Miracle Throne Chapter 613 The gods know the crystallization
นิยาย บัลลังก์แห่งปาฏิหาริย์ ตอนที่ 613 การตกผลึกของสัมผัสเทวะเทพจันทรา.
Chapter 613 The gods know the crystallization
神识结晶
การตกผลึกของสัมผัสเทวะเทพจันทรา.
ความแข็งแกร่งของเทพอารักษ์จันทรานั้นแข็งแกร่งเป็นอย่างมาก,แม้ทุกๆคนที่มาด้วยกับฉู่เทียน,จะไม่ได้อ่อนแอเลย,แต่ก็ยังไม่สามารถเทียบได้กับเทพอารักษ์ของเทพจันทรา,ราชาเอลฟ์ราตรีเยว่ไหน่ซือที่มีพลังอาณาจักรสวรรค์ระดับ
9 ขั้นปลาย,มีพลังที่เหนือกว่าล้ำเกินกว่าจะคาดได้,แม้ว่าจะสามารถยับยั้งเทพอารักษ์ได้.
อย่างไรก็ตามก็เพียงแค่ชั่วคราวเท่านั้น.
เทพอารักษ์จันทรานี้เป็นอสุรกายที่ไม่สามารถสังหารได้.
หนำซ้ำอัตราฟื้นฟูกลับมาเป็นปรกตินั้นเร็วกว่าอสุรกายจันทราปกตินับร้อยเท่า,ด้วยการต่อสู้ที่มีเสียงดังสนั่น,ทำให้เทพอารักษ์จากที่อื่นๆตอนนี้ถูกดึงเข้ามา,ตอนนี้มีเทพอารักษ์จันทรามากขึ้นเรื่อยๆ,คาดไม่ถึงเลยว่าจะมีมากขนาดนี้.
และทุกตัวต่างก็มีพลังอาณาจักรสวรรค์ระดับ 7
เกือบทุกตัว!
ทุกคนในเวลานี้สัมผัสได้ถึงแรงกันดันอันหนักหน่วงขึ้นมาในทันที,เยว่ไหน่ซือเองก็ไม่คิดเลยว่าเทพอารักษ์จันทรานั้นจะแข็งแกร่งขนาดนี้,เขาไม่สามารถที่จะป้องกันเอาไว้ได้อีกต่อไป,"เทพอารักษ์จันทราที่เฝ้าขุมทรัพย์เทพจันทราแข็งแกร่งเกินไป,ลำพังพวกเราคงไม่สามารถทำอะไรได้แน่,มีแต่จะพบกับอันตราย,ทางทีดีถอยก่อนค่อยนำผู้เชี่ยวชาญมากกว่านี้ค่อยมาสำรวจอีกทีดีหรือไม่?"
ทุกคนต่างก็พยักหน้าเห็นด้วย.
แม้ว่าขุมทรัพย์เทพจันทราจะน่าสนใจเป็นอย่างมาก,ทว่าด้วยสถานการณ์ในเวลานี้ไม่มีทางเลือกจะต้องถอยก่อนชั่วคราว.
ภายในวิหารเทพจันทรานั้นนอกจากเทพอารักษ์แล้ว,ใครจะรู้ล่ะว่ายังมีอันตรายอื่นใดซ่อนอยู่อีก?
นี่คือทรัพยากรของเทพจันทราที่มีมาตั้งแต่ยุคเทพบรรพกาล!
ด้วยระบบป้องกันของวิหารเทพจันทราเวลานี้เป็นไปไม่ได้เลยที่คนกลุ่มเดียวจะสามารถผ่านเข้าไปได้.
หากว่าคาดเดาไม่ผิดล่ะก็,ยิ่งเข้าไปด้านใน,ก็จะยิ่งมีค่ายกลและอสูรผู้พิทักษ์ที่แข็งแกร่งรออยู่,ในเวลานี้เหล่าเทพอารักษ์จันทรา,ที่กำลังไล่พวกเขาออกมายิ่งยื้อต่อไปอาจจะยิ่งทำให้พวกเขาวิ่งไปติดกับดักได้,ถึงแม้ว่าเยว่ไหน่ซือจะแข็งแกร่ง,บางทีก็คงจะเข้าสู่สภาวะวิกฤติจนไม่สามารถหลบหนีได้อีกต่อไป!
