วันพุธที่ 5 มิถุนายน พ.ศ. 2562

Immortality Chapter 311 Sycophancy and monster bone

Immortality Chapter 311 Sycophancy and monster bone

นิยาย เรื่อง อมตะ ตอนที่ 311   ความงามที่กัดกินกระดูก.


Chapter 311 Sycophancy and monster bone
媚骨、妖骨
  ความงามที่กัดกินกระดูก.

กองกำลังทั้งสองที่ประจันหน้ากัน!

กองกำลังเสี่ยวหยวนเฟิงและเสี่ยวหยวนเติ้ง 1.1 ล้านคน,ส่วนกองกำลังจงซานมีไม่ถึง 600,000 คนแล้ว.

กองกำลังของจงซานตอนนี้มีน้อยกว่า,ทว่าจงซานนั้นมีกองกำลังหมาป่า 50,000 ,ดังนั้นอาจจะกล่าวได้ว่า,ทัพของจงซานนั้นแข็งแกร่งกว่า.


ส่วนจงซานในเวลานี้ไม่ยินดีที่จะเข้าปะทะแต่อย่างใด,มีความไปได้ที่พวกเขาจะเสียหายถึง 50 % ,การที่กองกำลังหมาป่าเสียหายไปถึงครึ่งนั้นนับว่าเสียหายมาก,ส่วนในความเห็นของเสี่ยวหยวนเฟิงที่มีต่อกองกำลังหมาป่าเอง,พวกเขาจะต้องเสียหายอย่างหนักเช่นกัน.

จงซานที่เพิ่งมาถึง,ตอนนี้ไม่ต้องการเดิมพันอย่างแน่นอน,หากเขาสูญเสียตั้งแต่แรก,เป็นไปได้ว่าอาจจะต้องใช้เวลาระยะหนึ่งถึงจะฟื้นฟูกลับมาได้.

ทว่าตอนนี้ยังไม่สามารถถอนกำลังกลับไปได้,หากว่าฝ่ายตรงข้ามเห็นพวกเขาถอนกำลังการที่จะไล่ล่าเพื่อเอาชัยนั้นมีความเป็นไปได้สูง,เช่นนั้นจะให้พวกเขาถอนกำลังก่อนได้อย่างงั้นรึ? กับความเสียหายที่อาจจะเกิดนี้.

ในสนามรบ,การตัดสินใจที่ผิดพลาดเพียงเล็กน้อย,อาจะเป็นเหตุให้ได้รับความเสียหายทั้งหมดได้.

จื่อเห่าที่แปลงร่างเป็นหมาป่ายักษ์ในทันที,จงซานที่ก้าวขึ้นไปบนหัวของจื่อเห่า,ส่วนทัพของจงซานเวลานี้,ตราบเท่าที่จงซานออกคำสั่ง,ก็พร้อมที่จะมุ่งไปข้างหน้าอย่างแน่นอน.

กลิ่นอายแรงกดดันวิญญาณที่หนักหน่วงแผ่ออกมาเป็นระลอก.

เสี่ยวหยวนเฟิงขมวดคิ้วเล็กน้อย,เป็นกังวลอยู่เหมือนกัน,ทว่าในเวลาเดียวกัน,เสี่ยวหยวนเฟิงก็เข้าใจสถานการณ์โดยรวมได้,เขาที่ยกแขนให้สัญญาณ.

"เฮ้!!!"ทัพของพวกเขาที่ส่งเสียงดัง,เพื่อสร้างความฮึกเหิม,ตราบเท่าที่เสี่ยวหยวนเฟิงออกคำสั่ง,พวกเขาก็พร้อมต่อสู้เต็มกำลังเช่นกัน!

จงซานบนหัวของจื่อเห่าหลางเจียงที่หรี่ตาจ้องมอง,ที่มุมปากเผยยิ้มที่ดุร้ายออกมาเช่นกัน,เสี่ยวหวังนับว่าไม่ธรรมดา,บุตรบุญธรรมของเขาเองก็ไม่ได้ด้อยไปกว่าเขาเช่นกัน.

