Immortality Chapter 311 Sycophancy and monster bone
นิยาย เรื่อง อมตะ ตอนที่ 311 ความงามที่กัดกินกระดูก.
Chapter 311 Sycophancy and monster bone
媚骨、妖骨
ความงามที่กัดกินกระดูก.
กองกำลังทั้งสองที่ประจันหน้ากัน!
กองกำลังเสี่ยวหยวนเฟิงและเสี่ยวหยวนเติ้ง 1.1
ล้านคน,ส่วนกองกำลังจงซานมีไม่ถึง 600,000 คนแล้ว.
กองกำลังของจงซานตอนนี้มีน้อยกว่า,ทว่าจงซานนั้นมีกองกำลังหมาป่า
50,000 ,ดังนั้นอาจจะกล่าวได้ว่า,ทัพของจงซานนั้นแข็งแกร่งกว่า.
ส่วนจงซานในเวลานี้ไม่ยินดีที่จะเข้าปะทะแต่อย่างใด,มีความไปได้ที่พวกเขาจะเสียหายถึง
50 %
,การที่กองกำลังหมาป่าเสียหายไปถึงครึ่งนั้นนับว่าเสียหายมาก,ส่วนในความเห็นของเสี่ยวหยวนเฟิงที่มีต่อกองกำลังหมาป่าเอง,พวกเขาจะต้องเสียหายอย่างหนักเช่นกัน.
จงซานที่เพิ่งมาถึง,ตอนนี้ไม่ต้องการเดิมพันอย่างแน่นอน,หากเขาสูญเสียตั้งแต่แรก,เป็นไปได้ว่าอาจจะต้องใช้เวลาระยะหนึ่งถึงจะฟื้นฟูกลับมาได้.
ทว่าตอนนี้ยังไม่สามารถถอนกำลังกลับไปได้,หากว่าฝ่ายตรงข้ามเห็นพวกเขาถอนกำลังการที่จะไล่ล่าเพื่อเอาชัยนั้นมีความเป็นไปได้สูง,เช่นนั้นจะให้พวกเขาถอนกำลังก่อนได้อย่างงั้นรึ?
กับความเสียหายที่อาจจะเกิดนี้.
ในสนามรบ,การตัดสินใจที่ผิดพลาดเพียงเล็กน้อย,อาจะเป็นเหตุให้ได้รับความเสียหายทั้งหมดได้.
จื่อเห่าที่แปลงร่างเป็นหมาป่ายักษ์ในทันที,จงซานที่ก้าวขึ้นไปบนหัวของจื่อเห่า,ส่วนทัพของจงซานเวลานี้,ตราบเท่าที่จงซานออกคำสั่ง,ก็พร้อมที่จะมุ่งไปข้างหน้าอย่างแน่นอน.
กลิ่นอายแรงกดดันวิญญาณที่หนักหน่วงแผ่ออกมาเป็นระลอก.
เสี่ยวหยวนเฟิงขมวดคิ้วเล็กน้อย,เป็นกังวลอยู่เหมือนกัน,ทว่าในเวลาเดียวกัน,เสี่ยวหยวนเฟิงก็เข้าใจสถานการณ์โดยรวมได้,เขาที่ยกแขนให้สัญญาณ.
"เฮ้!!!"ทัพของพวกเขาที่ส่งเสียงดัง,เพื่อสร้างความฮึกเหิม,ตราบเท่าที่เสี่ยวหยวนเฟิงออกคำสั่ง,พวกเขาก็พร้อมต่อสู้เต็มกำลังเช่นกัน!
จงซานบนหัวของจื่อเห่าหลางเจียงที่หรี่ตาจ้องมอง,ที่มุมปากเผยยิ้มที่ดุร้ายออกมาเช่นกัน,เสี่ยวหวังนับว่าไม่ธรรมดา,บุตรบุญธรรมของเขาเองก็ไม่ได้ด้อยไปกว่าเขาเช่นกัน.
