Immortality Chapter 390 Again with Jian Ao
นิยาย เรื่อง อมตะ ตอนที่ 390 พบเจี้ยนอ้าวอีกครั้ง.
Chapter 390 Again with Jian Ao
再遇剑傲
พบเจี้ยนอ้าวอีกครั้ง.
ห้าเดือนหลังจากนั้น,จงซานนำกองกำลังผ่านมาถึงชายแดนของราชวงศ์สวรรค์ต้าโหลว.
กองกำลังที่เคลื่อนทัพมาไม่หยุด.
"รายงาน!"
ที่ไกลออกไปนั้นทหารสังเกตการที่บินมาด้วยความรวดเร็ว.
"เรียนจอมพล,ที่ด้านหน้านั้นพบกับกองกำลังหลายล้านคน,ตอนนี้กำลังกำลังตั้งค่ายอยู่,มีธงแม่ทัพเป็น
"ไท่จง" ทหารสังเกตการณ์กล่าวรายงาน.
"ไท่จง?
ไท่จื่อลำดับสาม,อ๋องไท่จงรึ?"สุ่ยอู๋เหินที่กล่าวออกมาด้วยท่าทางประหลาดใจ.
"กำลังรออยู่รึ?"หลินเซียวที่กล่าวออกมาด้วยท่าทางสงสัย.
"รอรึ?"สุ่ยอู๋เหินจ้องมองไปยังหลินเซียว,แสดงท่าทางสงสัย.
"กล่าวให้ถูกต้อง,น่าจะเรียกว่าพวกเขามารอจอมพลอยู่."หลินเซียวกล่าว.
จงซานจ้องมองไปยังพื้นที่ไกลออกไป,จ้องมองไปยังทหารสังเกตการณ์แล้วกล่าวว่า,"นำทาง!"
กองทัพทั้งหมดที่เคลื่อนที่ช้าๆตรงไปยังค่ายที่เรียกว่ากองกำลังไท่จง.
จากนั้นไม่นาน,จงซานก็เห็นกองกำลังหลายล้าน,บนที่ราบกว้าง,กำลังประจำการนิ่ง,กองกำลังทหารที่มีขนาดใหญ่เป็นอย่างมาก,พร้อมกับตำหนักขนาดใหญ่,เป็นที่พักของอ๋องไท่จง.
ที่ด้านหน้านั้นมีเหล่าขุนพลของอ๋องไท่จง,ต่างก็เป็นขุนพลคนสนิท,ที่ราวกับว่ากำลังรอคอยเขาอยู่.
จงซานที่ตรงไปยังพื้นที่ดังกล่าว.
"ซ่างเฉินจงซาน,คารวะท่านอ๋อง,แม่ทัพทุกท่าน!"จงซานที่แสดงความเคารพต่อทุกคน.
"กงตงฟางอย่างได้เกรงใจ,การที่กงตงฟางมาปรากฏตัวที่นี่ฝ่าบาทได้แจ้งมาแล้ว,ข้าเองคาดหวังที่จะได้เชิญเจ้าไปเมืองไท่จงเพื่อพบปะพูดคุยกับเจ้าอยู่เหมือนกัน,ทว่าก็รับรู้ดีว่ากงตงฟางนั้นมีเรื่องสำคัญที่ต้องจัดการ,เกรงว่าจะล่าช้า,ดังนั้นจึงได้เดินทางมาพบกับกงตงฟางโดยเฉพาะ"อ๋องไท่จงที่กล่าวออกมาด้วยรอยยิ้มเป็นมิตร,พร้อมกับกุมมายังแขนของจงซาน,ก่อนที่จะพาจงซานเข้าไปยังตำหนักด้านใน.
จงซานที่ต้องขมวดคิ้วไปมา,ภายในใจสัมผัสได้ถึงความร้ายกาจของอ๋องไท่จง,แม้พลังฝึกตนจะไม่ได้สูงเทียบกับไท่จื่อคนอื่นๆ,ทว่ากับนิสัยใจคอเช่นนี้,เป็นคนที่ยากจะคาดเดาได้.
"ท่านอ๋องเกรงใจไปแล้ว."จงซานที่ก้าวตามท่านอ๋องด้วยความนอบน้อม.
หลินเซียว,สุ่ยอู๋เหินและหลิวอู๋ซ่างอยู่ดูแลกองทัพด้านนอก,เซียนเซิงซือและจื่อเห่าตามเข้าไปด้านใน.
