วันจันทร์ที่ 12 สิงหาคม พ.ศ. 2562

Immortality Chapter 402 Xu Xian

Immortality Chapter 402 Xu Xian

นิยาย เรื่อง อมตะ ตอนที่ 402 สวี่เซียน


Chapter 402 Xu Xian
  สวี่เซียน

***** ตำนานนางพญางูขาวถูกกล่าวขานว่าเกิดขึ้นในแถบมณฑลเจ้อเจียง(浙江省) ยุคสมัยราชวงศ์ซ่ง(宋朝) มีบัณฑิตหนุ่มคนหนึ่งนามว่า สวี่เซียน”(仙)ตกหลุมรักสตรีนามว่า ไป๋ซู่เจิน” (白素และใช้ชีวิตอยู่ร่วมกัน เปิดกิจการร้านขายยาและให้การรักษาผู้คนในละแวกนั้น แต่ความจริงสวี่ เซียนไม่เคยรู้คือคนรักของเขาแท้จริงแล้วคือปี ศาจงูขาวที่จำแลงกายมาต่อมาไม่นานมีพระเถระรูปหนึ่งนามว่า ฝาไห่” (法海)ล่วงรู้ความจริงและขัดขวางการใช้ชีวิตอยู่ร่วมกันระหว่างมนุษย์และปีศาจจึงพยายามกำจัดปี ศาจงูขาวอยูหลายครา และสุดท้ายได้จับนางไปจองจำไว้ใต้เจดีย์เหล่ยเฟิ ง(雷峰塔 จนสำเร็จ)***

 **************


"ฝันรึ?"จงซานกล่าวออกมาด้วยท่าทางประหลาดใจ.

"ใช่,เพราะว่าข้ามีสายโลหิตที่พิเศษ,ดังนั้นจึงสามารถรับรู้เรื่องราวที่เกิดขึ้นหลังจากที่ตื่นขึ้นมา,ข้าสามารถเก็บเกี่ยวประสบการณ์ได้มากมาย,การฝันแต่ละครั้งนั้นจำเป็นต้องใช้เวลานับเดือน,ระหว่างเดือนนั้น,ข้าจะทำได้แค่นอนหลับ,รอบๆร่างกายของข้านั้น,มีแขนขาที่เคลื่อนไหวอย่างอิสระ,ตราบเท่าที่ข้าตื่น,แน่นอนว่าย่อมสามารถจับมันเอาไว้ได้,เป็นเพียงเรื่องง่ายๆ,ทว่าในระหว่างนั้นข้าไม่สามารถตื่นกว่าจะถึงกำหนด."เนียนโหยวโหยวกล่าวออกมาด้วยความขุ่นเคือง.

"หืม,ฝันรึ? ฝันถึงหนึ่งเดือนเลยรึ?"จงซานกล่าว.

"ไม่,ในฝันนั้นเป็นเวลาร้อยปี,ภายนอกผ่านไปเพียงแค่เดือนเดียวเท่านั้น,ทว่า,ในโลกฝันนั้นต้องผ่านเวลาหนึ่งร้อยปีเต็ม."เนียนโหยวโหยวกล่าว.

"100 ปีรึ?"จงซานที่อ้าปากค้าง.

"ใช่,เจ้าจะตื่นอีกครั้งในหนึ่งร้อยปีถัดมา,จะต้องต้องหาวิธีในการปลุกตัวเองให้ได้."เนียนโหยวโหยวกล่าว.

"มีวิธีที่จะปลุกตัวเองได้อย่างงั้นรึ?"จงซานกล่าว.

"ข้าคิดที่จะจับมันเอาไว้แล้ว,ข้าเคยเข้าไปในโลกแห่งความฝันหลายครั้ง,ทว่า,หนึ่งครั้ง,ข้าตื่นขึ้นมาอย่างแปลกประหลาด,รับรู้ว่านี่ไม่ใช่โลกจริง,ข้านึกว่ายังฝันอยู่,ทว่าก็ไม่ตื่นอีกเลย,ข้าบอกได้ว่าเกี่ยวกับความฝันครั้งนั้นนั้น,โลกแห่งความฝันนั้นได้หายไป,,ทุกอย่างเป็นเพียงความว่างเปล่า,ข้าต้องอยู่คนเดียว,ไม่สามารถบำเพ็ญเพียงได้,,อยู่อย่างโดดเดี่ยวตลอด 30 ปี,ไม่พบหน้าใครเลยสักคน."เนียนโหยวโหยวกล่าวออกมาด้วยท่าทางหวาดกลัว.

