วันศุกร์ที่ 2 สิงหาคม พ.ศ. 2562

Immortality Chapter 390 Again with Jian Ao

Immortality Chapter 390 Again with Jian Ao

นิยาย เรื่อง อมตะ ตอนที่ 390  พบเจี้ยนอ้าวอีกครั้ง.


Chapter 390 Again with Jian Ao
再遇
  พบเจี้ยนอ้าวอีกครั้ง.

ห้าเดือนหลังจากนั้น,จงซานนำกองกำลังผ่านมาถึงชายแดนของราชวงศ์สวรรค์ต้าโหลว.

กองกำลังที่เคลื่อนทัพมาไม่หยุด.

"รายงาน!"

ที่ไกลออกไปนั้นทหารสังเกตการที่บินมาด้วยความรวดเร็ว.



"เรียนจอมพล,ที่ด้านหน้านั้นพบกับกองกำลังหลายล้านคน,ตอนนี้กำลังกำลังตั้งค่ายอยู่,มีธงแม่ทัพเป็น "ไท่จง" ทหารสังเกตการณ์กล่าวรายงาน.

"ไท่จง? ไท่จื่อลำดับสาม,อ๋องไท่จงรึ?"สุ่ยอู๋เหินที่กล่าวออกมาด้วยท่าทางประหลาดใจ.

"กำลังรออยู่รึ?"หลินเซียวที่กล่าวออกมาด้วยท่าทางสงสัย.

"รอรึ?"สุ่ยอู๋เหินจ้องมองไปยังหลินเซียว,แสดงท่าทางสงสัย.

"กล่าวให้ถูกต้อง,น่าจะเรียกว่าพวกเขามารอจอมพลอยู่."หลินเซียวกล่าว.

จงซานจ้องมองไปยังพื้นที่ไกลออกไป,จ้องมองไปยังทหารสังเกตการณ์แล้วกล่าวว่า,"นำทาง!"

กองทัพทั้งหมดที่เคลื่อนที่ช้าๆตรงไปยังค่ายที่เรียกว่ากองกำลังไท่จง.

จากนั้นไม่นาน,จงซานก็เห็นกองกำลังหลายล้าน,บนที่ราบกว้าง,กำลังประจำการนิ่ง,กองกำลังทหารที่มีขนาดใหญ่เป็นอย่างมาก,พร้อมกับตำหนักขนาดใหญ่,เป็นที่พักของอ๋องไท่จง.

ที่ด้านหน้านั้นมีเหล่าขุนพลของอ๋องไท่จง,ต่างก็เป็นขุนพลคนสนิท,ที่ราวกับว่ากำลังรอคอยเขาอยู่.

จงซานที่ตรงไปยังพื้นที่ดังกล่าว.

"ซ่างเฉินจงซาน,คารวะท่านอ๋อง,แม่ทัพทุกท่าน!"จงซานที่แสดงความเคารพต่อทุกคน.

"กงตงฟางอย่างได้เกรงใจ,การที่กงตงฟางมาปรากฏตัวที่นี่ฝ่าบาทได้แจ้งมาแล้ว,ข้าเองคาดหวังที่จะได้เชิญเจ้าไปเมืองไท่จงเพื่อพบปะพูดคุยกับเจ้าอยู่เหมือนกัน,ทว่าก็รับรู้ดีว่ากงตงฟางนั้นมีเรื่องสำคัญที่ต้องจัดการ,เกรงว่าจะล่าช้า,ดังนั้นจึงได้เดินทางมาพบกับกงตงฟางโดยเฉพาะ"อ๋องไท่จงที่กล่าวออกมาด้วยรอยยิ้มเป็นมิตร,พร้อมกับกุมมายังแขนของจงซาน,ก่อนที่จะพาจงซานเข้าไปยังตำหนักด้านใน.

จงซานที่ต้องขมวดคิ้วไปมา,ภายในใจสัมผัสได้ถึงความร้ายกาจของอ๋องไท่จง,แม้พลังฝึกตนจะไม่ได้สูงเทียบกับไท่จื่อคนอื่นๆ,ทว่ากับนิสัยใจคอเช่นนี้,เป็นคนที่ยากจะคาดเดาได้.

"ท่านอ๋องเกรงใจไปแล้ว."จงซานที่ก้าวตามท่านอ๋องด้วยความนอบน้อม.

หลินเซียว,สุ่ยอู๋เหินและหลิวอู๋ซ่างอยู่ดูแลกองทัพด้านนอก,เซียนเซิงซือและจื่อเห่าตามเข้าไปด้านใน.

