Immortality Chapter 388 Snatches the princess
นิยาย เรื่อง อมตะ ตอนที่ 388 ลักพาตัวกงจู.
Chapter 388 Snatches the princess
抢公主
ลักพาตัวกงจู.
"กงจู,ก่อนหน้านี้ฝ่าบาทได้ส่งข้อความมาว่า,หากท่านกลับมาให้ไปพบ."อาต้ากล่าว.
"หืม?
มีเรื่องอะไรอย่างงั้นรึ?"กงจูเฉียนโหยวที่แสดงท่าทางสงสัย.
"ข้าเองก็ไม่รู้!"อาต้าที่ส่ายหน้าไปมา.
"อืม!"กงจูเฉียนโหยวพยักหน้ารับ,จากนั้นก็จ้องมองไปยังจงซาน.
"เจ้าไปเถอะ! นำอาต้าและอาเอ้อไปด้วย!"จงซานที่กล่าวเห็นด้วย.
"ครับ!"อาต้าและอาเอ้อ,ตอบรับในทันที.
จากนั้นคนทั้งสาม,ก็เดินทางไปพบกับกู่เฉิงตง.
"อู๋เหินและอู๋ซ่าง,นำหลินเซียวไปดูกองกำลังจงของพวกเรา,จัดเตรียมที่อยู่อาศัยให้กับทุกคนด้วย."จงซานกล่าวต่อสุ่ยอู๋เหินและหลิวอู๋ซ่าง.
"ครับ!"ทั้งสองที่ตอบรับในทันที,ก่อนที่จะนำหลินเซียวออกไป.
ภายในห้องโถงนั้น,เหลือแค่เพียงแค่เซียนเซิงซือและจงซาน,จงซานที่โบกสะบัดปิดประตูห้อง.ปิดเสียงรอบๆเอาไว้.
"ฝ่าบาท!"เซียนเซิงซือกล่าวออกมาด้วยความสงสัย.
"ในต้าเจิ้ง,เจ้าเรียกข้าว่าฝ่าบาท,หากแต่ที่นี่,ให้เรียกข้าว่า,จอมพล!"จงซานผายมือ,ให้เซียนเซิงซือนั่ง.
เซียนเซิงซือนั่งลงเบาๆ,จ้องมองไปยังจงซานด้วยความสงสัย"จอมพลให้ข้าอยู่ที่นี่คนเดียว,มีเรื่องอะไรอย่างงั้นรึ?"
"เจ้าจำได้หรือไม่ก่อนที่พวกเราจะออกมา,ข้าได้นำเจ้าไปยังสถานที่แห่งหนึ่ง?"จงซานที่สูดหายใจยาว.
"สำนักไคหยางอย่างงั้นรึ?"เซียนเซิงซือที่กล่าวออกมาด้วยความสงสัย.
"ถูกแล้ว,ในเวลานั้นคนที่ข้าเคารพมากที่สุดคือ,อาจารย์ของข้า,เทียนซวินจื่อ,เป็นเยวี่ยฟู่ของข้า,การที่ข้ากลับไปยังเกาะหมาป่าสวรรค์นั้นก็เพื่อรวมเกาะหมาป่าสวรรค์หรือก็คือการสร้างราชวงศ์จักรพรรดิต้าเจิ้ง,อีกด้านหนึ่งที่ข้าเดินทางไป,ที่จริงก็เพราะเจ้า!"จงซานชำเลืองมองไปยังเซียนเซิงซือ.
"หืม?"เซียนเซิงซือแสดงท่าทางสงสัยเล็กน้อย.
