วันอังคารที่ 16 กรกฎาคม พ.ศ. 2562

Immortality Chapter 368 Eastern Duke

Immortality Chapter 368  Eastern Duke

นิยาย เรื่อง อมตะ ตอนที่ 368 ตงฟางกง.


Chapter 368  Eastern Duke
方公
  ตงฟางกง.
 "ข้าสังหารนางก่อนบ่ายแล้ว!"

ฉีเทียนที่นึกถึงคำพูดต่างๆนาๆก่อนหน้านี้เป็นเพียงข้ออ้าง,เพื่อให้เขาสารภาพออกมาอย่างงั้นรึ?

กับคำพูดก่อนหน้านี้,จงซานที่ชี้ไปยังฉีเทียนโห่วกล่าวหาว่าเขาคือฆาตกร,ทว่าไม่มีอะไรสนับสนุน,ไม่มีอะไรพิสูจน์,แม้แต่หลายๆคนไม่เชื่อจงซานด้วยซ้ำ.

จงซานกล่าวหาฉีเทียนโห่วอย่างงั้นรึ? กล่าวหาพี่ชายของหยิงหนิง? ฉีเทียนโห่วจะทำเรื่องเช่นนี้ได้อย่างไร? อย่างไรก็ตาม,ฝ่าบาทอยู่ที่นี่,จึงไม่มีใครกล้าออกตัวมาขัด,ปล่อยให้เหตุการณ์ดำเนินไป,รอคอยให้ได้บทสรุป,ทุกคนที่จ้องมองจงซานที่ไม่มีอะไรสนับสนุน,เขาจะแก้ตัวอย่างไร.

เขาไม่มีหลักฐานที่จะกล่าวหาฉีเทียนโห่วด้วยซ้ำ?หากว่ามีหลักฐานที่จะเอาผิดฉีเทียนโห่ว,เขาคงไม่ต้องพูดจายอกย้อนมากมาย,กล่าวอ้างอะไรหลายอย่าง,เขาที่ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าใครเป็นฆาตกร.

ตั้งแต่ต้นแล้วทุกคนเต็มไปด้วยความเหยียดหยันด้วยซ้ำ,ทว่าด้วยการโต้เถียงกันระหว่างจงซานและฉีเทียนโห่ว,ฉีเทียนโห่วกลับเผยพิรุธหวาดผวามากขึ้นและก็มากขึ้น,ทำให้เหล่าขุนนางเริ่มสงสัย,ก่อนที่จะกลายเป็นเงียบ,ท้ายที่สุดก็เปลี่ยนเป็นรอผลลัพธ์สุดท้าย.

เป็นฉีเทียนโห่วจริงๆอย่างงั้นรึ?

ฉีเทียนโห่วที่สังหารน้องสาวของตัวเอง,เพียงเพื่อที่จะป้ายความผิดให้กับกงจูเฉียนโหยว,คาดไม่ถึงเลยว่าเขาจะสังหารน้องสาวในสายโลหิตตัวเอง

น่ากลัวเกินไปแล้ว,ชั่วร้ายเลวทรามที่สุด,คาดไม่ถึงเลยว่าญาติพี่น้องตระกูลกู่จะมีคนเช่นนี้ด้วยรึ?

ทุกคนที่ตื่นตะลึง,ญาติพี่น้องตระกูลกู่ตะลึงงัน,ฉีเทียนโห่ว,กู่หลิน,คาดไม่ถึงจะสังหารน้องสาวในสายโลหิต,ไม่สามารถอภัยให้ได้,ด้วยฝ่าบาทที่มีชีวิตอยู่,การสังหารญาติพี่น้องนั้น,เป็นความผิดที่ร้ายแรงเป็นอย่างมาก,เหล่าพี่น้องตระกูลกู่ทุกคนที่จ้องมองด้วยความโกรธเกรี้ยวจ้องเขม็งไปยังฉีเทียนโห่ว.

กงจูเฉียนโหยวที่แสดงท่าทางโกรธเกรี้ยว,ฉีเทียนโห่วที่ป้ายความผิดให้กับนาง,ฟ่านอี้พินในกลุ่มญาติพี่น้องตระกูลกู่,จ้องมองไปยังจงซาน,แววตาที่เต็มด้วยความประหลาดใจตกใจและแปรเปลี่ยนกลายเป็นความระมัดระวัง.

หวนถูหลงที่จ้องมองไปยังจงซาน,ถอนหายใจยาว,เผยยิ้มออกมาอย่างนุ่มนวล.

