วันจันทร์ที่ 17 มิถุนายน พ.ศ. 2562

Immortality Chapter 333 The day collapses 4-layer Heaven

Immortality Chapter 333 The day collapses 4-layer Heaven

นิยาย เรื่อง อมตะ ตอนที่ 333  สวรรค์ล่มขั้นที่ 4


Chapter 333 The day collapses 4-layer Heaven
天崩四重天
  สวรรค์ล่มขั้นที่ 4

เมืองต้ายี,ตำหนักเจ้าเมือง.

สระปลา,ที่ตรงกลางมีศาลากลางน้ำ,อี้เหยี่ยนที่ทำการให้อาหารปลา,เฝ้ามองปลา,เถี่ยเสวี๋ยที่ตื่นเต้นวิ่งตรงมาจากพื้นที่ไกลออกไป.

"อุปราช,การบุกโจมตีของราชวงศ์สวรรค์ต้าโหลวได้หยุดลงแล้ว!"เถี่ยเสวี๋ยที่กล่าวออกมาด้วยความตื่นเต้น.


"อย่างไร?"อี้เหยี่ยนที่ขมวดคิ้วไปมาจ้องมองไปยังเถี่ยเสวี๋ย.

"พวกเขารุกเข้ามาไม่ได้,นี่เพราะว่าแผนการของอุปราช,การตั้งรับที่หนาแน่นของพวกเขา,ทัพทั้ง 15 ของต้าโหลวนั้น,ไม่สามารถบุกเข้ามาได้เลย,พวกเขาพ่ายแพ้โดยสมบูรณ์,สามเดือนมานี้,พวกเขาไม่สามารถเคลื่อนไปข้างหน้าแม้แต่น้อย,อีกหนึ่งเดือนหลังจากนี้,ทัพของเสี่ยวหวังเองก็จะเคลื่อนที่มาช่วยพวกเราอีกด้วย."เถี่ยเสวี๋ยที่กล่าวออกมาด้วยความตื่นเต้น.

อี้เหยี่ยนที่เช็ดมือกับผ้า,ขมวดคิ้วไปมาส่ายหน้าพลางขมวดคิ้ว.

"มีอะไรอย่างงั้นรึ?"เถี่ยเสวี๋ยที่ขมวดคิ้วไปมาด้วยความสงสัย.

"ไม่ได้การ,ไม่ได้การแล้ว!"อี้เหยี่ยนที่ขมวดคิ้วไปมา.

"มีอะไรผิดปรกติอย่างงั้นรึ?"เถี่ยเสวี๋ยที่แสดงท่าทางสงสัย.

" 15 ทัพของพวกเขา,เจ้าก็เห็นได้ว่าแม่ทัพที่นำทัพ,ดูผิดปกติ,จงซานหายไป,กู่หลินหายไป,สองแม่ทัพพิทักษ์ดินแดนหายไป,คนที่นำทัพของพวกเขาเป็นแค่รองแม่ทัพเท่านั้น.

"หืม,อาจจะใช่,ทว่า,ด้วยการเตรียมการของอุปราช,ถึงแม้ว่าจะเป็นพวกเขา,เขตแดน 20 เมืองเวลานี้,พวกเราตั้งรับได้อย่างแข็งแกร่ง,พวกเขาไม่มีทางโจมตีเข้ามาได้แน่."เถี่ยเสวี๋ยที่เอ่ยออกมา.

"ไม่,ไม่ถูกต้อง,หากมีพวกเขา,พวกเราจะต้องเสียหายมากยิ่งกว่านี้,โดยเฉพาะอย่างยิ่งจงซาน,ในสนามรบไม่เห็นเงาของเขา,ข้ารู้สึกเป็นกังวลว่าพวกเขากำลังทำเรื่องอะไรลับหลังพวกเรา,ข้ารู้สึกไม่ดีนัก,ข้าจะเขียนจดหมายส่วนตัวส่งไปให้กับเหนือหัว,ให้ฝ่าบาทระวังตัวเอาไว้ไม่ให้กระทำอะไรผลีผลาม."อี้เหยี่ยนกล่าว.

ค่ายใหญ่ของเสี่ยวหวัง.

เสี่ยวหวังที่นั่งอยู่โต๊ะบัญชาการ,ทั้งสองข้างที่มีเหล่าขุนพลยืนประจำการอยู่.

เสี่ยวหวังที่อ่านจดหมาย,จ้องมองไปยังเสี่ยวหยวนเฟิงและเหล่าขุนพลอื่นๆที่อยู่รอบๆ.

"ฟู่ไสว่,อี้เหยี่ยนสามารถต้านทัพของต้าโหลวเอาไว้ได้."เสี่ยวหยวนเฟิงที่กล่าวออกมาด้วยท่าทางประหลาดใจ.

"ทว่าราคาที่พวกเขาต้องจ่ายนับว่าหนักหนาทีเดียว,60 เมือง,แทบจะครึ่งหนึ่งของราชวงศ์ราชันย์ต้ายวีเลย."เสี่ยวหวนเติ้งที่ส่ายหน้าไปมา.

