วันพุธที่ 29 พฤษภาคม พ.ศ. 2562

Immortality Chapter 299 Ambition

Immortality Chapter 299 Ambition

นิยาย เรื่อง อมตะ ตอนที่ 299  ความทะเยอทะยาน.


Chapter 299 Ambition
野心
  ความทะเยอทะยาน.

"ไท่จื่อเห่าซานอย่างงั้นรึ?"อาต้าที่แสดงท่าทางสงสัย.

"ใช่แล้ว,ไท่จื่อเห่าซาน,ข้าต้องการถาม,หลังจากที่เขาตายแล้ว,ศพเอาไปฝังไว้ที่ใด?"จงซานที่ชำเลืองมองไปยังอาต้าพร้อมสอบถาม.



"ศพรึ?ไม่ได้ฝัง!"อาต้ากล่าว.

"ไม่ได้ฝัง?"จงซานที่แสดงท่าทางสงสัย.

"อืม,เมื่อถึงยามไฮ,ชีวิตของไท่จื่อเห่าซานก็หมดลง,เขาตายไป,มังกรเขาเองก็ทิ้งเขาเอาไว้,พวกเราที่ตามไป,หลังจากที่ตรวจสอบศพแล้ว,กงจูก็เป็นคนเก็บกลับไป."อาต้าที่คิดอยู่ครู่หนึ่ง.
ยามไฮ่ () คือเวลา 21.00 น. – 23.00 น.

"กงจูอยู่ที่นั้นด้วยรึ?"จงซานที่แสดงท่าทางประหลาดใจ.

"อืม,ในเวลานั้นไม่มีใครกล้าเข้ามาแย่งชิงกับกงจู,กงจูได้บอกว่าจะนำศพของเห่าซานไปศึกษาโดยระเอียดเกี่ยวกับสายโลหิตของเขา,จึงได้ผนึกลงในน้ำแข็ง,ตอนนี้เองก็น่าจะอยู่ในมือของกงจู,หรือในมือของอาวุโสเทียน."อาต้าที่คิดและกล่าวออกมา.

"กงจูให้อาวุโสเทียนศึกษาอย่างงั้นรึ?"จงซานที่ขมวดคิ้วไปมาและกล่าวถาม.

"กงจูเคยกล่าวเช่นนั้น."อาต้ากล่าว.

ได้ยินคำพูดของอาต้า,จงซานที่นั่งลงช้าๆ,ขมวดคิ้วไปมาเริ่มครุ่นคิด,ส่วนอาต้ายังคงยืนรออยู่ข้างๆด้วยความเคารพ.

หลังจากคิดไปสักพักหนึ่ง,จงซานก็กล่าวออกมาว่า,"อาต้า,ตอนนี้ข้ามีเรื่องให้เจ้าไปจัดการ!"

"เซียนเซิงเชิญกล่าว!"อาต้าที่รับปากในทันที.

"ข้าจะเขียนจดหมาย,ให้เจ้านำส่งไปให้ท่านอ๋องหนึ่งฉบับ,และส่งให้กงจูอีกหนึ่งฉบับ."จงซานที่จ้องมองไปยังอาต้า.

"เซียนเซิงจะให้ข้าเดินทางกลับไปยังนครบรรพกาลศักดิ์สิทธิ์อย่างงั้นรึ?"อาต้าที่กล่าวออกมาด้วยท่าทางประหลาดใจ.

"ใช่,เจ้าเดินทางไปยังนครบรรพกาลศักดิ์สิทธิ์โดยเร็ว,ส่งจดหมายให้กับกงจูในทันที,ข้าจะพักอยู่ที่นี่รับรองว่าไม่มีปัญหาอะไร,ก่อนที่เจ้าจะกลับมา,ข้าจะไม่เคลื่อนทัพออกจากเมืองอู๋ซวัง,ข้าจะรอเจ้าอยู่ที่นี่!"จงซานที่กล่าวออกมาอย่างจริงจัง.

อาต้าที่จ้องมองไปยังจงซาน,ครุ่นคิดพร้อมกับตอบรับคำ,"ครับ!"

วันรุ่งขึ้น,อาต้าที่จากไปอย่างรวดเร็ว!

จงซานที่ได้วางแผนโจมตีเมือง,และได้เขียนจดหมาย,ส่งตรงมายังเมืองต้าเสวียน,ซึ่งเวลานี้ได้วางอยู่บนโต๊ะของต้าเสวียนอ๋องแล้ว.

