วันพฤหัสบดีที่ 6 มิถุนายน พ.ศ. 2562

Immortality Chapter 313 All are Great Zheng

Immortality Chapter 313  All are Great Zheng

นิยาย เรื่อง อมตะ ตอนที่ 313 ทุกอย่างก็เพื่อต้าเจิ้ง.


Chapter 313  All are Great Zheng
一切大崝
ทุกอย่างก็เพื่อต้าเจิ้ง.

"ระดับเก้าอย่างงั้นรึ?"จงซานที่ขมวดคิ้วไปมา.

"มีเพียงของวิเศษระดับเก้าเท่านั้น,ถึงจะมีจิตวิญญาณที่ทรงพลังขนาดที่สามารถยับยั้งน้ำพุหยินหรือน้ำพุหยาง,นี่คือของวิเศษที่มีจิตวิญญาณ,เป็นดาบที่ใช้ยับยั้งการปะทุของน้ำพุหยางเอาไว้,แน่นอนว่ามันจะต้องเป็นดาบวิเศษระดับเก้า! ทุกคนต่างก็รับรู้ว่ามันคือของวิเศษที่แข็งแกร่งที่สุด!"อาต้าตอบ.



ในเวลาเดียวกัน,คนทั้งสามที่เดินทางมุ่งตรงกลับไปยังกองทัพ.

เพื่อกลับไปสมทบกับกองกำลังของเขา.

จงซานที่จ้องมองปังเมืองต้าเย่ที่เต็มไปด้วยลาวาที่ลอยฟุ้งไปทั่ว,พร้อมถอนหายใจเบาๆ,"เมืองต้าเย่,คาดไม่ถึงเลยว่าจะฝังดาบระดับเก้าเอาไว้!"

ในเวลาเดียวกัน,เมื่อตระหนักได้จงซานที่สูดหายใจลึก,สุ่ยอู๋เหินที่ตระเวนเก็บทรัพย์สินทั่วเมือง,ยังไม่รับรู้เรื่องนี้,ทรัพยากรที่ได้มาก็นับว่ามากมายมหาศาล,ทว่ากับดาบปิศาจระดับเก้านั่น,นี่คือของล้ำค่าที่สุดต่างหาก,เป็นสิ่งของที่มีเงินก็ไม่สามารถซื้อได้.

อย่างไรก็ตาม,เกี่ยวกับจงซานนั้น,ไม่ใช่ข่าวร้ายอะไร,จงซานเองก็รับรู้ได้ถึงสมบัติระดับเก้าอยู่ในสถานที่แห่งหนึ่งในเกาะหมาป่าสวรรค์เช่นกัน.

กระบี่โหยวหรี,ซึ่งเป็นสถานที่เดียวกันที่เขาได้วิชากายาเทพอสูรมานั่นเอง,หลายๆผู้เชี่ยวชาญที่ต้องตายด้วยพลังของน้ำพุหยิน,สุดท้ายแล้วทุกคนก็ถูกสังหารหมดไม่มีใครได้กระบี่โหยวหรีไป.

สถานที่แห่งนั้นมีกระบี่โหยวหรีแน่นอน.

อย่างไรก็ตามจงซานก็ไม่มีแผนการที่จะไปนำมันมาตอนนี้แน่,ไป๋เย่ที่มีความสามารถระดับสูงยังใช้เวลาไป 2-3 วันเพื่อนำมันออกมา,ตัวเขาตอนนี้ไม่ต้องบอกเลยว่ามันยังไม่พอ,การจะไปนำมันมาก็ต้องรอให้เขามีพลังเพียงพอซะก่อน.

กองทัพที่อยู่ไกลออกมานับหมื่นลี้ยังสามารถมองเห็นเปลวเพลิงขนาดใหญ่โต,ทำให้พวกเขารู้สึกสั่นสะท้านอีกครั้ง! หลายวันมานี้เกิดเรื่องที่พวกเขาไม่คาดคิดเกิดขึ้นมากมายหลายครั้ง.

