วันพฤหัสบดีที่ 11 กรกฎาคม พ.ศ. 2562

Immortality Chapter 364 Trial date

Immortality Chapter 364  Trial date

นิยาย เรื่อง อมตะ ตอนที่ 364   วันพิพากษา.


Chapter 364  Trial date
判日
  วันพิพากษา.

"ผู้เยาว์จงซาน,ขอเข้าพบอาวุโสเทียน!"จงซานที่เอ่ยออกไปเสียงดังที่ด้านหน้าค่ายกล.



จงซานไม่มีทางเลือกที่ต้องเดินทางมาเช่นนี้,แม้ว่าพื้นที่หมอกนั้นจะกว้างใหญ่,ทว่าจงซานเชื่อว่าตราบเท่าที่เขายืนอยู่ด้านหน้านี้,อาวุโสเทียนย่อมรับรู้ได้.

อย่างไรก็ตามด้วยหมอกสีขาวที่สุดลูกหูลูกตานี้,อาวุโสเทียนกลับไม่ตอบออกมาเลยแม้แต่น้อย,มันยังคงมืดมนเหมือนเช่นดังเดิม.

"ผู้เยาว์จงซาน,ขอเข้าพบอาวุโสเทียน!"จงซานที่กล่าวออกมาเสียงดังอีกครั้ง.

ถึงจะเป็นค่ายกลขนาดใหญ่ก็เถอะ,แต่ดูเหมือนว่าอาวุโสเทียนจะไม่ต้องการพบกับจงซาน,หรือว่าอาวุโสเทียนดูแคลนที่จะพบกับจงซานกัน.

จงซานที่ขมวดคิ้วไปมา,จงซานพอจะคาดเดาท่าทางของอาวุโสเทียนได้,นอกจากนี้ด้วยสถานะของเขานั้นไม่อยู่ในสายตาอาวุโสเทียนอย่างแน่นอน,เพราะว่าก่อนหน้านี้,แม้แต่อยู่ต่อหน้าต้าเสวียนอ๋อง,เขายังไม่ได้สนใจเลยแม้แต่น้อย.

จงซานที่รอคอยอยู่สองชั่วโมง,อาวุโสเทียนที่ไม่ยอมออกมา.

"จื่อเห่า,ไปนำกองกำลังจงแปดแสนนายมา,เตรียมเปิดพื้นที่แห่งนี้,เพื่อเปิดค่ายกล!"จงซานทีก่ล่าวออกไปเสียงดัง.

"ครับ!"จื่อเห่าที่ตอบรับในทันที.

"ใครกล้าเปิดค่ายกลของข้ากัน?"เสียงของอาวุโสเทียนที่โกรธเกรี้ยวท้ายที่สุดก็ดังขึ้น.

จากนั้นหมอกก็เปิดออกเป็นทาง,พร้อมกับได้ยินเสียงอาวุโสเทียนที่โกรธเกรี้ยว,จงซานที่รออยู่สองชั่วโมง,คาดไม่ถึงไม่เพียงไม่กลับ,แต่ยังจะใช้กำลังเปิดคาดกลอีกด้วย?

"อาวุโส,ผู้เยาว์ล่วงเกินแล้ว,ทว่าเนื่องจากอาวุโสไม่สนใจผู้เยาว์เลย,เรื่องนี้แสนจะคับขัน,หลีกเลี่ยงไม่ได้ที่ให้ผู้เยาว์ต้องใช้แผนการร้าย!"จงซานที่กล่าวออกมาในทันที.

"แผนการร้ายรึ? เข้ามา!"อาวุโสเทียนที่กล่าวออกมาจากด้านใน.

เสียงของอาวุโสเทียนที่ถูกส่งผ่านมาตามเมฆสีเทาตามช่องที่แหวกออกมาจากหมู่มวลเมฆ.

จงซานที่นำจื่อเห่าบินเข้าไปด้านใน.บินไปตามช่องทางที่เปิดออก.

ที่ด้านในนั้นเป็นเมฆสีเทา,ที่มองไม่เห็นอะไรเลยแม้แต่น้อย,เหมือนดั่งเช่นในสนามรบที่ผ่านมา,ไม่สามารถใช้สัมผัสเทวะได้ด้วย.