ต้าเสวียนอ๋องที่นั่งมองจดหมาย,ก่อนที่จะเปิดผนึกจดหมายลับนี้ออกมา,ซึ่งมีกุนซือ 7-8 คน,ที่กำลังพูดคุยกันไปมา.

หลังจากอ่านจดหมายต้าเสวียนอ๋องก็วางจดหมายของจงซานลงพร้อมกังส่งให้กับกุนซือคนหนึ่ง.

"เนื้อหาของจดหมายจงซาน,เจ้าลองดู,แล้วมีความเห็นอย่างไร?"ต้าเสวียนอ๋องที่กล่าวออกมาช้าๆ.

"ท่านอ๋อง,จากการเฝ้ามองการกระทำของจงซานและกลยุทธ์ทางทหารที่ยอดเยี่ยม,แม้ว่าจะอหังการไปหน่อย,ทว่าสามารถที่จะมองข้ามได้,นับว่าเป็นคนที่มีความสามารถหายาก,ท่านอ๋องจำเป็นต้องมีคนเช่นนี้ในปกครอง."กุนซือผู้หนึ่งกล่าว.

"เห็นได้ชัดเจนว่า,เขามีภูมิปัญญาที่โดดเด่น,สามารถใช้สถานการณ์ต่างๆที่เกิดขึ้น,ตัดสินใจได้อย่างเด็ดขาด,ความสามารถนี้เกินกว่าจะอธิบายได้,เคยได้ยินมาว่ากองกำลังทหารต้ายวีแปดล้านที่ล้อมกรอบกลุ่มคนที่อ่อนแอ,ไล่ล่าจับกุมตัวเขา,แต่ก็หลุดรอดไปได้,อีกทั้งเมืองอู๋ซวังที่มีการป้องกันที่แข็งแกร่งสามารถยึดกลับมาได้โดยเสียหายเพียงแค่ 20,000 คน,ความชอบนี้นับว่ามากมายนัก,จงซานผู้นี้ถือว่าร้ายกาจเกินธรรมดา,และดูเหมือนว่าจะยากที่จะควบคุมได้ง่ายๆ! คนผู้นี้ไม่ได้มีสายโลหิตของคนในราชวงศ์สวรรค์ต้าโหลว,และยังดูเหมือนว่าจะมีความทะเยอทะยานไปไกลมาก,คนที่มีความสามารถต่อต้านสวรรค์เช่นเขา,ก็ย่อมมีความทะเยอทะยานเกินกว่าจะควบคุมได้เป็นธรรมดานั่นเอง."กุนซือผู้หนึ่งกล่าว.

"ความทะเยอทะยายอย่างงั้นรึ?"ต้าเสวียนอ๋องที่ขมวดคิ้วไปมา,ที่มุมปากเผยยิ้มออกมาเล็กน้อย.

"ท่านอ๋อง,เพราะว่าความทะเยอทะยานนี้,ดังนั้นท่านอ๋องจึงจำเป็นต้องกังวลเกี่ยวกับอ๋องเจิ้งอี้,กงจูเฉียนโหยวที่สามารถควบคุมเขาได้,หากท่านอ๋องสามารถควบคุมนางได้,,หรือแม้แต่ครอบครองกงจูเฉียนโหยว! ท่านอ๋องก็ไม่จำเป็นต้องกังวลอีกต่อไปว่าจะไม่สามารถควบคุมเขาได้."กุนซืออีกคนที่ส่ายหน้าไปมากล่าวออกมาด้วยรอยยิ้ม.

"กงจูเฉียนโหยว? ก็จะสามารถควบคุมเขาได้,ทว่าเรื่องนี้,คงจะต้องให้เป็นหน้าที่หลินเอ๋อ,ข้าไม่สามารถกระทำอะไรได้เต็มที่นัก."ต้าเสวียนอ๋องที่กล่าวออกมา.

คิดถึงฉีเทียนโหวกู่หลินแล้ว,กุนซือคนดังกล่าวขมวดคิ้วไปมาเล็กน้อย.

"ท่านอ๋อง,ในความเห็นของผู้น้อย,จงซานผู้นี้,ก็เหมือนกับกระบี่ที่แหลมคม,ทว่าด้ามกระบี่กับสั้นมาก,แม้ว่ามันจะคม,แต่ก็อาจทำให้เกิดแผลกับผู้ใช้ได้,การจะใช้,จำเป็นต้องมีความสามารถพอ,ไม่เช่นนั้นอาจจะเจ็บตัวได้."ในเวลาเดียวกันกุนซืออีกคนที่กล่าวออกมา.

