วันอาทิตย์ที่ 17 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2562

Immortality Chapter 239 The millenniums waited for

Immortality Chapter 239 The millenniums waited for

นิยาย เรื่อง อมตะ ตอนที่ 239   รอคอยมากว่าพันปี.

Chapter 239 The millenniums waited for
千年等待
  รอคอยมากว่าพันปี.

"รับบุตรบุญธรรมอย่างงั้นรึ?"กงจูเฉียนโหยวที่ขมวดคิ้ว.

"รับบุตรบุญธรรม,เพื่อให้เข้าสู่สำนักเซียน,คาดหวังว่าจะมีบุตรบุญธรรมสักคนนำเม็ดยาโพวจวินกลับมาอย่างงั้นรึ?"จงซานที่ราวกับคิดถึงความหลังตัวเองขึ้นมา.


หรูเหยียนที่จ้องมองไปยังจงซานด้วยท่าทางประหลาดใจ,แล้วพยักหน้าให้."ใช่,คุณชายเข้าใจถูกแล้ว,มันเป็นแผนการของสามี,ที่ต้องการจะฝึกฝนบำเพ็ญต่อ,เขาที่ให้เหล่าบุตรบุญธรรมฝึกฝนวิชา,คาดหวังว่าเหล่าบุตรบุญธรรมของเขาจะสามารถได้เข้าสู่สำนักเซียนได้,เพื่อที่จะขอเม็ดยาโพวจวินกลับมา,เพื่อที่จะช่วยเขาทะลวงผ่านระดับโหวเทียน,ข้ายังจดจำคำพูดของสามีที่เคยกล่าวเอาไว้เป็นอย่างดี."

"อะไรรึ?"กงจูเฉียนโหยวที่สอบถามออกไป.

"ข้าต้องการเริ่มต้น,ตราบเท่าที่ข้าได้โอกาส,ข้าจะต้องทำให้ดีกว่าทุกคน."หรูเหยียนที่หวนรำลึก.

"ใช่แล้ว,โหวเทียนและเซียนเซิง,ราชวงศ์ต้ากวงเองก็มีการจัดชุมนุมประลองความสามารถ,มีการเปิดรับระดับเซียนเทียนด้วย,แม้แต่คนมีระดับโหวเทียนก็ยังสามารถเข้าร่วมได้ด้วย."กงจูเฉียนโหยวที่พยักหน้า.

"สามีของข้าอายุ 84 แล้ว,สามีได้นำบุตรบุญธรรม,ไปงานคัดเลือกในครั้งนั้น,การเข้าสู่สำนักเซียนนั้นนับว่าเป็นเรื่องที่ยั่วยวนเป็นอย่างมาก,การต่อสู้แข่งขันในครั้งนั้น,ท้ายทีสุดก็มีบุตรบุญธรรมสองคนได้รับการคัดเลือก,ทว่าบุตรบุญธรรมทั้งสองกลับไม่ขอเม็ดยาโพวจวินให้กับสามีข้า,พร้อมกับหนีหายกลับไปกับคนสำนักเซียนในครั้งนั้น."หรูเหยียนที่กล่าวออกมาด้วยความเศร้า.

กงจูเฉียนโหยวที่แสดงท่าทางไม่พอใจ,ทว่าจงซานในเวลานี้ถึงกับกำหมัดแน่น,ดวงตาที่กระพริบไปมา,เขาที่รู้สึกประหลาดใจ,ก่อนที่เขาจะเงยหน้าขึ้นช้าๆ,เต็มไปด้วยอารมณ์ความรู้สึก,ที่เอ่อล้นออกมา.

กงจูเฉียนโหยวที่จ้องมองไปยังจงซานด้วยท่าทาประหลาดใจ,ไม่รู้ว่าจงซานเป็นอะไร?

"คุณชาย,ท่านสบายดีหรือไม่?"หรูเหยียนที่จ้องมองไปยังจงซาน.

