วันศุกร์ที่ 3 พฤษภาคม พ.ศ. 2562

Immortality Chapter 264 Great Guang and Great Yu alliance

Immortality Chapter 264 Great Guang and Great Yu alliance

นิยาย เรื่อง อมตะ ตอนที่ 264 ต้ากวงและต้ายวีร่วมมือ.


Chapter 264 Great Guang and Great Yu alliance
大光、大宇
  ต้ากวงและต้ายวีร่วมมือ.

เป็นภาพฉากที่งดงามวิจิตรเป็นอย่างมาก,ไม่เพียงแต่คนนอกตำหนัก,ยังสามารถมองเข้ามาภายในตำหนักของกงจูเฉียนโหยวได้.

ทุกคนที่เปลี่ยนเป็นเงียบงันจ้องมองภาพฉากที่สวยงามดังกล่าว,ภายในแววตาของหวังเฟยที่เปล่งประกาย,ใบหน้าที่เต็มไปด้วยความตื่นเต้น,แม้ว่าภาพฉากดังกล่าวนั้นอาจจะสามารถใช้วิชาบำเพ็ญสร้างขึ้นมาได้,ทว่าจำนวนที่เกิดขึ้นนี้กลับมากมายมหาศาล,ไม่คิดเลยว่าในโลกใบนี้จะมีดอกไม้ไฟขนาดใหญ่และรูปลักษณ์ต่างๆมากมายเช่นนี้ได้.



เซียนเซิงสุ่ยจิงที่สูดหายใจลึก,ศีรษะที่ขดเข้าหากัน,พลางทอดถอนใจ.

อาต้าและอาเอ้อที่รู้สึกตื่นเต้นจับจ้องมองขึ้นไปบนอากาศ,กงจูเฉียนโหยวที่ลอบมองมายังจงซาน,ภายในสายตาที่ปริ่มๆด้วยความรู้สึก,ที่ลึกซึ้งเป็นอย่างมาก.

"เฉียนโหยว,จงซาน? จบแล้วรึ?"หวังเฟยที่เอ่ยออกมาด้วยความตื่นเต้น.

จงซานที่จ้องมองไปยังหวังเฟย,พูดอะไรไม่ออกเหมือนกัน,"จบแล้ว,นี่ก็เลยว่ามากว่าเกือบหกชั่วโมงแล้ว,หากผ่านไปอีกหน่อย,อีกไม่นานก็จะเช้าแล้ว!"

"ช่างน่าเสียดายจัง."หวังเฟยที่ถอนหายใจเบาๆ.

"ข้ารู้สึกพอใจมากๆ,ไปเถอะ,เข้าไปข้างในตำหนักโหยวหลานเพื่อกินอะไรก่อน."กงจูเฉียนโหยวกล่าว.

"อืม."หวังเฟยพยักหน้า.

จากนั้นสองสาวที่เดินตรงเข้าไปในห้องโถง,ตามด้วยชายอีกสี่คน.

ที่ด้านในนั้นมีการจัดเลี้ยงเหมือนดังเช่นงานเลี้ยงที่ราชวงศ์ราชันย์ต้ายวี,บนโต๊ะอาหารนั้นได้ประดับประดาเหมือนกับที่ตำหนักของอี้เหยี่ยน,มีอาหารที่เหมือนๆกันด้วย.

หวังเฟยที่เข้านั่งโต๊ะอาหาร,"เฉียนโหยว,เจ้าช่างโชคดีจริงๆ,ที่ได้พบจงซาน,ไปหาได้จากที่ใหนกัน."

จงซานที่เผยยิ้มออกมาเล็กน้อย,ทว่าเฉียนโหยวที่เบ้ปากเล็กน้อยแล้วกล่าวว่า,"แต่ช่างน่าเสียดายนักเขาคงจะต้องออกจากครอบครัวของข้าเร็วๆนี้แล้ว."

"หืม?"หวังเฟยที่แสดงท่าทางประหลาดใจ.

