วันอาทิตย์ที่ 7 เมษายน พ.ศ. 2562

Miracle Throne Chapter 615 The eye of destiny

Miracle Throne Chapter 615  The eye of destiny

นิยาย บัลลังก์แห่งปาฏิหาริย์ ตอนที่ 615   เนตรแห่งโชคชะตา.


Chapter 615  The eye of destiny
命运之眼
  เนตรแห่งโชคชะตา.

ยักษาเงินที่เงื้อกระบี่ยักขึ้นสูง,ประกายแสงสว่างจ้าที่ปะทุขึ้นทาทันที,ราวกับทะเลและสายน้ำที่ปกคลุมไปทุกพื้นที่,ฉู่เทียนที่ต้องการต้องการหลบเลี่ยงแต่กลับไม่สามารถเคลื่อนไหวได้,พลังของกระบี่ยักษ์ที่ปลดปล่อยแรงกดดันมหาศาลปกคลุมไปทั่ว.

ตูมม ตูมม ตูมม!



ราวกับขุนเขานับร้อยลูกที่กำลังกดลงมาบนพื้น.

ฉู่เทียนที่ถูกกดด้วยแรงกดดันที่หนาแน่นให้อยู่กับที่,แม้แต่นิ้วยังไม่สามารถขยับได้.

ยักษาเงินนั้นมีพลังที่มากมายมหาศาลทรงพลังเป็นอย่างมาก,มือทั้งสองข้างมีกระบี่วิเศษ,ที่กำลังรวบรวมปราณกระบี่สว่างวับวาว,ส่องประกายแสงจ้าบดบังทุกอย่าง,เป็นพลังที่เจิดจ้าสีเงิน,ที่ราวกับว่าจะตัดผ่านท้องฟ้าออกเป็นสองซีกได้.

นี่ไม่ใช่การโจมตีธรรมดา.

ดูเหมือนว่ายักษาเงินจะทำการโจมตีสุดกำลังแล้ว!

ร่างจิตสำนึกนั้นเกิดมาจากสัมผัสเทวะของเทพจันทรา,ตอนนี้มันได้วิวัฒนาการสามารถควบคุมสัมผัสเทวะของเทพจันทราได้อย่างสมบูรณ์แบบ,สามารถที่จะใช้พลังสัมผัสเทวะของเทพวิญญาณบรรพกาลได้,ไม่ต้องบอกเลยว่าเป็นสัมผัสเทวะที่ทรงพลังขนาดใหน,บอกได้เลยว่ามีพลังได้เทียบเท่าครึ่งเทพเจ้าทีเดียว.

การโจมตีครึ่งเทพเจ้า,จะสามารถต้านทานได้อย่างไร?

ก่อนหน้านี้แม้ว่าเทพบรรพกาลจะได้เตือนฉู่เทียนแล้ว,ว่าเนตรที่สิบนั้นไม่สามารถบังคับเปิดได้,ไม่เช่นนั้นแล้วอาจจะได้รับผลที่ร้ายแรงเกินกว่าจะจินตนาการถึงก็เป็นได้!

ทว่าในเวลานี้ยังมีทางเลือกให้ฉู่เทียนอยู่อีกรึ?

ร่างจิตสำนึกของเทพจันทรานั้นมีพลังเหนือล้ำเกินกว่าจะจินตนาการถึงได้,ถึงแม้ว่าจะใช้สัมผัสเทวะทั้งหมดที่เขามี,ก็มีระดับกระจิดริดขั้นอำนาจศักดิ์สิทธิ์เท่านั้น,กับพลังที่แข็งแกร่งเช่นนี้,มีแต่ความตายที่รออยู่,ไร้ซึ่งพลังใดๆจะต้านทาน.

แม้ว่าจะเป็นเรื่องที่เสี่ยงมาก.

อย่างไรก็ต้องลอง.

"ในเมื่อเจ้าแสดงพลังทั้งหมดออกมา,ข้าก็จะแสดงพลังทั้งหมดออกมาเช่นกัน!"

ฉู่เทียนที่ค่อยๆถ่ายพลังควบคุมไปยังภูติวิญญาณช้าๆ,เนตรที่สิบเวลานี้ที่อยู่ในสภาวะปิดแน่น,ฉู่เทียนที่เริ่มกระตุ้นมันให้เปิดออกมา.