ตอนนี้กองกำลังของทั้งสอง,ที่แผ่แรงกดดันข่มกันและกัน,พร้อมที่จะเข้าห้ำหั่นกันได้ตลอดเวลา.
"เสี่ยวหยวนเฟิง!"จงซานที่เอ่ยปากออกไปก่อนในทันที,กับคำพูดของจงซาน,นับว่าข่มขวัญพวกเขาไม่น้อย.
"ชิ,จงซาน,ข้ารู้ว่าฝีปากเจ้าเป็นเยี่ยม,อุปราชสั่งการหนักแน่นไม่ให้เจรจากับเจ้า!"เสี่ยวหยวนเฟิงที่ตะโกนเสียงดัง.
"ฮ่าฮ่า,ไม่มีความกล้าพูดกับข้าอย่างงั้นรึ?"จงซานที่เอ่ยถามออกไปในทันที.
ในเวลานี้,ทัพทั้งสองที่ประจันหน้ากัน,หากว่าฝ่ายใหนกำลังใจมากกว่า,แน่นอนว่าย่อมได้เปรียบมากกว่า.
"ชิ,เตรียมคันศร!"เสี่ยวหยวนเฟิงที่ไม่ต้องการพูดอะไรมาก.
เห็นท่าทางของเสี่ยวหยวนเฟิงจะเล่นด้วยยากแล้ว,จงซานที่ขมวดคิ้วไปมา,พร้อมกับโบกมือ.
กองกำลังของเขาเองก็เตรียมการด้วยเช่นกัน,เหล่ามือธนูเองก็ง้างคันศรเตรียมยิงออกไปยังฝั่งตรงข้ามเช่นกัน.
ตราบเท่าที่แม่ทัพของทั้งสองฝ่ายสั่งการ,ลูกศรมากมายคงจะปกคลุมท้องฟ้ากลายเป็นห่าลูกศรไปในทันที.
ทว่าขณะที่ทัพทั้งสองนั้นกำลังจดจ้องมองกันและกันอยู่.
"ติ๋ง!!"
ภายในสนามรบ,ปรากฏเสียงกระดิ่งดังก้องกังวานขึ้นในทันที.
เสียงกระดิ่งที่ดังก้องกังวาน,แม้ว่าจะไม่ดังรุนแรงนัก,ทว่ากลับได้ยินไปทุกทิศทาง,เสียงที่สามารถดังกระจายไปทั่วทัพทั้ง
1.7 ล้านคนในเวลานี้,ทุกคนได้ยินเสียงที่ดังแทรกเข้าไปถึงจิตวิญญาณ.
ทันใดนั้น,ทุกคนในสนามรบที่หยุดนิ่งไปในทันที.
จงซานที่ยืนอยู่บนหัวของจื่อเห่าหลางเจียงเอง,ภายในจิตใจที่สั่นไหว,ราวกับว่าร่างกายของเขาไม่สามารถขยับได้ชั่วขณะ,จิตวิญญาณที่สั่นคลอน,สั่นสะท้านเข้าไปในดวงวิญญาณ.
เสียงที่ดังก้องในดวงจิต,ดวงวิญญาณที่สั่นสะท้าน,เสียงของกระดิ่งนั้นน่าสะพรึงกลัวมาก,ทำให้คนนับล้านหยุดนิ่งได้.
ทุกคนที่หยุดนิ่ง,รอคอยให้ดวงวิญญาณหยุดสั่น,พยายามสงบสติอารมณ์.
น่าเกรงขามเกินไปแล้ว,เสียงของกระดิ่งทรงพลังมาก.
เพราะว่าบางทีจงซานเป็นคนที่หนักแน่น,เขาที่มีเคล็ดวิชาหงหลวน,ทำให้เขาตั้งสติได้อย่างรวดเร็ว,ก่อนที่จิตวิญญาณสั่นสะท้านกลับมาเคร่งขรึมในทันที.