จงซานที่ฝืนยิ้มออกมา,นี่กงจูคิดว่าเขาเป็นครอบครัวของนางแล้วเหรอ.
„40 days, the imperial civil service examination, the mister participated, if at the appointed time wins Third Rank, cannot make my Royal Guard again.” Princess Qianyou said.
" 40 วัน,จะมีการสอบเกอจี,เซียนเซิงเองก็เข้าร่วม,หากว่าเขาชนะการสอบครั้งนี้ได้,ก็ไม่ต้องเป็นองค์หลวงให้กับข้าอีกแล้ว."กงจูเฉียนโหยวกล่าว.

ได้ยินคำพูดของกงจูเฉียนโหยว,หวังเฟยที่ชำเลืองมองออกไปยังกงจูเฉียนโหยว,กล่าวออกมาด้วยรอยยิ้ม,"ไม่ได้เป็นองค์รักษ์หลวง,แต่ในอนาคตก็จะกลายเป็นแม่ทัพ,หรือเสนาบดี,ไม่เช่นนั้นแล้ว,จะยืนอยู่เคียงข้างกงจูได้อย่างไรล่ะ?"

"ศิษย์พี่!"กงจูเฉียนโหยวที่ใบหน้าแดงระเรื่อ.

"บุรุษ,ย่อมต้องแสวงหาความกล่าวหน้า,ไม่เช่นนั้นจะมีคุณสมบัติที่จะคว้าสาวงามได้อย่างไร."หวังเฟยที่กล่าวล้อกงจูเฉียนโหยวในทันที.

ใบหน้าของกงจูเฉียนโหยวที่แดงกล่ำ,ทว่าจงซานแสดงท่าทางอักอ่วนเล็กน้อย,หวังเฟยที่กล่าวล้อออกมาตรงๆเลย.

"แต่ว่านะ,ข้าเองก็สงสัยในตัวของเซียนเซิง,ท่านร้ายกาจเพียงพอรึ? การจะได้เป็นหนึ่งในสามเอง,ไม่ใช่เรื่องง่ายนัก,ท่านมั่นใจอย่างงั้นรึ?"หวังเฟยที่กล่าวออกมาด้วยความสงสัยในทันที.

"หืม,ท่านไม่เชื่อก็ลองสอบถามสุ่ยจิงดูสิ."กงจูเฉียนโหยวเอ่ย.

ได้ยินคำพูดของเฉียนโหยวหวังเฟยที่หันหน้าไปยังเซียนเซิงสุ่ยจิงในทันที.

เซียนเซิงสุ่ยจิงที่หันหน้าไปมาหวังเฟยในทันที,"ความสามารถของเซียนเซิงจงซานนั้น,เหนือกว่าผู้น้อยมากนัก!"

"ข้าไม่เชื่อว่าสุ่ยจิง,คงจะไม่จงใจกล่าวอะไรไร้สาระหรอกนะ."หวังเฟยที่ส่ายหน้าไปมาด้วยรอยยิ้ม.

"สุ่ยจิงกล่าวความจริง."เซียนเซิงสุ่ยจิงที่กล่าวออกมาในทันที.

"เซียนเซิงสุ่ยจิงถ่อมตัวไปแล้ว,จงซานจะกล้าเทียบกับเซียนเซิงได้อย่างไรล่ะ?"จงซานที่กล่าวออกมาด้วยรอยยิ้ม.

"อืม,เทียบเหรอ,จริงสิ,สุ่ยจิง,เจ้าเองก็น่าจะเข้าร่วมสอบเกอจีนี้ด้วย."หวังเฟยที่ครุ่นคิดและกล่าวออกมา.

"หืม,ท่านต้องการให้ข้าเข้าร่วมสอบเกอจีอย่างงั้นรึ?"เซียนเซิงสุ่ยจิงที่จ้องมองไปยังหวังเฟย.

"ถูกแล้วเจ้าควรลองเข้าทดสอบดู,หลังจากนี้,อาจจะช่วยเพิ่มอำนาจให้กับฟู่จวินของข้าได้,ไม่เช่นนั้นแล้วการที่เจ้าทำงานเป็นกุนซือให้กับพวกเรา,คงดูไม่เป็นธรรมเท่าใดนัก."หวังเฟยที่เอ่ยออกมาด้วยรอยยิ้ม.