ภายนอกโลกจิตสำนึกเวลานี้พลังสัมผัสเทวะได้หายไปไม่สามารถปล่อยออกมาได้อีกแล้ว.

พลังใหม่คือความหวังที่มีอยู่.

ภายในโลกแห่งนี้มีปราสาทขนาดใหญ่เกินพรรณนาและมีรูปแบบที่ซับซ้อนเป็นอย่างมาก,มีวิหารที่ลึกล้ำตั้งตระหง่านอยู่บนผืนปฐพี,วิหารแต่ละแห่งต่างก็มีสีและรูปแบบแตกต่างกันไป,วิหารสีเขียวที่ภายในเต็มไปด้วยพลังแห่งชีวิตที่อัดแน่น,วิหารสีดำทมิฬมีหลุมดำที่ไร้ก้นบึ้ง,วิหารสีขาวที่มีพลังมิติแผ่ออกมาเป็นระยะ,วิหารสีเงินที่มีพลังของเวลาปรากฏออกมา,วิหารสีม่วงที่มีกลิ่นอายของดวงวิญาณ,วิหารสีแดงที่เต็มไปด้วยพลังอันบ้าคลั่ง..."

แน่นอนว่า,ที่นี่ไม่ใช่โลกจริง,นี่คือโลกจิตสำนึก,วิหารแต่ละแห่งคือความสามารถของภูติวิญญาณของฉู่เทียน.

โลกจิตวิญญาณของฉู่เทียนนี้,มีวิหารอยู่สิบแห่ง,ซึ่งก็คือพลังทั้งสิบที่ฉู่เทียนมี,วิหารเก้าแห่งซึ่งประตูด้านหน้าได้เปิดออกมาแล้ว,พร้อมกับปล่อยกลิ่นอายและพลังออกมาไม่หยุดหย่อน.

ยกเว้นวิหารที่พิเศษแห่งหนึ่ง.

วิหารทั้งเก้านั้นต่างก็ตั้งตระหง่านอยู่ไม่เชื่อมต่อกันและกัน,แต่ละแห่งเป็นอิสระต่อกัน,และวิหารที่สิบที่เห็นได้ชัดเจนว่ามีขนาดเล็กกว่าเพื่อน,ที่ประตูนั้นมีโซ่พันธมิตรการเอาไว้อยู่.

พลังของเนตรที่สิบ!

"จงเปิดออก,ปลดปล่อยพลังของเจ้าออกมาซะ!"

ฉู่เทียนที่ควบคุมกระบี่วิเศษสีดำทมิฬที่มีเพลิงสีขาวม่วง,พร้อมกับปลดปล่อยพลังที่วับวาวขนาดใหญ่,ก่อนที่จะสับลงไปยังโซ่พันธนการเสียงดังสนั่น,พลังที่มากมายมหาศาลที่กระแทกลงไป,ทว่ากลับทำได้แค่เพียงสร้างรอยข่วนเล็กๆบนโซ่ดังกล่าวเท่านั้น,กระบี่สีดำทมิฬที่สั่นสะท้านกระเด็นลอยออกมา.

บัดซบ!

คาดไม่ถึงเลยว่าโซ่พันธมิตรการนี้จะทรงพลังขนาดนี้?

ฉู่เทียนที่รู้ดีว่าตอนนี้ยืนอยู่บนขอบเหวแห่งความตายแล้ว,ดังนั้นเขาจึงไม่มีเวลาได้คิดใคร่ครวญอะไรนัก.

ฉู่เทียนที่กุมกระบี่สีดำทมิฬยกสูงขึ้นอีกครั้ง,วิหารทั้งเก้าหลังเวลานี้กำลังสั่นสะเทือนไม่หยุด,แต่ละแห่งที่ปลดปล่อยพลังเทพอสูรออกมา,ตอนนี้กำลังหมุนวนอยู่รอบๆศีรษะของเขา,พลังเก้าสายที่เหมือนกับมังกรวารีที่กำลังโคจรอย่างบ้าคลั่ง,พร้อมกับแผ่พุ่งพลังเข้าไปในกระบี่สีดำทมิฬ.

"พังทลายไปซะ!"