"นี่ก็เพื่อคืนชีวิตให้กับคนใกล้ตาย!"เสี่ยวหยวนเฟิงที่กล่าว.
**起死回生 Qǐsǐhuíshēng ฟื้นคืนชีวิตให้กับคนใกล้ตาย.

"ฟื้นคืนชีวิตให้กับคนใกล้ตายอย่างงั้นรึ? เฮ้เฮ้,ยังต้องดูอีกหน่อย!"เสี่ยวหวังที่ส่ายหน้าไปมา.

"ฟู่ไสว่,พวกเราไม่เคลื่อนทัพไปตอนนี้อย่างงั้นรึ?"เสี่ยวหยวนเฟิงที่ขมวดคิ้วไปมา.
Fù shuài แม่ทัพผู้เป็นบิดา.

"รออีกหนึ่งเดือน,หากอี้เหยี่ยนสามารถต้าน 15 ทัพได้เหมือนก่อนหน้า,พวกเราจะไปช่วย!"เสี่ยวหวังที่กล่าวอย่างเคร่งขรึม.

"ครับ!"เหล่าขุนพลที่ตอบรับในทันที.
.....

เมืองเทียนกง! ห้องบัลลังก์.

น่าหลานเพียวเสวี๋ยที่จ้องมองไปยังรายงานเกี่ยวกับชัยชนะ,ใบหน้าที่เผยยิ้มที่ค่อนข้างหายากออกมา.

"สวรรค์ได้อวยพรต้ายวีแล้ว,เหนือหัว,อุปราชสามารถหยุดทัพของราชวงศ์สวรรค์ต้าโหลวไม่ให้รุกเข้ามาได้ในที่สุด!"เสนาธิการคนหนึ่งที่กล่าวแสดงความยินดี.

"เหนือหัว,ศิลามิติที่ได้มาจากแผนที่ขุมทรัพย์,ทั้งกองทัพและประชาชนทั่วไป,สามารถหาเจอ,ตลาดของศิลามิติ,ตอนนี้ฟื้นคืนมาเรื่อยๆแล้ว,ประชาชนทั่วไปไม่เดินทางออกนอกเมืองเพื่อไล่ล่าสมบัติแล้ว,ทุกอย่างตอนนี้กำลังฟื้นฟูเรื่อยๆ,ต้ายวีของพวกเราฟื้นแล้ว,ยินดีกับเหนือหัวด้วย!"เสนาธิการอีกคนที่กล่าวแสดงความยินดี.

"ยินดีกับเหนือหัวด้วย!"เหล่าขุนนางมากมายต่างก็ส่งเสียงยินดีดังอื้ออึง.

ใช่แล้ว,ตอนนี้ราชวงศ์ราชันย์ต้ายวี,ยกเว้นหกสิบเมืองที่เสียไป,สถานการณ์กลับมาดีขึ้นแล้ว,อี้เหยี่ยนที่สามารถหยุดทัพของต้าโหลวได้,ตอนนี้ก็ยังเหลือเมืองกว่า 90 เมือง,กำลังฟื้นฟู,ประชาชนไม่ออกนอกเมืองอพยพหนีแล้ว,ขวัญกำลังใจของทหารที่เต็มเปี่ยม,กับรายงานที่พวกเขาได้รับ,ทุกอย่างเวลานี้,กลับมาเป็นเหมือนเช่นเดิม,ต้ายวีกลับมาทรงอำนาจอีกครั้งแล้ว!
"ดี,เสนาธิการจูทำได้ดีมาก,จงทำการประกาศ,ให้ต้ายวีรับรู้ไปทั่วหล้า,บอกกล่าวต่อประชาชน,และเหล่าคนที่มีศัตรูคู่แค้นร่วมกัน,ได้รู้สึกถึงความน่าเกรงขามของพวกเรา!"น่าหลานเพียวเสวี๋ยที่กล่าวออกมาด้วยอารมณ์ที่ดีเป็นอย่างมาก.

สถานการณ์ของต้ายวีที่กลายมาเป็นยอดเยี่ยมจริงๆรึ? หรือว่านี้มีเพียงแค่น่าหลานเพียวเสวี๋ยที่คิดเช่นนี้,แม้ว่าต้ายวีจะค้นพบศิลามิติ,ทว่าศิลาวิญญาณล่ะ?ศิลาวิญญาณหายไปใหนรึ? ศิลาวิญญาณของพวกเขาสามารถกู้ยืมได้,แล้วของประชาชนล่ะ?พวกเขาเพียงแค่พบขุนทรัพย์,แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าทุกคนที่ได้รับผลประโยชน์นี้,จิตใจของประชาชนฟื้นคืนจริงๆรึ? กับความวุ่นวายความว้าวุ่นของฝูงชนเมื่อเกิดขึ้นแล้ว,เป็นเรื่องยากที่จะฟื้นคืนกลับมาอย่างง่ายดาย.

