Immortality Chapter 247 in to seal confer Lingcheng Feng Shui
นิยาย เรื่อง อมตะ ตอนที่ 247 ผนึกฮวงจุ้ยในเมืองเฟิงหลิน.
Chapter 247 in to seal confer Lingcheng
Feng Shui
封灵城中风水阵
ผนึกฮวงจุ้ยในเมืองเฟิงหลิน.
เห็นอาต้าและอาเอ้อที่เข้ามาสบทบ,เนี่ยนโหยวโหยวรับรุ้ได้ทันทีว่านางไม่ได้เหนือกว่าอีกฝั่งแล้ว,ตอนนี้คงไม่สามารถใช้กำลังข่มเหงกงจูเฉียนโหยวและจงซานได้อย่างแน่นอน.
เห็นใบหน้าท่าทางพึงพอใจเป็นอย่างมากของกงจูเฉียนโหยวที่มีอาเอ้อและอาต้ามาสมทบ,เนี่ยนโหยวโหยวที่หันหน้าจ้องมองไปยังจงซาน.
นางที่จ้องมองเขม็ง,พร้อมกับเผยสีหน้าแสดงท่าทางข่มขื่น."เจ้านี่ช่างไร้หัวใจจริง!"
จากนั้น,เนี่ยนโหยวโหยวก็บินจากไปในทันที.
เห็นเนี่ยนโหยวโหยวที่จากไปพร้อมกับทิ้งคำพูดที่กำกวมเอาไว้,จงซานถึงกับปวดหัว,เพราะว่าจากคำพูดดังกล่าวแล้ว,ราวกับว่าเขาต้องยอมรับการราวีจากหญิงสาวผู้นี้อย่างไม่มีสิ้นสุด.
"กงจู,เซียนเซิง!"อาต้าและอาเอ้อที่กล่าวออกมาด้วยความตื่นเต้น.
จงซานพยักหน้าและเผยยิ้มให้,กงจูเฉียนโหยวที่สูดหายใจยาวเช่นกัน.
"อาต้า,อาเอ้อ,พวกเจ้ามาถึงตั้งแต่เมื่อไหร่?"กงจูเฉียนโหยวที่สอบถามคนทั้งสอง.
"พวกเรามาถึงที่นี่สักพักแล้ว,ตั้งแต่ที่ได้หลอกล่อเหล่าทหารของอ๋องจวีลู,ดังนั้นจึงได้พักอยู่ในเมืองเฟิงหลิงแห่งนี้รอพวกท่าน,ทว่าเซียนเซิงท่านร้ายกาจจริงๆ,ที่ทหารมากมายของอ๋องจวีลูไม่สามารถจับตัวได้,หนำซ้ำเมื่อถูกค้นพบ,กับถูกทหารต้ากวงไล่ออกไป."อาต้าที่กล่าวออกมาด้วยความตื่นต้น.
"หืม?
ทหารต้ากวงขับไล่อ๋องจวีลูไปอย่างงั้นรึ?,ใครเป็นคนพูดกัน?"จงซนที่แสดงท่าทางสงสัย.
"เฮ้?เรื่องนี้ทุกคนต่างก็รู้ดี,เรื่องของผู้บัญชาการทัพทั้งสองราชวงศ์ที่พบเจอกันที่สำนักซังอวิ๋น,กองกำลังอ๋องจวีลูที่ถูกกองกำลังต้ากวงขับไล่ออกไป,นี่ไม่ใช่ความตั้งใจของเซียนเซิงเหรอ?"อาต้าที่กล่าวออกมาด้วยความสงสัย.
"เทพสวรรค์แค่เข้าข้างข้าก็เท่านั้น!"จงซานที่ฝืนยิ้มออกมา.
"เซียนเซิงก็เหมือนกับเทพสวรรค์นั่นล่ะ."กงจูเฉียนโหยวที่กล่าวออกมาด้วยรอยยิ้ม.
