Immortality Chapter 295 Hao Meili
นิยาย เรื่อง อมตะ ตอนที่ 295 เห่าเม่ยลี่.
Chapter 295 Hao Meili
昊美丽
เห่าเม่ยลี่.
ขณะที่ทุกคนเวลานี้กำลังลิ้มลองอาหารพื้นเมืองอยู่นั้น,ทันใดนั้นชายผู้หนึ่งก็เร่งรีบเข้ามา.
ทุกคนที่ต้องวางตะเกียบ,จ้องมองไปยังชายที่คุกเข่าลงข้างเดียวเห็นได้ชัดเจนว่าคือหน่วยลาดตระเวนที่เจ้าฉวนส่งออกไปสำรวจพื้นที่นั่นเอง.
"เรียนจอมพล!"ทหารสังเกตการณ์ได้กล่าวรายงาน.
"เจ้าพบสิ่งใด?"จงซานสอบถาม.
"ที่ทิศตะวันออกเฉียงใต้นั้น,ผู้น้อยพบกับกองกำลังราชวงศ์ราชันย์ต้ายวี,แม่ทัพอู๋อานนำกองกำลังหนึ่งแสนนายตรงไปยังชายฝั่งตะวันออก,ไม่รู้ว่ากำลังทำสิ่งใด."ทหารสังเกตการณ์ได้กล่าวรายงานด้วยความเคารพ.
"อู๋อาน?"จงซานที่ขมวดคิ้ว,แววตาที่แสดงท่าทางประหลาดใจ.
"ครับ,ในเวลานี้กองกำลังดังกล่าวกำลังเคลื่อนที่อย่างรวดเร็ว,ด้วยท่าทางกังวล."ทหารหารสังเกตการณ์กล่าว.
"หืม!"จงซานที่วางตะเกียบ,พร้อมกับยืนขึ้นทันที.
"เตรียมตัว,ออกเดินทาง!"จงซานกล่าว.
"ครับ."เจ้าฉวนที่รับคำในทันที.
จากนั้น,พวกเขาที่เร่งรีบชำระค่าอาหารและตามทหารสังเกตการณ์ไป,มุ่งหน้าไปยังทิศทางที่ทหารสังเกตการณ์บอกกล่าวอย่างรวดเร็ว.
สองวันหลังจากนั้น,ยามเย็น!
บนยอดเขาแห่งหนึ่ง,จงซานและพรรคพวกรวมสิบคน,ยืนจ้องมองไปยังพื้นที่ไกลออกไป,ยังพื้นที่แห่งหนึ่งบนภูเขาด้านหน้า!
บนภูเขานั้น,ในเวลานี้พวกเขาทุกคนกำลังสนใจอะไรบางอย่างอยู่.
กองกำลังทหารทั้ง 100,000 นาย,ทุกๆคนต่างก็มีศรปราณทะลวง,หรือดาบยักษ์อยู่ในมือ,ก่อนที่จะรอคอย,จ้องมองไปยังด้านหน้า
ซึ่งมีกรงแสงครึ่งซีกที่คลุมพื้นที่ตรงกลาง.
แสงที่อาบไปทั่วกรงนั้น,เป็นสีแดง,ดูเหมือนว่าจะเป็นค่ายกล,แสงครึ่งงวงกลมขนาดใหญ่,เป็นปราณค่ายกลที่ทรงพลังไม่น้อย,ใช้กังขังบางสิ่ง,ซึ่งด้านในนั้นมีคนอยู่นั่นเอง.
ค่ายกลแสงที่ปรากฏกลายเป็นม่านผนึก,และมีหญิงสาวน่ารักอายุ
16 หรือ 17 ปี,ที่มีเปียสองข้าง,นับว่าเป็นหญิงสาวที่ดูน่ารักไม่น้อย,ผิวพรรณที่ประณีต,ใบหน้าสดใสกระจ่างเหมือนกับวัยรุ่นทั่วไป,แก้มบุ๋ม,มีหยดน้ำที่ไหลออกมาจากผิวเป็นระยะดูเปล่งประกายมีเสน่ห์ไม่น้อย.
