วันอังคารที่ 6 สิงหาคม พ.ศ. 2562

Immortality Chapter 393 Se Kong

Immortality Chapter 393 Se Kong

นิยาย เรื่อง อมตะ ตอนที่ 393 เซอคง.


Chapter 393 Se Kong
色空
เซอคง.

เพลงดาบของจงซานที่กวัดแกว่งออกไปเกิดระเบิดสาดไปรอบๆ,โลหิตที่แตกกระจายพรมไปทั่วพื้นดิน,พื้นดินและบรรยากาศรอบๆแดงฉาน,ไม่ว่าจะเป็นใครที่อยู่รอบๆต่างก็รู้สึกหวาดผวา,ทว่าเหล่ากองกำลังอาชาปิศาจมายานั้นแตกต่างออกไป,พวกมันไร้จิตใจ,ยิ่งเห็นโลหิตสาดไปทั่วท้องฟ้า,ราวกับว่าทำให้พวกมันตื่นเต้นยิ่งกว่าเดิม.

จงซานที่สังหารไม่หยุด,สังหารตามสันชาติญาณไม่ได้มีความโกรธแค้นใดๆ,จงซานที่สังหารเหล่าโจรร้ายมากขึ้นและก็มากขึ้น.

จงซานที่ฟาดฟันสังหารเหล่าศัตรูไม่หยุดหย่อน,ไม่ไกลออกไป,หัวหน้าของโจรร้ายที่มีใบหน้าเย็นชาจับจ้องมา.

หัวหน้าโจรร้ายและโจรร้ายตนอื่นๆเต็มไปด้วยความบ้าคลั่ง,มันยังคงถือหยกมรกตดูดซับวิญญาณทั่วทุกพื้นที่,และในเวลาเดียวกันมืออีกข้างของมันที่นำถุงขนาดเล็กสีดำออกมาจากเอว,ส่ายไปมา,จากนั้นถุงสีดำที่ลอยออกไป,พร้อมกับปากถุงเปิดออกมาทันที.

ทันทีที่ถุงสีดำขนาดเล็กลอยออกไป,ปรากฏจุดแสงมากมายนับไม่ถ้วน,ที่โบกสะบัดอยู่บนท้องฟ้าทั่วเมืองเล็กแห่งนี้,ดูคล้ายๆกับค้างคาวมากมาย.

เหล่าค้างคาวมากมายที่บินฉวัดเฉวียนเต็มท้องฟ้า,มากขึ้นและก็มากขึ้น,ส่งเสี่ยงหึ่งๆ,โบกสะบัดปีกไปมา,ทุกหนทุกแห่งเวลานี้เกิดเสียงระเบิดเป็นระยะๆ.

เหล่าค้างคาวมากมายที่เต็มไปด้วยความกระหายโลหิต,ทันใดนั้นก็หมุนวนไปมารอบๆถุงขนาดเล็ก,จากนั้นหัวหน้าโจรร้ายที่โบกสะบัดมือ,สั่งให้พุ่งตรงไปยังตำแหน่งของจงซาน.

เหล่าค้างคาวมากมายที่เต็มไปด้วยความกระหายโลหิตพุ่งตรงมายังจงซานอย่างรวดเร็ว.

ร่างกายรอบๆของจงซานนั้นมีม่านพลังวิญญาณปกป้องอยู่,ทำให้เหล่าค้างคาวถูกขวางเอาไว้ด้านนอก,ทว่าเหล่าค้างคาวก็ยังมีผล,ปิดบังสายตา,พวกมันส่งคลื่นเสียงออกไป,ทำให้สัมผัสเทวะของเขาไม่สามารถใช้ออกมาได้อีกด้วย.

"ชิ!"จงซานแค่นเสียง.

"เปรี้ยงๆๆ"

บนท้องฟ้าเหนือศีรษะของจงซาน,ปรากฏเมฆสายฟ้าขึ้นมาในทันที.