"แล้วตอนนี้พวกเจ้าได้ยินข่าวของเสี่ยวหวังบ้างหรือไม่?"จงซานที่จ้องมองไปยังอาต้า.
"อุปราชต้ากวง,เสี่ยวหวัง,เหมือนว่าเวลานี้เกิดอะไรขึ้นไม่รู้,เขาได้ทูลขอราชันย์ต้ากวงว่าต้องการฝึกฝนสามปี,ขอลาพักจากตำแหน่งอุปราชต้ากวงชั่วคราว,ตอนนี้ไม่รู้ว่าเขาไปที่ใหน,ทว่าครบสามปีแล้วเขาก็จะกลับมา."อาต้ากล่าว.
จงซานที่ขมวดคิ้วไปมาเล็กน้อย."เสี่ยวหวัง,เสี่ยวหวัง,สามปีจะกลับมาเหรอ?
ดูเหมือนว่าเขาต้องการที่จะลบจุดอ่อนของตัวเองออกไป,กลับมาคราวหน้า,เขาคงจะน่าเกรงขามยิ่งกว่าแต่ก่อนอย่างแน่นอน."
"อืม."กงจูเฉียนโหยวพยักหน้า.
"กงจู,หลายวันมานี้,พวกเราพบว่าเมืองเฟิงหลิงนั้นดูผิดปรกติ."อาต้ากล่าว.
"ผิดปกติอย่างไร."กงจูเฉียนโหยวที่แสดงท่าทางสงสัย.
"คือนี่."อาต้าที่สะบัดมือ,พร้อมกับนำปลาฮวงจุ้ยสีเหลืองอร่ามออกมา,ซึ่งก่อนหน้านี้เนี่ยนโหยวโหยวเองก็ได้ข่มขู่เอาจากชายคนหนึ่งเช่นกัน.
"ปลาฮวงจุ้ยอย่างงั้นรึ?"กงจูเฉียนโหยวที่แสดงท่าทางประหลาดใจ.
"ครับ,ข้าและอาเอ้อนั้นโชคดีที่ไปพบเข้า,ดูเหมือนว่าจะไม่ได้มีเพียงพวกเรายังมีคนอีกหลายคนที่จับมันได้เช่นกัน."อาต้ากล่าว.
"โอ้ว?"กงจูเฉียนโหยวที่สะบัดพัดกระดาษไปมา.
"พวกเราได้สอบถามมาแล้ว,พวกเขาบอกว่าปลาฮวงจุ้ยนั้นปรากฏขึ้นมาก่อนหน้านี้หกเดือน,ดูราวกับว่ามันได้บินกระจายไปทั่วเมืองเฟิงหลิงกระจัดกระจายเป็นจำนวนมาก,มีคนมากมายที่เดินทางมาที่นี่,ไม่มีใครรู้แน่นชัดว่า,มีใครที่ได้รับปลาฮวงจุ้ยบ้าง,แต่ดูเหมือนว่ามันจะมีอยู่จำนวนไม่น้อยทีเดียว."อาต้ากล่าว.
"ปรากฏขึ้นที่เมืองเฟิงหลิงอย่างงั้นรึ?"จงซานที่ขมวดคิ้วไปมาแสดงท่าทางสงสัย.
"อืม,ปลาฮวงจุ้ยนั้นโดยปกรติมันจะหลุดออกมาจากค่ายกลฮวงจุ้ย,ตราบเท่าที่พื้นที่ใกล้ๆนั้นมีค่ายกลฮวงจุ้ยแล้วล่ะก็,แน่นอนว่าพื้นที่แห่งนั้นจะต้องมีสมบัติล้ำค่าซ่อนอยู่,เหมือนกับเซิงซ่างเจียงซือก่อนหน้านี้,ดังนั้นจะต้องมีคนเดินทางมาหาสมบัตินี้อย่างแน่นอน."กงจูเฉียนโหยวกล่าว.
