วันอาทิตย์ที่ 24 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2562

Immortality Chapter 249 Clay Bodhisattva reappears

Immortality Chapter 249 Clay Bodhisattva reappears

นิยาย เรื่อง อมตะ ตอนที่ 249  การปรากฏตัวของหนี่ปู่ซา.

Chapter 249 Clay Bodhisattva reappears
泥菩
 การปรากฏตัวของหนี่ปู่ซา.
หลังจากที่จงซานและกงจูเฉียนโหยวจากไป,ทุกกลุ่มที่จากไปหมดแล้ว,เสวียนหยวนที่ลืมตาขึ้นมาในทันที.

"เอาล่ะ,ทุกคนจากไปแล้ว,ออกมาได้!"เสวียนหยวนที่กล่าวออกมาเบาๆ.



พื้นที่รอบๆที่มองไม่เห็นใคร,ทว่าบนภูเขาของเสวียนหยวนนั้น,มีคนอีกคนหนึ่งที่ปรากฏตัวออกมาช้าๆ.

ชุดคลุมสีดำที่ปกปิดไปทั่วร่าง,ร่างของเขาที่ถูกคลุมด้วยผ้าคลุมดำ,จนไม่สามารถมองเห็นใบหน้าด้านในได้เลยแม้แต่น้อย.

"ไม่ใช่เขา? เจ้าเป็นใคร."เสวียนหยวนที่ขมวดคิ้วไปมา.

"ตระกูลของอาจารย์ได้ตายไปหมดแล้ว,เจ้าเรียกข้าว่า,หนีปูซา."ชายในชุดดำที่เผยยิ้มออกมาเล็กน้อย.

หนี่ปู่ซา,แน่นอนว่าเขาคือคนที่จงซานพบที่เกาะหมาป่าสวรรค์,คาดไม่ถึงเลยว่าจะมาปรากฏตัวขึ้นที่นี่.

"หนีปูซาอย่างงั้นรึ?"เสวียนหยวนที่แสดงท่าทางสงสัย.

"สายโลหิตของข้า,ผู้ที่ได้รับสืบทอดสายโลหิตแต่ละรุ่นนั้น,จะถูกเรียกว่าหนีปู่ซา."หนีปู่ซาอธิบาย.

"อืม,เจ้ามาที่นี่มีจุดประสงค์อะไร?"เสวียนหยวนที่กล่าวออกมาเล็กน้อย.

"ข้ามาแจ้งเจ้า,ว่าไม่จำเป็นต้องเฝ้าอีกต่อไปแล้ว,ผนึกดังกล่าวนี้มีอายุเพียงแค่หนึ่งพันปี,มันเกินขีดจำกัดที่จะผนึกแล้ว,มันกำลังจะพังทลายอย่างไม่ต้องสงสัย,ทว่าเมืองเฟิงหลิงนั้นนับว่าพิเศษพวกเราได้จัดเตรียมสร้างผนึกพื้นที่ใหม่อีกครั้งแล้ว,โชคนี้มาพร้อมภัยพิบัติ,หมื่นปีที่จะใช้ในการปิดผนึก,ดูเหมือนว่าสายโลหิตของตระกูลข้าจะต้องเข้ามาเกี่ยวข้องในทุกๆรุ่น."หนีปู่ซากล่าวออกมาเบาๆ.

"ผนึกดังกล่าวนี้ได้ผนึกอะไรเอาไว้?"เสวียนหยวนที่จ้องมองไปยังหนีปูซา.

"มันไม่ใช่สิ่งที่ควรจะมีในโลกใบนี้,หากว่าเจ้าสนใจก็อยู่ต่อไปได้,หากว่าไม่สนใจ,ก็สามารถจากไปได้ในทันที."หนีปู่ซ่ากล่าว.

"สี่เดือนหลังจากนี้,เจ้าเองก็ไม่อยู่อย่างงั้นรึ?"เสวียนหยวนที่จ้องมองไปยังหนีปูซา.

"สายโลหิตของข้านั้น,ใช้เวลานับหมื่นปีพยายามที่จะชำละล้างมันออกไป,แน่นอนว่าข้าไม่ต้องการที่จะยั่วยุมันอย่างแน่นอน,ข้าเพียงแค่มาแจ้งข่าวต่อเจ้า,เจ้าสามารถไปได้ทุกเวลา,ไม่จำเป็นต้องรักษาคำมั่นยึดข้อตกลงในอดีต."หนีปู่ซากล่าว.

