วันอาทิตย์ที่ 17 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2562

Immortality Chapter 234 In Great Guang

Immortality Chapter 234  In Great Guang

นิยาย เรื่อง อมตะ ตอนที่ 234   ดินแดนต้ากวง.


Chapter 234  In Great Guang
大光境内
  ดินแดนต้ากวง.
**โลกประกอบด้วยภพหยิน(โลกคนตาย)-ภพหยางโลกคนเป็น เมื่อตายในภพหยางก็จะไปเกิดในภพหยิน ซึ่งจะถูกเรียกว่าภูติ.**

บนเส้นทางบนภูเขาลูกหนึ่ง,รถเทียมม้าที่กำลังเคลื่อนที่จากไปช้าๆ,จงซานที่นั่งอยู่บนรถม้าอีกคันหนึ่ง,จ้องมองไปยังคาราวานที่นำโดยลู่เจี้ยนปิงจากไปช้าๆ,กงจูเฉียนโหยวที่เลื่อนม่านออกมา,จ้องมองไปยังคาราวานดังกล่าวที่ค่อยๆจากไปไกล.



"เซียนเซิงเซิง,หลังจากนี้ท่านไม่ต้องช่วยพวกเขาอีกแล้วอย่างงั้นรึ?"กงจูเฉียนโหยวที่สอบถามออกมาอย่างนุ่มนวล.

"การนำพวกเขามายังต้ากวงได้,งานของข้าก็ถือว่าเสร็จสิ้นแล้ว,ขอบคุณ,กงจูที่ช่วยเหลือ."จงซานเอ่ย.

"ไม่มีปัญหา,กลุ่มคนดังกล่าว,ก็ช่วยพวกเราได้ไม่น้อย."กงจูเฉียนโหยวกล่าว.

"อืม,การเดินทางด้วยหมาป่าก่อนหน้านี้,นับว่าสะดวกสบายทีเดียว,ทว่าหลังจากนั้น,ข้ากับพากงจูนั่งไปบนรถเทียมม้า,ลดสถานะของท่าน,ทำให้ท่านไม่ต่างกับคนยากไร้,ทำให้กงจูต้องหม่นหมอง."จงซานเอ่ย.

"เฮ้เอ้,การเดินทางไปกับเซียนเซิง,เฉียนโหยวรู้สึกยอดเยี่ยม,หากไม่เพราะว่าเซียนเซิงแล้ว,เฉียนโหยวเกรงว่าคงจะถูกส่งกลับไปยังเมืองเทียนกงแล้ว."กงจูเฉียนโหยวกล่าว.

"หากไม่เพราะข้า,กงจูคงจะไม่ถูกพิษ,และตอนนี้คงจะพาอาต้าและอาเอ้อไปสมทบกับกุ่หลินแล้ว."จงซานที่ส่ายหน้าพลางทอดถอนใจ.

"คงงั้นมั้ง!"ใบหน้าของกงจูเฉียนโหยวที่เผยยิ้มอย่างซุกซนออกมา.

เห็นท่าทางของกงจูเฉียนโหยว,ภายในใจของจงซานที่สั่นไหวเล็กน้อย,ส่ายหน้าออกมาเผยท่าทางขมๆ."ตอนนี้กงจูฟื้นฟูเป็นอย่างไรบ้าง?"

"ผ่านมาแล้วสองเดือน,ตอนนี้มีพลังระดับเซียนเทียน บางทีไม่กี่วันคงก้าวไปถึงระดับแกนทอง,พิษเองก็ถูกขับออกอย่างต่อเนื่อง,ดูเหมือนว่าจะไม่มีปัญหา,ในอีกสี่สิบวัน,จะสามารถฟื้นฟูกลับมาได้."กงจูเฉียนโหยวกล่าว.

"ดีแล้ว."จงซานพยักหน้า,พร้อมกับนำรถเทียมม้ามุ่งตรงไปยังอีกทิศทางหนึ่ง.
....................

ตำหนักบัญชาการอ๋องจวีลู.

"ท่านอ๋อง,ตอนนี้พวกเราได้ประชิดอาณาเขตของต้ากวงแล้ว,หากค้นหาต่อไปอีก,พวกเราจะข้ามผ่านไปยังอาณาเขตของต้ากวง."แม่ทัพคนหนึ่งที่นั่งคุกเข่าให้กับอ๋องจวีลู่.

