วันศุกร์ที่ 17 พฤษภาคม พ.ศ. 2562

Immortality Chapter 282 Also with Zixun

Immortality Chapter 282 Also with Zixun

นิยาย เรื่อง อมตะ ตอนที่ 282   พบจื่อซวินอีกครั้ง.


Chapter 282 Also with Zixun
又遇紫熏
  พบจื่อซวินอีกครั้ง.

คนทั้งสองที่จ้องมองหน้ากันและกัน.

"ขอบคุณสำหรับเรื่องของเสี่ยวเหยี่ยน,เรื่องที่เกิดขึ้น,ทำให้เขาเติบโตขึ้นเป็นอย่างมาก,"จื่อเห่าหลางเจียงที่เอ่ยปากออกมาในทันที.



"ไม่มีปัญหา,เป็นแค่เรื่องเล็ก,แต่ข้าคิดว่าเจ้ามีเรื่องต้องการถามข้ามากกว่านี้ใช่รึไม่?"จงซานที่กล่าวออกมาด้วยรอยยิ้ม.

"ดี,ข้าต้องการรู้ว่าทำไมจื่อจุ้นถึงได้เลือกเจ้า?"จื่อเห่าหลางเจียงที่ชำเลืองมองไปยังจงซาน.

"เจ้าสงสัยในความคิดของตี้เสวียนชาอย่างงั้นรึ?"จงซานที่เอ่ยออกมาด้วยรอยยิ้ม.

"ข้าไม่เคยสงสัยในความคิดของจื่อจุ้น,จื่อจิ้นไม่เคยทำอะไรผิด,โดยเฉพาะจื้อจุ้นในปัจจุบัน,ข้าต้องการรู้ว่าเจ้าที่มีระดับแกนเทองเท่านั้น,มีความสามารถและวาสนาใด,ถึงได้ทำให้จื่อจุ้นชื่นชอบได้."จื่อเห่าหลางเจียงเอ่ย.

"ตี้เสวียนชาและข้า ทำพันธะสัญญากัน,ตั้งแต่ที่ข้ามีระดับเซียนเทียน."จงซานที่กล่าวออกมาด้วยรอยยิ้ม.

กับคำพูดของจงซาน,ทำให้จื่อเห่าหลางเจียงขมวดคิ้วแน่น,เห็นได้ชัดเจนว่าเขายากที่จะยอมรับข้อมูล,แม้แต่ระดับแกนทองยังยากที่จะยอมรับได้,แล้วจื่อจุ้นทำพันธะสัญญากับมนุษย์ที่มีระดับเซียนเทียนอย่างงั้นรึ? เรื่องนี้จื่อจุ้นกำลังถูกล่อลวงหรือไม่? เป็นไปไม่ได้,จื่อจุ้นไม่มีทางถูกล่อลวงแน่.

ในเวลานั้น,ใบหน้าของจงซานที่แสดงท่าทางมั่นใจ,"เอาล่ะ,จะด้วยเหตุผลใดก็ตาม,หลังจากนี้ข้าเพียงต้องการที่จะบอกเจ้า,ข้ามองเจ้าเป็นพิเศษ."

"หืม?"จื่อเห่าหลางเจียงที่กล่าวออกมาด้วยความสงสัย.

"ข้าต้องการเจ้ามาเป็นสัตว์ขี่ของข้า,เพื่อบุกเบิกทวีปศักดิ์สิทธิ์นี้ไปพร้อมกับข้า."จงซานที่กล่าวออกมาตรงๆ.

"ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า,เจ้าต้องการให้ข้าเป็นสัตว์ขี่อย่างงั้นรึ? ไม่เคยมีใครกล้าพูดเช่นนี้กับข้า."จื่อเห่าหลางเจียงที่แสดงท่าทางเย็นชาออกมา.

"ไม่เพียงเพียงเจ้าเท่านั้น,ข้าต้องการหมาป่าทุกตนในเทือกเขาอัคคีรุ่งโรจน์,เข้าร่วมกับข้าเพื่อบุกเบิกทวีปศักดิ์สิทธิ์ไปพร้อมกับข้าด้วย."จงซานที่กล่าวออกมาอีกครั้ง.