เพียงแค่จงซานแค่นเสียงออกมาเท่านั้น,เมฆสายฟ้าที่ส่องประกายแปบๆ,และสายฟ้ามากมายก็อาบไปทั่วร่างของจงซาน,ล่วงหล่นลงมาราวกับห่าฝน.

เมฆสายฟ้ามากมายไม่ได้มีอาณาเขตใหญ่นัก,ทว่าก็เพียงพอที่จะปกคลุมร่างของจงซาน.

สายฟ้าที่บ้าคลั่งที่ล่วงหล่นลงมาจาท้องฟ้า,ทันใดนั้นทุกสิ่งทุกอย่างล้อมรอบร่างของจงซานก็ระเบิดออกมาไม่หยุดหย่อน,สายฟ้าที่เหมือนกับห่าฝน,เหล่าค้างคาวกระหายโลหิตที่ถูกกระแทกด้วยสายฟ้าระเบิดหายไป,แม้ว่าจะเป็นเพียงแค่สายฟ้าระดับไม่สูงนัก,ทว่าเหล่าค้างคาวนั้นกับมีสถานะต่ำกว่าซะอีก.

พายุสายฟ้าที่ไร้ที่สิ้นสุด,ไม่รู้ว่ามากมายเท่าไหร่มันได้ระเบิดทุกอย่างที่อยู่รอบๆ,ค้างคาวเพียงแค่สัมผัสเล็กน้อยก็ตายไปในทันที,แม้แต่เหล่าโจรร้ายระดับต่ำเอง,ยังถูกสายฟ้าระดับต่ำสังหารไปด้วย,มีเพียงแค่เหล่าโจรร้ายที่มีพลังระดับสูงถึงจะต้านทานเอาไว้ได้,ทว่าแน่นอนไม่สามารถต้านทานดาบยักษ์ของจงซาน,ดาบของจงซานยังคงขยับตวัดออกไปโจมตีพวกมันไม่หยุดเช่นกัน.

เจี้ยนอ้าวที่อยู่ไกลออกไปเห็นพายุสายฟ้า,ที่มุมปากของเขาที่เผยยิ้มออกมาเล็กน้อย,พร้อมกับเริ่มใช้ทักษะออกไปด้วยเช่นกัน.

"ตูมมม,ตูมมมม,ตูมมม,ตูมมม,ตูมมม,ตูมมม"

บนสนามรบ,ปราณกระบี่รูปดอกบัวที่ราวกับเปล่งประกายสาดแสงไปทั่วทิศ,เริ่มสังหารเหล่าโจรร้ายมากขึ้นยิ่งกว่าเดิม.

แต่ถึงกระนั้นเหล่าโจรร้ายที่ไม่รู้สึกหวาดกลัว,ไม่รู้สึกเจ็บปวด,มีเพียงหัวหน้าโจรที่อยู่ตรงกลางเวลานี้เริ่มสั่นสะท้าน,ดวงตาตื่นตกใจ,ขาทั้งสองข้างที่หนีบอาชาปิศาจมายา,มองไปยังพื้นที่รอบๆ,ต้องการที่จะหาทางหนี.

จงซานที่ดูร้ายกาจไร้เทียมทาน,นอกจากนี้บนท้องฟ้าบนศีรษะของเขายังมีพายุสายฟ้ามากมาย,กำลังล่วงหล่นสาดซัดราวกับมังกรลงมาด้านล่างไม่หยุด.

"โฮกกกกกกก"

และแล้วมังกรสายฟ้าตัวเขื่อง,ที่อยู่ในการควบคุมของจงซาน,ที่เกิดจากสายฟ้ารวมตัวกันก็พุ่งตรงไปยังหัวหน้าโจรร้ายในทันที.

"เปรี้ยง!!!"

