วันอังคารที่ 16 กรกฎาคม พ.ศ. 2562

Immortality Chapter 369 Nascent Soul Stage

Immortality Chapter 369  Nascent Soul Stage

นิยาย เรื่อง อมตะ ตอนที่ 369 ระดับก่อตั้งวิญญาณ.


Chapter 369  Nascent Soul Stage
  ระดับก่อตั้งวิญญาณ.

"ขอบพระทัยฝ่าบาท,ทรงเจริญหมื่นปีหมื่นๆปี!"จงซานที่กล่าวออกมาด้วยความเคารพ

กงชั้นสาม,กงจิวโห่วชั้นสามอย่างงั้นรึ?รองเสนาธิการกระทรงพิธีการอย่างงั้นรึ? จงซานที่ได้รับวาสนาของราชวงศ์สวรรค์มากขึ้นยิ่งกว่าเดิม,เดิมที่ด้วยชื่อเสียงและสถานะของเขาก่อนหน้า,กรรมวาสนาที่ได้รับมีความเร็วแปดเท่า,หลังจากที่ได้รับการแต่งตั้งเป็นกงจิว,ณ เวลานี้จงซานได้รับ มรรคาระดับกลางแล้ว, กรรมวาสนาที่ได้รับพลังฟ้าดินกลายเป็นความเร็วฝึกฝน 10 เท่า.

ความเร็วการฝึกฝนสิบเท่า,หมายความว่าการบำเพ็ญของเขา 100 ปี,จะเทียบเท่ากับการฝึกฝนในสภาพปกติ 1000 ปีนั่นเอง.

ขณะที่จงซานซาบซึ้งกับมหากรุณาของฝ่าบาท,เหล่าเสนาธิการและขุนนางอื่นๆต่างก็ขมวดคิ้วไปมา.

รองเสนาธิการกระทรวงพิธีกรรม? เสนาธิการกระทรวงพิธีกรรม? เมื่อไหร่ก็ตามที่เขาได้รับตำแหน่งเสนาธิการกระทรวงพิธีกรรม? ต่อไปจะไม่กลายเป็นเสนาธิการกระทรวงกลาโหมอย่างงั้นรึ?เสนาธิการพิธีกรรม,ไม่ควรจะเรียกว่าเสนาธิการกระทรวงพิธีกรรม,แต่ควรจะเรียกเสนาธิการต่างประเทศด้วยซ้ำ? ด้วยความสามารถในการบัญชาทัพ,เซิ่งซ่างต้องการที่จะให้เขาเป็นเสนาธิการต่างประเทศหรือไม่?

ภายในท้องพระโรง,เหล่าข้าราชบริพารไม่เข้าใจแม้แต่น้อย,แม้แต่ไท่จื่อทั้งสี่ก็ไม่เข้าใจ,มีเพียงแค่อาวุโสเทียนที่จ้องมองไปยังกู่เฉิงตงเป็นนัยน์.

"ขอบพระทัยฝ่าบาทที่เชื่อใจ,นี่คือกระบี่อาญาสิทธิ์ที่ฝ่าบาทมอบให้,ตอนนี้ขอคืนต่อฝ่าบาท!"จงซานที่ยื่นกระบี่อาญาสิทธิ์ออกไป.

"อืม!"กู่เฉิงตงที่พยักหน้า.

จากนั้นขันที่ก็นำกล่องก้าวออกมา,รับกระบี่อาญาสิทธิ์จากจงซาน.

"ฝ่าบาท,คันศรเทพวายุนี้,แม้ว่าจะเป็นอาวุธในคดีฆาตกรรม,แต่ก็นับว่าเป็นสมบัติที่ล้ำค่า,เฉินขอประทานอนุญาต,ร้องขอให้ฝ่าบาทมอบมันให้กับกงจูเฉียนโหยว,เพื่อปลอบประโลมที่นางต้องทนทุกข์กับข้อกล่าวหาเป็นเวลาถึงสองเดือน."จงซานที่กล่าวทูลออกไป.