"น่าขัน,เจ้านี่เหรอ,แม้ว่าเจ้าจะเป็นคนที่จื่อจุ้นเลือก,ทว่า,ด้วยพลังฝึกตนของเจ้าในตอนนี้,คิดจะสั่งการหมาป่าระดับก่อตั้งวิญญาณเหรอ,นอกเสียจากการอัญเชิญเท่านั้น,ข้าถึงจะฟังคำสั่งจากเจ้า,ด้วยวิธีอื่นเจ้าไม่มีคุณสมบัติพอ."จื่อเห่าหลางเจียงที่กล่าวออกมาเอย่างเย็นชา.

"เจ้าคิดว่าข้ามีคุณสมบัติไม่พออย่างงั้นรึ?"จงซานที่ไม่ได้โกรธเกรี้ยว,ทว่ากล่าวออกมาด้วยรอยยิ้มเล็กน้อย.

"ชิ,เจ้าต้องการให้ลูกน้องของข้าไปเสียงตายให้กับเจ้า,อย่าได้คิดอะไรเช่นนี้อีก,ข้าไม่มีทางตกลงกับเจ้าแน่! ด้วยพลังฝึกตนของเจ้า,คิดว่าจะมีปัญญาบุกเบิกใต้หล้าแห่งนี้ได้รึ?การจะเชื่อฟังใครสักคน,คนๆนั้นจะต้องมีความสามารถเพียงพอ."จื่อเห่าหลางเจียงที่แค่นเสียงเย็นชา.

จื่อเห่าหลางเจียงที่หันหน้าพร้อมกับสะบัดมือทำลายม่านคุ้มกันเสียง.

ก่อนที่จะบินออกไป,ร่อนลงไปยังหัวหมาป่ายักษ์ด้านล่าง,ก่อนที่จะพากลุ่มหมาป่าขนาดใหญ่มุ่งตรงออกไป,มีเพียงแค่หลิวอู๋ซ่างที่ยืนอยู่บนบุตรของจื่อเห่าที่ยังไม่จากไป,ซึ่งมีนามว่าเสี่ยวเหยี่ยน,แน่นอนว่าจื่อเห่าหลางเจียงไม่ได้ออกค่ำสั่งบังคับเขาแต่อย่างใด.

จ้องมองไปยังจื่อเห่าหลางเจียงที่นำกองกำลังหมาป่าจากไป,จงซานที่เผยยิ้มออกมาเล็กน้อย,เขาไม่ได้กังวลแต่อย่างใด,เขาคาดไว้แล้วว่าจะเป็นเช่นนี้,วันนี้เพียงแค่สร้างการรับรู้ในใจของเขาเอาไว้เท่านั้น,เขายังมีเวลา,เรื่องนี้ต้องใช้เวลาสักหน่อย,จะรีบร้อนไม่ได้.

"เซียนเซิง,เป็นไรหรือไม่."อาต้าที่บินตรงมาสมทบ.

"ข้าไม่เป็นไร!"จงซานกล่าวออกมาด้วยรอยยิ้ม.

"เจ้าพูดอะไรกับจื่อเห่ารึ? เป็นท่าทางเขา,แทบบ้า,เขาต้องการจะบดขยี้เจ้าด้วยซ้ำ,แต่ก็ทำได้แค่จำใจจากไป."เนียนโหยวโยวที่จ้องมองไปยังจงซานด้วยท่าทางประหลาดใจ.

บดขยี้ข้ารึ? จื่อเห่ากล้าทำร้ายข้ารึ? จงซานที่เผยยิ้มออกมาเล็กน้อย,ทว่าก็ไม่ได้กล่าวสิ่งใด.

"เซียนเซิง,ท่านควรที่จะแวะที่สำนักยวีเหิงสักหน่อย,บิดาของข้าหากได้พบกับเซียนเซิง,ต้องดีใจอย่างแน่นอน,นอกจากนี้สำนักยวีเหิงของเขา,ยังมีอาวุโสจากสำนักไคหยางคนหนึ่งมาเยือนด้วย."หลิวอู๋ซ่างที่กล่าว.