พลังของสายฟ้าที่ทรงพลังส่องแสงสว่างจ้า,หัวหน้าโจรร้ายหวาดหวั่นหวาดกลัวที่จะหลบซ่อนด้วยซ้ำ,เขาที่ยังนั่งบนอาชาปิศาจมายา,ได้รับบาดเจ็บอย่างหนักเลยทีเดียว.

"ย๊ากๆๆๆ"

จงซานที่อยู่ไม่ไกลแล้วพลางกระโดดขึ้นฟันออกไปด้วยพลังมหาศาล.

บัญญัติสวรรค์! วายุตัด!

การโจมตีด้วยทักษะพิเศษของจงซาน,ฟาดฟันออกไปพร้อมทั้งสร้างเสาสายฟ้ามากมาย,ที่พุ่งออกไปตามคมดาบของเขา,งตรงไปยังหัวหน้าโจรร้ายด้วยพลังมหาศาล.

"ตูมมมมมมมมมมมมม"

ไร้ซึ่งการขวางกั้น,กับการโจมตีของจงซาน,หัวหน้าโจรร้ายไม่มีแม้แต่เวลาให้โอดครวญ,ร่างกายระเบิดออกเป็นเสี่ยงๆ.

ค้างคาวมากมายนับไม่ถ้วน,หลังจากที่หัวหน้าโจรตายไป,ราวกับว่าไร้ซึ่งคนควบคุม,ส่งเสียงหึ่งๆก่อนที่จะเคลื่อนที่กลับลงไปในถุงผ้า.

จงซานที่จ้องมองไปรอบๆ,ก่อนที่จะรับถุงผ้ามา,พร้อมกับหยกมรกตมา.

ไม่ไกลออกไปเจี้ยนอ้าวที่เห็นจงซานหยุดต่อสู้,ดวงตาที่มีสาดประกายด้วยความอัศจรรย์ใจและเผยยิ้มออกมา,ก่อนที่กระบี่ยาวของเขาจะปักลงไปบนพื้น.

"คลืนนนนนนนน"

บนพื้นดิน,ปรากฏเป็นปราณกระบี่นับพันสาย,โผล่พุ่งขึ้นบนพื้นดิน,สังหารเหล่าโจรร้ายอาชาปิศาจมายาสังหารพวกมันตายไปจนสิ้นทั้งหมดในทันที.

"เป็นจิตกระบี่ที่แข็งแกร่งยิ่งนัก! ระดับก่อตั้งวิญญาณอย่างงั้นรึ? ถึงจะอยู่ในระดับก่อตั้งวิญญาณก็จำต้องระวังตัว."ที่ไกลออกมานั้นเป็นชายในชุดสีน้ำเงินขมวดคิ้วไปมา.

"ช่างดุดันก้าวร้าวนัก!"เนี่ยนโหยวโหยวที่กล่าวพึมพำเบาๆ.

"หืม?ก้าวร้าวรึ?"ชายในชุดสีน้ำเงินจ้องมองไปยังเนี่ยนโหยวโหยว.

"เมื่อครู่นี้ข้าเห็นหุ่นเชิดค้างค้าวนั้น,น่าสนใจดี!"เนี่ยนโหวโหยวที่กล่าวต่อชายชุดสีน้ำเงินที่แสดงท่าทางสงสัย.

กองกำลังอาชาปิศาจมายาถูกจัดการแล้ว,พวกมันถูกสังหารจนสิ้น,จงซานที่สูดหายใจลึก,ยับยั้งหัวใจที่โหดเหี้ยมเอาไว้,ฟื้นฟูกลับคืนสู่ใบหน้าท่าทางเหมือนกับบัณฑิตเช่นเดิม.

เจี้ยนอ้าวไม่ได้เอ่ยถึงเรื่องการแข่งขันอีกครั้ง,ทั้งคู่เองไม่ได้สนใจเรื่องนี้แต่แรก,ไม่ได้สนใจชัยชนะหรือพ่ายแพ้แม้แต่น้อย.

