วันพุธที่ 19 มิถุนายน พ.ศ. 2562

Immortality Chapter 339 Sword god palace

Immortality Chapter 339 Sword god palace

นิยาย เรื่อง อมตะ ตอนที่ 339 ตำหนักเทพกระบี่


Chapter 339 Sword god palace
 ตำหนักเทพกระบี่
"ค่ายกลดาราสวรรค์ต้าโหลว?"จงซานที่จ้องมองไปยังกงจูเฉียนโหยว.

"ค่ายกลดาราสวรรค์ต้าโหลว,เป็นชนิดลดขนาดลงมา,เหนือหัวเป็นคนคิดค้นขึ้น,เป็นค่ายกลที่แข็งแกร่งมาก,มีเพียงแค่เหนือหัว,สี่ไท่จื่อเท่านั้นถึงจะใช้แบบลดขนาดนี้ได้!"กงจูเฉียนโหยวที่ส่ายหน้าพลางถอนหายใจเบาๆ.



"ก่อนหน้านี้ที่เมืองต้าเสวียนดูเหมือนว่าจะมีการเตรียมการเอาไว้ก่อนแล้วอย่างั้นรึ?"จงซานที่จ้องมองไปยังกงจูเฉียนโหยว.

"ใช่แล้ว,ที่เมืองต้าเสวียนนั้นได้มีการจัดเตรียมเอาไว้แล้ว,ด้วยน่าหลานเพียวเสวี๋ยนั้นแข็งแกร่งจนเกินไป,แม้ว่าคนผู้นี้จะตายไป,หากค่ายกลดาราเทวะต้าโหลวพังทะลายล่ะก็,ทั่วทั้งเมืองต้าเสวียนจะต้องถูกทำลายล้าง,ไปจนสิ้นแน่!"กงจูเฉียนโหยวที่กล่าวพลางถอนหายใจ.

"รายงาน!!!"เสียงของทหารที่ดังขึ้นจากด้านนอก.

ทหารคนดังกล่าวเร่งรีบเข้ามาทันที!

"เรียนจอมพล,ต้าเสวียนอ๋องได้ส่งจดหมายมา!"ทหารคนดังกล่าวที่นั่งคุกเข่าพลางยกจดหมายขึ้น.

จงซานที่รับจดหมาย,เปิดซองจดหมายและอ่านในทันที.

หลังจากที่จงซานได้อ่านผ่านตาแล้ว.

"เป็นไปได้อย่างไร?"จงซานที่ชำเลืองมองด้วยท่าทางประหลาดใจ.

เห็นท่าทางจงซานประหลาดใจ,คนอื่นๆเองก็แสดงท่าทางสงสัยเช่นกัน.

"จอมพล,มีอะไรรึ?"สุ่ยอู๋เหินที่แสดงท่าทางสงสัยเช่นกัน.

"อืม,เกิดปัญหาอะไรรึ?"กงจูเฉียนโหยวที่กล่าวเสริม.

จงซานที่สูดหายใจยาว,ส่งจดหมายให้กับกงจูเฉียนโหยว.

กงจูเฉียนโหยวที่รับจดหมายหมาย,ดวงตาเบิกกว้างไม่อยากเชื่อเช่นเดียวกัน,จากนั้นก็ส่งมันให้กับสุ่ยอู๋เหินและขุนพลคนอื่นๆ.

"เสี่ยวหวังตายแล้ว? เป็นไปได้อย่างไร,อุปราชของต้ากวง,เสียวหวังนะรึ?"สุ่ยอู๋เหินที่อุทานออกมาด้วยท่าทางตกใจ.

ใช่แล้ว,เสียวหวังผู้นี้,นับว่าเป็นตัวตนที่มีความสามารถไร้ที่เปรียบ,เป็นตัวตนที่ต่อต้านสวรรค์,ตายแล้วรึ?

แทบจะในทันทีที่เสี่ยวหวังตาย,ยังมีบุตรบุญธรรมของเขา,เสียวหยวนเฟิงและเสี่ยวหยวนเติ้ง,ตายไปด้วยอย่างงั้นรึ?

ก่อนหน้านี้ยังถือได้ว่าเสี่ยวหวังเป็นศัตรูที่แข็งแกร่งสำหรับจงซาน,ตอนนี้ตายแล้วรึ?

