Miracle Throne Chapter 615 The eye of destiny
นิยาย บัลลังก์แห่งปาฏิหาริย์ ตอนที่ 615 เนตรแห่งโชคชะตา.
Chapter 615 The eye of destiny
命运之眼
เนตรแห่งโชคชะตา.
ยักษาเงินที่เงื้อกระบี่ยักขึ้นสูง,ประกายแสงสว่างจ้าที่ปะทุขึ้นทาทันที,ราวกับทะเลและสายน้ำที่ปกคลุมไปทุกพื้นที่,ฉู่เทียนที่ต้องการต้องการหลบเลี่ยงแต่กลับไม่สามารถเคลื่อนไหวได้,พลังของกระบี่ยักษ์ที่ปลดปล่อยแรงกดดันมหาศาลปกคลุมไปทั่ว.
ตูมม ตูมม ตูมม!
ราวกับขุนเขานับร้อยลูกที่กำลังกดลงมาบนพื้น.
ฉู่เทียนที่ถูกกดด้วยแรงกดดันที่หนาแน่นให้อยู่กับที่,แม้แต่นิ้วยังไม่สามารถขยับได้.
ยักษาเงินนั้นมีพลังที่มากมายมหาศาลทรงพลังเป็นอย่างมาก,มือทั้งสองข้างมีกระบี่วิเศษ,ที่กำลังรวบรวมปราณกระบี่สว่างวับวาว,ส่องประกายแสงจ้าบดบังทุกอย่าง,เป็นพลังที่เจิดจ้าสีเงิน,ที่ราวกับว่าจะตัดผ่านท้องฟ้าออกเป็นสองซีกได้.
นี่ไม่ใช่การโจมตีธรรมดา.
ดูเหมือนว่ายักษาเงินจะทำการโจมตีสุดกำลังแล้ว!
ร่างจิตสำนึกนั้นเกิดมาจากสัมผัสเทวะของเทพจันทรา,ตอนนี้มันได้วิวัฒนาการสามารถควบคุมสัมผัสเทวะของเทพจันทราได้อย่างสมบูรณ์แบบ,สามารถที่จะใช้พลังสัมผัสเทวะของเทพวิญญาณบรรพกาลได้,ไม่ต้องบอกเลยว่าเป็นสัมผัสเทวะที่ทรงพลังขนาดใหน,บอกได้เลยว่ามีพลังได้เทียบเท่าครึ่งเทพเจ้าทีเดียว.
การโจมตีครึ่งเทพเจ้า,จะสามารถต้านทานได้อย่างไร?
ก่อนหน้านี้แม้ว่าเทพบรรพกาลจะได้เตือนฉู่เทียนแล้ว,ว่าเนตรที่สิบนั้นไม่สามารถบังคับเปิดได้,ไม่เช่นนั้นแล้วอาจจะได้รับผลที่ร้ายแรงเกินกว่าจะจินตนาการถึงก็เป็นได้!
ทว่าในเวลานี้ยังมีทางเลือกให้ฉู่เทียนอยู่อีกรึ?
ร่างจิตสำนึกของเทพจันทรานั้นมีพลังเหนือล้ำเกินกว่าจะจินตนาการถึงได้,ถึงแม้ว่าจะใช้สัมผัสเทวะทั้งหมดที่เขามี,ก็มีระดับกระจิดริดขั้นอำนาจศักดิ์สิทธิ์เท่านั้น,กับพลังที่แข็งแกร่งเช่นนี้,มีแต่ความตายที่รออยู่,ไร้ซึ่งพลังใดๆจะต้านทาน.
แม้ว่าจะเป็นเรื่องที่เสี่ยงมาก.
อย่างไรก็ต้องลอง.
"ในเมื่อเจ้าแสดงพลังทั้งหมดออกมา,ข้าก็จะแสดงพลังทั้งหมดออกมาเช่นกัน!"
ฉู่เทียนที่ค่อยๆถ่ายพลังควบคุมไปยังภูติวิญญาณช้าๆ,เนตรที่สิบเวลานี้ที่อยู่ในสภาวะปิดแน่น,ฉู่เทียนที่เริ่มกระตุ้นมันให้เปิดออกมา.