จงซานจ้องมองดูถุงผ้าสีดำทมิฬและหยกมรกต,ทั้งสองสิ่งนั้นไม่สามารถเก็บเอาไว้ในกำไลเก็บของได้,มันคืออะไรกัน?ของวิเศษระดับเก้าอย่างงั้นรึ? ไม่ใช่! ของวิเศษระดับเก้าจะเป็นเช่นนี้ได้อย่างไร?

"ของวิเศษนี้คือสิ่งใด? คาดไม่ถึงเลยว่าจะสามารถใส่สิ่งมีชีวิตเหล่านั้นได้? ที่ออกมาก่อนหน้านี้เป็นค้างคาวที่มีชีวิตจริงๆอย่างงั้นรึ?"ฉู่จิวที่จ้องมองไปยังถุงผ้าที่จงซานถืออยู่ด้วยท่าทางประหลาดใจ.

ฉีจิวไม่รู้,เจี้ยนอ้าวย่อมไม่รู้เช่นกัน,ทว่าเห็นสายตาของเซียนเซิงซือหรี่ตาจ้องมองแล้ว,น่าจะรับรู้,ทว่าไม่ควรที่จะกล่าวสิ่งใดออกมาในเวลานี้.

แม้ว่าจะไม่รู้ว่ามันคือสิ่งใด,ทว่าจงซานก็รู้ว่าถุงผ้านี้ต้องไม่ธรรมดา,ดังนั้นจึงได้เก็บมันพร้อมกับหยกมรกตเข้าไว้ในอกเสื้อทันที.

เมืองเล็กถูกช่วยเอาไว้แล้ว,ที่ใจกลางที่มีค่ายกลธวัชอยู่,เหล่าประชาชนคนทั่วไปยังไม่สามารถวางใจได้,คนสี่คนนี้ร้ายกาจยิ่งกว่ากองทัพอาชาปิศาจมายาซะอีก,คนเหล่านี้ต้องการสังหารพวกเขาหรือไม่?

เหล่าคนที่เหลือรอดของเมืองเล็ก,มีเพียงแค่นักบวชผู้หนึ่ง,เป็นคนที่สร้างค่ายกลแห่งนี้ขึ้นมา,เขาที่สะบัดมือ,พร้อมกับปลดค่ายกลลงในทันที,ธวัชขนาดเล็กหลายสิบอันที่หายไป,ถูกนักบวชในผ้าคลุมสีเหลืองเก็บเอาไว้.

"ใต้ซือ,ท่าน......."เหล่าประชาชนที่โอดครวญตัวสั่นงันงก.

นักบวชคนดังกล่าวปัดป้องกำมือของพวกเขาที่คว้าดึงเอาไว้,ด้วยท่าทางไม่แยแส,ก่อนที่จะเดินออกมาในทันที.

"ขอบคุณทุกท่านที่ช่วยเหลือ,เซอคงซาบซึ้งยิ่งนัก!"

"ก่อตั้งวิญญาณ? ในเมืองเล็กมีนักบวชระดับก่อตั้งวิญญาณด้วยรึ?"ฉู่จิวที่ขมวดคิ้วไปมา.

"ข้าเป็นนักบวชของวิหารหลงเฟิงในค่ายกลอรหันแสนภูผา,ด้วยออกมาทำธุระ,จึงได้ผ่านมาที่นี่,โชคไม่ดีนักที่ได้พบเข้ากับกองกำลังปิศาจมายา,บางที่หากไม่พบกับทุกท่าน,ข้าคงต้องสิ้นอายุไขแล้ว,ขอบคุณๆ!"นักบวชเซอคงได้แสดงความเคารพอีกครั้งทว่าสายตาที่ลอบมองไปยังของวิเศษทั้งสองที่จงซานเก็บไป.

"ค่ายกลอรหันหนึ่งแสนภูผาอย่างงั้นรึ?"จงซานที่ขมวดคิ้วไปมาเล็กน้อย.