"ข้ารู้ว่าภูมิหลังของเจ้านั้นไม่ธรรมดา,แต่ไม่จำเป็นต้องบอกข้าก็ได้,ทว่าด้วยสายตาของข้า,ย่อมสามารถมองมันออกได้อย่างแม่นยำ,นอกจากนี้ข้ารับรองว่าสิ่งที่ข้าเห็นนั้นยังไม่หมดเพียงเท่านั้นแน่,แม้แต่เมื่อเดินทางมายังนครบรรพกาลศักดิ์สิทธิ์สำหรับเจ้ายังไม่ได้รู้สึกว่ามันเป็นเมืองใหญ่,จากท่าทางของเจ้านั้นยังคงสุขุม,ข้าไม่รู้ว่าเจ้ายังมีความสามารถใดซ่อนเอาไว้อีก,ทว่ายื่นยันได้ว่ามันลึกล้ำอย่างแน่นอน,เหนือกว่าคนทั่วไปจะคาดถึง,เป็นความสามารถที่แข็งแกร่งมากจนไม่มีใครคาดคิด."จงซานกล่าว.
"อืม,หากเป็นดั่งที่ท่านกล่าว."เซียนเซิงซือประหลาดใจเช่นกันแต่ก็ตอบออกไปตรงๆ.
"การที่ข้านำเจ้ามายังทวีปศักดิ์สิทธิ์นั้น,ข้าต้องการให้เจ้ามาช่วยเรื่องสำคัญบางอย่าง,เรื่องบางอย่างที่มีความเสี่ยงเป็นอย่างมาก,ไม่รู้ว่าเจ้าจะยินดีหรือไม่?."จงซานที่จ้องมองไปยังเซียนเซิงซือ.
เซียนเซิงซือที่ขมวดคิ้วไปมาเล็กน้อย."อะไรรึ?"
"แย่งชิงกงจูราชวงศ์สวรรค์!"จงซานกล่าวออกมาช้าๆ.
"หืม?"เซียนเซิงซือที่ดวงตาหดเกร็ง.
"กู่เฉียนโหยวยังไม่ใช่ของท่านอย่างงั้นรึ?"เซียนเซิงซือเต็มไปด้วยความสงสัย.
"ข้าไม่ได้บอกว่าเป็นเฉียนโหยว,และไม่ได้บอกว่าเป็นราชวงศ์สวรรค์ต้าโหลว,ที่ข้าหมายถึงนั้นคือกงจูราชวงศ์สวรรค์ต้าหลีต่างหาก."ใบหน้าของจงซานที่กล่าวออกมาด้วยความหนักแน่น.
ราชวงศ์สวรรค์ต้าหลีอย่างงั้นรึ?
เซียนเซิงซือที่ต้องอ้าปากหว๋อที่เดียว,ค่อนข้างประหลาดใจต่อจงซาน,กับสิ่งที่จงซานทำแต่ละอย่าง,กับภรรยาของเขาแต่ละคน,ต้องการกงจูราชวงศ์สวรรค์อีกรึ?ตอนนี้ยังไม่พอ?ยังจะชิงตัวกงจูราชวงศ์สวรรค์อีกคน?
"นางเป็นภรรยาของข้าอยู่แล้ว!"จงซานสูดหายใจลึก.
เซียนเซิงซือที่ตะลึงงันยิ่งกว่าเดิมอีก,จงซานมีอายุเท่าไหร่กัน,ถึงได้มีความสัมพันธ์ได้ควบคุมเช่นนี้,แต่ละคนที่กล่าวออกมานั้น,เป็นเชื้อพระวงศ์ที่ทรงพลังทั้งนั้น!
"ที่ข้าบอกว่าเป็นภรรยาข้านั้น,เจ้าเองก็เคยเห็นมาก่อน!"จงซานกล่าว.
"หืม?"เซียนเซิงซือที่ขมวดคิ้วไปมา.
"เป็นบุตรสาวของอาจารย์ข้า,ครั้งแรกที่พวกเราเคยพบกัน,เจ้าก็เห็น,เทียนหลิงเอ๋อนั่นเอง."จงซานที่กล่าวออกมาด้วยความจริงจัง.
"เป็นนางรึ?"เซียนเซิงซือที่ดวงตาหดเกร็ง.