"ตาย,ศพของเสียวหวังพร้อมกับบุตรทั้งสอง,ถูกแขวนเอาไว้ที่ประตูเมืองเยว่หมิง,ซึ่งเป็นฐานของทัพเซี่ยงปู่,แขวนศพพวกเขา,เตือนต่อคนทั่วหล้า!"กงจูเฉียนโหยวที่ถอนหายใจยาว.

"ฉีเทียนโห่ว,เป็นเขารึ? ข้าบอกได้เลยว่าก่อนหน้านี้ไม่เห็นฉีเทียนโห่ว,เมื่อครั้งโจมตีราชวงศ์ราชันย์ต้ายวี,ไม่ใช่ว่าเขาไม่มา,เดิมทีแล้ว,เขาวางแผนจัดการกับเสี่ยวหวังอย่างงั้นรึ? นับว่าเป็นความชอบใหญ่หลวง! ความดีความชอบที่ยิ่งใหญ่! สังหารเสียวหวังได้,ก็เหมือนทำลายหนึ่งในสามของต้ากวงแล้ว!"จงซานกล่าวออกมาพลางถอนหายใจ.

"ทว่าจอมพล,ไม่ต้องบอกเลยว่าเสี่ยวหวังที่เป็นนักพรตผู้หนึ่งและยังมีเชาว์ปัญญาที่เหนือล้ำ,เป็นไปได้รึที่จะถูกลอบโจมตี? เรื่องนี้มีอะไรซ่อนอยู่หรือไม?"หลิวอู๋ซ่างที่แสดงท่าทางสงสัย.

"ภูมิปัญญาที่เหนือล้ำรึ? ไม่ใช่ว่ามีภูมิปัญญาที่เหนือล้ำหรอกรึถึงต้องตาย,ไม่ใช่ว่ามีภูมิปัญญาที่เหนือกว่าใครถึงถูกซุ่มโจมตี? แน่นอว่าหากฉีเทียนโหวนำทัพเข้าจัดการ,กับคนเช่นเสี่ยวหวัง,เป็นไปไม่ได้ที่จะจัดการเขาได้!"จงซานที่ขมวดคิ้วไปมา.

"เรื่องนี้...?"หลิวอู๋ซวังไม่รู้จะกล่าวอะไรต่อไปเช่นกัน.

"เอาล่ะ,เจ้าเดินทางไปยังทัพทั้งหมดแต่ละทัพ,มอบจดหมายของต้าเสวียนอ๋องและแจ้งว่าข้าไม่ได้เป็นผู้นำทัพทั้ง 15 แล้ว,ตอนนี้ให้แม่ทัพทุกคนอยู่ในการควบคุมของต้าเสวียนอ๋อง,ตอนนี้สนามรบของอาณาจักรต้ายวีได้จบสิ้นลงแล้ว,เวลาถัดไปคือสนามรบของราชวงศ์ราชันย์ต้ากวง,เมื่ออุปราชเสี่ยวหวังตายแล้ว,ตอนนี้พวกเราจะต้องนำทัพมุ่งไปยังพื้นที่ดังกล่าว! เจ้าจงไปแจ้งทุกทัพเอาไว้,ให้รอคอยคำสั่งเคลื่อนย้ายกำลังพล!"จงซานกล่าว.

"ครับ!"ขุนพลที่รับคำสั่ง,จากนั้นก็ออกจากห้องโถงมุ่งไปยังทัพต่างๆในทันที.

จงซานที่นั่งอยู่ในห้องโถงหลัก,ยังคงขมวดคิ้วไปมาด้วยความสงสัยอยู่อีกพักหนึ่ง.

"เจ้าสงสัยว่ากู่หลินสังหารเสี่ยวหวังด้วยวิธีใหนอย่างงั้นรึ?"กงจูเฉียนโหยวที่จ้องมองไปยังจงซาน.

"หืม,เจ้ารู้อย่างงั้นรึ?"จงซานที่กล่าวออกมาด้วยความสงสัย.

"ไม่,แต่ข้าพอคาดเดาได้!"กงจูเฉียนโหยวเอ่ย.

"คาดเดาว่า!"จงซานที่กล่าวออกมาด้วยท่าทางสงสัย.

