วันศุกร์ที่ 17 พฤษภาคม พ.ศ. 2562

Immortality Chapter 283 Immortal footprint

Immortality Chapter 283 Immortal footprint

นิยาย เรื่อง อมตะ ตอนที่ 283   รอยเท้าเซียน.


Chapter 283 Immortal footprint
仙人脚印
  รอยเท้าเซียน.
เขตแดนปุถุชน.
Ø โหวเทียน
เขตแดนผู้ฝึกตนเซียน
Ø อาณาจักรเซียนเทียน
Ø อาณาจักรแกนทอง
Ø อาณาก่อตั้งวิญญาณ.
Ø อาณาจักรหลอมกายธาตุ
Ø อาณาจักรจักรพรรดิแท้
Ø อาณาจักรราชันย์แท้
Ø อาณาจักรสวรรค์แท้
เขตแดนเซียน
Ø ????
Ø ????


  หลังจากนั้นสามวัน,สำนักยวีเหิง.
 ตลอดทั้งสามวัน,จื่อซวินและจงซาน,ยังคงเฉยชาต่อกัน,หลังจากหลิวสุ่ยเฟิงและคนอื่นๆทำการคัดข้อมูล,ก็ออกจากสำนักยวีเหิงไปเพื่อตรวจสอบพื้นที่จริง.

จงซานยังไม่ได้เอ่ยปากคุยกับนางเลยแม้แต่น้อย.

บนโต๊ะจื่อซวินยังคงอ่านตำรา,ทั้งยังชำเลืองมองออกไปเป็นระยะ,โดยเฉพาะอย่างยิ่ง,เนียนโหยวโหยว,ที่กำลังอ่านข้อมูลต่างๆ,ดวงตาที่เป็นประกายเป็นพักๆ.

บันทึกตำราต่างๆ,เป็นทั้งเรื่องเล่าและเรื่องที่ปั้นน้ำเป็นตัว,ตำนานตลอดจนทั้งสถานที่ที่บอกกล่าวว่ามีสุสานของเซียนอยู่,กับสถานที่ดังกล่าวนั้นมีคฤหาสน์ของเซียนในถ้ำแห่งหนึ่ง,บางทีอาจจะเป็นข้อมูลเท็จก็ได้.

อย่างไรก็ตาม,พวกเขาก็รับรู้และตรวจสอบพื้นที่ ที่แตกต่างกันกว่า 1000 แห่ง.

กว่าหนึ่งพันแห่ง,จื่อซวินที่ได้ทำการรวบรวมข้อมูลสถานที่ต่างๆเอาไว้แล้ว,ทว่า,จงซานที่เห็นพื้นที่ต่างๆมากมายนี้ถึงกับต้องขมวดคิ้ว.

"จงซาน,เอาเป็นว่าพวกเรา ควรจะไปค้นหาพื้นที่ดังกล่าวก่อน."เนียนโหยวโหยวกล่าว.

"ไม่,ข้อมูลต่างๆ,สำนักยวีเหิงได้ทำการรวบรวมแล้ว,ส่วนสำนักอื่นๆเองก็ควรจะทำเหมือนๆกัน,มีหลากหลายสถานที่,ที่อาวุโสจื่อซวินคัดไว้,แน่นอนว่ามีคนจำนวนมากได้ค้นหาแล้ว,พวกเราไปมีแต่เสียเวลาเปล่า,ไม่ได้เกิดประโยชน์อะไรนัก."จงซานที่ขมวดคิ้วไปมาขณะกล่าว.

"เช่นนั้นไม่ไปอย่างงั้นรึ?หากอยู่ที่นี่แล้วจะทำอะไรได้? ไม่ๆ,มีคนตั้งมากมาย,จะให้ยอมแพ้ค้นหาได้อย่างไร,หากไม่รีบไม่กลายเป็นว่าคนอื่นพบเจอก่อนเหรอ."เนียนโหยวโหยวกล่าว.

"เอาล่ะ,เช่นนั้นเจ้าออกไปค้นหาก่อน,มองไปยังพื้นที่อื่นที่ยังไม่มีใครค้นหา,ข้าต้องการศึกษาตำราอีกหน่อย,ไว้ครบสามวันเจ้าค่อยกลับมา,แล้วข้าและอาต้าจะออกไปค้นหาพร้อมกับเจ้าก็แล้วกัน."จงซานพยักหน้า.

"เช่นนั้นก็ได้!"เนียนโหยวโหยวพยักหน้า.

จากนั้นเนียนโหนวโหยวก็ออกจากสำนักยวีเหิง.