ดวงตาของอ๋องจวีลู่ที่แดงซ่านเต็มไปด้วยเส้นเลือดฝอย,ความเกรี้ยวกราดที่สุมอยู่เต็มอก.

การไล่ตามค้นหาตลอดสองเดือน,คาดไม่ถึงเลยว่าจะไม่เห็นแม้แต่เงาของจงซานและกงจูเฉียนโหยว,และยังมีคนอีกแปดสิบกว่าคน,ด้วยกองกำลังแปดล้าน,เวลานี้จะให้เขาถอนกำลังไปอย่างงั้นรึ?

"ท่านอ๋อง,เพราะว่าตอนนี้พวกเราเคลื่อนที่เข้าใกล้กองกำลังของต้ากวง,ตอนนี้ดูเหมือนว่าพวกเขาเองก็ได้รวบรวมกองกำลังเสริมเป็นจำนวนมาก,ตอนนี้ทำอย่างไรดี? ค้นต่อ..."อู๋อานที่ขมวดคิ้วและสอบถามออกมา.

"ค้นต่อไป,แจ้งไปยังทหารทุกคน,หลีกเลี่ยงการปะทะขัดแย้งกับกองกำลังต้ากวง,ค้นไปเรื่อยๆ."อ๋องจวีลูที่เต็มไปด้วยท่าทางห่อเหี่ยว.

"ครับ."ทุกคนที่ตอบรับ.
.............

เขตแดนต้ากวง,ห้องบัญชาการอุปราชต้ากวงทิศตะวันออก.

"กองกำลังแปดล้านของต้ายวี,ตอนนี้ได้มาถึงต้ากวงแล้ว,พวกเราจะต้องเตรียมแผนการอย่างไร,เข้าไปปะทะเลยรึไม่?"ขุนพลคนหนึ่งที่สอบถามออกมา.

อุปราชต้ากวงที่เผยยิ้มออกมาเล็กน้อย."โปรดวางใจ,ถึงแม้ว่าพวกเขาจะโจมตีพวกเรา,แต่กำลังรบตอนนี้ไม่มีอะไรต้องกังวล,ตอนนี้รอไปก่อน,ทว่า,ข้าได้รับรายงานที่เชื่อถือได้เมื่อเร็วๆนี้."

"หืม?"แม่ทัพที่จ้องมองไปยังอุปราชในทันที.

"เป็นความจริงอ๋องจวีลู่ต้องการค้นหากงจูเฉียนโหยว,ตอนนี้พวกนางมาอยู่ในต้ากวงของพวกเราแล้ว,นอกจากนี้ร่างกายของนางยังมีพิษตกค้างอยู่,ทำให้พวกนางกำลังหนีเช่นกัน."อุปราชกล่าวออกมาด้วยรอยยิ้ม.

"เป็นไปได้อย่างไร?อุปราช,กองกำลังของต้ายวีเป็นพวกซื่อบื้ออย่างงั้นรึ?ทหารแปดล้านคน,กลับไม่สามารถค้นหาคนได้เลยอย่างงั้นรึ?"ขุนพลคนหนึ่งที่กล่าวออกมาด้วยท่าทางประหลาดใจ.

"กงจูเฉียนโหยวนับว่าโชคดีเป็นอย่างมาก,ทว่าพวกเจ้าวางใจได้ข้าได้ข่าวที่แม่นยำเป็นอย่างมาก,นอกจากนี้อุปราชอี้เหยี่ยนของต้ายวี,ตอนนี้ได้เกษียรตัวเอง,ลาออกจากหน้าทีแล้ว."อุปราชต้ากวงกล่าว.

"อุปราช,เช่นนั้น,พวกเราควรจะทำอย่างไร?"ขุนพลอีกคนหนึ่งที่ชำเลืองมองไปยังอุปราชต้ากวง.

"ในเมื่อเข้ามาในเขตเสี่ยวหวัง,แน่นอนว่าพวกเราไม่สามารถที่จะยอมให้อ๋องจวีลูจับตัวกงจูเฉียนโหยวได้,ถ่ายทอดคนสั่งของข้าออกไป,ค้นหากงจูเฉียนโหยวเต็มกำลัง."อุปราชเสี่ยวหวังสั่งการ.

"อุปราช,พวกเราจะจับกงจูเฉียนโหยวได้อย่างไร?"ขุนพลคนหนึ่งสอบถาม.