ยกตัวอย่างเหล่าขุนพลป้องกันเมือง,ก่อนหน้านี้พวกเขาคือผู้ภัคดีต่อราชวงศ์,ทว่าหลังจากเกิดเหตุการณ์จิตใจของฝูงชนที่วุ่นวายโกลาหล,พวกเขาถึงกับกล้าขัดคำสั่งทางทหาร,กับการกระทำการโดยที่ไม่ได้รับคำสั่ง,พวกเขาถึงกับนำกำลังไปค้นหาขุมทรัพย์ปล่อยให้เมืองหลายเมืองถูกโจมตี,พวกเขาจะกลับมาอย่างงั้นรึ?แม้ว่าพวกเขาค้นพบสมบัติ,การกลับมาอย่างเปิดเผยมีแต่เป็นการหาเรื่องใส่ตัวเองเท่านั้น,กับการขัดคำสั่งนี้เมื่อมีครั้งแรกย่อมมีครั้งที่สองและครั้งที่สาม,การจะเชื่อฟังเหมือนดั่งเช่นอดีตคงเป็นไปไม่ได้แล้ว.

ประกาศที่ถูกคัดลอก,ถูกแจ้งไปทั่วทั้งเมืองเทียนกงอย่างรวดเร็ว,และกระจายไปยังเมืองอื่นๆด้วย.

ภายในเมืองเทียนกงและเมืองอื่นๆที่ทำการเฉลิมฉลองในครั้งนี้,สวรรค์ล่มขั้นที่ห้า,เริ่มขึ้นแล้ว!

จู่เสิน,เสนาธิการจู่ที่ทำการรับสั่งของน่าหลานเพียวเสวี๋ย,เป็นผู้ทำการออกเอกสารประกาศส่งไปทั่วเมือง,เทียนกง,จู่เสินนั้นเป็นประมุขตระกูลจู่! แทบจะในทันทีผู้คนต่างก็นำมากล่าวถึงกันในทันที.

นี่ไม่ใช่ความคิดเห็นของน่าหลานเพียวเสวี๋ย,ทว่าเป็นความคิดเห็นของประชาชนทั่วไป.

ไม่รู้ว่าตั้งแต่เมื่อไหร่ที่ประชาชนทั่วไป,ได้กล่าวถึงรายระเอียดดำลึกลงไปกับเรื่องราวที่เกิดขึ้น.

เกี่ยวกับตระกูลจุ่นั้น,ขณะที่ตลาดมีการเปลี่ยนแปลง,พ่อค้าหลายคนที่ได้วางแผนการ,ปั่นราคา,ผู้เยาว์ตระกูลจู่เองก็เป็นหนึ่งในนั้น,พวกเขาได้รับศิลาวิญญาณเป็นจำนวนมหาศาล,นั่นไม่ใช่เรื่องหลัก,เรื่องหลักนั้นเกี่ยวกับเหตุการณ์ศิลามิติ,จวบจนตลาดล่มสลายนั้น,ตระกูลจู่นั้นได้รับเงินจำนวนมหาศาล,การปั่นราคาของศิลามิติขึ้นมา,ทำให้พวกเขาได้กำไรมากมาย,ได้รับศิลาวิญญาณมากมายนับไม่ถ้วน.

นอกจากนี้ยังมีอีก,เกี่ยวกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น,พวกเขาที่ปล่อยเงินกู้คิดผลกำไรทบต้นทบดอก,ให้กับประชาชนทั่วไปมากมาย,ทำให้ประชาชนจำนวนมหาศาลเป็นหนี้พวกเขาเป็นจำนวนศิลาวิญญาณมหาศาลเลยทีเดียว.

แอบซ่อนกัดกินอาณาจักรรึ? ไม่,ในเวลานี้,ทุกคนต่างก็ต้องเอาตัวรอด,สิ่งที่ตระกูลจูทำเป็นเหมือนกับเปลี่ยนวิกฤติให้เป็นโอกาส? ไม่มีอะไรที่ประมุขตระกูลจู่ต้องว่ากล่าว,เหล่าผู้เยาว์จึงได้กระทำการอย่างบ้าคลั่งกันเลยทีเดียว.

จู่เสินนั้นรับรู้ที่หลังในขั้นท้ายเมื่อพวกเขาเข้าร่วมเหตุการณ์จัดสรรศิลามิติแล้ว,

อย่างไรก็ตาม,ทุกอย่างมันได้ถลำลึกแล้ว,ตระกูลจู่ที่เริ่มตั้งแต่ตัน,ไม่สามารถถอยกลับได้,ศิลาวิญญาณที่ได้มา,มากมายเป็นกอบเป็นกำเลยทีเดียว.

กับรายระเอียดต่างๆนั้นจะสามารถระมัดระวังได้เท่าไหร่,สิ่งที่พวกเขาทำแน่นอนว่ายากที่จะปกปิดเอาไว้ได้.

กับมูลค่าผลประโยชน์ที่พวกเขาได้รับ,แม้ว่าจะระมัดระวังอย่างดี,แบ่งแยกจัดสรรอย่างระเอียด,ก็ไม่แคล้วต้องหลุดออกมาเผยเป็นขี้ปากของประชาชนทั่วไป.