คันศรเทพวายุและลูกศรเทพวายุนี้,เดิมที่ก็เป็นของบิดาแท้จริงของนาง,โดยเนื้อแท้แล้วก็ควรจะเป็นของกงจูเฉียนโหยว,นอกจากนี้กงจูเฉียนโหยวที่ถูกกล่าวหาอย่างไม่ยุติธรรม,กับคำที่จงซานเอ่ยปากออกมานั้น,เหล่าข้าราชบริพารจำนวนมากเองก็พยักหน้าเห็นด้วย,ไม่มีใครกล้ากล่าวขัดอย่างแน่นอน.

"ได้!"กู่เฉิงตงพยักหน้า.

"ขอบพระทัยฝ่าบาท!"กงจูเฉียนโหยวที่เอ่ยปากออกมาในทันที.

จงซานที่นำคันศรเทพวายุ,มอบให้กับกงจูเฉียนโหยว,ซึ่งนางเวลานี้ไม่ได้มองไปที่ของวิเศษระดับเก้า,ทว่าจ้องมองด้วยความหลงไหลไปยังตัวจงซาน.

จากนั้น,จงซานที่ก้าวออกมา,พร้อมกับนำอะไรบางอย่างออกมาจากที่ด้านในอกเสื้อ,เป็นจีวรไหมม่วงนั่นเอง.

"ขอบคุณอาวุโสเทียนที่ช่วยเหลือในครั้งนี้,นี่เป็นสิ่งที่ผู้เยาว์รับปากเอาไว้."จงซานที่ส่งจีวรไหมม่วงให้กับอาวุโสเทียน.

จงซานที่ขมวดคิ้วไปมาเล็กน้อย,อาวุโสเทียนที่เผยยิ้มที่ชั่วร้ายออกมา,พร้อมกับเอื้อมมือออกไป,ในเวลาเดียวกันนั้นกู่เฉิงตงบนบัลลังก์เองก็จ้องมองลงมาด้วยเช่นกัน,ดวงตาของเขาที่หลับตาลง,ราวกับว่าเป็นสัญญาณอะไรบางอย่างกับคนทั้งสอง.

ไท่จื่อทั้งสี่และหานถูหลงที่จ้องมองด้วยความสงสัยไปยังจีวรไหมม่วง,ไม่เข้าใจเช่นกันว่าทำไมอาวุโสเทียนถึงได้สนใจจีวรนี้.

จงซานที่อยู่ด้านหน้าเหล่าข้าราชบริพาร,พร้อมกับยื่นจีวรไหมม่วงมอบให้กับอาวุโสเทียน,เป็นการบอกกับทุกคนด้วยว่า,จีวรไหมม่วงนี้,ไม่ใช่ของตัวเขาอีกต่อไป,นี่คือสมบัติจิตวิญญาณระดับเก้า,เดิมทีมันก็ไม่ใช่ของตัวเขาอยู่แล้ว,นี่เป็นของวิเศษที่ใช้เก็บข้อมูลของจงซานของจินฉาน,จีวรนี้,เป็นสิ่งที่เขาถูกบังคับให้ได้รับมา.

อาวุโสเทียนที่รับจีวรไหมม่วงมา,จากนั้นก็คำนับกู่เฉิงตงเล็กน้อย,กู่เฉิงตงที่พยักหน้าให้.

ทันใดนั้นร่างของอาวุโสเทียนก็หายไป,หายไปจากห้องโถงหลักในทันที.

"เรียนฝ่าบาท,สงครามภาคใต้ได้จบลงแล้ว,ทว่าความรู้สึกของเฉินนั้นยังคงคุ่กรุ่นอยู่ในสนามรบ,เฉินจึงใคร่ขอให้ฝ่าบาทประทานวันหยุดยาว,สักสองถึงห้าปี,เพื่อปรับตัวเอง,ก่อนที่จะสามารถเข้าร่วมการเมืองของราชวงศ์ต้าโหลวด้วยสภาพที่พร้อมที่สุด."จงซานที่เอ่ยปากออกมาในทันที.