ตอนนี้กองกำลังของทั้งสอง,ที่แผ่แรงกดดันข่มกันและกัน,พร้อมที่จะเข้าห้ำหั่นกันได้ตลอดเวลา.

"เสี่ยวหยวนเฟิง!"จงซานที่เอ่ยปากออกไปก่อนในทันที,กับคำพูดของจงซาน,นับว่าข่มขวัญพวกเขาไม่น้อย.

"ชิ,จงซาน,ข้ารู้ว่าฝีปากเจ้าเป็นเยี่ยม,อุปราชสั่งการหนักแน่นไม่ให้เจรจากับเจ้า!"เสี่ยวหยวนเฟิงที่ตะโกนเสียงดัง.

"ฮ่าฮ่า,ไม่มีความกล้าพูดกับข้าอย่างงั้นรึ?"จงซานที่เอ่ยถามออกไปในทันที.

ในเวลานี้,ทัพทั้งสองที่ประจันหน้ากัน,หากว่าฝ่ายใหนกำลังใจมากกว่า,แน่นอนว่าย่อมได้เปรียบมากกว่า.

"ชิ,เตรียมคันศร!"เสี่ยวหยวนเฟิงที่ไม่ต้องการพูดอะไรมาก.

เห็นท่าทางของเสี่ยวหยวนเฟิงจะเล่นด้วยยากแล้ว,จงซานที่ขมวดคิ้วไปมา,พร้อมกับโบกมือ.

กองกำลังของเขาเองก็เตรียมการด้วยเช่นกัน,เหล่ามือธนูเองก็ง้างคันศรเตรียมยิงออกไปยังฝั่งตรงข้ามเช่นกัน.

ตราบเท่าที่แม่ทัพของทั้งสองฝ่ายสั่งการ,ลูกศรมากมายคงจะปกคลุมท้องฟ้ากลายเป็นห่าลูกศรไปในทันที.

ทว่าขณะที่ทัพทั้งสองนั้นกำลังจดจ้องมองกันและกันอยู่.

"ติ๋ง!!"

ภายในสนามรบ,ปรากฏเสียงกระดิ่งดังก้องกังวานขึ้นในทันที.

เสียงกระดิ่งที่ดังก้องกังวาน,แม้ว่าจะไม่ดังรุนแรงนัก,ทว่ากลับได้ยินไปทุกทิศทาง,เสียงที่สามารถดังกระจายไปทั่วทัพทั้ง 1.7 ล้านคนในเวลานี้,ทุกคนได้ยินเสียงที่ดังแทรกเข้าไปถึงจิตวิญญาณ.

ทันใดนั้น,ทุกคนในสนามรบที่หยุดนิ่งไปในทันที.

จงซานที่ยืนอยู่บนหัวของจื่อเห่าหลางเจียงเอง,ภายในจิตใจที่สั่นไหว,ราวกับว่าร่างกายของเขาไม่สามารถขยับได้ชั่วขณะ,จิตวิญญาณที่สั่นคลอน,สั่นสะท้านเข้าไปในดวงวิญญาณ.

เสียงที่ดังก้องในดวงจิต,ดวงวิญญาณที่สั่นสะท้าน,เสียงของกระดิ่งนั้นน่าสะพรึงกลัวมาก,ทำให้คนนับล้านหยุดนิ่งได้.

ทุกคนที่หยุดนิ่ง,รอคอยให้ดวงวิญญาณหยุดสั่น,พยายามสงบสติอารมณ์.

น่าเกรงขามเกินไปแล้ว,เสียงของกระดิ่งทรงพลังมาก.