"เจ้ารู้ไหมทำไมกู่หลินถึงได้รับประทานบรรดาศักดิ์เป็นฉีเทียนโห่ว? ซึ่งมีศักดิ์ที่หมายความว่าเทียบเคียงฟ้าดิน? คนที่สามารถเทียบเคียงฟ้าดินได้นั้น,ในต้าโหลวนั้นมีเพียงแค่ฝ่าบาท,ไม่ใช่ว่าฝ่าบาทยกเขาให้มาเทียบตัวเองหรอกรึ?รู้ใหม?"กงจูเฉียนโหยวกล่าวถาม.

"ทำไมล่ะ?"จงซานที่แสดงท่าทางสงสัยเป็นอย่างมาก.

"มันเกี่ยวกับชาติที่แล้วของเขายังไงล่ะ!"กงจูเฉียนโหยวกล่าว.

"ชาติที่แล้วอย่างงั้นรึ?"จงซานที่กล่าวออกมาด้วยความสงสัย.

"วันหนึ่ง,วันที่กู่หลินที่ได้มาจุติในเมืองบรรพกาลศักดิ์สิทธิ์นั้น,เกิดบางอย่างขึ้นที่คลังสมบัติ,ไม้เท้าลายมังกรทองเม่วงเกิดระเบิดขึ้น,ของวิเศษระดับเก้า,บินกลับไปมากู่หลินในทันทีทันที,ในเวลานั้น,ฝ่าบาทและสี่ไท่จื่อเองก็รับรู้ถึงชาติที่แล้วของกู่หลิน,เจ้าของไม้เท้าตรามังกรทองม่วงนั้นได้กลับชาติมาเกิดแล้วนั่นเอง,ซึ่งก็คือกู่หลิน!"กงจูเฉียนโหยวที่อธิบาย.

"โหว?"จงซานที่ขมวดคิ้วไปมา.

"ชาติที่แล้วของกู่หลิน,คือจือจุ้นเผ่าวานร,เฉินฉีเทียน!"
***ชื่อเหมือนกันแต่ไม่ใช่คนเดียวกันนะ  เฉินฉีเทียน กับ ฉีเทียนต้าเซิ้ง(เฮ้งเจีย) เฉิน แปลว่าเทพ ต้าเซิ้ง แปลว่าผู้ยิ่งใหญ่  ฉีเทียน=เสมอเหมือนฟ้าดิน.

"เฉินฉีเทียน? เผ่าวานร?"จงซานที่ชำเลืองมองออกไป.

"ถูกแล้ว,เผ่าวานร,ใต้หล้าแห่งนี้ถูกจัดให้อยู่ในกลุ่มเดียวกับลิง,กอลิล่า,ซึ่งเขาก็คือจื่อจุ้นของเหล่าวานรนั่นเอง,ทว่าหลังจากที่เขาตายไปแล้ว,ก็เกิดใหม่เป็นมนุษย์."กงจูเฉียนโหยวกล่าว.

"ไม่แปลกใจเลยว่าเขาสามารถอัญเชิญกอลิล่าได้,เพราะเป็นเฉินฉีเทียนเองรึ?"จงซานที่สูดหายใจยาว.

"ใช่แล้ว,ทว่าความทรงจำชาติที่แล้วของเขายังไม่ฟื้นคืน,กู่หลินไม่ต้องการฟื้นคืนอีกด้วย,ทว่าเขารู้เรื่องนี้ดี,ดังนั้นเขาจึงสามารถอัญเชิญกลลิลล่าได้ยังไงล่ะ!"กงจูเฉียนโหยวกล่าว.

"เจ้ากำลังจะบอกว่าฉีเทียนโหวสังหารเสี่ยวหวังโดยอัญเชิญเหล่ากอลิล่าและวานรที่ทรงพลังมาสังหารเขาอย่างงั้นรึ?"จงซานชำเลืองมองไปยังกงจูเฉียนโหยว.

"เป็นไปได้!อย่างไรก็ตามที่จริงก็ไม่มีใครรู้ว่าเสียวหวังนั้นตายอย่างไร,ตอนนี้ถูกแขวนเอาไว้บนประตูเมืองเยว่หมิง,ทว่ามีจอมพลเซียนปู่เป็นผู้รับผิดชอบ,ดูเหมือนว่าฉีเทียนโหวและเซียนปู่จะร่วมมือกันตั้งแต่แรกแล้ว!"กงจูเฉียนโหยวกล่าว.

"เซี่ยงปู่,ผู้นี้มีความแข็งแกร่งระดับใด?"จงซานกล่าวสอบถาม.

"จักรพรรดิแท้!"กงจูเฉียนโหยวกล่าว.

