วันจันทร์ที่ 19 สิงหาคม พ.ศ. 2562

Immortality Chapter 412 Remote antiquity forgetting kindnesses Secret Art

Immortality Chapter 412  Remote antiquity forgetting kindnesses Secret Art

นิยาย เรื่อง อมตะ ตอนที่ 412 วิชาลับตัดรักลืมหัวใจ


Chapter 412  Remote antiquity forgetting kindnesses Secret Art
太上忘情
  วิชาลับตัดรักลืมหัวใจ

"เส้นทางสู่ยมโลก!"เซียนเซิงซือที่กล่าวตอบ.

ทุกคนที่ชะเง้อมอง,ภายในหุบเขามีประกายแสงสีเหลืองเรื่อๆ,สามารถมองเห็นภาพฉากด้านในได้.



แสงสว่างสีเหลืองอ่อน,และยังมีเหล่าภูติผีที่ร้ายกาจเป็นอย่างมาก,คลานยั่วเยี่ยเต็มไปหมด,แขนของปิศาจร้ายนับแสนที่กำลังฉุดกระชาก,ต้องการที่จะผุดขึ้นมาจากด้านใน.

เพียงแค่มอง,ยังสัมผัสได้ถึงความน่าหวาดกลัว,เป็นนรกภูมิที่เต็มไปด้วยผีร้ายมากมาย,เป็นโลกแห่งความตาย,ที่ไม่มีใครต้องการจะเข้าไป.

ภูติผีนับล้านๆในเส้นทางยมโลก,มันถูกเปลี่ยนให้กลายเป็นโลกๆหนึ่ง.

ปู่ซาเพียวเซี่ยงที่ลอยอยู่ตรงกลางเส้นทางบนแดนยมโลก,ซึ่งมีมือของเหล่าภูติผีมากมายยื้อยุดฉุดกระชากปู่ซาเพียวเซี่ยง,ไมให้ปู่ซาเพียวเซี่ยงหนีไป,ปู่ซาเพียวเซี่งนั้นทรงพลังเป็นอย่างมาก,ปลดปล่อยพลังออกมามากมาย,ทว่ากลับกลายไปกระตุ้นความโกรธเกรี้ยวต่อเหล่าภูติผี,นางที่ยังคงพยายามบินออกมา,หากแต่ถูกฉุดลงไปหลายๆครั้ง.

"โฮกกกก"

เพียวเซี่ยงที่เต็มไปด้วยความโกรธเกรี้ยว,ความโกรธนี้! นางที่กำลังพยายามหนีออกมาได้,ทว่าแน่นอนว่าต้องใช้เวลาไม่น้อยเลย,การจะออกไปจากที่นี่,พลังกดดันวิญญาณที่ส่งออกไปนั้น,ดูเหมือนว่าจะไม่มีผลต่อเหล่าภูติผีเหล่านี้เลย.

"นี่คือเส้นทางสู่ยมโลกจริงๆรึ?"จงซานที่กล่าวออกมาด้วยท่าทางอัศจรรย์ใจ.

"นี่คือเส้นทางสู่ยมโลก! รีบไปเถอะ,หากชีชราหนีออกมาได้,เส้นทางสู่ยมโลกจะปิดเองในทันที."เซียนเซิงซือที่ส่ายหน้าไปมา,และไม่ได้กล่าวสิ่งใดออกไป.

"ไป!"จงซานกล่าว.

จากนั้น,พวกเขาที่บินออกไปจากพื้นที่ดังกล่าว,ซึ่งยังคงได้ยินเสียงของปู่ซาเพียวเซี่ยงที่ตะโกนออกมาด้วยความโกรธเกรี้ยวเป็นระยะ.

"เทียนเอ๋อ,เจ้าอย่าได้เสียเวลา,เร่งรีบกลับไปยังวิหารต้าหมิงให้เร็วที่สุด."จงซานที่หันหน้าพร้อมกับกล่าวต่อจงเทียน.