เซียนเซิงสุ่ยจิงที่ฝืนยิ้มออกมา,ได้รับความไม่เป็นธรรมอย่างงั้นรึ?ดูราวกับนางคิดว่า,ภายในใจของข้า,ดูไร้จุดหมาย,ถึงได้เอ่ยปากออกมาอย่างงั้นรึ?

"ได้,สุ่ยจิงจะเชื่อท่าน."เซียนเซิงสุ่ยจิงที่ตอบรับในทันที.

"ดีแล้ว."หวังเฟยที่กล่าวออกมาด้วยรอยยิ้ม.
.............

นับจากการจุดดอกไม้ไฟก็ผ่านมา 20 วันแล้ว.

ร้านเบ็ดเตล็ดในเมืองบรรพกาลศักดิ์สิทธิ์นับว่าได้รับความสนใจไม่น้อย.ดอกไม้ไฟที่ถูกขายออกไปเป็นจำนวนมาก,ซึ่งมีร้านค้ามากมายเริ่มผลิตออกมาขายแข่ง,โคมไฟเองก็ได้รับความนิยม,ซึ่งมีร้านค้าหลายร้านที่ผลิตแข่งไม่น้อย,อย่างไรก็ตาม,ร้านค้าร้านแรกก็นับว่าได้รับความนิยมเป็นจำนวนมากแล้ว.
หลักสำคัญสำหรับจงเจิ้งที่จงซานเคยสอนเรื่องนี้กับเขา."คนอื่นไม่มี เรามี,คนอื่นมี เราถูกกว่า,คนอื่นถูกกว่า เราดีกว่า,คนอื่นดีกว่า เราไม่ขาย."

ตอนนี้ทุกๆร้านที่อยู่ในช่วงเริ่มต้นผลิต,ทำให้ร้านค้าเบ็ดเตล็ดได้รับประโยชน์มากกว่าคนอื่น,ด้วยสินค้าใหม่ที่เพิ่งเคยมี,และสินค้าจากโลกปุถุชนที่มีมากมาย,แปลกตา,สร้างความพึงพอใจต่อลูกค้าในเมืองบรรพกาลศักดิ์สิทธิ์,นอกจากนี้เขายังเปิดสาขาอื่นเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว.

ร้านค้าสาขาต่างๆที่เกิดขึ้นมากมายรวดเร็วราวกับไฟลาม.

ทว่าในเวลาเดียวกันนี้,ที่คฤหาสน์ของกงจูเฉียนโหยว,บรรยากาศที่เปลี่ยนเป็นตรึงเครียดขึ้นมาในทันที.

ภายในตำหนักโหยวหลาน,ซึ่งมีคนสี่คนประชุมกันอยู่,จงซานเฉียนโหยว,อาต้าและอาเอ้อ

"อาเอ้อ,ข่าวที่ได้มานี้เป็นความจริงอย่างงั้นรึ?"กงจูเฉียนโหยวที่กล่าวย้ำอีกครั้ง.

"ครับ,เป็นเรื่องจริงแน่นอน,เซิ่งซ่างเจียงซือ,ที่กัดไป่เย่,ราชวงศ์จักรพรรดิต้าเย่,ตอนนี้ไป่เย่ได้หายไปแล้ว,ราชวงศ์ต้าเย่เองก็ถูกอาณาจักรอื่นๆเข้ามาแย่งชิงแบ่งปันดินแดนกัน,แต่ยังไม่สามารถบอกได้แน่นชัด ,ในเวลานี้,ราชวงศ์ราชันย์ต้ายวีและราชวงศ์ราชันย์อีกสองแห่ง,และยังมีราชวงศ์จักรพรรดิต้าเหยียนที่รวมตัวเข้ากับราชวงศ์จักรพรรดิอื่นๆ,เมื่อไม่นานมานี้,แต่กลับถูกทำลายสิ้นไปแล้ว."อาเอ้อกล่าว.

"ถูกทำลายสิ้น?ราชวงศ์จักรพรรดิสองแห่ง,ถูกทำลายสิ้นอย่างงั้นรึ? ใช้เวลาเท่าไหร่?สองปี?ราชวงศ์จักรพรรดิ์เองก็นับว่าแข็งแกร่งไม่น้อย,ถูกลายไปหมดเลยรึ?"กงจูเฉียนโหยวที่ขมวดคิ้วสอบถาม.