หลังจากที่เนียนโหยวโหยวจากไปแล้ว,จงซานก็เริ่มค้นหาตำราต่างๆในห้องโถง,พลางครุ่นคิดประติดประต่อเรื่องราวต่างๆ.

เขาที่ค่อยๆตรวจสอบไปอย่างช้าๆ,เขาต้องใช้เวลาไปเท่าไหร่?ในเวลาเดียวกัน,ภายในใจของจงซานที่รู้สึกร้อนรุ่ม,วิเคราะห์ข้อมูลของตัวเองเป็นพิเศษ.

หากว่ามันมีเงื่อนไข,ที่ไม่สามารถค้นเจอได้ในตำราพวกนี้ล่ะ? กับสิ่งที่เห็น,บางทีปราณจิตวิญญาณเซียน,ได้ถูกพบเรียบร้อยแล้ว.

คิดได้ดังนั้นจงซานก็ไปพบกับประมุขสำนักยวีเหิงทันที,ดวงตาที่เปล่งประกาย,มีความคิดบางอย่าง.

"ประมุขหลิว,ผู้น้อยมีเรื่องไหว้วานเล็กน้อย,ต้องการให้ประมุขหลิวช่วย."จงซานเอ่ย.

"โอ้ว? เซียนเซิงเกรงใจเกินไปแล้ว,มีเรื่องอะไร,เชิญกล่าวได้เลย."หลิวสุ่ยเฟิงกล่าวออกมาในทันที.

"ข้อมูลเหล่านี้,ท่านตรวจสอบหมดแล้วรึ?"จงซานสอบถามออกไป.

"ใช่แล้ว,ข้าและศิษย์น้องอีกห้าคน,ใช้เวลาหลายวันไม่หยุดเพื่อคัดกรองให้กับอาวุโสจื่อซวิน,แน่นอนว่าข้าได้ตรวจสอบหมดแล้ว.

"งั้นช่วยตรวจสอบเรื่องสักเรื่องให้ข้าได้หรือไม่?"จงซานสอบถาม.

"หืม?"หลิวสุ่ยเฟิงที่สอบถามออกมาด้วยความสงสัย.

"ช่วยตรวจสอบเวลา,เกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงของอาคมที่ปรากฏขึ้นในแผนที่ใกล้ๆ,การเปลี่ยนแปลงของปราณวิญญาณที่เปลี่ยนไป,และเรื่องสำคัญต่างๆของสำนักที่เปลี่ยนไป,เทือกเขาที่เปลี่ยน,และการเปลี่ยนไปของอาคมที่ยังคงเหลืออยู่เมื่อ 30,000 ปี,จวบจนถึงปัจจุบัน,ขอเป็นอย่างคร่าวๆ,สรุปมาให้ข้าจะได้หรือไม่?."จงซานที่กล่าวออกมาด้วยความเคารพ.

หลิวสุ่ยเฟิงที่ขมวดคิ้วด้วยท่าทางประหลาดใจเล็กน้อย,ทว่าก็พยักหน้าให้ในทันที,"เซียนเซิงโปรดวางใจ,ข้าและศิษย์น้องได้ทำการบันทึกเรื่องราวต่างๆตลอด 30,000 ปีที่ผ่านมา,คาดว่าพรุ่งนี้น่าจะสรุปให้ท่านได้."

"ขอบคุณประมุขหลิว."จงซานกล่าว.

"เซียนเซิงอย่าได้เกรงใจ."หลิวสุ่ยเฟิงกล่าว.
.....

เช้าวันถัดมา,ภายในสำนักยวีเหิง.

ผู้ฝึกตนก่อตั้งวิญญาณหกคน,ที่ล้อมวง,พลางชี้ตำแหน่งต่างๆบนแผนที่,และมีบันทึกหมอกสีเขียว,จากนั้นก็มีภาพสามมิติแสดงให้ดูอีกด้วย.

ภูเขา,แม่น้ำและสำนัก,และยังมีเมือง,ที่ปรากฏขึ้นบนแผนที่,ปราณวิญญาณ,ที่มีสีแดง,และตำแหน่งของหมอกควันที่หนาแน่น.

อย่างช้าๆ,หลิวสุ่ยเฟิงที่ทำภาพ,ให้กลายเป็นรูปภาพ,การเปลี่ยนแปลงของภูเขา,สายน้ำ,และสำนัก,สำนักที่เปลี่ยนไป,เมืองที่เปลี่ยนไป,ตลอดจนภูมิประเทศที่เปลี่ยนไป.