"30 ปี,ไม่สามารถทำอะไรได้,อยู่อย่างโดดเดี่ยวรอคอยอย่างเงียบเหงาอย่างงั้นรึ?"จงซานที่กล่าวพลางถอนหายใจ.

นี่เป็นผลกระทบทางจิตที่ยิ่งใหญ่มาก,การที่ต้องอยู่คนเดียวในห้องเล็กๆ,ไม่สามารถทำอะไรได้นั่งรอคอยอย่างเดียว,คนทั่วไปยากที่จะทนได้,ต้องใช้เวลาถึง 30 ปีเลยรึ? แล้วกลับมาได้อย่างไร?

"ใช่แล้ว! เคยมีใครบางคนปรากฏตัวขึ้นมา,ข้ารู้สึกมีความสุขมาก,ข้าเคยพยายามคุยด้วย,พยายามอย่างสุดความสามารถ,เพื่อพูดคุยขับไล่ความเหงาภายในใจ,จนผ่านไปสิบวัน,ข้าจึงหาวิธีได้,ข้าเลือกที่จะฆ่าตัวตาย."เนียนโหยวโหยวกล่าว.

"ฆ่าตัวตายอย่างงั้นรึ?"จงซานจ้องมองไปยังเนียนโหยวโหยว.

"เรื่องนี้,นับว่าเป็นเรื่องที่หาญกล้ามาก,ข้าตัวตายรึ? สำหรับผู้ฝึกตนเพื่อให้มีชีวิตอมตะนั้น,ดูเหมือนว่าจะเป็นความหาญกล้าที่เกิดกว่าจะคิดถึงได้.

"ทว่า,หลังจากฆ่าตัวตาย,ข้าก็พบว่ามันไม่ได้ผล,ถึงข้าฆ่าตัวตายไป,ที่จริงมันก็พาข้าไปยังโลกแห่งความฝันอีกแห่งหนึ่ง,จวบจนผ่านเวลาไปร้อยปี,หรือครบหนึ่งเดือนในโลกภายนอกถึงจะออกมาได้,หากแต่อสูรน้อยก่อนหน้านี้ก็ไม่รู้ว่าวิ่งหนีไปใหนแล้ว."เนียนโหยวโหยวกล่าว.

จงซานที่เผยท่าทางไม่อยากเชื่อเลยแม้แต่น้อย.

"หลังจากนั้น,ข้าทุกคนที่เข้ามาฝึกฝนภายในทะเลครามเหลียนซวินด้วยกัน,เกี่ยวกับวิธีของข้านั้น,มันเป็นวิธีที่เลวทรามเป็นอย่างมากในการเข้าไปยังโลกแห่งความฝัน,ทว่า,ที่จริงแล้วโลกแห่งความฝันนั้น,ที่ข้าพบ,บางแห่ง,พวกเขาก็ไม่เคยเห็น,ทว่ากลับดูคล้ายคลึงกัน,พวกเราโต้เถียงกันไปมา,หลังจากก็ต่อสู้กันจนถึงชีวิต,ข้าและอีกคนตายไป,จากนั้นพวกเราทั้งคู่ต่างก็เข้าไปในแดนฝันที่แตกต่างกัน,จวบจนผ่านไปถึงหนึ่งร้อยปีจึงจบลง."เนียนโหยวโหยวกล่าว.

"เช่นนั้นก็สามารถบอกได้แล้วว่า,เป็นไปไม่ได้ที่จะตื่นขึ้นมา?"จงซานกล่าวออกมาด้วยท่าทางแปลกประหลาด.

"ไม่,จากประสบการเก้าครั้งของข้า,ทำให้เข้าใจอะไรบางอย่าง,หากต้องการออกมาฟื้นขึ้นมาล่ะก็,ไม่ใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้,ตราบเท่าที่มีเหตุการณ์สองอย่างเกิดขึ้น."เนียนโหยวโหยวกล่าว.