"ข้าได้ให้คำสัญญากับอาจารย์ของเจ้า,ข้านั่งอยู่ที่นี่พันปี,จะให้ข้ายอมแพ้ทั้งที่เหลือเวลาอีกสีเดียวอย่างงั้นรึ? ข้าจะไปแน่,ทว่าหลังจากที่ผ่านสี่เดือนแล้ว,ข้าจำเป็นต้องรักษาคำมั่นของข้าไว้."เสวียนหยวนที่กล่าวออกมาอย่างนุ่มนวล,จากนั้นก็หลับตา,ไม่สนใจหนีปู่ซาอีกต่อไป.

"ตามใจเจ้า."หนีปู่ซาที่กล่าวออกมาอย่างนุ่มนวล,ก่อนที่ร่างของเขาจะหายไปในเวลาเดียวกัน.

เมืองเฟิงหลิง,บ้านพักหลังหนึ่ง.

เซี่ยเหยี่ยนนั่งอยู่ในห้องโถง,มือขวาของเขาที่ยื่นออกไปข้างหน้า,หล่อหลอมอะไรบางอย่างซึ่งปรากฏแสงที่ส่องออกมาจากหน้าผากของเขาช้าๆ,ดวงตาปิดแน่น,ราวกับว่ากำลังร่ายอาคมบางอย่าง.

มารฉู่ป้านั้นยืนอยู่ข้างๆ,ขมวดคิ้วไปมา,ชำเลืองมองไปยังสิ่งของบางอย่างขนาดนิ้วโป้มือที่ด้านหน้าของเซียเหวี่ยนที่กำลังควบรวมกัน.

จากนั้น,ที่หน้าผากของเซียนเหยียนก็ปล่อยลำแสงพุ่งออกมา,ปราณสีดำทมิฬที่กระจายฟุ้งออกไปนั้น,ได้รวมตัวกันเป็นรูปเป็นร่างขึ้นอย่างสมบูรณ์มีขนาดเท่ากับนิ้วโป้งมือ,ดูเหมือนกับเมล็ดแห่งความมืดที่มีกลิ่นอายที่มืดมิดแผ่ออกมา.

เม็ดสีดำที่หล่นลงมาที่มือของเซียนเหยี่ยน,ปล่อยคลื่นปราณแห่งความมืดออกมาเป็นระยะ.

เซียเหยี่ยนที่ค่อยๆลืมตา,พร้อมกับเผยยิ้มที่ชั่วร้ายออกมา.

"เส้าจู่,นี่คือเมล็ดมารอย่างงั้นรึ?"ฉู่ป้าที่ชำเลืองมองออกไปด้วยท่าทางอัศจรรย์ใจ.

"อืม,เมล็ดมาร,เมล็ดมารแต่ละเมล็ด,สามารถช่วยในการบำเพ็ญเพียร,และยังมีวิธีใช้อย่างอื่นด้วย,หากว่าถูกปลูกลงในคนอื่นที่ไม่ได้ฝึกวิชามาร,จะสามารถควบคุมคนผู้นั้นได้,ไม่ต่างจากทาสของข้า,ทุกคนที่ถูกปลูกมันลงไปจะกลายเป็นเพียงแค่สาวใช้ให้ข้าเท่านั้น."เซียเหยี่ยนที่เผยยิ้มออกมาอย่างชั่วร้าย.

"เส้าเหยีย,ท่านต้องการที่จะปลูกมันลงไปในร่างของเนียนโหยวโหยวอย่างงั้นรึ?"มารฉู่ป้ากล่าว.

"ใช่แล้ว,เนียนโหยวโหยว,เจิ้นเหรินแดนเทพอมตะ,มีร่างสถิตเทวะ,หากว่าข้าไม่ได้นางมันจะคุ้มค่ากับเมล็ดมารนี้ได้อย่างไร? กล้าที่จะทำให้ข้าขายหน้าเหรอ,หลังจากที่นางกลายเป็นทาสข้าแล้ว,ข้าจะให้นางคุกเข่าขอความเมตาจากข้า,ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า."เซียเหยียนที่กล่าวออกมาด้วยความตื่นเต้น.

"เส้าเหยีย,แม้ว่าจะเป็นเนียนโหยวโหยว,แต่ด้วยพลังของนางเวลานี้ก็ยังนับว่ายังไม่คู่ควร."ฉู่ป้ากล่าว.

"คุ้มค่าอย่างงั้นรึ?ที่จริงคนที่เหมาะสมนั้น,คืออาจารย์ของเนียนโหยวโหยว,แต่นางเวลานี้แข็งแกร่งเกินไป,ทว่าไม่ใช่เรื่องสำคัญอะไร,ด้วยการฝึกฝนจากข้า,เนียนโหยวโหยวไม่ช้าก็เร็วก็จะทรงพลังเทียบเท่าอาจารย์ของนาง."เซียนเหยียนที่กล่าวออกมาด้วยรอยยิ้มที่ชั่วร้าย.
........

