Immortality Chapter 230 Burden! Many burdens!
นิยาย เรื่อง อมตะ 230 ภาระ! ภาระมากมาย!
Chapter 230 Burden! Many burdens!
累赘!更多累赘!
ภาระ! ภาระมากมาย!
"เซียนเซิง,นี่คือบัวหิมะพิสุทธิ์อย่างงั้นรึ?"กงจูเฉียนโหยวแทบไม่อยากเชื่อชำเลืองมองตาโต.
"อืม."จงซานพยักหน้า,ไม่ได้คิดจะปกปิดแต่อย่างใด.
"ยังมีความลับมากเท่าไหร่ของเซียนเซิงที่เฉียนโหยวไม่รู้?"กงจูเฉียนโหยวชำเลืองมองไปยังจงซาน,เผยรอยยิ้มนิดๆ.
"กงจูปกป้องจงซานไม่จากไป,ภายในใจจงซานย่อมรู้สึกขอบคุณ."จงซานที่กล่าวรับรอง.
"ในเวลานั้นไม่คิดเลยว่าเซียนเซิงจะเป็นที่สนใจของอี้เหยียน,ถึงแม้ว่าข้าจะไม่ปกป้องท่าน,เซียนเซิงตอนนี้ก็ยังคงปลอดภัยไม่ใช่รึ?"กงจูเฉียนโหยวที่เผยยิ้มออกมา.
"กงจูใยกล่าวเช่นนั้น?หากกงจูปลอดภัย,จะอย่างไรข้าย่อมถูกขัดขวางอยู่แล้ว,ทว่าหากกงจูตายไปล่ะ,ต้าโหลวจะปล่อยข้าไปรึ?
อย่างน้อยอาต้าอาเอ้อคงจะลอบสังหารข้าเป็นแน่,ไม่มีทางที่ข้าจะรอดไปได้,ดังนั้นจงซานย่อมรู้สึกซาบซึ้ง,และยินดีเป็นอย่างยิ่ง."จงซานกล่าว.
"เซียนเซิงช่างมองการไกล,เฉียนโหยวไม่เคยคิดไปขนาดนั้น."ดวงตาของกงจูเฉียนโหยวที่เปล่งประกายกล่าวออกมาด้วยรอยยิ้ม.
เห็นท่าทางของกงจูเฉียนโหยวแล้ว,จงซานที่เผยยิ้มออกมาเล็กน้อย,"ไม่ว่าอย่างไร,ก็ต้องขอบคุณกงจูที่เชื่อใจข้า."
เชื่อท่าน?กงจูฉียนโหยวที่จดจำสัมผัสเสียงกระซิบนั่นได้,นางในอ้อมกอดของจงซานในเวลานั้น,สัมผัสแผ่วเบาของเขาที่ใบหูของนาง,สัมผัสยังจุดต้องห้ามของนาง.
"เซียนเซิง,เพลงดาบนั่น,ดูเหมือนว่าจะร้ายกาจมาก."หัวใจของกงจูเฉียนโหยวที่สั่นไหวเปลี่ยนหัวข้อไปในทันที.
"แค่โชคดี."จงซานที่ส่ายหน้าไปมา.
"ไม่ใช่โชคดี,เพลงดาบที่ใช้กับกระบี่,ข้าเพียงแค่กระต้นพลังไปยังกระบี่ในครั้งนั้น,พลังที่มีควรจะอยู่ในระดับก่อตั้งวิญญาณ,แต่เซียนเซิงกับทำให้มันมีพลังเพิ่มขึ้นถึงห้าเท่า,ทำให้มันมีพลังเหนือกว่าระดับก่อตั้งวิญญาณ,กลายเป็นพลังทำลายมหาศาล,ด้วยเพลงดาบของเซียนเซิง,ที่จริงควรจะอยู่ในระดับหลอมกายธาตุขั้นกลางด้วยซ้ำ,สามารถที่จะตัดร่างของแม่ทัพยวีเป็นสองท่อน,เป็นวิชาที่เซียนเซิงคิดค้นเองอย่างงั้นรึ?"กงจูเฉียนโหยวที่ชำเลืองมองไปยังจงซาน.
"กงจูเฉียนโหยวทำไมถึงได้คิดเช่นนั้นล่ะ?"จงซานที่ขมวดดิ้วไปมา.