"จอมพล,ตอนนี้พวกเราจะทำอะไรต่อไปดี?"สุ่ยอู๋เหินที่ก้าวออกมาสอบถาม.

"เมืองต้าเย่นั้นถูกทำลายแล้ว,พวกเราคงจะต้องยึดครองเมืองไป๋หวงแทน,ซึ่งตอนนี้ข้าได้เตรียมการเอาไว้แล้ว!"จงซานที่สูดหายใจลึก.

"ครับ!"สุ่ยอู๋เหินที่รับคำ.

เตรียมการแล้ว? สุ่ยอู๋เหินไม่ค่อยเข้าใจ,คนอื่นๆเองก็เหมือนกัน,พวกเขายังไม่เคยไปเมืองจักรพรรดิไป๋เลย.

จงซานกล่าวว่าได้เตรียมการไว้แล้ว,แน่นอนว่ามีการเตรียมการไว้แล้ว,มันเกิดขึ้นเมื่อไหร่กัน,หลายวันมานี้,อสุรกายปิศาจสังหารคนทั้งเมืองต้าเย่,จงซานก็วางแผนไปเมืองอื่นแล้วอย่างงั้นรึ?

เมืองต้าเย่นั้นกลายเป็นเมืองเปล่า,จึงไม่คิดที่จะใช้เป็นฐานรึ? กับเรื่องที่เกิดขึ้น,คงจะไม่มีใครกล้าที่จะมาตั้งถิ่นฐานแน่นอน,โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับฐานทหาร,ที่ใช้ในการก่อสงคราม,พื้นที่ดังกล่าวจำเป็นต้องมีคนอยู่อาศัยมาก,ซึ่งระหว่างสงครามเพื่อทดแทนทหารที่ตายไป,จำต้องรับสมัครทหารเข้ามาเสริมทัพด้วย,หากไม่แล้วก็ทำได้แค่รอเพียงให้ฝ่ายตรงข้ามมาตีแตกเท่านั้น.

เมืองไป๋หวงนั้นแม้ว่าจะเล็กกว่า,แต่ก็ยังนับว่ามีประชากรไม่น้อย.

พวกเขาใช้เวลาสิบวัน,เดินทางไปยังเมืองไป๋หวงที่อยู่ไม่ไกลออกไป.

ในเวลานี้เป็นเวลาตอนกลางคืน,เมฆคลึ้มที่ปกปิดดวงจันทร์

จงซานที่ยืนอยู่บนยอดเขาแห่งหนึ่ง,ก่อนที่จะสั่งหลิวอู๋ซ่าง,สุ่ยอุ๋เหินและเจ้าฉวน,"พวกเจ้ามุ่งลงไปด้านล่าง,มุ่งตรงไปยังประตูเมืองทิศใต้,เวลานั้นประตูเมืองทิศใต้จะเปิดออกมาเอง,ให้เข้าไปในเมือง! อย่างรวดเร็ว,ยึดเมืองไป๋หวงให้ได้ในทันที.

"ครับ!"คนทั้งสามที่แสดงท่าทางสงสัย.

ประตูทิศใต้จะเปิดออกมาเองรึ? เป็นไปได้อย่างไร,จอมพลได้ทำการซื้อเจ้าเมืองไป๋หวงแล้วรึ?

หากว่าประตูเมืองทิศใต้เปิดออกได้จริง,ไม่ต้องบอกเลยว่า,การรบครั้งนี้จะต้องชนะอย่างแน่นอน.

พื้นที่รอบๆที่ยังคงมืดมิด,จงซานที่โบกมือสั่งการ,กองกำลังของเขาที่มุ่งตรงเข้าไปในเมืองไป๋หวงอย่างรวดเร็ว.

"สังหาร!"

บนป้อมปราการ,ทหารสังเกตการณ์ที่ตะโกนออกมาในทันที.

