วันพุธที่ 14 สิงหาคม พ.ศ. 2562

Immortality Chapter 407 Xiao Qing

Immortality Chapter 407 Xiao Qing

นิยาย เรื่อง อมตะ ตอนที่ 407  เสี่ยวชิง.


Chapter 407 Xiao Qing
小青
  เสี่ยวชิง.

เซียนเซิงซือที่ชี้ไปยังอสูรน้อยขนปุย,จ้องมองไปยังเนียนโหยวโหยวพลางกล่าวออกมาด้วยเสียงที่สุขุม,"นี่คือสัตว์อสูรเทพบรรพชน,เจิ้นเหรินเนียนโหยวโหยว,ท่านควรจะหนีไปให้เร็วที่สุดในเวลานี้."

"หนีรึ?"ใบหน้าของเนียนโหยวโหยวที่กล่าวออกมาด้วยท่าทางประหลาดใจ.



อสูรเทพบรรพชนรึ? ถึงแม้ว่าแดนเทพอมตะจะมีตำรามากมาย,แต่ก็ไม่เคยมีการบันทึกอสูรเช่นนี้ไว้เลย,เซียนเซิงซือรู้จักมันได้อย่างไร?

"ใช่แล้ว,หมอกบนทะเลครามเหลียนซวิน,ห้าวันหลังจากนี้,มันจะสลายหายไป."เซียนเซิงซือกล่าว.

"หืม?ทำไมล่ะ?"เนียนโหยวโหยวกล่าว.

"เป็นเพราะว่าอสูรเทพบรรพชนในมือของเจ้าไงล่ะ,เป็นผู้สร้างหมอกเหลียนซวินขึ้นมา,หากไม่มีมัน,มากสุดเพียงแค่ห้าวัน,มันจะสลายหายไป,ในเวลานั้นพวกเขาจะต้องรับรู้ว่าสัตว์อสูรเทพบรรพชนอยู่ในมือท่าน,ในแดนเทพพิสุทธฺนี้,อรหันต์ทั้งสาม,รวมทั้งอรหันต์อนาคตจินฉาน,ก็น่าจะรู้จักอสูรตนนี้."เซียนเซิงซือกล่าวอย่างเคร่งขรึม.

"เจ้ารู้จักมันรึ? แล้วทำไมเจ้าถึงรู้จักมันได้ล่ะ?"เนียนโหยวโหยวกล่าวสอบถาม.

"ขออภัย,เรื่องนี้เกี่ยวกับความลับส่วนตัวของข้า,ตราบเท่าที่ท่านจำไว้ว่า,หากจินฉานรู้เรื่องอสูรตัวนี้,แน่นอนว่าเขาจะทุ่มสุดตัวไม่ว่าจะต้องเสียอะไรไป,เพื่อให้ได้มันกลับมาแน่."เซียนเซิงซือกล่าวอย่างเคร่งขรึม.

"อสูรเทพบรรพชนอย่างงั้นรึ? ใช่จริงๆรึ?"จงซานสอบถาม.

"ใช่,นี่คืออสูรเทพบรรพชนที่ยังอยู่ในภาวะเด็ก,คาดไม่ถึงเลยว่าภายในโลกใบนี้จะมีอสูรเทพบรรพชนอย่างคาดไม่ถึง.หากว่าไม่เพราะว่าข้านั้นพลังฝึกตนขาดหาย,แน่นอนแม้แต่ข้ายังต้องการชิงตัวมันมา,เก็บรักษาเอาไว้ให้ดี,ในอนาคตนั้น,แน่นอนว่ามันจะกลายเป็นตัวตนที่น่าเกรงขามเป็นอย่างมาก."เซียนเซิงซือที่กล่าวพลางถอนหายใจ.