"หืม? อาวุโสสำนักไคหยางอย่างงั้นรึ?"จงซานที่แสดงท่าทางสงสัย.

"ใช่แล้ว,ในเวลานี้มีเรื่องสำคัญเกิดขึ้น,ผู้พิทักษ์ขุนเขาได้เดินทางไปยังศาลาเจ็ดดาว,เพราะว่ามีเรื่องเร่งด่วน,ดังนั้นศาลาเจ็ดดาวจึงได้ส่งอาวุโสของสำนักไคหยางมาอย่างไม่คาดคิด."หลิวอู๋ซวังที่กล่าวตอบ.

"เป็นใครอย่างงั้นรึ?"จงซานสอบถาม.

"อาวุโสจื่อซวิน."หลิวอู๋ซ่างกล่าว.

"จื่อซวิน...อาวุโส? "จงซานที่กล่าวออกมาด้วยท่าทางประหลาดใจ,โลกนี้ช่างแคบนัก,จื่อซวิน? เป็นนางเองรึ? นางคือความรักชั่วข้ามคืนของเขาและยังเป็นหญิงสาวที่พาเขามายังทวีปศักดิ์สิทธิ์แห่งนี้.

"เซียนเซิง,มีอะไรอย่างงั้นรึ?"หลิวอู๋ซ่างที่จ้องมองไปยังจงซานที่แสดงท่าทางประหลาดใจอย่างหนัก,ด้วยความสงสัย.

ส่วนเนียนโหยวโหยวเองก็ดวงตาเบิกกว้าง,แววตาของนางเต็มไปด้วยความสงสัยเป็นอย่างมาก.

"ในอดีตนั้น,อาวุโสจื่อซวิน,เป็นคนนำข้ามายังทวีปศักดิ์สิทธิ์,ทำให้ข้าประหลาดใจเล็กน้อย."จงซานส่ายหน้าไปมา.

"พวกเราไปกันเถอะ."หลิวอู๋ซวังที่เอ่ยปาก.

"อืม."จงซานพยักหน้า.

สีคนหนึ่งหมาป่า,ด้วยการบังคับเมฆสีขาวของอาต้าก็พาทุกคนมุ่งตรงไปยังสำนักยวีเหิง.

"เมื่อเร็วนี้เกิดสิ่งใดขึ้นอย่างงั้นรึ? อ๋องจวีลู่ถึงได้นำกองกำลัง 100,000 คนมายังที่นี่?"จงซานที่กล่าวสอบถามออกมา.

"เรื่องนี้,ข้าเองก็ไม่เข้าใจนัก.บางทีเขาอาจจะกำลังมองหาอะไรสักอย่าง,บิดาของข้าก็ไม่ยอมบอก,ทว่าบางทีมันคงเป็นสิ่งสำคัญ."หลิวอู๋ซ่างกล่าว.

"ข้ารู้."เนียนโหยวโหยวที่เอ่ยออกมาทันที.

"โอ้ว,อะไรรึ?"จงซานที่สอบถามออกไป.

"มีเซียนเคยอยู่ที่นี่."เนียนโหยวโหยวเอ่ย.

"เซียนอย่างงั้นรึ?"หลิวอู๋ซ่างที่ชำเลืองมองตาโตขึ้นมาในทันที.

"ข้าคิดว่าที่นี่ปราณวิญญาณกำลังปั่นป่วนอย่างหนัก,เหตุผลก็เพราะจิตวิญญาณเซียนอย่างงั้นรึ?"อาต้าที่คิดครู่หนึ่งและกล่าวออกมาในทันที.

"ถูกแล้ว,นี่คือปราณของจิตวิญญาณเซียน."เนียนโหยวโหยวที่กล่าวออกมาด้วยรอยยิ้ม.

หลิวอู๋ซ่างที่กลืนน้ำลายคำโต,แววตาที่มีความคาดหวังออกมา.

"เซียน? ปราณจิตวิญญาณเซียนอย่างงั้นรึ?"จงซานที่ขมวดคิ้วแสดงท่าทางสงสัยออกมา.