อ๋องเจิ้งอี้,จ้องมองไปยังจงซาน,จากนั้นก็จ้องมองไปยังกงจูเฉียนโหยว,ก่อนที่จะหลับตาลง,พร้อมกับเงียบลงไม่กล่าวสิ่งใดต่อไป.

ต้าเสวียนอ๋องที่ชำเลืองมองไปยังฉีเทียนโห่วตั้งแต่ต้นจนจบ,ขมวดคิ้วไปมา,สูดหายใจลึก.

อ๋องไท่จง,ชำเลืองมองไปยังจงซาน,รอยยิ้มที่เฉิดฉายตั้งแต่ต้นจนจบไม่เปลี่ยนแปลง,จ้องมองจงซาน,จากนั้นก็จ้องมองไปยังอ๋องเจิ้งอี้,เผยยิ้มออกมาเล็กน้อย.

อ๋องจ้านเทียน,แววตาที่แสดงท่าทางขอบคุณ,คาดหวังและสังหรใจไม่ดีขึ้นมาพร้อมๆกัน.

อาวุโสเทียนที่จ้องมองไปยังฉีเทียนโห่วด้วยความขุ่นเคือง,หากแต่ไม่ได้กล่าวสิ่งใด.

กงจูเฉียนโหยวที่ลอบตะโกนออกมาเสียงดังในใจ,นางตื่นเต้นกำหมัดแน่น,หัวใจของนางที่เต้นไปมา,ยอดเยี่ยม,น่าตื่นเต้น,มันน่าดีใจเกินไปแล้ว.

ในเวลานี้,นางที่กลายเป็นผู้บริสุทธิ์,ปรารถนาอย่างยิ่งยวด,ต้องการกระโดดเข้าไปกอด,จูบ,ชายที่รักของนางที่รักษาคำสัญญา.

"ข้าคิดว่าฉีเทียนโห่วนั้นสนใจความปลอดภัยในตำหนักของจวินจู่เป็นอย่างมาก,ด้วยหวั่นเกรงว่าจะเกิดอุบัติเหตุอะไรขึ้น,เขาได้สั่งให้ข้าเฝ้ามองเหตุการณ์ให้ระเอียดถี่ถ้วน,ดังนั้นข้าจึงได้เฝ้าระวังเป็นอย่างมาก,ในวันนั้นมีระเบิดเกิดขึ้นที่สวน,ทำให้ข้าได้ยินและเร่งรีบไปก่อนใคร,เป็นเพราะเหตุนี้สินะ."หม่าจูหรีที่กล่าวหาฉีเทียนโห่วในทันที.

ฉีเทียนโห่วที่ตัดสัมพันธ์กับหม่าจูหรีก่อนหน้านี้พร้อมกับโบ้ยความผิดให้เขา,ตอนนี้เขาเองก็ไม่เกรงใจด้วยเช่นกัน.

กับข้อกล่าวหานี้,ยิ่งทำให้ฉีเทียนโห่วดิ้นไม่หลุด.

ฉีเทียนโห่วที่จ้องมองไปยังจงซาน,จงซาน,เป็นจงซาน,ทุกอย่างพังทลายเพราะจงซาน,เหตุการณ์ที่หุบเขาหมื่นวานร,ทั้งเหตุการณ์หยิงหนิงครั้งนี้,เพราะจงซาน,เป็นเขา,เขาได้ทำลายมันไปจนสิ้น.

"เป็นเจ้า,เพราะว่าเจ้า,เฉียนโหยวเป็นของข้า!"ฉีเทียนโห่วที่จ้องมองจงซานด้วยความดุร้าย.

จากนั้น,ฉีเทียนได้นำกระบองมังกรม่วงทองลายมังกร,ออกมา,สถานที่แห่งนี้เป็นท้องพระโรงของราชวงศ์,การที่ใครนำอาวุธออกมานับว่าเป็นการกระทำที่ร้ายแรงมาก,ไม้เท้าที่ชี้ตรงไปยังจงซาน.

ทุกอย่างกลายเป็นโกลาหลขึ้นมาทันที,วิหารไท่กู่ที่น่าเกรงขามของราชวงศ์สวรรค์ต้าโหลว,ใครกล้าลบหลู่?

ไม้เท้าของฉีเทียนโห่วนั้นเคลื่อนที่เร็วมาก,พริบตาเดียวก็มาอยู่ด้านหน้าของจงซานแล้ว.

ฉีเทียนที่มีระดับก่อตั้งวิญญาณขั้นปลาย,จงซานนั้นมีเพียงระดับแกนทองขั้นที่สิบ,นอกจากนี้ฉีเทียนโห่วนั้นยังมีของวิเศษระดับเก้าอีกด้วย,ไม้เท้าทองม่วงลายมังกร,ทุกคนที่แสดงท่าทางเป็นห่วงจงซาน.

