วันศุกร์ที่ 2 สิงหาคม พ.ศ. 2562

Immortality Chapter 392 Grows thickly aggressively

Immortality Chapter 392  Grows thickly aggressively

นิยาย เรื่อง อมตะ ตอนที่ 392 พัฒนาไปเป็นความดุร้าย.

Chapter 392  Grows thickly aggressively
霸气
พัฒนาไปเป็นความดุร้าย.

กลุ่มของโจรร้ายอาชาปิศาจมายาที่พุ่งเข้ามาพร้อมกัน,จงซานไม่ได้ถอยเลยแม้แต่ก้าวเดียว,ที่มุมปากที่เผยยิ้มออกมาด้วยความดุร้าย,สายตาจ้องเขม็ง,แววตาเต็มไปด้วยความเย็นชา,พร้อมกับกระชับดาบแน่น.

"ตูมมมมมม!"

ภายใต้ดาบของจงซานที่รุนแรงทรงพลัง,ไม่ต่างจากเต้าหู้,อาชาปิศาจมายาระดับแกนทอง,ถูกสับตายไปเป็นสองท่อนพร้อมกันหมด.



เป็นการตัดตามขวาง,ด้วยการสะบัดอย่างรวดเร็ว,เหล่าโจรร้ายไม่สามารถหลบได้,พริบตาเดียวก็ขาดเป็นสองท่อนลอยออกไป,ความเร็วที่เห็นเป็นริ้วแสง,ทะยานเป็นเส้นติดๆกัน,โลหิตที่พุ่งกระฉูด,ร่างของเหล่าปิศาจร้ายที่กระเด็นแยกไปคนละทิศ.

จงซานที่โจมตีอย่างไรปราณี,นอกจากนี้เหล่าโจรร้ายที่พยายามจะตอบโต้หากแต่ไม่สามารถเคลื่อนที่ได้รวดเร็วพอที่จะโจมตีจงซาน,ก่อนที่จะถูกจงซานแยกเป็นสองส่วนด้วยความเร็ว,ฟาดฟันสังหารโจรร้ายที่เคลื่อนที่เข้าใกล้ที่สุด,ถูกแยกชิ้นส่วนติดต่อกันไปเรื่อยๆ.

ตัด,สับและตัด!

ทุกครั้งที่จงซานตัดออกไป,โลหิตที่พุ่งกระฉูดตาม,ทุกคมดาบที่กวาดผ่านจะกลายเป็นศพไปในทันที.

เหล่าโจรร้าย,ที่ไร้ซึ่งความกลัว,ยังคงเคลื่อนที่เข้าหาจงซานไม่หยุดหย่อน,กระชักอาชาปิศาจมายาบุกเข้ามาเรื่อยๆ..

ด้วยวิชาวงจรสายฟ้าต้นกำเนิด,ไม่เพียงแต่คมดาบเท่านั้น,ยังอาบไปด้วยสายฟ้า,ที่เคลื่อนที่ด้วยความเร็ว,ตัดเหล่าศัตรูด้านหน้าอย่างต่อเนื่อง.

โลหิตที่ฟุ้งกระจาย,เศษชิ้นส่วนร่างกายที่ลอยฟุ้ง,ดวงตาของจงซานที่เปลี่ยนเป็นสีแดง,สังหารไม่หยุด.

จงซานที่เปลี่ยนเป็นเหมือนกับเครื่องบดเนื้อ,ทุกพื้นที่ที่เคลื่อนที่ผ่านปรากฏเศษชิ้นส่วนเต็มไปหมด,สายโลหิตที่พุ่งกระฉูดสาดกระเซ็นไม่หยุด.