ภายในห้องโถงนั้นมีการจัดตกแต่งเป็นงานเลี้ยงที่ดูอลังการเป็นอย่างมาก.

"กงตงฟาง,กับบทความนทีสีชาด,แผนการสวรรค์ล่ม,และยังโต้วาทีที่ดุเดือดกับเฉินฉีเทียน,ทุกอย่างที่เกิดขึ้นนั้น,ทำให้ข้ารู้สึกชื่นชมนัก,ในโลกนี้จะมีสักกี่คน,"อ๋องไท่จงที่เชิญจงซานและคนอีกสองคนนั่งลงยังที่นั่ง.

"ท่านอ๋องยกย่องไปแล้ว,จงซานเพียงแค่โชคดีเท่านั้น."จงซานกล่าวอย่างถ่อมตน.

"โชคดีรึ?เฮ้เฮ้,จะมีสักกี่คนในโลกหล้าที่โชคดีถึงเพียงนี้? ไม่รู้ว่าสำนักใดของกงตงฟางได้สั่งสอนเช่นไร,กงตงฟางถึงได้มีความสามารถึงเพียงนี้?"อ๋องไท่จงที่กล่าวออกมาด้วยรอยยิ้ม.

จงซานที่ขมวดคิ้วเล็กน้อย,อ๋องไท่จงไม่รู้ว่าเขาอยู่สำนักไคหยางงั้นรึ?

"เฮ้เฮ้,เป็นเพียงสำนักเล็ก,มีแต่จะทำให้เป็นที่หัวเราะ,อย่าได้กล่าวถึงเลย!"จงซานที่ส่ายหน้าไปมาด้วยรอยยิ้ม.

อ๋องไท่จงที่ไม่เห็นจงซานต้องการเอ่ย,ดังนั้นจึงไม่ได้ฝืนถามต่อไป,นี่เป็นงานเลี้ยงลับๆที่เขาได้จัดขึ้นเพื่อพูดคุยหาประโยชนเล็กน้อยกับจงซาน,คงไม่ดีนักหากว่าบังคับเขา,อ๋องไท่จงนั้นนับว่าเป็นคนที่ชาญฉลาด,ใบหน้าที่เปื้อนไปด้วยรอยยิ้ม,เขาที่ต้องการเชื่อมสัมพันธ์กับจงซานเอาไว้,มัดใจจงซานด้วยนั่นเอง.

ภายในงานเลี้ยง,ได้มีการจัดเตรียมนางรำที่งดงาม,แม้ว่าอาจจะเทียบไม่ได้กับเนียนโหยวโหยวในการระบำทราย,ทว่านางรำที่นำมานั้นก็นับว่างดงามโดดเด่นเป็นอย่างมาก.

เซียนเซิงซือและจื่อเห่านั้นไม่ได้กล่าวสิ่งใดตั้งแต่ต้นจนจบ,นั่งอยู่เงียบๆตลอดหนึ่งชั่วโมง.

"ท่านอ๋อง,มีทหารสองคนที่มีตราของท่านอ๋อง,กล่าวว่าต้องการพบกับท่านอ๋อง."ในเวลาเดียวกันขุนพลผู้หนึ่งก็กล่าวออกมา.

"หืม? ตราของข้า?"อ๋องไท่จงที่แสดงท่าทางสงสัยเล็กน้อย.

"นางรำหยุดได้แล้ว,เชิญเข้ามา!"อ๋องไท่จงราวกับว่านึกอะไรได้,จึงได้กล่าวออกมาในทันที.

"หืม?"จงซานที่แสดงท่าทางสงสัยเล็กน้อย,ทหาร? ทหารของอ๋องไท่จงรึ? ทำไมถึงได้ทำให้อ๋องไท่จงดูจริงจังขนาดนั้น?

"รับทราบ!"ขุนพลคนดังกล่าวรับคำก่อนที่จะก้าวออกไป.

จากนั้นไม่นาน,ก็มีชายสองคนที่ก้าวเข้ามาในห้องโถง.

คนทั้งสองได้ถอดชุดนักรบออกแล้ว,ตอนนี้สวมชุดสีขาว,ที่ด้านหลังสะพายกระบี่ยาว,หนึ่งคนด้านหลังที่ตามมานั้นดูเหมือนว่าจะเป็นคนรับใช้.