เยว่ไหน่ซือและคนอื่นๆตกลงใจที่จะถอยออกไปก่อน.
ใครจะรู้ว่าในเวลานั้น,ฉู่เทียนที่อ่อนแอที่สุดในกลุ่มจะไม่เห็นด้วย,"อย่าเพิ่งตกใจไป,ข้าคิดว่าข้ามีวิธี! ระบบป้องกันของวิหารจันทราแห่งนี้นั้น,ที่จริงแล้วเกิดจากกระบวนการทำงานสัมผัสทวะของเทพจันทราที่เหลือไว้เป็นตัวควบคุม,ดังนั้นหากว่าพวกเราสามารถทำให้สัมผัสเทวะของเทพจันทราแตกออกเป็นเสี่ยงๆ,ระบบป้องกันวิหารจันทราก็จะพังทลายไปด้วย."
"ถึงจะเป็นเป็นเช่นนั้นก็ตาม,ทว่าคิดว่าจะทำให้สำเร็จง่ายๆอย่างงั้นรึ?"เยว่ไหน่ซือไม่เห็นด้วยกับการที่ฉู่เทียนจะเสี่ยง,"นอกจากนี้ยังมีกับดักอีกมากมาย,ไม่ได้มีแค่เทพอารักษ์จันทราหรอกนะ,บางทีพวกเราคงไม่สามารถจัดการได้."
พลังป้องกันของเทพเจ้านั้นไร้ที่สิ้นสุด,ไม่มีทางที่จะถูกทำลายไปง่ายๆ.
ตอนนี้พวกเขาเริ่มต้านไม่ไหวแล้ว,หนำซ้ำจำนวนของเทพอารักษ์ยังเพิ่มขึ้นมาเรื่อยๆ,แน่นอนว่ายิ่งปล่อยไว้นานก็ยิ่งเสี่ยงขึ้นไปอีก.
ฉู่เทียนที่ไม่ได้กล่าวสิ่งใด,จิ้งจอกน้อยที่ลงมือทันที,ทุกคนไม่รู้ว่าเกิดสิ่งใดขึ้น,จิ้งจอกน้อยที่กระโดดลอยบนอากาศ,ก่อนที่จะร่ายคาถาผนึกออกมา,อาคมเหล่านั้นเหมือนกับอุกกาบาติที่ร่วงหล่นลงไปยังเหล่าเทพอารักษ์จันทรา,ซึ่งทำให้ทุกคนรู้สึกประหลาดใจเป็นอย่างมาก,เมื่อเหล่าเทพอารักษ์นั้นไม่สามารถที่จะขยับได้อีกต่อไป.
จากนั้นน่าจะราวๆ 4-5 วินาทีหลังจากนั้น.
ร่างของพวกมันที่ระเบิดออกมาเป็นเสี่ยงๆ,ชิ้นส่วนของพวกมันในเวลานี้ถูกจิ้งจอกน้อยดูดซับเข้ามา,ซึ่งทำให้ร่างของจิ้งจอกน้อยขยายขึ้นมาหลายร้อยเท่า,และหางที่โผล่ออกมาสมบูรณ์กลายเป็นจิ้งจอกปิศาจห้าหาง.
เสียงของจิ้งจอกที่คำรามออกมาอย่างแผ่วเบา,กงเล็บของมันที่ฟาดลงบนพื้นด้านหน้า,ก่อนที่จะเห็นประกายแสงที่พุ่งออกไป,ประกายแสงที่พุ่งไปทุกทิศทุกทาง,กลายเป็นคลื่นขนาดใหญ่สร้างเป็นค่ายกลที่ร้ายกาจเกิดขึ้น,ค่ายกลดังกล่าวนี้มีผลต่อพลังเทวะของเหล่าเทพ,ทันทีที่เทพอารักษ์ฟื้นฟู,จะถูกทำให้สลายไปอย่างรวดเร็ว.
ทุกคนที่เห็นรู้สึกอัศจรรย์ใจเป็นอย่างมาก.
จิ้งจอกตนนี้สามารถกำราบพลังของเทพเจ้าได้อย่างงั้นรึ?