ภายในห้องโถงนั้นมีการจัดตกแต่งเป็นงานเลี้ยงที่ดูอลังการเป็นอย่างมาก.
"กงตงฟาง,กับบทความนทีสีชาด,แผนการสวรรค์ล่ม,และยังโต้วาทีที่ดุเดือดกับเฉินฉีเทียน,ทุกอย่างที่เกิดขึ้นนั้น,ทำให้ข้ารู้สึกชื่นชมนัก,ในโลกนี้จะมีสักกี่คน,"อ๋องไท่จงที่เชิญจงซานและคนอีกสองคนนั่งลงยังที่นั่ง.
"ท่านอ๋องยกย่องไปแล้ว,จงซานเพียงแค่โชคดีเท่านั้น."จงซานกล่าวอย่างถ่อมตน.
"โชคดีรึ?เฮ้เฮ้,จะมีสักกี่คนในโลกหล้าที่โชคดีถึงเพียงนี้?
ไม่รู้ว่าสำนักใดของกงตงฟางได้สั่งสอนเช่นไร,กงตงฟางถึงได้มีความสามารถึงเพียงนี้?"อ๋องไท่จงที่กล่าวออกมาด้วยรอยยิ้ม.
จงซานที่ขมวดคิ้วเล็กน้อย,อ๋องไท่จงไม่รู้ว่าเขาอยู่สำนักไคหยางงั้นรึ?
"เฮ้เฮ้,เป็นเพียงสำนักเล็ก,มีแต่จะทำให้เป็นที่หัวเราะ,อย่าได้กล่าวถึงเลย!"จงซานที่ส่ายหน้าไปมาด้วยรอยยิ้ม.
อ๋องไท่จงที่ไม่เห็นจงซานต้องการเอ่ย,ดังนั้นจึงไม่ได้ฝืนถามต่อไป,นี่เป็นงานเลี้ยงลับๆที่เขาได้จัดขึ้นเพื่อพูดคุยหาประโยชนเล็กน้อยกับจงซาน,คงไม่ดีนักหากว่าบังคับเขา,อ๋องไท่จงนั้นนับว่าเป็นคนที่ชาญฉลาด,ใบหน้าที่เปื้อนไปด้วยรอยยิ้ม,เขาที่ต้องการเชื่อมสัมพันธ์กับจงซานเอาไว้,มัดใจจงซานด้วยนั่นเอง.
ภายในงานเลี้ยง,ได้มีการจัดเตรียมนางรำที่งดงาม,แม้ว่าอาจจะเทียบไม่ได้กับเนียนโหยวโหยวในการระบำทราย,ทว่านางรำที่นำมานั้นก็นับว่างดงามโดดเด่นเป็นอย่างมาก.
เซียนเซิงซือและจื่อเห่านั้นไม่ได้กล่าวสิ่งใดตั้งแต่ต้นจนจบ,นั่งอยู่เงียบๆตลอดหนึ่งชั่วโมง.
"ท่านอ๋อง,มีทหารสองคนที่มีตราของท่านอ๋อง,กล่าวว่าต้องการพบกับท่านอ๋อง."ในเวลาเดียวกันขุนพลผู้หนึ่งก็กล่าวออกมา.
"หืม?
ตราของข้า?"อ๋องไท่จงที่แสดงท่าทางสงสัยเล็กน้อย.
"นางรำหยุดได้แล้ว,เชิญเข้ามา!"อ๋องไท่จงราวกับว่านึกอะไรได้,จึงได้กล่าวออกมาในทันที.
"หืม?"จงซานที่แสดงท่าทางสงสัยเล็กน้อย,ทหาร?
ทหารของอ๋องไท่จงรึ? ทำไมถึงได้ทำให้อ๋องไท่จงดูจริงจังขนาดนั้น?
"รับทราบ!"ขุนพลคนดังกล่าวรับคำก่อนที่จะก้าวออกไป.
จากนั้นไม่นาน,ก็มีชายสองคนที่ก้าวเข้ามาในห้องโถง.
คนทั้งสองได้ถอดชุดนักรบออกแล้ว,ตอนนี้สวมชุดสีขาว,ที่ด้านหลังสะพายกระบี่ยาว,หนึ่งคนด้านหลังที่ตามมานั้นดูเหมือนว่าจะเป็นคนรับใช้.
สองคนที่ก้าวเข้ามานั้น,ดวงตาของจงซานที่ดวงตาหดเกร็ง,สายตาที่เต็มไปด้วยความประหลาดใจ,เพราะว่าคนทั้งสองนั้น,จงซานรู้จัก,เคยพบเจอที่เกาะหมาป่าสวรรค์,เมื่อยี่สิบปีที่แล้ว.