?ขอลาหยุดอย่างงั้นรึ?เหล่าสนาธิการและเหล่าข้าราชบริพารต่างก็จดจ้องมองไปยังจงซานด้วยท่าทางแปลกประหลาด,ภายในท้องพระโรงแห่งนี้,อาจกล่าวได้ว่าเป็นสถานที่เหมาะที่สุดในการบำเพ็ญ,การอยู่ที่นี่จะได้สัมผัสถึงพลังของเซิ่งซ่าง,ทำให้ยกระดับพลังฝึกตนเป็นอย่างมาก,กับการได้อยู่ที่นี่,ราวกับว่าได้สัมผัสถึงพลังของฟ้าดินที่เหนือล้น,เปี่ยมล้นด้วยพลังวิญญาณ,ทุกคนแทบต้องการเข้ามาอยู่ภายในสถานที่แห่งนี้นานที่สุดเท่าที่จะทำได้,ด้วยสามารถยกระดับพลังให้กับตัวเองได้,ยิ่งได้รับกลิ่นอายของฝ่าบาทมากเท่าไหร่,แม้จะไม่ทุกวัน,ในทุกๆสิบวันก็ถือว่าเพิ่มพลังฝึกตนได้มากโขแล้ว.

จงซานผู้นี้กับขอลาหยุดอย่างงั้นรึ? เพื่อปรับความคิดตัวเองอย่างงั้นรึ? เหล่าเสนาธิการและขุนนางต่างๆ ถึงกับต้องหลั่งเหงื่อที่เย็นเยือบออกมา! มีคนเช่นนี้ในโลกด้วยรึ?

"ได้!"

เซิ่งซ่างเองก็คาดไม่ถึงเช่นกัน!

"ขอบพระทัยฝ่าบาท."จงซานที่กล่าวออกมาด้วยความตื่นเต้น.

"เลิกประชุม!"เซิ่งซ่างกล่าวออกมาเบาๆ.

"เลิกประชุม!"ขันทีที่ขานเสียงดังลากยาว.

"ทรงเจริญหมื่นปีหมื่นๆปี!"

สองวันหลังจากนั้น,จงซานที่กลับมายังคฤหาสน์ตงฟางพร้อมกับมอบหมายเรื่องต่างๆให้กับสุ่ยอู๋เหินและหลิวอู๋ซ่าง,ก่อนที่จะนำจื่อเห่าเดินทางมายังตำหนักของกงจูเฉียนโหยวอย่างรวดเร็ว.

ตลอดระยะเวลาสองวันนี้,กงจูเฉียนโหยวจำเป็นต้องรับแขกมากมาย,ส่วนใหญ่แล้วเป็นญาติพี่น้องตระกูลกู่,ที่เดินทางมาขออภัยนาง,พร้อมกับมอบของขวัญปลอบใจนาง,จวบจนถึงวันนี้,ตำหนักกงจูเฉียนโหยวก็สงบลงได้ในที่สุด.

จงซานที่ก้าวเข้าไปในตำหนัก,ส่วนจื่อเห่าพร้อมอาต้า,อาเอ้อ,ออกจากตำหนักเพื่อไปเตร็ดเตร่ด้านนอก.

ทีด้านหน้าตำหนักกงจูเฉียนโหยว,กงจูเฉียนโหยวที่มายืนรอเขา.

วันนี้กงจูเฉียนโหยวที่แต่งตัวเผยสัดส่วน,รัดรูปมองเห็นหน้าอกที่ล้นออกมา,ผมยาวทิ้งลงด้านหลัง,รูปร่างโค้งเว้าได้สัดส่วน,วาบหวิว,สะโบกผายใหญ่,ขายาวเรียวเผยให้เห็นต้นขาเล็กน้อย,ทำให้จงซานรู้สึกกระชุมกระชวยเป็นอย่างมาก.

จงซานที่ก้าวเข้าไปหาช้าๆ,จ้องมองกงจูเฉียนโหยวอย่างบ้าคลั่ง.