"สองรึ? สองอะไร?"จงซานขมวดคิ้วไปมาสอบถาม.

"อย่างแรก,เจ้าจะต้องรู้ก่อนว่าตัวเองกำลังฝันอยู่,รู้ตัวว่าตัวเองอยู่ในโลกแห่งฝัน,เหมือนกับข้าในครั้งแรก."เนียนโหยวโหยวกล่าว.

"หืม!อย่างที่สองล่ะ?"จงซานกล่าว.

"ต้องมีใครในโลกฝันไล่เจ้าออกมา,อย่างสังหารเจ้า,ทำให้โลกแห่งความฝันขับไล่เจ้า,เมื่อขับไล่เจ้าบางทีอาจจะทำให้เจ้าตื่น!"เนียนโหยวโหยว.

"หืมแค่บางทีรึ?"แม้ว่าอาจจะเป็นจริงแต่ก็ไม่สามารถมั่นใจนัก.

"ทว่า,ในโลกแห่งฝันนั้น,เป็นภาพมายาที่มีคนสร้างขึ้นมา,เป็นไปไม่ได้ที่จะสังหารเจ้ารึ? หรือขับไล่เจ้าออกมา? ถึงแม้ว่าจะเป็นโลกแห่งความฝัน,การจะมีคนมาสังหารเจ้านั้น,เป็นเรื่องที่เป็นไปแทบไม่ได้,เพราะว่าพวกเขาย่อมต้องคุ้มครองตัวเอง,แน่นอนว่าจะต้องมีใครมาช่วยเจ้าให้รอดพ้นจากปากเสือแน่นอน,จึงบอกได้เลยว่ายาก!"เนียนโหยวโหยวที่คิดใคร่ครวญและขมวดคิ้วไปมา.

"อืม!"จงซานพยักหน้า,ขมวดคิ้วไปมาคิดใคร่ครวญอย่างลึกซึ้ง.

"เจ้าคือคนที่แปลกประหลาดที่สุดเท่าที่ข้าเคยเห็น,ข้าเชื่อเจ้าอย่างแน่นอน."เนียนโหยวโหยวกล่าว.

"ข้ารึ?"จงซานแสดงท่าทางแปลกประหลาด,รู้สึกไม่ดีนัก.

"ใช่แล้ว,เจ้าสามารถสังหารพุทธะจื้อกวงได้,ไม่มีอะไรที่ไม่สามารถเป็นไปไม่ได้?"ดวงตาของเนียนโหยวโหยวที่เรียวเล็กขดเป็นวงจันทร์ยิ้มแบบเจ้าเล่ห์

มีอะไรให้จงซานกล่าวออกมาได้ล่ะ? เรื่องทั้งสองอย่างเกี่ยวกันตรงใหน,ด้วยเขามียันต์หยกทมิฬ,เป็นของวิเศษ,แล้วมันสามารถใช้ในความฝันอย่างงั้นรึ?

"เอาล่ะ,เดินทางเถอะ,ข้าจะทำอย่างเต็มที่."จงซานเอ่ย.

"อืม!"เนียนโหยวโหยวพยักหน้า.

จากนั้นจงซานก็ถูกนำเข้าไปในทะเลครามเหลียนซวินลึกเข้าไปด้านในอย่างรวดเร็ว.

ภาพมายาที่มากขึ้นเรื่อยๆ,และลึกซึ้งมากขึ้นอีกด้วย,หลายๆครั้งที่จงซานถูกสะกด,ทว่าเป็นเนียนโหยวโหยวที่ปลุกเขาให้ตื่น.

"ที่ด้านหน้าภูเขา,มีภูเขาขวางอยู่ด้านหน้า!"จงซานที่จ้องมองไปยังภูเขาด้านหน้าพร้อมกับตื่นตกใจอุทานออกมา.

เนียนโหยวโหยวเผยยิ้มเล็กน้อย,ก่อนที่จะลากจงซานทะลวงผ่านภูเขาเข้าไป.

"ฟิ้ว!"

มันไม่ใช่ภูเขา,แต่เป็นเพียงภาพลวงตา.

