Immortality Chapter 282 Also with Zixun
นิยาย เรื่อง อมตะ ตอนที่ 282 พบจื่อซวินอีกครั้ง.
Chapter 282 Also with Zixun
又遇紫熏
พบจื่อซวินอีกครั้ง.
คนทั้งสองที่จ้องมองหน้ากันและกัน.
"ขอบคุณสำหรับเรื่องของเสี่ยวเหยี่ยน,เรื่องที่เกิดขึ้น,ทำให้เขาเติบโตขึ้นเป็นอย่างมาก,"จื่อเห่าหลางเจียงที่เอ่ยปากออกมาในทันที.
"ไม่มีปัญหา,เป็นแค่เรื่องเล็ก,แต่ข้าคิดว่าเจ้ามีเรื่องต้องการถามข้ามากกว่านี้ใช่รึไม่?"จงซานที่กล่าวออกมาด้วยรอยยิ้ม.
"ดี,ข้าต้องการรู้ว่าทำไมจื่อจุ้นถึงได้เลือกเจ้า?"จื่อเห่าหลางเจียงที่ชำเลืองมองไปยังจงซาน.
"เจ้าสงสัยในความคิดของตี้เสวียนชาอย่างงั้นรึ?"จงซานที่เอ่ยออกมาด้วยรอยยิ้ม.
"ข้าไม่เคยสงสัยในความคิดของจื่อจุ้น,จื่อจิ้นไม่เคยทำอะไรผิด,โดยเฉพาะจื้อจุ้นในปัจจุบัน,ข้าต้องการรู้ว่าเจ้าที่มีระดับแกนเทองเท่านั้น,มีความสามารถและวาสนาใด,ถึงได้ทำให้จื่อจุ้นชื่นชอบได้."จื่อเห่าหลางเจียงเอ่ย.
"ตี้เสวียนชาและข้า
ทำพันธะสัญญากัน,ตั้งแต่ที่ข้ามีระดับเซียนเทียน."จงซานที่กล่าวออกมาด้วยรอยยิ้ม.
กับคำพูดของจงซาน,ทำให้จื่อเห่าหลางเจียงขมวดคิ้วแน่น,เห็นได้ชัดเจนว่าเขายากที่จะยอมรับข้อมูล,แม้แต่ระดับแกนทองยังยากที่จะยอมรับได้,แล้วจื่อจุ้นทำพันธะสัญญากับมนุษย์ที่มีระดับเซียนเทียนอย่างงั้นรึ?
เรื่องนี้จื่อจุ้นกำลังถูกล่อลวงหรือไม่? เป็นไปไม่ได้,จื่อจุ้นไม่มีทางถูกล่อลวงแน่.
ในเวลานั้น,ใบหน้าของจงซานที่แสดงท่าทางมั่นใจ,"เอาล่ะ,จะด้วยเหตุผลใดก็ตาม,หลังจากนี้ข้าเพียงต้องการที่จะบอกเจ้า,ข้ามองเจ้าเป็นพิเศษ."
"หืม?"จื่อเห่าหลางเจียงที่กล่าวออกมาด้วยความสงสัย.
"ข้าต้องการเจ้ามาเป็นสัตว์ขี่ของข้า,เพื่อบุกเบิกทวีปศักดิ์สิทธิ์นี้ไปพร้อมกับข้า."จงซานที่กล่าวออกมาตรงๆ.
"ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า,เจ้าต้องการให้ข้าเป็นสัตว์ขี่อย่างงั้นรึ?
ไม่เคยมีใครกล้าพูดเช่นนี้กับข้า."จื่อเห่าหลางเจียงที่แสดงท่าทางเย็นชาออกมา.
"ไม่เพียงเพียงเจ้าเท่านั้น,ข้าต้องการหมาป่าทุกตนในเทือกเขาอัคคีรุ่งโรจน์,เข้าร่วมกับข้าเพื่อบุกเบิกทวีปศักดิ์สิทธิ์ไปพร้อมกับข้าด้วย."จงซานที่กล่าวออกมาอีกครั้ง.