"นี่ยังเป็นอสูรเด็กอย่างงั้นรึ?"เนียนโหยวโหยวจ้องมองไปยังเซียนเซิงซือ,ราวกับว่ากำลังได้ยินคำพูดล้อเล่นของเขา,จะให้นางเชื่อเรื่องราวทั้งหมดอย่างงั้นรึ?

"นี่เจ้าเป็นเทพบรรพชนเหรอ!"เนียนโหยวโหยวที่ใช้มือลูบขนปุยของมันไปมา.

อสูรน้อยขนปุยที่หดร่างขยับตัวไปมา.

"อี้ อี้ อี้ อี้"

มันร้องออกมาเบาๆ.

"จงซาน,ผู้ใต้บังคับบัญชาของเจ้าพูดจริงรึ?"เนียนโหยวโหยวที่จ้องมองจงซาน,แววตานั้นไม่อยากยอมรับ.

เทพบรรพชน? อสูรน้อยนี้คือเทพบรรพชนอย่างงั้นรึ?

จงซานจ้องมองไปยังอสูรน้อยขนปุย,ก่อนที่จะมองไปยังเนียนโหยวโหยวแล้วกล่าวว่า,"ข้าเชื่อเซียนเซิงซือ,เจ้าได้สิ่งที่ต้องการแล้ว,ตอนนี้รีบจากไปแดนเทพพิสุทธิ์เถอะ,ไว้พวกเราค่อยพบกันใหม่."

"พบกันใหม่อย่างงั้นรึ?"เนียนโหยวโหยวหันควับจ้องมองไปยังจงซานทันที.

แววตาความรู้สึกสั่นไหวไปมา,ราวกับว่ามันเต็มไปด้วยความเจ็บปวด.

"ไม่,พวกเราจะได้พบกันอีกรึ?ไม่ใช่ว่าเจ้าต้องการหนีข้าหรอกนะ."เนียนโหยวโหยวกล่าวออกมาในทันที.

"มีอะไรอย่างงั้นรึ?"จงซานกล่าวออกมาด้วยท่าทางสงสัย.

"ขอเพียงเจ้าไม่ได้ตั้งใจหนีข้าไป,จำไว้แค่นี้ก็พอแล้ว."เนียนโหยวโหยวที่กล่าวออกมาด้วยท่าทางเจ็บปวด.

"มีปัญหาอะไรอย่างงั้นรึ?"จงซานที่ขมวดคิ้วไปมา.

"ไม่ต้องพูดแล้ว,ข้าไปก็ได้!"เนียนโหยวโหยวหันหลังกลับเปิดค่ายกล,เห็นได้ชัดว่านางกำลังจะออกไป.

เห็นใบหน้าท่าทางของเนียนโหยวโหยวที่เปลี่ยนไป,จงซานที่รู้สึกแปลกๆ,สังหรใจไม่ดีนัก.

เนียนโหยวโหยวที่เปิดค่ายกล,เตรียมที่จะบินจากไป,ทว่าดวงตาของนางที่เปียกชื้น,รู้สึกเจ็บปวดในใจเป็นอย่างมาก.

"ช้าก่อน!"จงซานที่เอ่ยออกมาทันที.

"ต้องการอะไร?"เนียนโหยวโหยวหยุดแต่ไม่หันหลังกลับไปมองจงซาน.

จงซานที่เดินออกมาที่ลานด้านนอกยืนอยู่ข้างๆเนียนโหยวโหยว,ก่อนที่จะสะบัดมือออกไป,สายฟ้าสามสายที่ฟาดลงไปยังพื้นที่ของลานที่พัก.

"เปรี้ยง!!"

ทันใดนั้นจากพื้นที่ลานที่พักสายแห่ง,ที่มีค่ายกลปกป้องอยู่,ทันใดนั้นก็เปิดออกมา.

ทุกคนที่จ้องมองไปยังจงซาน,จงซานต้องการทำสิ่งใดกัน.