คนทั้งสองที่บินผ่านช่องอุโมงค์,บินไปยังตรงกลางได้อย่างรวดเร็ว,ซึ่งที่ตรงกลางนั้นมีตำหนักสีดำทมิฬลอยอยู่บนอากาศ.

"ตำหนักชีพจรสวรรค์"  (天脉殿)

ป้ายศิลาที่แขวนอยู่ด้านบนมีอักษรสามตัว,หากให้กล่าวล่ะก็อาวุโสเทียนที่ฝึกฝนวิชาฮวงจุ้ย,ถูกแยกออกจากสวรรค์,เป็นมนุษย์ที่ถูกแบ่งออกจากการเป็นเทพและปิศาจ,เป็นผู้สืบทอดชีพจรสวรรค์.

ประตูของตำหนักชีพจรสวรรค์ที่เปิดออก,จงซานและจื่อเห่าก้าวเข้าไปด้านใน,ที่ด้านในนั้นเป็นเข็มทิศขนาดมหึมาโผล่ขึ้นมาจากพื้นที่ดิน,รอบๆวิหารนั้นเต็มไปด้วยเทียนไขถูกจุดให้แสงสว่าง.

อาวุโสเทียนที่ยืนค้ำไม้เท้าก้าวออกมา,จ้องมองอย่างเย็นชาไปยังจงซาน.

"จงซาน,คารวะอาวุโส!"จงซานกล่าวออกมาในทันที.

"จื่อเห่า,คารวะอาวุโส!"จื่อเห่าที่กล่าวออกมาทันทีเช่นกัน.

"เจ้าหนู,ไม่มีใครกล้าเปิดค่ายกลของข้า,เจ้าจะเหิมเกริมไปแล้ว!"อาวุโสเทียนแค่นเสียงอย่างเย็นชา.

"ผู้เยาว์ไม่กล้า,ทว่าฝ่าบาทนั้นได้ออกคำสั่งให้ข้าเป็นคนสืบสวนเรื่องราวคดีของกงจูเฉียนโหยว,หลีกเลี่ยงไม่ได้ที่ต้องล่วงเกินอาวุโส."จงซานที่กล่าวออกมา.

"เจ้าคงไม่คิดใช้กู่เฉิงตงมาบังคับข้า,ในราชวงศ์สวรรค์ต้าโหลวนั้น,ไม่มีใครสามารถบังคับข้าได้!"อาวุโสเทียนกล่าว

"ผู้เยาว์ทราบ,รับรู้ว่าอาวุโสนั้นเตรียมที่จะรับหยิงหนิงเป็นศิษย์ก่อนหน้า,ทว่าหลังจากนั้นหยิงหนิงกับถูกสังหารอย่างน่าแปลกประหลาด,อาวุโสเองคงไม่สบอารมณ์นัก,จงซานมาที่นี่,ต้องการให้อาวุโสช่วยค้นหาความจริงเกี่ยวกับฆาตกร,เพื่อพิสูจน์ความบริสุทธิ์ให้กับเฉียนโหยว,และหยิงหนิงจะได้พักอย่างสงบ,แม้แต่อาวุโสก็จะบรรเทาความโกรธเกรี้ยวลงด้วย!"จงซานที่กล่าวออกมาด้วยความเคารพ.

"บริสุทธิ์รึ? ไม่ใช่เฉียนโหยวเป็นฆาตกรหรอกรึ?"อาวุโสแค่นเสียงอย่างเย็นชา.