ส่วนอีกฝั่ง,เจี้ยนอ้าว,ที่เคลื่อนที่ด้วยความงดงาม,ประณีต,กระบี่ที่เหวี่ยงออกไปปรากฏเป็นปราณกระบี่รูปดอกบัว,ค่อยๆคลี่ออกไปช้าๆ,พร้อมกับสังหารเหล่าโจรร้ายพร้อมๆกัน,สังหารด้วยความเร็ว,แม่นยำ,เข้าจุดตายทุกคมกระบี่,แตกต่างจากจงซานที่เต็มไปด้วยความบ้าคลั่ง.

ที่ไกลออกไป,บนยอดเขาสูง.

เซียนเซิงซือและฉู่จิวที่ขมวดคิ้วไปมาเล็กน้อย.

"จงซาน? ภายในใจข้าถึงกับต้องหวั่นเกรงอีกครั้งแล้ว."ฉู่จิวที่สูดหายใจลึก.

"หืม?"เซียนเซิงซือที่หันหน้าไปมาฉู่จิว.

"เป็นเพลงดาบที่ดุร้ายยิ่งนัก,เต็มไปด้วยความดุดันและเสี่ยงภัย,ยี่สิบปีที่แล้ว,จากเพลงกระบี่เติบโตกลายเป็นเพลงดาบที่ดุร้าย,ไม่พบกันมาหลายปี,ดูน่าเกรงขามยิ่งนัก."ฉู่จิวที่สูดหายใจยาว.

"ยี่สิบปีที่แล้ว,อย่างงั้นรึ?"เซียนเซิงซือที่ขมวดคิ้วไปมา.

"ใช่,ในเวลานั้นข้าเองเป็นคนที่คอยเฝ้ามอง,เขาใช้เพลงกระบี่ที่เต็มไปด้วยความเสี่ยงภัย,รุนแรงไร้ซึ่งความหวาดกลัว,ทำให้ภายในใจของข้าสั่นไหวที่เดียว,มันทำให้ข้ารู้สึกชิงชังนัก,ทุกๆครั้งล้วนแล้วแต่มีเรื่องที่คาดไม่ถึง,เป็นความสามารถที่คนธรรมดาไม่สามารถก้าวไปถึง,การต่อสู้ของเขาในแต่ละครั้งนั้น,ได้โยนตัวเองเข้าสู่อันตราย,เต็มไปด้วยความดุดัน,จิตใจเต็มไปด้วยจิตสังหาร,ราวกับว่าเต็มไปด้วยความคลั่งแค้น,จนทำให้ภายในใจข้ารู้สึกหวั่นไหว."ฉู่จิวที่กล่าวออกมากับความสามารถของจงซาน,

"เจ้ามั่นใจอย่างงั้นรึ?"เซียนเซิงซือที่ขมวดคิ้วไปมา.

"ข้าเคยเห็นมาก่อน,ทว่า,ไม่คิดเลยว่าเขาจะเด็ดเดี่ยวถึงเพียงนี้,เขาที่ราวกับว่าเต็มไปด้วยความคลั่งแค้นเช่นนี้,ถูกกดดันอย่างหนักเพื่อที่จะผลักดันให้ตัวเองก้าวขึ้นไปให้สูง,แม้บางครั้งเขาจะดูบ้าคลั่ง,แต่เต็มไปด้วยความเยือกเย็น,ทำให้เขามีความแข็งแกร่ง,เจ้าไม่รับรู้รึว่ายิ่งนานวันเขาก็ยิ่งร้ายกาจ? บางที,เส้าเหยี่ยของข้าคงได้พบกับคู่ต่อสู้ที่เหมาะสมเรียบร้อยแล้ว."ฉู่จิวที่กล่าวออกมาด้วยรอยยิ้ม.

"ด้วยประสบการณ์,ไม่แปลกใจที่เจ้ามองเห็น."เซียนเซิงซือถอนหายใจเบาๆ.

"ข้าเคยเห็นคนเช่นนี้มาก่อน,ข้าเคยเห็นปราณความดุร้ายที่ภายในใจของเขาเต็มไปด้วยความเกลียดชัง."ฉู่จิวที่กล่าวออกมาพลางถอนหายใจ.