ภายนอกโลกจิตสำนึกเวลานี้พลังสัมผัสเทวะได้หายไปไม่สามารถปล่อยออกมาได้อีกแล้ว.
พลังใหม่คือความหวังที่มีอยู่.
ภายในโลกแห่งนี้มีปราสาทขนาดใหญ่เกินพรรณนาและมีรูปแบบที่ซับซ้อนเป็นอย่างมาก,มีวิหารที่ลึกล้ำตั้งตระหง่านอยู่บนผืนปฐพี,วิหารแต่ละแห่งต่างก็มีสีและรูปแบบแตกต่างกันไป,วิหารสีเขียวที่ภายในเต็มไปด้วยพลังแห่งชีวิตที่อัดแน่น,วิหารสีดำทมิฬมีหลุมดำที่ไร้ก้นบึ้ง,วิหารสีขาวที่มีพลังมิติแผ่ออกมาเป็นระยะ,วิหารสีเงินที่มีพลังของเวลาปรากฏออกมา,วิหารสีม่วงที่มีกลิ่นอายของดวงวิญาณ,วิหารสีแดงที่เต็มไปด้วยพลังอันบ้าคลั่ง..."
แน่นอนว่า,ที่นี่ไม่ใช่โลกจริง,นี่คือโลกจิตสำนึก,วิหารแต่ละแห่งคือความสามารถของภูติวิญญาณของฉู่เทียน.
โลกจิตวิญญาณของฉู่เทียนนี้,มีวิหารอยู่สิบแห่ง,ซึ่งก็คือพลังทั้งสิบที่ฉู่เทียนมี,วิหารเก้าแห่งซึ่งประตูด้านหน้าได้เปิดออกมาแล้ว,พร้อมกับปล่อยกลิ่นอายและพลังออกมาไม่หยุดหย่อน.
ยกเว้นวิหารที่พิเศษแห่งหนึ่ง.
วิหารทั้งเก้านั้นต่างก็ตั้งตระหง่านอยู่ไม่เชื่อมต่อกันและกัน,แต่ละแห่งเป็นอิสระต่อกัน,และวิหารที่สิบที่เห็นได้ชัดเจนว่ามีขนาดเล็กกว่าเพื่อน,ที่ประตูนั้นมีโซ่พันธมิตรการเอาไว้อยู่.
พลังของเนตรที่สิบ!
"จงเปิดออก,ปลดปล่อยพลังของเจ้าออกมาซะ!"
ฉู่เทียนที่ควบคุมกระบี่วิเศษสีดำทมิฬที่มีเพลิงสีขาวม่วง,พร้อมกับปลดปล่อยพลังที่วับวาวขนาดใหญ่,ก่อนที่จะสับลงไปยังโซ่พันธนการเสียงดังสนั่น,พลังที่มากมายมหาศาลที่กระแทกลงไป,ทว่ากลับทำได้แค่เพียงสร้างรอยข่วนเล็กๆบนโซ่ดังกล่าวเท่านั้น,กระบี่สีดำทมิฬที่สั่นสะท้านกระเด็นลอยออกมา.
บัดซบ!
คาดไม่ถึงเลยว่าโซ่พันธมิตรการนี้จะทรงพลังขนาดนี้?
ฉู่เทียนที่รู้ดีว่าตอนนี้ยืนอยู่บนขอบเหวแห่งความตายแล้ว,ดังนั้นเขาจึงไม่มีเวลาได้คิดใคร่ครวญอะไรนัก.
ฉู่เทียนที่กุมกระบี่สีดำทมิฬยกสูงขึ้นอีกครั้ง,วิหารทั้งเก้าหลังเวลานี้กำลังสั่นสะเทือนไม่หยุด,แต่ละแห่งที่ปลดปล่อยพลังเทพอสูรออกมา,ตอนนี้กำลังหมุนวนอยู่รอบๆศีรษะของเขา,พลังเก้าสายที่เหมือนกับมังกรวารีที่กำลังโคจรอย่างบ้าคลั่ง,พร้อมกับแผ่พุ่งพลังเข้าไปในกระบี่สีดำทมิฬ.
"พังทลายไปซะ!"