สองคนที่ก้าวเข้ามานั้น,ดวงตาของจงซานที่ดวงตาหดเกร็ง,สายตาที่เต็มไปด้วยความประหลาดใจ,เพราะว่าคนทั้งสองนั้น,จงซานรู้จัก,เคยพบเจอที่เกาะหมาป่าสวรรค์,เมื่อยี่สิบปีที่แล้ว.

เจี้ยนอ้าว! ภายในค่ายกลแปดประตูกุญแจทอง,ร่างแยกเงาของจงซานที่ได้ประลองกับเจี้ยนอ้าวในครานั้น,คนทั้งสองนั้นทรงพลังเป็นอย่างมาก,เจี้ยนอ้าวผู้ฝึกตนวิถีกระบี่!พร้อมกับผู้ติดตามฉีจิว.

เจี้ยนอ้าว! ฉู่จิว!

เจี้ยนอ้าวที่ก้าวเข้ามาในตำหนัก,ทั่วทั้งร่างที่เต็มไปด้วยสายลมเอื่อยๆ,หากมองให้ระเอียดละก็มันไม่ใช่สายลม,หากแต่เป็นสนามพลังเป็นจิตกระบี่ที่แผ่ออกมา,ล้อมรอบกายของเจี้ยนอ้าว.

ฉีจิวที่ยืนอยู่ด้านหลังด้วยความเคารพ.

เจี้ยนอ้าวก้าวเข้ามาในตำหนักจ้องมองเห็นจงซาน,ทว่าไม่ได้แสดงท่าทางอะไรนัก,ไม่ได้ให้ความสนใจ,เพียงแค่มองคราหนึ่งเท่านั้น.

"เจี้ยนอ้าว,เจ้ามีสิ่งใดอย่างงั้นรึ?"อ๋องไท่จงที่โบกมือให้เหล่าผู้ใต้บังคับบัญชาถอยออกไป,พร้อมกับจัดเตรียมที่นั่งและอาหารชุดใหม่มา.

"กู่ไท่จง,เพลงกระบี่ของข้าที่ได้เข้ามาฝึกฝนร่วมในกองกำลังของเจ้า,วันนี้ได้ประสบตามความต้องการของข้าแล้ว,จึงได้เดินทางมาขอบคุณโดยเฉพาะ,และมากล่าวลาด้วย."เจี้ยนอ้าวที่จ้องมองไปยังกู่ไท่จงด้วยท่าทางเคร่งขรึม.

"กล่าวลารึ? 20 ปีในกองทัพของเจ้า,ไม่คิดเลยว่าจะรวดเร็วถึงเพียงนี้,หวังว่าหลังจากนี้เจ้าจะเดินทางมายังเมืองไท่จงบ้าง,คงจะได้เห็นเจ้าอีกครั้ง?"อ๋องไท่จงกล่าว.

"หลังจากนี้ก็แล้วแต่ชะตะจะนำพา,ข้าคิดว่าได้ตอบแทนเจ้าด้วยคมกระบี่แล้ว."เจี้ยนอ้าวที่ส่ายหน้าไปมา.

กับคำพูดของเจี้ยนอ้าว,อ๋องไท่จงที่เผยยิ้มออกมาเล็กน้อย,"เช่นนั้น,ข้าคงไม่บังคับเจ้า,หากว่ามีสิ่งใดที่เจ้าต้องการให้ข้าช่วยเหลือ,โปรดกล่าวออกมาได้เลย.

เจียนอ้าวที่แสดงความเคารพ,จากนั้นก็ก้าวออกไปพร้อมกับฉู่จิว.

เห็นเจี้ยนอ้าวจากไปแล้ว,อ๋องไท่จงที่ขมวดคิ้วไปมาเล็กน้อย,หากแต่ไม่ได้กล่าวสิ่งใดออกมา.

"ท่านอ๋อง,ข้าเองก็ต้องไปแล้วเช่นกัน,ไว้พบกันครั้งหน้า."จงซานที่กล่าวลาด้วยเช่นกัน.

"หืม? ได้,ข้าจะไปส่งเจ้า!"อ๋องไท่จงไม่ได้รั้งตัวเอาไว้,พร้อมกับออกมาส่งจงซาน.

หลังจากที่ออกจากห้องโถง,เขาได้มาส่งจงซานเป็นระยะทางถึง 100 ลี้.

บนยอดเขาแห่งหนึ่ง,อ๋องไท่จงที่จ้องมองกองกำลังของจงซานที่เคลื่อนที่ออกไปไกลแล้ว.

"เป็นอย่างไรบ้าง?"อ๋องไท่จงกล่าวกับผู้บังคับบัญชาด้านหลัง.