"ทุกท่านต้องการเข้าไปในข้างในค่ายกลอรหันแสนภูผาอย่างงั้นรึ?"นักบวชเซอคงจ้องมองไปยังคนทั้งสี่.

"เจ้ารู้ตำแหน่งของแดนเทพพิสุทธิ์หรือไม่?"เจี้ยนอ้าวสอบถาม.

"แดนเทพพิสุทธิ์?"นักบวชเซอคงที่แสดงท่าทางประหลาดใจ,จากนั้นก็พยักหน้า,"แน่นอน,ตระกูลอาจารย์ของข้านั้นอยู่ในแดนเทพพิสุทธิ์,อาตมา,แม้ว่าจะไม่เคยเข้าไปในแดนเทพพิสุทธิ์,ทว่าครอบครัวของอาจารย์ก็อยู่ใกล้ๆ,แน่นอนว่าย่อมรู้จักเป็นธรรมดา."

"เอาล่ะ,พบกับคนรู้จักแล้ว"เจี้ยนอ้าวเผยยิ้มออกมากล่าวต่อจงซาน.

เซอคงที่ได้ยิน,ใบหน้าสั่นไหวเล็กน้อย,ทันใดนั้นก็กล่าวออกมาทันที,"ท่านทั้งสี่ต้องการทำสิ่งใด,ต้องการเดินทางไปยังแดนเทพพิสุทธิ์อย่างงั้นรึ? อาตมาสามารถนำทางได้,อย่างน้อยก็โปรดเดินทางไปยังวิหารหลงเฟิง,เพื่อให้อาตมาได้ตอบแทนท่านทั้งสี่ที่ได้ช่วยชีวิตสักเล็กน้อย."

"จงซาน,ข้าคงไม่สามารถนำทางเจ้าได้แล้ว,โปรดระวังตัว!"เจี้ยนอ้าวกล่าวต่อจงซาน.

"ขอบคุณ!"จงซานที่พยักหน้าตอบ.

"พวกเราไม่ไป,เจ้านำพวกเขาเดินทางไปยังดินแดนเทพพิสุทธิ์."เจี้ยนอ้าวกล่าว.

"หืม?"เซอคงที่ชำเลืองมองออกไป,เห็นเจี้ยนอ้าวชี้ไปยังจงซานและเซียนเซิงซือ,ทันใดนั้นก็พยักหน้ารับคำด้วยรอยยิ้ม.

"ไว้พบกันใหม่คราวหน้า!"เจี้ยนอ้าวกล่าว.

"ไว้พบกันคราวหน้า!"จงซานที่พยักหน้าด้วยรอยยิ้ม.

จากนั้น,เจี้ยนอ้าวและฉีจิวที่บินจากไป,เสียงหวีดหวิวฉีกกระชากสายลม,หายไปที่ขอบฟ้าไกลในทันที.

ที่ไกลออกไปนั้นเหล่าประชาชนทั่วไปนั้น,ยังไม่กล้าออกมาจากที่ซ่อนแต่อย่างใด.

"ประสกทั้งสอง,เชิญ!"เซอคงที่กล่าวออกมาด้วยรอยยิ้ม.

"เชิญ!"จงซานพยักหน้ารับ,จ้องมองเซียนเซียนเซิงซือ,ก่อนที่จะบินตามเซอคงไปทางทิศเหนือ.

ในป่าบนภูเขาที่อยู่ไกลออกไป.

"เอาล่ะ,ไม่จำเป็นต้องว่ากล่าวสิ่งใด,ท่านก็ไปตามทางของท่าน,ข้าก็จะไปตามทางของข้า."เนี่ยนโหยวโหยวกล่าว,จากนั้นนางก็บิน.

จงซานและเซียนเซิงซือที่บินตามเซอคง,โดยมีเนี่ยนโหยวโหยวลอบตามมาห่างๆมาด้วย.