ภายในเมืองเฟิงหลิง,ห้องโถงแห่งหนึ่ง.

ซือจื่อหานจิว,ซึ่งนั่งอยู่หัวโต๊ะ,โดยมีเซียนเซิงโจวและเซียนเซิงโหยว,พร้อมกับเหล่าขุนพลที่กำลังรายงานเรื่องต่างๆอยู่.

"ซือจื่อ,เมื่อวานพวกเราพบกับกงจูเฉียนโหยว."เจ้าหน้าที่คนหนึ่งรายงาน.

"กงจูเฉียนโหยวอย่างงั้นรึ?"ซือจือหานจิวที่ขมวดคิ้วไปมา.

"ครับ,น่าจะเพิ่งเดินทางมาถึง,บางทีอาจจะเกี่ยวข้องกับค่ายกลฮวงจุ้ยเป็นแน่."เจ้าหน้าที่คนดังกล่าวเอง.

"คงมาด้วยเรื่องดังกล่าวอยู่แล้ว! เอ้เอ้,อย่าไปยุงกับนางดีกว่า."ซือจื่อหานจิวที่คิดใคร่ครวญและกล่าวออกมา.

"ครับ."เจ้าหน้าที่คนดังกล่าวรับคำ.

"แล้วที่ข้าให้ไปสืบเจออะไรบ้าง?"ซือจื่อหานจิวที่กล่าวออกมา.

"ไม่เลย,ดูเหมือนว่าค่ายกลฮวงจุ้ยนั้นจะถูกสร้างขึ้นมาก่อนราชวงศ์ต้ากวงซะอีก,และองค์ราชันย์เกือบทุกคน,ต่างก็สั่งการให้เจ้าเมืองไม่ให้ยุ่งเกี่ยวกับพื้นที่ดังกล่าวด้วย."เจ้าหน้าที่คนหนึ่งเอ่ย.

"ในอดีตนั้นก่อนตั้งต้ากวงนั้น,ได้มีคนที่มีนามว่า"หนี่ปูซ่า"ช่วยต้ากวงพิชิตเมืองสิบเมือง,และได้ทูลขอพื้นที่หวงห้ามแห่งนั้นเอาไว้,ผ่านมากว่า 2300 ปีแล้ว,จวบจนถึงตอนนี้,ทำให้พื้นที่ดังกล่าวเป็นเขตหวงห้ามไม่ให้ใครเข้าไป,ทว่าข้าเองก็ต้องการที่จะรู้เช่นกันว่าภายในค่ายกลฮวงจุ้ยนั่นได้ฝังสิ่งใดเอาไว้."ซือจื่อหานจิวที่ได้ขมวดคิ้วไปมา.

"รายงาน."

ที่ด้านนอกห้องโถงนั้นมีเสียงของเจ้าหน้าที่ของเขาดังขึ้นในทันที.

เจ้าหน้าที่ที่วิ่งเข้ามาภายในห้องโถงอย่างรวดเร็ว,พร้อมกับยกมือขึ้นส่งสารข้อความเป็นกระดาษสีดำออกไปให้เขา

"เรียนซือจื่อ,ที่ด้านนอกนั้นมีชายในชุดดำปรากฏตัวขึ้นในทันที,เขากล่าวว่ามีนาม,"หนีปูซา,"และได้ได้มอบสิ่งนี้มา,ให้ส่งสิ่งนี้ให้กับท่าน,,"เจ้าหน้าที่คนดังกล่าวเอ่ย.

"พรึด"

ซือจือหานจิวที่ลุกขึ้นในทันที,หนีปู่ซาอย่างงั้นรึ?

"คนล่ะ?"ซือจื่อหานจิวที่กล่าวออกมาในทันที.

"ไปแล้ว,เขาได้มอบสารนี้มา,จากนั้นก็ไม่รู้ว่าหายไปใหน."เจ้าหน้าที่กล่าว.

"นำมา."ซือจื่อหานจิวที่เอ่ยออกมาอย่างรวดเร็ว.

เจ้าหน้าที่ยื่นสารดังกล่าวออกไปให้กับซือจื่อ.

ซือจื่อหานจิวที่อ่านสารดังกล่าว,ขมวดคิ้วแน่น,ดวงตาประหลาดใจและไม่แน่ใจไปพร้อมๆกัน.