หลังจากผ่านไปสองชั่วโมง,ทุกคนก็ได้พักผ่อน.

กับการสรุปย่อมออกมาภายในสองชั่วโมง,ทำให้หลิวสุยเฟิงและเหล่าศิษยน้องเหนื่อยล้าเป็นอย่างมาก.

"ทั้งหมดก็มีแค่นี้แล้ว."หลิวสุ่ยเฟิงกล่าว.

"จงซาน,ขอบคุณท่านทั้งหกที่ช่วยเหลือ"จงซานที่กล่าวออกมาด้วยความเคารพ.

"เซียนเซิงอย่าได้เกรงใจ,การได้ช่วยเหลือเซียนเซิงนับว่าเป็นเรื่องที่พวกเราเต็มใจ."หลิวสุ่ยเฟิงที่กล่าวออกมาด้วยรอยยิ้ม.

"ขอบคุณๆ,ทุกท่านควรจะไปพักผ่อนได้แล้ว,ไว้พวกท่านหายเหนื่อย,ข้าและอาต้าจะเรียกพวกท่านอีกครั้ง."จงซานกล่าว.

"อืม."ทุกคนพยักหน้า,และจากไป.

ภายในห้องโถง,ซึ่งมีเพียงแค่จงซานและอาต้า.

"อาต้า,เจ้าบันทึกเอาไว้หมดรึยัง?"จงซานสอบถาม.

"ครับ!"อาต้าที่ตอบรับในทันที.

"งั้นช่วยแสดงภาพ,ให้ข้าดูอีกครั้ง,"จงซานกล่าว.

"ครับ."อาต้าที่ตอบรับในทันที.
....

สำนักยวีเหิง,สถานที่แห่งหนึ่งบนหุบเขาเล็กๆ.

มีต้นไม้ที่ปลูกเป็นแนวสองข้างทาง,ยาวลึกเข้าไปในหุบเขาดังกล่าว.

เป็นแนวต้นไม้ที่เป็นเส้นทางเดินลึกเข้าไปนั้น,มีคนสองคนยืนอยู่.

หนึ่งคือเนียนโหยวโหยว,ส่วนอีกหนึ่งคือจื่อซวินที่ใบหน้าเย็นชา.

"เจิ้นเหริน,จื่อซวิน,เจ้ามีคำพูดใดที่จะกล่าวกับข้าอย่างงั้นรึ?"เนียนโหยวโหยวกล่าวออกมาด้วยรอยยิ้ม.

"เนียนโหยวโหยว,แม้ว่าข้าจะพบกับเจ้าเป็นครั้งแรก,ทว่า,ข้ารู้จุดมุ่งหมายของเจ้าได้."จื่อซวินที่แค่นเสียงอย่างเย็นชา.

"แล้วอย่างไร?"เนียนโหยวโหยวที่เผยยิ้มออกมา.

จื่อซวินที่ขมวดคิ้ว,กล่าวออกมาด้วยความเย็นชา."ข้าจับตาดูเจ้าอยู่,เจ้าจะทำอะไรข้าไม่สนใจ,ทว่าข้าขอเตือนเจ้าสักอย่าง,อย่าได้เลือกจงซาน!"

ได้ยินคำพูดของจื่อซวิน,ดวงตาของเนียนโหยวโหยวที่เป็นประกาย,กล่าวออกมาด้วยรอยยิ้ม,"เจ้าไม่ให้ข้าเลือกจงซาน,ที่ไม่ให้ข้าเลือก? หรือว่าเจ้ากับจงซาน....?"

เนียนโหยวโหยวที่กล่าวเป็นนัยย์

"ในแดนเทพอมตะ,เจ้าได้รับการสืบทอดอะไรข้าย่อมรู้,ข้าไร้ซึ่งกฎเกณฑ์บังคับ,ไม่เคยสนใจคำพูดใครๆ,ตอนนี้ข้าขอปฏิญาณเลยว่า,หากว่าเจ้ายังไม่หยุดล่ะก็,..เจ้าควรจะรู้ว่าข้าฝึกฝนอะไรอยู่,หากว่าจงซานตายเพราะเจ้าล่ะก็,ข้าจะให้เจ้าได้ไปนอนในสุสานแน่."จื่อซินที่กล่าวออกมาด้วยความเย็นชา.

"ไปนอนในสุสานก่อน?เจ้า?"เนียนโหยวโหยวที่ชำเลืองมองตาโต,แววตาที่แสดงท่าทางโกรธเกรี้ยว.