เมื่อจงซานก้าวเข้ามาใกล้,กงจูเฉียนโหยวที่เผยรอยยิ้มที่เฉิดฉาย,"เจ้ามาแล้ว!"

จงซานไม่ได้กล่าวสิ่งใด,ยื่นมือออกไปสัมผัสแก้มนางเบาๆ,เชยค้างขึ้นมาอย่างนุ่มนวล,กงจูเฉียนโหยวที่ขวยเขิน,ใบหน้าแดงระเรื่อ,จากนั้นก็หลับตาพริ้ม,จงซานที่ก้าวเข้าหาพลางจุมพิตลงอย่างนุ่มนวล.

กับจูบที่นุ่มนวลลึกล้ำเนินนาน,จงซานที่รุกเร้าไม่มีสิ่งใดต้องอธิบายออกมา.

"อึบ!"

กงจูเฉียนโหยวที่สำลักน้ำลายเบาๆ,จงซานที่บรรเลงจูบอันดูดดื่ม,ทำให้ใบหน้าของกงจูเฉียนโหยวแดงแล้วแดงอีก.

แก้มที่แดงระเรือ,ใบหน้าที่หลับตาพริ้มไม่กล้าที่จะลืมขึ้น,ริมฝีปากของทั้งคู่ที่จูบกันอย่างหนัก,ผ่านไปไม่รู้ว่านานเท่าไหร่เหมือนกัน.

"ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า."

จงซานที่หัวเราะร่วน,พร้อมกับช้อนไปข้างล่างลำตัว,พร้อมกับอุ้มกงจูเฉียนโหยวขึ้นมาในทันที.

"อ๋า!"

กงจูเฉียนโหยวที่สะดุ้งเล็กน้อย,พร้อมกับยื่นมือออกไปคว้าลำคอของจงซาน.

จงซานที่อุ้มกงจูเฉียนโหยว,พร้อมกับก้าวเข้าไปยังตำหนักของนาง,เข้าไปยังห้องนอนพร้อมปิดประตูเสียงดัง.

"ปัง!"

ภายในตำหนักของกงจูเฉียนโหยว,จงซานที่อุ้มนางเข้าไปในห้องนอนพลางวางนางลงไปบนเตียงหยกอย่างนุ่มนวล,กงจูเฉียนโหยวที่รับรู้ว่าจะเกิดอะไรต่อไป,ใบหน้าที่เขินอาย,หลับตาพริ้มไม่กล้าลืมขึ้นมา,และแล้วร่างของจงซานเวลาก็เลือนขึ้นไปทับบนร่างกายของนาง.
.....
 เช้าวันถัดมา,ตำหนักกงจูเฉียนโหยว,แสงตะวันที่ส่องลอดผ่านหน้าต่างส่องมาถึงเตียงของกงจูเฉียนโหยว,ซึ่งเวลานี้ร่างของจงซานและกงจูเฉียนโหยวที่ยังคงกอดรัดคลอเคลียกันอยู่,จงซานที่ยังคงนอนหลับ,ดวงตาปิดแน่นด้วยความสบายใจ.

ร่างของกงจูเฉียนโหยวที่อยู่บนอกของจงซาน,สีใบหน้าไปมาอย่างนุ่มนวล,จ้องมองใบหน้าที่กำลังหลับของจงซาน,คลอเคลียไปมาบนหน้าอกจงซานไปมาด้วยความสุข.

ขาเรียวงามเหมือนหยกสลักของนางยังคงหนีบขาซ้ายของจงซานแน่น,พร้อมกับจ้องมองลงไปยังต้นขาของตัวเองซึ่งเวลานี้มีสีแดงอยู่เล็กน้อย,ก่อนที่จะนำผ้าเช็ดหน้าสีขาวบริสุทธิ์ออกไปซับโลหิตที่ปรากฏขึ้นออกไป,ซึ่งบนร่างของจงซานบางแห่งก็มีโลหิตอยู่เล็กน้อย,ขณะที่นางเช็ดทำความสะอาดไปด้วย.

