วันอาทิตย์ที่ 7 เมษายน พ.ศ. 2562

Miracle Throne Chapter 613 The gods know the crystallization

Miracle Throne Chapter 613  The gods know the crystallization

นิยาย บัลลังก์แห่งปาฏิหาริย์ ตอนที่ 613   การตกผลึกของสัมผัสเทวะเทพจันทรา.


Chapter 613  The gods know the crystallization
识结
  การตกผลึกของสัมผัสเทวะเทพจันทรา.

ความแข็งแกร่งของเทพอารักษ์จันทรานั้นแข็งแกร่งเป็นอย่างมาก,แม้ทุกๆคนที่มาด้วยกับฉู่เทียน,จะไม่ได้อ่อนแอเลย,แต่ก็ยังไม่สามารถเทียบได้กับเทพอารักษ์ของเทพจันทรา,ราชาเอลฟ์ราตรีเยว่ไหน่ซือที่มีพลังอาณาจักรสวรรค์ระดับ 9 ขั้นปลาย,มีพลังที่เหนือกว่าล้ำเกินกว่าจะคาดได้,แม้ว่าจะสามารถยับยั้งเทพอารักษ์ได้.



อย่างไรก็ตามก็เพียงแค่ชั่วคราวเท่านั้น.

เทพอารักษ์จันทรานี้เป็นอสุรกายที่ไม่สามารถสังหารได้.

หนำซ้ำอัตราฟื้นฟูกลับมาเป็นปรกตินั้นเร็วกว่าอสุรกายจันทราปกตินับร้อยเท่า,ด้วยการต่อสู้ที่มีเสียงดังสนั่น,ทำให้เทพอารักษ์จากที่อื่นๆตอนนี้ถูกดึงเข้ามา,ตอนนี้มีเทพอารักษ์จันทรามากขึ้นเรื่อยๆ,คาดไม่ถึงเลยว่าจะมีมากขนาดนี้.

และทุกตัวต่างก็มีพลังอาณาจักรสวรรค์ระดับ 7 เกือบทุกตัว!

ทุกคนในเวลานี้สัมผัสได้ถึงแรงกันดันอันหนักหน่วงขึ้นมาในทันที,เยว่ไหน่ซือเองก็ไม่คิดเลยว่าเทพอารักษ์จันทรานั้นจะแข็งแกร่งขนาดนี้,เขาไม่สามารถที่จะป้องกันเอาไว้ได้อีกต่อไป,"เทพอารักษ์จันทราที่เฝ้าขุมทรัพย์เทพจันทราแข็งแกร่งเกินไป,ลำพังพวกเราคงไม่สามารถทำอะไรได้แน่,มีแต่จะพบกับอันตราย,ทางทีดีถอยก่อนค่อยนำผู้เชี่ยวชาญมากกว่านี้ค่อยมาสำรวจอีกทีดีหรือไม่?"

ทุกคนต่างก็พยักหน้าเห็นด้วย.

แม้ว่าขุมทรัพย์เทพจันทราจะน่าสนใจเป็นอย่างมาก,ทว่าด้วยสถานการณ์ในเวลานี้ไม่มีทางเลือกจะต้องถอยก่อนชั่วคราว.

ภายในวิหารเทพจันทรานั้นนอกจากเทพอารักษ์แล้ว,ใครจะรู้ล่ะว่ายังมีอันตรายอื่นใดซ่อนอยู่อีก?

นี่คือทรัพยากรของเทพจันทราที่มีมาตั้งแต่ยุคเทพบรรพกาล!

ด้วยระบบป้องกันของวิหารเทพจันทราเวลานี้เป็นไปไม่ได้เลยที่คนกลุ่มเดียวจะสามารถผ่านเข้าไปได้.

หากว่าคาดเดาไม่ผิดล่ะก็,ยิ่งเข้าไปด้านใน,ก็จะยิ่งมีค่ายกลและอสูรผู้พิทักษ์ที่แข็งแกร่งรออยู่,ในเวลานี้เหล่าเทพอารักษ์จันทรา,ที่กำลังไล่พวกเขาออกมายิ่งยื้อต่อไปอาจจะยิ่งทำให้พวกเขาวิ่งไปติดกับดักได้,ถึงแม้ว่าเยว่ไหน่ซือจะแข็งแกร่ง,บางทีก็คงจะเข้าสู่สภาวะวิกฤติจนไม่สามารถหลบหนีได้อีกต่อไป!