ในเวลาเดียวที่เขากล่าวออกมา,ทุกคนต่างก็พยักหน้าไปพร้อมๆกัน,หลายๆคนก็เงียบไปด้วยเห็นชัดเจนว่ากุนซือผู้นี้มีสถานะสูงกว่าใคร.
 
"แล้วอ๋องผู้นี้ก็เป็นผู้หนึ่งที่สามารถใช้กระบี่ที่แหลมคมนี้ได้!"ต้าเสวียนอ๋องที่กล่าวออกมาด้วยรอยยิ้ม.

ดูเหมือนว่าเขาได้เปิดเผยความเห็นต่อทุกคนว่าต้องการจงซานมาใช้งาน.

"ในเมื่อท่านอ๋องตัดสินใจเช่นนั้น,แล้วเรื่องจดหมาย,ท่านจะทำเช่นไร."กุซือคนหนึ่งที่พยักหน้าและกล่าวออกมา.

" 15 อนุสาวรีย์อมตะ? พูดจาใหญ่โตเกินไปแล้ว,ตราบเท่าที่มอบ 15 อนุสาวรีย์อมตะ,เขาสามารถที่จะยึดเมือง 12 หลิงไห่ได้ภายในหนึ่งปีอย่างงั้นรึ?"กุนซือคนหนึ่งที่ขมวดคิ้วไปมา.

"หนึ่งปีรึ? เปลี่ยนเป็นคนอื่น,การจะยึดเมืองแห่งนี้ป้อมเดียว,สิบปียังไม่สามารถรับประกันได้เลย,คาดไม่ถึงเลยว่าเขากับบอกว่าจะทำได้ภายในหนึ่งปีรึ? และยังกล่าวว่าจะยึดได้ทั้ง 12 ป้อมอย่างงั้นรึ? มันเป็นคำพูดที่เกินจริงไปแล้ว,เขาจะโจมตีอย่างไร? เพียงแค่มี 15 อนุสาวรีย์อมตะอย่างงั้นรึ?"กุนซืออีกหนึ่งคนที่ขมวดคิ้วไปมา.

"ไม่,เจ้าจำได้หรือไม่,ก่อนหน้านี้ครึ่งปี,มีใครบางคนมาเยือนเมืองอู๋ซวัง?"กุนซือผู้หนึ่งที่กล่าวออกมา.

"จักรพรรดิพิษปัจจิม? เขาจะให้จักรพรรดิพิษปัจจิมช่วยอย่างงั้นรึ?"กุนซืออีกคนที่เสนอความคิดเห็น.

"จักรพรรดิพิษกำลังหาอนุสาวรีย์อมตะ,ไม่ใช่ว่าเขาต้องการซื้อตัวจักรพรรดิพิษปัจจิมด้วยอนุสาวรีย์อมตะหรอกนะ,หรือว่าเขาต้องการใช้พิษสังหารคนทั้งเมืองหรือไม่?"กุนซืออีกคนที่แสดงท่าทางสงสัย.

"สังหารคนทั้งเมืองอย่างงั้นรึ? เขาคงไม่กล้าทำเช่นนั้นแน่,แล้วจักรพรรดิพิษปัจจิมคงไม่บ้าทำตามด้วย,นอกจากนี้มันยังก่อให้เกิดความแค้นต่อคนทั่วหล้าด้วย,การโจมตีเมืองเช่นนั้น,เป็นไปไม่ได้ที่จงซานที่จะมีเชาว์ปัญญาที่ต่ำขนาดนั้น."

"ท่านอ๋อง,ไม่ว่าจงซานจะทำเช่นไร,หากว่าสามารถยึดเมือง 12 หลิงไห่มาได้,กับเรื่องของ 15 อนุสาวรีย์อมตะ, ก็หาได้มีอะไรเลย."กุนซือที่หนึ่งที่กล่าวออกมาในทันที.

"หืม?"ต้าเสวียนอ๋องที่จ้องมองไปยังกุนซือคนแรก,แม้ว่าภายในใจนั้นจะได้ตัดสินใจไปแล้ว,ทว่าก็จำเป็นต้องฟังกุนซือที่หนึ่งกล่าวเช่นกัน.