พริบตาเดียวไม่นานหลังจากนั้น,คนสามคนก็ปรากฏขึ้น,เป็นคนที่ช่วยปกป้องเนียนโหยวโหยวกับปู่ซาเพียวเซี่ยงนั่นเอง.

"เจ้าหนู,เจ้าต้องการทำอะไร?"ชายในชุดสีดำแค่นเสียงเย็นชาออกมา.

"อาวุโสทั้งสาม,ด้วยเหตุการณ์ก่อนหน้านี้,คงหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่ต้องรบกวนอาวุโสทั้งสามอีกครั้ง."จงซานกล่าวออกมาในทันที.

"ชิ!"อาวุโสทั้งสามแค่นเสียง,พวกเขาที่ใส่ใจกับเนียนโหยวโหยวเท่านั้น,ทว่า,จงซานนั้น,ทำไมพวกเขาต้องสนใจด้วย?

"อาวุโสทุกท่าน,เนียนโหยวโหยวนั้นเป็นสหายของข้า,ก่อนหน้านี้ได้ล่วงเกินปู่ซาเพียวเซียง,ข้าเป็นกังวลความปลอดภัยของนาง,ดังนั้น........."จงซานที่กล่าวออกมาทว่ายังไม่จบด้วยซ้ำถูกขัดซะก่อน.

"มีข้าอยู่,ใครมันกล้ากัน?"ชายในชุดสีขาวแค่นเสียงเย็นชา.

"ข้ารู้ว่าอาวุโสทั้งสามนั้นน่าเกรงขามมาก,ทว่ามันก็ยากที่จะหลบคมหอกคมดาบในที่แจ้งได้,ในเมื่อพวกเขาอยู่ในที่มืด,ดังนั้นข้าจึงได้ชักจูงให้นางเดินทางกลับไปยังแดนเทพอมตะในทันที,เช่นนั้นข้าจึงต้องการใคร่ขอร้องพวกท่านทั้งสามคุ้มกันนางกลับไป."จงซานกล่าว.

"หืม?"ชายในชุดคลุมดำที่ขมวดคิ้วไปมา.

คนทั้งสามไม่สามารถทนได้,จะให้พวกเขาทั้งสามที่มีระดับราชันย์แท้,เป็นคนคุ้มกันอย่างงั้นรึ?

"ข้ารู้ว่าอาวุโสทั้งสามเองก็มาเข้าร่วมชุมนุมนิพพานมรรค,ส่วนเนียนโหยวโหยวนางต้องกลับก่อน,ดังนั้นหากว่ามีใครสักคนคุ้มกันนางกลับไป,อาจจะไม่สามารถเข้าร่วมงานชุมนุมนี้ได้แน่."จงซานกล่าว.

คนทั้งสามจ้องมองไปยังจงซานด้วยท่าทางไม่พอใจ.

"ทำไมเจ้าไม่คุ้มกันนางกับไปล่ะ?"ชายในชุดคลุมดำกล่าว.

"ข้าจำเป็นต้องเข้าร่วมงานชุมนุมนิพพานมรรค!"จงซานกล่าว.

อาวุโสทั้งสาม.".........."

"เนียนโหยวโหยวนั้นต้องการกลับไปหาอาจารย์ของนาง,อาวุโสทั้งสามเองก็เป็นสหายเก่าอาจารย์ของนาง,ข้าไม่ได้คาดหวังว่าพวกท่านทั้งสามจะไปด้วยกัน,เพียงแค่คนใดคนหนึ่งก็พอแล้ว,ที่จะไปส่งนางกลับไปอยู่ข้างกายอาจารย์ของนางเป็นการส่วนตัว,ข้ามั่นใจว่าอาจารย์ของนางจะต้องซาบซึ้งอย่างแน่นอน,ดังนั้นอาจจะมีใครสักคนที่ต้องเสียสละในการชุมนุมนิพพานในครั้งนี้,ดังนั้นเพื่อไม่ให้พวกท่านต้องลำบากใจ,ขอให้อาวุโสทั้งสามตัดสินใจเถอะว่าจะให้ใครไปส่งนาง."จงซานกล่าวออกมาในทันที.

