Immortality Chapter 406 Ancestor god
นิยาย เรื่อง อมตะ ตอนที่ 406 เทพบรรพชน.
Chapter 406 Ancestor god
祖神
เทพบรรพชน.
"เจ้าหนูน้อยนี้เจ้าต้องการ!"จงซานที่ยื่นอสูรน้อยขนปุยให้กับเนียนโหยวโหยว.
"เสียวชิงเป็นอนุของเจ้า"คำๆนี้ยังคงก้องในหู,กับเหตุการณ์ในโลกแห่งฝัน,นางที่ยังจ้องมองไปยังจงซานที่ยื่นอสูรน้อยให้กับนาง.
"อี้ อี้ อี้..........."อสูรน้อยขนปุยที่จ้องมองไปยังเนียนโหยวโหยวด้วยสายตาน่าสงสาร.
ทว่าเนียนโหยวโหยวที่ขมวดคิ้วไปมาจ้องมองไปยังจงซาน,ใบหน้าที่เต็มไปด้วยความซับซ้อน,ต้องไม่ลืมว่าตลอดสี่ปีที่ผ่านมา,ภายในโลกฝันนางยังจำได้อย่างชัดแจ้ง,นางเป็นภรรยาของจงซาน,ไม่เพียงแค่นั้น,ยังผ่านประสบการณ์มากมายหลากหลาย,ร่วมเรียงเคียงหมอนกันทุกคืน,จวบจนให้กำเนิดทารก,ทุกอย่างเหล่านี้มันราวกับว่าตราตรึงฝังเอาไว้ภายในใจของเนียนโหยวโหยว,จนยากที่จะลบออกไปได้.
สามี? เพียงแค่คิด ใบหน้าของนางก็เปลี่ยนเป็นสีแดง,ท่าทางที่รู้สึกอักอ่วน,ทว่าก็ต้องเก็บความรู้สึกเหล่านั้นเอาไว้,พยายามที่จะต่อต้าน,แม้ว่าจะไม่สามารถทำได้ทั้งหมดก็ตาม,แต่เพราะเรื่องทุกอย่างมันไม่ใช่ความจริง,มันเป็นได้เพียงแค่ฝัน.
"มีอะไรอย่างงั้นรึ?"จงซานที่เอ่ยออกมาในทันที.
สีปีที่เป็นสามีภรรยารึ? จงซานเองย่อมจดจำได้อย่างชัดเจนเช่นกัน,ทว่าเรื่องทุกอย่างมันเป็นความฝัน,เขาไม่ควรที่จะทำให้มันยุ่งวุ่นวาย,นอกจากนี้เขายังเป็นหนี้คนอีกมากมาย,กับท่าทางอักอ่วนของนางนั้น,จงซานจำเป็นต้องตัดใจให้ขาด.
อสูรน้อยขนปุยที่ถูกจงซานจับมาครึ่งวันแล้ว,แน่นอนว่ามันย่อมรู้สึกเจ็บปวด,ดวงตาของมันเวลานี้,จ้องมองออกไปด้วยสีหน้าแววตาที่น่าสงสาร.
เนียนโหยวโหยวที่รับมันมา,หลังจากที่ได้อสูรน้อยขนปุยแล้ว,ไม่คิดเลยว่านางจะไม่ได้ดีใจเหมือนดังที่นางคิด,จิตใจของนางยังคงวนเวียนคิดไปมาเกี่ยวกับโลกแห่งความฝัน,ใบหน้าที่ดูผิดปรกติ.
"เจ้าอยู่ที่นี่เอง!"
จงซานและเนียนโหยวโหยว,ทันใดนั้นก็ได้ยินเสียงที่ดังขึ้นที่ด้านบนศีรษะในทันที!
"คลืนๆๆๆๆ"
กระแสอากาศที่หมุนวน,เมฆครึ้มที่แยกตัวออก,เกิดเสียงดังสนั่น,สายลมที่ซัดสาดเป่ามายังตำแหน่งของจงซานและเนียนโหยวโหยว,เมฆสีน้ำเงินที่สลายหายไปในทันที.
จงซานที่สัมผัสได้ถึงแรงกดดันที่รุนแรงหนักหน่วงโถมลงมาจนทำให้เขาไม่สามารถขยับได้,ใบหน้าของเนียนโหยวโหยวที่ตื่นตระหนกจ้องมองไปยังด้านบนในทันที.