ทว่าสาวน้อยในเวลานี้ดูไม่พอใจนัก,ใบหน้าที่กำลังโกรธเกรี้ยว,ขบฟันออกมาเป็นระยะ,ดวงตาเบิกกว้าง,ชำเลืองมองไปด้านนอกราวจะกินเลือดกินเนื้อ.
ที่ด้านข้างสาวน้อยที่ช่วยนางพังม่านพลัง,เป็นมังกรสีทอง.
หงอนที่นูนออกมาเหมือนกับเขา,พร้อมจงอยปากที่ยืนออกมา,ร่างกายที่เต็มไปด้วยเกล็ดที่วับวาว,กงเล็กที่แหลมคม,เป็นตัวตนของเผ่ามังกรที่ทรงพลังเป็นอย่างมาก.
ร่างของมังกรที่มีขนาดใหญ่มาก,ร่างกายของมันที่ถูกอัดเอาไว้ในกรงแทบจะเต็มกลง,นี่คือตัวตนที่น่าเกรงขามที่สุดของเผ่าสัตว์อสูร,ในเวลานี้มันถูกกักขังเอาไว้พร้อมกับสาวน้อยในม่านกงแสงพลังด้วยกัน.
ในเวลานี้บนร่างกายของมังกร,มีบาดแผลหลายแห่ง,มีเลือดออกมาซิบๆ,เห็นได้อย่างชัดเจนว่าได้ผ่านการต่อสู้ที่หนักหน่วงมา.
มังกรทองที่ถูกคุมขังเอาไว้,กำลังเลื้อยไปมา,อยู่ด้านใน,ผลักดันม่านกักขัง,ทว่าดูเหมือนว่าม่านคุมขังนี้จะทรงพลังเป็นอย่างมาก,แม้ว่ามันจะบิดเบี้ยวบ้าง,แต่ก็กลับคืนรูปเดิมอย่างรวดเร็ว.
และนอกกรงม่านสีแดงนี้,มีคนหนึ่งพันคนที่คอยคุ้มกันและมีหกคนที่กุมของวิเศษเอาไว้,พร้อมกับกระตุ้นพลังปล่อยพลังเพื่อกักขังมังกรและสาวน้อยเอาไว้.
"ราชวงศ์ราชันย์ต้ายวี,ค่ายกลสงครามผนึกม่านแสง."เนียนโหยวโหยวที่ขมวดคิ้ว.
"ค่ายกลสงครามผนึกม่านแสง,มีเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่สามารถใช้ได้,,มีเพียงน่าหลานเพียวเสวี๋ยหรืออุปราชต้ายวี,คนอื่นๆไม่มีสิทธิ์ใช้,นี่อ๋องจวีลู่เป็นคนสั่งการอย่างงั้นรึ?"เจ้าฉวนที่ขมวดคิ้วกล่าวออกมาด้วยท่าทางประหลาดใจ.
จงซานชำเลืองมองจากพื้นที่ไกลออกไป,เพราะว่า,ดูราวกับว่าจงซานคุ้นหน้ากับคนที่อยู่ด้านใน.
ที่ด้านหน้าห่างออกไปอีกนิดหน่อยนั้นเป็นอนุสาวรีย์อมตะ,ซึ่งมีค่ายกลสงครามผนึกม่านแสงกั้นอยู่,ดูเหมือนว่าอนุสาวรีย์อมตะสูงร้อยเมตรแปดอัน,มันได้ตั้งตระหง่านอยู่ตรงนี้นั่นเอง.
ส่วนคนที่อยู่ด้านหน้าม่านแสงกักกันนั้น,จงซานรู้จักดี,แม่ทัพอู๋อาน.