"ไม่มีอะไรต้องประหลาดใจ,"ฉู่เทียนที่คาดเดาได้ถูกต้องว่าจิ้งจอกน้อยนั้นสามารถที่จะยับยั้งพลังของเทพอารักษ์ได้,ทว่าไม่คิดเลยว่ามันจะมีทักษะลับที่ซ่อนเอาไว้อีก."เจ้าตัวแสบนี้เป็นลูกหลานของเทพสรรพสัตว์ยุคเทพบรรพกาล,ในอดีตพวกมันจับมังกรและหงส์เพลิงกินเป็นอาหารอยู่แล้ว,ความแข็งแกร่งของพวกมันไม่ได้ด้อยไปกว่าเทพจันทรา,แม้ว่าตอนนี้จะยังไม่โตก็ตาม,ทว่าการจะยับยั้งเศษเสี้ยวของเทพอารักษ์ที่เกิดจากสัมผัสเทวะที่เหลือของเทพจันทราก็ไม่ได้ยากเย็นนัก,ข้าคิดว่าเพียงพอที่จะใช้ถ่วงเวลาได้."
เอลฟ์ราตรีทมิฬและพันธมิตรไม่คาดคิดเลยแม้แต่น้อย.
สัตว์เลี้ยงของฉู่เทียนนั้นจะมีภูมิกำเนิดที่ยิ่งใหญ่ถึงเพียงนั้น!
ด้วยการช่วยเหลือจากจิ้งจอก,การจะสำรวจวิหารจันทราไม่ยากอีกต่อไป.
ฉู่เทียนที่ชี้ไปยังกลุ่มแสงที่ลอยอยู่บนอากาศหลายจุด,ซึ่งมันจะคอยรวมรวมพลังงานอย่างไม่หยุดหย่อน,"ค่ายกลจิ้งจอกนั้นจะคอยลดพลังฟื้นฟูของพวกมันไว้,ทว่าไม่สามารถที่จะป้องกันการรวมตัวของพวกมันเอาไว้ได้อย่างหมดจด,พวกเราจะต้องทิ้งคนไว้ที่นี่,คอยทำลายพลังงานที่รวมตัวเหล่านี้เอาไว้."
เยว่ไหน่ซือกล่าวต่ออาวุโสเอลฟ์สองคน,"พวกเจ้ารออยู่ที่นี่แล้วกัน."
อาวุโสเอลฟ์สองตนพยักหน้าตอบรับ,"รับทราบ!"
ฉู่เทียนที่จ้องมองไปยังจิ้งจอกน้อย,ซึ่งมันได้คว้าไปยังฉู่เทียน,ไม่รู้ว่ามันตั้งใจจะทำอะไร,คาดไม่ถึงเช่นกัน,มันได้นำฉู่เทียนไปวางบนไหล่ของมัน,ซึ่งโดยปรกติมันจะนอนอยู่บนไหล่ฉู่เทียนตลอด,ไม่คิดเลยว่าวันนี้จะกลายเป็นฉู่เทียนที่ต้องไปยืนอยู่บนไหล่ของมัน.
"ทุกๆท่านตามข้ามา!"ฉู่เทียนที่ปล่อยสัมผัสเทวะออกไปรอบๆ,เพื่อตรวจสอบค่ายกลที่อยู่รอบๆ"ที่ด้านหน้ามีกับดัก,ทุกคนทำตามวิธีของข้า...."
ความแข็งแกร่งของฉู่เทียนนับว่าอ่อนแอกว่าทุกคน,แต่ด้วยการมีจิ้งจอกน้อยกลับทำให้พวกเขาเหนือกว่าคนทุกคนเวลานี้.
แต่ถึงกระนั้นภูมิปัญญาที่ฉู่เทียนมี,เมื่อรวบกับความสามารถของจิ้งจอกน้อย,แม้จะเป็นเยว่ไหน่ซือและทุกคนรวมกันก็ยากที่จะมีใครเทียบได้,ถึงแม้ว่าจะมีค่ายกลมากมายรายล้อมก็ยากที่จะขวางทางพวกเขาได้,ยิ่งทุกคนเข้ามาลึกเท่าไหร่,ก็ยิ่งพบกับเทพอารักษ์มากขึ้นเท่านั้น,แน่นอนว่าด้วยค่ายกลของจิ้งจอกน้อย,พร้อมกับทิ้งอาวุโสเอลฟ์ไว้คอยทำลายการรวมตัวของเทพอารักษ์.
ไม่ว่าจะมีเทพอารักษ์มากเท่าไหร่ที่ปรากฏตัวออกมา.