นางชีชราผู้หนึ่งที่ลอยอยู่บนอากาศ,รูปร่างหน้าตาคล้ายปุถุชนอายุ
60 ปี,ที่หน้าผากของนางนั้นเป็นรูปเมล็ดขาวสีแดงชาดส่องงสว่าง,ลุกวาว,สวมชุดคลุมสีเหลือง,ดูสะอาดประณีตไร้ราคี,บนศีรษะของนางมีกลิ่นอายทรงกลมเป็นแสงของญาณบารมี,ส่องสว่างดูแสบตาไม่น้อย,เต็มไปด้วยพลังที่แข็งแกร่งน่าเกรงขาม.
สายตาที่ดุร้ายเย็นชาจดจ้องมองมายังจงซานและเนียนโหยวโหยว,เนียนโหยวโหยวที่ซึ่งอสูรน้อยเอาไว้ในอกไม่ให้มันหวาดกลัวและไม่ให้มันร้องออกมา.
นางชีชราที่มาพร้อมกับกลุ่มนักบวชกลุ่มหนึ่ง
"ปู่ซาเพียวเซียง,ท่านต้องการอะไร?"เนียนโหยวโหยวที่ตะโกนออกไปด้วยความโกรธ.
ปู่ซ่าเพียวเซียง? นางคือปู่ซ่าผู้ดูแลสุสานอรหันอย่างงั้นรึ?
จงซานจ้องมองด้วยท่าทางแปลกประหลาดไปยังชีชรา,กลิ่นธูปอย่างงั้นรึ? มีสายลมที่พัดพากลิ่นธูปผ่านเข้ามาจางๆ.
"ปู่ซา,เป็นเขา,ในวันนั้นชายคนนั้นและพุทธะจื้อกวงมีข้อโต้แย้งกัน,หลังจากนั้นหลายวันข้าเห็นเนียนโหยวโหยวและพุทธะจื้อกวงเดินทางไปยังพื้นที่เดียวกัน,จะต้องเป็นพวกเขาสังหารพุทธะจื้อกวงอย่างแน่นอน."นักบวชที่อยู่ข้างๆได้กล่าวรายงานต่อปู่ซาเพียวเซียง.
"เจ้าสังหารศิษย์ของข้าอย่างงั้นรึ?"ปู่ซาเพียวเซียงที่แค่นเสียงเย็นชา.
"พวกเจ้ากล่าวหาข้าอย่างงั้นรึ?
เห็นรึอย่างไรว่าข้าสังหารจื้อกวง?"เนียนโหยวโหยวเอ่ยออกมาเสียงดัง.
"นางคือเจิ้นเหรินเนียนโหยวโหยวของแดนเทพอมตะ."นักบวชอีกคนที่กล่าวอธิบายต่อเพียวเซี่ยงในทันที.
"เจ้าเป็นศิษย์ของนังแม่มดอย่างงั้นรึ?"แววตาของปู่ซาเพียวเซียงที่เปลี่ยนเป็นเย็นชาขึ้นมาในทันที,ก่อนหน้านี้นางรับรู้ว่าศิษย์ของนางตายไปทำให้รู้สึกโกรธเกรี้ยว,ทว่าในเวลานี้มันได้เปลี่ยนเป็นความเกลียดชังที่ฝังลงไปในกระดูก,สลักเอาไว้ในใจและมันได้ปะทุขึ้นมาทันที.
เป็นพลังกดดันวิญญาณที่น่าเกรงขามนัก,จงซานไม่สามารถขยับได้เลย,แม้แต่อ้าปากพูดยังทำไม่ได้ด้วยซ้ำ.
ปู่ซา? นี่คือความแข็งแกร่งของปู่ซาอย่างงั้นึ?
"กริ๊งๆๆ"
ที่ด้านหน้าของเนียนโหยวโหยวนั้นก็ปรากฏเป็นกระดิ่งขนาดเล็กปรากฏขึ้นมา,นางที่สั่นกระดิ่งใบเล็ก,เสียงที่ดังสะท้านก้องกังวาน,ทำให้ทุกคนมึนงง,สั่นไหวไปถึงดวงวิญญาณ,ราวกับว่าล่วงหล่นลงหลุมที่ลึกไร้ก้นบึ้ง.
กระดิ่งนี้?อาจารย์ของเนียนโหยวโหยวเคยใช้ในสนามรบ,เสียงกระดิ่ง,ที่ทำให้กองทัพหลายล้านคนหยุดนิ่งสูญเสียจิตใจไปชั่วขณะ.