นางที่ยังคงไถไปมาบนหน้าอกของจงซาน,รู้สึกเหมือนว่าไม่ค่อยสบายเหมือนตอนแรก! ทันใดนั้นก็รับรู้ได้ในทันทีว่าจงซานในเวลานี้ไม่ได้หลับ,ทว่าเขาได้ทะลวงระดับและอยู่ในช่วงทำให้มันคงที่.

จงซานจวนเจียนจะทะลวงระดับแล้ว,นับตั้งแต่ในท้องพระโรง,การที่เขาได้รับกรรมวาสนามากมาย,ก็มีสัญญาณที่จะทะลวงระดับแล้ว,ในเวลานี้,ดูเหมือนว่ามีการเปลี่ยนแปลงอะไรบางอย่าง,พลังวิญญาณของเขาที่เพียงพอแล้ว,มีเพียงแค่ร่างกายที่ยังคงถ่วงการเลื่อนระดับของเขาเอาไว้.

อย่างไรก็ตาม,ด้วยการมีสัมพันธ์กับเฉียนโหยว,ท้ายที่สุดจงซานก็ทะลวงระดับได้,บางทีอาจจะเกี่ยวกับความสัมพันธ์ของธาตุทั้งห้า,การผ่านธาตุหยินที่จำเป็น,เป็นเหตุให้จงซานเมื่อได้รับพลังหยินบริสุทธ์แลกเปลี่ยนเข้ามาในร่าง,จนทำให้ก่อเกิดพลังหยวน,แน่นอน,สิ่งสำคัญที่สุดนั้นเพราะว่าเฉียนโหยวนั้นเป็นกายสถิตธาตุวายุด้วยนั่นเอง.

ร่างสถิตทั้งเก้า,ที่เหมาะสมที่จะเป็นคู่บำเพ็ญช่วยเพิ่มพลังฝึกตน,โดยเฉพาะอย่างยิ่ง,ระดับแกนทองที่มีห่วงโซ่ที่แน่นหนารัดตรึงอยู่,แต่แล้วเวลานี้จงซานก็สามารถทะลวงผ่านระดับจนได้.

ในพริบตาเดียว,เรือนหยางของจงซานที่จมลึกลงไปในจิตสำนึกภายในร่างกาย.

เรือนหยาง,ที่มีพลังหยางบริสุทธิ์มากมาย,กำลังก่อตัวกันขึ้น,ท้ายที่สุดในเวลาหัวเลี้ยวหัวต่อ,เขาก็สามารถทะลวงผ่านระดับไปได้,เวลานี้กำลังอยู่ในการรวบรวมพลัง,สร้างวุ้นฐานพลังก่อตัวกันขึ้น มากขึ้นและก็มากขึ้น.

ไม่นานหลังจากนั้น,มันได้รวมตัวกันที่จุดศูนย์กลาง,เป็นบางอย่างที่กำลังก่อตัวขึ้นช้าๆ,เป็นร่างกายที่เหมือนกับจงซานร่างเล็กขนาดเท่ากำปั้น.

ภายในจิตสำนึกของจงซานเวลานี้,ร่างเล็กที่ปรากฏขึ้นพร้อมกับจ้องมองไปยังเรือนหยางขนาดใหญ่.

ก่อตั้งวิญญาณ,นี่คือวิญญาณก่อตั้ง,10% วิญญาณก่อตั้งที่เกิดขึ้น,จงซานที่ราวกับสัมผัสได้ถึงสวรรค์และปฐพี,สามารถเชื่อมต่อกับพลังฟ้าดิน,ไม่แปลกใจเลยว่าคนที่มีระดับก่อตั้งวิญญาณนั้นจะสามารถสร้างเมฆขึ้นมาขับขี่ได้,เพราะว่าจงซานในเวลานี้สามารถสัมผัสได้ถึงพลังงานลม,พลังงานน้ำ,ตราบเท่าที่เขาสร้างวิญญาญก่อตั้งสำเร็จ,เขาจะสามารถสร้างเมฆสีขาวขึ้นมาได้ในทันที.