"ใช่,นอกจากนี้ในเมืองเฟิงหลิงนั้น,ข่าวนี้ได้กระจายไปทั่ว,ปลาฮวงจุ้ยที่กระจายอยู่ทั่วเมือง,เรื่องของค่ายกลฮวงจุ้ยในเวลานี้,มีคนเดินทางมากมายต่างก็ค้นหา,พวกเขาที่ประจำอยู่ในเมืองแทบจะไม่ออกไปใหนเลย."อาต้ากล่าว.
"ไม่ออกไปใหนอย่างงั้นรึ?"จงซานที่ขมวดคิ้วไปมา.
"ตอนนี้มีคนเดินทางเข้ามาในเมืองเป็นจำนวนมาก,เดินทางออกนอกเมืองนั้นมีน้อยมาก,นอกจากนี้ยังมือซือจื่อหานจิว,ตอนนี้ก็ได้เดินทางมายังเมืองเฟิงหลิงเรียบร้อยแล้ว."อาต้ากล่าว.
"ซือจื่อหานจิวอย่างงั้นรึ?"กงจูเฉียนโหยวที่กล่าวออกมาด้วยท่าทางสงสัย.
"ใช่แล้ว,ก่อนหน้านี้พวกเราเจอเขาที่เมืองเทียนกง,อี้เหยี่ยนที่ต้องการสังหารพวกเราพร้อมกับป้ายความผิดให้กับเขา,คาดไม่ถึงเลยว่าเขาจะมาที่นี่,กับเรื่องที่เกิดขึ้นในครานั้น,คาดไม่ถึงเลยจริงว่าเขาจะหายดีและมาปรากฏตัวที่นี้ได้เร็วขนาดนี้."อาต้าที่พยักหน้ากล่าวรายงาน.
"ค่ายกลฮวงจุ้ย,ตั้งอยู่ที่ใหน?"กงจูเฉียนโหยวที่สอบถามออกไป.
"ยังไม่รู้แน่ชัด,ตอนนี้มีเพียงแค่ข่าวลือว่าอยุ่ในเมืองเฟิงหลิง,ทว่าก่อนหน้านี้ซื่อจื่อหานจิวได้เดินทางไปยังพื้นที่แห่งหนึ่ง,ภายในนั้นมีเสียงอะไรบางอย่างเล็ดลอดออกมา,จากนั้นซือจื่อหานจิวได้ให้คนคุ้มกันเอาไว้,บางทีอาจจะเป็นไปได้ว่าพื้นที่ดังกล่าวนั่นอาจจะเกี่ยวข้องกับค่ายกลฮวงจุ้ย."อาเอ้อกล่าว.
"เซียนเซิงมีความเห็นว่าอย่างไร?"กงจูเฉียนโหยวที่จ้องมองมายังจงซาน.
"ข้าจะอย่างไรก็ได้,ตอนนี้กงจูหายดีแล้ว,มีอาต้าและอาเอ้อคุ้มกัน,ตราบเท่าที่ไม่มีทหารมากมายล้อมกรอบพวกเราเหมือนเมื่อหลายเดือนก่อน,ก็คิวว่าไม่น่ามีปัญหาอะไร."จงซานที่ยักไหล่พร้อมกับรอยยิ้ม.
"เช่นนั้นพวกเราจะไปดูกันหรือไม่?"กงจูเฉียนโหยวที่จ้องมองไปยังจงซาน,เหมือนกับว่าต้องการคำแนะนำจากจงซาน,เพื่อตัดสินใจ,หากเป็นก่อนหน้านี้นางไม่มีทางถามเขาแต่อย่างใด,ทว่าเหมือนว่าเวลานี้นางที่ร้องขอความเห็นจากจงซาน.
อาต้าและอาเอ้อนั้นไม่ได้มีความคิดเห็นอะไร,ทว่าจงซานที่ตระหนักได้,จึงได้กล่าวกับนาง,"ขึ้นกับการตัดสินใจของกงจูแล้ว."