เห็นจงซานที่แสดงท่าทางสงสัย,อาต้าที่อธิบายออกมาในทันที,"ปราณจิตวิญญาณเซียนนั้น,เป็นสิ่งที่เซียนหลงเหลือเอาไว้,ในทวีปศักดิ์สิทธิ์แห่งนี้,มีบางสถานที่ซึ่งเคยมีเซียนปรากฏตัวขึ้น,ปรากฏจิตวิญญาณเซียนที่ยังคงหลงเหลือ,จะแผ่พลังปราณเซียนออกมา,แน่นอนว่าพื้นที่ดังกล่าวนั้นอาจเป็นพื้นที่ต้องห้าม,เป็นค่ายกล,หรือของวิเศษของเซียน,ที่ได้ทิ้งเอาไว้นานแล้ว,พื้นที่ ที่เคยมีเซียนอาศัยอยู่นั้นเมื่อมีปราณพลังของเซียนหมุนวนอยู่แล้วล่ะก็,จะทำให้เปี่ยมไปด้วยพลังวิญญาณที่หนาแน่นของเซียนอยู่ในพื้นที่แห่งนั้น."

"ไม่ว่าจะเป็นสิ่งใดของเซียน,เพียงแค่ปราณจิตวิญญาณเซียน,สำหรับมนุษย์แล้ว,นับว่าเป็นสมบัติล้ำค่า,หากว่าได้รับมันมาแล้วล่ะก็,จะทำให้สามารถทะลวงผ่านพลังฝึกตนได้อีกหลายระดับอย่างแน่นอน."อาต้าที่กล่าวตอบ.

"ไม่แปลกใจเลยว่าบิดาของข้าไม่ได้เผยข้อมูลอะไรออกไป,หากมีคนรู้ล่ะก็,จะมีผู้ฝึกตนมากมายนับไม่ถ้วน มาชุมนุมในพื้นที่แห่งนี้?"หลิวอู๋ซ่างที่กล่าวออกมาพลางทอดถอนใจ.

"ไม่,บางทีเพราะว่าบิดาของเจ้าไม่รู้ จึงได้รายงานไปยังศาลาเจ็ดดาวก็ได้,หลังจากที่ศาลาเจ็ดดาววิเคราะห์แล้ว,เกรงว่ามันจะเป็นเช่นนั้น,จึงได้ส่งอาวุโสจื่อซวินเดินทางมายังสำนักยวีเหิงก่อน."อาต้ากล่าว.

"เซียน,ช่างเป็นอะไรที่น่าสนใจ."จงซานพยักหน้า.

"จงซาน,กุหลาบของข้า,เจ้ายังติดค้างกุหลาบ 3 พันดอกกับข้า,เจ้าคงจะไม่ลืมมันหรอกนะ."เนียนโหยวโหยวที่กล่าวออกมาทันที.

"โปรดวางใจ,เรื่องที่ข้ารับปาก,แน่นอนว่าจะต้องทำให้สำเร็จ."จงซานเอ่ย.

"เอาเป็นว่าเจ้าช่วยข้าหาเซียน,แทนค้นหากุหลายเป็นไง?"เนียนโหยวโหยวที่กล่าวเป็นนัยย์ด้วยรอยยิ้ม.

จงซานที่เผยยิ้มออกมาเล็กน้อย,ไม่กล่าวยอมรับและไม่ปฏิเสธพร้อมๆกัน.

"เจ้าจะบอกว่า,เจ้าสามารถทำได้อย่างงั้น?"เนียนโหยวโหยวที่กล่าวสอบถาม.

"ข้าย่อมต้องหากุหลาบให้กับเจ้าแน่นอน."จงซานที่ส่ายหน้าไปมาขณะพูด.

"ชิ! ขี้งก."เนียนโหยวโหยวเปลี่ยนอารมณ์ไปมา,แสดงท่าทางซุกซนออกมา.

จ้องมองไปยังเนียนโหยวโหยว,หลิวอู๋ซ่างและอาต้าที่แอบกลืนน้ำลาย,กับผู้หญิงเช่นนี้,เป็นพวกเขาคงยากจะรับมือ.
....

สำนักยวีเหิง.

ตำหนักยวีเหิง.