เสียงคำรามที่ดังลั่น,ดังสนั่นเสียงของยามสังเกตการณ์จ้องมองออกไปนอกเมือง,ในเวลานี้ถึงกับทำให้พวกเขาตัวแข็งทื่อ.

"ศัตรูบุก!!!!"

"ตรึม,ตรึม,ตรึม!"

เสียงกลองรบที่ดังสนั่น,แจ้งการบุกของศัตรูดังกระจายไปทั่วทิศทาง.

"ป้องกัน,เตรียมทัพ,มือธนูเตรียมพร้อม!"ขุนพลป้องกันที่ตะโกนเสียงดัง.

"เร็วเข้า,รีบไปแจ้งเจ้าเมือง!"ขุนพลอีกคนที่ตะโกนออกไปด้วยท่าทางร้อนรน,เพราะว่าสายตาของเขาในเวลานี้รู้สึกกังวลใจเป็นอย่างมาก,ไม่ใช่ว่าทัพหนึ่งล้านคนหรอกรึ?

"ครับ!"ทหารคนหนึ่งที่เร่งรีบบินออกไปในทันที.

"ยิง!"

เหล่าขุนพลทั้งสองฝ่ายต่างสั่งการ.

"ยิง,ยิง,ฟิ้ว!"

เหล่าศรปราณมากมายที่พุ่งออกไป,ท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยศรปราณทะลวง.

"อ๊ากกก!"

"อ๊ากกก!"

นี่คือสงคราม,การต่อสู้เพื่อเอาชีวิตรอด,กองกำลังของจงซานเองก็ไม่กล้าประมาทแม้แต่น้อย,แม้ว่าศรปราณทะลวงมากมายจะพุ่งตรงมา,ถึงแม้ว่าจะต้องวิ่งผ่าดงลูกศร,ก็ช่วยไม่ได้,ต้องไม่ลืมว่าพวกเขาจะต้องทำเวลาอย่างรวดเร็ว,นี่คือการต่อสู่ที่แข่งกับเวลา.

ท้ายที่สุด,หลิวอู๋ซ่างที่นำกองกำลังหมาป่า,พุ่งเข้าไปถึงประตูเมืองคนแรก.

เกิดเรื่องที่แปลกประหลาดเกิดขึ้น,ประตูเมืองที่เปิดอออกต่อหน้าต่อตาทุกคน.

"ฆ่า!!!"

หลิวอู๋ซ่างที่ตะโกนออกมาเสียงดังด้วยความตื่นเต้น.

เมื่อประตูเมืองไป๋หวงเปิดแล้ว,กองกำลังหมาป่ามากมายที่พุ่งเข้าไป,ยากที่จะมีใครสามารถต้านได้.

"ประตูเมืองแตกแล้ว? ประตูเมืองเปิดแล้วรึ? ใครกันใครเป็นคนบอกให้เปิดประตูเมือง?"ขุนพลผู้คุ้มกันป้อมปราการแทบบ้าคลั่ง,บัดซบ,นี่มันเกิดอะไรขึ้น?

นี่เกิดขึ้นเมื่อไหร่กัน?

พวกเขาถูกซุ่มโจมตีก่อนแล้วรึ?,ภายในเมืองเองก็มีมือธนูไม่มากนัก.

ไม่ได้การแล้วประตูเมืองเปิดออกมาเช่นนี้,การจะทำลายป้อมปราการยังจะเป็นเรื่องยากอีกรึ?

เจ้าฉวนออกคำสั่ง,ให้กองกำลังต่างๆแยกไปยังประตูทิศต่างๆอย่างรวดเร็ว,ซึ่งทางทิศใต้ตอนนี้,กองกำลังของจงซานกำลังหลั่งไหลเข้ามาไม่หยุด.

ทันทีทีทัพจงซานเข้าเมืองได้,ก็เกิดการต่อสู้กันทั้งคืน.