"ครับ,ฟู่ฉิน,รักษาตัวด้วย!"จงเทียนกล่าวพยักหน้า.

จากนั้น,จงเทียนก็นำกลุ่มนักบวชอีกห้าคน,มุ่งตรงไปยังทิศทางหนึ่งอย่างรวดเร็ว.

จงซานที่จ้องมองจงเทียนที่จากไปแล้ว,ก่อนที่จะหันหน้าไปยังเซียนเซิงซือ,"เซียนเซิงซือ,สิ่งนั้นคือเส้นทางไปยังยมโลกจริงๆรึ?

จงซานสามารถมองเห็นได้,เส้นทางสุ่ยมโลกนั้น,ไม่ใช่ค่ายกล,ไม่ใช่โลกที่เชื่อมต่อ,ไม่ใช่อะไรที่ธรรมดาอย่างแน่นอน.

"ฝ่าบาท,เรื่องนี้เกี่ยวกับความลับของข้า,รายระเอียดที่ลึกกว่านี้,คงต้องรอก่อน,หากว่าถึงเวลานั้น,ผู้น้อยจะบอกล่าวทั้งหมดเอง!"

"ได้,"จงซานพยักหน้า,ทว่าภายในใจรับรู้ได้อย่างชัดแจ้ง,กับคำพูดของเซียนเซิงซือนั้น,เขาย่อมมองเห็น,เขายังไม่ได้รับการยอมรับจากเซียนเซิงซือ,ตอนนี้เขาเป็นเหมือนกับข้าราชบริพารที่ทำงานให้กับราชวงศ์จักรพรรดิต้าเจิ้งเท่านั้น,ยังไม่ได้ไว้ใจราชวงศ์จักรพรรดิต้าเจิ้งอย่างหมดใจ.

"การประชุมนิพานมรรคนั้น,มีพุทธะองค์เดินทางมา......."จงซานที่เล่าเรื่องที่เกิดขึ้นให้กับเซียนเซิงซือเกี่ยวกับสิ่งทีเกิดขึ้น.

"หาได้มีอะไร,การได้พบกับพุทธะองค์,เทียบไม่ได้กับการที่ข้าได้ศพของปู่ซามาสองศพ."เซียนเซิงซือส่ายหน้าไปมา.

จงซานพบว่าเซียนเซิงซือนั้นหาได้สนใจเกี่ยวกับการพบกับพุทธะองค์แม้แต่น้อย.

"เจ้าเข้าไปนำมันมาจากสุสานาอรหันต์อย่างงั้นึ?"จงซานที่จ้องมองไปยังเซียนเซิงซือ.

"สุสานอรหันต์นั้นมีค่ายกลมากจนเกินไป,ข้าสามารถขโมยมาได้เพียงแค่สองศพเท่านั้น!"เซียนเซิงซือที่ส่ายหน้าไปมาพลางทอดถอนใจ.

"โปรดวางใจ,วันหนึ่ง,พวกเราจะต้องเปิดสุสานอรหันต์,เจ้าต้องได้ทั้งศพอรหันต์และปู่ซา."จงซานที่กล่าวออกมาอย่างมั่นใจ.

"หวังว่าจะเป็นเช่นนั้น!"เซียนเซิงซือพยักหน้า.

"ไปเถอะ,ไปสมทบกับหลินเซียวก่อน!"จงซานเอ่ย.

จากนั้นคนทั้งสองที่เดินทางมุ่งไปยังทิศหนึ่งอย่างรวดเร็ว.
.......................

แดนเทพอมตะ,เรือนพักแห่งหนึ่งภายในป่า.

เรือนพักแห่งนี้ดูธรรมดาแต่กลับดูงดงามประณีตเป็นอย่างมาก,รอบๆผืนป่ามีน้ำพุ,เป็นฉากประดับตกต่างอย่างกลมกลืนกับเรือนพัก,ที่ด้านในนั้นมีหญิงสาวสองคนยืนอยู่.