"เคยมีคนที่เหมือนเขาอย่างงั้นรึ?"เซียนเซิงซือกล่าวออกมาเล็กน้อย.

"เคยมีคนหนึ่งที่เต็มไปด้วยความแค้น,ทำให้ทวีปศักดิ์สิทธิ์เต็มไปด้วยฝนโลหิต,สังหารผู้คนไปมากมายหลายล้านล้านชีวิต,ด้วยเหตุนี้,จึงไม่ควรจะเป็นศัตรูกับคนเช่นนี้!"ฉู่จิวกล่าวออกมา.

"ทำลายล้างมนุษย์ชาติอย่างงั้นรึ?"เซียนเซิงซือกล่าวออกมาเบาๆ.

"หากไม่เชื่อเจ้าสามารถสืบข้อมูลได้,เขามีนามว่า,เสวียนหยวน."ฉู่จิวที่เผยยิ้มและไม่กล่าวออกมา.

"ไม่จำเป็น,ข้าเองก็เคยเห็นคนเช่นนี้เช่นกัน."เซียนเซิงซือที่ส่ายหน้าไปมา.

"หืม?เจ้าเองก็เคยเห็นอย่างงั้นรึ?"ฉู่จิวที่จ้องมองไปยังเซียนเซิงซือ.

เซียนเซิงซือที่ไม่ได้กล่าวอะไรออกไปอีก,คนทั้งสองที่มองหน้ากันและกัน.

ตำแหน่งของจงซาน,ที่เป็นเครื่องบดเนื้อ,เข้าสังหารเหล่าโจรร้ายด้วยความดุร้าย,หากแต่ฝ่ายตรงข้ามเองก็พุ่งเข้าหาจงซานโดยไร้ซึ่งความหวาดกลัวเช่นกัน.

บนหน้าผากของเหล่าโจรร้ายที่มีอักษรเหยา,ดูเหมือนว่าจะไม่ใช่อักษรธรรมดา,กับสายตาและความดุร้ายของเหล่าโจรร้ายที่พุ่งเข้ามาอย่างไม่หวาดกลัว.

อาชาปิศาจมายาที่มีระดับแกนทอง,ไม่ได้อยู่ในความใส่ใจของจงซานแม้แต่น้อย,และเหล่าโจรร้ายเองก็มีเพียงแค่ระดับก่อตั้งวิญญาณเท่านั้น.

"โฮกกกก"

ผู้ฝึกตนระดับก่อตั้งวิญญาณที่กระชับอาชาปิศาจมายา,พุ่งเข้าหาจงซาน,กองกำลังมากมาย,ที่ปลดปล่อยพลังสร้างปราณกระบี่และปราณดาบโจมตีมายังจงซานพร้อมๆกัน.

ระดับก่อตั้งวิญญาณ? มีหรือที่จงซานจะหวาดกลัว,กับการต่อสู้ระดับนี้? ดวงตาของจงซานที่ชำเลืองมอง,ก่อนที่จะตวัดดาบออกไป,สร้างปราณดาบยักษ์ออกไป,เป็นปราณดาบที่มีขนาดใหญ่โตเป็นอย่างมาก,พุ่งออกไปอย่างบ้าคลั่ง,กวาดผ่านทั่วทั้งสนามรบ.

"ตูมมมมมมม!"

เกิดระเบิดเสียงดังสนั่น,เมืองเล็กที่พังทลาย,กลายเป็นซากปรักหักพังไปในทันที,หมอกควันที่ฟุ้งกระจาย,โจรร้ายระดับก่อตั้งวิญญาณสี่คนถูกสังหารไปในทันที,เพียงแค่ดาบเดียว.

เป็นปราณดาบที่ทรงพลังเป็นอย่างมาก,ยังไม่จบแค่นั้น,ดาบของจงซานที่กวาดออกไปเห็นเป็นเพียงริ้วแสง,เกิดระเบิดออกไปยังพื้นที่รอบๆ.