ก่อนรุ่งสาง,ก่อนที่แสงตะวันจะฉานแสง,การต่อสู้ในเมืองไป๋หวงก็จบลง,เสียงต่อสู้ที่หนักหน่วงรุนแรง,ตอนนี้กลับสู่ภาวะปกติแล้ว.

มีประชาชนที่ลอบออกมาตรวจสอบ,พื้นที่ทุกแห่ง,เต็มไปด้วยซากศพมากมาย,โลหิตที่สาดกระจายไปทุกทิศทาง,นับว่าการต่อสู้เมื่อคืนนี้เป็นการต่อสู้ที่หนักหน่วงมาก.

เมืองจักรพรรดิไป๋,ตำหนักเจ้าเมือง! หลังจากสำเร็จโทษเจ้าเมืองไปเรียบร้อยแล้ว.

จงซานที่อยู่ในห้องโถง,ที่ด้านข้างนั้นมีชายในชุดดำ,ที่ไม่สามารถมองเห็นใบหน้าท่าทางได้ชัด.

"อันหวง,เจ้ามีทักษะปกปิดร่างกายที่นับวันยิ่งร้ายกาจขึ้นทุกครั้ง,ก่อนหน้านี้สามารถปกปิดความจริงจากอาต้าได้,ข้ารุ้ว่าการยึดครองเมืองไป๋หวงในครั้งนี้ได้,ต้องยกความดีความชอบให้เจ้าเลย!"จงซานที่กล่าวออกมากล่าวต่อคนที่อยู่ด้านหลัง.

"จูเหรินยกย่องเกินไปแล้ว,ผู้น้อยไม่ได้มีความแข็งแกร่งพอจะจัดการกับขุนพลได้ด้วยซ้ำ,เพียงแค่จัดการเหล่าทหารทั่วไปได้,ที่สำเร็จได้นั้น,เป็นเพราะทัพของราชวงศ์สวรรค์ต้าโหลวต่างหาก,ผู้น้อยย่อมไม่กล้ารับความดีความชอบครั้งนี้!"อันห่วงที่กล่าวรับในทันที.

"เฮ้เฮ้,ทัพของราชวงศ์สวรรค์ต้าโหลวรึ? ไม่,การรบในครั้งนี้ทุกอย่างล้วนทำเพื่อราชวงศ์กษัตริย์ต้าเจิ้งทั้งนั้น,ทั้งเมือง 12 หลิงไห่,หรือว่าเมืองไป๋หวงแห่งนี้,ตอนนี้เจ้าอาจจะยังไม่เข้าใจ,เมื่อถึงเวลาเจ้าจะเข้าใจเอง!"จงซานที่ส่ายหน้าไปมาด้วยรอยยิ้ม.

"ครับ!"อันหวงที่กล่าวพลางถอนหายใจเบาๆ.

"เจ้าต้องการไปแล้วรึ?"จงซานสอบถาม.

"ครับ,ก่อนหน้านี้ที่ข้าลอบเข้ามาเพราะได้รับวิชาซ่อนตัวจากชายชราคนหนึ่ง,หลังจากที่เขาตายแล้ว,เขาได้ไหว้วานให้ข้าไปยังสถานที่แห่งหนึ่ง."อันหวงที่พยักหน้าและกล่าวออกมา.

"หืม?"จงซานที่แสดงท่าทางประหลาดใจ.

"ชายชราได้ขอให้ข้าไม่บอกกล่าวต่อผู้ใด,ทว่า,หากจู่เหริน..."อันหวงที่กล่าวยังไม่จบ.

"เจ้าไม่จำเป็นต้องบอกข้าก็ได้!"จงซานที่กล่าวขัดเขาในทันที.

"จู่เหริน?"อันหวงที่ขมวดคิ้วไปมาเล็กน้อย.

"ไม่ว่าเจ้าจะได้ประสบกับโชควาสนาใดมา,หรือมีความลับใดก็ไม่สำคัญ,ข้ารู้เพียงแค่ว่าเจ้าคืออันหวง,เป็นหัวหน้าองค์รักษ์เงาของราชวงศ์กษัตริย์ต้าเจิ้ง,เพียงแค่นี้ก็พอแล้ว!"จงซานที่กล่าวอย่างหนักแน่น.