หนึ่งคือเนียนโหยวโหยว,อีหนึ่งคือหญิงสาวที่ปิดหน้าด้วยผ้าปิดหน้าสีม่วง.

"อาจารย์,นี่คือเสี่ยวชิง!"เนียนโหยวโหยวกล่าว.

"อสูรเทพบรรพชน?"หญิงสาวคนดังกล่าวเอ่ยออกมาด้วยท่าทางประหลาดใจ.

"อาจารย์,ท่านรู้จักด้วยรึ?"เนียนโหยวโหยวที่เอ่ยออกมาด้วยท่าทางประหลาดใจ.

"หืม?เจ้าเองก็รู้จักอย่างงั้นรึ?"หญิงสาวคนดังกล่าวเอ่ยออกมาอย่างนุ่มนวล.

"อืม,มีคนบอกข้าก่อนหน้านี้."เนียนโหยวโหยวกล่าวออกมาด้วยท่าทางหวั่นๆ.

"อสูรเทพบรรพชน,จงซานเป็นคนมอบให้เจ้าอย่างงั้นรึ?"หญิงสาวคนดังกล่าวเอ่ย.

"ค่ะ!"เนียนโหยวโหยวกล่าวออกมาด้วยเสียงเบาๆ.

"ถึงกับมอบอสูรเทพบรรพชนให้เจ้า,ดูเหมือนว่าระหว่างเจ้ากับเขาคงมีความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งแล้วอย่างงั้นรึ?"หญิงสาวคนดังกล่าวสอบถาม.

"ไม่,เป็นเพียงแค่สหาย!"เนียนโหยวโหยวที่ส่ายหน้าไปมา.

"สหาย? โหยวโหยว,ข้าเห็นเจ้าโตมาตั้งแต่เด็ก,ทำไมข้าจะไม่เข้าใจเจ้า? เจ้าเองก็เป็นเหมือนกับอาจารย์,มีสายตาที่สูงล้ำ,ข้ารู้สิ่งที่เจ้าคิด,นอกจากนี้ข้าไม่จำเป็นต้องสอบถามให้มากความ,จงซานผู้นี้,นับว่าเป็นคนที่ไม่ธรรมดา."หญิงสาวคนดังกล่าวพยักหน้าพูด.

"อาจารย์,ไม่มีอะไรจริงๆ!"ใบหน้าของเนียนโหยวโหยวที่เผยสีหน้าแววตาที่เจ็บปวด.

"ชิ!"หญิงสาวคนดังกล่าวแค่นเสียง.

"อาจารย์!"เสียงเล็กๆที่หวั่นเกรงของเนียนโหยวโหยวกล่าวออกมา.

"โหยวโหยวเจ้าควรจะรู้ว่าเจ้าฝึกวิชาอะไร?"หญิงสาวคนดังกล่าวเอ่ยถาม.

"วิชาลับตัดรักลืมหัวใจ!"เนียนโหยวโหยวที่กัดปากแน่น.

"เจ้ารู้ก็ดีแล้ว,เจ้าต้องลืมความรัก,ไร้ซึ่งหัวใจ,ทุกความรู้สึกจะต้องลืมมันให้หมดจด,เจ้าต้องค้นหาความรู้สึกที่แท้จริง,ตอนนี้ภายในใจของเจ้ามีความรู้สึกมากมาย,หากว่าสามารถลบมันไปได้หมด,พลังฝึกตนของเจ้าจะต้องก้าวไกล,เพียงแค่เจ้าตัดความรักได้,เจ้าก็จะพุ่งทะยานไปด้านหน้าไม่หยุดหย่อน,ตัดความรักของเจ้าไปซะ,ตัดความรู้สึกของเจ้าให้ได้,หกชีพจรของแดนเทพอมตะ,เจ้าผู้สืบทอดสายโลหิตที่ยอดเยี่ยม,ถึงเวลาที่จะเปลี่ยนแปลงตัวเอง,เพื่อประสบความสำเร็จเพื่อรับวาสนาเซียนได้แล้ว."หญิงสาวคนดังกล่าวเอ่ย.