"ต้าเหยียน,ที่จับมือกับราชวงศ์จักรพรรดิอื่น,นับว่าแข็งแกร่ง,ทว่าพวกเขาก็ถูกดินแดนอื่นทำลาย,ราชวงศ์ราชันย์สามแห่ง,เป็นราชวงศ์ราชันย์สามแห่งที่ร่วมมือกัน,การจะทำลายราชวงศ์จักรพรรดิสองแห่ง,ก็ไม่ใช่เรื่องยากอะไร."อาเอ้อกล่าว.

"ราชวงศ์ราชันย์ทั้งสามมีใครบ้าง?"กงจูเฉียนโหยวที่ขมวดคิ้วไปมา.

"ราชวงศ์ราชันย์ต้ายวี,ราชวงศ์ราชันย์ต้ากวง,และยังมีราชวงศ์ราชันย์ต้าเสวิน."อาเอ้อกล่าว.

"ราชวงศ์ราชันย์ต้าเสวินอย่างงั้นรึ?"กงจูเฉียนโหยวที่ขมวดคิ้วไปมาครุ่นคิด.

ทว่าจงซานที่หรี่ตาจ้องมอง,กับข้อมูลที่ได้รับมา,จงซานพบว่ามันรวดเร็วจนผิดปรกติ.

สามราชวงศ์ราชันย์ที่เข้าล้อมกรอบโจมตีสองราชวงศ์จักรพรรดิ,ความจริงก็เป็นเรื่องง่ายๆ,แต่สิ่งสำคัญนั้น,สามราชวงศ์ราชันย์มีเป้าหมายใดกัน.

ราชวงศ์ราชันย์ต้ายวี,ราชวงศ์ราชันย์ต้ากวง,ที่ก่อนหน้านี้,อ๋องจวีลู่และซือจื่อหานจิว,จงซานที่พอรู้จัก,ส่วนราชวงศ์ต้าเสวินนั้น,จงซานเพ่งได้ยิน,และยังเป็นหนึ่งในราชวงศ์ราชันย์ที่ทำการสู้รบกับราชวงศ์สวรรค์ต้าโหลวอีกด้วย.

ราชวงศ์ราชันย์,ทำไมต้องร่วมมือกัน,พวกเขาทำลายราชวงศ์จักรพรรดิทั้งสองเพราะว่าอยู่กั้นกลาง ขวางทางพวกเขาอย่างงั้นรึ?

บางทีอาจกล่าวได้ว่าพวกเขาต้องการขยายดินแดน,หากจะอธิบายละก็,การร่วมมือของราชวงศ์ราชันย์ทั้งสามนี้,อาจจะมุ่งเป้ามายังราชวงศ์สวรรค์ต้าโหลวก็เป็นได้.

ต้ายวีและต้ากวง,คาดไม่ถึงเลยว่าจะร่วมมือกัน?

"ไม่ได้การแล้ว!"กงจูเฉียนโหยวเอ่ย.

"กงจูมีอะไรอย่างงั้นรึ?"อาต้าที่แสดงท่าทางประหลาดใจ.

"ราชวงศ์ราชันย์ต้ายวีและราชวงศ์ราชันย์ต้ากวงร่วมมือกัน."กงจูเฉียนโหยวขมวดคิ้ว.

"ร่วมมือกัน!"อาเอ้อกล่าวออกมาด้วยความสงสัย.

"ไม่ใช่,ข้าหมายถึงที่พวกเขาร่วมมือกันนั้นเพื่อจัดการกับราชวงศ์สวรรค์ต้าโหลวของเรา."กงจูเฉียนโหยวที่ขมวดคิ้วไปมา.

"จัดการกับราชวงศ์สวรรค์ต้าโหลวของพวกเราอย่างงั้นรึ?"อาเอ้อที่กล่าวออกมาด้วยท่าทางประหลาดใจ.