ทุกคมดาบที่พุ่งออกไปเกิดเป็นพายุทอนาโดขนาดใหญ่,คมวายุที่แข็งแกร่ง,ตัดผ่านทุกสิ่งที่อย่างที่อยู่รอบๆ.

เพลงดาบของจงซานแม้คมดาบบางริ้วแสงจะไม่ตัดออกเป็นสองซีก,ทว่าก็เกิดระเบิดเสียงดังสนั่นด้วยคมวายุ.

เพียงแค่ระดับก่อตั้งวิญญาณรึ? หลิวเต๋าที่มีระดับหลอมกายธาตุที่ทรงพลังยังตายด้วยฝีมือของจงซานมาแล้ว,จงซานนั้นยังต้องสนใจคนที่มีระดับต่ำกว่าระดับหลอมกายธาตุอีกรึ?

เป้าหมายของจงซานนั้น,ก็คือหัวหน้าของเหล่าโจรร้าย,เขาที่พุ่งตรงเป็นเส้นทางตรงไปยังหัวหน้าของพวกมันเพื่อแย่งชิงหยกประหลาดนั่นมา.

เหล่าโจรร้ายที่ไม่รู้จักความหวาดกลัว,ราวกับว่าไม่มีสมองมีเพียงกล้ามเนื้อเท่านั้น,ร่างกายของพวกมันที่ระเบิดออกมาติดๆกัน,แต่กระนั้นก็ยังพุ่งเข้ามาไม่หยุด,จ้องมองมายังจงซานด้วยความโลภ,หยิ่งยโสรึ? เหี้ยมหาญถึงเพียงนี้เลยรึ?

การโจมตีของจงซาน,นั้นเต็มไปด้วยความรุนแรง,สังหารไปพร้อมๆกัน,ส่วนเจี้ยนอ้าวนั้น,สังหารศัตรูด้วยความประณีตที่ละศพๆ!

ที่ด้านเหนือนั้นพื้นที่รอบๆยังอยู่ในสภาพไม่ได้เสียหายนัก,เจี้ยนอ้าวที่ลอบมองจงซานเป็นระยะ,จงซานร้ายกาจและดุร้ายทรงพลังมาก,เขาไม่ได้ใช้เพลงกระบี่สุดยอดออกมา,ทว่าเป็นเพลงดาบที่ดุดัน,บดขยี้ศัตรูได้อย่างน่าหวั่นเกรงนัก.

ส่วนจงซานที่ลอบมองเจี้ยนอ้าวเป็นระยะเช่นกัน,เพลงกระบี่ของเจี้ยนอ้าวที่ราวกับบัวบาน,ที่ทะลวงออกไปรอบๆ,เพียงแค่กระบี่เดียวสร้างหลุมเพียงเล็กน้อย,ทว่ากับเกิดผลอานุภาพที่ร้ายกาจเกินกว่าจะจินตนาการถึงได้.

คนทั้งสองที่ไล่ล่าสังหารเหล่าโจรร้ายบนอาชาปิศาจมายาเคลื่อนที่ใกล้เข้าหากันเรื่อยๆ.

ส่วนเหล่าโจรร้ายนั้นเป็นอะไรที่แปลกประหลาดอย่างที่สุด,พวกมันไม่กลัวตาย! ไม่กลัวเจ็บ,ราวกับเต็มไปด้วยความยินดี,เต็มไปด้วยความห้าวหาญ.

เซียนเซิงซือและฉู่จิวที่บินช้าเคลื่อนที่เข้าสู่สนามรบเพื่อจะจ้องมองได้สะดวก.

ขณะที่อยู่ในสนารบนั้น,ฉู่จิวลอบมองเซียนเซิงซือด้วยความสงสัย,เพราะเซียนเซิงซือเริ่มเก็บศพที่ตายเก่ลือนนั้นไปด้วย!