"ดี,เช่นนั้นพวกเราจะไปดูค่ายกลฮวงจุ้ยนี้กัน,คาดไม่ถึงเลยว่าจะมีค่ายกลฮวงจุ้ยในเมืองแห่งนี้,นับว่าเป็นเรื่องหายากจริงๆ."กงจูเฉียนโหยวที่แสดงท่าทางอยากรู้อยากเห็นเป็นอย่างมาก.
จงซานที่จ้องมองไปยังเมืองเฟิงหลิงจากด้านนอก,เขาสามารถมองเห็นได้ว่าเมืองนี้ค่อนข้างเก่าเหมือนกัน,ฟังจากที่อาต้ากล่าวแล้วเมืองแห่งนี้อยู่ในเขตของอาณาจักรต้ากวง,ดูเหมือนว่าจะปรากฏขึ้นเป็นเวลาที่นานเป็นอย่างมาก.
เมืองเฟิงหลิงนั้นดูเหมือนจะคล้ายๆกับเมืองอู๋ซวัง,ทว่าส่วนมากจะเป็นพื้นที่ราบมากกว่า,กำแพงเมืองเวลานี้เป็นสีเหลืองและดำ.
พวกเขาที่เข้ามาในเมืองเฟิงหลิงโดยไม่ยากลำบากนัก,ตราบเท่าที่เผยบัตรผ่านทางของราชวงศ์ต้ากวง,ซึ่งอาต้าและอาเอ้อนั้นได้เตรียมเอาไว้เรียบร้อยแล้ว,นอกจากนี้ภายในเมืองยังมีทหารต้ากวงอยู่เป็นจำนวนมาก,และพื้นที่แห่งนี้ยังอยู่ลึกเข้ามาในต้ากวง,ดังนั้นจึงไม่มีสงครามเกิดขึ้นง่ายๆแน่,ดังนั้นเหล่าผู้คุ้มกันจึงไม่ได้เคร่งครัดในการตรวจคนเข้าเมืองนัก.
เมืองเฟิงหลิงนั้น,มีพื้นที่สีแดงสีน้ำเงินมากมาย,แทบจะเหมือนๆกับเมืองอู๋ซวัง,มีเกาะลอยฟ้าด้วยเช่นกัน,ภายใต้การนำของอาต้าและอาเอ้อ,คนทั้งสี่เดินทางไปยังหุบเขาแห่งหนึ่งอย่างรวดเร็ว,พื้นที่ด้านนอกนั้นเป็นม่านแสงสีแดง,ซึ่งบอกได้ว่าพื้นที่แห่งนี้เป็นพื้นที่ส่วนตัว.
"กงจู,ที่นี่พวกเราเพิ่งซื้อเอาไว้."อาเอ้อกล่าว.
"จากที่นี่,สามารถมองเห็นพื้นที่คุ้มกันของซือจื่อหานจิวได้."อาต้ากล่าว.
"ที่ใหนอย่างงั้นรึ?"กงจูเฉียนโหยวที่ขมวดคิ้วไปมา.
อาต้าและอาเอ้อที่นำไป,ซึ่งเป็นเทือกเขาแห่งหนึ่งซึ่งมีคนยืนอยู่เป็นจำนวนมาก.
"กงจู,ที่นี่ล่ะ!"อาเอ้อที่ชี้ไปยังพื้นที่ดังกล่าว.
สถานที่ดังกล่าวนั้น,มีทหารคุ้มกันอยู่มากมาย,และยังมีม่านสีแดงขนาดใหญ่อีกด้วย,รัศมีความกว้างนั้นมีขนาดกว่าหนึ่งร้อยลี้ทีเดียว.
"พวกเจ้าเข้าไปข้างในรึยัง?"กงจูเฉียนโหยวสอบถาม.
"ยังไม่เคยเข้าไป,แม้ว่าจะมีปลาฮวงจุ้ยหลุดออกมา,ทว่าพวกเราก็เกรงว่าจะเกิดเหตุไม่คาดฝันเกิดขึ้น,ดังนั้นจึงรอคอยกงจูกลับมาก่อนที่จะตัดสินใจอีกครั้ง."อาต้ากล่าว.