เยว่ไหน่ซือและคนอื่นๆตกลงใจที่จะถอยออกไปก่อน.

ใครจะรู้ว่าในเวลานั้น,ฉู่เทียนที่อ่อนแอที่สุดในกลุ่มจะไม่เห็นด้วย,"อย่าเพิ่งตกใจไป,ข้าคิดว่าข้ามีวิธี! ระบบป้องกันของวิหารจันทราแห่งนี้นั้น,ที่จริงแล้วเกิดจากกระบวนการทำงานสัมผัสทวะของเทพจันทราที่เหลือไว้เป็นตัวควบคุม,ดังนั้นหากว่าพวกเราสามารถทำให้สัมผัสเทวะของเทพจันทราแตกออกเป็นเสี่ยงๆ,ระบบป้องกันวิหารจันทราก็จะพังทลายไปด้วย."

"ถึงจะเป็นเป็นเช่นนั้นก็ตาม,ทว่าคิดว่าจะทำให้สำเร็จง่ายๆอย่างงั้นรึ?"เยว่ไหน่ซือไม่เห็นด้วยกับการที่ฉู่เทียนจะเสี่ยง,"นอกจากนี้ยังมีกับดักอีกมากมาย,ไม่ได้มีแค่เทพอารักษ์จันทราหรอกนะ,บางทีพวกเราคงไม่สามารถจัดการได้."

พลังป้องกันของเทพเจ้านั้นไร้ที่สิ้นสุด,ไม่มีทางที่จะถูกทำลายไปง่ายๆ.

ตอนนี้พวกเขาเริ่มต้านไม่ไหวแล้ว,หนำซ้ำจำนวนของเทพอารักษ์ยังเพิ่มขึ้นมาเรื่อยๆ,แน่นอนว่ายิ่งปล่อยไว้นานก็ยิ่งเสี่ยงขึ้นไปอีก.

ฉู่เทียนที่ไม่ได้กล่าวสิ่งใด,จิ้งจอกน้อยที่ลงมือทันที,ทุกคนไม่รู้ว่าเกิดสิ่งใดขึ้น,จิ้งจอกน้อยที่กระโดดลอยบนอากาศ,ก่อนที่จะร่ายคาถาผนึกออกมา,อาคมเหล่านั้นเหมือนกับอุกกาบาติที่ร่วงหล่นลงไปยังเหล่าเทพอารักษ์จันทรา,ซึ่งทำให้ทุกคนรู้สึกประหลาดใจเป็นอย่างมาก,เมื่อเหล่าเทพอารักษ์นั้นไม่สามารถที่จะขยับได้อีกต่อไป.

จากนั้นน่าจะราวๆ 4-5 วินาทีหลังจากนั้น.

ร่างของพวกมันที่ระเบิดออกมาเป็นเสี่ยงๆ,ชิ้นส่วนของพวกมันในเวลานี้ถูกจิ้งจอกน้อยดูดซับเข้ามา,ซึ่งทำให้ร่างของจิ้งจอกน้อยขยายขึ้นมาหลายร้อยเท่า,และหางที่โผล่ออกมาสมบูรณ์กลายเป็นจิ้งจอกปิศาจห้าหาง.

เสียงของจิ้งจอกที่คำรามออกมาอย่างแผ่วเบา,กงเล็บของมันที่ฟาดลงบนพื้นด้านหน้า,ก่อนที่จะเห็นประกายแสงที่พุ่งออกไป,ประกายแสงที่พุ่งไปทุกทิศทุกทาง,กลายเป็นคลื่นขนาดใหญ่สร้างเป็นค่ายกลที่ร้ายกาจเกิดขึ้น,ค่ายกลดังกล่าวนี้มีผลต่อพลังเทวะของเหล่าเทพ,ทันทีที่เทพอารักษ์ฟื้นฟู,จะถูกทำให้สลายไปอย่างรวดเร็ว.

ทุกคนที่เห็นรู้สึกอัศจรรย์ใจเป็นอย่างมาก.

จิ้งจอกตนนี้สามารถกำราบพลังของเทพเจ้าได้อย่างงั้นรึ?