ฉู่เทียนที่รวบรวมพลังเทพอสูรเก้าดวงเนตรผนึกลงไปในกระบี่ก่อนที่จะสับลงไปยังโซ่พันธนาการอีกครั้ง,ซึ่งในเวลานี้เริ่มเกิดรอยร้าวไปทั่วโซ่พันธนาการดังกล่าว,ที่จริงแล้วมีพลังที่แข็งแกร่งมากๆกำลังผลักดันออกมาจากด้านใน,ฉู่เทียนที่ถอยห่างออกมาหลายเมตร,วิหารทั้งเก้าเองก็สั่นไหยุด,หากไม่เพราะภูติวิญญาณของฉู่เทียนนั้นน่าสะพรึงกลัว,หากว่าเป็นเพียงภูติวิญญาณระดับเทพเจ้าธรรมดาๆเท่านั้น,คงจะพังทลายไปแล้ว!
"เปิดออกมาเพื่อข้า!"
ฉู่เทียนรู้ดี,ในเมื่อทำสำเร็จแล้ว,ก็ไม่มีอะไรให้ต้องเสียใจแล้ว.
พลังที่หลังไหลออกมาจากวิหาร,เป็นพลังที่หนาแน่นที่กำลังหลั่งไหล่ออกมาจากประตูที่ยิ่งใหญ่,เป็นพลังหนึ่งสายทะลวงออกมาเป็นช่อง,และกำลังไหลซึมออกมาจากรอยแตก,แสงที่สว่างจ้าจากด้านใน,ราวกับเข็มนับพันเล่ม,ซึ่งในเวลานี้กำลังปกคลุมไปทั่วร่างของฉู่เทียน.
น่าเกรงขามมาก!
ทรงพลังเป็นอย่างมาก!
ถึงกับทำให้ฉู่เทียนลอยออกไปหลายร้อยเมตร.
พลังที่กำลังสั่นสะเทือนไปทั่วโลกจิตวิญญาณ,ผืนปฐพีกำลังสั่นไหวอย่างรุนแรง,เกิดเป็นแผ่นดินแตกแยกออกไปหลายแสนรอย,แทบจะกระจายไปทั่วโลกจิตวิญญาณของฉู่เทียน,จิตวิญญาณของฉู่เทียนกำลังสั่นสะเทือนอย่างหนัก,พลังที่เผยออกมานี้,เป็นพลังที่น่าเกรงขามกว่าปกติสิบเท่า.
วิหารทั้งเก้าเวลานี้กำลังส่องประกายแสงสว่างจ้า.
ก่อนที่จะยับยั้งการแตกกระจายของพลังที่น่าเกรงขามนั้นเอาไว้,เพื่อป้องกันการล่มสลายของโลกจิตวิญญาณ.
และยังช่วยรักษาชีวิตของฉู่เทียนเอาไว้ด้วยเช่นกัน,ทว่าดวงวิญญาณของเขาได้รับความเสียหายหนักเช่นกัน,บางทีการฝึกฝนวิชาในอนาคตอาจจะมีความบอบช้ำที่ซ่อนเรื้อรังที่อาจะมีอันตรายอย่างใหญ่หลวงซ่อนเอาไว้
,นี่คงจะเป็นราคาที่ต้องจ่ายไปในการบังคับเปิดเนตรที่สิบ.
นับว่าต้องจ่ายไปไม่น้อยเช่นกัน.
แม้ว่าฉู่เทียนจะเปิดออกมาเพียงแค่รอยแตกเล็กน้อยของประตูเท่านั้น.
ฉู่เทียนที่ออกมาจากโลกจิตวิญญาณ,กลับเข้ามาสู่โลกของสัมผัสเทวะ.
ประตูของเนตรที่สิบนั้นดูเหมือนว่าจะไม่สามารถเปิดได้ตลอด,ที่จริงสามารถเปิดได้แค่เพียงพริบตาเดียวเท่านั้น,กระบี่ยักสีเงินที่กำลังฟันมายังด้านหน้าของเขา,ซึ่งในมือของยักษาเงินนั้นไม่ใช่กระบี่,แต่มันกลายเป็นทางช้างเผือกที่ส่องประกายสดใส,มีพลังที่เหนือล้ำกำลังพุ่งตรงมายังร่างของฉู่เทียน.
การโจมตีนี้ทำให้ผืนสวรรค์สะท้านปฐพีสะเทือน.