"ข้าสบายดี!"จงซานที่ถอนหายใจยาว.

ช่างเหมือนเหลือเกิน,ประมุขเสี่ยวนั้นเหมือนกับเขาจริงๆ,ทว่าเขาในเวลานั้นนับว่าโชคดี,ที่จงเทียนสามารถขอเม็ดยาโพวจวินได้ในที่สุด.

"ท่านเล่าต่อเถอะ."จงซานเอ่ย.

ในเวลานั้น,นางที่เดินมาถึงเรือนหลังหนึ่ง,หรูเหยียนที่ผลักประตูออกไปเบาๆ,ที่ด้านเหนือของบ้านนั้น,มีรูปภาพรูปหนึ่งแขวนอยู่,ในรูปภาพนั้นมีหญิงสาวที่งดงามเป็นอย่างมารูปร่างเหมือนกับหรูเหยียน,ส่วนอีกคน,เป็นชายผมสีขาวเทา,ใบหน้าเหี่ยวย่น,เห็นได้ชัดเจนว่าเขาเป็นชายชราที่มีสัญญาณความตายปรากฏขึ้นมามากแล้ว.

ภาพวาดดังกล่าวนั้นเป็นภาพที่เหมือนจริงเป็นอย่างมาก,เป็นภาพชายชราและภรรยาที่รักกันเป็นอย่างมาก.

"รูปนี้สามีมีอายุ 84 ปี,เขาได้เชิญจิตรกรมีชื่อ,มาวาดภาพนี้,ตลอดพันปีข้าได้ปกป้องมันเอาไว้,ข้ายังจดจำสามีของข้าได้ดีเหมือนดั่งเช่นวันวาน."หรูเหยียนที่นำมือลูบไปยังภาพวาดดังกล่าว.

"ในเวลานั้นเจ้าก้าวไปยังระดับเซียนเทียนแล้วอย่างงั้นรึ?"กงจูเฉียนโหยวสอบถาม.

"ใช่แล้ว,ข้าได้ก้าวไปยังระดับเซียนเทียนก่อนหน้านั้น,ทว่าสามีของข้านั้นเหลือเวลาไม่มากแล้ว,ท้ายที่สุดหลายปีมานั้น,ข้าสังเกตเห็นว่าสามีของข้านั้นเต็มไปด้วยรอยยิ้มที่ขมขื่น,ภายในใจของข้าเองก็รู้สึกเศร้าเป็นอย่างมาก,สามีของข้านั้นต้องการให้ข้าจากไป,ต้องการให้ข้าก้าวไปสู่เส้นทางของเซียน,ทว่าหรูเหยียนจะทิ้งสามีให้อยู่คนเดียวได้อย่างไร?"หรูเหยียนที่รู้สึกเศร้าเป็นอย่างมาก.

"แล้วหลังจากนั้นล่ะ?"กงจูเฉียนโหยวที่จ้องมองไปยังหรูเหยียน.

"ก่อนหน้านั้นนานแล้ว,สามีได้สร้างวิหารขึ้นมา,เพื่อเป็นสุสาน,สองปีหลังจากนั้น,สามีก็มีอายุ 96 ปีแล้ว,ในเวลานั้นพวกเรารู้สึกไม่ดีนัก,ข้าเองก็ไม่ยินดีที่จะจากไป,พวกเราได้ตกลงกันว่า,พวกเราจะเดินทางไปยังยมโลกด้วยกัน."หรูเหยียนกล่าว.

"ตกลงกันที่จะเดินทางไปยังยมโลกด้วยกันอย่างงั้นรึ?"หัวใจของกงจูเฉียนโหยวที่สั่นไหวไปมา.

"มีชีวิตก็ขอเป็นสามีภรรยา,ตายไปก็ขอเป็นสามีภรรยา."หรูเหยียนที่กล่าวออกมาพร้อมกับกุมมือไปที่หน้าอกตัวเอง.