"ไม่มีอะไรต้องประหลาดใจ,"ฉู่เทียนที่คาดเดาได้ถูกต้องว่าจิ้งจอกน้อยนั้นสามารถที่จะยับยั้งพลังของเทพอารักษ์ได้,ทว่าไม่คิดเลยว่ามันจะมีทักษะลับที่ซ่อนเอาไว้อีก."เจ้าตัวแสบนี้เป็นลูกหลานของเทพสรรพสัตว์ยุคเทพบรรพกาล,ในอดีตพวกมันจับมังกรและหงส์เพลิงกินเป็นอาหารอยู่แล้ว,ความแข็งแกร่งของพวกมันไม่ได้ด้อยไปกว่าเทพจันทรา,แม้ว่าตอนนี้จะยังไม่โตก็ตาม,ทว่าการจะยับยั้งเศษเสี้ยวของเทพอารักษ์ที่เกิดจากสัมผัสเทวะที่เหลือของเทพจันทราก็ไม่ได้ยากเย็นนัก,ข้าคิดว่าเพียงพอที่จะใช้ถ่วงเวลาได้."

เอลฟ์ราตรีทมิฬและพันธมิตรไม่คาดคิดเลยแม้แต่น้อย.

สัตว์เลี้ยงของฉู่เทียนนั้นจะมีภูมิกำเนิดที่ยิ่งใหญ่ถึงเพียงนั้น!

ด้วยการช่วยเหลือจากจิ้งจอก,การจะสำรวจวิหารจันทราไม่ยากอีกต่อไป.

ฉู่เทียนที่ชี้ไปยังกลุ่มแสงที่ลอยอยู่บนอากาศหลายจุด,ซึ่งมันจะคอยรวมรวมพลังงานอย่างไม่หยุดหย่อน,"ค่ายกลจิ้งจอกนั้นจะคอยลดพลังฟื้นฟูของพวกมันไว้,ทว่าไม่สามารถที่จะป้องกันการรวมตัวของพวกมันเอาไว้ได้อย่างหมดจด,พวกเราจะต้องทิ้งคนไว้ที่นี่,คอยทำลายพลังงานที่รวมตัวเหล่านี้เอาไว้."

เยว่ไหน่ซือกล่าวต่ออาวุโสเอลฟ์สองคน,"พวกเจ้ารออยู่ที่นี่แล้วกัน."

อาวุโสเอลฟ์สองตนพยักหน้าตอบรับ,"รับทราบ!"

ฉู่เทียนที่จ้องมองไปยังจิ้งจอกน้อย,ซึ่งมันได้คว้าไปยังฉู่เทียน,ไม่รู้ว่ามันตั้งใจจะทำอะไร,คาดไม่ถึงเช่นกัน,มันได้นำฉู่เทียนไปวางบนไหล่ของมัน,ซึ่งโดยปรกติมันจะนอนอยู่บนไหล่ฉู่เทียนตลอด,ไม่คิดเลยว่าวันนี้จะกลายเป็นฉู่เทียนที่ต้องไปยืนอยู่บนไหล่ของมัน.

"ทุกๆท่านตามข้ามา!"ฉู่เทียนที่ปล่อยสัมผัสเทวะออกไปรอบๆ,เพื่อตรวจสอบค่ายกลที่อยู่รอบๆ"ที่ด้านหน้ามีกับดัก,ทุกคนทำตามวิธีของข้า...."

ความแข็งแกร่งของฉู่เทียนนับว่าอ่อนแอกว่าทุกคน,แต่ด้วยการมีจิ้งจอกน้อยกลับทำให้พวกเขาเหนือกว่าคนทุกคนเวลานี้.

แต่ถึงกระนั้นภูมิปัญญาที่ฉู่เทียนมี,เมื่อรวบกับความสามารถของจิ้งจอกน้อย,แม้จะเป็นเยว่ไหน่ซือและทุกคนรวมกันก็ยากที่จะมีใครเทียบได้,ถึงแม้ว่าจะมีค่ายกลมากมายรายล้อมก็ยากที่จะขวางทางพวกเขาได้,ยิ่งทุกคนเข้ามาลึกเท่าไหร่,ก็ยิ่งพบกับเทพอารักษ์มากขึ้นเท่านั้น,แน่นอนว่าด้วยค่ายกลของจิ้งจอกน้อย,พร้อมกับทิ้งอาวุโสเอลฟ์ไว้คอยทำลายการรวมตัวของเทพอารักษ์.

ไม่ว่าจะมีเทพอารักษ์มากเท่าไหร่ที่ปรากฏตัวออกมา.