ทว่าจงซานมีอะไรให้ต้องเป็นกังวลอย่างงั้นรึ? คนเช่นจงซานนั้น? แม้ว่าฉีเทียนโห่วลงมือเต็มที่ก็ยังยากที่จะจัดการจงซานได้.

จงซานที่เตรียมตัวก่อนหน้านี้แล้ว.ตั้งแต่ก่อนที่ฉีเทียนโห่วจะลงมือ.

จงซานในเวลานี้,ที่มือซ้ายมีกระบี่อาญาสิทธิ์,ที่มือขวานั้นมีคันศรเทพวายุ,และลูกศรเทพวายุ,อีกทั้งที่หน้าอกของเขานั้นมีจีวรไหมม่วงอยู่อีกด้วย.

ของวิเศษระดับเก้าทั้งหมด,ไม่ต้องบอกเลยว่ามันทรงพลังขนาดใหน.

ที่มือซ้ายมีกระบี่อาญาสิทธิ์และมือขวามีคันศรเทพวายุและที่หน้าอกของเขามีจีวรไหมม่วง,สมบัติเทวะที่ป้องกันการโจมตี,ทว่าเวลานี้ดูเหมือนว่าจะไม่สามารถป้องกันได้อย่างงั้นรึ?! จงซานที่จ้องมองไปยังไม้เท้าที่อยู่ด้านหน้า.

สมบัติระดับเก้า,จีวรไหมม่วงที่สามารป้องกันผู้ฝึกตนระดับจักรพรรดิแท้ได้,ตอนนี้ไม่สามารถป้องกันการโจมตีของฉีเทียนโห่วได้อย่างงั้นรึ?

"บังอาจ!!!!"

ทันใดนั้นภายในห้องโถง,เสียงที่โกรธเกรี้ยวของกู่เฉิงตงก็ดังขึ้นในทันที.

คำพูดที่โกรธเกรี้ยวของกู่เฉิงตงนั้น,เปรียบดั่งพลังของสวรรค์ที่พิโรจน์ทีเดียว,แทบจะในทันที,ทุกคนภายในห้องโถงรู้สึกมึนงงไปในทันที,ภายในใจของจงซานที่สั่นสะท้านไปด้วยเช่นกัน.

ในเวลาเดียวกัน,ท้องฟ้าของนครบรรพกาลศักดิ์สิทธิ์,ทั่วทั้งท้องฟ้ามืดคลึ้มและปรากฏทัณฑ์สวรรค์สายฟ้าขึ้นมาในทันที,พลังอำนาจที่ยิ่งใหญ่ของกู่เฉิงตงที่กดทับลงมา,ประชาชนทั่วทั้งเมืองถึงกับต้องจ้องมองขึ้นไปบนท้องฟ้า.

สวรรค์กำลังพิโรธ! เซิ่งซ่างกำลังโกรธเกรี้ยว! สายตาของทุกคนเวลานี้กำลังจดจ้องมองไปยังภูเขาไท่กู่.

ฉีเทียนโห่วในเวลานี้,ด้วยคำพูดของกู่เฉิงตงที่โกรธเกรี้ยว,ร่างกายของเขาที่หยุดนิ่งขยับไม่ได้.

ไม้เท้าในมือที่หยุดนิ่งแช่แข็งอยู่กับที่.

แววตาของฉีเทียนโหวเต็มไปด้วยความหวาดกลัว,ร่างที่ถูกแช่แข็ง,ไม่สามารถขยับได้,ราวกับว่าทั่วทั้งร่างกลายเป็นน้ำแข็ง,พื้นที่รอบๆราวกับถูกแช่แข็งไปด้วยน้ำแข็งหนา,แม้แต่สัมผัสเทวะก็ไม่สามารถส่งออกมาจากร่างกายได้,ดวงตาที่เบิกกว้างกลมโต.

เซิ่งซ่างโกรธเกรี้ยว!

ภายในความโกรธเกรี้ยวนี้,ทุกคนไม่กล้าขัด,ไม่มีใครกล้าอย่างแน่นอน.

ฉีเทียนโห่วที่เวลานี้เต็มไปด้วยความหวาดกลัวจ้องมองไปยังกู่เฉิงตง,สายตาที่ดุร้ายที่จับจ้องไปยังจงซานค่อยๆหันกลับมา.