"อืม!"จงซานพยักหน้า.

"เจ้ามีแผนอะไรอย่างงั้นรึ?"กงจูเฉียนโหยวที่สอบถามออกไป.

"ข้าวางแผนที่จะไปดูด้วยตาตัวเองที่ด้านนอกกำแพงเมือง!เสี่ยวหวังตายอย่างไร,มีแผนการร้ายใดกันแน่ซ่อนอยู่!"จงซานที่กล่าวออกมาด้วยความจริงจัง.

"แผนร้ายใดอย่างงั้นรึ?เฮ้เอ้,ต้องการผดุงความยุติธรรมเหรอ!"กงจูเฉียนโหยวที่เผยยิ้มออกมา.

"ข้าไม่ได้หมายความเช่นนั้น,ข้าหมายความว่าข้าไปดูเรื่องราวที่แท้จริง,ไม่ต้องการเพื่อความยุติธรรมอะไรทั้งนั้น,ทว่า,อย่างน้อยด้วยความแข็งแกร่งของเขา,ควรจะได้รับการปฏิบัติอย่างดี!"จงซานที่กล่าวพลางถอนหายใจ.

"เจ้าจะบอกว่าต้องการช่วยราชวงศ์ราชันย์ต้ากวงอย่างงั้นรึ?"กงจูเฉียนโหยวที่ขมวดคิ้วไปมา.

"ไม่ได้เป็นเช่นนั้น!"จงซานที่ส่ายหน้าไปมา.

"ไม่ใช่รึ?"กงจูเฉียนโหยวที่ชำเลืองมองออกไป.

"เจ้ายังจำได้หรือไม่ว่าใครที่เป็นคนฝังเราทั้งเป็น?"จงซานที่ชำเลืองมองไปยังกงจูเฉียนโหยว.

ทันทีที่กล่าวถึงเรื่องถูกฝังทั้งเป็น,ใบหน้าของกงจูเฉียนโหยวที่เปลี่ยนเป็นสีแดงระเรื่อ,นางยังจำความรู้สึกเกี่ยวกับเรื่องการดื่มน้ำค้างบนใบไม้เป็นอย่างดี.

"เสี่ยวฉิวสุ่ย,เป็นหลานของเสี่ยวหวัง!"กงจูเฉียนโหยวกล่าว.

"ใช่,เป็นเขา,หลังจากที่เสี่ยวฉิวสุ่ยตาย,ในเวลานั้นมีคนที่สวมชุดสีแดงที่มาเก็บศพของเขา,กลุ่มคนในชุดสีแดงนั้นได้สังหารเมล็ดมารเซี่ยเหยี่ยน 100 แผล,แม้ว่านั่นจะเป็นคำสาปของเห่าเม่ยลีก็ตาม,ทว่ากลุ่มคนในชุดสีแดงนั้นเป็นใครกัน?"จงซานที่ชำเลืองมองไปยังกงจูเฉียนโหยว.

ได้ยินสิ่งที่เกิดขึ้น,ดวงตาของกงจูเฉียนโหยวที่ราวกับว่าเชื่อมต่อเรื่องราวได้ในทันที,ดวงตาของนางที่เบิกกวางกลมโต.
 ........
ที่ด้านบนของทวีปศักดิ์สิทธิ์นั้น,เป็นดินแดนน้ำแข็งเกือบทั้งหมด,ที่ใจกลางนั้นมีน้ำพุหยิน,ซึ่งปลดปล่อยภายเย็นออกมาตลอดเวลา.

อย่างไรก็ตาม,ไม่ไกลออกไปจากน้ำพุหยินนั้น,มีตำหนักขนาดใหญ่โตตั้งอยู่,เป็นตำหนักหยกโปร่งแสง,เหนือปราสาทหยกนั้นมีป้ายอักขระสามตัวสลักอยู่.

อักษรสามตัว,ที่ดูทรงพลัง,แต่ละตัวอัดแน่นไปด้วยจิตสังหารที่จ้องมองแล้วยังรู้สึกหวาดผวา.

ตำหนักเทพกระบี่ ()

ที่ด้านนอกตำหนักเทพกระบี่นั้น,มีกลุ่มคนในชุดสีแดงชาติมากมายที่เข้าๆออกๆ,อย่างคึกคักเป็นอย่างมาก,พวกเขาที่ฝึกฝนวิชากระบี่ซึ่งมีลูกศิษย์ที่สวมชุดสีแดงชาตินั่นเอง.