ทุกคนที่กำลังยืนนิ่งงันไม่ขยับ,มีเพียงแค่สองคนเท่านั้นคือเนียนโหยวโหยว,ผู้ใช้กระดิ่ง,ส่วนอีกคนฝ่ายตรงข้ามเป็นปู่ซาเพียวเซี่ยง,เพราะว่าพลังของเนียนโหยวโหยวไม่พอนั่นเอง,จึงไม่สามารถที่จะทำให้ปู่ซ่าเพียวเซียงตกอยู่ในภวังค์ได้.
"สาวเลวกากีเหมือนกับอาจารย์ของเจ้าไม่มีผิด!"ปู่ซาเพียวเซียงที่กล่าวออกมาด้วยความโกรธ.
贱人( jiàn rén ). หญิงสารเลว, หญิงกากี.
"ข้าไม่ได้สังหารศิษย์ของเจ้า,นังชีเน่า,เจ้าต้องการทำอะไร?"เนียนโหยวโหยวที่ตะโกนออกไปเสียงดัง.
"ชิ."
ปู่ซาเพียวเซี่ยงที่แค่นเสียงเย็นชา,พร้อมกับรวบรวมพลังทำลายมหาศาลขึ้น,ทว่าที่ไกลออกไปนั้นหมอกสีน้ำเงินได้ถูกพัดเป่ามาแต่ไกล,สั่นไหวไปมา.
"ฮึ!"
"ชิ!"
"ถุยย!"
ที่ด้านหน้าของจงซานและเนียนโหยวโหยว,ปรากฏเป็นชายสามคน,สองคนสวมชุดสีขาว,อีกคนสวมชุดสีดำ,คนทั้งสามที่จ้องมองไปยังปู๋ซาเพียวเซียง,เข้ามาปกป้องเนียนโหยวโหยวเอาไว้.
ทั้งสามต่างก็เป็นยอดยุทธ์,ไม่ได้ด้อยกว่าปู่ซาเพียวเซี่ยงเป็นแน่,ด้วยพลังกดดันวิญญาณที่แผ่ออกมานั้นไม่ได้ด้อยไปกว่าปู่ซาเพียวเซียงเลย,ทำให้จงซานและเนียนโหยวโหยวขยับได้แล้ว.
"นังชีเพียวเซียง,เจ้าต้องการทำอะไร?"ชายในชุดคลุมดำกล่าวออกมาด้วยท่าทางจริงจัง.
"นี่คือการต้อนรับของแดนเทพพิสุทธิ์อย่างงั้นรึ?"ชายในชุดคลุมสีขาวแค่นเสียงเย็นชา.
"อาวุโสทั้งสาม,นังชีเฒ่ากำลังจะสังหารข้า."เนียนโหยวโหยวที่เอ่ยออกมาทันที.
"กระดิ่งแห่งความเงียบงัน,เจ้ามีกระดิ่งแห่งความเงียบได้อย่างไร?"ชายในชุดคุลมสีดำกล่าวสอบถามออกมา.
"นี่เป็นกระดิ่งแห่งความเงียบงันของสำนักข้า,อาจารย์ได้มอบให้ข้า,นางที่มอบตราแปดสิบเอ็ดมา,เข้าเดินทางมาเหมือนกับพวกท่าน,และอาจารย์ยังได้มอบกระดิ่งแห่งความเงียบงันมาด้วย,อาจารย์ของข้านั้นเกรงว่าจะมีคนมารังแกข้า,จึงได้บอกว่าให้ใช้กระดิ่งนี้ปกป้อง,หากโชคดีจะมีสหายของท่านออกมาช่วยข้าด้วย,ข้าตัดสินใจเช่นนี้นับว่าโชคดีจริงๆ,"เนียนโหยวโหยวที่กล่าวออกมาด้วยท่าทางทุกข์ทน.
"เจ้าเป็นศิษย์ของนางอย่างงั้นรึ?
โปรดวางใจ,จะไม่มีใครแตะต้องเจ้าได้แม้แต่ปลายเส้นผม."ชายในชุดคลุมสีดำเอ่ยออกมาในทันที.
"ดี,ในเมื่ออาจารย์ของเจ้ามอบกระดิ่งนี้ให้กับเจ้าถือ,นั่นก็หมายความว่าเชื่อใจว่าพวกเราเป็นสหายที่ดี,ไม่มีใครทำอะไรเจ้าได้แน่."ชายในชุดคลุมสีขาวกล่าวออกมา.
จากนั้น,ชายในชุดคลุมดำและชุดคลุมขาว,พวกเขาที่จ้องมองด้วยกันและกัน,แววตาที่ดูเหมือนว่าจะไม่ค่อยพอใจกันนัก,เป็นปฏิปักษ์ต่อกัน,ราวกับว่าต่างคนเป็นคู่แข่งความรักที่เต็มไปด้วยความหึงหวงเป็นอย่างมาก,ทว่ากับร่วมมือกันประจันหน้ากับปู่ซ่าเพียวเซี่ยงได้อย่างกลมกลืน.