"เมื่อครั้งอยู่ในเมืองอู๋ซวัง,เฉียนโหยวเห็นเซียนเซิงเหวี่ยงมันครั้งหนึ่ง,ทำให้สายน้ำหลีกหนีการฟัน,ครั้งนั้นดูเหมือนมันไม่ได้แข็งแกร่งนัก,การเหวี่ยงในเวลานั้นคาดว่าน่าจะอยู่ในขั้นแรก,ตอนนี้ดูเหมือนว่ามันจะเติบโตแล้ว."กงจูเฉียนโหยวที่กล่าวตอบ.
เมื่อได้ยินคำพูดของกงจูเฉียนโหยว,จงซานเผยยิ้มออกมาเล็กน้อย,ไม่ได้ตอบนางแต่อย่างใด,กงจูเฉียนโหยวนับว่าฉลาดเป็นอย่างมาก.
"พลังเพิ่มขึ้นห้าเท่า,มันควรที่จะเป็นวิชาลับ,แต่ก็ไม่รุ้ว่าใช่หรือไม่?"กงจูเฉียนโหยวที่กล่าวออกมาด้วยท่าทางเป็นกังวล,ต้องไม่ลืมว่าการเพิ่มพลังขึ้นมาทันทีนั้นส่วนมากเป็นวิชาลับ,ซึ่งมักมีผลสะท้อนกลับอย่างแน่นอน.
"ในเวลานั้นการโจมตีในครั้งนั้น,สามารถที่จะเปลี่ยนวิกฤติให้เป็นโอกาสได้,ทำให้ข้าสามารถทะลวงไปยังระดับห้าแกนทองได้."จงซานที่กล่าวออกมาด้วยรอยยิ้ม.
"ก้าวไปถึงระดับห้าแกนทองอย่างงั้นรึ?
เซียนเซิงก่อนหน้านี้อยู่ในระดับสี่ขั้นปลาย,สามารถที่จะทำตามเป้าหมายได้,ยินดีกับเซียนเซิงด้วย."กงจูเฉียนโหยวกล่าว.
"อืม,แต่เป้าหมายนั้นยังอีกไกล!"จงซานที่กล่าวด้วยท่าทางหดหู่อยู่เหมือนกัน,ขั้นแรกเขาต้องการที่จะก้าวไปถึงระดับก่อตั้งวิญญาณ.
"เซียนเซิง,ตอนนี้พวกเราอยู่ที่ใหนอย่างงั้นรึ?"กงจูเฉียนโหยวกล่าว.
"ในป่าทึบแห่งหนึ่ง,นี่คือเกี้ยวเจ้าสาว."จงซานกล่าว.
"เกี้ยวเจ้าสาวอย่างงั้นรึ?"กงจูเฉียนโหยวที่กล่าวออกมาด้วยความสงสัย,ที่จริงนางไม่เข้าใจว่าจงซานได้เตรียมเกี้ยวเจ้าสาวนี้เอาไว้ทำไม?
"ข้าเตรียมมันเพื่อไปรับภรรยาของข้า."จงซานที่คิดครู่หนึ่งและกล่าวออกมา.
"ภรรยาของเซียนเซิง?"กงจูเฉียนโหยวที่ขมวดคิ้วไปมา,แววตาที่แสดงท่าทางประหลาดใจ.
"นางคือเทียนหลิงเอ๋อ,ก่อนหน้านี้ท่านเคยเห็นนางมาก่อน."ใบหน้าของจงซานที่เผยยิ้มที่หวนรำลึก.
"อืม."กงจูเฉียนโหยวพยักหน้า.
ดูเหมือนเรื่องนี้จะดูสะเทือนใจของเขา,นางไม่ควรที่จะถามออกมา,นี่อาจเป็นเรื่องส่วนตัว,ที่เขาไม่ต้องการที่จะเอ่ยออกมาด้วยเหมือนกัน.
"กงจู,ตอนนี้มีพลังฝึกตนระดับใหน?"จงซานที่สอบถามออกมา.
เฉียนโหยวที่ฝืนยิ้มออกมา."ตอนนี้ไม่ต่างจากปุถุชนทั่วไป,ทว่ายังพอสามารถใช้ปราณแท้ได้บ้าง,หนอนไหมทองทมิฬนั้น,ในแดนเทพพิสุทธิ์เป็นหนึ่งในยาพิษชั้นยอด,ถึงแม้ว่าจะมีบัวหิมะพิสุทธิ์,ก็จำเป็นต้องใช้เวลาหนึ่งร้อยวันเพื่อฟื้นฟู."
"ข้าได้ขับพิษของกงจูมาหลายวันแล้ว,อีกไม่กี่วัน,พิษคงจะสลายไปหมด."จงซานที่กล่าวออกมา.