"พันปีมาแล้ว,ไม่รู้ว่าจะใช้งานได้หรือไม่?,คุณชาย,ช่วยเปิดพื้นตรงนี้ด้วย."หรูเหยียนที่ชี้ไปยังมุมพื้นที่มีอิฐปกปิดอยู่.

ในเวลานี้ภายในใจของจงซานรู้สึกเศร้าไปด้วย,จ้องมองกลับไปยังตัวเอง,เขาที่คิดถึงเรื่องราวที่ผ่านมา,หากว่าเขาไม่ได้รับเม็ดยาโพวจวินในครั้งนั้น,เขาจะเป็นเช่นนี้หรือไม่? จงซานที่เดินพร้อมกับยกพื้นขึ้น.

เมื่อพื้นถูกยกขึ้น,ก็ปรากฏเป็นขั้นบันไดลงไปด้านล่าง,หรูเหยียนที่เดินนำพวกเขา,จงซานที่นำมุกราตรีออกมาเพื่อให้แสงนำทาง,พร้อมกับเดินตามลงไปพร้อมกับกงจูเฉียนโหยว.

ลึกลงไปข้างล่างนั้น,เป็นห้องโถงขนาดใหญ่มีห้องหลายห้อง,ตอนนี้ดูวางเปล่าวังเวง,เต็มไปด้วยความมืดมิดน่าหวาดหวั่น,ทว่า,เรื่องนี้ก็ไม่ได้ทำให้จงซานและกงจูเฉียนโหยวที่เป็นผู้ฝึกตนหวาดกลัว,หรูเหยียนที่เป็นภูติมานานนับพันปี,นางที่อาศัยอยู่ในพื้นที่มืดๆน่าสะพรึงกลัวเช่นนี้อย่างงั้นรึ?

หรูเหยียนที่นำพวกเขา,มายังห้องลับที่ใหญ่ที่สุด.

ห้องลับแห่งนี้มีขนาดใหญ่ที่สุดมีโลงหินขนาดใหญ่เป็นอย่างมาก,ดูโดดเด่นอยู่กลางห้อง.

"ที่นี่ล่ะ."หรูเหยียนที่ชี้ไปยังโลงหิน.

"ให้ข้าเปิดอย่างงั้นรึ?"จงซานเอ่ย.

"คุณชายรบกวนด้วย."หรูเหยียนเอ่ย.

จงซานที่ยื่นมุกราตรีให้กงจูเฉียนโหยวถือเอาไว้,ก่อนที่จะใช้มือเปิดโลงหินเลื่อนออกมา,ซึ่งด้านในนั้นมีของตกแต่งอย่างประณีตและมีแสงสว่างจางๆด้านใน.

จงซานที่ใช้แรงไม่น้อยเพื่อเปิดฝาโลงหินดังกล่าวออกมา,ซึ่งเวลานี้ได้เผยให้เห็นภาพด้านใน.

ทันทีที่เปิดโลงศพหินออกมา,สัมผัสได้ถึงอากาศที่หนาวเย็นไหลออกมาจากด้านใน,ซึ่งด้านในโลงศพนั้นมีกล่องใบหนึ่ง,มีตราหยินหยางที่ถูกสลักเอาไว้บนกล่อง,ตราหยินหยางนั้น,มีใส้ตะเกียงที่ยื่นออกมา,พร้อมกับส่องประกายแสง,ยังมีเปลวเพลิงที่ลุกไหม้ให้แสงอยู่ นับว่าเป็นเรื่องประหลาดที่ไม่มีน้ำมัน,นับพันปีแล้ว,มันยังไม่มอดดับ.

ในโลงศพนั้น,ยังมีกระดูกคนตายที่นอนอยู่ข้างๆ,ตอนนี้เริ่มกายเป็นหินสีดำแล้ว,ที่บนคอนั้นมีสร้อยคออยู่,และยังมีแหวนสองวงที่ห้อยอยู่ด้วยเช่นกัน.