ทันทีที่ได้สติ,จงซานที่จ้องมองไปยังกองกำลังฝ่ายตรงข้ามที่ยืนนิ่ง,กองกำลัง
1.1 ล้านคน,ตอนนี้กำลังสั่นสะท้าน,ก่อนที่เสี่ยวหยวนเฟิงและเสี่ยวหยวนเติ้งจะกลับมาเคร่งขรึมด้วยเช่นกัน,เขาที่จ้องมองไปยังทุกทิศทาง.
ส่วนฝั่งทัพขอองจงซาน,ทุกคนต่างก็หยุดนิ่งไปเช่นกัน,จิตวิญญาณที่หลุดลอย,สั่นสะท้านไปถึงวิญญาณ.
มีเพียงอาต้า,จื่อเห่าที่กลับมาเคร่งขรึมด้วยเช่นกัน,ส่วนเนียนโหยวโหยวนั้นไม่ได้รับผลกระทบ,กับเสียงกระดิ่งดังกล่าวแม่แต่น้อย.
เนียนโหยวโหยวที่มองขึ้นไป,จงซานเองก็มองตามนางไปยังยอดเขาที่มีหมอกปกคลุมแห่งหนึ่ง,อยู่ระหว่างกองกำลังทั้งสอง
บนยอดเขาที่สูงขึ้นไปนั้นมีหมอกที่กระจายออกไปรอบๆ,ปรากฏหญิงสาวในชุดสีม่วงที่ยืนนิ่งอยู่.
หญิงสาวคนดังกล่าวมีรูปร่างที่สมบูรณ์เป็นอย่างมาก,แม้จะอยู่ไกลออกไป,ยังสัมผัสได้ถึงความงามของนางได้,เป็นความงามที่เหนือล้ำทรงพลัง,ทำให้คนมองเห็นนางร้อนรุ่มขึ้นมาได้,เพียงแค่เห็นรูปร่างของนาง,แม้ว่าจะมองไม่เห็นใบหน้าก็ตาม,หญิงสาวที่บิดบังใบหน้าด้วยผ้าไหม,มองเห็นเพียงสายตา,ดวงตาที่เจิดจรัสลึกล้ำ.
ความงามที่กัดกินไปถึงกระดูก.
เนี่ยนโหยวโหยวเองก็นับว่ามีความงามที่เป็นหนึ่ง,ทว่าเทียบกับหญิงสาวผู้นี้,กับดูด้อยกว่า,ทั้งท่วงท่าและท่าทาง,ขณะที่นางกล่าวออกมา,ราวกับจะสะกดทุกคน,ทำให้ทุกคนลุ่มหลงตรึงจิตเอาไว้,หญิงสาวในชุดคลุมสีม่วงบนยอดเขานั้น,ยังคงยืนอยู่อย่างเคร่งขรึม,คาดไม่ถึงเลยว่าจะมีคนที่เต็มไปด้วยเสน่ห์ล่องลวง,นางที่มีความงามเกินจะบรรยายได้,เป็นความงามที่กัดกินกระดูกให้ระทวย,เป็นอสูรความงามอย่างแน่แท้.
ที่เอวของสาวงามคนดังกล่าว,มีกระดิ่งสีม่วงเล็กๆอยู่.เสียงที่ถูกส่งออกมา,แม้ว่าจะไม่ดังนัก,ทว่ากลับสามารถสะกดคนนับล้านได้.
คนที่สร้างเสียงกระดิ่งที่ทรงพลังเช่นนี้ได้,หญิงสาวคนนี้จะต้องไม่ธรรมดาอย่างแน่นอน.
กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น,ในสนามรบ,กองกำลังทหารตอนนี้ค่อยๆฟื้นกับมา,สายตาของทุกคนที่หวาดผวาจ้องมองไปยังยอดเขาลูกหนึ่งที่อยู่ไกลออกไป,ทันทีที่จ้องมองออกไป,ความหวาดกลัวที่หายไป,กลายเป็นความปรารถนาที่มาแทนที่.
แม้แต่จงซานยังคาดไม่ถึง,เหล่าทหารของเขาทั้งหมดที่มีเสียงกลืนน้ำลายดังออกมาเป็นระยะ.
น่าหวั่นเกรงเกินไปแล้ว!นางเป็นใครกัน.
"อาจารย์,ท่านมาได้อย่างไร?"เนี่ยนโหยวโหยวที่เอ่ยปากออกมาในทันที.
อาจารย์?
ทุกคนที่หันหน้าไปมองเนียนโหยวโหยวพร้อมกัน,อาจารย์ของเนียนโหยวโหยวอย่างงั้นรึ?
จงซานที่ขมวดคิ้วไปมา,สามารถบอกได้เลยว่าอาจารย์ของนางนั้นแข็งแกร่งมาก,ดูเหมือนว่าเซียนหยวนผู้คุ้มกันแปดหางสวรรค์แห่งจุดจบเคยกล่าวถึง.
อาต้าและจื่อเห่าที่แสดงท่าทางหวั่นเกรงเช่นกัน,หญิงสาวชุดสีม่วงผู้นี้แข็งแกร่งขนาดนี้เลยรึ?
ส่วนฝ่ายตรงข้าม,เสี่ยวหยวนเฟิงและเสี่ยวหยวนเติ้งแสดงท่าทางประหลาดใจลังเลใจ,จ้องมองไปยังฝ่ายตรงข้าม,เนียนโหยวโหยว,และจ้องมองไปยังหญิงสาวชุดสีม่วงที่อยู่ไกลออกไป.
จ้องมองอีกฝ่าย,ตอนนี้ไม่ใช่ว่าพวกเขารู้จักกันอย่างงั้นรึ?
ในเวลานี้เขารับรู้ได้ในทันทีหากว่าพวกเขาโจมตีออกไป?
ไม่ใช่แส่หาความตายหรอกรึ?,กระดิ่งที่สามารถสะกดทัพหนึ่งล้านคนได้,ทว่าก็ยังสัมผัสได้เล็กน้อย,ดูเหมือนว่าหญิงสาวชุดม่วงนั้นจะไม่ได้สนใจการรบของทั้งสองแม้แต่น้อย,ไม่ได้เข้าข้างฝ่ายตรงข้าม,ไม่เช่นนั้น,คงไม่หยุดการกระทำของทั้งสองฝ่าย,หากเป็นเช่นนั้น,ศรปราณทะลวงมากมายคงโจมตีเข้ามา,จนพวกเขาเสียหายไปแล้ว.
จะอย่างไรก็ไม่สามารถประมาทได้,เพราะหญิงสาวผู้นี้,เนียนโหยวโหยวได้เอ่ยปากเรียกนางว่าอาจารย์,และหญิงสาวชุดม่วงไม่ได้ปฏิเสธอย่างไร,แสดงว่านางเองก็รู้จักเนี่ยนโหยวโหยว.
อาจารย์?
หากเนี่ยนโหยวโหยวลากนางเข้าสู่สนามรบได้!
ไม่กล้าจะคาดคิดเลย! ไม่กล้าที่จะจินตนาการได้เลย.
เสี่ยวหยวนเฟิงและเสี่ยวหยวนเติ้งที่จ้องมองหน้ากันและกัน,จากนั้น,ก็สั่งการทหารในทันที,ให้ทุกคนเร่งรีบถอยออกไปด้วยความระวัง,ตอนนี้ทัพของพวกเขาถอนกำลังกลับออกไปอย่างรวดเร็ว.