ฉู่เทียนที่รวบรวมพลังเทพอสูรเก้าดวงเนตรผนึกลงไปในกระบี่ก่อนที่จะสับลงไปยังโซ่พันธนาการอีกครั้ง,ซึ่งในเวลานี้เริ่มเกิดรอยร้าวไปทั่วโซ่พันธนาการดังกล่าว,ที่จริงแล้วมีพลังที่แข็งแกร่งมากๆกำลังผลักดันออกมาจากด้านใน,ฉู่เทียนที่ถอยห่างออกมาหลายเมตร,วิหารทั้งเก้าเองก็สั่นไหยุด,หากไม่เพราะภูติวิญญาณของฉู่เทียนนั้นน่าสะพรึงกลัว,หากว่าเป็นเพียงภูติวิญญาณระดับเทพเจ้าธรรมดาๆเท่านั้น,คงจะพังทลายไปแล้ว!

"เปิดออกมาเพื่อข้า!"

ฉู่เทียนรู้ดี,ในเมื่อทำสำเร็จแล้ว,ก็ไม่มีอะไรให้ต้องเสียใจแล้ว.

พลังที่หลังไหลออกมาจากวิหาร,เป็นพลังที่หนาแน่นที่กำลังหลั่งไหล่ออกมาจากประตูที่ยิ่งใหญ่,เป็นพลังหนึ่งสายทะลวงออกมาเป็นช่อง,และกำลังไหลซึมออกมาจากรอยแตก,แสงที่สว่างจ้าจากด้านใน,ราวกับเข็มนับพันเล่ม,ซึ่งในเวลานี้กำลังปกคลุมไปทั่วร่างของฉู่เทียน.

น่าเกรงขามมาก!

ทรงพลังเป็นอย่างมาก!

ถึงกับทำให้ฉู่เทียนลอยออกไปหลายร้อยเมตร.

พลังที่กำลังสั่นสะเทือนไปทั่วโลกจิตวิญญาณ,ผืนปฐพีกำลังสั่นไหวอย่างรุนแรง,เกิดเป็นแผ่นดินแตกแยกออกไปหลายแสนรอย,แทบจะกระจายไปทั่วโลกจิตวิญญาณของฉู่เทียน,จิตวิญญาณของฉู่เทียนกำลังสั่นสะเทือนอย่างหนัก,พลังที่เผยออกมานี้,เป็นพลังที่น่าเกรงขามกว่าปกติสิบเท่า.

วิหารทั้งเก้าเวลานี้กำลังส่องประกายแสงสว่างจ้า.

ก่อนที่จะยับยั้งการแตกกระจายของพลังที่น่าเกรงขามนั้นเอาไว้,เพื่อป้องกันการล่มสลายของโลกจิตวิญญาณ.

และยังช่วยรักษาชีวิตของฉู่เทียนเอาไว้ด้วยเช่นกัน,ทว่าดวงวิญญาณของเขาได้รับความเสียหายหนักเช่นกัน,บางทีการฝึกฝนวิชาในอนาคตอาจจะมีความบอบช้ำที่ซ่อนเรื้อรังที่อาจะมีอันตรายอย่างใหญ่หลวงซ่อนเอาไว้ ,นี่คงจะเป็นราคาที่ต้องจ่ายไปในการบังคับเปิดเนตรที่สิบ.

นับว่าต้องจ่ายไปไม่น้อยเช่นกัน.

แม้ว่าฉู่เทียนจะเปิดออกมาเพียงแค่รอยแตกเล็กน้อยของประตูเท่านั้น.

ฉู่เทียนที่ออกมาจากโลกจิตวิญญาณ,กลับเข้ามาสู่โลกของสัมผัสเทวะ.

ประตูของเนตรที่สิบนั้นดูเหมือนว่าจะไม่สามารถเปิดได้ตลอด,ที่จริงสามารถเปิดได้แค่เพียงพริบตาเดียวเท่านั้น,กระบี่ยักสีเงินที่กำลังฟันมายังด้านหน้าของเขา,ซึ่งในมือของยักษาเงินนั้นไม่ใช่กระบี่,แต่มันกลายเป็นทางช้างเผือกที่ส่องประกายสดใส,มีพลังที่เหนือล้ำกำลังพุ่งตรงมายังร่างของฉู่เทียน.