"ใช่แล้ว,เป็นนางเอง,ข้าต้องการนำนางกลับมา,กงจูราชวงศ์สวรรค์นั้นไม่เหมาะกับนาง,แม้ว่านางจะดูเหมือนโง่เขา,แต่ก็เต็มไปด้วยความกล้าหาญ,หลายๆครั้งที่ข้าต้องเจ็บปวดเพราะนาง,ต้องช่วยชีวิตนางหลายๆครั้ง,ข้าต้องเสี่ยงต่อความตายหลายครั้ง,แต่นางก็คือภรรยาของข้า,แม้ว่าโชคชะตาจะทำให้เส้นทางบำเพ็ญของข้าเต็มไปด้วยความลำบาก,แต่ก็มอบเชาว์ปัญญามาให้กับข้า,นางเป็นคนที่ทำให้ภายในใจของข้าเต็มไปด้วยความอบอุ่น,การมีนางอยู่ทำให้ข้ามีความสุข,ข้าอาจจะเป็นคนน่าสงสารเรื่องนี้,อย่างไรก็ตามข้าต้องการพบนาง,ไม่ได้มีอะไรมากมายกว่านั้น,ข้าต้องการนำกองทัพที่ยิ่งใหญ่,ก่อนที่จะไปพบกับนาง,เพื่อแสดงให้นางเห็นความแข็งแกร่งของข้า!"จงซานคิดใคร่ครวญและกล่าวออกมา.
เทียนหลิงเอ๋อที่เป็นคนที่ค่อนข้างดื้อรั้น,เอาแต่ใจไม่น้อย,นำพาเขาไปสู่เรื่องอันตรายหลายต่อหลายครั้ง,ทว่าทุกอย่างที่เกิดขึ้นมันได้สลักลงภายในใจของจงซาน,ทำให้จงซานไม่สามารถลืมมันได้เลย.
เซียนเซิงซือที่จ้องมองไปยังจงซาน,แล้วกล่าวออกมาว่า,"ราชวงศ์สวรรค์ต้าหลีนั้นคงไม่ยินดีนัก,การที่ท่านต้องการลักพาตัวเทียนหลิงเอ๋อกลับมา,บางที่ไม่ใช่แค่ว่าเป็นเรื่องยาก,แต่มันเป็นเรื่องที่แทบเป็นไปไม่ได้,แม้ว่าจะมีกองกำลังที่แข็งแกร่งเท่าใด,มันก็ยังมองไม่เห็นเส้นทาง!"
"ความคิดของข้าเองก็คิดว่ามันอาจจะมากไป?
อาจเป็นเรื่องที่ข้าใจร้อนเกินไป? ,ทว่าบางสิ่งบางอย่างมันก็ไม่สามารถวัดด้วยเหตุผลได้,สิ่งสำคัญที่สุด,เทียนหลิงเอ๋อนั้นมีความสำคัญต่อข้ามาก,ถึงแม้ว่าคนทั่วไปจะหาว่าข้าโง่,ทว่าภายในใจของข้าก็ไม่ได้รู้สึกเสียใจเลยแม้แต่น้อย."จงซานที่กล่าวออกมาด้วยความมั่นใจ.
"ไม่!