ภายในห้องโถงนั้น,มีตำรามากมายกองเต็มไปหมด,มีจำวนมากกว่า 100,000 เล่ม,ตอนนี้กำลังกองเต็มพื้นไปหมด,ประมุขสำนักยวีเหิงและเหล่าอาวุโสคนอื่นๆ,ตอนนี้กำลังอ่านข้อมูลต่างๆ,ที่มีอยู่ด้านในไม่หยุด.

ส่วนที่ทิศเหนือของห้องโถง,มีโต๊ะๆหนึ่ง,พร้อมกับสาวงามชุดสีม่วงเท้าเปล่านั่งประจำอยู่.

จื่อซวิน.

จื๋อซวินที่ทำการสรุปข้อมูล,พร้อมทั้งใช้นำยาตรวจสอบบันทึกต่างๆ,พร้อมกับทำการคัดตำราที่เหล่าประมุขและอาวุโสคนอื่นๆคัดมา.

เทพธิดาจื่อซวินที่ให้ความระมัดระวังเป็นอย่างมาก,ขมวดคิ้วไปมาเล็กน้อย,ทำงานขะมักเขม้น,ถอนหายใจเป็นระยะ,บางครั้งก็นิ่งงันจ้องมอง,บางครั้งก็แสดงท่าทางดีใจกับม้วนคัมภีร์ที่กำลังตรวจสอบอยู่.

ที่นี่มีตำรามากมาย,เป็นตำราเก่าแก่ของสำนักยวีเหิงบันทึกการตรวจสอบพื้นที่ดังกล่าวเอาไว้,เป็นบันทึกความเป็นมาของสำนักยวีเหิง,แม้แต่อักขระที่บันทึกลงในแผ่นหินและโลหะก็ยังมี.

มีบันทึกมากมายนับไม่ถ้วนในรัศมี 100,000 ลี้ของพื้นที่ดังกล่าว,มีการบันทึกรายละเอียดมา กว่า 30,000 ปี,ทว่าระยะทางไกลกว่านี้ไม่มีแล้ว,แม้ว่าข้อมูลเมื่อสามหมื่นปีที่แล้วจะมีเพียงแค่เล็กน้อยเท่านั้นก็ตาม.

หลิวสุ่ยเฟิง,และคนอื่นๆทำการคัดกรองตำราต่างๆเรื่องราวต่างๆจากกองหนังสือ,ส่งให้กับจื่อซวินตรวจสอบ.

"ท่านพ่อ,ข้ากลับมาแล้ว."ที่ด้านนอกห้องโถง,เสียงของหลิวอู๋ซ่างที่ดังออกมาในทันที.

ได้ยินเสียงของหลิวอู๋ซ่าง,หลิวสุ่ยเฟิงที่ขมวดคิ้วเล็กน้อย,จ้องมองไปยังจื่อซวิน.

จื่อซวินพยักหน้า,อนุญาตให้เขาเข้ามาได้.

"เข้ามาได้!"หลิวสุ่ยเฟิงที่เอ่ยเสียงส่งออกไปด้านนอกห้องโถง.

"ท่านพ่อ,ดูสิข้าพาใครมาด้วย."หลิวอู๋ซ่างกล่าว.

ได้ยินเสียงของหลิวอู๋ซ่าง,คิ้วของหลิวสุ่ยเฟิงขมวดคิ้วไปมา,เงยหน้าขึ้นมอง,เขาไปพาใครมากัน?

ขณะเดียวกัน,ทุกคนที่ก้าวเข้ามาในห้องโถง,อาต้า,จงซาน,หลิวอู๋ซ่างและเนียนโหยวโหยว,ทันใดนั้นกองหนักสื่อบนโต๊ะของจื่อซวินถึงกับล้มลงไปพร้อมๆกัน.

"พรึบๆๆ"

กองหนังสือที่ล่วงหล่น,ดวงตาของจื่อซวินที่ชงักงันตาค้างไปในทันที.

เขาเป็นภูติอย่างงั้นรึ?ถึงได้มาปรากฏตัวที่นี่ ต่อหน้านางในเวลานี้?