"ข้าคิดว่าอาวุโสเทียนคงจะรับรู้นิสัยของเฉียนโหยวดี,เป็นไปไม่ได้ที่นางจะสังหารน้องสาวตัวเอง,หรือให้กล่าวอีกอย่างหนึ่ง,ถึงแม้ว่าจะสังหารน้องสาวตัวเองแต่นางจะโง่งมถึงขนาดสังหารนางต่อหน้าฝูงชนอย่างงั้นรึ? อาวุโสเทียนที่ยังไม่ได้รับหยิงหนิงเป็นศิษย์อย่างเป็นทางการด้วยซ้ำ,แน่นอนว่าว่ามีโอกาสที่อาวุโสเทียนจะเลือกนาง,แต่การกระทำเช่นนั้น,มีแต่เป็นการลบหลู่อาวุโส,หยิงหนิงได้ตายไปแล้ว,ทว่าเฉียนโหยวยังอยู่,อาวุโสได้สูญเสียหยิงหนิงไปแล้ว,ไม่คิดว่าอาวุโสต้องการจะสูญเสียเฉียนโหยวอีกคน?"จงซานที่กล่าวแนะทางออก.

"ข้าได้บอกไปแล้ว ไม่ว่าความจริงจะเป็นเช่นไร,ข้าจะไม่รับเฉียนโหยวเป็นศิษย์อีก,ถึงแม้ว่านางจะไม่ได้สังหารหยิงหนิง,แต่คำพูดของข้าที่กล่าวออกไปแล้วไม่มีวันเปลี่ยน."อาวุโสเทียนที่ส่ายหน้าไปมา.

เห็นท่าทางดื้อรั้นของผู้ชราแล้ว,จงซานที่ขมวดคิ้วไปมา.

"อาวุโส,ผู้เยาว์นั้นได้รับของวิเศษจากจินฉาน,เป็นจีวรไหมม่วง,ผู้เยาว์ยินดีใช้สิ่งนี้เป็นหลักประกัน,เพื่อที่จะขอโอกาสแลกเปลี่ยนค้นหาความจริงเกี่ยวกับฆาตกรรมในครั้งนี้,หากว่าท้ายที่สุดเฉียนโหยวเป็นฆาตกร,จีวรไหมม่วงนี้จะเป็นของอาวุโสในทันที."จงซานที่กล่าวออกมาด้วยความเคารพ.

จงซานที่พอคาดเดาได้ว่า,ไม่ใช่เพราะว่าจีวรไหมม่วงนี้มันล้ำค่าขนาดใหน,ทว่าในเวลานั้นอาวุโสเทียนรู้สึกประหลาดใจเป็นอย่างมากที่มันสามารถทำให้หนีปู่ซาถอนตัวไปได้,อาวุโสเทียนที่จดจ้องมองไปยังจงซาน,จงซานที่เผยจีวรไหมม่วงออกมา,ในเวลานั้นอาวุโสเทียนที่สูดหายใจลึก,จินฉาน? ของวิเศษระดับเก้า,สนใจมัน?

เวลานี้เขาจะไม่สนใจมันจริงๆรึ?? กับคำพูดของเขาที่ทำให้,อาวุโสที่แสดงสีหน้าจริงจัง,จงซานที่กล่าวอย่างหนักแน่น,อาวุโสเทียนเองดูเหมือนว่าจะสนใจจีวรเป็นอย่างมาก,แม้ว่าคนเช่นอาวุโสเทียนจะเคยเห็นของวิเศษระดับเก้ามากมาย,จงซานเองยืนยันได้ด้วยว่าอาวูโสเทียนนั้นมีของวิเศษระดับเก้ามากกว่าหนึ่งชิ้นด้วยซ้ำ,ทว่าเขานั้นอาจจะมีเหตุผลบางอย่างที่สนใจจีวรนี้,แน่นอนมันจะต้องมีความสามารถพิเศษบางอย่างที่ดึงดูดอาวุโสเทียน,อาวุโสเทียนจะต้องไม่ปฏิเสธแน่.

เป็นความจริง,หลังจากที่จงซานกล่าวรับรอง,อาวุโสเทียนที่หรี่ตาเล็กลง,จ้องมองไปยังจงซาน,จากนั้นก็ส่ายหน้าไปมาพร้อมกับกล่าวออกมาว่า"ความบริสุทธิ์ของเฉียนโหยว,เกี่ยวข้องอะไรกับข้าอย่างงั้นรึ?"