ก็ถูกจิ้งจอกน้อยจัดการกำราบไปจนหมด.

ด้วยการสร้างค่ายกลยับยั้งเทพอารักษ์มากขึ้นและก็มากขึ้น,ซึ่งต้องทิ้งสมาชิกไว้คอยทำลายการรวมตัวของพวกมันด้วย,ทำให้กลุ่มของฉู่เทียนน้อยลงเรื่อยๆ.

ท้ายที่สุดในเวลานี้ยังคงเหลือ,ฉู่เทียน,เยว่ไหน่ซือและหลานซือโหลวเตอเท่านั้น.

ในเวลานี้พวกเขาก็เข้าใกล้ใจกลางของสุสานเทพจันทราเข้าไปทุกทีแล้ว,ซึ่งฉู่เทียนพบว่าที่ใจกลางของสุสานเทพจันทรานั้น,มีผลึกเจ็ดสีขนาดใหญ่ตั้งตระหง่านอยู่ตรงกลาง,ประกายแสงวับวาวที่ส่องประกายออกมานั้นเจิดจรัสเป็นอย่างมาก,อีกทั้งยังมีสัมผัสเทวะของเทพจันทราถูกปลดปล่อยออกมาไม่หยุดหย่อน.

นี่คือแก่นสัมผัสเทวะของเทพจันทรา!

สัมผัสเทวะนั้นไม่มีรูปร่างที่แน่นอน,ไม่มีรูปแบบ,เป็นเหมือนกลับภาพลวงตา,สิ่งดังกล่าวนี้ไม่สามารถสัมผัสได้,ไม่คิดเลยจริงๆ,สัมผัสเทวะของเทพจันทรากลับสามารถตกผลึกได้,คาดไม่ถึงเลยจะกลายเป็นของแข็ง,หนำซ้ำยังเป็นผลึกคลิสตัลขนาดใหญ่,และคอยส่งพลังดังกล่าวออกไปทั่วทั้งสุสาน,กระทั่งทั่วทั้งดวงจันทร์.

คลืนนนนน!

เทพอารักษ์กว่า 20 ตนปรากฏออกมาจากทุกทิศทุกทาง.

ทว่าอาคมจิ้งจอกที่ถูกปล่อยออกไปในทันทีเช่นกัน,กงเล็บที่ฟาดลงบนพื้นเกิดเป็นลวดลายอักขระ,ยับยั้งพลังของเทพอารักษ์ในทันที.

"เทพจันทราข้าจะเป็นคนจัดการเอง."ฉู่เทียนกล่าวต่อสองราชาเอลฟ์,"พวกท่านคอยจัดการตัวเกะกะให้ข้าด้วยก็แล้วกัน!"

เยว่ไหน่ซือที่ค่อนข้างอัศจรรย์ใจ,"แม้ว่าเทพจันทราจะตายไปแล้ว,ทว่าก็ไม่ง่ายที่จะจัดการ,ด้วยสำนึกที่เหลืออยู่ตอนนี้,ได้รวมตัวขึ้นมาจนกลายเป็นผลึกได้,ก็เหมือนกับตัวตนแบบใหม่ที่ไม่เคยมีมาก่อน,ด้วยความแข็งแกร่งที่มีอาจจะไม่สามารถคาดเดาได้เลย,มันเสี่ยงเกินไปเจ้าอาจจะตายก็ได้."

"ฮ่า ฮ่า,หากไม่เสียงจะได้ผลประโยชน์ได้อย่างไร?"


ฉู่เทียนที่ยืนอยู่ด้านหน้าผลึกสัมผัสเทวะเทพจันทรา,ฉู่เทียนที่ยังเป็นเพียงแค่ผู้เชี่ยวชาญภูติแท้,เวลานี้นับว่าเป็นโอกาสดีที่จะทะลวงผ่านพลังฝึกตนของตัวเองได้!





ที่มาจากhttps://lnmtl.com/novel/miracle-throne

#นิยาย บัลลังก์แห่งปาฏิหาริย์ #Miracle throne#นิยายแปลไทย



สนใจสนับสนุนพวกเรา เข้าร่วมกลุ่ม VIP (สถานปัจจุบัน แปลจบ 658 แล้ว)==>  Click


-เว็ปฟรี วันละหนึ่งตอน

-กรุ๊ป vip ลงครบทุกลุ่มแล้ว

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น