วันอังคารที่ 30 กรกฎาคม พ.ศ. 2562

Immortality Chapter 388 Snatches the princess

Immortality Chapter 388  Snatches the princess

นิยาย เรื่อง อมตะ ตอนที่ 388   ลักพาตัวกงจู.


Chapter 388  Snatches the princess
公主
   ลักพาตัวกงจู.

"กงจู,ก่อนหน้านี้ฝ่าบาทได้ส่งข้อความมาว่า,หากท่านกลับมาให้ไปพบ."อาต้ากล่าว.

"หืม? มีเรื่องอะไรอย่างงั้นรึ?"กงจูเฉียนโหยวที่แสดงท่าทางสงสัย.

"ข้าเองก็ไม่รู้!"อาต้าที่ส่ายหน้าไปมา.



"อืม!"กงจูเฉียนโหยวพยักหน้ารับ,จากนั้นก็จ้องมองไปยังจงซาน.

"เจ้าไปเถอะ! นำอาต้าและอาเอ้อไปด้วย!"จงซานที่กล่าวเห็นด้วย.

"ครับ!"อาต้าและอาเอ้อ,ตอบรับในทันที.

จากนั้นคนทั้งสาม,ก็เดินทางไปพบกับกู่เฉิงตง.

"อู๋เหินและอู๋ซ่าง,นำหลินเซียวไปดูกองกำลังจงของพวกเรา,จัดเตรียมที่อยู่อาศัยให้กับทุกคนด้วย."จงซานกล่าวต่อสุ่ยอู๋เหินและหลิวอู๋ซ่าง.

"ครับ!"ทั้งสองที่ตอบรับในทันที,ก่อนที่จะนำหลินเซียวออกไป.

ภายในห้องโถงนั้น,เหลือแค่เพียงแค่เซียนเซิงซือและจงซาน,จงซานที่โบกสะบัดปิดประตูห้อง.ปิดเสียงรอบๆเอาไว้.

"ฝ่าบาท!"เซียนเซิงซือกล่าวออกมาด้วยความสงสัย.

"ในต้าเจิ้ง,เจ้าเรียกข้าว่าฝ่าบาท,หากแต่ที่นี่,ให้เรียกข้าว่า,จอมพล!"จงซานผายมือ,ให้เซียนเซิงซือนั่ง.

เซียนเซิงซือนั่งลงเบาๆ,จ้องมองไปยังจงซานด้วยความสงสัย"จอมพลให้ข้าอยู่ที่นี่คนเดียว,มีเรื่องอะไรอย่างงั้นรึ?"

"เจ้าจำได้หรือไม่ก่อนที่พวกเราจะออกมา,ข้าได้นำเจ้าไปยังสถานที่แห่งหนึ่ง?"จงซานที่สูดหายใจยาว.

"สำนักไคหยางอย่างงั้นรึ?"เซียนเซิงซือที่กล่าวออกมาด้วยความสงสัย.

"ถูกแล้ว,ในเวลานั้นคนที่ข้าเคารพมากที่สุดคือ,อาจารย์ของข้า,เทียนซวินจื่อ,เป็นเยวี่ยฟู่ของข้า,การที่ข้ากลับไปยังเกาะหมาป่าสวรรค์นั้นก็เพื่อรวมเกาะหมาป่าสวรรค์หรือก็คือการสร้างราชวงศ์จักรพรรดิต้าเจิ้ง,อีกด้านหนึ่งที่ข้าเดินทางไป,ที่จริงก็เพราะเจ้า!"จงซานชำเลืองมองไปยังเซียนเซิงซือ.

"หืม?"เซียนเซิงซือแสดงท่าทางสงสัยเล็กน้อย.