"เจ้ากำลังจะกลับไปหาอาจารย์ของเจ้าอย่างงั้นรึ?"ชายในชุดคลุมสีดำเอ่ยสอบถามในทันที.

เนียนโหยวโหยวจ้องมองจงซานด้วยความลึกลับซับซ้อน,จากนั้นก็พยักหน้า.

"ข้าไปเอง,นังชีเฒ่านั้นอิจฉาริษยาเป็นอย่างมาก,ข้าผู้อาวุโสสุด,จะเป็นผู้ปกป้องนางเป็นการส่วนตัวเอง,ชุมนุมนิพพานนั้นพันปีหลังจากนี้ข้าค่อยเข้าร่วมก็ไม่มีปัญหา."ชายในชุดสีขาวที่เอ่ยออกมาทันที.

"ไม่ๆ,ข้าไปเอง!"ชายในชุดคลุมดำที่เอ่ยแย้งออกมาเช่นกัน.

"เนียนโหยวโหยว,ไปกันเถอะ,ข้าไม่ได้เห็นอาจารย์ของเจ้านานแล้ว."ชายในชุดสีขาวคนสุดท้ายเอ่ยออกมาอย่างไม่สนใจใคร.

อาวุโสทั้งสาม,เปลี่ยนเป็นกระตือรือร้นขึ้นมาในทันที.

แม้ว่าจงซานจะคำนวณไว้แล้ว,หากแต่เห็นผู้ฝึกตนราชันย์แท้,ผู้ยืนอยู่ระดับต้นๆของทวีปศักดิ์สิทธิ์,คาดไม่ถึงเลยว่าจะเปลี่ยนไปรวดเร็วถึงเพียงนี้,ภายใจคาดเดาเกี่ยวกับอาจารย์ของเนียนโหยวโหยวได้,สตรีผู้นี้,คงจะงดงามน่าหลงไหลมากนัก,จนทำให้สุดยอดผู้ฝึกตนถึงกับหน้ามืดตามัว,ต้องการไปพบหน้านาง.

"ขอบคุณ!"เนียนโหยวโหยวพยักหน้า,จากนั้นก็จ้องมองไปยังจงซานด้วยสายตาที่ซับซ้อน,ดวงตาที่เปี่ยมไปด้วยความรู้สึกมากมาย,รวมทั้งความเจ็บปวดด้วย.

เนียนโหยวโหยวที่จากไป,โดยมีผู้ฝึกตนระดับราชันย์แท้คุ้มกัน,ไม่มีใครเข้ามาขัดขวาง,นางที่จากแดนเทพพิสุทธิ์ไปอย่างรวดเร็ว.

"เนียนโหยวโหยว,อาจารย์ของเจ้าอยู่ที่ใหน?"ชายชุดคลุมสีดำจ้องมองไปยังเนียนโหยวโหยว.

"อยู่ภายในแดนเทพอมตะ,อาวุโสทั้งสาม,อยู่ในทิศทางนี้."เนียนโหยวโหยวที่ชี้ไปยังทิศทางหนึ่ง.

"พวกเรารู้แล้ว,ไปกันเถอะ!"ชายในชุดคลุมสีขาวที่เอ่ยออกมาด้วยความตื่นเต้นเล็กน้อย.

"เอ๊ะ? อสูรในมือของเจ้านี่คืออะไร? ไม่เคยเห็นมาก่อนเลย?"ชายในชุดคลุมสีดำที่เอ่ยถามออกมาทันที.

"ไม่เคยเห็นอย่างงั้นรึ?"เนียนโหยวโหยวจ้องมองไปยังคนทั้งสาม.

"ไม่,รูปร่างเช่นนี้,ดูแปลกประหลาดนัก."ชายในชุดสีขาวคนหนึ่งที่ส่ายหน้าไปมา.