"ซือจื่อ,เกิดอะไรขึ้นอย่างงั้นรึ?"เซียนเซิงเจ้าที่สอบถามออกมาในทันที.

ซือจื่อหายจิวที่อ่านสารสีดำเพ่งพิศใครครวญกับข้อความดังกล่าว :

ในผนึกฮวงจุ้ยนั้น,ได้ผนึก "แปดหางสวรรค์แห่งจุดจบ"เป็นปิศาจร้ายของสวรรค์และปฐพี,ซึ่งถูกผนึกเอาไว้กว่าหนึ่งหมื่นปีแล้ว,จำเป็นต้องผนึกเมืองเฟิงหลิงด้วยผนึกฮวงจุ้ยอีกชั้น,สี่เดือนหลังจากนี้ แปดหางสวรรค์แห่งจุดจบจะออกมา,ทุกคนจะต้องตายอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้,จงอพยพคนออกจากเมืองเฟิงหลิงซะ,ถือว่าเป็นความเห็นใจเล็กๆเพื่อสะสมกุศล,นี่คือการเตือนครั้งสุดท้าย,จะทำตามหรือไม่นั้น,ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของพวกเจ้าแล้ว.

ซือจื่อหานจิวที่จ้องมองแสดงท่าทางลังเลไม่แน่ใจ,ทั้งเซียนเซิงโหยวและเซียนเซิงโจวเองก็จ้องมองใครครวญ,พร้อมกับขมวดคิ้วไปมา.

"ซือจื่อ!"ทั้งสองที่วางสารแจ้งเตือนคืนให้กับซือจื่อหานจิว.

"เซียนเซิงทั้งสองมีความเห็นอย่างไร?"ซือจื่อหานจิวที่ขมวดคิ้วไปมา.

"ควรจะประกาศให้ทุกคนได้รับรู้,จะอพยพหรือไม่นั้นก็คืออยู่กับเจตจำนงของสวรรค์"เซียนเซิงเจากล่าว.

"เช่นนั้นไว้ใกล้ถึงวันแล้วค่อยประกาศออกไปก็ได้,หากว่ากระทำตอนนี้เกรงว่ามันจะเปล่าประโยชน์,พวกเขาอาจจะไม่ให้ความร่วมมือก็เป็นได้."เซียนเซิงโหยวที่กล่าว.

"ดี,เช่นนั้นก็รอจนเกือบถึงวันสุดท้ายก็แล้วกัน."ซือจือหานจิวพยักหน้า.

"ตกลง."คนทั้งสองที่พยักหน้าเห็นด้วย.
....

หนึ่งเดือนหลังจากนั้น,ภายในห้องโถงในหุบเขาแห่งหนึ่งในเมืองเฟิงหลิง.

กงจูเฉียนโหยวที่สวมชุดผู้ชาย,ในมือนั้นถือพัดกระดาษ,เผยยิ้มออกมาเล็กน้อย."เซียนเซิง,ท่านคิดว่าเนียนโหยวโหยวจะมาหาท่านหรือไม่?"

ได้ยินคำพูดของกงจูเฉียนโหยว,จงซานที่ฝืนยิ้มออกมา,หลายวันมานี้,เนียนโหยวโหยวที่มาราวีเขาโดยตลอด,ทำไมเนียนโหยวโหยวต้องมา,จงซานสามารถที่จะคาดเดาได้ว่านางนั้นต้องการที่จะเอาชนะเขา,ต้องการให้เขาชื่นชมและรักใคร่ในตัวนาง,ด้วยวิชาป่วนใจของนางนั้นไม่มีผลต่อเขา,ทำให้นางนั้นมีความต้องการจะเอาชนะมากกว่าเดิม,หญิงสาวผู้นี้เป็นคนที่มีความมั่นใจตัวเองสูงมาก,นางไม่สามารถทนได้,หากว่านางไม่สามารถทำให้เป้าหมายของนางลุ่มหลงในตัวนางได้,อาจจะเป็นความภาคภูมิใจอย่างหนึ่งของนาง,ทำให้นางไม่ยอมแพ้,จึงได้ใช้ทุกวิถีทางเพื่อที่จะทำให้เขานั้นหลงเสน่ห์ในตัวนางก็เป็นได้.

ทว่า,ด้วยตัวเขานั้นมีเคล็ดวิชาหงหลวน,ทำให้วิชามารยาต่างๆนาๆของนางไร้ผล,จนเป็นเหตุให้นางนั้นรู้สึกสงสัยในตัวเขามากกว่าเดิมด้วย.