"ข้ารู้ว่าภูมิหลังของเจ้านั้นไม่ธรรมดา,แต่ไม่จำเป็นต้องบอกข้าก็ได้,ทว่าด้วยสายตาของข้า,ย่อมสามารถมองมันออกได้อย่างแม่นยำ,นอกจากนี้ข้ารับรองว่าสิ่งที่ข้าเห็นนั้นยังไม่หมดเพียงเท่านั้นแน่,แม้แต่เมื่อเดินทางมายังนครบรรพกาลศักดิ์สิทธิ์สำหรับเจ้ายังไม่ได้รู้สึกว่ามันเป็นเมืองใหญ่,จากท่าทางของเจ้านั้นยังคงสุขุม,ข้าไม่รู้ว่าเจ้ายังมีความสามารถใดซ่อนเอาไว้อีก,ทว่ายื่นยันได้ว่ามันลึกล้ำอย่างแน่นอน,เหนือกว่าคนทั่วไปจะคาดถึง,เป็นความสามารถที่แข็งแกร่งมากจนไม่มีใครคาดคิด."จงซานกล่าว.

"อืม,หากเป็นดั่งที่ท่านกล่าว."เซียนเซิงซือประหลาดใจเช่นกันแต่ก็ตอบออกไปตรงๆ.

"การที่ข้านำเจ้ามายังทวีปศักดิ์สิทธิ์นั้น,ข้าต้องการให้เจ้ามาช่วยเรื่องสำคัญบางอย่าง,เรื่องบางอย่างที่มีความเสี่ยงเป็นอย่างมาก,ไม่รู้ว่าเจ้าจะยินดีหรือไม่?."จงซานที่จ้องมองไปยังเซียนเซิงซือ.

เซียนเซิงซือที่ขมวดคิ้วไปมาเล็กน้อย."อะไรรึ?"

"แย่งชิงกงจูราชวงศ์สวรรค์!"จงซานกล่าวออกมาช้าๆ.

"หืม?"เซียนเซิงซือที่ดวงตาหดเกร็ง.

"กู่เฉียนโหยวยังไม่ใช่ของท่านอย่างงั้นรึ?"เซียนเซิงซือเต็มไปด้วยความสงสัย.

"ข้าไม่ได้บอกว่าเป็นเฉียนโหยว,และไม่ได้บอกว่าเป็นราชวงศ์สวรรค์ต้าโหลว,ที่ข้าหมายถึงนั้นคือกงจูราชวงศ์สวรรค์ต้าหลีต่างหาก."ใบหน้าของจงซานที่กล่าวออกมาด้วยความหนักแน่น.

ราชวงศ์สวรรค์ต้าหลีอย่างงั้นรึ? เซียนเซิงซือที่ต้องอ้าปากหว๋อที่เดียว,ค่อนข้างประหลาดใจต่อจงซาน,กับสิ่งที่จงซานทำแต่ละอย่าง,กับภรรยาของเขาแต่ละคน,ต้องการกงจูราชวงศ์สวรรค์อีกรึ?ตอนนี้ยังไม่พอ?ยังจะชิงตัวกงจูราชวงศ์สวรรค์อีกคน?

"นางเป็นภรรยาของข้าอยู่แล้ว!"จงซานสูดหายใจลึก.

เซียนเซิงซือที่ตะลึงงันยิ่งกว่าเดิมอีก,จงซานมีอายุเท่าไหร่กัน,ถึงได้มีความสัมพันธ์ได้ควบคุมเช่นนี้,แต่ละคนที่กล่าวออกมานั้น,เป็นเชื้อพระวงศ์ที่ทรงพลังทั้งนั้น!

"ที่ข้าบอกว่าเป็นภรรยาข้านั้น,เจ้าเองก็เคยเห็นมาก่อน!"จงซานกล่าว.

"หืม?"เซียนเซิงซือที่ขมวดคิ้วไปมา.

"เป็นบุตรสาวของอาจารย์ข้า,ครั้งแรกที่พวกเราเคยพบกัน,เจ้าก็เห็น,เทียนหลิงเอ๋อนั่นเอง."จงซานที่กล่าวออกมาด้วยความจริงจัง.