"มันมีชื่อว่าเสี่ยวชิง!"เนียนโหยวโหยวที่คิดครู่หนึ่งก่อนที่จะเผยยิ้มออกมาอย่างมีความสุข.

"เสี่ยวชิงรึ?"คนทั้งสามที่แสดงท่าทางแปลกประหลาด,เจ้าอสูรน้อยทรงกลมขนปุย,สีครามเข้มนี้,เรียกว่าเสี่ยวชิงรึ?

เนียนโหยวโหยวที่กอดเสี่ยวชิงพยักหน้า,ดูเหมือนว่านางจะดื่มด่ำตราตรึงกับความฝันก่อนหน้านี้มาก,ต้องไม่ลืมว่าความทรงจำทั้งหมดในฝันมันได้ฝังลงไปในกระดูก,สลักลงหัวใจ,บางทีมันอาจจะผ่านไปแค่วันเดียว,ทว่าในฝันนั้นกลับผ่านไปถึงสี่ปี,กับความฝันนั้น,เนียนโหยวโหยวพบแล้วว่านางไม่สามารถลบจงซานออกไปจากใจได้เลย,เขาได้กลายเป็นหนึ่งเดียวในใจนาง,ความรักนั่นมันได้สลักฝังแน่นเอาไว้ในใจจนยากที่จะลบไปได้, ตอนนี้มันได้ตกผลึกกลายเป็นคำว่ารักที่แน่นหนา,การได้ร่วมเรียงเคียงหมอนจนมีบุตรด้วยกัน,จะให้ลืมไปได้อย่างงั้นรึ?

เนียนโหยวโหยวไปแล้ว,จงซานและจงเทียน,และเซียนเซิงซือกลับมายังที่พักของตัวเอง,พวกเขาไม่ออกไปใหนอีก,รอคอยอย่างใจเย็นให้งานชุมนุมนิพพานมรรคมาถึง.

งานชุมนุมนิพพานมรรค,มันคืองานชุมนุมอะไรกัน?
 ..............
"จอมพลจง!"ที่ด้านนอกลานที่พัก,ทันใดนั้นก็ได้ยินเสียงเรียกและเคาะประตูดังขึ้น.

จงซาน,จงเทียนและเซียนเซิงซือที่บำเพ็ญเพียรหลับตาแน่น,ได้ยินเสียงดังกล่าว,ก็ขมวดคิ้วไปมา,เป็นเสียงของใครกันที่สามารถทะลวงผ่านค่ายกลนี้ได้?

จงซานที่ก้าวออกไปทันที,เดินออกไปจากลานที่พัก,เปิดประตูด้านหน้าออก.

ทันทีที่เปิดประตูออกมา,จงซานที่ตื่นตกใจเล็กน้อย,ภายในใจที่หดเกร็ง.

เพราะว่าด้านนอกลานนั้น,ในเวลานี้,มีกองกำลังนักบวชจำนวนมากยืนอยู่,แต่ละคนใบหน้าบึ้งตึงเคร่งขรึม,ไม่สามารถบอกระดับพลังฝึกตนได้,นี่คือกองกำลังสายบำเพ็ญกรรมที่แข็งแกร่งมาก.

ปู่ซา? ไม่,ที่ด้านหน้าไม่ใช่ปู่ซา,ทว่าเป็นอรหันต์.

จินฉาน,จินฉานเป็นคนนำกองกำลังเหล่านี้มาเคาะประตูอย่างงั้นรึ?

"อรหันต์จินฉาน,เป็นท่านเองรึ?"จงซานที่กล่าวออกไปทำให้เหล่าปู่ซาและพุทธะรู้สึกประหลาดใจออกมาในทันที.