"สมควรต่อชื่อเสียงที่ได้รับมา!"กุนซือในชุดขาวที่ยืนอยู่ด้านหลังอ๋องไท่จงกล่าวพลางถอนหายใจ.

"เจ้าไปสืบได้ความอย่างไร?"อ๋องไท่จงที่ขมวดคิ้วจ้องมองไปมา.

"ไม่พบอะไรเลย,ภูมิหลังของจงซานนั้น,มีเพียงแค่เป็นองค์รักษ์ของกงจูเฉียนโหยวเท่านั้น,อย่างอื่นไม่มีเลย."กุนซือในชุดสีขาวที่ส่ายหน้าไปมา.

"ไม่มีร่องรอยเลยรึ? เป็นไปไม่ได้,ที่จะถูกลบไปอย่างสะอาดขนาดนั้น,ภายใต้สวรรค์,ไม่มีใครรู้จักจงซานเลยรึ,ถึงแม้ว่าข้ายังคิดว่ามันเป็นไปไม่ได้,อาจจะมีใครบางคนขวางเอาไว้อยู่หรือไม่?"อ๋องไท่จงที่หรี่ตาจ้องมอง.

"ฝ่าบาท?กงจู,หรือว่าจะเป็นฝ่าบาทที่ทำการลบล้างภูมิหลังของจงซานไป?"กุนซือชุดขาวที่ดวงตาหดเกร็ง.

"อืม,คนผู้นี้,ฝ่าบาทต้องการใช้งาน,คงไม่สามารถทำอะไรได้แล้ว,ถ่ายทอดคำสั่งข้าไป,ให้ทุกคนถอยกลับมา,ไม่ต้องสืบเรื่องของจงซานแล้ว."อ๋องไท่จงกล่าว.

"ครับ!"กุนซือในชุดสีขาวที่ตอบรับในทันที.

จงซานที่นำทัพ,มุ่งตรงไปยังทิศตะวันออกเฉียงเหนือ.

หลังจากนั้นห้าวันห้าคืน,กองกำลังใหญ่ก็ได้มาพักอยู่ภายในหุบเขาแห่งหนึ่ง,ที่กระโจมใหญ่ตรงกลางนั้น,มีแสงสว่างหนึ่งรอยจั้ง,เหล่าทหารทั้งหมดไม่เข้าใกล้,และมีการสร้างค่ายลปิดเสียงเอาไว้ด้วย.

เพราะกองกำลังจง,มีแขกที่ทรงเกียรติสองคน,เจี้ยนอ้าวและฉู่จิวนั่นเอง.

ภายในกระโจมใหญ่นั้นมีการจัดเตรียมเพียงชาเท่านั้น.

"เจี้ยนอ้าวเจ้าไม่ได้ต้องการมาประลองฝีมือกับข้าหรอกรึ?"จงซานที่กล่าวออกไปด้วยรอยยิ้ม.

เจี้ยนอ้าวจ้องมองไปยังจงซาน,"ยังไม่ถึงเวลา."

"หืม?"จงซานที่จ้องมองเจี้ยนอ้าวด้วยความสงสัย.

"เพลงกระบี่ของข้ายังไม่ชัดเจน,เจ้าเองก็ยังเติบโตได้อีก,ข้าต้องการการต่อสู้ที่ดีที่สุด,ตอนนี้จึงยังไม่ถึงเวลา.

"หลายปีมานี้,เจ้าเข้าร่วมสงครามเพื่อฝึกฝนเพลงกระบี่อย่างงั้นรึ?"จงซานกล่าวสอบถาม.

เกี่ยวกับเจี้ยนอ้าวนั้น,ไม่มีอะไรต้องอ้อมค้อม,เพราะคนผู้นี้เป็นคนทีตรงไปตรงมาก.

"นี่เป็นการฝึกฝน,เป็นการฝึกฝนเพียงเพลงกระบี่,ไม่ใช่พลังฝึกตน."เจี้ยนอ้าวกล่าว.

"ข้าบำเพ็ญเพียงพลังฝึกตน!"จงซานกล่าวออกมาด้วยรอยยิ้ม.

"พลังฝึกตนของเจ้าช้ามาก!"เจี้ยนอ้าวที่กล่าวที่ทำให้คนตื่นตะลึง.

"ช้ารึ?"แววตาของจงซานที่แสดงท่าทางประหลาดใจ,ตัวเขายังช้าอีกรึ?