"ราชวงศ์ราชันย์ต้าเสวินนั้นทำสงครามกับพวกเรามาตลอดเวลาอยู่แล้ว,จึงไม่ต้องนับ,ตอนนี้ราชวงศ์ต้าโหลวของพวกเขาที่ต้องเผชิญหน้ากับราชวงศ์ต้ากวงและราชวงศ์ต้ายวีพร้อมๆกัน,สามราชวงศ์ราชันย์ที่ร่วมมือกัน,กลายเป็นว่าเวลานี้พวกเราต้องเผชิญหน้ากับห้าราชวงศ์ราชันย์ที่เข้าปะทะกับพวกเรา."กงจูเฉียนโหยวที่กล่าวออกมาด้วยท่าทางตื่นตกใจ.

"ราชวงศ์ราชันย์ห้าแห่งอย่างงั้นรึ?"อาเอ้อที่สูดหายใจที่เย็นเยือบเข้ามา.

"ใช่แล้ว,บางทีพวกเขาคงจะยกทัพประชิดชายแดน,เริ่มทำสงครามแล้ว,ด้วยการทำลายสองราชวงศ์จักรพรรดิที่กั้นดินแดนพวกเราอยู่,ต้ากวงเวลานี้ก็มีดินแดนเชื่อมต่อกับราชวงศ์สวรรค์ต้าโหลวแล้ว,ห้าราชวงศ์ราชันย์ต้าโหลวที่เข้าโจมตีราชวงศ์สวรรค์ของพวกเรา,นับว่าเป็นเรื่องที่หนักหนาทีเดียว."กงจูเฉียนโหยวที่ขมวดคิ้วและเอ่ยออกมา.

"ประการที่สอง,สิ่งสำคัญ,ไม่รู้ว่าว่ายังมีพวกฉวยโอกาสซ่อนอยู่ในจุดที่มองไม่เห็นอีก."จงซานที่ขมวดคิ้วไปมา.

"เซียนเซิงกล่าวว่ายังมีกลุ่มอิทธิพลอื่นที่ปะปนมาอย่างงั้นรึ?"กงจูเฉียนโหยวเอ่ย.

"ถูกแล้ว,ตอนนี้เป็นใครยังไม่รู้?"จงซานที่ส่ายหน้าไปมา.

"อืม,เช่นนั้นข้าของเข้าพบกับเซิ่งซ่าง,เพื่อสอบถามความคิดเห็นก่อน,จากนั้นค่อยดูท่าทางของเซิ่งซ่างจะสั่งการเช่นไร."กงจูเฉียนโหยวกล่าว.

"อืม."ทุกคนที่พยักหน้ารับ.
.....

หลังจากนั้นยี่สิบวัน,ภายในคฤหาสน์กงจูเฉียนโหยว,ตำหนักโหยวหลาน.

ซึ่งมีจงซาน,เฉียนโหยว,อาต้าและอาเอ้อที่น่านิ่วคิ้วขมวดอยู่.

"กงจู,เป็นเหมือนกับที่ท่านได้คาดการณ์เอาไว้,ได้เกิดสงครามขึ้นที่เมืองอู๋ซวังแล้ว,แม้ว่าตอนนี้จะยังไม่ตกไปอยุ่ในเมือศัตรู,ทว่าก็มีผู้เสียชีวิตเป็นจำนวนมาก,เจ้าเมือง,สุ่ยเทียนหยาได้ตายไปที่แนวหน้าแล้ว."อาเอ้อที่กล่าวพลางถอนหายใจ.

"สุ่ยเทียนหยาตายไปแล้วอย่างงั้นรึ?"อาต้าที่แสดงท่าทางตกใจ.

สุ่ยเทียนหยาเป็นใคร?แน่นอนว่าหลายปีมานี้ไม่ได้พบหน้าเลย,จงซานที่เคยช่วยเขาให้ได้ตำแหน่งเจ้าเมือง? ตายแล้วรึ? คาดไม่ถึงเลยว่าจะตายไปแล้ว?

"ตาย,นับว่าเป็นเรื่องที่เป็นกังวลเกี่ยวกับกลยุทธ์,เมืองอู๋ซวังเวลานี้,คงจะต้านทานได้อีกไม่นาน."อาเอ้อที่ทอดถอนใจ.

"เกรงว่าจะเป็นเช่นนั้น!"จงซานที่ขมวดคิ้วไปมา.