เซียนเหยี่ยน,หนุ่มเมล็ดมาร,เขาเคยใช้เมล็ดมารฝังร่างของกงจูเฉียนโหยว,ท้ายที่สุดจงซานเป็นผู้ดึงเมล็ดมารออกไป,ก่อนที่จะปลูกมันลงไปในร่างของเสี่ยวฉิวสุ่ย.
เสียวฉิวสุ่ย,คือหลานของเสี่ยวหวัง,เมื่อครั้งเหตุการณ์ภูติหรูเหยี่ยน,ชายผู้นี้ได้ทำการฝังจงซานและกงจูเฉียนโหยวเอาไว้ใต้ดินนั่นเอง.
ในเวลานี้,เซี่ยเหยี่ยนมีเสี่ยวฉิวสุ่ยเป็นผู้ติดตามซึ่งยืนอยู่ในกลุ่มของกองทัพ.
เสี่ยวฉิวสุ่ยที่ยืนอยู่ด้านหลัง,ใบหน้าที่ดูซีดเซียว,มีปราณสีดำจางๆที่ปรากฏขึ้นที่ใบหน้าของเขาอยู่เป็นจ้ำๆ.
ส่วนเซี่ยเหยี่ยนยืนอยู่ข้างๆอู๋อาน.
"แม่ทัพอู๋อานโปรดวางใจ,เมื่อท่านได้ช่วยข้าจัดการเรื่องนี้แล้ว,ดินแดนเทพอเวจี,คนของข้าจะต้องช่วยพวกท่านอย่างแน่นอน."เซียเหยี่ยนที่กล่าวต่ออู๋อาน.
"เช่นนั้นข้าขอขอบคุณแทนเหนือหัวต่อพญามารด้วย!"แม่ทัพอู๋อานที่กล่าวออกมาด้วยรอยยิ้ม.
"อืม!"เซียเหยี่ยนพยักหน้า,จากนั้นก็จ้องมองไปยังสาวน้อยที่อยู่ในกรง.
"เห่าเม่ยลี,เจ้ารับปากข้าแล้ว,หากข้าทำสำเร็จ,อนุสาวรีย์อมตะ,ที่ข้านำมันมาจากแดนเทพอเวจีได้ล่ะก็,ทว่าเจ้า?
คิดจะผิดสัญญาอย่างงั้นรึ?ชิ,ลูกน้องของข้า,เสี่ยวฉิวสุ่ย,เขา?
เจ้าทำอะไรกับเขา?"เซียนเหยี่ยนที่คำรามออกมาด้วยความโกรธ.
อย่างไรก็ตาม,สาวน้อยด้านในที่ได้แต่กัดริมฝีปากไม่ได้กล่าวสิ่งใด,แววตาตอนนี้มืดคลึมเย็นชาและมีความเศร้าในใจ.
"พญามาร,ค่ายกลสงครามผนึกม่านแสงนั้นได้ปิดกั้นเสียงเอาไว้,ด้านในและด้านนอกจะไม่ได้ยินเสียงของกันและกัน."อู๋อานกล่าว.
"ไม่ได้ยินอย่างงั้นรึ?
อย่างไรก็อ่านริมฝีปากได้,ข้าพูดออกไป,ไม่มีทางที่นางจะไม่รู้เรื่อง."เซี่ยเหยี่ยนที่กล่าวต่ออู๋อาน.
"คงงั้น!"อู๋อานที่อยู่ด้านข้างกล่าว.
ในเวลานี้สาวน้อยที่จ้องมองด้วยความเย็นชาไปยังอู๋อาน,เขาที่นำทหาร,หลอกล่อนางและเสี่ยวจินตกหลุมพลาง,ถูกกักเอาไว้ในค่ายกลเป็นไปไม่ได้เลยที่จะหลุดออกมา.
กับการอ่านริมฝีปาก,เซี่ยเหยี่ยนและสาวน้อยที่เข้าใจ,แล้วจงซานจะไม่เข้าใจได้อย่างไร?
