วันพุธที่ 25 กันยายน พ.ศ. 2562

Immortality Chapter 450 The graciousness is the graciousness

Immortality Chapter 450 The graciousness is the graciousness

นิยาย เรื่อง อมตะ ตอนที่ 450 บุญคุณคือบุญคุณ

Chapter 450 The graciousness is the graciousness, the resentment is resentful
恩是恩,怨是怨
  บุญคุณคือบุญคุณ,ความแค้นก็คือความแค้น.

จงซานไม่ได้กล่าวอะไรมากมายนัก,หากแต่คำที่เขากล่าวออกมานั้น,ทำให้ใบหน้าของอู๋จิวเทียนแดงซานเลือดขึ้นหน้าเลยทีเดียว.



เรื่องนี้ไม่จำเป็นต้องครุ่นคิด,ก่อนหน้านี้เป็นจงซานที่เสนอข้อเสนอไป,เพื่อจะมอบยาวิญญาณทมิฬให้,ซึ่งหลังจากที่นางไม่สนใจ,ต่อมาขนของหงสาเพลิงก็หลุดรุ่ยล่วงโลนไปหมด.

ทุกอย่างมันประจวบเหมาะมาก,แน่นอนว่าทุกอย่างมันต้องชี้ไปยังจงซาน,หากแต่จ้องมองไปยังจงซานเวลานี้,ที่ทำทองไม่รู้ร้อน,จะมีใครบ้างที่ไม่โกรธเกรี้ยวกัน?

อู๋จิวเทียนที่ต้องตะโกนออกมาด้วยความโกรธต่อจงซาน,แม้ภายในใจปรารถนาปล่อยฝ่ามือออกไปฟาดเขาก็ตามที.

ทว่า,อู๋จิวเทียนก็ไม่กล้าทำเช่นนั้น,ไม่ใช่ว่าใส่ใจเกี่ยวกับตี้เสวียนชา,ทว่าหงสาเพลิงนั้นสำคัญมาก,จงซานในเวลานี้,เท้าเปล่าไม่กลัวที่จะใส่รองเท้า! ถึงเขาตายไปก็ไม่เกิดประโยชน์อะไร.

นอกจากนี้นางยังพบด้วยว่า! แผนการนี้ได้คิดเอาไว้อย่างดีแล้วว่าตัวนางจะต้องยอม.

นางที่สูดหายใจลึก,พยายามสะกดกลั้นโทสะในใจ,พลังกดดันมากมายที่ปลดปล่อยออกไป,สายลมที่รุนแรงได้หยุดลง,ทุกอย่างค่อยๆกลับคืนสู่ความสงบ,พร้อมกับสายตาของนางที่จ้องมองไปยังจงซานด้วยสายตาที่เย็นชา.

"บอกมาว่าต้องการอะไรถึงจะมอบยาวิญญาณทมิฬ?"อู๋จิวเทียนที่เป็นฝ่ายถามออกไปก่อน.

เห็นท่าทางของอู๋จิวเทียนที่เปลี่ยนไป,จงซานรับรู้ว่าไม่สามารถที่จะรั้งรอได้อีกแล้ว!

"จื่อจุ้นหงเพลิง,ก่อนหน้านี้ท่านคงจะกลับไปดูเทียนหลิงเอ๋อมาสินะ?"จงซานสอบถาม.

ได้ยินคำพูดจงซานอู๋จิวเทียนที่ขมวดคิ้วไปมา,หรี่ตาเล็ก,ภายในสายตาปรากฏจิตสังหารแผ่ออกมา.

"จื่อจุ้นหงเพลิง,ท่านควรจะรู้,เทียนหลิงเอ๋อคือภรรยาข้า,ไม่ว่าการแข่งขันเขียนบทความหรือทดสอบการรบ ล้วนแล้วแต่ไม่มีผลต่อตัวข้า,เพราะว่าเทียนหลิงเอ๋อเป็นของข้า,ข้าจงซานจะต้องนำนางกลับไป,ไม่มีใครขวางกั้นได้!"ใบหน้าของจงซานที่เต็มไปด้วยความมั่นใจ.