"ผ่านมานานแล้ว,คาดไม่ถึงเลยว่าจอมพลจงจะรักษาสัญญามาร่วมชุมนุมจริงๆ,ฉินฉานรู้สึกขอบคุณนัก."จินฉานกล่าวออกมาด้วยรอยยิ้ม.

"อรหันต์จินฉานอย่าได้เกรงใจ,อรหันต์เป็นที่เคารพอย่างสูง,จงซานจะกล้าไม่มาได้อย่างไร,"จงซานที่กล่าวอย่างนอบน้อม,ภายในใจที่ครุ่นคิดไปมา,ทำไมจินฉานถึงได้เดินทางมาที่นี่กัน.

"ไม่คิดจะเชิญข้าเข้าไปด้านในอย่างงั้นรึ?"อรหันต์จินฉานกล่าวออกมาด้วยรอยยิ้ม.

"แน่นอน,ทว่าที่พักนั้นเล็กมาก,เกรงว่า........"จงซานที่กล่าวพลางมองไปยังกลุ่มพุทธะที่อยู่ด้านหลัง.

"พวกเจ้ารออยู่ด้านนอก!"อรหันต์จินฉานที่กล่าวออกมาทันที.

"ครับ!"เหล่าปู่ซาและพุทธะที่ตอบรับในทันที.

"เชิญ!"จงซานที่กล่าวเชิญอรหันต์จินฉานเข้ามาด้านใน.

เซียนเซิงซือและจงเทียนที่รออยู่ด้านในแล้ว.

หลังจากที่เข้ามาในห้อง,จินฉานจ้องมองคนทั้งสอง,"คนทั้งสองคือ?"

"แม่ทัพกองกำลังจง,เซียนเซิงซือ,ส่วนอีกคนคือบุตรชายของข้า."จงซานกล่าวแน่นำ.

"แม่ทัพ? กองกำลังจงช่างโดดเด่นนัก!"จินฉานที่ขมวดคิ้วไปมาเล็กน้อยจ้องมองไปยังเซียนเซิงซือ.

เซียนเซิงซือที่ไม่ได้กล่าวสิ่งใดออกมา.

"นี่คือพุทธะจงเทียนของวิหารต้าหมิงอย่างงั้นรึ?"จินฉานเผยยิ้มให้กับจงเทียน.

"บรรพชนเมิ้งจื่อทรงเมตา,ได้แบ่งผลพุทธะให้กับข้า."จงเทียนที่ขมวดคิ้วพลางกล่าวตอบ.

"วิหารต้าหมิงนั้น,มีประวัติศาสตร์ยาวนานและลึกล้ำ,แม้ว่าจะไม่มีอรหันต์,ทว่าพวกเขาก็มีกรรมวาสนาปู่ซา,สามารถประทานผลมรรคาให้กับ 20 พุทธะ,ไม่คิดเลยว่าเจ้าอายุยังน้อย,กลับได้ผลพุทธะด้วย,นับเป็นวาสนาที่ยอดเยี่ยม,"จินฉานจ้องมองไปยังจงเทียนพลางเผยยิ้มออกมาอย่างนุ่มนวล.

"ไม่รู้ว่าอรหันต์จินฉาน,เดินทางมามีจุดประสงค์ใดรึ?"จงซานจ้องมองพลางขมวดคิ้วไปมาสอบถาม.


จินฉานจ้องมองไปยังจงซาน,พลางกลับกล่าวว่า,"พุทธะจื้อกวงของแดนเทพพิสุทธิ์,หลายวันก่อนนั้น,ได้ตายไปอย่างอนาถ!"




ที่มาจากhttps://lnmtl.com/novel/immortality

#นิยาย เรื่องอมตะ #Immortality#นิยายแปลไทย
Author(s)


สนใจสนับสนุนพวกเรา,เข้าร่วมกลุ่ม VIP ====> Click

***เว็ปฟรีอัพ สองวันหนึ่งตอน
***กลุ่มลับ อัพ 2-3 ตอนต่อวัน.

 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น