จงซานถึงกับกลืนน้ำลาย,ภายในใจของเขาที่ซ่อนอะไรเอาไว้มากมาย,ที่นี่ทุกอย่างล้วนแล้วแต่เป็นภาพลวงตา,จนไม่สามารถบอกได้ว่าเป็นเรื่องโกหก.

"ถึงแล้ว,ระวังตัวด้วย."เนียนโหยวโหยวกล่าว.

"อืม!"จงซานพยักหน้า.

เพียงแค่รับคำเท่านั้น,จงซานก็พบกับภาพมายาในทันที,เป็นกลุ่มก้อนแสงสีครามที่พุ่งกระแทกมายังร่างของจงซานและเนียนโหยวโหยว.

จงซานที่รู้ว่ามันเป็นเพียงภาพมายา,ทว่ากลับไม่สามารถต้านมันได้เลย.

แสงสีครามที่ทะลวงผ่านร่างของทั้งสองคน.

จากนั้นทั้งคู่ก็หมดสติล้มลงไปนอนทันที.

ทั้งสองที่นอนลงบนพื้น,หมดสติ,ไม่,น่าจะบอกว่าหลับไปมากกว่า.

"อี๋,อี๋,อี๋,อี๋,อี๋"

ปรากฏเป็นเสียงที่แปลกประหลาดังติดต่อกัน,ปรากฏเป็นรูปทรงกลมเหมือนดวงไฟขนาดใหญ่และมีขนสีน้ำเงินคล้ายมีหลอดไฟเล็กที่ตรงปลายยื่นออกมา,โยกเยกไปมา,มีขนาดเท่ากับหัวนิ้วแม่มือ,มีขนปุยทั่วร่าง,มีขาเล็กๆสองข้างยื่นออกมา,นอกจากนี้ยังมีมือเล็กๆอีกสองข้างด้วย,หากสังเกตดีๆ,จะเห็นหางเล็กๆด้วย,ดวงตาสีดำขลับขมวดไปมา,ดูน่ารักน่าชังเป็นอย่างมาก

เจ้าดวงไฟดวงน้อยขนปุกปุยกระโดดไปมา,หาคนทั้งสอง,ก่อนที่จะกระโดดขึ้นไปยืนบนท้องของจงซาน,กระโดดด้วยท่าทางตื่นเต้นดีใจ,ก่อนที่จะกระโดดไปที่ท้องของเนียนโหยวโหยว,เห็นคนทั้งสองที่หลับลึก,มันร้องออกมาด้วยความพึงพอใจเป็นอย่างมาก.

"อี๋,อี๋,อี๋,อี๋,อี๋"

คนทั้งสองที่หลับไปแล้ว,แน่นอนว่านี่คืออสูรน้อยที่เนียนโหยวโหยวกล่าวถึง,มันจะพาทั้งคู่ข้าสู่โลกแห่งฝัน,แล้วเป็นโลกแห่งฝันอะไร?
 ....
ท้องฟ้าที่มืดคลึม.

"เปรี้ยง!!!"

สายฟ้าฟาดลงมาเป็นระยะ,สายฝนโปรดปราย,ก่อนที่จะค่อยๆหนักขึ้นเรื่อยๆ.

จงซานในชุดสีขาว,รูปร่างเหมือนบัณฑิต,ยื่นอยู่ท่ามกลางผู้คนบนชายฝั่งแห่งหนึ่งรอคอยเรือข้ามฟากเข้าฝั่ง.

"ฝน! ฝนตก!"คนที่อยู่รอบๆต่างสงเสียงดังอื้ออึง,จากนั้นก็ดังลามไปยังคนทุกคนที่อุทานออกมาพร้อมกัน.

จงซานที่ยังคงยืนอยู่กลางผู้คน,จ้องมองอย่างงงงวยขึ้นไปบนท้องฟ้าที่ปรากฏฝนมากมายเริ่มเทลงมาราวกับฟ้ารั่ว,เขารู้สึกราวกับว่าได้ลืมอะไรบางอย่างไป,ทว่ากลับไม่สามารถนึกออกได้.

ในเวลาเดียวกัน,เรือโดยสารที่แล่นเข้ามาจอดช้าๆ.