ที่ไกลออกไปนั้น,จงซานที่จ้องมองไปยังเสี่ยวหยวนเฟิงและเสี่ยวหยวนเติ้งที่ถอนกำลังกลับไป,ทว่าเขาก็ไม่เร่งรีบตามไปเช่นกัน.
เพราะว่าเส้นทางของเสี่ยวหยวนเฟิงที่นำกองกำลังทหารกลับไปนั้นย่อมมีการเตรียมการเอาไว้ก่อนแล้ว,เขาเสียเปรียบอยู่ไม่น้อย,กองกำลังดังกล่าวได้วางแผนถอยก่อนหน้านี้แล้ว.
หญิงสาวชุดม่วงที่อยู่บนยอดเขาเอง,เป็นอาจารย์ของเนี่ยนโหยวโหยว,นางจะช่วยเขาหรือไม่ยากที่จะบอกได้! ดังนั้นจงซานจึงนิ่งงัน,ไม่ไล่ตาม.
ปล่อยให้เสี่ยวหยวนเฟิงนำกองกำลังถอยออกไปอย่างรวดเร็ว.
ทัพของเสี่ยวหยวนเฟิงที่ถอนกำลังจากไปแล้ว,ส่วนเนียนโหยวโหยวที่บินตรงไปยังยอดเขา,ยืนอยู่ข้างๆกับหญิงสาวชุดม่วง.
"อาจารย์,ท่านมาได้อย่างไร?"เนียนโหยวโหยวที่กล่าวออกมาด้วยความประหลาดใจ.
"มีปัญหาอะไร?เจ้าไม่ต้อนรับข้าอย่างงั้นรึ?"หญิงสาวชุดม่วงที่กล่าวเสียงอ่อน.
ทั้งคู่ที่อยู่ไกลออกไปมา,คนอื่นๆจึงไม่ได้ยินเสียง,ทว่า,หากพวกเขาได้ยินแล้วล่ะก็,ร่างกายของพวกเขาคงระทวย,ด้วยเสียงที่โลมเลียทรงเสน่ห์กัดกินไปถึงกระดูก,เป็นอสูรความงามที่ยั่วยวน,เสียงของนางที่ดึงดูดหลอมใจบุรุษ,ตอนนี้มีเพียงแค่เนียนโหยวโหยวเท่านั้นที่ได้ยินเสียงของนาง.
"ก็ไม่,ข้าเพียงแค่แปลกใจ."เนี่ยนโหยวโหยวกล่าว.
"เจ้าที่ออกมาหาเป้าหมาย,ตอนนี้เป็นอย่างไรบ้าง?"หญิงสาวชุดม่วงที่กล่าวสอบถาม.
เนียนโหยวโหยวที่ลอบมองไปยังจงซาน,ด้วยความรู้สึกมากมาย,จากนั้นก็ส่ายหน้าไปมา,"ยังไม่พบเลย!"
นางที่เป็นเหมือนกับมารดาของนาง,กับท่าทางของเนี่ยนโหยวโหยวที่นางฝึกฝนมาหลายปี,กับท่าทางกระมิดกระเมี้ยนของเนี่ยนโหยวโหยว,หญิงสาวชุดม่วงย่อมเข้าใจได้ในทันที,นางที่จ้องมองลงไปยังจงซานที่ยืนอยู่บนหัวของจื่อเห่า.
"ระดับแกนทอง?"หญิงสาวชุดม่วงที่ขมวดคิ้วไปมา.
"อาจารย์,ข้ายังไม่ตัดสินใจ."เนี่ยนโหยวโหยวกล่าวออกมาในทันที.
"ยังไม่ตัดสินใจรึ?,หากว่าเขามีเพียงระดับแกนทองจริง,ก็ไม่จำเป็นต้องกังวลในอนาคต."หญิงสาวชุดม่วงส่ายหน้าไปมาพร้อมกับกล่าว.
"อาจารย์!"ใบหน้าของเนี่ยนโหยวโหยวที่กลายเป็นลุกลี้ลุกลน.