เจี้ยนอ้าว!
ภายในค่ายกลแปดประตูกุญแจทอง,ร่างแยกเงาของจงซานที่ได้ประลองกับเจี้ยนอ้าวในครานั้น,คนทั้งสองนั้นทรงพลังเป็นอย่างมาก,เจี้ยนอ้าวผู้ฝึกตนวิถีกระบี่!พร้อมกับผู้ติดตามฉีจิว.
เจี้ยนอ้าว!
ฉู่จิว!
เจี้ยนอ้าวที่ก้าวเข้ามาในตำหนัก,ทั่วทั้งร่างที่เต็มไปด้วยสายลมเอื่อยๆ,หากมองให้ระเอียดละก็มันไม่ใช่สายลม,หากแต่เป็นสนามพลังเป็นจิตกระบี่ที่แผ่ออกมา,ล้อมรอบกายของเจี้ยนอ้าว.
ฉีจิวที่ยืนอยู่ด้านหลังด้วยความเคารพ.
เจี้ยนอ้าวก้าวเข้ามาในตำหนักจ้องมองเห็นจงซาน,ทว่าไม่ได้แสดงท่าทางอะไรนัก,ไม่ได้ให้ความสนใจ,เพียงแค่มองคราหนึ่งเท่านั้น.
"เจี้ยนอ้าว,เจ้ามีสิ่งใดอย่างงั้นรึ?"อ๋องไท่จงที่โบกมือให้เหล่าผู้ใต้บังคับบัญชาถอยออกไป,พร้อมกับจัดเตรียมที่นั่งและอาหารชุดใหม่มา.
"กู่ไท่จง,เพลงกระบี่ของข้าที่ได้เข้ามาฝึกฝนร่วมในกองกำลังของเจ้า,วันนี้ได้ประสบตามความต้องการของข้าแล้ว,จึงได้เดินทางมาขอบคุณโดยเฉพาะ,และมากล่าวลาด้วย."เจี้ยนอ้าวที่จ้องมองไปยังกู่ไท่จงด้วยท่าทางเคร่งขรึม.
"กล่าวลารึ? 20 ปีในกองทัพของเจ้า,ไม่คิดเลยว่าจะรวดเร็วถึงเพียงนี้,หวังว่าหลังจากนี้เจ้าจะเดินทางมายังเมืองไท่จงบ้าง,คงจะได้เห็นเจ้าอีกครั้ง?"อ๋องไท่จงกล่าว.
"หลังจากนี้ก็แล้วแต่ชะตะจะนำพา,ข้าคิดว่าได้ตอบแทนเจ้าด้วยคมกระบี่แล้ว."เจี้ยนอ้าวที่ส่ายหน้าไปมา.
กับคำพูดของเจี้ยนอ้าว,อ๋องไท่จงที่เผยยิ้มออกมาเล็กน้อย,"เช่นนั้น,ข้าคงไม่บังคับเจ้า,หากว่ามีสิ่งใดที่เจ้าต้องการให้ข้าช่วยเหลือ,โปรดกล่าวออกมาได้เลย.
เจียนอ้าวที่แสดงความเคารพ,จากนั้นก็ก้าวออกไปพร้อมกับฉู่จิว.
เห็นเจี้ยนอ้าวจากไปแล้ว,อ๋องไท่จงที่ขมวดคิ้วไปมาเล็กน้อย,หากแต่ไม่ได้กล่าวสิ่งใดออกมา.
"ท่านอ๋อง,ข้าเองก็ต้องไปแล้วเช่นกัน,ไว้พบกันครั้งหน้า."จงซานที่กล่าวลาด้วยเช่นกัน.
"หืม? ได้,ข้าจะไปส่งเจ้า!"อ๋องไท่จงไม่ได้รั้งตัวเอาไว้,พร้อมกับออกมาส่งจงซาน.
หลังจากที่ออกจากห้องโถง,เขาได้มาส่งจงซานเป็นระยะทางถึง
100 ลี้.
บนยอดเขาแห่งหนึ่ง,อ๋องไท่จงที่จ้องมองกองกำลังของจงซานที่เคลื่อนที่ออกไปไกลแล้ว.
"เป็นอย่างไรบ้าง?"อ๋องไท่จงกล่าวกับผู้บังคับบัญชาด้านหลัง.