จงซานที่ไม่ได้ขยับ,ทว่าจ้องมองไปยังหรูเหยี่ยน.

"กระดูกของคนที่ตายไปนั้น,คือโครงกระดูกของข้าเอง,ที่คอของข้านั้น,เป็นของขวัญที่สามีมอบให้,มันเรียกว่า" สายสัมพันธ์แห่งความคิดถึง" หมายความว่าพวกเราจะอยู่ด้วยกันตราบชั่วนิจนิรันดร์,จะช่วยรักษาองค์ประกอบดวงวิญญาณ,ไม่ให้พวกเราจากกันไป,โคมอมตะที่จะช่วยส่องประกายแสงนำทางให้กับพวกเรา."หรูเหยียนเอ่ย.

"สายสัมพันธ์แห่งความคิดถึง?"กงจูเฉียนโหยวที่จ้องมองไปยังสร้อยคอ,ราวกับว่าสนอกสนใจ.

"ในเวลานั้นเกิดสิ่งใดขึ้น?ทำไมท่านถึงได้ตายไป?"จงซานที่ขมวดคิ้วสอบถาม.

"วันนั้น,สามีที่กล่าวลาทุกคนในครอบครัว,เขาที่เดินทางกับข้า,พร้อมกับจุดโคมไฟอมตะ,พร้อมกับปิดโลงศพศิลานี้,เขาที่กอดข้าเอาไว้แน่น,พวกเราที่อมชาดเอาไว้ในปาก,เตรียมพร้อมที่จะเดินทางไปยังยมโลกด้วยกัน."หรูเหยียนกล่าว.

"กอดเจ้าอย่างงั้นรึ?อมชาดด้วยกัน? กลืนอย่างงั้นรึ?"จงซานที่ขมวดคิ้วไปมา.

"กลืน,ข้าเป็นคนป้อนเขา,เขาเป็นคนป้อนข้า,พวกเราที่กลืนชาดพร้อมๆกัน,พวกเราที่กอดกันแน่น,พร้อมใจที่จะจับมือเดินทางไปยังยมโลกด้วยกัน."หรูเหยียนกล่าว.

"ทว่า,เสี่ยวปิงอี้ก็หายไป."จงซานที่ขมวดคิ้วไปมา.

"ใช่แล้ว,สามีหายไป,เมื่อข้าวิญญาณคืนกลับ,เขาก็หายไปแล้ว,หลังจากที่ข้าออกมา,ก็พบว่าทุกคนก็หายไปหมดแล้ว,ไม่มีใครเหลือ,ข้ารออยู่ที่นี่,รอสามีกลับมา,ทว่า,ไม่ว่าจะรอสักเท่าไหร่ก็ไม่มีใครมา,หนึ่งพันปีแล้ว,ข้าเหนื่อย,เหนื่อยเหลือเกิน,ขอให้คุณชายช่วยข้าหาสามีด้วยเถิด."หรูเหยียนที่จ้องมองไปยังจงซาน.

"แม่นางหรูเหยียน,ท่านโปรดวางใจเรื่องนี้เมื่อข้าจงซานรับปากท่านแล้ว,จะไม่คืนคำเด็ดขาด,อย่างไรก็ตาม,ท่านจะต้องยืนยันว่าเสียวปิงอี้นั้นยังอยุ่ในโลกนี้หรือไม่?บางทีนี่ก็ผ่านมาพันปีแล้ว,ด้วยพรสวรรค์ทางร่างกายของเขา,คงจะตายไปแล้วก็ได้."จงซานกล่าว.