ราชวงศ์ราชันย์ต้ายวีที่ต้องประสบภัยในครั้งนี้,แต่กับกลายเป็นว่าขุนนางชั้นสูง,กับทำการขูดเลือดขูดเนื้อของอาณาจักรแทนรึ? หากก่อนหน้านี้จู่เสินแจ้งต่อเหนือหัว,ตลาดของต้ายวีจะล่มสลายรึ? กับเรื่องที่เกิดขึ้นนี้ทำให้ประชาชนเป็นจำนวนมากที่ต้องกลายเป็นคนไร้บ้าน,ล้มละลายไม่มีเงิน,ประชาชนมากมายต้องอพยพหลบหนี้เพราะไม่มีศิลาวิญญาณกำลังรู้สึกไม่พอใจ.


Zhu Cunli!
จู่เสิน!

ทันใดนั้น,ประชาชนมากมายที่เต็มไปด้วยความอัดอั้น,ถูกแทนที่ความรู้สึกไม่พอใจราชวงศ์สวรรค์ต้าโหลว,ตอนนี้พวกเขาได้หันมาสนใจเรื่องของจู่เสินแทน.

หลังจากนั้นสองวัน,ทันใดนั้น,ก็ปรากฏใครบางคนที่ส่งฎีกาถึงราชันย์น่าหลานเพียวเสวี๋ยกับเรื่องของจู่เสิ่น,กับความไม่ยุติธรรมของประชาชนที่ต้องแบกรับ,เพื่อขอความเป็นธรรมกับฝ่าบาท,เพื่อทวงความเป็นธรรมให้กับเมืองเทียนกง,เกี่ยวกับการค้าขายในราชวงศ์ราชันย์ต้ายวี.

ทันใดนั้น,ตระกูลจูได้กลายเป็นศัตรูของเหล่าปวงชน,สถานการณ์ย่ำแย่เป็นอย่างมาก.

ประชาชนจำนวนหนึ่งไม่รู้ว่ามาจากใหนที่ได้มาคุกเข่าที่หน้าตำหนักของพระราชวัง,พวกเขาต้องการร้องเรียนให้น่าหลานเพียวเสวี๋ยลงโทษจู่เสิ่น,เพื่อทวงความยุติธรรมให้กับปวงชน.

เพียงแค่ไม่นาน,คนได้เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ,หลายต่อหลายคนที่ต้องการร้องเรียนเพิ่มมากขึ้น.

คนเหล่านี้,ทุกคนต่างก็เป็นลูกหนี้ของตระกูลจู,พวกเขาที่ทำการยืมเงินจากตระกูลจูด้วยดอกเบี้ยมหาโหด,ใช่แล้ว,หากไม่เพราะตระกูลจู่,พวกเขาคงไม่ต้องยืมเงินอย่างงั้นรึ? นี่คือหายนะ.

เหล่าลูกหนี้ของตระกูลจูนั้นมีเป็นจำนวนมากพวกเขาที่รวมตัวกันประท้วง.

ประชาชนที่เพิ่มขึ้นมากขึ้นและก็มากขึ้น.

เพียงไม่นาน,ฎีกาห้าฉบับที่ได้ถวายต่อน่าหลานเพียวเสวี๋ย.

นอกจากนี้ยังเกิดเหตุการณ์ผิดปรกติ,มีประชาชนมากมายหลายสิบคนที่มาคุกเข่าที่หน้าพระราชวัง,พวกเขาที่มาชุมนุมมากขึ้นเรื่อยๆนั้น,ทว่าคนที่มาคุกเข่าแรกๆนั้น,พวกเขาหายไปอย่างไร้ร่องรอย.

"โอหังนัก,จูเสิ่น!"น่าหลานเพียวเสวี๋ยที่เต็มไปด้วยความโกรธเกรี้ยว.

ภายในห้องโถง,เหล่าขุนนางที่พากันเงียบ!

"ฝ่าบาท,เฉินรู้ว่าเรื่องนี้ได้กระทำผิดไปแล้ว,ทว่าบุตรชายของกระหม่อมเป็นคนกระทำขึ้นมา,เกี่ยวกับเงินกู้นั้น,กระหม่อมไม่รู้เรื่องแม้แต่น้อย."จูเสินที่คุกเข่าร้องขอความเมตตา.

"ชิ,จูเสิน,เสนาธิการฝ่ายพิธีการ,ร่วมมือกับนักเก็งกำไร,สร้างหายนะให้กับตลาดต้ายวี,ประชาชนมากมายบ้านแตกสาแหรกขาด,ตอนนี้สร้างความขุ่นเคืองให้กับประชาชนเป็นจำนวนมาก,ประชาชนมากมายต่างก็มาร้องเรียน,คาดไม่ถึงเลยว่าเจ้าจะไม่รู้เรื่องนี้,ต้องให้ราชวงศ์ราชันย์ต้ายวีถูกเจ้าทำลายลงด้วยน้ำมือเจ้าก่อนเหรอ!"น่าหลานเพียวเสวี๋ยที่โกรธกริ้วเป็นอย่างมาก.