"นายเรือ,นายเรือ!"จงซานที่ไม่คิดอะไรต่อไปไม่สามารถบอกไปได้ว่าตัวเองได้ลืมอะไรไป,จึงได้ตะโกนออกไปเสียงดัง.

เรือที่ค่อยๆแล่นเข้าฝั่งช้าๆ.

"ขอบคุณนายเรือ,ขอบคุณนายเรือ!"จงซานที่ตื่นเต้นกระโดดขึ้นไปบนเรือ,ท้ายที่สุดเรือก็ค่อยๆแล่นออกไป.

นายเรือที่สวมเสื้อกันฝัน,ย่อมสามารถกันฝนที่กำลังตกลงมาได้,จงซานที่อยู่ในห้องโดยซาน,ซึ่งที่ด้านในห้องโดยสารตอนนี้นั้นมีเนียนโหยวโหยวในชุดสีขาว,ดูกระจ่างใจ,งดงามหาที่เปรียบไม่ได้,จ้องมองมายังจงซาน.

ราวกับว่าเคยพบหญิงสาวที่งดงามมากๆเป็นครั้งแรก,จงซานที่จ้องมองตาค้าง,ตะลึงงันพูดไม่ออกแม้แต่คำเดียว.

"นี่! คุณชาย."เนียนโหยวโหยวที่จ้องมองพร้อมกับเอ่ยกับจงซาน.

"ล่วงเกินแม่นางแล้ว,ข้า,ข้าเสียมารยาทยิ่งนัก."จงซานกล่าวออกมาพลางพูดด้วยใบหน้าที่เขินอาย.

เนียนโหยวโหยวเผยยิ้มออกมาเล็กน้อย,"คุณชายเชิญนั่ง,ทุกๆคนต่างก็เดินทางไกลมาจากบ้าน,ไม่จำเป็นต้องมากพิธี."

"อืม!"จงซานที่ค่อยๆนั่งลง.

จงซานที่นั่งลง,ท่าทางอักอ่วนไม่รู้ว่าควรจะกล่าวสิ่งใดหรือไม่,นี่คือความรักหรือไม่? มันช่างเป็นอะไรที่ยอดเยี่ยมนัก,จงซานต้องการกล่าวอะไรกับสาวงามฝั่งตรงข้าม,ทว่ากลับไม่รู้ว่าควรจะกล่าวสิ่งใด,กลัวว่าจะกลายเป็นการรบกวนสาวงามด้านหน้าเขาแทน.

ภายในห้องโดยสารเวลานี้จึงกลายเป็นค่อนข้างเงียบงัน.

"บรรยากาศภายนอกงดงามจริงๆ!"เนียนโหยวโหยวที่เป็นคนกล่าวออกมาด้วยตัวเอง.

จงซานที่ราวกับว่าพบกับหัวข้อพูดคุย,จึงกล่าวออกมาทันที, "บนฟ้ามีสวรรค์ บนโลกมีซูโจวกับหังโจว สองเมืองนี้ขึ้นชื่อมากในเรื่องทิวทัศน์ที่สวยงามและความอุดมสมบูรณ์."

"ใคร่ขอถามคุณชาย,ท่านเป็นคนแถวนี้อย่างงั้นรึ?"เนียนโหยวโหยวเผยยิ้มออกมาเล็กน้อยจ้องมองไปยังจงซาน.

"ข้ามีสกุลว่าสวี่,ชื่อเซียน,เป็นคำในอักษรจีน."จงซานที่เร่งรีบแนะนำตัว.

ได้ยินจงซานแนะนำตัว,เนียนโหยวโหยวที่หัวเราะออกมาเบาๆ.

"แม่นางมีอะไรน่าขำอย่างงั้นรึ?"จงซานกล่าวออกมาด้วยท่าทางอายๆ.

"ขำคุณชาย,ข้าไม่ได้ถามว่าท่านเป็นคอนแถวนี้หรอกรึ?"เนียนโหยวโหยวกล่าวออกมาด้วยรอยยิ้ม.