"ใช่แล้ว,สองวันที่แล้ว,บิดาของข้า,ได้ออกไปแนวหน้าแล้ว,ไท่จื่อทั้งสี่เวลานี้ได้ถูกส่องออกไป,เหลือแค่เพียงอ๋องต้าเสวียน,ที่ยังอยู่ในนครบรรพกาลศักดิ์สิทธิ์,ไม่รู้ว่าเขาต้องการทำอะไร,ในเวลานี้เขาได้ซื้อเหล่าขุนนางหลายคนเพื่อเพิ่มอิทธิ,ทั้งที่ราชวงศ์ราชันย์ต้ายวีและราชวงศ์ต้ากวงกำลังบุกเข้าโจมตีอยู่ตอนนี้."กงจูเฉียนโหยวขมวดคิ้วไปมา.

"ที่เขายังอยู่เพื่อรอคอยการสอบเกอจี,หลังจากผ่านการสอบแล้ว,เขาจะนำคนที่ได้รับการคัดเลือกเข้าต้านดินแดนทางใต้อีกครั้ง."จงซานที่สูดหายใจลึก.

"รอคอยหลังจากการสอบเกอจีเสร็จสิ้นอย่างงั้นรึ?"อาต้าที่แสดงท่าทางสงสัย.

"อืม,สงครามทางภาคใต้นั้น,นับว่าค่อนข้างซับซ้อน,อ๋องต้าเสวียนนับว่าลึกล้ำ,เขาต้องการจะให้เหล่าผู้นำรุ่นใหม่เข้าร่วมในครั้งนี้ด้วย,ซึ่งแน่นอนจึงได้รั้งรอจะออกเดินทางหลังจากการสอบเกอจีจบลง,นี่เป็นการคว้าโอกาสและจังหวะ,วางแผนเพื่อผูกพันธะ,คนอื่นๆ,แม้ว่าตอนนี้จะยังอยู่ในเมืองบรรพกาลศักดิ์สิทธิ์,ในเวลานี้,เขาก็ได้สั่งการเคลื่อนทัพออกไปแล้ว,และได้ทำการเตรียมแผนการอีกมากมาย."จงซานที่คิดและกล่าวออกมา.

"ทำไมล่ะ?ทำไมจะต้องรอให้การสอบเกอจีจบลงก่อนล่ะ?"อาเต้าที่แสดงท่าทางสงสัย.

"หลังจากผ่านการสอบเกอจีแล้ว,พวกเจ้าน่าจะรู้."จงซานกล่าว.

"ครับ."อาต้าที่พยักหน้าแต่ก็ยังคงเต็มไปด้วยความสงสัย.

"เซียนเซิง,แล้วพวกเราจะทำอย่างไรดี? ท่านจะเข้าร่วมอย่างงั้นรึ?"กงจูเฉียนโหยวที่แสดงท่าทางเป็นกังวล.

"ทุกอย่างก็ยังคงหลักการของมันอยู่,กงจูไม่จำเป็นต้องกังวล,ไม่ว่าผลการทดสอบจะเป็นอย่างไร,ข้าก็ยังคงเป็นคนของตำหนักกงจูอยู่."จงซานที่เอยออกมาด้วยรอยยิ้ม.

 "อืม!"กงจูเฉียนโหยวที่พยักหน้าอย่างนุ่มนวล,แม้ว่าจะยังคงเป็นกังวล,แต่ก็รู้สึกเบาใจกับคำพูดของจงซาน.

......................................
คนอื่นไม่มี ฉันมี,คนอื่นมี ฉันถูกกว่า,คนอื่นถูกกว่า ฉันดีกว่า,คนอื่นดีกว่า ฉันไม่ขาย.