ในมุมมองของน่าหลานเพียวเสวี๋ย,หากจู่เสินรายงานสถานการณ์ตลาดด้วยความจริง,ไม่ต้องถึงมืออี้เหยี่ยนด้วยซ้ำ,เพียงเท่านี้ก็มองเห็นความผิดปรกติ,ก่อนที่ต้ายวีจะล่มสลาย, 60 เมือง,ก็ไม่จำเป็นต้องสูญเสียไป!

ก่อนหน้านี้ที่อี้เหยี่ยนจะจากไป,ได้กล่าวว่าอย่าได้สร้างความไม่พอใจให้กับฝูงชน,เป็นเรื่องจริงแท้แน่นอน!

"ให้คนเข้ามา,เอาตัวจู่เสินไป!"น่าหลานเพียวเสวี๋ยที่ตะโกนออกไปด้วยความโกรธเสียงดังสนั่น.

"ครับ!"องค์รักษ์จำนวนหนึ่งที่เร่งรีบเข้ามาจับตัวจู่เสิ่น.

"เหนือหัว,เฉินผิดไปแล้ว,ขอให้ฝ่าบาทเมตตาด้วย!"จู่เสินที่ตะโกนเสียงดังขอความเมตตา.

อย่างไรก็ตาม,น่าหลานเพียวเสวี๋ยในเวลานี้โกรธเกรี้ยวเป็นอย่างมากไม่รับฟังใครทั้งนั้น.

"ชิ,เมตตาอย่างงั้นรึ? ข้าไม่เพียงแค่กุดหัวเจ้าเท่านั้น,ข้ายังจะสังหารตระกูลของเจ้าเก้าชั่วโคตร,ให้เป็นตัวอย่างกับการกระทำในครั้งนี้ของเจ้า!"น่าหลานเพียวเสวี๋ยที่ตะโกนเสียงดัง.

"ไม่!!!"จู่เสินที่ตะโกนะเสียงดัง.

ทว่าตอนนี้องค์รักษ์ได้ลากตัวของเขาออกไปแล้ว.

"ชิ!"น่าหลานเพียวเสวี๋ยที่สะบัดแขนเสื้อ,ก่อนที่จะจากไปจากห้องโถง.

ภายในห้องโถงนั้น,เหล่าขุนนางคนอื่นๆไม่กล้าแม้แต่หายใจแรง! ทุกคนได้แต่ก้มหน้ารอคอยให้น่าหลานเพียวเสวี๋ยจากไป.

จู่เสิ่นถูกกุดหัว,บนลานประหารกลางเมือง,รวมทั้งตระกูลจู่เก้าชั่วโคตร,รวมเป็นคน 400 คนที่ต้องถูกกุดหัวไปพร้อมกัน,ในการกระทำในครั้งนี้.

คนที่มาชมการประหายในครั้งนี้! มีคนที่เป็นหนี้ของจู่เสิน,ที่ตบมือเสียงดังสนั่นด้วยความยินดี!

เสียงปรบมือเสียงดังก้อง,แน่นอนว่าคนเหล่านี้เป็นจงซานที่จัดเตรียมเอาไว้.

จูเสิ่นตายแล้ว! ถูกสังหารเก้าชั่วโคตร,ใครจะเป็นรายต่อไป?

เหล่าขุนนางในเวลานี้,มีไม่น้อยเลย,ที่เข้าร่วมเหตุการณ์ศิลามิติ,ใครเล่าจะไม่กลัว? ถึงจะไม่มีคนรู้,หากแต่พวกเขารู้แก่ใจดี,ประชาชนส่วนมากไม่มีใครจริงๆรึ?,ทว่าตั้งแต่แผนการสวรรค์ล่ม,จงซานก็เฝ้าเรื่องราวมาตลอด,ส่งคนมาเก็บหลักฐานเอาไว้อย่างเหลือเฟือ.

เหตุการณ์ของจู่เสิน,ย่อมทำให้ขุนนางอื่นๆอกสั่นขวัญหาย,หวาดผวา,ว่าเรื่องของตัวเองจะถูกเปิดเผยเช่นกัน.

จู่เสินเก้าชั่วโคตร,ถูกกุดหัวจนหมด!

ถูกลงโทษ,ด้วยการสร้างความไม่พอใจให้กับฝูงชน,อย่างก็ตาม,ความโกรธเกรี้ยวของฝูงชนนั้นมีมากมาย,ด้วยการวางหมากของจงซานที่ได้เตรียมการเอาไว้แล้ว.

ห้องโถงตระกูลขุนนางตระกูลหนึ่ง,ที่กำลังปรึกษาหารือเกี่ยวกับธุรกิจอยู่.

"ประมุข,ท่านประมุขไม่ได้การแล้ว,ท่านโปรดดูข้อมูลเกี่ยวกับการค้าในนี้ด้วย!"บ่าวรับใช้ที่นำแผ่นริ้วหยกส่งให้กับประมุข,ของตระกูลซ่าง.

ประมุขตระกูลซ่างดวงตาเบิกกว้างเมื่อตรวจสอบแผ่นริ้วหยก.

"บิดา,มีอะไรอย่างงั้นรึ?"