"ที่ต้องการพูดก็ได้กล่าวไปหมดแล้ว,ช่วยหลีกไปให้ไกลด้วย."จื่อซวินกล่าว.

จากนั้น,จื่อซวินก็บินจากไปด้วยความเร็ว,ต้นไม้ที่อยุ่รอบๆส่ายไปมาด้วยแรงลมพัด,ภาพติดตาของนางที่ปรากฏขึ้นมาหลายร่าง,ก่อนที่จะหายไปในทันที.

จ้องมองไปยังทิศทางของจื่อซวินที่จากไป,ใบหน้าของเนียนโหยวโหยวที่แสดงท่าทางลังเลใจ,ก่อนที่จะเปลี่ยนเป็นยิ้มออกมาด้วยความเหยียดหยัน,ไม่คิดที่จะสนใจคำพูดของจื่อซวินแม้แต่น้อย.

อารมณ์ของเนียนโหยวโหยวไม่ค่อยดีนัก,นางที่กลับไปยังสำนักยวีเหิง,แน่นอนว่าไม่มีใครขวางทางนาง.

เนียนโหยวโหยวที่บินเข้าไปในห้องโถงยังตำแหน่งของจงซาน,นางที่ออกไปค้นหายังพื้นที่ต่างๆ,เพื่อหาร่องรอยเซียน,ตามพื้นที่ต่างๆ,ซึ่งหลายแห่งเป็นแค่คำลวง,ที่ได้แต่งเติมเสริมแต่งมากกว่าหมื่นปีมาแล้ว,หลากหลายที่เองก็กลายเป็นว่างเปล่าไม่มีของวิเศษเหลืออยู่.

หลังจากที่นางเข้ามาใกล้ห้องโถง,ก็ได้ยินเสียงบางอย่างดังออกมาจากด้านใน.

"เซียนเซิง,ท่านบอกว่าอยู่ที่นี่รึ?"อาต้าที่กล่าวออกมาด้วยความตื่นเต้น.

"ใช่,ควรจะเป็นที่นี่,ตลอดเวลาที่ผ่านมา,พื้นที่แห่งนี้มีปราณวิญญาณเบาบาง,และมีสำนักจำนวนมากเคลื่อนไหว,แม้แต่ถูกทำลายไป,ทว่าพวกเขากับไม่ยินดีที่จะจากไป,ราวกับว่าพื้นที่รอบๆนี้มีอะไรน่าสนใจดึงดูดพวกเขาเอาไว้."จงซานกล่าว.

"ทว่า,ตลอด 30,000 ปีที่ผ่านมานี้,หลายๆสถานที่เองก็มีลักษณะที่เหมือนกันไม่ใช่รึ?."อาต้าที่กล่าวออกมาด้วยความสงสัย.

"เฮ้เฮ้,หลากหลายสถานที่,ข้าได้ตรวจสอบข้อมูลดีแล้ว,พื้นที่อื่นๆล้วนแล้วแต่มีเหตุผลรองรับ,ทว่าสถานที่แห่งนี้ไม่มีข้อมูลอะไรเลย,พื้นที่แห่งนี้มีเพียงคำพูด,อสูรที่ยิ่งใหญ่มหันต์ภัยที่มาเยือนโลก,ปิดผนึกเมืองพระบาทเอาไว้,สำนักหลากหลายมาชุมนุม,ก้าวสู่ความเจริญรุ่งเรื่อง!."จงซานเอ่ย.

"ทว่า,พื้นที่แห่งนี้ไม่เคยมีอะไรเช่นนั้นมาก่อน,แน่นอนว่าพวกเขาไม่รู้ว่ามีสมบัติ,เพราะว่าเกี่ยวข้องกับความลับสวรรค์,จึงไม่มีใครกล้าเอ่ย,มีเพียงแค่ประมุขเท่านั้นที่รับรู้และค้นหาอย่างงั้นรึ?"อาต้าที่กล่าวออกมาตามสิ่งที่เขาคิดได้.

"อืม."จงซานที่กล่าวออกมาด้วยรอยยิ้ม.

"หืม?แม่นางเนียนโหยวโหยว."อาต้าที่จ้องมองออกไป.

เนียนโหยวโหยวก้าวเข้ามา,ดวงตาที่เผยแววตาประหลาดใจ.

"เจ้าพบอะไรแล้วรึ?"เนียนโหยวโหยวที่แสดงท่าทางตื่นเต้น.

"อืม,พักหนึ่งคืน,พรุ่งนี้เช้าพวกเราจะออกเดินทาง."จงซานกล่าว.