"ขอบคุณจู่เหริน!"อันหวงที่ซาบซึ้งกล่าวออกมาในทันที.

"อืม,ไปได้แล้ว!"จงซานที่กล่าวออกมาด้วยรอยยิ้ม.

"ครับ!"อันหวงที่ตอบรับ,จากนั้นร่างกายของเขาก็สลาย,หายไปในทันที,ไม่มีใครรับรู้ร่องรอยของเขาได้.

อันหวงที่จากไปแล้ว!จงซานเองก็จำเป็นต้องจัดการงานอีกหลายเรื่อง.

ทว่าในเวลาเดียวกันนี้,ที่ยอดเขาแห่งหนึ่งนอกเมืองไป๋หวง,เสี่ยวหยวนเฟิงที่ยืนอยู่จ้องมองจากพื้นที่ไกลออกไป,ที่ด้านหน้านั้นมีขุนพลคนหนึ่งที่คุกเข่าอยู่,ซึ่งเขาคือขุนพลกคนหนึ่งที่หนีออกมาจากเมืองไป๋หวงได้.

"ดีจงซาน,เจ้าทำได้ดีมาก!"เสี่ยวหยวนเฟิงที่กล่าวออกมาด้วยท่าทางขุ่นข้องใจ.

"จอมพล,พวกเรามาช้าหนึ่งก้าว,ดูเหมือนว่าพวกเขาจะมาถึงเมื่อคืนแล้ว!"ขุนพลของเสี่ยวหยวนเฟิงที่กล่าวออกมาด้วยท่าทางเสียดาย.

"เมืองไป๋หวงมีแต่พวกขยะรึไง,มาถึงตอนค่ำ,เพียงแค่คืนเดียวก็ยึดได้อย่างงั้นรึ? จะให้หมายความว่าอย่างไร? ขยะ,พวกใช้การไม่ได้!"ขุนพลอีกคนที่กล่าวออกมาด้วยความโกรธ.

"ไม่ใช่เพราะว่าเมืองไป๋หวงใช้การไม่ได้,แต่เป็นจงซานที่ร้ายกาจเกินไป,ฟูอี้คำนวณไว้แล้วว่าเขาจะยึดเมืองไป๋หวง,จึงได้สั่งการให้ข้ามาช่วย,ทว่ามันเร็วเกินไป,เพียงแค่คืนเดียวจงซานก็ยึดเมืองได้แล้ว,มันเร็วเกินกว่าที่พวกเราคาดการณ์!"เสี่ยวหยวนเฟิงที่สูดหายใจลึก.

ขุนพลคนหนึ่งที่นั่งคุกเข่าด้วยท่าทางหดหู่,"จอมพล,ในเวลานั้นประตูเมืองทิศใต้ไม่รู้ทำไมถึงได้เปิดขึ้นในทันที,ซึ่งนั่นเป็นเหตุที่ทำให้พวกเราพ่ายแพ้."

"ทำไมไม่รู้อย่างงั้นรึ? นั่นเพราะจงซานส่งสายลับเข้าไปในเมืองก่อนแล้ว,เขาสังหารผู้คุ้มกันประตูเมืองแล้วก็เปิดประตูนะสิ,คนเข้าและออกนั้นมีความสำคัญมาก,คาดไม่ถึงเลยว่าพวกเจ้าจะไม่รู้จักระมัดระวัง,แล้วปล่อยให้สายลับลอบเข้ามาอย่างงั้นรึ?"เสี่ยวหยวนเฟิงที่ชำเลืองมองออกไป.

"บนกำแพงเมืองเอง,ก็มีเหล่ามือธนูมากมาย,มันจะเป็นไปได้อย่างไร!"ขุนพลคนหนึ่งที่พ่ายแพ้กลับมากล่าว.