การโจมตีนี้ทำให้ผืนสวรรค์สะท้านปฐพีสะเทือน.

บางทีแม้แต่ตัวตนราชาจักรพรรดิก็ยังยากที่จะต้านทาน!

ฉู่เทียนที่กำลังจ้องมองออกไป,ภูติวิญญาณเทพอสูรเก้าดวงเนตรที่กำลังปิดดวงตาทั้งเก้า,พร้อมกับพริบตานั้นมีดวงตาเล็กที่เปิดเป็นช่องเล็กน้อย,แทบจะมองไม่เห็น,ดวงตาทั้งสองข้างของฉู่เทียนที่ราวกับว่ามันได้หายไป,เห็นเป็นเหมือนกับอวกาศที่ว่างเปล่า,เป็นมิติที่ว่างเปล่า,เป็นพลังของกาลอวกาศ,ที่มีดวงดารานับหมื่น,รวมทั้งโลกใบนี้ด้วย,เป็นเหมือนกับจักรวาลที่กว้างใหญ่.

ประกายแสงสีเงินที่หยุดนิ่งอยู่ด้านหน้าของฉู่เทียน.

ทางช้างเผือกที่ทรงพลังกำลังถูกแช่แข็งหยุดนิ่ง.

แม้ว่าพลังจากทางช้างเผือกนั้นจะกว้างใหญ่ไพศาล,ทว่ากลับไร้ซึ่งความสามารถใดๆ.

พลังที่ไม่สามารถมองเห็นได้,กระบี่ยักษ์สีเงินที่ตอนนี้กำลังถูกฉีกกระชากพังทลายลงไปทันที,พลังที่หนาแน่นกำลังแห้งเหือดไปด้วยความร้อนสูง,พลังทำลายของสัมผัสเทวะที่สามารถตัดโลกให้ขาดเป็นส่องท่อน,คาดไม่ถึงเลยว่าพลังที่เหนือล้ำเกินกว่าจะจินตนการถึงนั้น,กลับพังทลายลงด้วยพลังที่มองไม่เห็น.

ร่างของยักษาเงินที่กำลังแกว่งไปแกว่งมา.

ราวกับว่าร่างกายของมันมีอารมณ์ความรู้สึก,กำลังหวาดกลัวอย่างสุดซึ้ง,แม้ว่าจะเป็นเพียงแค่ร่างจิตสำนึกที่ไม่มีประสบการต่อสู้ก็ตาม,อย่างไรก็ยังมีความทรงจำของเทพจันทราเหลือเอาไว้อยู่บ้าง,ถึงแม้ว่าจะเป็นเทพจันทราเองเมื่ออยู่ต่อหน้าพลังนี้ยังต้องหวาดกลัว,ลำพังแค่สัมผัสเทวะที่เหลืออยู่ของเทพจันทราจะไม่หวาดกลัวได้อย่างไร?

เป็นพลังที่เหนือกว่าพลังธาตุทุกธาตุ,เหนือกว่าภูติวิญญาณทุกตน,เหนือกว่าดวงวิญญาณทุกตน,เหนือกว่าพลังของกาลอากาศและเวลา,เหนือกว่าสิ่งมีชีวิตที่มีทั้งหมด,เหนือกว่าทุกสรรพสิ่งที่มี,เป็นพลังที่ควบคุมทุกสิ่งมีชีวิต,ควบคุมเวลาและกาลอวกาศ.

เป็นพลังที่ยืนอยู่เหนือพลังทั้งปวง!

ถึงแม้ว่าจะเป็นเทพวิญญาณที่น่าเกรงขามก็ยากจะต้าน!

พลังที่ไม่มีใครสามารถบรรยายได้ถูกต้อง.


ทุกคนทั้งหมดทั้งมวลต่างก็เรียกมันว่า โชคชะตา!





ที่มาจากhttps://lnmtl.com/novel/miracle-throne

#นิยาย บัลลังก์แห่งปาฏิหาริย์ #Miracle throne#นิยายแปลไทย



สนใจสนับสนุนพวกเรา เข้าร่วมกลุ่ม VIP (สถานปัจจุบัน แปลจบ 658 แล้ว)==>  Click


-เว็ปฟรี วันละหนึ่งตอน

-กรุ๊ป vip ลงครบทุกลุ่มแล้ว

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น