"เจ้าเองก็อยู่ในระดับก่อตั้งวิญญาณระดับสาม,มีอะไรแตกต่างจากจอมพล!"จื่อเห่าที่อยู่ข้างๆทนไม่ได้เอ่ยออกมาทันที.

"ทว่าเมื่อหกเดือนที่แล้ว,เส้าเหยี่ย,เพิ่งมีพลังฝึกตนเพียงแกนทองขั้นที่หนึ่ง."ฉูจิวที่กอล่าวออกมาอย่างภาคภูมิ.

"หืม?"จงซานที่ตื่นตกใจเล็กน้อย,แกนทองขั้นที่หนึ่ง? ครึ่งปี?เพิ่มขึ้นมาถึงสิบขั้นเลยรึ?

"การบำเพ็ญจิตกระบี่,จำเป็นต้องบำเพ็ญความตั้งใจ,จวบจนสามารถตระหนักได้ถึงจิตกระบี่,ถึงจะเพิ่มพลังฝึกตนอย่างงั้นรึ?"เซียนเซิงซือที่กล่าวออกมาด้วยความประหลาดใจ.

เจี้ยนอ้าวพยักหน้ารับ.

จงซานที่ตะลึงงัน,ถอนหายใจเบาๆ,ด้วยพรสวรรค์ที่ต่ำเตี้ยของเขา,เพียงเท่านี้,ก็ถือว่าต่อต้านสวรรค์แล้ว.

"เจ้าเดินทางมายังเส้นทางนี้,ต้องการเข้าร่วมชุมนุมนิพพานที่จะจัดขึ้นทุกพันปีอย่างงั้นรึ?"เจี้ยนอ้าวที่เอยออกมาในทันที.

"ชุมนุมนิพพานอย่างงั้นรึ?"จงซานที่ขมวดคิ้วไปมา,พร้อมกับครุ่นคิดอะไรบางอย่าง.

ก่อนหน้านี้เก้าปี,จินฉานได้มอบของขวัญให้กับเขาเป็นจีวรไหมม่วง,และยังได้มอบเหรียญตราให้กับเขา,บอกว่าอีกสิบปีที่ดินแดนเทพพิสุทธิ์กำลังจะมีชุมนุมใหญ่,ใช่แล้วชุมนุมนิพพาน.

"เป็นไปได้ว่าเจ้าเองกำลังเดินทางไปยังดินแดนเทพพิสุทธิ์อย่างงั้นรึ?"จงซานสอบถาม.

เจี้ยนอ้าวที่สะบัดมือหนึ่งครั้งนำเหรียญตราออกมา,เป็นเหรียญตราเหมือนที่จงซานมี.

"พวกเขาได้ส่งเหรียญตรานี้มาให้ข้า,ทว่าข้าไม่ต้องการจะไป,หากว่าเจ้าต้องการไป,ข้ามอบมันให้เจ้า."เจี้ยนอ้าวกล่าวออกมาด้วยรอยยิ้ม,พร้อมกับส่งมันให้กับจงซาน.
"ฟรึบ!"

จงซานที่คว้าเอาไว้,ก่อนที่จะจ้องมองอย่างระเอียดอีกครั้ง,เหมือนกันจริงๆ.

"แดนเทพพิสุทธิ์รึ?"จงซานหรี่ตาเล็กจ้องมองเหรียญตราดังกล่าว.

"เหรียญตรานี้มีเพียงแค่ 81 ชิ้น,ได้มอบให้กับเหล่าผู้ฝึกตนบำเพ็ญกรรมทั่วทั้งแดนเทวะ,และอนุญาตให้เพียงแค่คนหนึ่งคนเข้าร่วม,มีข่าวลือว่าการชุมนุมนิพพานนั้น,จะมีโอกาสได้พบกับอรหันต์ด้วย,เจ้าไม่ต้องการไปอย่างงั้นรึ?"เจี้ยนอ้าวกล่าวออกมาด้วยรอยยิ้ม.


"ต้องไปอยู่แล้ว,ทว่าข้าไม่รู้เส้นทางไป!"จงซานที่จ้องมองไปยังเจี้ยนอ้าว.




ที่มาจากhttps://lnmtl.com/novel/immortality

#นิยาย เรื่องอมตะ #Immortality#นิยายแปลไทย
Author(s)


สนใจสนับสนุนพวกเรา,เข้าร่วมกลุ่ม VIP ====> Click

***เว็ปฟรีอัพ สองวันหนึ่งตอน
***กลุ่มลับ อัพ 2-3 ตอนต่อวัน.

 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น