"ใช่มี,ข่าวดีอะไร?"

ภายในห้องโถงทุกคนต่างก็สงสัย,ประมุขที่วางแผ่นริ้วหยกลงเบาๆ,ถอนหายใจลึก,ดวงตาหลับลงปิดแน่นนั่งลงบนเก้าอี้.

ทุกคนที่เข้ามาห้อมล้อม! ใบหน้าของแต่ละคนไม่ใคร่ดีนัก,เต็มไปด้วยความกระวนกระวายใจ.

"มันเป็นเช่นนี้ได้อย่างไร?"

"เป็นเช่นนี้ได้อย่างไร? แน่นอนว่าจะต้องมีคน,มีคนจงใจที่ต้องการเล่นงานพวกเรา,หลักฐาน,หลักฐานนี้,ไม่ได้ต่างจากตระกูลจูแน่,หากเป็นเช่นนี้,พวกเราจะต้องถูกกุดหัวเก้าชั่วโคตรแน่,...."

ทุกคนที่รับรู้เรื่องตระกูลจูดี,ตอนนี้เต็มไปด้วยความหวาดกลัว,ตัวสั่นไปตามๆกัน.

หลังจากพูดคุยกันสักพัก,ทุกคนที่จ้องมองไปยังประมุขตระกูล.

สูดหายใจลึก,ประมุขที่ลืมตาขึ้นมาในทันที.

"บิดา,ทำอย่างไรดี? "หนึ่งในนั้นที่กล่าวออกมาด้วยความร้อนรน.

ประมุขตระกูลจ้องมองไปยังทุกคน,"เมืองเทียนกง,ดูเหมือนว่าจะไม่สามารถอยู่ได้แล้ว,แจ้งไปยังทุกคนทั้งตระกูลให้เตรียมตัวอย่างระมัดระวัง,ยามโหยว,พวกเราจะหนีออกจากเมืองกัน!"
ยามโหย่ว () คือเวลา 17.00 น. 19.00 น.

"ยามโหยว,หนีออกจากเมืองอย่างงั้นรึ? บิดา..."ชายคนหนึ่งที่กล่าวออกมาอย่างร้อนรน.

"หรือจะให้ฝ่าบาทกุดหัวทั้งตระกูล,ต้องหนีให้เร็วที่สุด,ตอนนี้หากไม่หนี,หลังจากนี้จะไม่มีโอกาสแล้ว,ใต้หล้านี้,จะไม่มีที่ให้พวกเราซ่อนตัวเชียวรึ? ไปเตรียมตัว!"ประมุขที่ออกคำสั่งในทันที.

"ครับ!"ใบหน้าของทุกคนที่เต็มไปด้วยความเจ็บปวด.

เกี่ยวกับสถานการณ์ของตระกูลซ่าง,นั้น,เหล่าตระกูลขุนนางอื่นๆเองก็ได้รับหลักฐานมาด้วยเช่นกัน,มีหลายตระกูลเหมือนกันที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้พวกเขาตระหนักได้ทันทีว่าพวกเขาจะต้องถูกลงโทษกุดหัวเก้าชั่วโคตร.

หนี! ประมุขหลายตระกูล,ที่ตัดสินใจเหมือนๆกัน,หนี,พวกเขาที่เผ่นหนีในคืนนั้นเลย.

เช้าวันถัดมา,ในห้องโถงพระราชวัง,น่าหลานเพียวเสวี๋ยที่เห็นขุนนางเพียงไม่กี่คน,ก็สงสัยเล็กน้อย,ทว่าเพียงไม่นานเขาก็พบปัญหาเข้าอย่างรวดเร็ว.

กลัวความผิดจนต้องหนีไปอย่างงั้นรึ?

"หนี,หนีไปแล้วเหรอ! เจ้าพวกขยะ,พวกแมลงกัดกินอาณาจักร!"น่าหลานเพียวเสวี๋ยที่โกรธเกรี้ยวกล่าวออกมาเสียงดัง.

เหล่าขุนนางที่เหลืออยู่ไม่กล้ากล่าวสิ่งใด,ด้วยเกรงว่าจะทำให้สถานการณ์เลวร้ายยิ่งกว่าเดิม.

น่าหลานเพียวเสวี๋ย,นับว่าเป็นคนที่มีอารมณ์รุนแรง,เหล่าขุนนางเวลานี้,ไม่กล้าที่จะเสนอความเห็นใด,รอคอยให้ใจเย็นลงก่อน,ไม่กล้าที่จะหาเรื่องให้กับตัวเอง,เวลานี้ไม่สามารถทำอะไรได้,ทว่าเหล่าคนที่หลบหนีไปนั้น,ย่อมต้องถูกลงโทษเป็นแน่.

น่าหลานเพียวเสวี๋ยที่กำลังก้าวออกนอกห้องโถง,ก่อนที่จะหยุดในทันที,กล่าวต่อขันทีด้านหลัง,"ไปเตรียมการให้ข้า,เหล่าคนผู้ทรยศ,ที่ร่วมมือกับฝ่ายศัตรูต้องได้รับการลงโทษ,ออกประกาศจับคนเหล่านั้นไปทั่วต้ายวีทันที!"