"เอาล่ะ,ตอนนี้เจ้าไปกับข้าก็แล้วกัน!"สาวในชุดม่วงกล่าว.
"ไปรึ?ไปที่ใหนกัน?"เนี่ยนโหยวโหยวที่แสดงท่าทางสงสัย.
"ดินแดนเทพพิสุทธิ์!"หญิงสาวชุดม่วงที่กล่าวออกมา.
"ดินแดนเทพพิสุทธ์อย่างงั้นรึ?
ไปที่นั่นทำอะไร?"เนี่ยนโหยวโหยวที่สงสัย.
"ไปที่นั่นก็จะรู้เอง."สาวชุดม่วงที่กล่าวออกมา.
"อืม..!"เนียนโหยวโหยวที่พยักหน้าแต่ใจนั้นไม่อยากไป.
"อาจารย์,ข้าขอไปกล่าวลาเขาสักเล็กน้อย! เพียงไม่นานหรอก."เนียนโหยวโหยวกล่าวต่อหญิงสาว.
"อย่าได้ลืม,เจ้ากำลังฝึกวิชาใดอยู่?ไปได้แล้ว!"หญิงสาวชุดม่วงที่ไม่อนุญาต.
นางที่สูดหายใจลึก,ใบหน้าของนางที่รู้สึกไม่ดีนัก,นางรับรู้ได้ถึงความโหดร้ายของวิชาที่นางฝึก,ดังนั้นนางจึงได้พยักหน้า.
เนียนโหยวโหยวที่ไม่ได้กลับมาลา,ทว่านางก็โบกมืออาลาจงซานไกลๆ.
จากนั้น,หญิงสาวชุดม่วงก็นำนาง,หายไปจากยอดเขาในทันที.
จงซานที่จ้องมองไปยังยอดเขา,หญิงสาวทั้งสองจากไปแล้ว,ไม่ใช่เรื่องแปลกนัก,ทว่าตอนนี้เนี่ยนโหยวโหยวจากไปแล้วรึ?ไปแล้ว?
ดูเหมือนว่าหญิงสาวชุดม่วงที่ตั้งใจมารับเนียนโหยวโหยวโดยเฉพาะอย่างงั้นรึ?
"เซียนเซิง,เนียนโหยวโหยวจากไปแล้ว?"อาต้าที่กล่าวออกมาในทันที.
"อืม!"จงซานพยักหน้า,แม้ว่าจะรู้ว่านางที่มาด้วยเป้าหมายบางอย่าง,ทว่าเมื่อเนียนโหยวโหยวจากไปแล้ว,ภายในใจก็อดที่จะสั่นไหวไม่ได้.
จื่อเห่าหลางจียงที่กลับรูปร่างของมนุษย์,ก่อนทีจะมายืนอยู่ข้างๆจงซาน.
"หญิงสาวผู้นั้น,แข็งแกร่งมาก!"จื่อเห่าหลางเจียงที่ถอนหายใจเบาๆ.
อาต้าพยักหน้า,เห็นได้อย่างชัดเจนว่าหญิงสาวชุดม่วง,มีพลังเหนือกว่าพวกเขาในระดับจักรพรรดิแท้ไปมาก.
"ให้ทัพทั้งหมด,กับเมืองฉลองชัยได้!"จงซานที่โบกมือ.
"โฮกกกก!"กองกำลังทั้งหมดที่ตะโกนออกมาด้วยความตื่นเต้น.
ที่มาจากhttps://lnmtl.com/novel/immortality
#นิยาย เรื่องอมตะ #Immortality#นิยายแปลไทย
Author(s)
สนใจสนับสนุนพวกเรา,เข้าร่วมกลุ่ม VIP ====> Click
***เว็ปฟรีอัพ สองวันหนึ่งตอน
***กลุ่มลับ อัพ 2-3 ตอนต่อวัน.
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น