"พอแล้ว,เจ้าได้พ่ายแพ้ไปแล้ว,ไม่ต้องหาเหตุผล,หาสาเหตุมาชดเชย,พวกเจ้ามันไร้ความสามารถเอง!"เสี่ยวหยวนเฟิงที่กล่าวออกมาด้วยความโกรธ.

ขุนพลทหารที่นั่งคุกเข่าตอนนี้ได้แต่เงียบปาก,ไม่กล้าที่จะกล่าวอะไรออกมาได้.

"จอมพล,ตอนนี้พวกเราจะทำอย่างไรดี? กลับไปรายงานอุปราชก่อนหรือไม่?"ขุนพลของเสี่ยวหยวนเฟิงกล่าวถาม.

"ถอนทัพ,กลับไปรายงานก่อน!"เสี่ยวหยวนเฟิงที่สูดหายใจลึก.

"ครับ!"ขุนพลที่ตอบรับในทันที.

..............

สองปีหลังจากนั้น!

เมืองจักรพรรดิไป๋,ตำหนักเจ้าเมือง!

จงซานที่นั่งอยู่บนโต๊ะบัญชาการ,ซึ่งมีขุนพลตั้งแถวสองแถว,ยืนอยู่ด้วยความเคารพ.

จงซานที่กำลังอ่านจดหมายฉบับหนึ่งบนโต๊ะ,เหล่าขุนพลตอนนี้กำลังรอคอยอย่างอดทน.

"อู๋เหิน,กองกำลังของเจ้ามีจำนวนเท่าไหร่?"จงซานสอบถาม.

"หกแสนครับ!"สุ่ยอู๋เหินที่กล่าวออกมาตรงๆ.

"หืม,ดูเหมือนว่าจะน้อยกว่าเดิม 5หมื่นอย่างงั้นรึ?การรับทหารของเจ้าตอนแรก,กับตอนนี้เริ่มน้อยลงเรื่อยสินะ?"จงซานที่กล่าวออกมาด้วยรอยยิ้ม.

"เรียนจอมพล,ตอนนี้ข้าเข้าใจแล้ว,ทหารนั้นไม่จำเป็นต้องมีจำนวนมากเสมอไป,ทหารทั้งหกแสนคนนี้ล้วนแล้วแต่เป็นสุดยอดฝีมือ,เทียบได้กับกองกำลัง 1 ล้านคนเมื่อก่อนได้เลย."สุ่ยอู๋เหินที่กล่าวออกมาอย่างมั่นใจ.

จงซานที่จ้องมองไปยังสุ่ยอูเหินด้วยความพึงพอใจ.

"เจ้าฉวน,ตอนนี้สงครามกับต้ากวงเป็นอย่างไรบ้าง?"จงซานที่จ้องมองไปยังเจ้าฉวน.

เห็นจงซานสอบถาม,เจ้าฉวนที่รู้สึกตื่นเต้นเล็กน้อย,เพราะว่าเจ้าฉวนนั้นรับรู้ว่ากองกำลังต้าเสวียนอ๋องของพวกเขาไม่เคยถูกมองข้าม,และยังถูกดูแลอย่างดี.


"เรียนจอมพล,เขตแดนต้ากวง,ทัพต่างๆรวมทั้งพวกเรามีอยู่ด้วยกันหกทัพ,ทว่าที่ดูโดดเด่น,และยังคงรักษาฐานที่มั่นไว้ได้,มีเพียงแค่สี่ทัพ!"เจ้าฉวนกล่าวรายงาน.




ที่มาจากhttps://lnmtl.com/novel/immortality

#นิยาย เรื่องอมตะ #Immortality#นิยายแปลไทย
Author(s)


สนใจสนับสนุนพวกเรา,เข้าร่วมกลุ่ม VIP ====> Click

***เว็ปฟรีอัพ สองวันหนึ่งตอน
***กลุ่มลับ อัพ 2-3 ตอนต่อวัน.

 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น