"รับด้วยเกล้า!"ขันทีที่รับคำสั่งในทันที.

เหล่าข้าราชบริพารรึ? เจ้าหน้าที่ของทางการ,ไปจนถึงสามัญชน,กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้,พวกเขาไม่สามารถปล่อยผ่านไปได้,นี่เป็นเรื่องราวที่พวกเขาต้องนำมาตัดสินใจ,รวมถึงเหล่าตระกูลพ่อค้า,กับการอาศัยอยู่ในอาณาจักรแห่งนี้.
 อย่างไรก็ตาม,น่าหลานเพียวเสวี๋ยนั้นคงไม่ได้นึกถึง,กับเรื่องที่เกิดขึ้นนี้,เหล่าขุนนางระดับสูง,ที่ทุกคนต่างจับตามอง,กับสิ่งที่เกิดขึ้น,พวกเขาย่อมมองออกว่าเกิดเรื่องที่ไม่สู้ดีนักในราชสำนัก.

กลุ่มคนที่เป็นเสาหลักของอาณาจักร,เป็นกระดูกสันหลังของต้ายวี,ต่างก็ตัดสินใจอพยพหลบหนีเป็นการใหญ่,ไม่จำเป็นต้องให้คนของจงซานชี้นำ,ประชาชนทั่วไปย่อมคาดเดากันได้.

อย่างไร?เมืองเทียนกง?ฝ่าบาท? ทำไมเหล่าขุนนางมากมายถึงได้อพยพหลบหนี? เหล่าตัวตนที่เป็นเสาหลักของอาณาจักร,เป็นเหมือนกับสัญลักษณ์ของการบริหารของราชวงศ์ต้ายวี.

พวกเขาเป็นกบฏจึงได้หลบหนีอย่างงั้นรึ? ไม่ได้มีเพียงแค่คนเดียว,ทว่ามีเป็นจำนวนมาก,เกือบทุกๆคน!

เกิดสิ่งใดขึ้น?เมืองเทียนกงเกิดสิ่งใดขึ้น? เหนือหัวกำลังจะพ่ายแพ้อย่างแน่นอน,จึงได้เริ่มไล่ล่าสังหารขุนนางของตัวเองอย่างงั้นรึ?

แน่นอน,เหล่าคนที่หลบหนีย่อมไม่ปริปากพูดความจริง,ไม่มีใครกล่าวโทษตัวเองอย่างแน่นอน,เสนาธิการฝ่ายพิธีการ,จู่เสินถูกสังหารเก้าชั่วโคตร,บ่งบอกว่าราชวงศ์ราชันย์ต้ายวีจบแล้ว,จบอย่างสมบูรณ์,น่าหลานเพียวเสวี๋ยยอมรับความพ่ายแพ้,เริ่มไล่ล่าสังหารเหล่าขุนนางของตัวเองแล้ว!

ราชวงศ์ราชันย์ต้ายวีกำลังจะแพ้อย่างงั้นรึ?

เหล่าผู้คนต่างก็ลือไปต่างๆนาๆ,ไม่ต้องบอกเลยว่ามีคนของจงซานที่ออกมาปั้นน้ำเป็นตัวอีกหลายเรื่องอีกด้วย.

หนึ่งเดือนถัดมาหลังจากนั้น!

เมืองต้ายวี,ตำหนักเจ้าเมือง,ห้องโถงกลาง.

เถี่ยเสวี๋ยที่เต็มไปด้วยความตื่นเต้นวิ่งเข้ามาในห้องโถง,"อุปราช,ข่าวดี,พวกเราได้รับข่าวดี,เสี่ยวหวัง,ก่อนหน้านี้,เสี่ยวหวังส่งสารมา,ตอนนี้ได้ยกทัพมาเสริมแล้ว!"

เถี่ยเสวี๋ยที่เต็มไปด้วยความดีใจ,ท้ายที่สุดพวกเขาก็หายใจได้โล่งคอ,ต้ายวีเวลานี้ปลอดภัยแล้ว,ขณะที่เถี่ยเสวี๋ยได้รับข่าวนี้,เขาเร่งรีบเข้ามารายงานอุปราชอย่างเร่งด่วน.

แต่ทันทีที่เข้ามาในห้องโถง,ก็เห็นอุปราชอี้เหยี่ยนถึงกับหลั่งเหงื่อที่เย็นเยือออกมา,หลังจากที่ได้รับข่าวรายงานเกี่ยวกับเรื่องราวภายในเมืองเทียนกง.

เกี่ยวกับความตื่นเต้นดีใจของเถี่ยเสวี๋ยนั้น,อี้เหยี่ยนไม่สนใจเลยแม้แต่น้อย.

"อุปราช?"เถี่ยเสวี๋ยที่กล่าวหยั่งเชิง.

"จบแล้ว,สวรรค์ล่มแล้ว!"อี้เหยี่ยนที่วางจดหมายลงด้วยท่าทางห่อเหี่ยวใจ.