คิดว่าเป็นคนโง่,ก็เป็นคนโง่จริงๆ,แม้ว่าเรื่องดังกล่าวนี้เป็นเรื่องที่อหังการเป็นอย่างมาก,ทว่าทุกคนก็ย่อมมีเหตุผลเป็นของตัวเอง,สำหรับบุรุษที่แท้จริงแล้ว,การซื่อสัตย์กับความรู้สึกตัวเอง,ก็ไม่ใช่เรื่องที่แย่เท่าไหร่,แม้ว่ามันจะเป็นเรื่องที่หนักหนาและร้ายกาจ,ทว่าหากสามารถก้าวผ่านมันไปได้ด้วยหัวใจที่ไร้ความลังเล,ก็จะประสบความสำเร็จและก้าวผ่านเรื่องที่คนไม่ยอมรับได้,ในทางตรงกันข้าม,หากเป็นคนที่โลเลไร้ซึ่งความหนักแน่น,ไม่ว่าสิ่งใดก็ไม่สามารถทำได้สำเร็จ,ทุกอย่างล้วนแล้วแต่ล้มเหลว,ไม่ต่างจากคนอ่อนแอ,ที่ไม่มีวันสำเร็จไม่ว่าจะทำสิ่งใดก็ตาม,เรื่องทุกอย่างที่เกิดขึ้นทั้งหมดล้วนแล้วแต่เป็นส่วนประกอบ,หากว่าสามารถข้ามผ่านเรื่องที่ยากได้,สามารถแบกรับเรื่องที่เหลือเชื่อได้,ก็จะสามารถทำเรื่องที่เหลือเชื่อได้เช่นกัน,เรื่องทุกอย่างที่ฝืนสวรรค์นั้น,มีแต่คนที่ไร้ความหวาดกลัวเท่านั้น,ถึงจะประสบความสำเร็จได้."เซียนเซิงซือที่ส่ายหน้าไปมาพลางถอนหายใจเบาๆ.
"เจ้าเข้าใจก็ดีแล้ว,ทว่าเรื่องยากๆที่เจ้าเอ่ยถึงนั้น,ข้าล้วนแล้วแต่เจอมามากมายนัก,เรื่องของราชวงศ์สวรรค์ต้าหลี,ข้าคงบอกได้เลยว่ามันเต็มไปด้วยอันตรายนับหมื่น,ทุกคนทั่วทั้งราชวงศ์สวรรค์เป็นไปไม่ได้ที่ยอมให้ข้าง่ายๆ,หากว่าเจ้าไม่ต้องการจะก้าวผ่านสายน้ำที่เชี่ยวกรากนี้กับข้า,ข้าก็จะไม่ฝืน."จงซานที่กล่าวต่อเซียนเซิงซือ.
"เฮ้เฮ้,ข้าได้เตรียมใจมาแล้วถึงได้ตามท่านมาที่นี้,มีเหรอที่ข้าจะไม่พร้อม?ท่านไม่ได้หวาดกลัวต่อราชวงศ์สวรรค์ต้าหลี,ข้าจำเป็นต้องกลัวอย่างงั้นรึ?นอกจากวันนั้น,คงไม่มีใครทำให้ข้าหวาดกลัวได้อีก."เซียนเซิงซือยืนยัน.
"ดี,ดูเหมือนว่าการกลับไปเกาะหมาป่าสวรรค์ในครั้งนี้,เป็นการตัดสินใจที่ถูกต้องที่สุด."จงซานที่กล่าวออกมาด้วยรอยยิ้ม.
เซียนเซิงซือที่เผยยิ้มแต่ไม่ได้กล่าวสิ่งใดออกมา!
เช้าวันถัดมา,กงจูเฉียนโหยวที่กลับมาคฤหาสน์ตงฟางอีกครั้ง.
"อะไรนะ?
กำลังจะไปใหนอย่างงั้นรึ?"จงซานที่ขมวดคิ้วไปมากกล่าวออกมาด้วยท่าทางประหลาดใจ.
"ศาลาเจ็ดดาว,ข้ามีกายสถิตธาตุวายุ,เป็นความลับ,ภายในต้าโหลเองมีเพียงไม่กี่คนที่รู้,ทว่าเหตุการณ์เรื่องที่หยิงหนิงถูกสังหารจากฝีมือของเฉินฉีเทียน,ทำให้ข้อมูลถูกเปิดเผย,ข้าจึงต้องกลับไปศาลาเจ็ดดาว,เพื่อพูดคุยกับประมุขศาลลาเจ็ดดาว,ดูเหมือนว่าข้าคงจะต้องไปเป็นการส่วนตัว,เพราะว่าประมุขศาลาเจ็ดดาวต้องการจะพูดคุยและสอนอะไรบางอย่างกับข้า."กงจูเฉียนโหยวขมวดคิ้วไปมา.