เพราะว่าบางทีจงซานเป็นคนที่หนักแน่น,เขาที่มีเคล็ดวิชาหงหลวน,ทำให้เขาตั้งสติได้อย่างรวดเร็ว,ก่อนที่จิตวิญญาณสั่นสะท้านกลับมาเคร่งขรึมในทันที.

ทันทีที่ได้สติ,จงซานที่จ้องมองไปยังกองกำลังฝ่ายตรงข้ามที่ยืนนิ่ง,กองกำลัง 1.1 ล้านคน,ตอนนี้กำลังสั่นสะท้าน,ก่อนที่เสี่ยวหยวนเฟิงและเสี่ยวหยวนเติ้งจะกลับมาเคร่งขรึมด้วยเช่นกัน,เขาที่จ้องมองไปยังทุกทิศทาง.

ส่วนฝั่งทัพขอองจงซาน,ทุกคนต่างก็หยุดนิ่งไปเช่นกัน,จิตวิญญาณที่หลุดลอย,สั่นสะท้านไปถึงวิญญาณ.

มีเพียงอาต้า,จื่อเห่าที่กลับมาเคร่งขรึมด้วยเช่นกัน,ส่วนเนียนโหยวโหยวนั้นไม่ได้รับผลกระทบ,กับเสียงกระดิ่งดังกล่าวแม่แต่น้อย.

เนียนโหยวโหยวที่มองขึ้นไป,จงซานเองก็มองตามนางไปยังยอดเขาที่มีหมอกปกคลุมแห่งหนึ่ง,อยู่ระหว่างกองกำลังทั้งสอง
บนยอดเขาที่สูงขึ้นไปนั้นมีหมอกที่กระจายออกไปรอบๆ,ปรากฏหญิงสาวในชุดสีม่วงที่ยืนนิ่งอยู่.

หญิงสาวคนดังกล่าวมีรูปร่างที่สมบูรณ์เป็นอย่างมาก,แม้จะอยู่ไกลออกไป,ยังสัมผัสได้ถึงความงามของนางได้,เป็นความงามที่เหนือล้ำทรงพลัง,ทำให้คนมองเห็นนางร้อนรุ่มขึ้นมาได้,เพียงแค่เห็นรูปร่างของนาง,แม้ว่าจะมองไม่เห็นใบหน้าก็ตาม,หญิงสาวที่บิดบังใบหน้าด้วยผ้าไหม,มองเห็นเพียงสายตา,ดวงตาที่เจิดจรัสลึกล้ำ.

ความงามที่กัดกินไปถึงกระดูก.

เนี่ยนโหยวโหยวเองก็นับว่ามีความงามที่เป็นหนึ่ง,ทว่าเทียบกับหญิงสาวผู้นี้,กับดูด้อยกว่า,ทั้งท่วงท่าและท่าทาง,ขณะที่นางกล่าวออกมา,ราวกับจะสะกดทุกคน,ทำให้ทุกคนลุ่มหลงตรึงจิตเอาไว้,หญิงสาวในชุดคลุมสีม่วงบนยอดเขานั้น,ยังคงยืนอยู่อย่างเคร่งขรึม,คาดไม่ถึงเลยว่าจะมีคนที่เต็มไปด้วยเสน่ห์ล่องลวง,นางที่มีความงามเกินจะบรรยายได้,เป็นความงามที่กัดกินกระดูกให้ระทวย,เป็นอสูรความงามอย่างแน่แท้.

ที่เอวของสาวงามคนดังกล่าว,มีกระดิ่งสีม่วงเล็กๆอยู่.เสียงที่ถูกส่งออกมา,แม้ว่าจะไม่ดังนัก,ทว่ากลับสามารถสะกดคนนับล้านได้.

คนที่สร้างเสียงกระดิ่งที่ทรงพลังเช่นนี้ได้,หญิงสาวคนนี้จะต้องไม่ธรรมดาอย่างแน่นอน.

กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น,ในสนามรบ,กองกำลังทหารตอนนี้ค่อยๆฟื้นกับมา,สายตาของทุกคนที่หวาดผวาจ้องมองไปยังยอดเขาลูกหนึ่งที่อยู่ไกลออกไป,ทันทีที่จ้องมองออกไป,ความหวาดกลัวที่หายไป,กลายเป็นความปรารถนาที่มาแทนที่.

แม้แต่จงซานยังคาดไม่ถึง,เหล่าทหารของเขาทั้งหมดที่มีเสียงกลืนน้ำลายดังออกมาเป็นระยะ.

น่าหวั่นเกรงเกินไปแล้ว!นางเป็นใครกัน.

"อาจารย์,ท่านมาได้อย่างไร?"เนี่ยนโหยวโหยวที่เอ่ยปากออกมาในทันที.

อาจารย์?

ทุกคนที่หันหน้าไปมองเนียนโหยวโหยวพร้อมกัน,อาจารย์ของเนียนโหยวโหยวอย่างงั้นรึ?

จงซานที่ขมวดคิ้วไปมา,สามารถบอกได้เลยว่าอาจารย์ของนางนั้นแข็งแกร่งมาก,ดูเหมือนว่าเซียนหยวนผู้คุ้มกันแปดหางสวรรค์แห่งจุดจบเคยกล่าวถึง.

อาต้าและจื่อเห่าที่แสดงท่าทางหวั่นเกรงเช่นกัน,หญิงสาวชุดสีม่วงผู้นี้แข็งแกร่งขนาดนี้เลยรึ?

ส่วนฝ่ายตรงข้าม,เสี่ยวหยวนเฟิงและเสี่ยวหยวนเติ้งแสดงท่าทางประหลาดใจลังเลใจ,จ้องมองไปยังฝ่ายตรงข้าม,เนียนโหยวโหยว,และจ้องมองไปยังหญิงสาวชุดสีม่วงที่อยู่ไกลออกไป.

จ้องมองอีกฝ่าย,ตอนนี้ไม่ใช่ว่าพวกเขารู้จักกันอย่างงั้นรึ?

ในเวลานี้เขารับรู้ได้ในทันทีหากว่าพวกเขาโจมตีออกไป? ไม่ใช่แส่หาความตายหรอกรึ?,กระดิ่งที่สามารถสะกดทัพหนึ่งล้านคนได้,ทว่าก็ยังสัมผัสได้เล็กน้อย,ดูเหมือนว่าหญิงสาวชุดม่วงนั้นจะไม่ได้สนใจการรบของทั้งสองแม้แต่น้อย,ไม่ได้เข้าข้างฝ่ายตรงข้าม,ไม่เช่นนั้น,คงไม่หยุดการกระทำของทั้งสองฝ่าย,หากเป็นเช่นนั้น,ศรปราณทะลวงมากมายคงโจมตีเข้ามา,จนพวกเขาเสียหายไปแล้ว.

จะอย่างไรก็ไม่สามารถประมาทได้,เพราะหญิงสาวผู้นี้,เนียนโหยวโหยวได้เอ่ยปากเรียกนางว่าอาจารย์,และหญิงสาวชุดม่วงไม่ได้ปฏิเสธอย่างไร,แสดงว่านางเองก็รู้จักเนี่ยนโหยวโหยว.

อาจารย์? หากเนี่ยนโหยวโหยวลากนางเข้าสู่สนามรบได้!

ไม่กล้าจะคาดคิดเลย! ไม่กล้าที่จะจินตนาการได้เลย.

เสี่ยวหยวนเฟิงและเสี่ยวหยวนเติ้งที่จ้องมองหน้ากันและกัน,จากนั้น,ก็สั่งการทหารในทันที,ให้ทุกคนเร่งรีบถอยออกไปด้วยความระวัง,ตอนนี้ทัพของพวกเขาถอนกำลังกลับออกไปอย่างรวดเร็ว.