เห็นท่าทางของจงซาน,ทั้งเสวียนหยวนและอู๋จิวเทียน,ชำเลืองมองหรี่ตาเล็ก,จับจ้องจงซานที่พูดจาใหญ่โต,ราวกับว่ากำลังกล่าวอะไรไร้สาระออกมา?

จงซานมีพลังฝึกตนใด? ก่อตั้งวิญญาณ? ถึงแม้ว่าจะเป็นก่อตั้งวิญญาณสมบูรณ์,ทว่า,นี่ก็ไม่ต่างจากเศษฝุ่น,กับพลังฝึกตนเช่นนี้,คาดไม่ถึงเลยว่าจะแสดงท่าทางทีลเด็ดเดี่ยวถึงเช่นนี้.

จะเป็นใครก็ต้องมองว่าเป็นไปไม่ได้! ดูแล้วขัดเคืองแน่นอน!

ขัดเคือง,หมั่นใส้,ในเมื่อจงซานกล้ากล่าวว่าจะต้องทำสำเร็จ,สำหรับจงซาน,กุนซือไม่ได้มีพลัง,หากแต่มีความคิดสามารถสังหารกองทัพหนึ่งล้านได้,นักการเมืองไม่ได้มีอำนาจ,หากแต่มีแผนการที่จะผูกมัดประชาชนธรรมดานับร้อยล้านได้!

"แต่ว่า,หลิงเอ๋อคือภรรยาข้า,ข้าไม่สามารถปล่อยให้นางลำบากใจคนเดียวได้,ข้าปล่อยให้นางต้องลำบากมาหลายปี,แม้แต่ปล่อยให้นางถูกผนึกความทรงจำ,หากหลิงเอ๋อสามารถทนได้,ข้าจงซานเองก็ต้องทนได้!"จงซานกล่าว.

เสวียนหยวนและจิวอู๋เทียนที่ขมวดคิ้วไปมา.

"จื่อจุ้นหงส์เพลิง,ท่านเป็นคนผนึกความทรงจำหลิงเอ๋ออย่างงั้นรึ?"จงซานที่ชี้ไปยังอู๋จิ้วเทียนในทันที.

กับท่าทางของจงซาน,ที่เต็มไปด้วยการคุกคาม,แม้แต่อู๋จิวเทียนระดับสวรรค์แท้,ทันใดนั้นหัวใจของนางถึงกับรัดแน่น,เป็นการตอบสนองที่ไร้สาระมาก.

เป็นไปตามสถานะการณ์,สุ่ยจิวเทียนที่ชำเลืองมองอย่างโกรธเกรี้ยว,ดวงตาทั้งสองข้าง,เต็มไปด้วยความคิดที่แรงกล้า,เป็นความคิดอัดแน่นด้วยพลังจิตที่พุ่งตรงไปยังสมองของจงซาน.

"ฟริบ ฟิบ"

แปดหางสวรรค์แห่งจุดจุบที่อ้าปากกินความคิดนั่นไปในทันที,อู๋จิวเทียนที่ตื่นตกใจ.

"ดี,เป็นข้า,หมายความว่าอย่างไร? เจ้าต้องการเพียงแค่แก้แค้นข้าอย่างงั้นรึ?"ดวงตาของอู๋จิวเทียนที่แค่นเสียงเย็นชา.

ทว่าจงซานไม่ได้กล่าวสิ่งใดออกมา,แต่ทว่าได้แสดงความเคารพต่ออู๋จิวเทียนออกมาในทันที.

จงซานที่แสดงความเคารพ,ทำให้เสวียนหยวนและอู๋จิวเทียนเต็มไปด้วยความประหลาดใจ,จงซานที่ดูแข็งกร้าวก่อนหน้านี้,เปลี่ยนไปในทันทีทันใด.......

"ขอบคุณ! ขอบคุณจื่อจุ้นหงส์เพลิงที่ช่วยเหลือหลิงเอ๋อ!"จงซานที่กล่าวออกมาในทันที.