"น่าขัน,เจ้านี่เหรอ,แม้ว่าเจ้าจะเป็นคนที่จื่อจุ้นเลือก,ทว่า,ด้วยพลังฝึกตนของเจ้าในตอนนี้,คิดจะสั่งการหมาป่าระดับก่อตั้งวิญญาณเหรอ,นอกเสียจากการอัญเชิญเท่านั้น,ข้าถึงจะฟังคำสั่งจากเจ้า,ด้วยวิธีอื่นเจ้าไม่มีคุณสมบัติพอ."จื่อเห่าหลางเจียงที่กล่าวออกมาเอย่างเย็นชา.
"เจ้าคิดว่าข้ามีคุณสมบัติไม่พออย่างงั้นรึ?"จงซานที่ไม่ได้โกรธเกรี้ยว,ทว่ากล่าวออกมาด้วยรอยยิ้มเล็กน้อย.
"ชิ,เจ้าต้องการให้ลูกน้องของข้าไปเสียงตายให้กับเจ้า,อย่าได้คิดอะไรเช่นนี้อีก,ข้าไม่มีทางตกลงกับเจ้าแน่!
ด้วยพลังฝึกตนของเจ้า,คิดว่าจะมีปัญญาบุกเบิกใต้หล้าแห่งนี้ได้รึ?การจะเชื่อฟังใครสักคน,คนๆนั้นจะต้องมีความสามารถเพียงพอ."จื่อเห่าหลางเจียงที่แค่นเสียงเย็นชา.
จื่อเห่าหลางเจียงที่หันหน้าพร้อมกับสะบัดมือทำลายม่านคุ้มกันเสียง.
ก่อนที่จะบินออกไป,ร่อนลงไปยังหัวหมาป่ายักษ์ด้านล่าง,ก่อนที่จะพากลุ่มหมาป่าขนาดใหญ่มุ่งตรงออกไป,มีเพียงแค่หลิวอู๋ซ่างที่ยืนอยู่บนบุตรของจื่อเห่าที่ยังไม่จากไป,ซึ่งมีนามว่าเสี่ยวเหยี่ยน,แน่นอนว่าจื่อเห่าหลางเจียงไม่ได้ออกค่ำสั่งบังคับเขาแต่อย่างใด.
จ้องมองไปยังจื่อเห่าหลางเจียงที่นำกองกำลังหมาป่าจากไป,จงซานที่เผยยิ้มออกมาเล็กน้อย,เขาไม่ได้กังวลแต่อย่างใด,เขาคาดไว้แล้วว่าจะเป็นเช่นนี้,วันนี้เพียงแค่สร้างการรับรู้ในใจของเขาเอาไว้เท่านั้น,เขายังมีเวลา,เรื่องนี้ต้องใช้เวลาสักหน่อย,จะรีบร้อนไม่ได้.
"เซียนเซิง,เป็นไรหรือไม่."อาต้าที่บินตรงมาสมทบ.
"ข้าไม่เป็นไร!"จงซานกล่าวออกมาด้วยรอยยิ้ม.
"เจ้าพูดอะไรกับจื่อเห่ารึ?
เป็นท่าทางเขา,แทบบ้า,เขาต้องการจะบดขยี้เจ้าด้วยซ้ำ,แต่ก็ทำได้แค่จำใจจากไป."เนียนโหยวโยวที่จ้องมองไปยังจงซานด้วยท่าทางประหลาดใจ.
บดขยี้ข้ารึ? จื่อเห่ากล้าทำร้ายข้ารึ? จงซานที่เผยยิ้มออกมาเล็กน้อย,ทว่าก็ไม่ได้กล่าวสิ่งใด.
"เซียนเซิง,ท่านควรที่จะแวะที่สำนักยวีเหิงสักหน่อย,บิดาของข้าหากได้พบกับเซียนเซิง,ต้องดีใจอย่างแน่นอน,นอกจากนี้สำนักยวีเหิงของเขา,ยังมีอาวุโสจากสำนักไคหยางคนหนึ่งมาเยือนด้วย."หลิวอู๋ซ่างที่กล่าว.
"หืม?
อาวุโสสำนักไคหยางอย่างงั้นรึ?"จงซานที่แสดงท่าทางสงสัย.