"เป็นนางรึ?"เซียนเซิงซือที่ดวงตาหดเกร็ง.

"ใช่แล้ว,เป็นนางเอง,ข้าต้องการนำนางกลับมา,กงจูราชวงศ์สวรรค์นั้นไม่เหมาะกับนาง,แม้ว่านางจะดูเหมือนโง่เขา,แต่ก็เต็มไปด้วยความกล้าหาญ,หลายๆครั้งที่ข้าต้องเจ็บปวดเพราะนาง,ต้องช่วยชีวิตนางหลายๆครั้ง,ข้าต้องเสี่ยงต่อความตายหลายครั้ง,แต่นางก็คือภรรยาของข้า,แม้ว่าโชคชะตาจะทำให้เส้นทางบำเพ็ญของข้าเต็มไปด้วยความลำบาก,แต่ก็มอบเชาว์ปัญญามาให้กับข้า,นางเป็นคนที่ทำให้ภายในใจของข้าเต็มไปด้วยความอบอุ่น,การมีนางอยู่ทำให้ข้ามีความสุข,ข้าอาจจะเป็นคนน่าสงสารเรื่องนี้,อย่างไรก็ตามข้าต้องการพบนาง,ไม่ได้มีอะไรมากมายกว่านั้น,ข้าต้องการนำกองทัพที่ยิ่งใหญ่,ก่อนที่จะไปพบกับนาง,เพื่อแสดงให้นางเห็นความแข็งแกร่งของข้า!"จงซานคิดใคร่ครวญและกล่าวออกมา.

เทียนหลิงเอ๋อที่เป็นคนที่ค่อนข้างดื้อรั้น,เอาแต่ใจไม่น้อย,นำพาเขาไปสู่เรื่องอันตรายหลายต่อหลายครั้ง,ทว่าทุกอย่างที่เกิดขึ้นมันได้สลักลงภายในใจของจงซาน,ทำให้จงซานไม่สามารถลืมมันได้เลย.

เซียนเซิงซือที่จ้องมองไปยังจงซาน,แล้วกล่าวออกมาว่า,"ราชวงศ์สวรรค์ต้าหลีนั้นคงไม่ยินดีนัก,การที่ท่านต้องการลักพาตัวเทียนหลิงเอ๋อกลับมา,บางที่ไม่ใช่แค่ว่าเป็นเรื่องยาก,แต่มันเป็นเรื่องที่แทบเป็นไปไม่ได้,แม้ว่าจะมีกองกำลังที่แข็งแกร่งเท่าใด,มันก็ยังมองไม่เห็นเส้นทาง!"

"ความคิดของข้าเองก็คิดว่ามันอาจจะมากไป? อาจเป็นเรื่องที่ข้าใจร้อนเกินไป? ,ทว่าบางสิ่งบางอย่างมันก็ไม่สามารถวัดด้วยเหตุผลได้,สิ่งสำคัญที่สุด,เทียนหลิงเอ๋อนั้นมีความสำคัญต่อข้ามาก,ถึงแม้ว่าคนทั่วไปจะหาว่าข้าโง่,ทว่าภายในใจของข้าก็ไม่ได้รู้สึกเสียใจเลยแม้แต่น้อย."จงซานที่กล่าวออกมาด้วยความมั่นใจ.