"เกี่ยวกับข่าวที่ข้าได้รับมา,กงจูเฉียนโหยวยังต้องใช้เวลาพักฟื้น 40 วัน,ระหว่างนี้,ร่างกายจะอยู่ในสภาพอ่อนแอ,ภายในสิบจั้งหากใช้สัมผัสเทวะ,จะเป็นผลให้กัดกินร่างกายของนาง,พวกเจ้าต้องค้นหา,จับตัวให้ได้ก่อนอ๋องจวีลู,รีบไปเดินเนินการซะ."เสี่ยวหวังกล่าว.

"ครับ,อุปราช."ขุนพลคนดังกล่าวรับคำและจากไปในทันที.
.......

เมืองเล็กๆแห่งหนึ่ง,จงซานที่ได้ทำการแลกเปลี่ยนรถเทียมม้าเดิมเป็นรถเทียมม้าอาชาทมิฬสองตน,เพื่อลดความเมื่อยล้าจากการเดินทาง.

"เซียนเซิง,ก่อนหน้านี้ได้ยินคำพูดของพ่อค้าหรือไม่?"กงจูเฉียนโหยวที่นั่งอยู่ในเรือนรถกล่าวออกมาด้วยรอยยิ้ม.

"นับว่าเป็นคำแนะนำที่ดี."จงซานพยักหน้าและกล่าวออกมา.

"แต่ว่าเขาบอกว่าที่ด้านหน้านั้นมีภูติผี,และยังบอกว่ามีมานานตั้งแต่รุ่นปู่รู่นย่าของพวกเขาแล้ว,ไม่ควรที่จะใช้เส้นทางดังกล่าว."กงจูเฉียนโหยวที่กล่าวออกมาด้วยรอยยิ้ม.

"ภูติผี? นอกจากเรื่องที่เกิดขึ้นที่เมืองผีเฟิงตู,ข้าก็ไม่ได้เห็นผีอีกเลย,นับว่าเป็นโอกาสดีที่จะได้เห็นอีกครั้ง."จงซานที่กล่าวด้วยรอยยิ้ม.

"ผี,ทว่าดูเหมือนจะไม่มีใครกล้าเข้าไป,และเขายังบอกว่าผีตนนี้มีอายุมาหลายพันปีแล้ว."กงจูเฉียนโหยวกล่าว.

"กงจูเคยเห็นผีมาก่อนอย่างงั้นรึ?"จงซานกล่าวออกมาด้วยความสงสัย.

"เคยเห็น,ทว่ามีน้อยมากที่จะเห็นพวกเขาในโลกนี้,เพราะว่าภายในภพของเรานั้น,มีปราณหยางที่หนาแน่นมาก,เหล่าภูติผีไม่สามารถที่จะอยู่ได้นาน,พวกเขาอาจจะสลายตัวไปได้ทุกเวลา,เว้นแต่จะมีวิชาที่สามารถผนึกปราณหยินเข้ามาในร่างได้ในทุกๆวัน."กงจูเฉียนโหยวที่คิดใครครวญและกล่าวออกมา.

"ที่จริงแล้ว,โลกใบนี้ก็มีผีจริงๆสินะ."จงซานที่ขมวดคิ้ว,ครุ่นคิด.

"ใช่แล้ว,ไว้กลับไปยังเมืองหลวง,ข้าจะพาท่านไปพบกับอาวุโสเทียน,ซึ่งนางมีภูติรับใช้ตั้งหลายตน."กงจูเฉียนโหยวที่กล่าวออกมาด้วยรอยยิ้ม.

"อืม,เช่นนั้นก็ขอบคุณ,กงจูด้วย."จงซานที่พยักหน้ารับ.

"เซียนเซิงและข้า,ใยต้องเกรงใจด้วยล่ะ?"กงจูเฉียนโหยวกล่าว.

"ตอนนี้กงจูฟื้นฟูเป็นอย่างไรบ้าง?"จงซานที่กล่าวสอบถามอีกครั้ง.

"อืม,ตอนนี้อยุ่ในระดับเซียนเทียนขั้นปลายแล้ว,อีกสองวันน่าจะทะลวงไปยังระดับแกนทองได้."กงจูเฉียนโหยวที่คิดใคร่ครวญและกล่าวออกมา.