เก็บศพคนตายอย่างงั้นรึ?

เซียนเซิงซือที่เก็บศพมากมาย,พร้อมกับออกสำรวจรอบๆเก็บศพทั้งหมดกลับไป,ฉู่จิวรู้สึกสงสัยมาก,เซียนเซิงซือผู้นี้เป็นพรตผีดิบอย่างงั้นรึ?

เหล่าคนทั่วไปที่อยู่ตรงกลางภายในค่ายกล,ที่สังเกตเห็นว่ามีคนเริ่มสังหารเหล่าโจรอาชาปิศาจมายา,รู้สึกดีใจเป็นอย่างมากที่มีคนมาช่วย,คนมากมายที่เฝ้ามองไปยังจงซานที่ไล่ล่าสังหารศัตรู,ทว่ากับรู้สึกร่างสั่นสะท้านแบบไม่รู้ตัว,น่าหวาดกลัว,หลายๆคนถึงกับต้องอาเจียนออกมาทีเดียว,ดาบของจงซาน,ที่ฟาดฟันออกไปเหล่าโจรร้ายที่ระเบิดออกมาติดๆต่อกัน,ร่างกายของพวกมันที่บิดเบี้ยวก่อนระเบิดออกมาราวกับลูกแตงโมถูกทุบ!

สายตาทุกคนที่เฝ้ามองพลางเงียบเสียงไป.

ในเวลาเดียวกัน,ไม่ไกลออกไปจากสนามรบ,บนทิศตะวันออกของเมืองเล็ก,มีหนึ่งชายหนึ่งหญิง,ซึ่งหนึ่งในนั้นจ้องมองไปยังจงซานด้วยความสนใจเป็นอย่างมาก.

คนทั้งสองที่ยืนอยู่บนภูเขาครึ่งซีก,บนเนินเขา! พลางขมวดคิ้วจ้องมองไปยังสนามรบด้านหน้า.

ชายในชุดสีน้ำเงิน,ทั้งชุดแม้แต่เส้นผมยังเป็นสีน้ำเงิน,ผิวละเอียด,ใบหน้าหล่อเหล่า,โดดเด่นเป็นอย่างมาก,จนดูคล้ายกับหญิงสาวด้วยซ้ำ,แน่นอนว่าเป็นที่ดึงดูดต่อหญิงสาวมากมายเป็นแน่,ตราบเท่าที่ขยิบตาให้,เหล่าสาวงามคงร่างอ่อนระทวยดวงตาลมโตอย่างแน่นอน.

"เนี่ยนโหยวโหยว,ทำไมจะต้องมาซ่อนในป่าแห่งนี้ด้วย?"ชายคนดังกล่าวเอ่ย.

หญิงสาวคนดังกล่าวที่ตะลึงงันคาดไม่ถึงเลยว่าจะมาพบกับจงซานที่นี่.

"ข้าเห็นบางอย่างที่น่าสนใจ."เนียนโหยวโหยวที่จับจ้องมองไปยังตำแหน่งของจงซานด้วยรอยยิ้ม.

"หืม?"ชายคนดังกล่าวจ้องมองไปยังสนามรบ.

"น่าสนใจ."ชายคนดังกล่าวที่เผยยิ้มหยันๆออกมา.

"หืม,ศิษย์พี่ไม่เห็นรึ?ชายสองคนในสนามรบด้านหน้า?"เนี่ยนโหยวโหยวที่จ้องมองพลางสอบถาม.

"ชายในดาบยักษ์นั่นไร้ซึ่งศิลปะเต็มไปด้วยความดุร้าย,ข้าว่ามีคนเดียวที่น่าสนใจ,เพลงดาบที่งดงามประณีต,น่าสนใจจริงๆ!"ชายคนดังกล่าวเผยยิ้มออกมาอย่างชั่วร้าย.

"หืม?ข้ารู้สึกสนใจคนถือดาบยักษ์นั่น."เนี่ยนโหยวโหยวที่ชำเลืองมองจงซานด้วยรอยยิ้ม.