"ประมุขศาลาเจ็ดดาวอย่างงั้นรึ?
เขาเหนือกว่าเซิ่งซางอีกรึ?
ถึงได้จำเป็นต้องสอนเจ้าเป็นการส่วนตัว?"จงซานที่ขมวดคิ้วไปมา.
"แน่นอนว่าเทียบกับเซิ่งซ่างไม่ได้,เพียงแต่การไปพูดคุยกับประมุขศาลาเจ็ดดาวนั้น,เป็นคำสั่งของเซิ่งซ่าง."กงจูเฉียนโหยวกล่าว.
"ศาลาเจ็ดดาว?
ใครเป็นประมุขศาลาเจ็ดดาวรึ?"จงซานขมวดคิ้วไปมาแสดงท่าทางกังวลไปมา.
"โปรดวางใจ,เป็นผู้หญิง,ข้าคงไม่กลายเป็นภรรยาของนางหรอก."กงจูเฉียนโหยวที่เห็นจงซานหึงหวงก็เผยยิ้มออกมา.
เห็นนางปั่นหัวเขา,จงซานที่เผยยิ้มออกมา.
"ประมุขศาลาเจ็ดดาวนั้น,เป็นประมุขที่น่าอัศจรรย์เป็นอย่างมาก,เดิมที่เซิงซ่างและนางเป็นคนรักกันมาก่อน,ช่างน่าสงสารที่เซิงซ่างเลือกเส้นทางสู่ความยิ่งใหญ่,สร้างราชวงศ์สวรรค์เพื่อเก็บเกี่ยววาสนา,เหมือนกับเจ้า,ฝ่าบาทนั้นมีหวงโห่วหลายคน,ประมุขศาลาเจ็ดดาวนั้นไม่สามารถทนได้ที่จะใช้บุรุษร่วมกับคนอื่น,ดังนั้นจึงไม่ยอมพบกับเซิ่งซ่างอีกครั้ง,นางได้ก่อตั้งศาลาเจ็ดดาวขึ้นมา,ทว่าคนทั้งสองนั้นก็ยังมีความรักที่ฝั่งแน่นอยู่ลึกๆ,เป็นความรักที่ไม่สามารถตัดขาดจากกันได้,เซิ่งซ่างเองก็ไม่สามารถปล่อยวางได้เช่นกัน,ทว่าก็ไม่ได้ฝืนใจนาง,พร้อมกับยังอนุญาตให้ศาลาเจ็ดดาวเป็นส่วนหนึ่งของราชวงศ์สวรรค์ต้าโหลว,ยกตัวอย่างเช่น,คนของศาลาเจ็ดดาวที่มีระดับแกนทองหากได้รับการรับรองจากอาวุโสของศาลาเจ็ดดาวสามารถเข้ารับราชการเป็นขุนนางขั้นห้าได้,ประมุขศาลาเจ็ดดาวถึงจะไม่ยินดี,ทว่ากับเรื่องนี้ก็นับว่าเป็นประโยชน์ต่อสำนักตัวเอง,ดังนั้นจึงไม่ได้ขัดขืนแต่อย่างใด."กงจูเฉียนโหยวกล่าว.
"แท้จริงก็เป็นเช่นนี้นั่นเอง."จงซานที่สูดหายใจลึก.
"ใช่แล้ว,หลังจากที่เซิ่งซ่างสร้างราชวงศ์สวรรค์ขึ้นมา,ประมุขศาลาเจ็ดดาวเองก็ไม่ได้ลาขาดจากเซิ่งซ่างโดยสมบูรณ์,ทว่าก็ยังคงส่งข่าวไปมาดังนั้นจึงจำเป็นต้องมีข้าเป็นผู้นำสาร,แน่นอนว่าเรื่องนี้นี้ฝ่าบาทจะสามารถทำได้อย่างงั้นรึ?