"ฮ่าฮ่าฮ่า,พวกเจ้ารึ? สหายที่ดีของนาง?
คิดว่าตัวเองเป็นสหายของนาง,เอาอะไรไปคิดว่านางเคยมีสหายรักด้วยอย่างงั้นรึ? คิดเหรอว่านังแม่มดนั่นจะชายตามองพวกเจ้า."ปู่ซาเพียวเซี่ยงที่รู้สึกหวาดหวั่นขึ้นมาเหมือนกัน.
"อาวุโสทั้งสาม,อาจารย์ของข้านั้นเอ่ยถึงพวกท่านอยู่บ่อยๆ,ท่านอาจารย์ยังเคยชมพวกท่านด้วยว่ามีพลังที่ต่อต้านสวรรค์,ท่องเทียวไปทั่วทวีปศักดิ์สิทธิ์,มีประสบการมากมายนับไม่ถ้วน,มิตรภาพที่เคยมีอาจารย์ไม่มีวันลืม,นังชีเฒ่านั้นต้องการจะดูแคลนมิตรภาพของพวกท่านกับท่านอาจารย์."เนียนโหยวโหยวที่กล่าวออกมาในทันที.
"นังแม่มดน้อย,เจ้ามันก็กากีเหมือนอาจารย์เจ้านั่นล่ะ?
จื่อกวงถูกเจ้าสังหารแน่นอน."ปู่ซาเพียวเซี่ยงที่เต็มไปด้วยความโกรธเกรี้ยว.
"นังชีเพียวเซี่ยง,เจ้าเองก็เป็นคนของแดนเทพพิสุทธิ์?
อรหันกุยหยวนได้เชิญพวกเรามา,เจ้ากับกล้าใส่ร้ายคนของพวกเรา,ใส่ร้ายพวกเรา?โดยที่ไม่มีหลักฐาน,แม้แต่ลูกศิษย์ของสหายเก่าเจ้ายังไม่เว้นอย่างงั้นรึ?
ชิ!"ชายในชุดสีดำที่เอ่ยออกมาด้วยความโกรธ.
"พวกเจ้ามันตาบอดลุ่มหลงในตัวนาง,ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า,นังแม่มด!!! นังดอกทอง!!!!"ปู่ซาเพียวเซียงที่จ้องมองไปยังคนทั้งสามด้วยความโกรธเกรี้ยวหัวเสียเป็นอย่างมาก.
"ชิ!
ใบหน้าท่าทางของเจ้าตอนนี้สิที่ดูเหมือนแม่มด?
อีกสิบชาติ,เจ้ายังด้อยกว่านาง,ยังไม่ไปอีก,อย่าได้ตำหนิหากว่าข้าไม่สุภาพ."ชายในชุดสีขาวที่แค่นเสียงเย็นชา.
ชายในชุดสีขาวที่เอ่ยออกมาเต็มไปด้วยความอหังการและบ้าคลั่งเป็นอย่างมาก,พลังที่มากมายของคนทั้งสามทำให้อากาศรอบๆถึงกับบิดเบี้ยวทีเดียว,ยิ่งพวกเขาร่วมมือกันแล้วยิ่งทรงพลังเป็นอย่างมาก,เพียงแค่พลังกดดันวิญญาณก็สามารถกดข่มปู่ซาเพียวเซี่ยงได้แล้ว.
"ฮ่าอ่าฮ่า,พวกเจ้านี้มันตาบอดน่าสงสารนัก!"ปู่ซาเพียวเซี่ยงที่หัวเราะออกมาอย่างบ้าคลั่ง,ก่อนที่จะหันหลังกลับพร้อมกับบินจากไปอย่างรวดเร็ว,ส่วนกลุ่มนักบวชเห็นปู่ซ่าจากไปแล้ว,พวกเขาก็เร่งรีบบินจากไปด้วยเช่นกัน.
"ฮึ!"ผู้ฝึกตนทั้งสามที่แค่นเสียงเย็นชาออกมา.
"ขอบคุณอาวุโสทั้งสาม,เนียนโหยวโหวต้องรายงานอาจารย์แน่นอน,กับความเมตตาของอาวุโสทั้งสามที่คอยช่วยเหลือ."เนียนโหยวโหยวที่กล่าวออกมาต่อคนทั้งสาม.