"อย่างแรก,อนุสาวรีย์อมตะนั้นไม่ใช่ของท่านอ๋อง,ท่านอ๋องสามารถทูลขอกับฝ่าบาทเท่านั้น,ท่านอ๋องจึงไม่ได้เสียอะไร,ถัดมา,อนุสาวรีย์อมตะนั้นมีด้วยกันทั้งหมด 72 ชิ้น,ซึ่งที่เรามีอยู่ตอนนี้แทบจะบอกได้ว่าไร้ค่าด้วยซ้ำ,หากว่าท่านอ๋องนำมาใช้,นี่นับว่าทำประโยชน์ได้อย่างสูงสุด,นอกจากนี้,ฝ่าบาทเองก็แทบจะมองไม่เห็นความสำคัญของอนุสาวรีย์อมตะเลยด้วยซ้ำ,ท้ายที่สุด,หากจงซานทำสำเร็จ,สงครามภาคใต้ก็จะเปลี่ยนกระแสสงครามได้ในทันที,นี่เป็นประโยชน์ต่อท่านอ๋องเป็นอย่างมาก,ถึงแม่ว่าจะไม่สำเร็จ,ท่านอ๋องก็ได้สร้างบุญคุณต่อจงซาน,สามารถที่จะควบคุมถือจับกระบี่เล่มนี้ได้."กุนซือที่หนึ่งกล่าว.

"ดี!"ต้าเสวียนอ๋องที่เผยยิ้มออกมาด้วยความพึงพอใจ.
...............

เมืองอู๋ซวัง! คฤหาสน์เจ้าเมือง,ห้องโถงกลาง!

เหล่าขุนพลต่างก็จ้องมองไปยังจงซานด้วยความกระตือรือร้น.

"จอมพล! พวกเราได้รับราชโองการมาแปดเดือนแล้ว,ไม่ใช่ว่าพวกเราจะต้องเริ่มบุกเข้าโจมตีเมือง 12 หลิงไห่หรอกรึ?"สุ่ยอู๋เหินที่ขมวดคิ้วไปมาสอบถาม.

"เจ้าฝึกฝนฝึกทหารเป็นอย่างไรบ้าง?"จงซานที่ขมวดคิ้วจ้องมองไปยังสุ่ยอู๋เหิน.

"ด้วยการคัดเหล่าคนที่มีสามารถ,ตอนนี้มีกองกำลังที่แข็งแกร่ง 500,000 นาย,ที่มีความสามารถเฉพาะ."สุ่ยอู๋เหินกล่าว.

"500,000? เฮ้เฮ้,ทหารในป้อมปราการมีกว่า 1 ล้านคน,พวกเราจะโจมตีพวกเขาได้อย่างไร? ฝึกฝนต่อไป."จงซานที่ส่ายหน้าไปมา.

"ครับ!"สุ่ยอู๋เหินที่ทำได้แค่พยักหน้ายอมรับ.

"จอมพล,ทัพอื่นๆเองเริ่มเปิดฉากโจมตีแล้ว,ตอนนี้พวกเราไม่เคลื่อนไหวเลยรึ?"เจ้าฉวนที่ขมวดคิ้วไปมา.

"ทัพอื่นๆ? จากที่เจ้าเห็น,ทัพอื่นๆเป็นอย่างไรบ้าง?"จงซานกล่าว.

"แปดเดือนมานี้,หลังจากที่รุกเข้าราชวงศ์ต้ายวี,ฉีเทียนโหว,ยังไม่เคลื่อนไหวและได้ยึดครองเมืองที่สองได้แล้ว,ตอนนี้อยู่ในช่วงฟื้นฟูกองกำลัง."เจ้าฉวนกล่าว.

"หืม? ฉีเทียนโหยวได้ยึดครองเมืองที่สองได้แล้วรึ? นับว่าไม่ธรรมดา,แล้วฉีเทียนโหยวไม่สูญเสียเลยรึ?"จงซานสอบถาม.

"นับว่าเสียหายอย่างหนัก,อย่างน้อยต้องใช้เวลาครึ่งปี,จึงจะสามารถเริ่มบุกเมืองอื่นได้."เจ้าฉวนกล่าว.

"เสียหายอย่างหนัก?เฮ้เฮ้,เขาเล็งไปยังราชวงศ์ราชันย์ต้ากวงอย่างงั้นรึ?"จงซานสอบถาม.

"การพบกับกองกำลังต้ากวงนั้นนับว่าเป็นเรื่องที่ยากลำบากมาก."เจ้าฉวนกล่าว.

"ยากอย่างไร?"จงซนกล่าว.