"ใช่แล้ว,ในเวลานี้มีเรื่องสำคัญเกิดขึ้น,ผู้พิทักษ์ขุนเขาได้เดินทางไปยังศาลาเจ็ดดาว,เพราะว่ามีเรื่องเร่งด่วน,ดังนั้นศาลาเจ็ดดาวจึงได้ส่งอาวุโสของสำนักไคหยางมาอย่างไม่คาดคิด."หลิวอู๋ซวังที่กล่าวตอบ.
"เป็นใครอย่างงั้นรึ?"จงซานสอบถาม.
"อาวุโสจื่อซวิน."หลิวอู๋ซ่างกล่าว.
"จื่อซวิน...อาวุโส?
"จงซานที่กล่าวออกมาด้วยท่าทางประหลาดใจ,โลกนี้ช่างแคบนัก,จื่อซวิน?
เป็นนางเองรึ? นางคือความรักชั่วข้ามคืนของเขาและยังเป็นหญิงสาวที่พาเขามายังทวีปศักดิ์สิทธิ์แห่งนี้.
"เซียนเซิง,มีอะไรอย่างงั้นรึ?"หลิวอู๋ซ่างที่จ้องมองไปยังจงซานที่แสดงท่าทางประหลาดใจอย่างหนัก,ด้วยความสงสัย.
ส่วนเนียนโหยวโหยวเองก็ดวงตาเบิกกว้าง,แววตาของนางเต็มไปด้วยความสงสัยเป็นอย่างมาก.
"ในอดีตนั้น,อาวุโสจื่อซวิน,เป็นคนนำข้ามายังทวีปศักดิ์สิทธิ์,ทำให้ข้าประหลาดใจเล็กน้อย."จงซานส่ายหน้าไปมา.
"พวกเราไปกันเถอะ."หลิวอู๋ซวังที่เอ่ยปาก.
"อืม."จงซานพยักหน้า.
สีคนหนึ่งหมาป่า,ด้วยการบังคับเมฆสีขาวของอาต้าก็พาทุกคนมุ่งตรงไปยังสำนักยวีเหิง.
"เมื่อเร็วนี้เกิดสิ่งใดขึ้นอย่างงั้นรึ?
อ๋องจวีลู่ถึงได้นำกองกำลัง 100,000
คนมายังที่นี่?"จงซานที่กล่าวสอบถามออกมา.
"เรื่องนี้,ข้าเองก็ไม่เข้าใจนัก.บางทีเขาอาจจะกำลังมองหาอะไรสักอย่าง,บิดาของข้าก็ไม่ยอมบอก,ทว่าบางทีมันคงเป็นสิ่งสำคัญ."หลิวอู๋ซ่างกล่าว.
"ข้ารู้."เนียนโหยวโหยวที่เอ่ยออกมาทันที.
"โอ้ว,อะไรรึ?"จงซานที่สอบถามออกไป.
"มีเซียนเคยอยู่ที่นี่."เนียนโหยวโหยวเอ่ย.
"เซียนอย่างงั้นรึ?"หลิวอู๋ซ่างที่ชำเลืองมองตาโตขึ้นมาในทันที.
"ข้าคิดว่าที่นี่ปราณวิญญาณกำลังปั่นป่วนอย่างหนัก,เหตุผลก็เพราะจิตวิญญาณเซียนอย่างงั้นรึ?"อาต้าที่คิดครู่หนึ่งและกล่าวออกมาในทันที.
"ถูกแล้ว,นี่คือปราณของจิตวิญญาณเซียน."เนียนโหยวโหยวที่กล่าวออกมาด้วยรอยยิ้ม.
หลิวอู๋ซ่างที่กลืนน้ำลายคำโต,แววตาที่มีความคาดหวังออกมา.
"เซียน?
ปราณจิตวิญญาณเซียนอย่างงั้นรึ?"จงซานที่ขมวดคิ้วแสดงท่าทางสงสัยออกมา.