เซอคงนำจงซานและเซียนเซิงซือ,ผ่านกลุ่มก้อนเมฆเข้าไอย่างอย่างรวดเร็ว,ผ่านเข้าไปในค่ายกลอรหันต์แสนภูผา,ตลอดเส้นทาง,เซอคงที่แสดงไมตรีจิตเป็นอย่างดี,เฝ้าถามเรื่องราวต่างๆของจงซาน,จงซานและเซียนเซิงซือที่เอ่ยเพียงนามของตน,ส่วนเรื่องอื่นๆนั้นไม่ได้บอกกล่าวตอบเซอคง,ราวกับว่ารับรู้อะไรบางอย่างได้.

ทั้งคู่ที่บินผ่านมาสองวันครึ่ง,จงซานและเซียนเซิงซือที่ดวงตาหดเกร็ง.

"เฮ้เฮ้,ภายในหมอกค่ายกลอรหันต์แสนภูผานั้น,ยกเว้นผู้ฝึกตนเส้นทางอรหัน,คนอื่นๆล้วนแล้วแต่ถูกระงับพลังฝึกตน,อีกทั้งคนที่ฝึกฝนพลังฝึกตนเส้นทางพุทธะ,จะทำให้มีพลังเพิ่มขึ้นอีกด้วย."เซอคงกล่าวออกมาด้วยรอยยิ้ม.

จงซานที่กวาดตามองพื้นที่รอบๆ,ดูเหมือนว่าจะไม่ได้ดูแตกต่างกัน,ทว่ากลับมีพลังบางอย่างมาปิดกั้นพลังฝึกตนของเขาเอาไว้.

"ภายในหมอกค่ายกลอรหันต์แสนภูเขา,ทุกพื้นที่,เป็นเหมือนกันอย่างงั้นรึ?"จงซานกล่าวออกไปด้วยความสงสัย.

"เป็นเช่นเดียวกัน!"เซอคงกล่าว.

"หืม? มีขีดจำกัดความสูงด้วยอย่างงั้นรึ?"จงซานที่กวาดตามองท้องฟ้า,เพราะว่าเหมือนกับตำหนักสังสารวัฏที่หนีปู่ซ่าเคยแสดงให้ดู,เมฆสีขาวที่ปกคลุมพื้นที่ทั้งหมด,ปกคลุมสูงขึ้นไป,มองไม่เห็นจุดสิ้นสุด.

"เป็นพลังของอรหันต์,เป็นธรรมดาที่จะมีพลังไร้ขอบเขตสูงไปจนถึงสวรรค์."เซอคงที่กล่าวตอบ.

จงซานที่หลับตาลง,บัวหงหลวนที่ขยับไปมาทันที,รู้สึกราวกับว่ายากที่จะเข้าใจ,พื้นที่รอบๆนี้เต็มไปด้วยความสงบ,ก่อนที่จงซานจะได้ยินเสียงอะไรบางอย่างที่ดังคลุมเครือ

"โอม มา นี บา บี ฮง" (บทสวดคาถาหัวใจพระแม่กวนอิมมหาโพธิสัตว์ (พระอวโลกิเตศวรโพธิสัตว์)