เห็นท่าทางของอาวุโสเทียนแล้ว,จงซานที่ทำได้แค่ถอนหายใจ,อาวุโสเทียนผู้นี้ได้คืบเอาศอกจริงๆ.
得寸" décùnjìnchǐ แปลว่า ได้คืบเอาศอก

"ตกลง,ไม่ว่าผลลัพธ์จะเป็นอย่างไร,เสร็จสิ้นวันพิพากษา,จีวรไหมม่วงนี้จะเป็นของอาวุโส,เป็นอย่างไร?"จงซานกล่าว.

"อืม!"อาวุโสเทียนที่ตอบรับเบาๆ,ก่อนที่จะกล่าวต่อว่า,"ข้าจะไม่โกหกเพื่อเจ้า!"

"ครับ,ผู้เยาว์นั้นเชื่อว่าเฉียนโหยวบริสุทธิ์,แน่นอนว่าไม่จำเป็นต้องหลอกลวง,ขอถามอาวุโสก่อน,อาวุโสสามารถอัญเชิญหยิงหนิงได้หรือไม่?"จงซานกล่าวสอบถามออกมา.

"กู่เฉิงตงได้ทำการตรวจสอบเรื่องนี้กับข้าแล้ว,ไม่สามารถทำได้,ดวงวิญญาณของหยิงหนิงนั้นไม่ได้เข้าไปในเมืองผีโลกอเวจี,จึงไม่สามารถอัญเชิญได้!"อาวุโสเทียนที่ส่ายหน้าไปมา.

ไม่สามารถอย่างงั้นรึ?จงซานที่ขมวดคิ้วไปมา.

"วันนั้น,ข้าเห็นอาวุโส,สร้างโลกที่เชื่อมต่อขึ้นมา,เป็นการอัญเชิญโลกคู่ขนานออกมาอย่างคาดไม่ถึง,ข้าคิดว่า,ถึงอาวุโสจะไม่สามารถอัญเชิญดวงวิญญาณออกมาได้,ก็ไม่น่ามีปัญหา."จงซานกล่าว.

"อืม,ดวงวิญญาณที่ทำงานภายใต้ความคิดข้านั้น,ไม่ใช่ความเป็นจริง."อาวุโสเทียนกล่าว.

"อืม,ผู้เยาว์หวังว่าในวันพิพากษานั้น,อาวุโสจะเชื่อมต่อภพหยินและเรียกหยิงหนิงให้ปรากฏ,ไม่จำเป็นต้องให้นางพูดสิ่งใด,ตราบเท่าที่ให้นางจ้องมองไปยังครอบครัวของนางก็พอ,ให้ทุกคนได้เห็นวิญญาณของนางสามลมหายใจ,จากนั้นอาวุโสก็ส่งนางกลับไปในภพหยินก็พอแล้ว."จงซานกล่าว.

"หืม?"อาวุโสเทียนที่แสดงท่าทางสงสัยเล็กน้อย.

"เหมือนดังที่ผู้เยาว์กล่าว,หลังจากวันพิพากษา,จีวรไหมม่วงจะเป็นของอาวุโส,ข้าคิดว่าด้วยความแข็งแกร่งของผู้เยาว์นั้น,ไม่มีทางกล้ากลับคำพูดอย่างแน่นอน."จงซานกล่าว.

"หึ."อาวุโสเทียนที่เผยหัวเราะเบาๆอย่างดูแคลน.

เป็นความจริง,ด้วยความแข็งแกร่งของจงซานในเวลานี้ไม่ได้อยู่ในสายตาของเขาเลยแม้แต่น้อย.

ระหว่างทางเดินทางกลับ.

"จอมพล,ท่านต้องการจะมอบจีวรไหมม่วงให้กับอาวุโสเทียนจริงๆรึ?"จื่อเห่าที่อดเสียดายไม่ได้จนได้ถามออกมา.

"เฮ้เอ้,เรื่องบางอย่าง,เจ้าคงไม่เข้าใจ."จงซานที่ส่ายหน้าไปมาด้วยรอยยิ้ม.