ภายในตำหนักเทพกระบี่นั้น,มีเพียงคนๆหนึ่ง,เป็นหญิงสาวที่สวมชุดขาวล้วน,เป็นสาวงามที่น่าหลงไหล,ใบหน้าที่ดูอหังการ,ดวงตาทีเปล่งประกาย,ไม่,ต้องบอกว่าคมกระกริบ,มองไปยังผู้ใด,สามารถสัมผัสได้ถึงจิตกระบี่ที่ปะทุออกมาทีเดียว.

เป็นจิตกระบี่ที่ทรงพลังเป็นพลังที่มองไม่เห็นถูกส่งออกมาจากดวงตาของนาง.

ผมยาวปะไหล่,ดูสลวยเงางาม,ทว่าหากมองให้ดีแล้วล่ะก็,ทรงผมของนางที่เห็นเป็นรูปทรงคล้ายกระบี่.

หญิงสาวคนดังกล่าวที่เดินไปมาครุ่นคิดอะไรบางอย่าง.

"มีปัญหาอะไร?ข้าถึงรู้สึกไม่สบายใจอย่างงั้นรึ? เกิดปัญหาเกี่ยวกับการฝึกฝนรึอย่างไร?"หญิงสาวที่กำหมัดแน่น,ผุดลุกผุดนั่ง,ขณะที่นั่งลงนั้น,ราวกับว่าภายใจของนางที่รู้สึกไม่สบายใจเป็นอย่างมาก.

นางที่ตัดสินใจก้าวออกจากตำหนัก,ที่ด้านนอกนั้นคนในชุดสีแดงไม่กล้ารบกวนนาง,เพราะว่า,ประมุขตำหนักเทพกระบี่นั้น,อารมณ์ไม่ค่อยดีนัก,แน่นอนว่า เหล่าคนชุดแดงย่อมไม่กล้ายุแหย่,เจ้าตำหนักอย่างแน่นอน.

ประมุขตำหนักที่รู้สึกไม่ดี,ก้าวออกมานอกตำหนัก.

นางที่ก้าวไปยังอีกตำหนักที่อยู่ไม่ไกลออกไป,พร้อมกับไปยืนอยู่ที่ด้านหน้าโลงศพน้ำแข็งขนาดใหญ่.

โลงศพน้ำแข็งนั้น,มีศพของเสี่ยวฉิวสุ่ยนอนอยู่นั่นเอง.

"หลานข้า,ทำไมวันนี้ไหนไหน รู้สึกไม่ดีนัก?"เจ้าตำหนักที่กล่าวต่อโลงศพน้ำแข็งนั่น.

ทว่าในเวลาเดียวกันนั้น,ที่ด้านนอกนั้น,ได้ปรากฏชายในชุดสีดำ,ได้บินเข้ามาในตำหนักเทพกระบี่,ไม่,ควรจะบินมาอย่างกระหอบกระหืด,ท่าทางน่าอนาถเป็นอย่างมาก.

เจ้าตำหนักเทพกระบี่ที่ขมวดคิ้วไปมา,ก้าวออกไปหาชายคนดังกล่าว.

ชายในชุดดำ,เวลานี้ทำให้หญิงสาวตื่นตระหนก,ไม่,กับท่าทางหมดเรี่ยวแรงนั้นเหมือนกับเขาได้ใช้พลังทั้งหมดเพื่อที่จะมาให้ถึงตำหนักเทพกระบี่.

"มีปัญหาอะไร? ไม่ใช่ว่าบิดาของเจ้าไม่สามารถลืม,หรูเหยี่ยนได้หรอกรึ?"เจ้าตำหนักที่ขมวดคิ้วไปมา.

"ท่านแม่,ท่านแม่!"ชายคนดังกล่าวที่ล่วงลงพื้น,พร้อมกับร้องโหยหวนคุกเข่าลงต่อหน้าเจ้าตำหนัก,น้ำเสียงของเขาที่สั่นเคลือด้วยความเจ็บปวด.

เจ้าตำหนักเทพกระบี่ราวกับตระหนักได้ถึงเรื่องที่ไม่ดีนัก,ก่อนที่จะกล่าวออกมาในทันที,"มีอะไร?"

"ท่านพ่อ,ตายแล้ว!"ใบหน้าของชายคนดังกล่าวที่สะอึกสะอื้น.