"ราชวงศ์ราชันย์ต้ากวงนั้นมีอุปราชเสี่ยวหวังนำทัพ,นับว่าเป็นกองกำลังที่ร้ายกาจมาก,สุ่ยจิงที่ยึดเมืองได้สองเมือง,จินฉานที่ยึดครองเมืองเพิ่มได้อีกหนึ่งเมือง,พวกเขาสามารถยึดเมืองได้ถึงสามเมือง,ทว่าไม่นานหลังจากนั้น,สองเมืองได้ถูกเสี่ยวหวังยึดคืนกลับไป,และรุกเข้ามาในต้าโหลวอีกครั้งยึดเมืองได้เพิ่มอีกสองเมือง."เจ้าฉวนกล่าว.

"กล่าวอีกอย่างหนึ่ง,เมืองหกเมืองที่ยึดมาได้,ตอนนี้เสียกลับคืนไปถึงสี่อย่างงั้นรึ?"จงซานที่ขมวดคิ้วไปมาพลางสอบถาม.

"ครับ!"เจ้าฉวนที่ตอบรับ.

จงซานที่จ้องมองไปยังเจ้าฉวนพลางเผยยิ้มออกมาเล็กน้อย,"โปรดวางใจ,ข้าและคนอื่นๆเองก็คงไม่ต่างกัน,เมื่อบางอย่างมากถึง,พวกเราจะเริ่มโจมตีเมืองอีกครั้ง,ตอนนี้คือฝึกฝน,ให้กองกำลังของเราทีความแข็งแกร่งก่อน."

"ครับ!"ขุนพลทุกคนที่ได้เพียงพยักหน้า.

"ข้อมูลเกี่ยวกับผู้คุมป้อมปราการต่างๆของเมือง 12 หลิงไห่,เจ้าได้มารึยัง?"จงซานที่จ้องมองไปยังเจ้าฉวน.

"ที่ได้มาได้ส่งให้ท่านแล้ว,ส่วนที่เหลือข้าได้ได้สั่งการไปแล้ว,ทว่ายังไม่สามารถได้ข้อมูลมาได้,ตอนนี้ก็ยังคงเก็บข้อมูลอยู่."เจ้าฉวนที่กล่าวตอบรับ.

"อืม,ตอนนี้ต้องเก็บข้อมูล,กองทัพของพวกเราหากจะขยับ,ฝ่ายตรงข้ามจะต้องต้านทานไม่ได้!"จงซานที่กล่าวปลอบขุนพลทุกคน.

"ครับ!"เหล่าขุนพลทุกคนที่พยักหน้ารับ.

จากนั้น,เหล่าขุนพลก็ถูกแยกย้ายเพื่อฝึกฝนทหาร,ส่วนจงซานยังคงศึกษาข้อมูลที่ได้รวบรวมมา,จวบจนถึงวันนี้,จงซานได้พักหนึ่งวัน,ก่อนที่จะเรียกเนียนโหยวโหยวมาหา.

"มีปัญหาแล้วรึ? ตอนนี้ถึงได้นึกถึงข้าได้?"เนียนโหยวโหยวทีกล่าวออกมาเชิงน้อยใจ.

สายตาของนางที่ส่องประกายจ้องมองไปยังจงซาน,แสดงท่าทางเง้างอนเหมือนกับหญิงสาวทั่วไป.

จงซานที่รู้สึกปวดหัว,ก่อนที่จะกล่าวออกมาว่า"ตามข้ามาสิ,ข้าจะพาเจ้าไปยังสิ่งที่เจ้าต้องการ."

เนี่ยนโหยวโหยวที่เผยสีหน้าสงสัย,จงซานที่เรียกนางมา,ต้องการให้นางเห็นสิ่งใดอย่างงั้นรึ?

จากนั้นไม่นาน,จงซานก็นำเนียนโหยวโหยวเดินทางไปยังพื้นที่ส่วนหนึ่งของตำหนักเจ้าเมือง.

บนพื้นที่แห่งหนึ่งนั้น,ดวงตาของเนียนโหยวโหยวที่ชำเลืองจ้องมองตาค้างเลยทีเดียว.

เพราะว่าบนสวนดังกล่าวนั้น,ในเวลานี้เต็มไปด้วยดอกไม้มากมายหลายชนิด,มีสีสันแตกต่างกันดูระรานตา.


พวกมันมีชื่อธรรมดาทั่วไป,ที่เรียกว่ากุหลาบ!



ที่มาจากhttps://lnmtl.com/novel/immortality

#นิยาย เรื่องอมตะ #Immortality#นิยายแปลไทย
Author(s)


สนใจสนับสนุนพวกเรา,เข้าร่วมกลุ่ม VIP ====> Click

***เว็ปฟรีอัพ สองวันหนึ่งตอน
***กลุ่มลับ อัพ 2-3 ตอนต่อวัน.

 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น