จงซานที่แสดงออกมาเช่นนี้ทำให้อู๋จิวเทียนแสดงท่าทางประหลาดใจ,ดวงตาที่เย็นชายังคงจ้องมองไปยังจงซาน.

"บุญคุณคือบุญคุณ,ความแค้นก็คือความแค้น,จงซานย่อมแยกออกจากกันอย่างชัดเจน."จงซานกล่าว.

"ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า,บุญคุณคือบุญคุณ,ความแค้นคือความแค้นรึ? เจ้าคิดว่าแยกมันออกได้ชัดเจนอย่างงั้นรึ?"อู๋จิวเทียนแค่นเสียงเย็นชา.

"วันนี้ข้าจงซาน,ขอรับประกันว่าเผ่าหงส์เพลิงจะคงอยู่ไม่ล่มสลาย!"จงซานกล่าว.

"เจ้านะรึ? ที่จะมารับประกันว่าเผ่าหงส์เพลิงจะไม่ล่มสลาย? เจ้ามีคุณสมบัติความสามารถอันใด?"อู๋จิวเทียนแค่นเสียงเย็นชา,ไม่เพียงแต่นางที่เต็มไปด้วยความดูถูก,สำคัญพลังฝึกตนของเขาแทบจะเป็นไปไม่ได้เลย.

"เรื่องที่ข้าจงซานลั่นวาจา,ย่อมต้องทำสำเร็จ,แม้ว่าในวันนี้อาจจะไม่มีพลังเพียงพอ,แต่ในอนาคตรับประกันได้อย่างแน่นนอน."จงซานกล่าว.

"เจ้ากล่าวมาเพื่อจะยั่วโทสะข้าอย่างงั้นรึ?"อู๋จิวเทียนที่จ้องมองอย่างไม่แยแส.

"หามิได้,จงซานไม่มีเจตนาเช่นนั้นแน่นอน,เพียงแต่ต้องการกล่าวหนึ่งในเงื่อนไขของทั้งหมดออกมาก่อนก็เท่านั้นเอง!"จงซานกล่าว.

"งั้นก็พูดทั้งหมดมา!"
.........................

การแข่งขันการต่อสู้กำลังจะเริ่มแล้ว,ทั่วทั้งเมืองหลีโห่วเซิ่งกำลังจับตามอง,ที่ใจกลางเมืองนั้นมีลานสาธารณะ! เพราะว่ามันมีขนาดใหญ่,คนจึงมาชุมนุมกันรอบๆ,รอคอยจงซาน!

ตัวจงซานนั้นหาได้สำคัญแต่อย่างใด,ที่สำคัญที่สุดก็คือยาเซียนอมตะในมือของเขาต่างหาก! นี่คือเป้าหมายของทุกคนที่จับตามอง.

ลานสาธารณะ! หรือเรียกว่าจตุรัศเมือง,ทว่าเป็นพื้นที่ราบที่มีความกว้างขวางเป็นอย่างมาก.
 มีรัศมีพื้นที่ของมันมากกว่าพันลี้! และพื้นที่รอบๆยังมีป่าไม้ภูเขาล้อมรอบอย่างลงตัว,เป็นสนามต่อสู้ตามประเพณี,ไม่อนุญาตให้บินผ่าน! แม้แต่มีการติดตั้งค่ายกลพิเศษเอาไว้ด้วย,ป้องกันสัมผัสเทวะของทุกคน,การต่อสู้นี้เป็นการทำศึกในพื้นที่ขนาดใหญ่,แต่ล่ะฝ่ายต้องนำกองกำลังหนึ่งล้านคน,เขาจู่โจมยึดครองกองกำลังฝ่ายตรงข้าม! ฝ่ายใหนที่เหลือคนมากที่สุดในสุดท้าย,ฝ่ายนั้นจะได้รับชัยชนะไป.