"เฉินฉีเทียน,เพราะก่อนหน้านี้เจ้าและราชวงศ์สวรรค์ต้าโหลวมีมิตรภาพที่ดีต่อกัน,ข้าจึงได้ประทานบรรดาศักดิ์ "ฉีเทียนโห่ว"ให้เจ้า,ไม่คิดเลยหลังจากที่เจ้าจุติใหม่มาเป็นตระกูลกู่,กับสร้างความวุ่นวายให้กับลูกหลานของข้า,สังหารหยิงหนิง,พร้อมกับใส่ร้ายป้ายสีให้กับเฉียนโหยว,ทำให้ราชวงศ์สวรรค์ต้าโหลวต้องเสื่อมเสีย,นับจากวันนี้ไป,เจ้าไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกับราชวงศ์สวรรค์ต้าโหลวอีก,ข้าจะไม่ทำลายพลังฝึกตนของเจ้า,เพื่อเห็นต่อความสัมพันธ์ที่ดีในอดีต,แต่ยึดคืนนามกู่หลินและบรรดาศักดิ์ฉีเทียนโห่ว,ขับออกจากนครบรรพกาลศักดิ์สิทธิ์,ภายในหกเดือนจะต้องไปให้พ้นจากเขตแดนอาณาจักรต้าโหลว,ไม่เช่นนั้น,ข้าจะทำให้เจ้าได้เกิดใหม่อีกครั้ง!"เซิ่งซ่างที่คำรามออกมาด้วยความโกรธเกรี้ยว.

ขณะที่เสียงของเซิ่งซ่างจบลง,บนท้องฟ้าบนนครพบรรพกาลศักดิ์สิทธิ์,เมฆคลึ้มที่รวมตัวกันหน้าแน่น,มืดคลืมกระจายตัวเต็มไปหมด,รวมตัวกันขึ้นที่ตำหนักของฉีเทียนโห่ว.

"ตูมมมมมมมมมมม!"

เสียงฟ้าผ่าที่รุนแรงดังสั่นหวั่นไหว,ตำหนักฉีเทียนโห่วแตกสลายกลายเป็นเสียงๆ,เหล่าวานรและกอลิลล่ามากมายถูกสังหารไปในทันที,มีเหลือรอดตัวเดียวที่หนีออกมา,หนีออกมาจากตำหนักของฉีเทียนโห่วด้วยท่าทางอัศจรรย์ใจ,หยวนเฟยนั่นเองที่หนีรอดออกมา! เขาคือหนึ่งในสองผู้แข็งแกร่งจากภูเขาหมื่นวานรนั่นเอง.

"ตูมมม!"

ตำหนักไท่กู่,ฉีเทียนโห่ว,ไม่,เวลานี้จะต้องเรียกเฉินฉีเทียน,เพียงแค่กู่เฉิงตงชำเลืองมองออกไป,พลังที่มองไม่เห็นก็กระแทกร่างของเฉินฉีเทียนลอยออกมาจากตำหนักไท่กู่เสียงดังสนั่น,ลอยออกไปไกลออกมายังนอกเมืองทิศใต้.

"พรึดๆๆ"

ที่กลางอากาศนั้น,เฉินฉีเทียนที่ยั้งเท้าได้พ่นโลหิตออกมาคำโต,ร่างกายสั่นสะท้านก่อนที่จะมุ่งหน้าหนีออกมาในทันที.

หยวนเฟยที่เห็นเฉินฉีเทียนบินออกมา,ก็เร่งรีบบินตามไปอย่างรวดเร็ว.

ผ่านไปห้าลมหายใจ,เฉินฉีเทียนที่กลับมายืนนิ่ง,จ้องมองเข้าไปในนครบรรพกาลศักดิ์สิทธิ์.

หยวนเฟยผู้ฝึกตนระดับจักรพรรดิแท้ขั้นปลาย,บินตรงมาไม่นานหลังจากนั้นก็มาถึงสถานที่เฉินฉีเทียนยืนอยู่.

ขณะที่หยวนเฟยบินมาใกล้,เฉินฉีเทียนก็ยืนนิ่งบนยอดเขาแห่งหนึ่ง,ดวงตาที่หรี่เล็กลง,จ้องมองไปยังทิศเหนือ,พร้อมกับปาดโลหิตออกจากปาก,เผยสีหน้าแววตาที่ดุร้าย.

"จือจุ้น!เกิดสิ่งใดขึ้นอย่างงั้นรึ?"หยวนเฟยที่กล่าวออกมาด้วยท่าทางร้อนลน.

"ราชวงศ์สวรรค์ต้าโหลว,พวกเราไม่สามารถอยู่ที่นี่ได้อีกแล้ว!"เฉินฉีเทียนที่กล่าวออกมาด้วยความขมขื่น.