ก็ถูกจิ้งจอกน้อยจัดการกำราบไปจนหมด.
ด้วยการสร้างค่ายกลยับยั้งเทพอารักษ์มากขึ้นและก็มากขึ้น,ซึ่งต้องทิ้งสมาชิกไว้คอยทำลายการรวมตัวของพวกมันด้วย,ทำให้กลุ่มของฉู่เทียนน้อยลงเรื่อยๆ.
ท้ายที่สุดในเวลานี้ยังคงเหลือ,ฉู่เทียน,เยว่ไหน่ซือและหลานซือโหลวเตอเท่านั้น.
ในเวลานี้พวกเขาก็เข้าใกล้ใจกลางของสุสานเทพจันทราเข้าไปทุกทีแล้ว,ซึ่งฉู่เทียนพบว่าที่ใจกลางของสุสานเทพจันทรานั้น,มีผลึกเจ็ดสีขนาดใหญ่ตั้งตระหง่านอยู่ตรงกลาง,ประกายแสงวับวาวที่ส่องประกายออกมานั้นเจิดจรัสเป็นอย่างมาก,อีกทั้งยังมีสัมผัสเทวะของเทพจันทราถูกปลดปล่อยออกมาไม่หยุดหย่อน.
นี่คือแก่นสัมผัสเทวะของเทพจันทรา!
สัมผัสเทวะนั้นไม่มีรูปร่างที่แน่นอน,ไม่มีรูปแบบ,เป็นเหมือนกลับภาพลวงตา,สิ่งดังกล่าวนี้ไม่สามารถสัมผัสได้,ไม่คิดเลยจริงๆ,สัมผัสเทวะของเทพจันทรากลับสามารถตกผลึกได้,คาดไม่ถึงเลยจะกลายเป็นของแข็ง,หนำซ้ำยังเป็นผลึกคลิสตัลขนาดใหญ่,และคอยส่งพลังดังกล่าวออกไปทั่วทั้งสุสาน,กระทั่งทั่วทั้งดวงจันทร์.
คลืนนนนน!
เทพอารักษ์กว่า 20
ตนปรากฏออกมาจากทุกทิศทุกทาง.
ทว่าอาคมจิ้งจอกที่ถูกปล่อยออกไปในทันทีเช่นกัน,กงเล็บที่ฟาดลงบนพื้นเกิดเป็นลวดลายอักขระ,ยับยั้งพลังของเทพอารักษ์ในทันที.
"เทพจันทราข้าจะเป็นคนจัดการเอง."ฉู่เทียนกล่าวต่อสองราชาเอลฟ์,"พวกท่านคอยจัดการตัวเกะกะให้ข้าด้วยก็แล้วกัน!"
เยว่ไหน่ซือที่ค่อนข้างอัศจรรย์ใจ,"แม้ว่าเทพจันทราจะตายไปแล้ว,ทว่าก็ไม่ง่ายที่จะจัดการ,ด้วยสำนึกที่เหลืออยู่ตอนนี้,ได้รวมตัวขึ้นมาจนกลายเป็นผลึกได้,ก็เหมือนกับตัวตนแบบใหม่ที่ไม่เคยมีมาก่อน,ด้วยความแข็งแกร่งที่มีอาจจะไม่สามารถคาดเดาได้เลย,มันเสี่ยงเกินไปเจ้าอาจจะตายก็ได้."
"ฮ่า
ฮ่า,หากไม่เสียงจะได้ผลประโยชน์ได้อย่างไร?"
ฉู่เทียนที่ยืนอยู่ด้านหน้าผลึกสัมผัสเทวะเทพจันทรา,ฉู่เทียนที่ยังเป็นเพียงแค่ผู้เชี่ยวชาญภูติแท้,เวลานี้นับว่าเป็นโอกาสดีที่จะทะลวงผ่านพลังฝึกตนของตัวเองได้!
ที่มาจากhttps://lnmtl.com/novel/miracle-throne
#นิยาย บัลลังก์แห่งปาฏิหาริย์ #Miracle throne#นิยายแปลไทย
สนใจสนับสนุนพวกเรา เข้าร่วมกลุ่ม VIP (สถานปัจจุบัน แปลจบ 658 แล้ว)==> Click
-เว็ปฟรี วันละหนึ่งตอน
-กรุ๊ป vip ลงครบทุกลุ่มแล้ว
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น