"ไม่! คิดว่าเป็นคนโง่,ก็เป็นคนโง่จริงๆ,แม้ว่าเรื่องดังกล่าวนี้เป็นเรื่องที่อหังการเป็นอย่างมาก,ทว่าทุกคนก็ย่อมมีเหตุผลเป็นของตัวเอง,สำหรับบุรุษที่แท้จริงแล้ว,การซื่อสัตย์กับความรู้สึกตัวเอง,ก็ไม่ใช่เรื่องที่แย่เท่าไหร่,แม้ว่ามันจะเป็นเรื่องที่หนักหนาและร้ายกาจ,ทว่าหากสามารถก้าวผ่านมันไปได้ด้วยหัวใจที่ไร้ความลังเล,ก็จะประสบความสำเร็จและก้าวผ่านเรื่องที่คนไม่ยอมรับได้,ในทางตรงกันข้าม,หากเป็นคนที่โลเลไร้ซึ่งความหนักแน่น,ไม่ว่าสิ่งใดก็ไม่สามารถทำได้สำเร็จ,ทุกอย่างล้วนแล้วแต่ล้มเหลว,ไม่ต่างจากคนอ่อนแอ,ที่ไม่มีวันสำเร็จไม่ว่าจะทำสิ่งใดก็ตาม,เรื่องทุกอย่างที่เกิดขึ้นทั้งหมดล้วนแล้วแต่เป็นส่วนประกอบ,หากว่าสามารถข้ามผ่านเรื่องที่ยากได้,สามารถแบกรับเรื่องที่เหลือเชื่อได้,ก็จะสามารถทำเรื่องที่เหลือเชื่อได้เช่นกัน,เรื่องทุกอย่างที่ฝืนสวรรค์นั้น,มีแต่คนที่ไร้ความหวาดกลัวเท่านั้น,ถึงจะประสบความสำเร็จได้."เซียนเซิงซือที่ส่ายหน้าไปมาพลางถอนหายใจเบาๆ.

"เจ้าเข้าใจก็ดีแล้ว,ทว่าเรื่องยากๆที่เจ้าเอ่ยถึงนั้น,ข้าล้วนแล้วแต่เจอมามากมายนัก,เรื่องของราชวงศ์สวรรค์ต้าหลี,ข้าคงบอกได้เลยว่ามันเต็มไปด้วยอันตรายนับหมื่น,ทุกคนทั่วทั้งราชวงศ์สวรรค์เป็นไปไม่ได้ที่ยอมให้ข้าง่ายๆ,หากว่าเจ้าไม่ต้องการจะก้าวผ่านสายน้ำที่เชี่ยวกรากนี้กับข้า,ข้าก็จะไม่ฝืน."จงซานที่กล่าวต่อเซียนเซิงซือ.

"เฮ้เฮ้,ข้าได้เตรียมใจมาแล้วถึงได้ตามท่านมาที่นี้,มีเหรอที่ข้าจะไม่พร้อม?ท่านไม่ได้หวาดกลัวต่อราชวงศ์สวรรค์ต้าหลี,ข้าจำเป็นต้องกลัวอย่างงั้นรึ?นอกจากวันนั้น,คงไม่มีใครทำให้ข้าหวาดกลัวได้อีก."เซียนเซิงซือยืนยัน.

"ดี,ดูเหมือนว่าการกลับไปเกาะหมาป่าสวรรค์ในครั้งนี้,เป็นการตัดสินใจที่ถูกต้องที่สุด."จงซานที่กล่าวออกมาด้วยรอยยิ้ม.

เซียนเซิงซือที่เผยยิ้มแต่ไม่ได้กล่าวสิ่งใดออกมา!

เช้าวันถัดมา,กงจูเฉียนโหยวที่กลับมาคฤหาสน์ตงฟางอีกครั้ง.

"อะไรนะ? กำลังจะไปใหนอย่างงั้นรึ?"จงซานที่ขมวดคิ้วไปมากกล่าวออกมาด้วยท่าทางประหลาดใจ.

"ศาลาเจ็ดดาว,ข้ามีกายสถิตธาตุวายุ,เป็นความลับ,ภายในต้าโหลเองมีเพียงไม่กี่คนที่รู้,ทว่าเหตุการณ์เรื่องที่หยิงหนิงถูกสังหารจากฝีมือของเฉินฉีเทียน,ทำให้ข้อมูลถูกเปิดเผย,ข้าจึงต้องกลับไปศาลาเจ็ดดาว,เพื่อพูดคุยกับประมุขศาลลาเจ็ดดาว,ดูเหมือนว่าข้าคงจะต้องไปเป็นการส่วนตัว,เพราะว่าประมุขศาลาเจ็ดดาวต้องการจะพูดคุยและสอนอะไรบางอย่างกับข้า."กงจูเฉียนโหยวขมวดคิ้วไปมา.