ได้ยินคำพูดของชายคนดังกล่าว,เจ้าตำหนักที่ร่างกายอ่อนแรง,ราวกับว่าไม่สามารถพยุงร่างเอาไว้,ดวงตาของนางที่เปลี่ยนเป็นโกรธเกรี้ยวกล่าวออกมาว่า"เป็นไปไม่ได้,เขาโชคดีมาตลอดเลยไม่ใช่เหรอ!"

เจ้าตำหนักเทพกระบี่ที่จ้องมองด้วยความโกรธจ้องมองไปยังชายคนดังกล่าว.

"ท่านแม่,ท่านพ่อ,พี่ใหญ่และพี่รองตายแล้ว,ท่านต้องล้างแค้นให้กับพวกเขา,ท่านพ่อตายอย่างอนาถ,ตอนนี้ศพยังถูกแขวนเอาไว้บนประตูเมือง,ประจานให้ทุกคนได้เห็น!"ชายคนดังกล่าวที่โอดครวญ.

"เป็นไปไม่ได้,เป็นไปไม่ได้,เจ้าหลอกข้า!"เจ้าตำหนักที่ส่ายหน้าไปมาร่างกายสั่นสะท้าน.

ชายคนดังกล่าวที่นำหยกบันทึกออกมาในทันที.

"ท่านแม่,หยกบันทึกของท่านพ่อ,เป็นท่านพ่อจริงๆ,ท่านพ่อ,ท่านพ่อ,ตายอย่างอเนจอนาถ!"ชายคนดังกล่าวที่ยังคงโอดครวญ,พร้อมกับยื่นหยกบันทึกออกไป.

เจ้าตำหนักเทพกระบี่ที่ยื่นมือมารับ,ไม่กล้ากุมมันเอาไว้,ทว่าพยายามอดกลั้นความกลัว,พลางตรวจสอบแผ่นหยกดังกล่าว.

แกนแท้ของนางที่แผ่ออกไป,เจ้าตำหนักเทพกระบี่ที่ตรวจสอบเหตุการณ์ด้านใน.

"เคล้ง!"หยกบันทึกที่หล่นลงพื้น.

เจ้าตำหนักเทพกระบี่ที่หยุดชะงักงัน,ไม่อยากเชื่อเรื่องที่เกิดขึ้น,ไม่อยากยอมรับ,ร่างของนางที่สั่นไปมาอย่างรุนแรง.

"ท่านแม่,ท่านพ่อตายอย่างทรมาน,ท่านแม่,ท่านต้องล้างแค้นให้กับท่านพ่อ!"ชายคนดังกล่าวที่ร้องไห้เสียงดัง.

เจ้าตำหนักเทพกระบี่ที่จ้องมองไปยังชายที่อยู่ด้านหน้าที่กำลังร้องไห้ฟูมฟาย.

ทันใดนั้นเจ้าตำหนักเทพกระบี่,ดวงตาของนางก็เปลี่ยนเป็นสีแดง,ก่อนที่จะเงยหน้าขึ้นไปบนท้องฟ้า,เส้นผมที่โบกสะบัด,ใบหน้าที่เต็มไปด้วยจิตสังหารคำรามออกมาเสียงดัง.

"ตาย!!!"

เสียงคำรามของนาง,เกิดเป็นพลังที่มองไม่เห็นเป็นรูปกระบี่ที่พุ่งขึ้นไปบนท้องฟ้า,ทะลวงหมู่มวลเมฆา,ปราณกระบี่นับล้านๆ,ที่กำลังร่ายรำอยู่บนอากาศ,ทำลายเมฆคล้ำให้หายไปในทันที,ปรากฏเป็นแสงอาทิตย์ที่สาดส่ง,กระบี่,เป็นรูปกระบี่ที่ปรากฏขึ้นบนท้องฟ้า,พร้อมกับกระจายปราณกระบี่มากมายสาดไปทุกทิศทาง,จิตกระบี่ที่ราวกับจะทำลายทุกสิ่ง,เป็นพลังที่รุนแรงเป็นอย่างมาก!
"ตูมมมมมมม"

พื้นที่รอบๆตำหนักเทพกระบี่,ภูเขาน้ำแข็งมากมายที่ระเหยออกไป,พร้อมกับโผล่แทรกขึ้นมาบนพื้นโลก,เป็นแท่งน้ำแข็ง,ที่เป็นรูปของกระบี่,พื้นที่รอบๆนี้ถูกทะลวงไปด้วยแท่งน้ำแข็ง,มันผุดขึ้นมาจากพื้นราวกับขนเม่น,กระบี่น้ำแข็งที่กระจายไปรอบๆ,ทะลวงสูงขึ้นมาราวกับจะทะลวงไปถึงก้อนเมฆ.