ใน Harvard, Illinois กลุ่มเด็กมักใช้เวลาว่างในการขายข้าวโพดคั่วบนรถไฟ

เด็กชายวัย 10 ขวบขายของบนรถไฟ เขาได้ทำการขายข้าวโพดคั่วบนรถไฟ โดยสินค้าของเขานั้นได้เพิ่มครีมและเกลือลงในข้าวโพดคั่วเพื่อให้ได้รสชาติอร่อยมากขึ้น แน่นอนว่าข้าวโพดคั่วของเขาขายได้ดีกว่าเด็กคนอื่น ๆ เพราะเขารู้วิธีทำดีกว่าคนอื่น ทำให้เขาประสบความสำเร็จ

เมื่อวันที่มีหิมะตกหนักขวางรถไฟ รถไฟหลายขบวนต้องหยุดวิ่งทำให้มีผู้โดยสารตกค้างเป็นจำนวนมาก เด็กชายก็ได้เร่งรีบเตรียมแซนวิชจำนวนมากและรวบรวมคนพรรคพวกไปยังสถานีรถไฟเพื่อขายแซนวิศ แม้ว่าแซนวิชของเขาไม่ได้ยอดเยี่ยมนัก แต่ผู้โดยสารกำลังหิวโหย,เมื่อมีผู้โดยสารที่หิวโหยมากมายมีความต้องการสูงย่อมขายได้เป็นเทน้ำเทท่า,เขาที่รู้ล่วงหน้าและกระทำการเร็วกว่าผู้อื่นย่อมคว้าโอกาสที่มีได้ ทำให้เขาประสบความสำเร็จได้ก่อนคนอื่น.

เมื่อฤดูร้อนกำลังมาถึง เด็กชายได้ออกแบบกล่องรูปครึ่งดวงจันทร์ที่สามารถห้อยบนที่นั่งได้และแกะสลักรูเล็ก ๆ ไว้ที่ด้านข้างเพื่อเอาไว้วางซองใส่ไข่และวางไอศกรีม เพื่อช่วยลดพื้นที่ขนาดเล็กตรงกลาง ทำให้เขาได้รับความนิยมอย่างมากต่อผู้โดยสาร ทำให้ธุรกิจของเขาได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก เพราะเขารู้วิธีสะดวกมากกว่าคนอื่น ๆ มีนวัตกรรมใหม่ดีกว่าคนอื่นทำให้เขาประสบความสำเร็จ

เมื่อธุรกิจขายของบนสถานีรถไฟกำลังเฟื่องฟูเด็ก ๆ ก็มีเด็กๆจำนวนมากเข้ามาแข่งขัน  เด็กชายก็ตระหนักได้ว่าว่าช่วงเวลาที่ดีนั้นอยู่ได้ไม่นาน,เช่นนั้นเขาก็เลิกกิจการแข่งขันหลังจากได้เงินเป็นจำนวนมากพอแล้ว.

ซึ่งจากนั้นด้วยธุรกิจของเด็กกำลังเริ่มหนักขึ้นและหนักขึ้นเร็ว ๆ สถานีได้ออกมาจัดระเบียบ ทำความสะอาดธุรกิจขนาดเล็กเหล่านี้ แต่เขาก็ไม่ได้รับความเสียหายใด ๆ เพราะเขาลาออกตั้งแต่ต้นเพราะรู้ว่าจะเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ก่อนคนอื่น ๆได้ทันเวลา ทำให้เขาประสบความสำเร็จ

คนที่ดีกว่าคนอื่นในการมองเห็นได้ดีกว่าและจะถอยกลับในเวลาที่เหมาะสม ย่อมสามารถประสบความสำเร็จได้ดีกว่าคนอื่น.

1. เพราะเขารู้วิธีทำดีกว่าคนอื่น   ทำให้เขาประสบความสำเร็จ
2. เพราะเขารู้วิธีการฉวยโอกาสเร็วกว่าคนอื่นการทำให้เขาประสบความสำเร็จ
3. เพราะเขารู้วิธีปรับปรุงพัฒนามากกว่าคนอื่น ๆ นวัตกรรมใหม่จึงทำให้เขาประสบความสำเร็จ

4. เพราะเขารู้ว่าและตระหนักได้ดีกว่าคนอื่น ทำให้เขาประสบความสำเร็จได้




ที่มาจากhttps://lnmtl.com/novel/immortality

#นิยาย เรื่องอมตะ #Immortality#นิยายแปลไทย
Author(s)


สนใจสนับสนุนพวกเรา,เข้าร่วมกลุ่ม VIP ====> Click

***เว็ปฟรีอัพ สองวันหนึ่งตอน
***กลุ่มลับ อัพ 2-3 ตอนต่อวัน.

 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น