"อุปราช,เกิดอะไรขึ้นอย่างงั้นรึ?"เถี่ยเสวี๋ยที่แสดงท่าทางประหลาดใจ.

เถี่ยเสวี๋ยที่รับจดหมายดังกล่าวมาอ่านในทันที.

"นับว่าเป็นข่าวดี,ฝ่าบาทได้สังหาร,พวกขยะ,ไม่เห็นจำเป็นต้องใส่ใจ,นี่เป็นเรื่องที่ดีแล้วไม่ใช่รึ?"เถี่ยเสวี๋ยที่จ้องมองจดหมายด้วยความตื่นเต้น.

อี้เหยี่ยนจ้องมองไปยังเถี่ยเสวี๋ย,ส่ายหน้าไปมา,ฝืนยิ้มออกมา,เขาไม่รู้อะไรเลยเหรอ!

"อุปราช,มีอะไรอย่างงั้นรึ?"เถี่ยเสวี๋ยที่กล่าวสอบถามด้วยความสงสัย.

"ขยะรึ? ก่อนหน้านี้ไม่จำเป็นต้องใส่ใจ,ทว่าไม่ใช่ตอนนี้,ไม่ใช่เวลานี้แน่นอน!"อี้เหยี่ยนกล่าว.

"ทำไมล่ะ?"เถี่ยเสวี๋ยที่กล่าวด้วยความสงสัย.

"เพราะว่าคนเหล่านี้,เป็นขุนนางที่กลายเป็นหมากให้กับราชวงศ์สวรรค์ต้าโหลว,พวกเขาไปที่ใหนก็จะบอกกล่าวต่อคนทั่วหล้า,ว่าเมืองเทียนกงได้ตกอยู่ในมือของศัตรูแล้ว."อี้เหยี่ยนที่เอ่ยด้วยความไม่พอใจ.

"ไม่มีทาง,พวกเขาเข้าจะพูดอย่างงั้นรึ?"เถี่ยเสวี่ยกล่าวออกมาด้วยความสงสัย.

"พวกเขาไม่,ทว่าจงซานทำแน่นอน!"อี้เหยี่ยนที่อัดอั้นต้องการกล่าวออกมาเสียงดัง.

"จงซานรึ?ไม่,ไม่มีทาง! ทว่า,ที่นี่ก็ยังปกติดี!"เถี่ยเสวี๋ยกล่าว.

"ปรกติอย่างงั้นรึ?เฮ้เฮ้,ที่นี่ปรกติอย่างงั้นรึ? ทว่า,เวลานี้มีข่าวลือออกไปแล้ว,ว่าพวกเราเสียหายไป 60 เมือง,กระจายไปทั่วทั้งเมืองอื่นๆที่เหลือ,เหล่าขุนนางมากมายนับไม่ถ้วนต่างก็พากันอพยพหลบหนี,เจ้าคิดว่าอะไร? จงซานได้ปล่อยข่าวลือไปทั่วสารทิศแล้วว่าเมืองเทียนกงตกอยู่ในมือของศัตรูเรียบร้อยแล้ว,ราชวงศ์ต้ายวีนั้นไม่มีอยู่แล้ว,เหล่าเจ้าเมืองที่เหลืออยู่พวกเขาจะทำอย่างไร,กับข่าวลือนี้,หลังจากที่ได้ยิน,ภายในใจของพวกเขาก็เริ่มหวาดหวั่นเปราะบาง,ยิ่งข่าวลือหนาหูขึ้นเรื่อยๆ,เหล่าขุนนางของเมืองเทียนกงที่หลบหนีลี้ภัย,ยิ่งแสดงให้เห็นว่าเมืองเทียนกงนั้นตกอยู่ในมือศัตรู,พวกเขาจะไม่เชื่อได้อย่างงั้นรึ? แล้วหากว่าคนของราชวงศ์สวรรค์ต้าโหลว,เสนอนิรโทษกรรมให้กับพวกเขาล่ะ....!"อี้เหยี่ยนที่กล่าวออกมาด้วยท่าทางหวาดหวั่น.

เถี่ยเสวี๋ยที่ส่ายหน้าไปมา,จ้องมองไปยังอี้เหยี่ยนด้วยความงงงวย,"ไม่มีทาง,จะบังเอิญเพียงนั้นอย่างงั้นรึ?"


"มันเป็นแผนการ,จะต้องเป็นเช่นนั้นแน่,เพราะว่ามันถูกวางแผนไว้แล้ว,หากจะโทษก็โทษที่ราชันย์องค์แรก,ไม่รู้จักสั่งสอนเหนือหัวผู้นี้!"อี้เหยี่ยนแทบกลายเป็นบ้าคลั่ง.




ที่มาจากhttps://lnmtl.com/novel/immortality

#นิยาย เรื่องอมตะ #Immortality#นิยายแปลไทย
Author(s)


สนใจสนับสนุนพวกเรา,เข้าร่วมกลุ่ม VIP ====> Click

***เว็ปฟรีอัพ สองวันหนึ่งตอน
***กลุ่มลับ อัพ 2-3 ตอนต่อวัน.

 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น