ภูเขาน้ำแข็งรูปกระบี่มากมายที่ปรากฏขึ้น.

กระบี่,พื้นที่ทุกแห่งเป็นกระบี่! มีกระบี่น้ำแข็งเต็มไปหมด!

พลังที่มามายมหาศาลที่ปะทุขึ้น,เจ้าตำหนักเทพกระบี่กำลังโกรธเกรี้ยวอย่างรุนแรง,นางเป็นบ้าไปแล้ว!

"อ๊ากๆๆๆ"

เจ้าตำหนักเทพกระบี่ที่ราวกับบ้าคลั่ง,ดวงตาทั้งสองข้างเป็นสีแดง,ความเกลียดชังมากมายที่ปะทุขึ้น,คำรามออกมาเสียงดัง! ความเกลียดชังมากมายมหาศาลที่ระเบิดออกมา!

เสียงคำรามอย่างบ้าคลั่ง,ทุกอย่างที่อยู่รอบๆตำหนักเทพกระบี่ตอนนี้ถูกทำลายเป็นจนหมด,น้ำแข็งสลักรูปกระบี่เวลานี้พลังทลายไปหมดด้วยเสียงคำรามที่ทรงพลังของนาง.

แม้แต่น้ำพุหยินที่อยู่ไกลออกไป,ที่ส่งพลังปราณหยินออกมา,ชั่วขณะที่เจ้าตำหนักเทพกระบี่คำราม,พลังของเสียงที่มีจิตกระบี่ราวกับบังคับให้มันจมลงไปด้านล่างเลยทีเดียว.

น้ำพุหยิน,ที่เหมือนกับจะถูกกำราบไปในทันที.

เจ้าตำหนักเทพกระบี่นั้นแข็งแกร่งเป็นอย่างมาก!

เจ้าตำหนักเทพกระบี่ที่คำรามออกมาสองครั้ง,ความเกลียดชังที่เบาบางลงบ้าง,ความโกรธเกรี้ยวที่ยังคงลุกโชน,ผมยาวของนางที่ร่ายรำไปมาตามแรงลม,จิตกระบี่ที่กำลังเพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ.

"ท่านแม่! ท่านแม่!"ชายคนดังกล่าวยังคงคุกเข่าร้องให้อยู่.

อย่างไรก็ตาม,เจ้าตำหนักเทพกระบี่ที่ไม่พูดไม่จา,นางทำสัญญาณมือไปมา,ลึกลงไปใต้น้ำพุหยิน,ปรากฏกระบี่สีดำที่ลอยขึ้นมาทันที,กระบี่ดังกล่าวนั้นถูกแช่แข็งอยู่ด้านล่าง,แผ่พลังไอเย็นที่ทรงพลังออกมาเป็นระลอก.

"ศพของเขาถูกแขวนเอาไว้ที่ใหน?"เจ้าตำหนักเทพกระบี่ที่ขบฟันแน่น,พูดเสียงสั่น.

"เมืองเย่วหมิง! อยู่ที่เมืองเยว่หมิง!"ชายคนดังกล่าวตอบกลับมาในทันที.

"อ๊ากๆๆๆ"

เจ้าตำหนักเทพกระบี่ที่คำรามอีกครั้ง,ก่อนที่จะพุ่งเหินขึ้นไปบนฟ้า,บินจากไปจากตำหนักเทพกระบี่ในทันที.

"ฟิ้วๆๆ"

ร่างกายของนางที่เหมือนคมกระบี่ที่ฉีกอากาศเป็นเสียงแหลม,เจ้าตำหนักเทพกระบี่ที่หายไปมองไม่เห็นร่องรอยบนของฟ้าไกล.






ที่มาจากhttps://lnmtl.com/novel/immortality

#นิยาย เรื่องอมตะ #Immortality#นิยายแปลไทย
Author(s)


สนใจสนับสนุนพวกเรา,เข้าร่วมกลุ่ม VIP ====> Click

***เว็ปฟรีอัพ สองวันหนึ่งตอน
***กลุ่มลับ อัพ 2-3 ตอนต่อวัน.

 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น