ที่ไกลออกไปนั้น,จงซานที่จ้องมองไปยังเสี่ยวหยวนเฟิงและเสี่ยวหยวนเติ้งที่ถอนกำลังกลับไป,ทว่าเขาก็ไม่เร่งรีบตามไปเช่นกัน.

เพราะว่าเส้นทางของเสี่ยวหยวนเฟิงที่นำกองกำลังทหารกลับไปนั้นย่อมมีการเตรียมการเอาไว้ก่อนแล้ว,เขาเสียเปรียบอยู่ไม่น้อย,กองกำลังดังกล่าวได้วางแผนถอยก่อนหน้านี้แล้ว.

หญิงสาวชุดม่วงที่อยู่บนยอดเขาเอง,เป็นอาจารย์ของเนี่ยนโหยวโหยว,นางจะช่วยเขาหรือไม่ยากที่จะบอกได้! ดังนั้นจงซานจึงนิ่งงัน,ไม่ไล่ตาม.

ปล่อยให้เสี่ยวหยวนเฟิงนำกองกำลังถอยออกไปอย่างรวดเร็ว.

ทัพของเสี่ยวหยวนเฟิงที่ถอนกำลังจากไปแล้ว,ส่วนเนียนโหยวโหยวที่บินตรงไปยังยอดเขา,ยืนอยู่ข้างๆกับหญิงสาวชุดม่วง.

"อาจารย์,ท่านมาได้อย่างไร?"เนียนโหยวโหยวที่กล่าวออกมาด้วยความประหลาดใจ.

"มีปัญหาอะไร?เจ้าไม่ต้อนรับข้าอย่างงั้นรึ?"หญิงสาวชุดม่วงที่กล่าวเสียงอ่อน.

ทั้งคู่ที่อยู่ไกลออกไปมา,คนอื่นๆจึงไม่ได้ยินเสียง,ทว่า,หากพวกเขาได้ยินแล้วล่ะก็,ร่างกายของพวกเขาคงระทวย,ด้วยเสียงที่โลมเลียทรงเสน่ห์กัดกินไปถึงกระดูก,เป็นอสูรความงามที่ยั่วยวน,เสียงของนางที่ดึงดูดหลอมใจบุรุษ,ตอนนี้มีเพียงแค่เนียนโหยวโหยวเท่านั้นที่ได้ยินเสียงของนาง.

"ก็ไม่,ข้าเพียงแค่แปลกใจ."เนี่ยนโหยวโหยวกล่าว.

"เจ้าที่ออกมาหาเป้าหมาย,ตอนนี้เป็นอย่างไรบ้าง?"หญิงสาวชุดม่วงที่กล่าวสอบถาม.

เนียนโหยวโหยวที่ลอบมองไปยังจงซาน,ด้วยความรู้สึกมากมาย,จากนั้นก็ส่ายหน้าไปมา,"ยังไม่พบเลย!"

นางที่เป็นเหมือนกับมารดาของนาง,กับท่าทางของเนี่ยนโหยวโหยวที่นางฝึกฝนมาหลายปี,กับท่าทางกระมิดกระเมี้ยนของเนี่ยนโหยวโหยว,หญิงสาวชุดม่วงย่อมเข้าใจได้ในทันที,นางที่จ้องมองลงไปยังจงซานที่ยืนอยู่บนหัวของจื่อเห่า.

"ระดับแกนทอง?"หญิงสาวชุดม่วงที่ขมวดคิ้วไปมา.

"อาจารย์,ข้ายังไม่ตัดสินใจ."เนี่ยนโหยวโหยวกล่าวออกมาในทันที.

"ยังไม่ตัดสินใจรึ?,หากว่าเขามีเพียงระดับแกนทองจริง,ก็ไม่จำเป็นต้องกังวลในอนาคต."หญิงสาวชุดม่วงส่ายหน้าไปมาพร้อมกับกล่าว.

"อาจารย์!"ใบหน้าของเนี่ยนโหยวโหยวที่กลายเป็นลุกลี้ลุกลน.