"ประมุขศาลาเจ็ดดาวอย่างงั้นรึ? เขาเหนือกว่าเซิ่งซางอีกรึ? ถึงได้จำเป็นต้องสอนเจ้าเป็นการส่วนตัว?"จงซานที่ขมวดคิ้วไปมา.

"แน่นอนว่าเทียบกับเซิ่งซ่างไม่ได้,เพียงแต่การไปพูดคุยกับประมุขศาลาเจ็ดดาวนั้น,เป็นคำสั่งของเซิ่งซ่าง."กงจูเฉียนโหยวกล่าว.

"ศาลาเจ็ดดาว? ใครเป็นประมุขศาลาเจ็ดดาวรึ?"จงซานขมวดคิ้วไปมาแสดงท่าทางกังวลไปมา.

"โปรดวางใจ,เป็นผู้หญิง,ข้าคงไม่กลายเป็นภรรยาของนางหรอก."กงจูเฉียนโหยวที่เห็นจงซานหึงหวงก็เผยยิ้มออกมา.

เห็นนางปั่นหัวเขา,จงซานที่เผยยิ้มออกมา.

"ประมุขศาลาเจ็ดดาวนั้น,เป็นประมุขที่น่าอัศจรรย์เป็นอย่างมาก,เดิมที่เซิงซ่างและนางเป็นคนรักกันมาก่อน,ช่างน่าสงสารที่เซิงซ่างเลือกเส้นทางสู่ความยิ่งใหญ่,สร้างราชวงศ์สวรรค์เพื่อเก็บเกี่ยววาสนา,เหมือนกับเจ้า,ฝ่าบาทนั้นมีหวงโห่วหลายคน,ประมุขศาลาเจ็ดดาวนั้นไม่สามารถทนได้ที่จะใช้บุรุษร่วมกับคนอื่น,ดังนั้นจึงไม่ยอมพบกับเซิ่งซ่างอีกครั้ง,นางได้ก่อตั้งศาลาเจ็ดดาวขึ้นมา,ทว่าคนทั้งสองนั้นก็ยังมีความรักที่ฝั่งแน่นอยู่ลึกๆ,เป็นความรักที่ไม่สามารถตัดขาดจากกันได้,เซิ่งซ่างเองก็ไม่สามารถปล่อยวางได้เช่นกัน,ทว่าก็ไม่ได้ฝืนใจนาง,พร้อมกับยังอนุญาตให้ศาลาเจ็ดดาวเป็นส่วนหนึ่งของราชวงศ์สวรรค์ต้าโหลว,ยกตัวอย่างเช่น,คนของศาลาเจ็ดดาวที่มีระดับแกนทองหากได้รับการรับรองจากอาวุโสของศาลาเจ็ดดาวสามารถเข้ารับราชการเป็นขุนนางขั้นห้าได้,ประมุขศาลาเจ็ดดาวถึงจะไม่ยินดี,ทว่ากับเรื่องนี้ก็นับว่าเป็นประโยชน์ต่อสำนักตัวเอง,ดังนั้นจึงไม่ได้ขัดขืนแต่อย่างใด."กงจูเฉียนโหยวกล่าว.

"แท้จริงก็เป็นเช่นนี้นั่นเอง."จงซานที่สูดหายใจลึก.

"ใช่แล้ว,หลังจากที่เซิ่งซ่างสร้างราชวงศ์สวรรค์ขึ้นมา,ประมุขศาลาเจ็ดดาวเองก็ไม่ได้ลาขาดจากเซิ่งซ่างโดยสมบูรณ์,ทว่าก็ยังคงส่งข่าวไปมาดังนั้นจึงจำเป็นต้องมีข้าเป็นผู้นำสาร,แน่นอนว่าเรื่องนี้นี้ฝ่าบาทจะสามารถทำได้อย่างงั้นรึ? ดังนั้นข้าจึงเป็นเหมือนกับคนกลางในการส่งข่าวซะมากกว่า."กงจูเฉียนโหยวกล่าว.