"อืม..."
กงจูเฉียนโหยวที่สะบัดพัดจ้องมองไปยังพื้นที่ไกลออกไปพลางครุ่นคิดอะไรบางอย่าง.
ทว่าในเวลาเดียวกัน,จงซานที่เห็นเงาๆหนึ่งที่เคลื่อนที่อย่างรวดเร็ว,คาดไม่ถึงเลยว่าจะสามารถผ่านการมองเห็นของเหล่าทหารมากมายได้,ด้วยการบิน.
"เนี่ยนโหยวโหยว,กงจู,นั่นคือเนี่ยนโหยวโหยว!"อาต้าที่เอ่ยออกมาในทันที.
"นางที่คว้าปลาฮวงจุ้ยได้ก่อนหน้านี้,ตอนนี้ต้องการที่จะเข้าไปดูอย่างงั้นรึ?"กงจูเฉียนโหยวที่จ้องมองพลางขมวดคิ้วไปยังพื้นที่ดังกล่าว.
"กงจู,พวกเราเองก็เข้าไปดูบ้างดีกว่า."ในเวลานั้นเสียงของจงซานที่ดังขึ้นด้านหลังนาง.
กงจูเฉียนโหยวที่ขมวดคิ้ว,ดวงตาเปล่งประกาย,หันหน้ากับมามองจงซาน,เขาที่เคยพานางผ่าดงทหารจำนวนมาก่อน,เวลานี้จงซานที่ต้องการจะผ่าทหารต้ากวงอีกอย่างงั้นรึ?
กงจูเฉียนโหยวที่เผยยิ้มออกมาเล็กน้อย,"ได้!"
แม้ว่าที่แห่งนี้จะเป็นเขตหวงห้าม,ทั้งยังมีทหารของต้ากวงคอยประจำการอยู่,ที่จริงๆไม่มีใครกล้าเข้ามา,ทำให้การคุ้มกันไม่ได้เข้มงวดนัก,จงซานที่สามารถแทรกตัวเข้าไปด้านในได้.
ที่ด้านในนั้น,เต็มไปด้วยภูเขามากมาย,กระจายตัวล้อมเป็นวงกลม.
มียอดเขากว่า 64 ยอด,ที่ปิดล้อมเป็นวงกลม,ด้านในนั้นเต็มไปด้วยวัชพืช,ดูเหมือนว่าไม่ใด้ใช้ในการเพาะปลูกมานานแล้ว,ส่วนบนภูเขาแต่ละลูกที่ปิดล้อมนั้นเต็มไปด้วยต้นไม้สีเขียวอุดมสมบูรณ์เป็นอย่างมาก.
ที่ทิศเหนือนั้น,มีภูเขาที่มีภูเขาสูงแค่ครึ่งหนึ่งของยอดเขาอื่นๆ,เป็นพื้นที่ราบเหมือนกับหลังคา,และมีกระท่อมมุงจากหลังหนึ่ง,ที่ด้านข้างนั้นมีสระน้ำอยู่ด้วย,และยังมีแท่นศิลาตั้งอยู่,และบนแท่นศิลานั้น,มีชายคนหนึ่งที่กำลังนั่งขัดสมาธิ.
ชายชระในชุดสีขาว,ผมขาวคิ้วขาว,ดวงตาปิดแน่น,ใบหน้าสีผิวที่ดูขาว,นั่งสมาธินิ่งไม่ไหวติงอยู่บนแท่นศิลา,บนมือขวาของเขามีแส้หางม้า,มือด้านซ้ายที่ตะวัดไปมา,ดูเหมือนว่าเป็นวิชาหนึ่ง,ที่กำลังปัดเป่าเหล่าคนที่มารบกวน.