ในเวลานั้น,จงซานนึกถึงคำตอบของตัวเองแล้ว,ทันใดนั้นใบหน้าก็กลายเป็นแดงซ่าน,"ข้ามีนามว่าสวีเซียน,เป็นคนหางโจว,บรรพบุรุษนั้นเป็นคนขายสมุนไพรมาหลายรุ่นแล้ว,บิดามารดาของข้าโชคไม่ดีจากไปซะก่อน,วันนี้เป็นวันเชงเม้ง,ข้าจึงได้เดินทางมาเคารพศพโดยเฉพาะ,ผ่านมาทางทะเลสาปซีหู,ไม่คิดเลยว่าจะมีโอกาสได้พบกับสาวงาม,ไม่รู้ว่าแม่นางมีนามว่ากระไร?"

เนียนโหยวโหยวกล่าวออกมาอย่างนุ่มนวลด้วยรอยยิ้ม,"ข้ามีนามว่าไป๋ซู่เจิน,อาศัยอยู่ในเมืองฟู่หรงมลทลเสฉวน,ครั้งหนึ่งบิดาของข้าเคยเป็นเจ้าหน้านี้,เพียงแต่ว่าผ่านมาหลายปีแล้วบิดามารดาก็ได้จากไปเช่นกัน,จึงคิดที่จะเดินทางมาอาศัยอยู่กับญาติพี่น้อง,ทว่ากับพบว่าที่นี่ญาติพี่น้องก็ไม่มีอีกต่อไปแล้ว,เหลือแค่เพียงบ้านเปล่าๆเท่านั้น."

"แม่นางอาศัยอยู่ที่นี่,คนเดียวคงเหงา."จงซานที่กล่าวออกมาพลางถอนหายใจ.

"ไม่,ข้ายังมีน้องสาว,เสี่ยวชิง,ข้ามีเสี่ยวชิงอยู่,ไม่ได้เหงาอะไร."เนียนโหยวโหยวส่ายหน้าไปมาด้วยรอยยิ้ม.

ในเวลาเดียวกัน,เรือที่โคลงไปมาในทันที,ที่ทิศตะวันออกเฉียงใต้ที่ราวกับเกิดคลื่น,เรือที่โคลงไปมา,ทำให้เนียนโหยวโหยวไม่สามารถพยุงตัวได้,ราวกับว่ากำลังจะล้มลง,จงซานที่ก้าวออกไปพยุงนางเอาไว้ทันที.

"แม่นางไป๋,เป็นไรหรือไม่?."จงซานกล่าวสอบถามออกมา.

"ข้าไม่เป็นไร,ขอบคุณคุณชาย."เนียนโหยวโหยวกล่าว.

"เจี่ยเจี๋ย,เจี่ยเจี๋ย!"เสียงๆหนึ่งที่ดังขึ้นที่ด้านนอกเรือ.

"เอ๊ะ?เสียงอะไรอย่างงั้นรึ?"จงซานที่จ้องมองออกไปด้านนอก.

ทว่าเนียนโหยวโหยวที่จ้องมองไปยังที่ข้างๆเรือ,และกล่าวออกไปด้านนอกเบาๆซึ่งเวลานี้ฝนค่อนข้างตกหนักอยู่ไม่น้อย."ชิงเอ๋อ,อย่าได้ทำเช่นนี้,กลับไปค่อยพูดกัน."

"เจ้ากำลังพูดกับใครอย่างงั้นรึ?"จงซานกล่าวสอบถามออกไปในทันที.


"ไม่,ข้าพูดว่าวันนี้ฝนตกหนักยิ่งนัก."เนียนโหยวโหยวกล่าวตอบเพื่อดึงความสนใจของจงซานกลับมา,ทว่าในเวลานั้นบนทะเลสาบใหญ่,ก็ปรากฏงูเขียวขนาดมหึมาที่ล่องลอยออกไปอย่างรวดเร็ว.



ที่มาจากhttps://lnmtl.com/novel/immortality

#นิยาย เรื่องอมตะ #Immortality#นิยายแปลไทย
Author(s)


สนใจสนับสนุนพวกเรา,เข้าร่วมกลุ่ม VIP ====> Click

***เว็ปฟรีอัพ สองวันหนึ่งตอน
***กลุ่มลับ อัพ 2-3 ตอนต่อวัน.

 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น