หลายวันก่อนหน้านี้,ได้ทำการเตรียมงานเอาไว้เรียบร้อย,พื้นที่รอบๆนั้นมีทัพอยู่สี่ทัพตั้งอยู่ในแต่ละทิศ

กองกำลังจง 8 แสนนาย,กองกำลังเสี่ยวเฟยโห่ว 8 แสนนาย,ส่วนเจ้าเทียนชาและเสี่ยวเหยาโห่วต่างก็มีกองกำลังหนึ่งล้านเท่ากัน.

หลังจากที่กองกำลังทั้งสี่เข้าประจำพื้นที่ต่างๆเรียบร้อยแล้ว,ผู้บัญชาการต่างๆก็มาปรากฏตัวที่หน้ากงจูอย่างพร้อมเพรียง.

เทียนหลิงเอ๋อที่มาแต่เช้าแต่งตัวงดงามมีเสน่ห์,นำหงสาเพลิงที่โล้นเตียนมาด้วย,นางที่มาอยู่ที่ตำหนักทางทิศเหนือ,โดยมีเนี่ยชิงชิงยืนอยู่ข้างๆเทียนหลิงเอ๋อ.

เหล่าผู้บัญชาการต่างก็มากันอย่างพร้อมเพรียง.

เส้าเฟยโห่ว,เสี่ยวเหยาโห่วและเจ้าเทียนชา,สามคน,หากแต่อีกหนึ่งไม่ใช่จงซาน,แต่เป็นหลินเซียว.

เทียนหลิงเอ๋อที่เห็นคนทั้งสี่,หากแต่คาดไม่ถึงเลยว่าจะไม่มีจงซาน,นางที่คาดหวังตื่นแต่เช้าวาดหวังที่จะเห็นใบหน้าของจงซาน,หากแต่ภายในใจตอนนี้เต็มไปด้วยความโศกเศร้า,แทบกลั้นน้ำตาไม่อยู่กับความอยุติธรรมนี้,น้ำตาที่คลอเบ้า! เขาโกรธนางจริงๆรึ?

"เจ้าเป็นใคร? จงซานรึ?"เนี่ยชิงชิงที่สอบถามออกมาในทันที.

"รักษาการกองกำลังจง,รองแม่ทัพหลินเซียว,คารวะกงจูทั้งสอง,จอมพลในเวลานี้มีเรื่องสำคัญต้องทำและกำลังเดินทางมา,จึงได้มอบหมายให้หลินเซียวมาเป็นตัวแทนกองกำลังจงในเวลานี้,เพื่อให้เข้าร่วมการแข่งขันในครั้งนี้แทน!"หลินเซียวกล่าว.

"สามหาว,เรื่องสำคัญอย่างงั้นรึ? ยังมีเรื่องสำคัญกว่าการเข้าร่วมแข็งขันการต่อสู้นี้อีกรึ?"เนี่ยชิงชิงที่กล่าวออกมาด้วยความโกรธเกรี้ยว.

"ไม่ใช่ว่าจงซานคิดว่าไม่มีทางชนะ,เลยไม่คิดที่จะเข้าร่วมอย่างงั้นรึ? จึงได้ส่งตัวแทนมา,จงใจที่จะพ่ายแพ้รึอย่างไร?"เสี่ยวเหยาโห่วที่กล่าวออกมาด้วยรอยยิ้มที่ชั่วร้าย.

แววตาของเทียนหลิงเอ๋อที่เต็มไปด้วยความเสียใจ! ก่อนหน้านี้มีการโกงเกิดขึ้น,ทำให้จงซานไม่มาอย่างงั้นรึ? ร่างของเทียนหลิงเอ๋อที่สั่นเทิ้มเต็มไปด้วยความเศร้าใจ.

หลินเซียวจ้องมองไปยังเสียวเหยาโห่ว,แค่นเสียงเย็นชา,จงใจที่จะพ่ายแพ้รึ? บางที! เกี่ยวกับเสี่ยวเหยาโห่ว,ในสายตาของหลินเซียวไม่อยู่ในสายตาแม้แต่น้อย.