"ประมุขศาลาเจ็ดดาวที่ให้เจ้าไปในครั้งนี้,แม้ว่าจะเป็นเรื่องปรกติทั่วไป,เจ้าเองก็ควรระวังตัวให้ดี!"จงซานกล่าว.

"ข้ารู้,ถึงแม้ว่าข้าจะเป็นอาวุโสของศาลาเจ็ดดาว.เคยไปพบนางหลายครั้งแต่ก็ไม่เคยเห็นนางนางเลย,การไปครั้งนี้ข้ายังมีศรเทพวายุไปด้วย,และฝ่าบาทยังให้นำอาต้าและอาเอ้อไปด้วย........."กงจูเฉียนโหยวที่ขมวดคิ้วไปมาเล็กน้อย.

"อืม,ไปเถอะ,ในเมื่อมีทั้งสองไปด้วยก็คงปลอดภัย,ไม่ว่าอย่างไร,ดูแลตัวเองให้ดี."จงซานกล่าว.

"อืม!"กงจูเฉียนโหยวพยักหน้า.

ขณะที่ทั้งคู่กำลังพูดคุยกันไปมา,ที่ด้านนอกตำหนักตงฟางนั้นก็ได้ยินเสียงๆหนึ่งดังขึ้นมาในทันที.

"มีคำสั่งให้กงจิวโห่วตงฟางจงซาน,เข้าพบที่ในตำหนัก."

เสียงแหลมเล็กของขันทีที่ดังขึ้นมา.

"หืม?"จงซานที่ชำเลืองมองออกไปเล็กน้อย.

"ฝ่าบาทได้ถามเกี่ยวกับเจ้าเมื่อวาน,และรับรู้แล้วว่าเจ้ากลับมาแล้ว!"กงจูเฉียนโหยวกล่าว.

"ทว่าพักร้อนของข้ายังไม่ครบ!"จงซานที่แสดงท่าทางประหลาดใจ.

"มีคำสั่งให้กงจิวโห่วตงฟางจงซาน,เข้าพบที่ในตำหนัก."

เสียงของขันทีที่ยังคงดังสนั่นอยู่ด้านนอก.

จงซานจึงทำได้แค่เร่งรีบก้าวออกจากห้องโถง,ออกไปหาขันทีในทันที.

เสียงของขันที่ที่ด้านนอกคฤหาสน์ตงฟาง,ขณะที่จงซานก้าวออกมา,ก็กล่าวออกมา.""มีคำสั่งให้กงจิวโห่วตงฟางจงซาน,เข้าพบที่ในตำหนัก."

"รับประสงค์!"จงซานที่ขมวดคิ้วไปมาพร้อมกับกล่าวออกมา.


จากนั้น,จงซานที่ทำได้กวาดตามองด้วยความสงสัย,ก่อนที่จะก้าวตามขันที,มุ่งตรงไปยังส่วนหนึ่งของตำหนักหลวง,เป็นวิหารไท่กู่,ดูเหมือนว่านี่จะเป็นการเข้าพบเป็นการส่วนตัวกับเซิ่งซ่างราชวงศ์สวรรค์ต้าโหลว.




ที่มาจากhttps://lnmtl.com/novel/immortality

#นิยาย เรื่องอมตะ #Immortality#นิยายแปลไทย
Author(s)


สนใจสนับสนุนพวกเรา,เข้าร่วมกลุ่ม VIP ====> Click

***เว็ปฟรีอัพ สองวันหนึ่งตอน
***กลุ่มลับ อัพ 2-3 ตอนต่อวัน.

 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น