จงซานที่รับรู้ก่อนหน้าแล้ว,ดังนั้นจึงไม่ได้แสดงท่าทางประหลาดใจออกมา,ทว่าจื่อซวินนั้นต่างกัน,นางที่จ้องมองไปยังเขาตะลึงงัน,เพ่งพิศอยู่ชั่วขณะ,ก่อนที่จะสะบัดหน้าไปมา,สูดหายใจลึก,ก่อนที่จะกลับมาเป็นปรกติ.

ส่วนเนียนโหยวโหยวที่เห็นทุกอย่าง,นางรู้สึกประหลาดใจกับท่าทางของจื่อซวิน,ที่จ้องมองมายังจงซาน,ดวงตาที่เบิกกว้าง,ที่มุมปากเผยยิ้มเป็นนัยย์ออกมา.

"เซียนเซิงจงซาน,อาวุโสอาต้า,พวกเราไม่ได้เตรียมต้อนรับเลย,ลมอะไรหอบมาอย่างงั้นรึ?"หลิวสุ่ยเฟิงที่ก้าวออกไปรับพร้อมกับเผยยิ้มออกมาในทันที.

ใช่แล้ว,นับว่าโชคดีมากๆที่ได้พบกับจงซานในครานั้น,บางทีหากไม่มีจงซานา,สำนักยวีเหิงคงถูกกำจัดทิ้งไปแล้ว,หรือดีที่สุดคือบุตรชายของเขาถูกสังหาร,ทว่าด้วยจงซานปรากฏตัวขึ้นในครานั้น,สำนักยวีเหิงไม่เพียงแต่ปลอดภัยเท่านั้น,อู๋ซ่างยังปลอดภัยด้วย,เขาที่ได้รับคำสอนสั่งจากจงซาน,เวลานี้ได้เติบโตขึ้น,เกี่ยวกับตัวตนของจงซานนั้น,หลิวอู๋เฟิงรู้สึกขอบคุณซาบซึ้งเป็นอย่างมาก.

"คารวะอาวุโสจื่อซวิน,คารวะประมุขหลิว."จงซานที่กล่าวออกมาด้วยรอยยิ้ม.

จื่อซวินเพียงแค่พยักหน้าให้,ก่อนที่จะหันไปออกไปอีกข้างด้วยความเย็นชา,ขมวดคิ้ว,จ้องมองไปยังเนียนโหยวโหยว.

"คนผู้นี้?"หลิวสุ่ยเฟิงจ้องมองไปยังเนียนโหยวโหยวที่อยู่ข้างๆ.

"แดนเทพอมตะ,เจิ้นเหริน เนียนโหยวโหยว?"จื่อซวินเอ่ย.

"เจิ้นเหรินจื่อซวิน?"เนียนโหยวโหยวกล่าวตอบทันควัน.

เจิ้นเหริน? จงซานเองก็เพิ่งรับรู้มาเมื่อไม่กี่ปีนี้เกี่ยวกับคำว่าเจิ้นเหริน,ผู้ที่ถูกเรียกว่าเจิ้นเหรินนั้น,ก็คือคนที่อยู่ในมรรคาอ่อนนุ่ม,ซึ่งเป็นชื่อเรียกเกี่ยวกับวิถีฝึกตนของเหล่าสำนักในแดนเทวะนั่นเอง.
...........
True Person = Arhat.
True Monarch = Bodhisattva.
Dao Monarch = Buddha.
เจิ้นเหริน= พุทธะ มรรคาที่อ่อนนุ่ม(ความเร็ว 3 เท่า)
ราชันย์แท้ = ปู่ซ่า(โพธิสัตว์) มรรคาระดับกลาง(ความเร็ว 10 เท่า)

เต๋าจักรพรรดิ = อรหันต์   มรรคาระดับสูง(ความเร็ว 100 เท่า)




ที่มาจากhttps://lnmtl.com/novel/immortality

#นิยาย เรื่องอมตะ #Immortality#นิยายแปลไทย
Author(s)


สนใจสนับสนุนพวกเรา,เข้าร่วมกลุ่ม VIP ====> Click

***เว็ปฟรีอัพ สองวันหนึ่งตอน
***กลุ่มลับ อัพ 2-3 ตอนต่อวัน.

 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น