"กงจูทั้งสองโปรดวางใจ,จอมพลได้กล่าวเป็นมั่นเหมาะว่าจะต้องมาอย่างแน่นอน,ให้พวกเราต่อสู้กันไปก่อน,นอกจากนี้เรื่องที่จอมพลต้องการทำนั้น,เป็นเรื่องสำคัญ ที่เกี่ยวข้องกับกงจูหลิงเอ๋อ."หลินเซียวกล่าว.

"หืม?"ดวงตาของเทียนหลิงเอ๋อที่เบิกกว้าง,ความโศกเศร้าก่อนหน้านี้ราวกับว่านางได้ลืมไปหมดในทันที.

"หมายความว่าอย่างไร?"เนี่ยชิงชิงกล่าวออกมา.

"เรื่องนี้,ไม่สะดวกนักที่จะเผยความลับในตอนนี้,แต่สามารถบอกได้ว่า,จอมพลนั้นได้กระทำเรื่องบางอย่างที่ยากลำบากมากๆเพื่อกงจูหลิงเอ๋อ,ต้องการให้ทั่วทั้งโลกใบนี้จดจำชัยชนะในครั้งนี้,เพื่อให้กงจูหลิงเอ๋อได้กลายเป็นเจ้าสาวที่มีความสุขที่สุด!"หลินเซียวกล่าว.

กับคำพูดที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความั่นใจของหลินเซียว,ทำให้สองสาวคราแรกรู้สึกกระวนกระวายใจ,ค่อยๆใจเย็นลงได้.

ทว่ากับคำพูดของหลินเซียวนั้น,กับทำให้ฝ่ายตรงข้ามไม่สามารถทนเอาไว้ได้.

"พูดไร้สาระ? ยังไม่เริ่มด้วยซ้ำ,ยังไม่มีการตัดสินใจเลยแม้แต่น้อย."เสี่ยวเหยาโห่วที่กล่าวออกมาด้วยความเย็นชา.

เจ้าเทียนชาจ้องมองไปยังหลินเซียวด้วยความเย็นชา.

ส่วนเส้าเฟยโห่วนั้น,หาได้ใส่ใจคำพูดของหลินเซียว,ต้องไม่ลืมว่า,เส้าเฟยโห่วสามารถมองเห็นได้ทั้งหมด,ในคำพูดนั้น,หากว่าล้มเหลว,จะกลายเป็นความอับอายที่ต้องแบกรับเอาไว้แทน,หากแต่ชนะ,ไม่ว่าจะพูดอะไรออกมาก็ได้ทั้งนั้น,เส้าเฟยโห่วที่จริงแล้วกำลังขมวดคิ้วจ้องมองไปยังมือของหลิงเอ๋อ.

หงสาเพลิงที่อยู่ในมือหลิงเอ๋อ,ขนล่วง,หรือถูกถอนขนออกไปทั้งหมดอย่างงั้นรึ?

เป็นไปไม่ได้,เพิ่งเห็นมาไม่กี่วัน,มันจะล่วงหล่นออกไปจนหมดในทันทีได้อย่างไรกัน?ต้องเป็นฝีมือคนแน่,ทว่าภายใต้สวรรค์แห่งนี้,ใครที่จะหาญกล้าถอนขนสัตว์เลี้ยงของกงจู?

หรือว่าเป็นกงจูเองรึ?

คิดได้ดังนี้,เส้าเฟยโห่วที่ต้องขมวดคิ้วไปมาเล็กน้อย,พบว่ามีเรื่องหลายเรื่องที่ตนเองไม่รู้เกี่ยวกับกงจูหลิงเอ๋อ,สิ่งหนึ่งที่มีที่เขาวาดหวังต้องการสำหรับภรรยาของเขา,ต้องไม่ใช่หญิงสาวที่เผ็ดร้อนเจ้าอารมณ์นั่นเอง.

คิดไปคิดมาเส้าเฟยโห่วที่ถอนหายใจเบาๆ,บางที่อาจจะไม่ใช่ฝีมือนาง,บางทีอาจจะเป็นเหตุผลอื่น!

ไม่ว่าอย่างไร,เทียนหลิงเอ๋อในหัวใจของเส้าเฟยโห่ว,ก็เป็นตัวตนที่สมบูรณ์ไร้ซึ่งรอยด่างพร้อย.