"ทำไมต้องรอถึงพรุ่งนี้ด้วยล่ะ?พวกเราจะเดินทางทันที,"เนียนโหยวโหยวที่ตื่นเต้นเป็นอย่างมาก.

"ข้ายังไม่หยุดพักเลย,ตอนนี้กำลังเหนื่อยล้า,จำเป็นต้องพัก,โปรดวางใจ,สถานที่ดังกล่าวไม่ไช่ตำนานอะไร,ร่องรอยเซียน,ยังสถานที่ดังกล่าว,ไม่มีใครสนใจ."จงซานกล่าว.

"อืม!"เนียนโหยวโหยวที่ทำได้แค่พยักหน้ารับ.

เช้าวันถัดมา,จงซาน,อาต้าและเนียนโหยวโหยว,คนทั้งสามที่เดินทางไปยังสถานที่ดังกล่าว,ซึ่งนับว่าเป็นเทือกเขาที่มีขนาดใหญ่มาก.

ภายในหุบเขานั้นมีทะเลสาบขนาดเล็กอยู่,มีต้นไม้กระจายอยู่รอบๆไม่ได้หนาแน่,เพียงแค่กวาดตาหรือแม้แต่ใช้สัมผัสเทวะก็กวาดตามองได้รอบแล้ว,ไม่ใช่สถานที่พิเศษอย่างใด.

"ที่นี่รึ?"เนียนโหยวโหยวที่แสดงท่าทางสงสัย.

"อาต้า,จัดการภูเขา,หยุดการไหลของน้ำตก,จัดการทะเลสาบ."จงซานกล่าว.

"ครับ!"อาต้าที่รับคำในทันที.

ด้วยการใช้พลังในการกำจัดพื้นที่,สายน้ำในทะเลสาบ,ต้นไม้ภูเขา,ถูกกำจัดทิ้งไป,ตอนนี้แม้แต่ทะเลสาบก็หายไปแล้ว,เหลือเพียงแค่ตะกอน.

"กำจัดตะกอนด้วย."จงซานเอ่ย.

หลังจากที่กำจัดทุกอย่างไปหมดแล้ว,ด้วยวิชาลับของอาต้า,พื้นที่รอบด้านที่โล่งเตียน,ไม่เหลือยอดเขาใดๆรอบๆพื้นที่แห่งนี้.

เหล่าตะกอนที่หายไปหมด,และแล้วก็ปรากฏเป็นธงศิลาเก้าสีปรากฏขึ้นมา.

"แม้แต่สัมผัสเทวะของข้าก็ไม่สามารถตรวจได้เลย,เป็นเรื่องที่คาดไม่ถึงจริง,แน่นอนว่าจะต้องเป็นที่นี่,สถานที่แห่งนี้ได้ปิดกั้นบางอย่างไว้."อาต้าที่กล่าวออกมาด้วยความตื่นเต้น.

ธงศิลาเก้าสี?

จงซานที่ขมวดคิ้วไปมา,เมื่อกำจัดตะกอนไปหมด,พื้นที่รอบๆโล่งเตียน,จงซานก็สามารถเห็นธงหินปรากฏขึ้นมา.

รอยเท้าขางขวา,ธงศิลา,นี่นับว่าเป็นรอยเท้าขวาที่ใหญ่มาก,เป็นรอยเท้าของผู้หญิง,รอยเท้าเซียน!

"เซียนเซิง,เปิดเลยใหม?"อาต้าที่กล่าวออกมาด้วยความตื่นเต้นเป็นอย่างมาก.

อย่างไรก็ตาม,ในเวลานี้จงซานที่แสดงท่าทางลังเล,หรี่ตาจ้องมอง,นึกถึงเรื่องราวประวัติศาสตร์ที่ได้บันทึกเอาไว้.


อสูรที่ยิ่งใหญ่มหันต์ภัยที่มาเยือนโลก,ปิดผนึกเมืองพระบาทเอาไว้,สำนักหลากหลายมาชุมนุม,ก้าวสู่ความเจริญรุ่งเรื่อง!



ที่มาจากhttps://lnmtl.com/novel/immortality

#นิยาย เรื่องอมตะ #Immortality#นิยายแปลไทย
Author(s)


สนใจสนับสนุนพวกเรา,เข้าร่วมกลุ่ม VIP ====> Click

***เว็ปฟรีอัพ สองวันหนึ่งตอน
***กลุ่มลับ อัพ 2-3 ตอนต่อวัน.

 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น