"เมื่อกงจูทะลวงผ่านยังขั้นแกนทอง,พวกเราคงต้องลาจากรถเทียมม้าแล้ว."จงซานกล่าว.

"อืม"กงจูเฉียนโหยวพยักหน้า.
......

คนทั้งสองที่พูดคุยกันไปตลอดทาง,จวบจวนไปถึงเขตแดนต้องห้าม,จึงได้หยุด.

"เซียนเซิง,ที่ด้านหน้านั้นเป็นป่าทึบ!"กงจูเฉียนโหยวที่ชี้ตรงไปยังพื้นที่แห่งหนึ่ง.

กงจูเฉียนโหยวที่กล่าวออกมา,จงซานเพ่งพิศ,ภายในใจที่รัดแน่น,กระโดดลงรถ,พร้อมกับยื่นมือออกไปให้กับกงจูเฉียนโหยว,"กงจู,ส่งมือมาให้ข้า.

กงจูเฉียนโหยวที่แสดงท่าทางสงสัยเล็กน้อย,ทว่าก็ยื่นมือออกมา.

จงซานที่กุมมือกงจูเฉียนโหยว,พร้อมกับดึงร่างเข้ามาในอ้อมกอด,พร้อมกับพานางเหินกระโดดเข้าไปในป่าทึบที่ไม่ไกลออกไป.

กงจูเฉียนโหยวที่ยื่นมือขวาออกมานั้น,ราวกับคาดเอาไว้แล้วว่าจะเกิดอะไรขึ้น,ใบหน้าของนางที่แดงซาน,ราวกับว่าจะดึงมือกับคืน,ทว่าจงซานนั้นยังกุมแน่น,ดึงนางเข้ามาอยู่ในอ้อมกอด.

แม้ต้องการจะขัดขืน,ทว่าก็ยังต้องทำใจให้สงบด้วยเหตุผลต่างๆ,การกระทำของจงซาน,เห็นได้ชัดเจนว่าต้องการปกป้องอันตรายให้กับนาง,ถึงจะรู้ดีว่า,เหมือนเอาเปรียบนาง,ทว่านางก็ไม่ขยับยอมให้จงซานกอดนางเอาไว้,พร้อมกับเงื่อหูฟังเสียงหัวใจของเขา.

"ตุบ ตุ๊บ ตุ๊บ ตุบ...."

กงจูเฉียนโหยวที่รู้สึกราวกับว่าหัวใจของนางที่เริ่มเต้นไปตามจังหวะหัวใจของจงซาน,เสียงหัวใจที่กำลังดังสะท้อนต่อกันและกัน,เหมือนกับหูของนางที่ได้ยินมันอย่างชัดเจน,เสียงหัวใจอย่างงั้นรึ? ใบหน้าของกงจูเฉียนโหยวที่แดงขึ้นและก็แดงขึ้น.

พริบตาเดียว,จงซานก็นำกงจูเฉียนโหยวเข้ามาในป่าทึบ,ส่วนรถเทียมม้าตอนนี้ได้ปล่อยม้าไปปล่อยให้เรือนว่างเปล่า,พวกเขาดูเหมือนจะไม่ได้ใช้อีกต่อไปแล้ว.

ภายในป่าทึบมืดคลึ้มไปหมด,คนทั้งคู่,ไม่ได้รู้สึกหวาดกลัวแต่อย่างใด,ทว่าจงซานตอนนี้ได้ค้นหาพื้นที่เหมาะสม,พร้อมกับทำการติดตั้งค่ายกลหมอกเทวะอำพราง.เพื่อปิดกั้นสัมผัสเทวะในทันที.

ภายในสิบจั้งสำหรับกงจูเฉียนโหยวแล้ว,สัมผัสเทวะสามารถทำร้ายนางได้,ทว่าด้วยค่ายกลหมอกเทวะอำพลางนี้,จะสามารถปิดกั้นช่วยเหลือปกป้องกงจูเฉียนโหยวจากสัมผัสเทวะได้.

"เซียนเซิง,พบอะไรอย่างงั้นรึ?"กงจูเฉียนโหยวที่สอบถามออกมา.

"อืม,เงียบก่อน!"จงซานที่ขมวดคิ้วไปมา.