ดังนั้นข้าจึงเป็นเหมือนกับคนกลางในการส่งข่าวซะมากกว่า."กงจูเฉียนโหยวกล่าว.
"ประมุขศาลาเจ็ดดาวที่ให้เจ้าไปในครั้งนี้,แม้ว่าจะเป็นเรื่องปรกติทั่วไป,เจ้าเองก็ควรระวังตัวให้ดี!"จงซานกล่าว.
"ข้ารู้,ถึงแม้ว่าข้าจะเป็นอาวุโสของศาลาเจ็ดดาว.เคยไปพบนางหลายครั้งแต่ก็ไม่เคยเห็นนางนางเลย,การไปครั้งนี้ข้ายังมีศรเทพวายุไปด้วย,และฝ่าบาทยังให้นำอาต้าและอาเอ้อไปด้วย........."กงจูเฉียนโหยวที่ขมวดคิ้วไปมาเล็กน้อย.
"อืม,ไปเถอะ,ในเมื่อมีทั้งสองไปด้วยก็คงปลอดภัย,ไม่ว่าอย่างไร,ดูแลตัวเองให้ดี."จงซานกล่าว.
"อืม!"กงจูเฉียนโหยวพยักหน้า.
ขณะที่ทั้งคู่กำลังพูดคุยกันไปมา,ที่ด้านนอกตำหนักตงฟางนั้นก็ได้ยินเสียงๆหนึ่งดังขึ้นมาในทันที.
"มีคำสั่งให้กงจิวโห่วตงฟางจงซาน,เข้าพบที่ในตำหนัก."
เสียงแหลมเล็กของขันทีที่ดังขึ้นมา.
"หืม?"จงซานที่ชำเลืองมองออกไปเล็กน้อย.
"ฝ่าบาทได้ถามเกี่ยวกับเจ้าเมื่อวาน,และรับรู้แล้วว่าเจ้ากลับมาแล้ว!"กงจูเฉียนโหยวกล่าว.
"ทว่าพักร้อนของข้ายังไม่ครบ!"จงซานที่แสดงท่าทางประหลาดใจ.
"มีคำสั่งให้กงจิวโห่วตงฟางจงซาน,เข้าพบที่ในตำหนัก."
เสียงของขันทีที่ยังคงดังสนั่นอยู่ด้านนอก.
จงซานจึงทำได้แค่เร่งรีบก้าวออกจากห้องโถง,ออกไปหาขันทีในทันที.
เสียงของขันที่ที่ด้านนอกคฤหาสน์ตงฟาง,ขณะที่จงซานก้าวออกมา,ก็กล่าวออกมา.""มีคำสั่งให้กงจิวโห่วตงฟางจงซาน,เข้าพบที่ในตำหนัก."
"รับประสงค์!"จงซานที่ขมวดคิ้วไปมาพร้อมกับกล่าวออกมา.
จากนั้น,จงซานที่ทำได้กวาดตามองด้วยความสงสัย,ก่อนที่จะก้าวตามขันที,มุ่งตรงไปยังส่วนหนึ่งของตำหนักหลวง,เป็นวิหารไท่กู่,ดูเหมือนว่านี่จะเป็นการเข้าพบเป็นการส่วนตัวกับเซิ่งซ่างราชวงศ์สวรรค์ต้าโหลว.
ที่มาจากhttps://lnmtl.com/novel/immortality
#นิยาย เรื่องอมตะ #Immortality#นิยายแปลไทย
Author(s)
สนใจสนับสนุนพวกเรา,เข้าร่วมกลุ่ม VIP ====> Click
***เว็ปฟรีอัพ สองวันหนึ่งตอน
***กลุ่มลับ อัพ 2-3 ตอนต่อวัน.
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น