"ตะเกียงอมตะของเขานั้นไม่ส่องแสดง,ตราบเท่าที่เขาเข้าไปยังภพหยิน,ตระเกียงอมตะจะต้องดับไป,มีแต่คนตายเท่านั้นตะเกียงถึงดับ,ทว่าวิญญาณของเขาจะยังไม่สลายหายไป,นั่นก็หมายความว่าเขายังไม่ได้ไปภพหยิน,เขาจะต้องอยู่ในโลกใบนี้."หรูเหยียนที่ชี้ไปยังโคมไฟอมตะ,ที่ตอนนี้ส่องสว่างอยุ่.

จงซานที่ดูงงงวย,จ้องมองไปยังกงจูเฉียนโหยว.

"โคมไฟอมตะนี้,ใช้น้ำมันตะเกียงจากเลือดเนื้อและโลหิต,เชื่อมต่อกับดวงวิญญาณ,ตราบเท่าที่วิญญาณอยุ่ในโลกนี้,ตะเกียงอมตะก็จะไม่ดับ,แต่เมื่อวิญญาณสลายและเข้าสู่ภพหยิน,มันถึงจะดับลงอย่างสมบูรณ์."กงจูเฉียนโหยวกล่าว.

"เช่นนั้นท่านก็เข้าไปอยู่ในภพหยินแล้วอย่างงั้นรึ?"กงจูเฉียนโหยวที่จ้องมองไปยังหรูเหยียน.

"ใช่แล้ว,ข้าได้ไปรอที่นั่นเป็นเวลาเจ็ดวัน,แต่ก็ไม่เห็นสามีมา,ข้าจึงได้หวนคืนวิญญาณกลับมาเพื่อมาหาสามี,เมื่อข้ากลับมาได้,ข้าก็พบว่ากระดูกของสามีนั้นไม่มีอยู่,โคมอมตะของเขายังส่องสว่าง,ไม่ได้ถูกทำลาย,เขายังอยู่ในโลกใบนี้."หรูเหยียนที่ส่ายหน้าไปมา.

"ทว่าเจ้าเป็นภูติ,เป็นไปไม่ได้ที่จะอยู่ในโลกแห่งนี้ได้เป็นเวลานาน,นับพันปี,เจ้ารออยู่ที่แห่งนี้พันปี,มีใครที่คอยมอบปราณหยินให้กับเจ้าอย่างต่อเนื่องอย่างงั้นรึ?"กงจูเฉียนโหยวกล่าว.

หรูเหยี่ยนที่จ้องมองไปยังเฉียนโหยว,ส่ายหน้าไปมาแต่ไม่ได้ตอบ,ทว่านางมองไปยังจงซาน,"คุณชาย,ท่านช่วยข้าหาสามีได้หรือไม่?"

จงซานที่สูดหายใจลึก,จ้องมองไปยังโลงศพศิลา,ภายในใจเต็มไปด้วยอารมณ์ความรู้สึก,เสี่ยวปิงอี้ยังไม่ตาย,ทว่าภายใต้สถานการณ์เช่นนั้น,เขามีวิธีเอาตัวรอดได้อย่างไร?

ไม่ต้องเอ่ยเลยว่าตัวเขาเองก็มีพรสวรรค์ทางร่างกายไม่ดี,ในเวลานั้นได้กลืนชาดเข้าไป,จะต้องตายอย่างแน่นอน,เขาได้เตรียมที่จะตายไป,แต่กลับมีชีวิตได้อย่างไร? นอกจากนี้เขามีชีวิตนับพันปีเลยอย่างงั้นรึ?

"เหล่าคนของคฤหาสน์เสียว,ตอนนี้ไม่มีใครอยู่อย่างงั้นรึ?"จงซานสอบถาม.

"ไม่,ตั้งแต่ข้าหวนคืนวิญญาณ,ที่แห่งนี้ก็ไม่มีใครแล้ว,พื้นที่รอบๆนี้เต็มไปด้วยหมอกหนามานับพันปีแล้ว,ข้าคอยถามคนที่ผ่านมาพื้นที่รอบๆนี้มากมาย,แต่ก็ไม่มีใครรู้จักสามีของข้าเลย."หรูเหยียนที่จ้องมองมายังจงซาน,ส่ายหน้าไปมา.