"แต่ว่า,อาจารย์!"เนียนโหยวโหยวที่กล่าวออกมาด้วยท่าทางเจ็บปวด.

"ฆ่า,หาโอกาส,ฆ่าจงซานซะ,แล้วเจ้าก็จะยกระดับวิชาไปได้อีกขั้น."หญิงสาวคนดังกล่าวกล่าวปลอบ.

"ไม่,อาจารย์,ท่านไม่ทำเองล่ะ?"น้ำตาของเนียนโหยวโหยวที่ไหลออกมาด้วยความเจ็บปวด.

อสูรน้อยขนปุยที่อยู่ในอ้อมกอดของนางที่ขยิบตาไปมา,จ้องมองเนียนโหยวโหยวด้วยความสงสัย.

"ข้า?ข้าไม่สามารถสังหารเขาได้,เจ้าแตกต่าง, 100 จงซานก็ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเจ้า,  วิชาลับตัดรักลืมหัวใจ,ในพันล้านคนจะมีสักคนที่สามารถฝึกได้,ไม่ต้องเสียใจด้วยความสามารถของเจ้า,สามารถสังหารจงซานได้,เจ้าจะต้องลืมความรัก,ลืมความรู้สึกให้หมด"หญิงสาวคนดังกล่าวเอ่ยปลอบ.

"แต่ว่า,หัวใจของข้ามันเจ็บปวดเหลือเกิน!"เนียนโหยวโหยวที่กล่าวออกมาด้วยเสียงสะอึกสะอื้น.

อสูรน้อยในอกของนางที่ดวงตากระพริบไปมา,แววตาที่ราวกับว่าแสดงความเจ็บปวดไปด้วย.

"เจ้าต้องสังหารมันให้ได้! ตัดความรู้สึกของเจ้าให้ได้!"หญิงสาวคนดังกล่าวกล่าวปลอบนาง.

"แต่ว่า,อาจารย์.........."เนียนโหยวโหยวที่เอ่อล้นไปด้วยความรู้สึกสะอึกสะอื้นไม่หยุด.

"จงซานเองก็เหมือนๆกันเจ้า,นับเป็นตัวตนในตำนาน,อายุเพียง 114 ปี,แต่กลับสามารถประสบความสำเร็จถึงเพียงนี้,น้อยคนนักในทวีปศักดิ์สิทธิ์จะทำได้,บางทีหากว่าเขาเติบโตยิ่งกว่านี้,จะต้องได้เป็นเซียนคนหนึ่งในอนาคตอย่างแน่นอน,ทว่าก่อนที่เขาจะเป็นเซียน,เจ้าก็จะกลายเป็นเซียนก่อนเขาแล้ว."หญิงสาวคนดังกล่าวเอ่ยออกมาเบาๆ.

"อาจารย์,ท่านรู้ว่าจงซานมีอายุ 114 ปี? คนผู้นี้,ไม่รู้ว่ามีอิทธิพลมากมายขนาดใหนในราชวงศ์สวรรค์ต้าโหลว,"เนียนโหยวโหยวยังคงปาดน้ำตาไปมา.

"ไม่จำเป็นต้องใส่ใจ,ตราบเท่าที่เตรียมการให้ดี,และการช่วยเหลือจากแดนเทพอมตะ,เจ้าเพียงแค่รอ,แล้วลงมือเท่านั้น!"หญิงสาวคนดังกล่าวเอ่ยพลางทอดถอนใจ.

"อาจารย์!"เนียนโหยวโหยวที่น้ำตาอาบแก้ม.