ที่ทิศตะวันตกของนครบรรพกาลศักดิ์สิทธิ์,ในถ้ำแห่งหนึ่งในหุบเขาลูกหนึ่ง,ที่ด้านในไร้ซึ่งเสียงรบกวน,ปรากฏหญิงสาวในชุดสีแดงเพลิง,ที่ด้านหน้าของนางนั้นมีกระบี่สีดำทมิฬ,นางที่นั่งนิ่งไม่เคลื่อนไหวราวกับคนตาย,เฉินฉีเทียนที่ถูกกู่เฉิงตงลงโทษได้ยินกันไปทั่ว,สายตาที่คมกริบของนางส่องประกาย.

"ตูมมมมมม!"

ปราณกระบี่ที่ระเบิดออกจากร่างของนาง,ระเบิดภูเขารอบๆร่างกายของนางพังทลายไปจนสิ้น.

หลังจากที่หมอกจางลง,ก็เผยให้เห็นหญิงสาวในชุดสีแดง,ใบหน้าที่เต็มไปด้วยความเกลียดชัง,สายตาที่จ้องมองไปยังตำแหน่งที่เฉินฉีเทียนยืนอยู่.

"ในที่สุดเจ้าก็ออกมา!"หญิงสาวในชุดสีแดงแค่นเสียงที่ดุร้ายออกมา.

จากนั้น,หญิงสาวชุดแดงก็เหินขึ้นฟ้าราวกับปราณกระบี่ขนาดใหญ่พุ่งตรงไปยังตำแหน่งของเฉินฉีเทียนด้วยความเร็วสูง.

"จือจุ้น,ไม่ได้การแล้ว,เจี้ยนหงมา,เร็วเข้า,พวกเรารีบหนีเร็วเข้า!"หยวนเฟยที่เต็มไปด้วยความตื่นตกใจเอ่ยออกมาในทันที.

...............

"ทรงเจริญหมื่นปีๆหมื่นๆปี!"

คดีสำคัญได้เสร็จสิ้นแล้ว,ฉีเทียนโห่วที่ถูกเซิ่งซ่างลงโทษ,เหล่าข้าราชบริพารไม่มีสิ่งใดกล่าว,มีเพียงกล่าวแสดงความเคารพต่อเซิ่งซ่าง.

"จงซานก้าวออกมารับประสงค์ของข้า!"กู่เฉิงตงที่เอ่ยออกมาในทันที.

"เฉินอยู่นี่แล้ว!"จงซานที่ก้าวออกมาพร้อมกับตอบรับคำพูด.

"คดีของหยิงหนิงได้สิ้นสุดลงแล้ว,ขอมอบความดีความชอบทั้งหมดกับคืนสู่เจ้า,พร้อมกับแต่งตั้งเป็นกงจิวโห่วชั้นสาม.พระราชทานตำแหน่ง,รองเสนาธิการพิธีการ! ชั้นสามด้วย!"กู่เฉิงตงที่เอ่ยปากออกมาในทันที.

ทันทีที่คำพูดของกู่เฉิงตงจบ,ประกายแสงสีทองมากมายที่วิ่งพล่านกระแทกทะลวงเข้าร่างของจงซาน,เป็นวาสนาที่ไร้ที่สิ้นสุดที่ผสานเข้าไปในร่างของจงซานในทันที,ไม่,น่าจะบอกว่าร่างของจงซานได้เชื่อมต่อกับวาสนา,ด้วยสถานะของจงซานในเวลานี้,สามารถเชื่อมต่อกับวาสนาของราชวงศ์สวรรค์ได้อย่างมากมาย.

ทั่วทั้งร่างของจงซานที่เต็มไปด้วยวาสนา,บนท้องฟ้าของนครบรรพกาลศักดิ์สิทธิ์ในเวลานี้,ได้ก่อเกิดเป็นวาสนาสร้างรูปลักษณ์ของจงซานขึ้น,เงาร่างของจงซานบนท้องฟ้าได้เลื่อนขยับไปอีกชั้นแล้ว.


 "ขอบพระทัยฝ่าบาท,ทรงเจริญหมื่นปีหมื่นๆปี!"จงซานที่กล่าวออกมาด้วยความเคารพ




ที่มาจากhttps://lnmtl.com/novel/immortality

#นิยาย เรื่องอมตะ #Immortality#นิยายแปลไทย
Author(s)


สนใจสนับสนุนพวกเรา,เข้าร่วมกลุ่ม VIP ====> Click

***เว็ปฟรีอัพ สองวันหนึ่งตอน
***กลุ่มลับ อัพ 2-3 ตอนต่อวัน.

 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น