บางทีแม้แต่ตัวตนราชาจักรพรรดิก็ยังยากที่จะต้านทาน!
ฉู่เทียนที่กำลังจ้องมองออกไป,ภูติวิญญาณเทพอสูรเก้าดวงเนตรที่กำลังปิดดวงตาทั้งเก้า,พร้อมกับพริบตานั้นมีดวงตาเล็กที่เปิดเป็นช่องเล็กน้อย,แทบจะมองไม่เห็น,ดวงตาทั้งสองข้างของฉู่เทียนที่ราวกับว่ามันได้หายไป,เห็นเป็นเหมือนกับอวกาศที่ว่างเปล่า,เป็นมิติที่ว่างเปล่า,เป็นพลังของกาลอวกาศ,ที่มีดวงดารานับหมื่น,รวมทั้งโลกใบนี้ด้วย,เป็นเหมือนกับจักรวาลที่กว้างใหญ่.
ประกายแสงสีเงินที่หยุดนิ่งอยู่ด้านหน้าของฉู่เทียน.
ทางช้างเผือกที่ทรงพลังกำลังถูกแช่แข็งหยุดนิ่ง.
แม้ว่าพลังจากทางช้างเผือกนั้นจะกว้างใหญ่ไพศาล,ทว่ากลับไร้ซึ่งความสามารถใดๆ.
พลังที่ไม่สามารถมองเห็นได้,กระบี่ยักษ์สีเงินที่ตอนนี้กำลังถูกฉีกกระชากพังทลายลงไปทันที,พลังที่หนาแน่นกำลังแห้งเหือดไปด้วยความร้อนสูง,พลังทำลายของสัมผัสเทวะที่สามารถตัดโลกให้ขาดเป็นส่องท่อน,คาดไม่ถึงเลยว่าพลังที่เหนือล้ำเกินกว่าจะจินตนการถึงนั้น,กลับพังทลายลงด้วยพลังที่มองไม่เห็น.
ร่างของยักษาเงินที่กำลังแกว่งไปแกว่งมา.
ราวกับว่าร่างกายของมันมีอารมณ์ความรู้สึก,กำลังหวาดกลัวอย่างสุดซึ้ง,แม้ว่าจะเป็นเพียงแค่ร่างจิตสำนึกที่ไม่มีประสบการต่อสู้ก็ตาม,อย่างไรก็ยังมีความทรงจำของเทพจันทราเหลือเอาไว้อยู่บ้าง,ถึงแม้ว่าจะเป็นเทพจันทราเองเมื่ออยู่ต่อหน้าพลังนี้ยังต้องหวาดกลัว,ลำพังแค่สัมผัสเทวะที่เหลืออยู่ของเทพจันทราจะไม่หวาดกลัวได้อย่างไร?
เป็นพลังที่เหนือกว่าพลังธาตุทุกธาตุ,เหนือกว่าภูติวิญญาณทุกตน,เหนือกว่าดวงวิญญาณทุกตน,เหนือกว่าพลังของกาลอากาศและเวลา,เหนือกว่าสิ่งมีชีวิตที่มีทั้งหมด,เหนือกว่าทุกสรรพสิ่งที่มี,เป็นพลังที่ควบคุมทุกสิ่งมีชีวิต,ควบคุมเวลาและกาลอวกาศ.
เป็นพลังที่ยืนอยู่เหนือพลังทั้งปวง!
ถึงแม้ว่าจะเป็นเทพวิญญาณที่น่าเกรงขามก็ยากจะต้าน!
พลังที่ไม่มีใครสามารถบรรยายได้ถูกต้อง.
ทุกคนทั้งหมดทั้งมวลต่างก็เรียกมันว่า โชคชะตา!
ที่มาจากhttps://lnmtl.com/novel/miracle-throne
#นิยาย บัลลังก์แห่งปาฏิหาริย์ #Miracle throne#นิยายแปลไทย
สนใจสนับสนุนพวกเรา เข้าร่วมกลุ่ม VIP (สถานปัจจุบัน แปลจบ 658 แล้ว)==> Click
-เว็ปฟรี วันละหนึ่งตอน
-กรุ๊ป vip ลงครบทุกลุ่มแล้ว
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น