เนี่ยนโหยวโหยวในชุดสีดำที่ยืนอยู่ไม่ไกลออกไปยังยอดเขาอีกลูกหนึ่ง,จับแส้ของนาง,ขมวดคิ้วไปมา,ใบหน้าท่าทางของนางที่แสดงท่าทางประหลาดใจลังเลใจจ้องมองยังชายชุดขาวที่อยู่บนยอดเขา.
ขณะที่จงซานและกงจูเฉียนโหยวมาถึง,ดวงตาของเนี่ยนโหยวโหยวที่เปล่งประกาย,ร่างกายของนางที่เคลื่อนไหว,มาอยู่ข้างกายของจงซาน.
"มีอะไร?ไม่เข้าไปหาสมบัติอย่างงั้นรึ?"กงจูเฉียนโหยวที่กล่าวออกมาด้วยรอยยิ้ม.
"ข้ามาหาจงซาน,ไม่ได้มาหาเจ้า!"เนี่ยนโหยวโหยวที่โต้ตอบนางไปในทันที.
"แม่นางเนี่ยนโหยวโหยว,เจ้าเก็บเกี่ยวอะไรได้บ้าง?"จงซานที่สอบถามเนี่ยนโหยวโหยว.
"จู่เหริน,สหายคนนั่นรังแกข้า! ท่านต้องช่วยข้าแก้แค้นนะ!"ใบหน้าของเนี่ยนโหยวโหยวที่ออดอ้อนเขาในทันที.
เห็นท่าทางของเนี่ยนโหยวโหยวที่เปลี่ยนไปมา,จงซานไร้คำพูดเช่นกัน,นางที่หลากหลายอารมณ์จนเขาตามไม่ทันเลยจริงๆ.
"ข้าก็เพียงแค่ระดับแกนทองเท่านั้น,เจ้าไม่สามารถต่อกรกับเขาได้,ข้าไปไม่เท่ากับแส่หาความตายหรอกรึ?"จงซานที่เผยยิ้มออกมา.
ทว่าที่จริงแล้วเนี่ยนโหยวโหยวที่แสดงท่าทางประหลาดใจจ้องมองไปยังจงซานเช่นกัน,เพราะว่านี่ไม่ใช่ครั้งแรก,หลายร้อยครั้งที่นางใช้วิชาล่อลวงป่วนใจเขา,แต่ทำไมกับไม่มีผลกับจงซานเลยรึ?ก่อนหน้านี้,แม้แต่คนที่มีระดับหลอมกายธาตุ,ยังทำให้เขาหน้าแดง,พร้อมกับฟังคำสั่งของนาง,ทำไมทุกๆครั้งที่นางใช้กับจงซาน,มันไม่ได้ผลบ้างล่ะ?
เห็นจงซานที่ดูปรกติ,ใบหน้าของเนียนโหยวโหยวที่เปลี่ยนไป,นางกับมาเป็นเหมือนดังราชินี,ดูอหังการ,จ้องมองไปยังจงซานด้วยท่าทางระมัดระวัง,จากนั้นก็มองไปรอบๆร่างของจงซาน.
"เป็นความจริงที่เป่ยชิงซือบอกว่าเจ้าต่างจากคนอื่นมาก."เนี่ยนโหยวโหยวที่จ้องมองไปยังยังซาน,ราวกับว่านางเริ่มเข้าใจในตัวของเป่ยชิงซือ.
"ทว่า,ยิ่งเป็นเช่นนี้,ข้าก็ยิ่งชอบ!"เนี่ยนโหยวโหยวที่เงยหน้าขึ้น,เผยยิ้มพร้อมกับกล่าวเย้าแหย่,ไม่อยากเชื่อว่ามันจะเป็นจริง.
ที่มาจากhttps://lnmtl.com/novel/immortality
#นิยาย เรื่องอมตะ #Immortality#นิยายแปลไทย
Author(s)
สนใจสนับสนุนพวกเรา,เข้าร่วมกลุ่ม VIP ====> Click
***เว็ปฟรีอัพ สองวันหนึ่งตอน
***กลุ่มลับ อัพ 2-3 ตอนต่อวัน.
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น