"สมควรต่อชื่อเสียงที่ได้รับมา!"กุนซือในชุดขาวที่ยืนอยู่ด้านหลังอ๋องไท่จงกล่าวพลางถอนหายใจ.
"เจ้าไปสืบได้ความอย่างไร?"อ๋องไท่จงที่ขมวดคิ้วจ้องมองไปมา.
"ไม่พบอะไรเลย,ภูมิหลังของจงซานนั้น,มีเพียงแค่เป็นองค์รักษ์ของกงจูเฉียนโหยวเท่านั้น,อย่างอื่นไม่มีเลย."กุนซือในชุดสีขาวที่ส่ายหน้าไปมา.
"ไม่มีร่องรอยเลยรึ? เป็นไปไม่ได้,ที่จะถูกลบไปอย่างสะอาดขนาดนั้น,ภายใต้สวรรค์,ไม่มีใครรู้จักจงซานเลยรึ,ถึงแม้ว่าข้ายังคิดว่ามันเป็นไปไม่ได้,อาจจะมีใครบางคนขวางเอาไว้อยู่หรือไม่?"อ๋องไท่จงที่หรี่ตาจ้องมอง.
"ฝ่าบาท?กงจู,หรือว่าจะเป็นฝ่าบาทที่ทำการลบล้างภูมิหลังของจงซานไป?"กุนซือชุดขาวที่ดวงตาหดเกร็ง.
"อืม,คนผู้นี้,ฝ่าบาทต้องการใช้งาน,คงไม่สามารถทำอะไรได้แล้ว,ถ่ายทอดคำสั่งข้าไป,ให้ทุกคนถอยกลับมา,ไม่ต้องสืบเรื่องของจงซานแล้ว."อ๋องไท่จงกล่าว.
"ครับ!"กุนซือในชุดสีขาวที่ตอบรับในทันที.
จงซานที่นำทัพ,มุ่งตรงไปยังทิศตะวันออกเฉียงเหนือ.
หลังจากนั้นห้าวันห้าคืน,กองกำลังใหญ่ก็ได้มาพักอยู่ภายในหุบเขาแห่งหนึ่ง,ที่กระโจมใหญ่ตรงกลางนั้น,มีแสงสว่างหนึ่งรอยจั้ง,เหล่าทหารทั้งหมดไม่เข้าใกล้,และมีการสร้างค่ายลปิดเสียงเอาไว้ด้วย.
เพราะกองกำลังจง,มีแขกที่ทรงเกียรติสองคน,เจี้ยนอ้าวและฉู่จิวนั่นเอง.
ภายในกระโจมใหญ่นั้นมีการจัดเตรียมเพียงชาเท่านั้น.
"เจี้ยนอ้าวเจ้าไม่ได้ต้องการมาประลองฝีมือกับข้าหรอกรึ?"จงซานที่กล่าวออกไปด้วยรอยยิ้ม.
เจี้ยนอ้าวจ้องมองไปยังจงซาน,"ยังไม่ถึงเวลา."
"หืม?"จงซานที่จ้องมองเจี้ยนอ้าวด้วยความสงสัย.
"เพลงกระบี่ของข้ายังไม่ชัดเจน,เจ้าเองก็ยังเติบโตได้อีก,ข้าต้องการการต่อสู้ที่ดีที่สุด,ตอนนี้จึงยังไม่ถึงเวลา.
"หลายปีมานี้,เจ้าเข้าร่วมสงครามเพื่อฝึกฝนเพลงกระบี่อย่างงั้นรึ?"จงซานกล่าวสอบถาม.
เกี่ยวกับเจี้ยนอ้าวนั้น,ไม่มีอะไรต้องอ้อมค้อม,เพราะคนผู้นี้เป็นคนทีตรงไปตรงมาก.
"นี่เป็นการฝึกฝน,เป็นการฝึกฝนเพียงเพลงกระบี่,ไม่ใช่พลังฝึกตน."เจี้ยนอ้าวกล่าว.
"ข้าบำเพ็ญเพียงพลังฝึกตน!"จงซานกล่าวออกมาด้วยรอยยิ้ม.
"พลังฝึกตนของเจ้าช้ามาก!"เจี้ยนอ้าวที่กล่าวที่ทำให้คนตื่นตะลึง.
"ช้ารึ?"แววตาของจงซานที่แสดงท่าทางประหลาดใจ,ตัวเขายังช้าอีกรึ?