จงซานที่ขมวดคิ้ว,หัวใจที่อ่อนไหว,เพราะว่าฟังจากคำพูดของหรูเหยี่ยนแล้ว,เขาก็พอจะคาดเดาความจริงได้บ้าง,ทว่า,จงซานนั้นไม่เชื่อ,เข้าไม่อยากเชื่อเลยแม้แต่น้อย,เพราะว่าหากเป็นไปตามการคาดเดาของเขาแล้ว,บางทีมันอาจจะทำร้ายจิตใจของนางก็ได้.

"แล้วบุตรบุญธรรมของเสี่ยวปิงอี้ท้ายที่สุดก็ไม่กลับมาอย่างงั้นรึ?"กงจูเฉียนโหยวที่สอบถามออกมา.

ได้ยินคำพูดของกงจูเฉียนโหยวที่แสดงท่าทางสงสัย,ภายในใจของจงซานที่สั่นไหว,ในเวลานี้ใบหน้าของเขาที่แสดงท่าทางเป็นปฏิปักษ์ขึ้นมาด้วยเช่นกัน.

"ไม่,ในตอนนั้นบุตรบุญธรรมทั้งสองคน,ไม่ว่าสามีจะเรียกอย่างไร,ใบหน้าของพวกเขาก็เต็มไปด้วยความเย็นชา,ไม่หันกลับมามองพวกเราแม้แต่น้อย."หรูเหยี่ยนที่ส่ายหน้าไปมา.

"ไม่หันกลับมาเลยอย่างงั้นรึ?หัวใจของพวกเขาทำด้วยอะไร,ไม่ว่าอย่างไร,ก็ไม่ควรที่จะไม่รู้สึกอะไรเลย,พวกเขาไม่กลับมาเลยเหรอ."กงจูเฉียนโหยวกล่าว.

"ไม่,ไม่เลยเหรอ."หรูเหยี่ยนที่ส่ายหน้าไปมา.

"จงซานที่สูดหายใจลึก,จ้องมองไปยังหรูเหยี่ยน,"จะอย่างไร,อาจจะมีคนรู้ก็ได้? สำนักที่รับบุตรบุญธรรมของเสี่ยวปิงอี้ไปคือสำนักอะไรอย่างงั้นรึ? พวกเราไปสอบถามพวกเขากัน."

"เป็นไปไม่ได้,พวกเขาไม่มีทางกลับมา."หรูเหยี่ยนกล่าว.

"ไม่ว่าอย่างไรก็ลองไปถามดูพวกเขาอาจรู้ก็ได้ว่าเสี่ยวปิงอี้นั้นอยู่ที่ใหน,ลองถามดู,ก็ไม่เสียหาย."จงซานกล่าว.

"ได้,ข้ารู้เพียงว่าพวกเขาอยู่สำนักซังอวิ๋น,ส่วนเรื่องอื่นๆนั้นข้าไม่รุ้."หรูเหยี่ยนกล่าว.

"ดี,พวกเราจะไปยังสำนักซวังอวิ๋นเพื่อสอบถาม,เมื่อถึงตอนนั้น,พวกเราจะกลับมาบอกท่าน."จงซานกล่าว.

"ไม่,ไม่,ข้าจะไม่กับพวกท่านด้วย."หรูเหยี่ยนที่กล่าวต่อจงซาน.


"อืม."จงซานที่ส่ายหน้าไปมา.




ที่มาจากhttps://lnmtl.com/novel/immortality

#นิยาย เรื่องอมตะ #Immortality#นิยายแปลไทย
Author(s)


สนใจสนับสนุนพวกเรา,เข้าร่วมกลุ่ม VIP ====> Click

***เว็ปฟรีอัพ สองวันหนึ่งตอน
***กลุ่มลับ อัพ 2-3 ตอนต่อวัน.

 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น