แน่นอนว่า,จีวรไหมม่วงนั้นได้ช่วยจงซานเอาไว้หลายต่อหลายครั้ง,ทว่าก่อนหน้านี้,จงซานเองก็รับรู้ได้ก่อนแล้ว,อาวุโสเทียนหาได้ใช่คนดี,เหมือนกับจินฉานเองก็ไม่ใช่คนดี,เขามอบจีวรไหมม่วงมาให้เขาโดยที่ไม่มีจุดประสงค์อะไรจริงๆรึ?

กระบี่อาญาสิทธิ์ที่อยู่กับจื่อเห่านั้น,จงซานสามารถที่จะยืนยันได้ว่าทุกๆวันทุกๆการกระทำและทุกๆการเคลื่อนไหว,ฝ่าบาทย่อมรับรู้ได้ทุกอย่างตั้งแต่ต้นจนจบ,ไม่จำเป็นต้องรอให้สอบถามด้วยซ้ำ,กระบี่อาณาสิทธิ์ก็บอกฝ่าบาทั้งหมดแล้ว,เหมือนกับจีวรไหมม่วงก็เช่นกัน,กระบี่อาญาสิทธิ์ที่รายงานฝ่าบาท,จีวรไหมม่วงเองก็เป็นของวิเศษของจินฉานในชาติที่แล้ว,มีหรือที่มันจะไม่มีจิตสำนึกของจินฉานฝังอยู่?

กับพลังที่เหนือล้ำของพวกเขาจงซานไม่สามารถต้านทานได้,จงซานนั้นไม่โง่,ทว่าจำต้องแสดงท่าทางว่าไม่รู้,เพื่อรักษาชีวิตของตัวเองเอาไว้.

ขีดเส้นตายหนึ่งเดือนก็มาถึง.

หนึ่งเดือนที่โหมโฆษณาเรื่องตัวเอง,จงซานภายในเมืองบรรพกาลศักดิ์สิทธิ์นั้นเป็นที่รู้จักของทุกคน,คนส่วนมากไม่ใช่เพราะว่าเชิดชูเทิดทูลจงซาน,ทว่าเป็นอิจฉามากกว่า,พวกเขาไม่สามารถมองข้าม,ต้องก็ต้องการรับรู้ผลสรุปของจงซาน.

เวลานี้ใครไม่รู้จักจงจงซาน,คงเป็นพวกหลังเขาเป็นแน่.

มีคนไม่น้อยเลยที่ไม่ได้ชื่นชมจงซาน,หลายๆคนเองต่างก็รอคอยวันพิพากษา,ว่าจงซานที่ปกป้องกงจูเฉียนโหยว,สุดท้ายแล้วมันจะจบลงเช่นไร.

กับสิ่งที่มองไม่เห็น,บางที่การต่อสู้ของคนทั้งสอง,อาจมีมูลค่าเทียบเท่ากับคุณงามความดีที่นำไปรับประกัน,กับเรื่องที่เขานำมันมาเดิมพัน,จะได้รับชัยชนะหรือไม่?

เสียงของผู้คนที่ดังอื้ออึงคึกคักเป็นอย่างมาก,ในบ่อนพนัน,กับเรื่องของจงซานนี้,หลายๆคนที่ได้ข้อมูลมาจากเหล่าเจ้าหน้าที่บ้านเมือง,ที่หลายๆคนที่ยืนยันหนักหนักเกี่ยวกับฆาตกรคือกงจูเฉียนโหยว,ทำให้คนไม่น้อยรู้สึกหวั่นไหวทีเดียว.

ในเวลานี้ในท้องพระโรง,ที่ดูเหมือนเงียบงัน,ไม่ต่างจากก่อนเก่า,ทว่ากลับมีบรรยากาศที่หนักอึ้ง,กำลังจะกดทับไปยังจงซานที่ออกมาปกป้องกงจูเฉียนโหยวเป็นอย่างมาก.

ในวันนี้,เหล่านักพนันต่างก็รอคอยอย่างใจจดจอ,กับผลที่จะเกิดขึ้นในท้องพระโรง.

รวมทั้งเหล่าข้าราชบริพารที่หูผึ่งเฝ้ารออย่างใจจดจ่อเช่นกัน.