"เจ้าเองก็อยู่ในระดับก่อตั้งวิญญาณระดับสาม,มีอะไรแตกต่างจากจอมพล!"จื่อเห่าที่อยู่ข้างๆทนไม่ได้เอ่ยออกมาทันที.
"ทว่าเมื่อหกเดือนที่แล้ว,เส้าเหยี่ย,เพิ่งมีพลังฝึกตนเพียงแกนทองขั้นที่หนึ่ง."ฉูจิวที่กอล่าวออกมาอย่างภาคภูมิ.
"หืม?"จงซานที่ตื่นตกใจเล็กน้อย,แกนทองขั้นที่หนึ่ง?
ครึ่งปี?เพิ่มขึ้นมาถึงสิบขั้นเลยรึ?
"การบำเพ็ญจิตกระบี่,จำเป็นต้องบำเพ็ญความตั้งใจ,จวบจนสามารถตระหนักได้ถึงจิตกระบี่,ถึงจะเพิ่มพลังฝึกตนอย่างงั้นรึ?"เซียนเซิงซือที่กล่าวออกมาด้วยความประหลาดใจ.
เจี้ยนอ้าวพยักหน้ารับ.
จงซานที่ตะลึงงัน,ถอนหายใจเบาๆ,ด้วยพรสวรรค์ที่ต่ำเตี้ยของเขา,เพียงเท่านี้,ก็ถือว่าต่อต้านสวรรค์แล้ว.
"เจ้าเดินทางมายังเส้นทางนี้,ต้องการเข้าร่วมชุมนุมนิพพานที่จะจัดขึ้นทุกพันปีอย่างงั้นรึ?"เจี้ยนอ้าวที่เอยออกมาในทันที.
"ชุมนุมนิพพานอย่างงั้นรึ?"จงซานที่ขมวดคิ้วไปมา,พร้อมกับครุ่นคิดอะไรบางอย่าง.
ก่อนหน้านี้เก้าปี,จินฉานได้มอบของขวัญให้กับเขาเป็นจีวรไหมม่วง,และยังได้มอบเหรียญตราให้กับเขา,บอกว่าอีกสิบปีที่ดินแดนเทพพิสุทธิ์กำลังจะมีชุมนุมใหญ่,ใช่แล้วชุมนุมนิพพาน.
"เป็นไปได้ว่าเจ้าเองกำลังเดินทางไปยังดินแดนเทพพิสุทธิ์อย่างงั้นรึ?"จงซานสอบถาม.
เจี้ยนอ้าวที่สะบัดมือหนึ่งครั้งนำเหรียญตราออกมา,เป็นเหรียญตราเหมือนที่จงซานมี.
"พวกเขาได้ส่งเหรียญตรานี้มาให้ข้า,ทว่าข้าไม่ต้องการจะไป,หากว่าเจ้าต้องการไป,ข้ามอบมันให้เจ้า."เจี้ยนอ้าวกล่าวออกมาด้วยรอยยิ้ม,พร้อมกับส่งมันให้กับจงซาน.
"ฟรึบ!"
จงซานที่คว้าเอาไว้,ก่อนที่จะจ้องมองอย่างระเอียดอีกครั้ง,เหมือนกันจริงๆ.
"แดนเทพพิสุทธิ์รึ?"จงซานหรี่ตาเล็กจ้องมองเหรียญตราดังกล่าว.
"เหรียญตรานี้มีเพียงแค่ 81
ชิ้น,ได้มอบให้กับเหล่าผู้ฝึกตนบำเพ็ญกรรมทั่วทั้งแดนเทวะ,และอนุญาตให้เพียงแค่คนหนึ่งคนเข้าร่วม,มีข่าวลือว่าการชุมนุมนิพพานนั้น,จะมีโอกาสได้พบกับอรหันต์ด้วย,เจ้าไม่ต้องการไปอย่างงั้นรึ?"เจี้ยนอ้าวกล่าวออกมาด้วยรอยยิ้ม.
"ต้องไปอยู่แล้ว,ทว่าข้าไม่รู้เส้นทางไป!"จงซานที่จ้องมองไปยังเจี้ยนอ้าว.
ที่มาจากhttps://lnmtl.com/novel/immortality
#นิยาย เรื่องอมตะ #Immortality#นิยายแปลไทย
Author(s)
สนใจสนับสนุนพวกเรา,เข้าร่วมกลุ่ม VIP ====> Click
***เว็ปฟรีอัพ สองวันหนึ่งตอน
***กลุ่มลับ อัพ 2-3 ตอนต่อวัน.
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น