"เอาล่ะ,ตอนนี้เจ้าไปกับข้าก็แล้วกัน!"สาวในชุดม่วงกล่าว.

"ไปรึ?ไปที่ใหนกัน?"เนี่ยนโหยวโหยวที่แสดงท่าทางสงสัย.

"ดินแดนเทพพิสุทธิ์!"หญิงสาวชุดม่วงที่กล่าวออกมา.

"ดินแดนเทพพิสุทธ์อย่างงั้นรึ? ไปที่นั่นทำอะไร?"เนี่ยนโหยวโหยวที่สงสัย.

"ไปที่นั่นก็จะรู้เอง."สาวชุดม่วงที่กล่าวออกมา.

"อืม..!"เนียนโหยวโหยวที่พยักหน้าแต่ใจนั้นไม่อยากไป.

"อาจารย์,ข้าขอไปกล่าวลาเขาสักเล็กน้อย! เพียงไม่นานหรอก."เนียนโหยวโหยวกล่าวต่อหญิงสาว.

"อย่าได้ลืม,เจ้ากำลังฝึกวิชาใดอยู่?ไปได้แล้ว!"หญิงสาวชุดม่วงที่ไม่อนุญาต.

นางที่สูดหายใจลึก,ใบหน้าของนางที่รู้สึกไม่ดีนัก,นางรับรู้ได้ถึงความโหดร้ายของวิชาที่นางฝึก,ดังนั้นนางจึงได้พยักหน้า.

เนียนโหยวโหยวที่ไม่ได้กลับมาลา,ทว่านางก็โบกมืออาลาจงซานไกลๆ.

จากนั้น,หญิงสาวชุดม่วงก็นำนาง,หายไปจากยอดเขาในทันที.

จงซานที่จ้องมองไปยังยอดเขา,หญิงสาวทั้งสองจากไปแล้ว,ไม่ใช่เรื่องแปลกนัก,ทว่าตอนนี้เนี่ยนโหยวโหยวจากไปแล้วรึ?ไปแล้ว? ดูเหมือนว่าหญิงสาวชุดม่วงที่ตั้งใจมารับเนียนโหยวโหยวโดยเฉพาะอย่างงั้นรึ?

"เซียนเซิง,เนียนโหยวโหยวจากไปแล้ว?"อาต้าที่กล่าวออกมาในทันที.

"อืม!"จงซานพยักหน้า,แม้ว่าจะรู้ว่านางที่มาด้วยเป้าหมายบางอย่าง,ทว่าเมื่อเนียนโหยวโหยวจากไปแล้ว,ภายในใจก็อดที่จะสั่นไหวไม่ได้.

จื่อเห่าหลางจียงที่กลับรูปร่างของมนุษย์,ก่อนทีจะมายืนอยู่ข้างๆจงซาน.

"หญิงสาวผู้นั้น,แข็งแกร่งมาก!"จื่อเห่าหลางเจียงที่ถอนหายใจเบาๆ.

อาต้าพยักหน้า,เห็นได้อย่างชัดเจนว่าหญิงสาวชุดม่วง,มีพลังเหนือกว่าพวกเขาในระดับจักรพรรดิแท้ไปมาก.

"ให้ทัพทั้งหมด,กับเมืองฉลองชัยได้!"จงซานที่โบกมือ.

"โฮกกกก!"กองกำลังทั้งหมดที่ตะโกนออกมาด้วยความตื่นเต้น.







ที่มาจากhttps://lnmtl.com/novel/immortality

#นิยาย เรื่องอมตะ #Immortality#นิยายแปลไทย
Author(s)


สนใจสนับสนุนพวกเรา,เข้าร่วมกลุ่ม VIP ====> Click

***เว็ปฟรีอัพ สองวันหนึ่งตอน
***กลุ่มลับ อัพ 2-3 ตอนต่อวัน.

 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น