เหล่าข้าราชบริพารที่ตั้งแถวสองแถว,แถวซ้าย,ซึ่งมีราชครูหวนถูกหลงอยู่หัวแถว,ส่วนแถวขวา,เหมือนก่อนหน้านี้มีอ๋องเจิ้งอี้และต้าเสวียนอ๋อง,และถัดมาอีก12 ตำแหน่งเป็นฉีเทียนโห่ว,ถัดมาเป็นหม่าจูหรี.

และนอกจากเหล่าข้าราชบริพารทั้งสองแถว,ในเวลานี้,ยังมีเหล่าเคลือญาติตระกูลกู่,อีกด้วยที่รอคอยการพิพากษา,ซึ่งแน่นอนว่ามีกุนซือฟ่านอี้พินเป็นหนึ่งที่แฝงอยู่ในนั้น.

ทุกคนต่างก็ยืนนิ่ง,ไม่มีใครกล่าวสิ่งใดออกมา.

"ฝ่าบาทเสด็จ......."เสียงลากยาวแหลมเล็กของขันทีวังหลวง.

ที่ด้านหน้าของบัลลังก์เก้ามังกร,ทันใดนั้นอากาศก็เกิดบิดเบี้ยว,ชุดคลุมมังกรสีม่วง,มงกุฏหยกสีขาว,เซิ่งซ่างราชวงศ์สวรรค์ต้าโหลวได้ปรากฏตัวขึ้นมาในทันที.

"ทรงเจริญหมื่นปี หมื่นๆปี."

เหล่าข้าราชบริพารที่กล่าวออกมาด้วยความเคารพ.

เซิ่งซ่าง,กู่เฉิงตงที่สะบัดแขนเสื้อ,ปรากฏสายลมพัดเบาๆพัดผ่านออกไป,ก่อนที่จะนั่งลงอย่างนุ่มนวล.

ที่ด้านนอกตำหนักไท่กู่นั้น,ที่ด้านล่าง,จงซานที่ถือกระบี่อาญาสิทธิ์,ยืนรอคอยอย่างใจเย็นให้เซิ่งซ่างเรียกตัว,ทว่าด้านข้างของจงซานนั้น,ยังมีคนอีกสองคน,ทว่าสองคนนั้น,จงซานไม่จำเป็นต้องไต่ถาม,ก็พอจะรู้.

เสื้อคลุมของราชวงศ์ที่อลังการ,ใบหน้าที่เต็มไปด้วยความสูงศักดิ์,สายตาที่คมกริม,กลิ่นอายที่ยิ่งใหญ่แผ่ออกไปรอบๆ,คนแรกที่แผ่กดดันที่ราวกับจะทำให้คนที่จิตใจอ่อนแอสิ้นสติได้ทุกเมื่อ,พลังวิญญาณที่หนักหน่วงรุนแรง,ไท่จื่อลำดับสามของราชวงศ์สวรรค์ต้าโหลว,กู่ไท่จง,อ๋องไท่จงนั่นเอง.


ส่วนอีกคน,ที่สวมชุดเกราะนักรบ,ใบหน้าที่มีหมวกเล็กคล้ายกับของฉีเทียนโห่ว,มีปีกของหงสาเพลิงประดับอยู่,ใบหน้าที่อหังการ,แววตาที่คมก้าวที่พร้อมจะฉีกอากาศให้ขาดออกจากกัน,แรงกดดันที่แผ่พลังวิญญาณแห่งความตายออกมา,พลังอำนาจที่มากล้น,ไท่จื่อลำดับสี่ของราชวงศ์สวรรค์ต้าโหลว,กู่จ้านเทียน,อ๋องจ้านเทียนนั่นเอง!




ที่มาจากhttps://lnmtl.com/novel/immortality

#นิยาย เรื่องอมตะ #Immortality#นิยายแปลไทย
Author(s)


สนใจสนับสนุนพวกเรา,เข้าร่วมกลุ่ม VIP ====> Click

***เว็ปฟรีอัพ สองวันหนึ่งตอน
***กลุ่มลับ อัพ 2-3 ตอนต่อวัน.

 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น