เป็นวิชาที่โหดร้ายยิ่งนัก, วิชาลับตัดรักลืมหัวใจ,สร้างความสัมพันธ์ปลูกรัก,ปลูกความปรารถนา,เมื่อทุกอย่างสุกงอม,ก็สังหารฝ่ายตรงข้าม,เป็นการตัดความรู้สึกจากคู่บำเพ็ญ,เป็นการตัดความรักและความรู้สึกให้ขาด!
..........

ทวีปศักดิ์สิทธิ์,สุ่ยอู๋เหินที่นำกองกำลัง 800,000 นาย,เดินทางอย่างไม่หยุดหย่อน.

"รายงาน!"

ทหารสังเกตการณ์ที่บินตรงมาอย่างรวดเร็ว.

"กล่าว!"สุ่ยอู๋เหินที่จ้องมองไปยังทหารสังเกตการณ์.

"เรียนแม่ทัพ,ที่ด้านหน้านั้นพบกองกำลังอาชาปิศาจทมิฬ,มีอยู่ด้วยกันราวๆ 30,000 คน,ตอนนี้กำลังทำลายเมืองเล็กอยู่,ดูเหมือนว่ากำลังจะสังหารทุกคนไปเกือบหมดแล้ว,ทว่าตอนนี้มีคนกลุ่มหนึ่งที่เข้าไปประจันหน้า.

"หืม"สุ่ยอู๋เหินที่แสดงท่าทางสงสัยเล็กน้อย.

จากนั้น,สุ่ยอู๋เหิน,หลิวอู๋ซ่าง,จื่อเห่าและหลินเซียว,บนออกไปยืนอยู่บนยอดเขาที่ไม่ไกลออกไป.

ที่ไกลออกไปนั้น,มีกองกำลังอาชาปิศาจทมิฬจำนวนสามหมื่น,ซึ่งกำลังเข้าโจมตีเมืองเล็ก,เหล่าโจรร้ายที่ขี่อาชาทมิฬนั้นทรงพลังไม่น้อย,สายตาที่เต็มไปด้วยความดุร้ายเป็นอย่างมาก.

ที่ใจกลางนั้น,มีคนสามสิบคน,แต่ละคนไม่มีความหวาดกลัวเลยแม้แต่น้อย,ยังคงเต็มไปด้วยความกล้าหาญ,ตราบเท่าที่เหล่าโจรร้ายบุกเข้ามา,กระบี่ของพวกเขาก็จะพุ่งเข้าโจมตีในทันที.

กลุ่มคนดังกล่าวนั้นนับว่าทรงพลังไม่น้อย,อย่างน้อยน่าจะอยู่ในระดับหลอมกายธาตุ.

"เหมือนกับก่อนหน้านี้,ไม่ใช่เรื่องพวกเรา,ไม่ต้องเข้าไปยุ่งเกี่ยว,พวกเราไป!"สุ่ยอู๋เหินเพียงแค่มองเท่านั้น,ก่อนที่จะเตรียมตัวจากไป.

"ช้าก่อน!"หลินเซียวที่ขมวดคิ้วไปมาในทันที.

"หืม?"สุ่ยอู๋เหินและหลิวอู๋ซางที่ขมวดคิ้วไปมาด้วยความสงสัย.

หลินเซียวที่หรี่ตาจ้องมอง,บนใจกลางสนามรบนั้น,ในกลุ่มคน 30 คน,มีคนอยู่ราวๆ 20 คนที่ยกกระบี่เข้าโจมตีเหล่ากองกำลังอาชาปิศาจทมิฬ,พวกเขาที่สังหารเหล่าโจรร้ายที่ละคนที่ละคน,ทว่าที่ตรงกลางนั้น,ยังมีอยู่หลายคนที่ยังไม่ขยับ.

กลุ่มคนดังกล่าวที่ถูกกองกำลังปิศาจทมิฬล้อมกรอบนั้น,มีหญิงสาวคนหนึ่งที่หลินเซียวยังคงจับจ้อง.