เพราะว่าบัวหงหลวนบนหน้าผากของเขาเวลานี้กำลังเปล่งสีน้ำเงิน,อันตราย,พบอันตรายเข้าแล้ว,อันตรายอะไรกัน? จะให้จงซานทำอย่างไร?หนีรึ,ไปทิศทางใหน,ดูเหมือนว่าไม่ว่าจะทิศทางใหนก็เป็นสีน้ำเงินทั้งหมด,เห็นได้ชัดว่าเขาไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้เลย.

นิมิตรแห่งลางร้าย!

แม้ว่านี่จะเป็นนิมิตแห่งลางร้ายก็ตาม,ทว่าจงซานก็รู้ว่าลางร้ายนั่นไม่สามารถที่จะประสบผลเช่นนั้นเสมอไป,หากว่าไม่ยอมแพ้และสามารถแก้ไขมันได้ก็อาจจะกลายเป็นโชคลาภได้เช่นกัน,ยกตัวอย่างเมื่อครั้งที่เขาไล่ตามยันต์หยกทมิฬ,นับเป็นโชคดี,หากว่าเขายอมแพ้ไล่ตาม,โชคดีดังกล่าว,ก็จะเป็นเพียงแค่นิมิต,นิมิตแห่งลางร้ายเองก็ไม่ต่างจากนิมิตแห่งโชคดีเช่นกัน.

ดังนั้นจงซานจึงเปิดการเฝ้าระวังเต็มที,ไม่สามารถที่จะปล่อยให้พลาดได้เลยแม้แต่น้อย,เวลานี้เขาอาจจะกำลังประสบกับความเป็นตายอยู่,หวังว่าเขาจะสามารถแก้ไขมันได้,หนีเหรอ,แต่ดูเหมือนว่าการประจำอยู่กับที่น่าจะสามารถแก้ปัญหาได้ดีกว่า.

จงซานที่เฝ้ารอระมัดระวังกวาดตามองไปรอบๆ,ทว่ากงจูเฉียนโหยวเวลานี้เต็มไปด้วยความอยากรู้อยากเห็นจ้องมองมายังจงซาน,ยิ่งมองก็ยิ่งคิดว่าเขาช่างเป็นคนที่ลึกลับ,ตั้งแต่เกาะหมาป่าสวรรค์แล้ว,เขาที่มีระดับเซียนเทียนเท่านั้น,กล่าวอีกอย่างหนึ่ง,นางที่คิดว่าเขาคงจะมีอายุแค่ 200 ปีเท่านั้น,แต่กลับกลายเป็นว่าเขากลับสามารถก้าวข้ามความเป็นไปไม่ได้มากมาย,เขามีความลับมากมายเท่าไหร่กัน? ตอนนี้ยิ่งมองยิ่งสงสัย? เขาสัมผัสอะไรได้อย่างงั้นรึ?

กงจูเฉียนโหยวไม่เข้าใจในตัวของคนผู้นี้เลย,ทั้งที่นางนับว่าเป็นหญิงสาวที่มีเชาว์ปัญญาที่โดดเด่นผู้หนึ่ง,ทำให้กลายเป็นว่าความไม่รู้นี้ทำให้นางเต็มไปด้วยความอยากรู้,หัวใจของนางราวกับมีเล็บข่วน,ต้องการที่จะถอดฉีกเสื้อผ้าของเขาออกมา,เพื่อที่จะค้นหาว่ามี,ผลไม้สีแดง,ซ่อนเอาไว้อยู่หรือไม่?


เป็นความจริง,ขณะที่จงซานเฝ้าระวังอยู่นั้น,บนท้องฟ้าที่ไกลออกไปนั้นก็มีประกายแสงสีเหลืองปรากฏขึ้นมา,เพราะว่าด้านหน้านั้นมีเรือนรถเทียมม้าจอดอยู่,ทำให้กลายเป็นที่สังเกต,ประกายเรืองแสงสีเหลืองที่พุ่งผ่านเข้ามาห่างจากเรือนรถเทียมม้าไม่ไกลออกไป.



ที่มาจากhttps://lnmtl.com/novel/immortality

#นิยาย เรื่องอมตะ #Immortality#นิยายแปลไทย
Author(s)


สนใจสนับสนุนพวกเรา,เข้าร่วมกลุ่ม VIP ====> Click

***เว็ปฟรีอัพ สองวันหนึ่งตอน
***กลุ่มลับ อัพ 2-3 ตอนต่อวัน.

 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น