"เอาล่ะ,กลับไปยังกองกำลังของพวกเจ้า! พรุ่งนี้เมื่อได้ยินแตรสงคราม,การรบก็จะเกิดขึ้นอย่างเป็นทางการ!"เนี่ยชิงชิงกล่าว.

"รับทราบ!"คนทั้งสี่ที่รับคำ,จากนั้นก็ถอนตัวกลับไปในทันที.

หลังจากที่ทุกคนกลับมายังค่ายทหารแล้ว,เส้าเฟยโห่วที่นั่งอยู่บนโต๊ะบัญชาการ,คิดใคร่ครวญเกี่ยวกับหงสาเพลิงของเทียนหลิงเอ๋อไปมา.

ในเวลานั้น,บุตรสาวของเส้าเฟยโห่ว,ปิงปิงที่วิ่งเข้าในห้องโถงในทันที.

"ปิงปิง,เจ้าอยู่ที่นี่ได้อย่างไร?"เส้าเฟยโห่วที่กล่าวออกมาด้วยความสงสัย.

"ข้าให้ลุงหม่าพาข้ามาส่งเมื่อเช้านี้,ข้าเองก็สวมชุดเกราะและหมวดเหล็กด้วยล่ะ!"ปิงปิงที่กล่าวออกมาด้วยท่าทางตื่นเต้นเล็กน้อย.

"เจ้าหาลุงหม่าเจอได้อย่างไร? แล้วแม่เจ้าไม่ได้อยู่ด้านรึ?"เส้าเฟยโห่วกล่าวออกมาด้วยความสงสัย.

"ท่านแม่เป็นคนพาข้ามาส่ง!"ปิงปิงกล่าว.

"นางรึ?"เส้าโฟยโห่วใบหน้าเปลี่ยนเป็นซับซ้อนในทันที.

"แล้วแม่เจ้าสบายดีอย่างงั้นรึ?"เส้าเฟยโห่วกล่าวออกมาด้วยเสียงที่อ่อนโยน.

เห็นสายตาของเส้าเฟยโห่ว,ดวงตาของปิงปิงที่ขยับไปมาแสดงท่าทางอักอ่วน,ทว่าก็พยักหน้าเบาๆ.

"ปิงปิง,เจ้าอย่าได้หลอกลวงพ่อ!"เส้าเฟยโห่วที่ดวงตาเบิกกว้าง,จากท่าทางของปิงปิงแล้ว,พบว่าจะต้องมีอะไรผิดปรกติแน่นอน.

"ท่านแม่ไม่ให้ข้าพูด!"ปิงปิงที่กล่าวออกมาด้วยความอัดอั้น.

"กล่าวตามตรง,แม่เจ้ามีอะไรที่ปิดข้าไว้อย่างงั้นรึ."เส้าเฟยโห่วกล่าว.

"อืม!"

"ท่านแม่,ท่านแม่ร้องไห้เมื่อหลายวันก่อน!"ปิงปิงที่กล่าวอย่างหวาดๆ.

"ร้องไห้?"แววตาของเส้าเฟยโห่วที่แสดงท่าทางโกรธเกรี้ยว,จากนั้น,คิดถึงเหตุผลต่างๆ,และจ้องมองไปยังปิงปิง.

"ทำไม,มีเรื่องอะไรถึงได้ร้องไห้?"เส้าเฟยโห่วสอบถาม.

"ข้าถามท่านแม่,ท่านแม่ก็ไม่พูด,ทว่ากลับบอกว่าห้ามบอกท่าน!"ปิงปิงกล่าว.

เส้าเฟยโห่วจ้องมองบุตรสาวด้วยความซับซ้อน.

"ทว่า,ข้าและท่านแม่พักอยู่สถานที่เดียวกัน,ท่านแม่ที่ฝัน,ละเมอชื่อท่านพ่อด้วย,บอกว่าไม่ให้ท่านไป! และขนาดนอนหลับยังร้องไห้ด้วย!"ปิงปิงกล่าว.