ไม่ใช่ว่าถูกตาต้องใจหลินเซียวแต่อย่างใด,ทว่าหลินเซียวจดจำหญิงสาวผู้นี้ได้,เป็นคนผู้หนึ่งที่หยิงหลานเคยเอ่ยถึงและบอกเล่าเกี่ยวกับรูปลักษณ์ของนางให้เขาฟัง.

ชุดสีขาว,ผมขาว,กระบี่สี่ขาวบริสุทธิ์! ดูเหมือนกับหญิงสาวที่มีสัมพันธ์กับฝ่าบาท.

สำนักไคหยาง! เป่ยชิงซือ!

หลินเซียวไม่เคยเห็นเป่ยชิงซือ,ทว่ากลับสามารถยืนยันได้ว่าเป็นนาง,รูปร่างหน้าตาเช่นนี้,ภายในทวีปศักดิ์สิทธิ์นั้นมีน้อยมาก,อย่างน้อยก็บอกได้ว่าภายในนครบรรพกาลศักดิ์สิทธิ์นั้นไม่เคยมีหญิงสาวที่มีรูปร่างหน้าตาเช่นนี้แน่นอน.

"มีอะไรรึ?"สุ่ยอู๋เหินกล่าวออกมาด้วยความสงสัย.

"ช่วยชีวิตนาง!"หลิเซียวที่เอยออกมาในทันที.

"ช่วยชีวิตใครกัน?"สุ่ยอู๋เหินที่ขมวดคิ้วไปมาเห็นชัดเจนว่าเขาไม่ต้องการ.

"หญิงสาวผมสีขาวที่อยู่ตรงกลาง,เจ้าไม่รู้จักรึ?"หลินเซียวที่ขมวดคิ้วไปมาสอบถาม.

"ผมสีขาวรึ?"สุ่ยอู๋เหินที่ขมวดคิ้วไปมาเต็มไปด้วยความสงสัย,จากนั้นก็หันหน้าไปจ้องมองอีกครั้ง.

"เป่ยชิงซือรึ?"สุ่ยอู๋เหินที่กล่าวออกมาด้วยท่าทางประหลาดใจ.

สุ่ยอู๋เหินและเป่ยชิงซือ,กล่าวได้ว่าในอดีตนั้นเป็นศิษย์พี่ศิษย์น้องร่วม,หากแต่สิ่งที่สุ่ยอู๋เหินจำได้นั้น,เป่ยชิงซือมีผมสีดำ,เวลานี้นางมีผมสีขาวตั้งแต่เมื่อไหร่กัน?

"ฟู่!"หลินเซียวที่ถอนหาใจเบาๆ,คาดไม่ถึงว่าจะถูกต้องจริงๆ.

"อู๋ซาง,ถ่ายทอดคำสั่ง,เคลื่อนกำลังมายังที่นี่โดยเร็ว!"สุ่ยอู๋เหินกล่าว.

"ครับ!"หลิวอู๋ซ่างที่ตอบรับในทันที.

"เซียนเซิงหลินท่านรู้จักเป่ยด้วยรึ? แล้วท่านรู้จักเป่ยชิงซือได้อย่างไร?"สุ่ยอู๋เหินที่จ้องมองไปยังหลินเซียว.

"จอมพลเคยกล่าวกับข้า!"หลินเซียวเอ่ย.

กองกำลังที่ตั้งทัพอย่างรวดเร็ว,พร้อมกับเข้าไปจำที่.


"มือธนูเตรียมตัว!"สุ่ยอู๋เหินออกคำสั่ง.




ที่มาจากhttps://lnmtl.com/novel/immortality

#นิยาย เรื่องอมตะ #Immortality#นิยายแปลไทย
Author(s)


สนใจสนับสนุนพวกเรา,เข้าร่วมกลุ่ม VIP ====> Click

***เว็ปฟรีอัพ สองวันหนึ่งตอน
***กลุ่มลับ อัพ 2-3 ตอนต่อวัน.

 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น