แม้ว่าจะอยู่ห่างออกมาก็ตาม,แม้ว่าจะไม่ได้ยินเสียง,ทว่าด้วยความสามารถของจงซานแล้วย่อมเข้าใจคำพูดของพวกเขาได้.
"เขาสมควรได้รับ,กล้ามาขวางทางข้า!"สาวน้อยเห่าเม่ยลีที่ชี้ไปยังเสี่ยวฉิวสุ่ยด้วยความไม่พอใจ.
"แต่ว่า,เจ้าทำอะไร?
ทำไมไร้ซึ่งรอยแผลใด?เป็นฝีมือของมังกรทองอย่างงั้นรึ?"เซี่ยเหยี่ยนที่จ้องมองไปยังเห่าเม่ยลี.
"เซี่ยเหยี่ยน,เจ้าควรที่จะปล่อยข้าไป,ไม่เช่นนั้นแล้ว,หากราชามังกรมาถึง,เจ้าจะไม่สามารถหนีได้!"เห่าเม่ยลี่แค่นเสียงเย็นชา.
"ปล่อยเจ้ารึ?
ตอนแรกไม่ใช่ว่าพวกเราตกลงกันก่อนแล้วรึ?
หากว่าข้านำอนุสาวรีย์แปดอันมาให้,เจ้าจะยอมเป็นคู่บำเพ็ญของข้า,มีปัญหาอะไร,เจ้าจะไม่รักษาสัญญาอย่างงั้นรึ?
แล้วยังคิดที่จะแย่งชิงอนุสาวรีย์อมตะไปจากข้าอีกรึ?"เซี่ยเหยี่ยนแค่นเสียงเย็นชา.
"เจ้ามันแก่เกินไป,ข้าอายุเพียง 17
ปี,ข้าไม่มีทางแต่งกับเจ้า!"สาวน้อยที่ส่ายหน้าไปมาในทันที.
ได้ยินคำพูดของสาวน้อย,ที่มุมปากของเขาถึงกับกระตุก,ก่อนที่จะเผยยิ้มออกมาเล็กน้อย.
"ชิ,ในเมื่อเจ้ารับปากแล้ว,จะต้องทำตาม."ใบหน้าของเซี่ยเหยี่ยนที่เคร่งขรึม.
"พญามาร,สาวน้อยคนนี้ไม่ได้มีความแข็งแกร่งอะไรนัก,มีระดับไม่ถึงขั้นเซียนเทียนด้วยซ้ำ,ทำไมถึงยังต้องพูดคุยต่อรองกับนางด้วยล่ะ?ทำไมต้องเสียเวลาด้วย!"อู๋อานที่เผยยิ้มออกมาด้านข้าง.
เซียนเหยี่ยนจ้องมองไปยังอู๋อานด้วยความเย็นชา,เห็นได้ชัดเจนว่าเขากำลังห้ามปรามว่าห้ามพูดมาก,ส่วนเห่าเม่ยลีชำเลืองมองไปยังอู๋อานด้วยความดุร้าย,ตอนนี้เห่าเม่ยลีเต็มไปด้วยความรังเกียจอู๋อานเป็นอย่างมาก.
ก่อนที่เซียเหยี่ยนจ้องมองไปยังมังกรทอง,พร้อมสูดหายใจลึก.
ขณะที่เซี่ยเหยี่ยนกำลังจะพูดอะไรบางอย่าง.
บนภูเขาที่อยู่ไกลออกไป,เจ้าฉวนและขุนพลอีกห้าคน,ตอนนี้กำลังง้างคันศรไว้,ลูกศรทั้งหกที่โค้งเป็นรูปเสี้ยวจันทร์,ขณะที่จงซานให้สัญญาณเบาๆ.
"ฟิ้ว ฟิ้ว และฟิ้ว....."
ศรปราณทะลวงทั้งหกที่พุ่งตรงไปยังตรงกลางของม่านคุมขัง.
ศรปราณทะลวงที่พุ่งออกไปเร็วมาก,ซ้ำยังเกิดขึ้นทันทีทันใด.