"กงจู,ปลาฮวงจุ้ยนั้นเกิดขึ้นได้อย่างไร."จงซานที่เปลี่ยนหัวข้อในทันที,กับเรื่องๆนี้ไม่เหมาะนักที่จะนำมาสนทนากับหญิงสาว.

เห็นจงซานที่เปลี่ยนเรื่อง,กงจูเฉียนโหยวที่เผยยิ้มออกมาเล็กน้อยและไม่กล่าวถึงอีกต่อไป,"ปลาฮวงจุ้ยนั้น,ที่จริงเป็นส่วนหนึ่งของค่ายกลฮวงจุ้ย,ทำไมมันถึงได้ปรากฏขึ้นที่เมืองเฟิงหลิงล่ะ,นั่นก็อธิบายได้ว่าค่ายกลฮวงจุ้ยเวลานี้เกิดการเปลี่ยนแปลง,ไม่ว่าจะเปลี่ยนแปลงไปในทางใด,ก็สามารถบอกได้ว่าตำแหน่งของค่ายกลฮวงจุ้ยตอนนี้มันเริ่มขยับแล้ว,เป็นไปได้ว่ามันจะเปิดออกมา,ที่ภายในนั้นอาจจะปรากฏเป็นค่ายกลสังหาร,ทำให้ปลาฮวงจุ้ยนั้นหนีออกมา,การเปลี่ยนแปลงของค่ายกลนั้นมีทั้งโชคร้ายและโชคดีพร้อมๆกัน."

"เช่นนั้น,จำนวนของปลาฮวงจุ้นนั้นก็ไม่สามารถบอกอะไรได้,ทว่าจำเป็นต้องไปดูด้วยตัวเองสินะ."จงซานกล่าว.

"แต่ว่า,เมืองเฟิงหลิงนั้นมีคนหลายล้านคน,จะบอกได้รึว่ามีคนเจอ?ก่อนหน้านี้ข้าและอาต้าอาจพบเข้ากับโชค,ทว่าก็มีคนไม่น้อยเช่นกันที่ได้พบเข้ากับปลาฮวงจุ้ย,จึงไม่สามารถบอกได้เช่นกันว่าข้างในนั้นซ่อนอะไรเอาไว้?"อาเอ้อที่กล่าวออกมาด้วยความกังวล.

"ไม่,ข้ารู้ว่าจะต้องมีใครคนหนึ่งรู้เรื่องนี้แน่นอน."กงจูเฉียนโหยวกล่าวรับรอง.

"เนียนโหยวโหยวรึ?"อาเอ้อที่แสดงท่าทางสงสัย.

"ไม่ใช่,เสียวฉิวสุ่ย!"กงจูเฉียนโหยวกล่าว.

"เสี่ยวชิวสุ่ย?"อาเอ้อที่แสดงท่าทางประหลาดใจ.

"ดี,ข้าจะบอกรูปลักษณ์ของเขาให้กับเจ้า,จงไปค้นหาเขาภายในเมืองเฟิงหลิงแห่งนี้,เขาที่ไล่ล่าปลาฮวงจุ้ย,ต้องอยู่ในเมืองเฟิงหลิงนี้แน่,ตอนนี้บางทีอาจจะอยู่ที่ใหนในเมืองแห่งนี้."กงจูเฉียนโหยวกล่าวรับรอง.

"ครับ."อาเอ้อที่กล่าวรับคำในทันที.

"เซียนเซิง,เนียนโหยวโหยวมา."อาต้าที่กล่าวรายงาน.

"กงจูท่านอธิบายใบหน้าของเสียวฉิวสุ่ยให้อาเอ้อแล้วกัน,ข้าจะไปดูเอง."จงซานเอ่ย.

"อืม."กงจูเฉียนโหยวที่พยักหน้า,ทว่าคิวของนางที่ขมวดไปมา,เห็นชัดเจนว่านางนั้นไม่ค่อยเป็นมิตรกับเนียนโหยวโหยวนัก.


จงซานที่เดินออกมาจากห้องโถง,ทันทีที่เห็นเนียนโหยวโหยวถึงกับตะลึงงันเล็กน้อย,เนียนโหยวโหยวนางแต่งตัวอะไรมา?




ที่มาจากhttps://lnmtl.com/novel/immortality

#นิยาย เรื่องอมตะ #Immortality#นิยายแปลไทย
Author(s)


สนใจสนับสนุนพวกเรา,เข้าร่วมกลุ่ม VIP ====> Click

***เว็ปฟรีอัพ สองวันหนึ่งตอน
***กลุ่มลับ อัพ 2-3 ตอนต่อวัน.

 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น