ใช่รึ? ดูเหมือนว่าชะตาวิถีนั้นจะมีสถานะและระดับที่แตกต่างกันไปใช่หรือไม่?

"อรหันต้องการถามจงซานว่าจะเดินทางไปยังแดนเทพพิสุทธิ์เป็นแขกหรือไม่!"เป็นปูซ่าเพียงเซิ่งที่เป็นคนเอ่ยปากออกมาในทันที.

แน่นอนที่ปู่ซาเพียวเซี่ยงต้องเป็นคนกล่าวออกมานั้น? เป็นเพราะว่าอรหันต์กุยหยวนบำเพ็ญเพียรด้วยการบำเพ็ญปิดปากไม่พูด,ดังนั้นจึงไม่สามารถเอ่ยปากพูดได้.

ไม่จำเป็นต้องให้จงซานกล่าว,เทียนหลิงเอ๋อที่เอ่ยออกมาด้วยความโกรธในทันที.

"ไม่ไป,นี่พวกเจ้าเชิญแขกด้วยวิธีนี้อย่างงั้นรึ?"เทียนหลิงเอ๋อที่แสดงความโกรธเกรี้ยวออกมา.

เห็นท่าทางที่เจ็บปวดของจงซานแล้ว,เทียนหลิงเอ๋อที่ไม่รู้ว่าจะต้องทำอย่างไร,ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น,ทว่าก็พอทราบว่าแน่นอนจะต้องเป็นฝ่ายตรงข้ามต้องทำอะไรเป็นแน่,กับการมองเห็นคนที่นางรักเจ็บปวด,แน่นอนว่าจะต้องเจ็บปวดไปด้วยเป็นธรรมดา.

อรหันต์กุยหยวนที่แสดงท่าทางสนใจในตัวเทียนหลิงเอ๋อ,ดวงตาของเขาที่ส่องประกายแสงส่องสว่างออกมาเล็กน้อย.


เสวียนหยวนเอง,ตอนนี้ก็เหมือนกับอรหันต์กุยหยวนที่แสดงท่าทางประหลาดใจ,ในเวลานี้หญิงสาวในชุดสีแดง,แม้ว่าพลังฝีกตนของนางจะยังต่ำ,ทว่าไม่ได้การ,เป็นไปได้อย่างไร? ขณะที่อรหันต์กุยหยวนกำลังปลดปล่อยชะตาวิถีออกมาเต็มกำลัง,หากแต่ว่านางกับไม่มีปฏิกิริยาอะไรเลย,แม้แต่เขาที่เล็งไปยังนางโดยตรง,ทว่าชะตาวิถีที่ปล่อยออกไปนั้นกับกลายเป็นว่าถูกสะท้อน,และถูกส่งคืนกลับไปยังเขา,เรื่องนี้,บางที?




ที่มาจากhttps://lnmtl.com/novel/immortality

#นิยาย เรื่องอมตะ #Immortality#นิยายแปลไทย
Author(s)


สนใจสนับสนุนพวกเรา,เข้าร่วมกลุ่ม VIP ====> Click

***เว็ปฟรีอัพ สองวันหนึ่งตอน
***กลุ่มลับ อัพ 2-3 ตอนต่อวัน.

 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น