เห็นจงซานที่แสดงท่าทางสงสัย,อาต้าที่อธิบายออกมาในทันที,"ปราณจิตวิญญาณเซียนนั้น,เป็นสิ่งที่เซียนหลงเหลือเอาไว้,ในทวีปศักดิ์สิทธิ์แห่งนี้,มีบางสถานที่ซึ่งเคยมีเซียนปรากฏตัวขึ้น,ปรากฏจิตวิญญาณเซียนที่ยังคงหลงเหลือ,จะแผ่พลังปราณเซียนออกมา,แน่นอนว่าพื้นที่ดังกล่าวนั้นอาจเป็นพื้นที่ต้องห้าม,เป็นค่ายกล,หรือของวิเศษของเซียน,ที่ได้ทิ้งเอาไว้นานแล้ว,พื้นที่
ที่เคยมีเซียนอาศัยอยู่นั้นเมื่อมีปราณพลังของเซียนหมุนวนอยู่แล้วล่ะก็,จะทำให้เปี่ยมไปด้วยพลังวิญญาณที่หนาแน่นของเซียนอยู่ในพื้นที่แห่งนั้น."
"ไม่ว่าจะเป็นสิ่งใดของเซียน,เพียงแค่ปราณจิตวิญญาณเซียน,สำหรับมนุษย์แล้ว,นับว่าเป็นสมบัติล้ำค่า,หากว่าได้รับมันมาแล้วล่ะก็,จะทำให้สามารถทะลวงผ่านพลังฝึกตนได้อีกหลายระดับอย่างแน่นอน."อาต้าที่กล่าวตอบ.
"ไม่แปลกใจเลยว่าบิดาของข้าไม่ได้เผยข้อมูลอะไรออกไป,หากมีคนรู้ล่ะก็,จะมีผู้ฝึกตนมากมายนับไม่ถ้วน
มาชุมนุมในพื้นที่แห่งนี้?"หลิวอู๋ซ่างที่กล่าวออกมาพลางทอดถอนใจ.
"ไม่,บางทีเพราะว่าบิดาของเจ้าไม่รู้ จึงได้รายงานไปยังศาลาเจ็ดดาวก็ได้,หลังจากที่ศาลาเจ็ดดาววิเคราะห์แล้ว,เกรงว่ามันจะเป็นเช่นนั้น,จึงได้ส่งอาวุโสจื่อซวินเดินทางมายังสำนักยวีเหิงก่อน."อาต้ากล่าว.
"เซียน,ช่างเป็นอะไรที่น่าสนใจ."จงซานพยักหน้า.
"จงซาน,กุหลาบของข้า,เจ้ายังติดค้างกุหลาบ
3 พันดอกกับข้า,เจ้าคงจะไม่ลืมมันหรอกนะ."เนียนโหยวโหยวที่กล่าวออกมาทันที.
"โปรดวางใจ,เรื่องที่ข้ารับปาก,แน่นอนว่าจะต้องทำให้สำเร็จ."จงซานเอ่ย.
"เอาเป็นว่าเจ้าช่วยข้าหาเซียน,แทนค้นหากุหลายเป็นไง?"เนียนโหยวโหยวที่กล่าวเป็นนัยย์ด้วยรอยยิ้ม.
จงซานที่เผยยิ้มออกมาเล็กน้อย,ไม่กล่าวยอมรับและไม่ปฏิเสธพร้อมๆกัน.
"เจ้าจะบอกว่า,เจ้าสามารถทำได้อย่างงั้น?"เนียนโหยวโหยวที่กล่าวสอบถาม.
"ข้าย่อมต้องหากุหลาบให้กับเจ้าแน่นอน."จงซานที่ส่ายหน้าไปมาขณะพูด.
"ชิ!
ขี้งก."เนียนโหยวโหยวเปลี่ยนอารมณ์ไปมา,แสดงท่าทางซุกซนออกมา.
จ้องมองไปยังเนียนโหยวโหยว,หลิวอู๋ซ่างและอาต้าที่แอบกลืนน้ำลาย,กับผู้หญิงเช่นนี้,เป็นพวกเขาคงยากจะรับมือ.
....
สำนักยวีเหิง.
ตำหนักยวีเหิง.