หกคนที่คอยควบคุมค่ายกลสงครามผนึกม่านแสง,ขณะที่พวกเขาเห็นศรปราณทะลวงพุ่งมานั้น,ศรปราณทั้งหมดก็มาถึงด้านหน้าพวกเขาแล้ว.
"ตูมมม,ตูมมมและตูมมมม....."
คนทั้งหกคนโดยสัญชาติญาณของตัวเอง,ได้เบี่ยงตัวหลบอย่างรวดเร็ว,ศรปราณทะลวงที่พุ่งตกลงพื้นเสียงดังสนั่น.
หากหลบก็จะเกิดความวุ่นวาย,หากไม่หลบก็ตาย,ปล่อยให้เกิดความวุ่นวายดีกว่า,เช่นนั้นพวกเขาจึงหลบศรปราณโดยไร้ซึ่งลังเล.
พริบตาเดียวที่พวกเขาหลบ,ค่ายกลสงครามผนึกม่านแสงก็พังทลายลงในทันที.
"โฮกกกก"
พริบตาเดียวที่ม่านกรงขังหายไป,มังกรทองที่ชูคอคำรามออกมาด้วยความโกรธ,เสียงของมันที่เต็มไปด้วยความเศร้าและความเจ็บปวดเอ่อล้นไปด้วยความอยุติธรรมไร้ที่สิ้นสุด.
เสียงของมังกรที่คำรามก้อง,เสียงของมันที่ดังสนั่นไปทั่วทั้งท้องฟ้า.
"พรึดดด"
ทันใดนั้น,ค่ายกลสงครามผนึกม่านแสงก็ถูกเปิดใช้งานอีกครั้งในทันที,ม่านแสงสีแดงที่ทำการกักขังมังกรทองและสาวน้อยอีกครั้ง.
กองกำลังที่ฝึกฝนมาอย่างดี,พวกเขาเคลื่อนที่อย่างรวดเร็วเข้ามาป้องกันค่ายกลสงครามผนึกม่านแสงกว่าหนึ่งพันคนในทันที,ส่วนคนอื่นๆในเวลานี้ได้ง้างศรปราณตรงไปยังทิศทางของจงซานในทันที.
"หืม!"เซียนเหยี่ยนที่ชำเลืองมองออกไปด้วยความโกรธ.
ส่วนอู๋อานเองก็แทบจะไม่แตกต่างกัน,เขารับรู้ดีว่ามีใครบางคนกล้าแส่หาเรื่องพวกเขา.
"ยิง!"อู๋อานคำราวออกไปด้วยความโกรธ.
"ฟิ้ว!!!!"
ศรปราณกว่า 20,000
ดอกพุ่งตรงมายังทิศทางของจงซานอย่างรวดเร็ว.
"ตูมมมม"
ศรปราณมากมายที่ทรงพลัง,กว่าสองหมื่นลูกที่เคลื่อนที่เข้ามาอย่างรวดเร็ว.
เกิดระเบิดเสียงดังสนั่น,ภูเขาที่จงซานเคยยืนอยู่ระเบิดเสียงดังสนั่น,ศรปราณทั้ง
20,000 ที่ระเบิดสว่างวาบ,แม้ว่าจะเป็นเวลากลางคืน,ถึงกับสว่างจ้าขึ้นมาในทันที.
ด้วยเนียนโหยวโหยว,อาต้าและจื่อเห่า,สุดยอดฝีมือที่ช่วยกันปกป้อง,แม้ว่าจะเกิดการระเบิดใหญ่,ทว่าศรปราณทั้งหมดก็ถูกป้องกันเอาไว้ทั้งหมด.
ทว่าในเวลาเดียวกันนั้น,ที่ไกลออกไปอู๋อานก็สามารถมองเห็นได้อย่างชัดเจน,จงซาน,สายตาของเขาที่เบิกกว้างด้วยความประหลาดใจ.
"จงซาน??"อู๋อานที่คำรามเสียงดังด้วยความโกรธ.