........................................***********
บทสวดคาถาหัวใจพระแม่กวนอิมมหาโพธิสัตว์ (พระอวโลกิเตศวรโพธิสัตว์)
คาถา "โอม มา นี บา บี ฮง" นี้ใช้สวดได้ในทุกอิริยาบถ ทุกเวลา ถ้ายิ่งสวดได้มากยิ่งเป็นการดี การสวดครั้งหนึ่งผู้ปฏิบัติควรจะท่องสวดด้วยจิตนอบน้อมถึงองค์พระแม่กวนอิมมหาโพธิสัตว์ (อวโลกิเตศวร) จึงเป็นบุญเป็นผลอย่างอเนกอนันต์ เวลาสวดอย่ารีบร้อน โดยใช้วิธีนับประคำ 108 เม็ด สวด 1 จบ นับ 1 เม็ด สวดครบ 108 จบ เมื่อสวดจนครบแล้ว ให้พิมพ์หนังสือธรรมะและบทสวดมนต์นี้แจกเป็นธรรมทาน จำนวนมากกว่าอายุของผู้สวดหรือ 108 เล่ม หรือมากกว่านั้นยิ่งดี เพื่อเป็นการเสริมบารมีดวงชะตาราศีให้ผู้สวดอายุยืนยาว เป็นมงคลแก่ชีวิตอย่างยิ่ง
คาถา "โอม มา นี บา บี ฮง" ในภาษาจีน หรือ "โอม มณี ปัทเม หุม" ในภาษาสันสกฤต เป็นคาถาอันศักดิ์สิทธิ์ที่ชาวพุทธมหายานทั้งหลายไม่ว่าจะในประเทศอินเดีย ธิเบต จีน ญี่ปุ่น เกาหลี ไต้หวัน เป็นต้น ต่างทราบกันดีว่าเป็นคาถาหัวใจของพระแม่กวนอิมมหาโพธิสัตว์ (อวโลกิเตศวร)
มูลเหตุแห่งพระคาถาบทนี้มีว่า ในครั้งอดีตอันยาวนาน ขณะที่พระมหาโพธิสัตว์อวโลกิเตศวรกำลังเข้าสมาธิบำเพ็ญบารมีอยู่นั้น หมู่มารได้มาราวีรังควาน แต่ด้วยพระมหาเมตตากรุณาอันยิ่งใหญ่ไพศาลของพระองค์จึงมิได้ทรงตอบโต้แต่ประการใด หมู่มารเห็นเช่นนั้น ก็ได้ใจยิ่งราวีหนักขึ้นจนในที่สุดพระมหาโพธิสัตว์อวโลกิเตศวรได้ทรงเปล่งพระวาจาออกมาสั้น ๆ เพียง 6 คำ แต่เปี่ยมล้นด้วยบุญญาภินิหารอันยิ่งใหญ่ไพศาลมิอาจจะเปรียบประมาณได้ ซึ่งก่อกำเนิดมาจากก้นบึ้งแห่งดวงจิตที่ได้บำเพ็ญสั่งสมบุญบารมีมานานนับภพนับชาติไม่ถ้วนยิ่งกว่าเม็ดทรายในมหานทีคงคา ว่า "โอม มา นี บา บี ฮง" ซึ่งด้วยอิทธิปาฏิหาริย์ของพระคาถาบทนี้เอง ทำให้หมู่มารทั้งหลายต่างขวัญหนีแตกกระเจิงไปสิ้น อีกทั้งเหล่าทวยเทพยดาบนชั้นฟ้าต่างต้องสะดุดลุกขึ้นมาโมทนาโดยทั่วถ้วน
"โอม มา นี บา บี ฮง" นี้คือคาถาหัวใจพระแม่กวนอิมนี้ คนจีนเรียกว่า หลัก ยี่ ไต่ เหม่ง อ้วง จิ่ว ทุกอักษรในคาถา เป็นทางแห่งปัญญาอันสว่างไสว มีความศักดิ์สิทธิ์ทรงพลานุภาพมหาศาล
ที่มา https://ru-clip.net/video/2S9Mmy3r8zc/โอม-มานีบาบีฮง-2-hour-om-mani-padme-hum-六字大明咒.html






ที่มาจากhttps://lnmtl.com/novel/immortality

#นิยาย เรื่องอมตะ #Immortality#นิยายแปลไทย
Author(s)


สนใจสนับสนุนพวกเรา,เข้าร่วมกลุ่ม VIP ====> Click

***เว็ปฟรีอัพ สองวันหนึ่งตอน
***กลุ่มลับ อัพ 2-3 ตอนต่อวัน.

 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น