ได้ยินคำพูดของปิงปิง,เส้าเฟยโห่วที่เปลี่ยนเป็นเงียบงัน,พร้อมกับนึกถึงเรื่องราวในอดีตที่เคยผ่านมา,ด้วยอารมณ์ที่สั่นไหวไปมา.

"ท่านพ่อ? ท่านพ่อ?"ปิงปิงที่จ้องมองไปยังเส้าเฟยโห่วที่นิ่งงัน,พร้อมกับเรียกออกมาเสียงดัง.

เส้าเฟยโห่วที่ได้สติ,สูดหายใจลึก.

"อืม,พ่อสบายดี!"

"ปิงปิง!"เส้าเฟยโห่วที่จ้องมองไปยังปิงปิงและกล่าวออกมาอย่างจริงจัง.

"อืม?"ปิงปิงที่นั่งอยู่บนตักของเส้าเฟยโห่ว.

"หากว่าพ่อและแม่ของเจ้าแยกกันอยู่ไกลแสนไกล,เจ้าเลือกได้เพียงคนเดียว,เจ้าจะอยู่กับพ่อ,หรือว่าอยู่กับแม่?"เส้าเฟยโห่วสอบถาม.

"ข้าจะอยู่กับท่านพ่อ!"ปิงปิงที่กัดริมฝีปากแน่น,หากแต่กล่าวออกมาอย่างมั่นคง,ทว่าทันใดนั้นอารมณ์ของนางที่เปลี่ยนเป็นเศร้าสร้อย.

"ทำไมล่ะ?"เส้าเฟยโห่วถามออกไป.

"ท่านแม่เคยบอกว่านางสามารถดูแลตัวเองได้,ทว่าท่านพ่อนั้นจะต้องมีคนดูแล,นางต้องการให้ข้าอยู่ข้างกายท่าน,ข้าสามารถเป็นตัวแทนท่านแม่ดูและท่านพ่อได้!"ปิงปิงกล่าวพร้อมกับร้องไห้โฮ.

เส้าเฟยโห่วที่กอดปิงปิง,ด้วยอารมณ์ที่ซับซ้อนอัดอั้น,อดไม่ได้ที่จะมีน้ำตาคลอเบ้าด้วยเช่นกัน.

"ท่านพ่อ,ท่านอย่าแยกจากท่านแม่เลยนะ!"ปิงปิงที่ซบอกกล่าวสะอื้นออกมา.

"ได้,ได้,ไม่แยกกัน,ครอบครัวของพวกเรามีกันสามคนไม่เคยแยกจากกัน!"เส้าเฟยโห่วที่กอดปิงปิงและกล่าวออกมา.

ผ่านไปชั่วขณะ,เส้าเฟยโห่วที่หันหน้าไปยังนอกห้องโถง.

"เสี่ยวหม่า!"เส้าเฟยโห่วกล่าวออกมา.

"อยู่นี่แล้ว! "ขุนพลผู้หนึ่งที่วิ่งเข้ามาจากด้านนอก.

"แจ้งไปยังทหารทุกคน,การทดสอบการรบนี้ข้าจะถอนตัว,ให้ทุกคนกลับบ้านได้!"เส้าเฟยโห่วออกคำสั่ง.

"จอมพล,แล้วกงจูหลิงเอ๋อล่ะ....."ขุนพลที่ขมวดคิ้วกล่าวออกมาด้วยท่าทางกังวล.


"ข้ามีครบทุกอย่างแล้ว,ทำไมจะต้องทำอะไรให้วุ่นวายด้วยล่ะ?"เส้าเฟยโห่วกล่าว.




ที่มาจากhttps://lnmtl.com/novel/immortality

#นิยาย เรื่องอมตะ #Immortality#นิยายแปลไทย
Author(s)


สนใจสนับสนุนพวกเรา,เข้าร่วมกลุ่ม VIP ====> Click

***เว็ปฟรีอัพ สองวันหนึ่งตอน
***กลุ่มลับ อัพ 2-3 ตอนต่อวัน.

 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น