ภายในห้องโถงนั้น,มีตำรามากมายกองเต็มไปหมด,มีจำวนมากกว่า
100,000 เล่ม,ตอนนี้กำลังกองเต็มพื้นไปหมด,ประมุขสำนักยวีเหิงและเหล่าอาวุโสคนอื่นๆ,ตอนนี้กำลังอ่านข้อมูลต่างๆ,ที่มีอยู่ด้านในไม่หยุด.
ส่วนที่ทิศเหนือของห้องโถง,มีโต๊ะๆหนึ่ง,พร้อมกับสาวงามชุดสีม่วงเท้าเปล่านั่งประจำอยู่.
จื่อซวิน.
จื๋อซวินที่ทำการสรุปข้อมูล,พร้อมทั้งใช้นำยาตรวจสอบบันทึกต่างๆ,พร้อมกับทำการคัดตำราที่เหล่าประมุขและอาวุโสคนอื่นๆคัดมา.
เทพธิดาจื่อซวินที่ให้ความระมัดระวังเป็นอย่างมาก,ขมวดคิ้วไปมาเล็กน้อย,ทำงานขะมักเขม้น,ถอนหายใจเป็นระยะ,บางครั้งก็นิ่งงันจ้องมอง,บางครั้งก็แสดงท่าทางดีใจกับม้วนคัมภีร์ที่กำลังตรวจสอบอยู่.
ที่นี่มีตำรามากมาย,เป็นตำราเก่าแก่ของสำนักยวีเหิงบันทึกการตรวจสอบพื้นที่ดังกล่าวเอาไว้,เป็นบันทึกความเป็นมาของสำนักยวีเหิง,แม้แต่อักขระที่บันทึกลงในแผ่นหินและโลหะก็ยังมี.
มีบันทึกมากมายนับไม่ถ้วนในรัศมี 100,000
ลี้ของพื้นที่ดังกล่าว,มีการบันทึกรายละเอียดมา กว่า 30,000
ปี,ทว่าระยะทางไกลกว่านี้ไม่มีแล้ว,แม้ว่าข้อมูลเมื่อสามหมื่นปีที่แล้วจะมีเพียงแค่เล็กน้อยเท่านั้นก็ตาม.
หลิวสุ่ยเฟิง,และคนอื่นๆทำการคัดกรองตำราต่างๆเรื่องราวต่างๆจากกองหนังสือ,ส่งให้กับจื่อซวินตรวจสอบ.
"ท่านพ่อ,ข้ากลับมาแล้ว."ที่ด้านนอกห้องโถง,เสียงของหลิวอู๋ซ่างที่ดังออกมาในทันที.
ได้ยินเสียงของหลิวอู๋ซ่าง,หลิวสุ่ยเฟิงที่ขมวดคิ้วเล็กน้อย,จ้องมองไปยังจื่อซวิน.
จื่อซวินพยักหน้า,อนุญาตให้เขาเข้ามาได้.
"เข้ามาได้!"หลิวสุ่ยเฟิงที่เอ่ยเสียงส่งออกไปด้านนอกห้องโถง.
"ท่านพ่อ,ดูสิข้าพาใครมาด้วย."หลิวอู๋ซ่างกล่าว.
ได้ยินเสียงของหลิวอู๋ซ่าง,คิ้วของหลิวสุ่ยเฟิงขมวดคิ้วไปมา,เงยหน้าขึ้นมอง,เขาไปพาใครมากัน?
ขณะเดียวกัน,ทุกคนที่ก้าวเข้ามาในห้องโถง,อาต้า,จงซาน,หลิวอู๋ซ่างและเนียนโหยวโหยว,ทันใดนั้นกองหนักสื่อบนโต๊ะของจื่อซวินถึงกับล้มลงไปพร้อมๆกัน.
"พรึบๆๆ"
กองหนังสือที่ล่วงหล่น,ดวงตาของจื่อซวินที่ชงักงันตาค้างไปในทันที.
เขาเป็นภูติอย่างงั้นรึ?ถึงได้มาปรากฏตัวที่นี่
ต่อหน้านางในเวลานี้?