"อืม,เนียนโหยวโหยวรึ?อาจารย์ของเจ้าตอนนี้เป็นอย่างไรสบายดีหรือไม่?"ชายในชุดสีดำที่เอ่ยปากออกมาในทันที.
ส่วนชายในชุดสีขาวทั้งสองต่างก็จ้องมองไปยังเนียนโหยวโหยวด้วยเช่นกัน.
"อาจารย์ของข้านั้นฝึกฝนบำเพ็ญเพียรอย่างหนัก,น้อยมากที่นางจะออกมาจากแดนเทพอมตะ,ขณะที่อาจารย์สอนวิชาให้กับศิษย์นั้น,ในอดีตมีอยู่หลายครั้งที่เคยกล่าวถึงเรื่องของอาวุโสทั้งสาม,เคยบอกว่าหากว่ามีโอกาสพบอาวุโสทั้งสามในทวีปศักดิ์สิทธิ์,ให้มาคารวะพวกท่านด้วย,"เนียนโหยวโหยวกล่าวออกมาไร้ซึ่งความลังเลใจ.
"อืม!
ยากนักที่นางจะยังจำพวกเราได้,อย่างไรก็ตาม,เจ้าก็อยู่ที่นี่ไม่ต้องไปใหน,เมื่อมีข้าอยู่,จะไม่มีใครทำร้ายเจ้าได้."ชายในชุดสีดำกล่าวออกมาในทันที.
"อืม,ข้าจะคอยจับตาดูนังชีเพียวเซี่ยงนั้นเอาไว้ให้เอง."ชายในชุดสีขาวกล่าว.
"สบายใจได้เลย!"ชายในชุดสีขาวอีกคนกล่าวออกมาในทันที.
ดูเหมือนว่าคนทั้งสามจะเอาใจเนียนโหยวโหยวไม่น้อยทีเดียว.
"ขอบคุณอาจารย์ลุงทั้งสาม!"เนียนโหยวโหยวที่เห็นพวกเขาเอาอกเอาใจ,จึงได้กล่าวออกมาด้วยความเคารพ.
ส่วนจงซานที่อยู่ข้างๆที่ได้ยินสิ่งที่พวกเขาพูดคุยกัน,ดูเหมือนว่าอาวุโสทั้งสามนั้นจะรู้จักกับอาจารย์ของนาง,คนเหล่านี้,น่าจะมีระดับเดียวกับปู่ซาเพียวเซียง,อยู่ในระดับราชันย์แท้,บนทวีปศักดิ์สิทธิ์นี้ถือว่าเป็นผู้ฝึกตนระดับสูง,คาดไม่ถึงเลยว่าจะมาปรากฏออกมาพร้อมๆกัน,ส่วนชีชราก่อนหน้านี้จะเต็มไปด้วยความโกรธเกลียดอาจารย์ของนาง,พวกเขาเองย่อมรู้จักกันมาก่อนหน้าแล้ว.
เนียนโหยวโหยวและจงซานที่กลับมาที่พัก.
ค่ายกลที่เปิดออก,ก่อนที่ทุกคนจะเข้ามาด้านใน,ซึ่งในห้องโถงนั้นมีคนสี่คน,จงซาน,จงเทียน,เซียนเซิงซือและเนียนโหยวโหยว.
เซียนเซิงซือจ้องมองไปยังเนียนโหยวโหยวที่อุ้มเจ้าขนปุยสีน้ำเงินอยู่,ดวงตาที่เบิกกว้างกลมโต.
"เทพบรรพชน?"เซียนเซิงซือที่จ้องมองไปยังอสูรนั้นเอ่ยออกมาด้วยท่าทางตกใจ.
"เทพบรรพชน? อะไรคือเทพบรรพชน?"เนียนโหยวโหยวที่กล่าวสอบถามในทันที.
เซียนเซิงซือที่ชี้ไปยังอสูรนั้น,พร้อมกับมองไปยังเนียนโหยวโหยวและเอ่ยปากออกมาทันที,"นี่คือสัตว์อสูรเทพบรรพชน,เจิ้นเหรินเนียนโหยวโหยว,ทางที่ดีท่านควรจะหนีไปในตอนนี้เลย!"
ที่มาจากhttps://lnmtl.com/novel/immortality
#นิยาย เรื่องอมตะ #Immortality#นิยายแปลไทย
Author(s)
สนใจสนับสนุนพวกเรา,เข้าร่วมกลุ่ม VIP ====> Click
***เว็ปฟรีอัพ สองวันหนึ่งตอน
***กลุ่มลับ อัพ 2-3 ตอนต่อวัน.
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น