จงซานที่บินขึ้นมา,พร้อมกับตะโกนออกไปว่า,"แม่ทัพอู๋อาน,เจอกันอีกแล้ว!"
จงซานที่จงใจรบกวนนั้น,เพราะว่าจงซานรับรู้ได้ในทันที,ว่าสาวน้อยในค่ายกลสงครามผนึกม่านแสงนั้นเป็นใคร,นางเป็นศิษย์ที่จักรพรรดิพิษปัจจิมต้องการจะรับไม่ใช่รึ?ส่วนมังกรทองที่อยู่ข้างๆ,แปดปีที่แล้วไม่ใช่มังกรที่สาวน้อยผู้นี้ยืนอยู่หรอกรึ?
ในเวลานั้น,มีกองกำลังมังกรวารีกลุ่มหนึ่งคุ้มครอง,เห็นได้ชัดเจนว่ามังกรทองนั้นมีสถานะที่ไม่ธรรมดาในเผ่ามังกรอย่างแน่นอน,เซียเหยี่ยนเองอาจจะรับรู้สถานะของมังกรทองด้วยก็ได้,ดังนั้นเขาจึงต้องการให้สาวน้อยผู้นี้เป็นคู่บำเพ็ญ.
นอกจากนี้,สิ่งสำคัญที่สุด,นางมีชื่อสกุลว่า
"เห่า" เห่าอย่างงั้นรึ?
เห่า,ก็คือชื่อสกุลของราชวงศ์สวรรค์ต้าหงนั่นเอง,ทว่าตอนนี้ได้ถูกกำจัดสิ้นไปแล้ว,สายโลหิตของเห่าเทียนที่ถูกไล่ล่าสังหารกำจัดสิ้นไป,ดังนั้นจึงมีน้อยคนมากที่จะรู้ชื่อสกุลเห่า.
ราชวงศ์สวรรค์ต้าหงนั้น,มีอาณาจักรคู่บารมีคือ,มังกร,สามารถอัญเชิญเผ่ามังกรได้,และสาวน้อยที่มีสกุลเห่า,จะต้องเป็นสหายกับเผ่ามังกร,และสถานะเองก็ดูจะไม่ต่ำในเผ่ามังกรด้วย.
สถานะของสาวน้อยคนนี้,เห็นได้อย่างชัดแจ้งเลยว่า,เป็นสายโลหิตสุดท้ายของตระกูลเห่า,นอกจากนี้ฟังจากบทสนทนาระหว่างเซี่ยเหยี่ยนแล้ว,นางกำลังรวบรวมอนุสาวรีย์อมตะด้วย,จักรพรรดิพิษปัจจิมดูเหมือนว่ากำลังค้นหาอนุสาวรีย์อมตะเพื่อนางอย่างงั้นรึ?
กับข้อมูลที่เขาได้มา,ทำให้ภายในใจของจงซานสามารถมองเห็นแสง,ต้องการช่วยเหลือหญิงสาวผู้นี้อย่างไม่ต้องสงสัย,แม้ว่าพวกเขาจะมีเพียงแค่สิบคน,ทว่าสิ่งที่เขากำลังมองอยู่,ก็คือตัวตนของมังกรทองต่างหาก.
มังกรวารีที่คุ้มกันพวกนางในเวลานั้น,มังกรทองมีสถานะอะไร?
บนทะเลตะวันออกสถานที่แห่งนี้,หากว่ามังกรทองสามารถเรียกกำลังเสริมได้,จะมีอำนาจและพลังขนาดใหนกัน.
ที่มาจากhttps://lnmtl.com/novel/immortality
#นิยาย เรื่องอมตะ #Immortality#นิยายแปลไทย
Author(s)
สนใจสนับสนุนพวกเรา,เข้าร่วมกลุ่ม VIP ====> Click
***เว็ปฟรีอัพ สองวันหนึ่งตอน
***กลุ่มลับ อัพ 2-3 ตอนต่อวัน.
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น