"เจ้า?"ชายในชุดสีนำเงินที่แสดงท่าทางประหลาดเล็กน้อย.

"ใช่,หลังจากนี้,พวกเราแยกกันก็แล้วกัน,ท่านตามมือกระบี่ไป,ส่วนข้าจะตามคนถือดาบไปเป็นอย่างไร?"เนี่ยนโหยวโหยวที่ถือแส้หนังเอาไว้.

"เจ้าต้องการแยกกับข้าอย่างงั้นรึ?"ชายคนดังกล่าวเอ่ยออกมาด้วยท่าทางประหลาดใจ.

"มีปัญหาอะไรกัน? ไม่ใช่ว่าท่านกำลังไล่ตามเป่ยชิงซือมาหรอกรึ? แล้วจะมาตามข้าเพื่ออะไร?"เนี่ยนโหยวโหยวกล่าวล้อ.

ชายในชุดสีน้ำเงินเอ่ยออกมาในทันที,"เจ้าไม่รู้รึอย่างไรว่าพวกเราออกมาทำอะไร? ไม่ใช่ว่าเจ้าเองก็ต้องการ โลหิตแมงมุมแม่ม่าย,หรือว่าเจ้าไม่ต้องการแล้ว!"

"ศิษย์พี่อย่างได้โกรธเกรี้ยว!"เนี่ยนโหยวโหยวกล่าวปลอบ.

ชายในชุดน้ำเงินที่เอ่ยออกมาด้วยรอยยิ้มที่ชั่วร้าย,"หากไม่เพราะเป่ยชิงซือ,บางทีดอกกุหลาบที่เจ้าชื่นชอบ,ข้าคงต้องหามาให้เจ้า,ช่างน่าเสียหายที่ข้าได้พบนางก่อนแล้ว,แต่เป้าหมายของข้าราวกับภูเขาน้ำแข็งของแดนเทพอมตะไม่รู้ว่าจะสามารถหลอมละลายได้หรือไม่?."

"เป่ยชิงซืออย่างงั้นรึ? เฮ้เฮ้,ศิษย์พี่ต้องทำสำเร็จแน่,ทว่า,ท่านก็ไม่ควรที่จะประเมินนักดาบคนนั้นต่ำเกินไป."เนี่ยโหยวโหยวที่กล่าวล้อและจ้องมองไปยังชายในชุดสีน้ำเงิน.

ความเป็นจริง,ชายในชุดสีน้ำเงินคงจะไม่รู้ว่าภายในใจเป่ยชิงซือนั้นมีจงซานอยู่,ทำให้เขามองข้ามมือดาบนั่นไป.

ได้ยินคำพูดของเนี่ยนโหยวโหยว,ชายในชุดสีน้ำเงิน,ที่ราวกับคาดเดาอะไรได้บางอย่าง? เนี่ยนโหยวโหยวหมายความว่าอย่างไร,ก่อนที่จะมองไปยังจงซานที่อยู่ไกลออกไป.


เพลงดาบที่ดุร้าย,โลหิตที่สาดกระจายอาบร่าง,เป็นอะไรที่ไม่น่าอภิรมย์นัก,คนที่จิตใจบริสุทธิ์คงยากจะสามารถทำได้,เขาที่จ้องมองอย่างเย็นชาไปยังจงซาน,ก่อนที่จะหันหน้ากลับไปมองเจี้ยนอ้าวอีกครั้ง.




ที่มาจากhttps://lnmtl.com/novel/immortality

#นิยาย เรื่องอมตะ #Immortality#นิยายแปลไทย
Author(s)


สนใจสนับสนุนพวกเรา,เข้าร่วมกลุ่ม VIP ====> Click

***เว็ปฟรีอัพ สองวันหนึ่งตอน
***กลุ่มลับ อัพ 2-3 ตอนต่อวัน.

 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น