มันคือวิชาที่ง่ายที่สุด,ต่อไปเขาไม่จำเป็นต้องพึ่งของวิเศษเหมือนกับระดับแกนทองแล้ว,ในเวลานี้,จงซานที่ก้าวไปสู่การเป็นหนึ่งในกฎเกณฑ์ของธรรมชาติแล้ว.

ก่อตั้งวิญญาณ,ท้ายที่สุดก็ก้าวไปถึงระดับก่อตั้งวิญญาณแล้ว!

เมื่อพลังหยางบริสุทธิ์กลายเป็นวิญญาณก่อตั้งสมบูรณ์,เขาก็จะอยู่ในระดับก่อตั้งวิญญาณ,ทันใดนั้นยันต์หยกทมิฬก็สั่นไปมาในทันที.

จงซานชำเลืองมองเล็กน้อย,เพียงแค่มันขยับ,ยันต์หยกทมิฬก็แปรเปลี่ยนไปปะทับที่แขนวิญญาณก่อตั้งของเขาทันที,มันได้เกาะติดอยู่ที่แขนร่างวิญญาณแรกก่อตั้ง.

ดูเหมือนว่าวิญญาณก่อตั้งจะพยายามศึกษามัน,ทว่าไม่สามารถทำได้,ดังนั้นจึงได้ทำการเก็บมันเอาไว้ด้านนอกของร่าง.

ยันต์หยกทมิฬนั้นได้ประทับแกนหยางของจงซานมานาน,บางทีเมื่อปราณหยางบริสุทธิ์ได้เปลี่ยนไป,แม้ว่าจะไม่สามารถควบคุมยันต์นี้ได้,ทว่าจงซานกับสัมผัสถึงมันได้,วิญญาณก่อตั้งที่ขยับเบาๆ,ทันใดนั้นภาพของยันต์ก็ปรากฏมากมาย,ราวกับเป็นภาพลวงตา,เหมือนดังที่เคยสามารถผนึกเมืองเฟิงหลิงได้ก่อนหน้านี้,สามารถผนึกสวรรค์ให้หยุดนิ่งได้เหมือนก่อน.

จงซานลืมตาขึ้นมาในทันที.

"ฟรึบ!"

ทั่วทั้งห้อง,ราวกับว่าปรากฏเป็นเงาของยันต์มากมายนับไม่ถ้วน,มันได้กระจายไปทุกทิศทุกทาง,แม้แต่บนหน้าอกและหน้าผากของกงจูเฉียนโหยวก็เช่นกัน.

ทุกอย่างที่หยุดนิ่ง,ทั่วทั้งห้องโถงถูกผนึกเอาไว้,แม้แต่กงจูเฉียนโหยวก็ถูกผนึกอย่างงั้นรึ?

จงซานที่ชำเลืองมองออกไป,เรียกกงจูเฉียนโหยว,ทว่านางไม่ตอบสนองเลยแม้แต่น้อย.

ทว่าจงซานที่สามารถที่จะเปิดการใช้งานมันได้,ทว่ากับไม่รู้วิธีในการเรียกมันกลับมา,รู้เพียงแต่วิธีใช้,แต่ไม่รู้วิธีเก็บ.


ผ่านไปหนึ่งชั่วโมง,เขาที่รอหนึ่งชั่วโมง,ภาพของยันต์ก็ค่อยๆจางลงเรื่อยๆ,ก่อนที่จะหายไปโดยสมบูรณ์.




ที่มาจากhttps://lnmtl.com/novel/immortality

#นิยาย เรื่องอมตะ #Immortality#นิยายแปลไทย
Author(s)


สนใจสนับสนุนพวกเรา,เข้าร่วมกลุ่ม VIP ====> Click

***เว็ปฟรีอัพ สองวันหนึ่งตอน
***กลุ่มลับ อัพ 2-3 ตอนต่อวัน.

 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น