จงซานที่รับรู้ก่อนหน้าแล้ว,ดังนั้นจึงไม่ได้แสดงท่าทางประหลาดใจออกมา,ทว่าจื่อซวินนั้นต่างกัน,นางที่จ้องมองไปยังเขาตะลึงงัน,เพ่งพิศอยู่ชั่วขณะ,ก่อนที่จะสะบัดหน้าไปมา,สูดหายใจลึก,ก่อนที่จะกลับมาเป็นปรกติ.
ส่วนเนียนโหยวโหยวที่เห็นทุกอย่าง,นางรู้สึกประหลาดใจกับท่าทางของจื่อซวิน,ที่จ้องมองมายังจงซาน,ดวงตาที่เบิกกว้าง,ที่มุมปากเผยยิ้มเป็นนัยย์ออกมา.
"เซียนเซิงจงซาน,อาวุโสอาต้า,พวกเราไม่ได้เตรียมต้อนรับเลย,ลมอะไรหอบมาอย่างงั้นรึ?"หลิวสุ่ยเฟิงที่ก้าวออกไปรับพร้อมกับเผยยิ้มออกมาในทันที.
ใช่แล้ว,นับว่าโชคดีมากๆที่ได้พบกับจงซานในครานั้น,บางทีหากไม่มีจงซานา,สำนักยวีเหิงคงถูกกำจัดทิ้งไปแล้ว,หรือดีที่สุดคือบุตรชายของเขาถูกสังหาร,ทว่าด้วยจงซานปรากฏตัวขึ้นในครานั้น,สำนักยวีเหิงไม่เพียงแต่ปลอดภัยเท่านั้น,อู๋ซ่างยังปลอดภัยด้วย,เขาที่ได้รับคำสอนสั่งจากจงซาน,เวลานี้ได้เติบโตขึ้น,เกี่ยวกับตัวตนของจงซานนั้น,หลิวอู๋เฟิงรู้สึกขอบคุณซาบซึ้งเป็นอย่างมาก.
"คารวะอาวุโสจื่อซวิน,คารวะประมุขหลิว."จงซานที่กล่าวออกมาด้วยรอยยิ้ม.
จื่อซวินเพียงแค่พยักหน้าให้,ก่อนที่จะหันไปออกไปอีกข้างด้วยความเย็นชา,ขมวดคิ้ว,จ้องมองไปยังเนียนโหยวโหยว.
"คนผู้นี้?"หลิวสุ่ยเฟิงจ้องมองไปยังเนียนโหยวโหยวที่อยู่ข้างๆ.
"แดนเทพอมตะ,เจิ้นเหริน
เนียนโหยวโหยว?"จื่อซวินเอ่ย.
"เจิ้นเหรินจื่อซวิน?"เนียนโหยวโหยวกล่าวตอบทันควัน.
เจิ้นเหริน?
จงซานเองก็เพิ่งรับรู้มาเมื่อไม่กี่ปีนี้เกี่ยวกับคำว่าเจิ้นเหริน,ผู้ที่ถูกเรียกว่าเจิ้นเหรินนั้น,ก็คือคนที่อยู่ในมรรคาอ่อนนุ่ม,ซึ่งเป็นชื่อเรียกเกี่ยวกับวิถีฝึกตนของเหล่าสำนักในแดนเทวะนั่นเอง.
...........
True Person = Arhat.
True Monarch = Bodhisattva.
Dao Monarch = Buddha.
เจิ้นเหริน= พุทธะ มรรคาที่อ่อนนุ่ม(ความเร็ว 3 เท่า)
ราชันย์แท้ = ปู่ซ่า(โพธิสัตว์) มรรคาระดับกลาง(ความเร็ว 10
เท่า)
เต๋าจักรพรรดิ = อรหันต์
มรรคาระดับสูง(ความเร็ว 100 เท่า)
ที่มาจากhttps://lnmtl.com/novel/immortality
#นิยาย เรื่องอมตะ #Immortality#นิยายแปลไทย
Author(s)
สนใจสนับสนุนพวกเรา,เข้าร่วมกลุ่ม VIP ====> Click
***เว็ปฟรีอัพ สองวันหนึ่งตอน
***กลุ่มลับ อัพ 2-3 ตอนต่อวัน.
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น