"เซียนเซิงเชื่อใจเฉียนโหยวอย่างงั้นรึ?"ดวงตาคู่งามของกงจูเฉียนโหยวที่ชำเลืองมองมายังจงซาน.
จงซานเผยยิ้มจ้องมองไปยังกงจูเฉียนโหยว,"ข้าคิดว่ากงจูคงไม่ตัดสัมพันธ์กับข้าเพียงเพราะอยากได้ดอกบัวพิสุทธิ์ของข้าหรอกมั้ง."
"มันก็ไม่แน่."สายตาของกงจูเฉียนโหยวที่ดูเปล่งประกาย,เผยสีหน้าแววตาที่ทรงเสน่ห์
ยากจะมองเห็น.
........
ตำหนักอ๋องจวีลู่.
"สืบแล้วได้ความอย่างไร?"อ๋องจวีลูที่ขมวดคิ้วไปมา.
"ท่านอ๋อง,ผู้ใต้บังคับบัญชาของข้าได้รายงายว่า,ตลอดหลายเดือนพวกเขาได้ตระเวนไปหลายแห่ง,เขาได้พูดคุยกับคนหลายคน,พวกเราสามารถยืนยันได้ว่า,มีคนกลุ่มหนึ่งที่ได้หายไป."อู๋อานกล่าวออกมาด้วยความเคารพ.
"โฮ้ว?"อ๋องจวีลูที่แสดงท่าทางสงสัย.
"ที่เมืองแห่งหนึ่ง,ตระกูลลู,ได้หายไปทั้งตระกูลเลย."อู๋อานกล่าว.
"ตระกูลลูอย่างงั้นรึ?"อ๋องจวีลู่ที่กล่าวออกมาด้วยความสงสัย.
"ครับ,คนของตระกูลลู่,มีนามว่าลู่เจียนปิง,ข้าสืบทราบว่า,เขาทำงานเป็นผู้คุ้มกันในเรือนจำเทียนกงของพวกเรา,ก่อนหน้านี้ได้ยินมาว่าเขาอยู่ในเหตุการณ์ที่อู๋อหวานลีตายไป,ทว่าเมื่ออู๋หวานลี่ตายไปแล้ว,ลู่เจี้ยนปิงก็หายไปในทันที,ผู้ใต้บังคับบัญชาของเขาสงสัยว่าเขาอาจจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับกงจูเฉียนโหยว."อู๋อานกล่าว.
"หายไปทั้งหมดเลยรึ?เป็นไปไม่ได้ที่จะหายไปทั้งหมดในทันที,ถูกสังหารยกตระกูลเลยรึ?"อ๋องจวีลูที่กล่าวออกมาด้วยความสงสัย.
"ไม่น่าเป็นเช่นนั้น,จากข้อมูลที่พวกเราสืบทราบได้,พวกเขาได้ทำการเตรียมสะเบียงในทุกๆวัน,ดูเหมือนว่าพวกเขาต้องการที่จะเดินทางออกไปด้านนอก,บางทีอาจจะไปพบกับกลุ่มของกงจูเฉียนโหยว."อู๋อานกล่าว.
"ไปพบกับกงจูเฉียนโหยวอย่างงั้นรึ?คนเหล่านั้นมีพลังฝึกตนเป็นอย่างไร?"อ๋องจวีลูสอบถาม.
"สูงสุดคือระดับเซียนเทียน."
"ฮ่าฮ่า,ระดับเซียนเทียน,ไปหาว่าคนเหล่านั้นหนีไปที่ใหน,ลู่เจี้ยนปิงจะต้องเกี่ยวข้องอะไรกับอู๋หว่านลี่แน่,บางทีเขาอาจจะรู้วิธีในการเปิดกระจกเงาหมื่นนครด้วยก็ได้,ดี,ในเมื่อเป็นเช่นนั้น,ก็ค้นหาพวกเขาด้วย,ไม่เพียงแต่กงจูเฉียนโหยว,ยังมีตระกูลลู่,ซ้ำยังมีเพียงแค่ระดับเซียนเทียน,เรื่องนี้จะทำให้พวกเราค้นหาได้ง่ายขึ้นอีก."อ๋องจวีลูที่กล่าวออกมาด้วยรอยยิ้ม.
"ครับ,เกี่ยวกับกงจูเฉียนโหยวและคนอื่นๆ,ท่านอ๋องเตรียมจะทำอย่างไรกับพวกนาง?"อู๋อานที่สอบถามออกมาด้วยรอยยิ้ม.
"ทำอะไร?แน่นอนว่าต้องจับไปแลกกับกระจกเงาหมื่นนครนะสิ."อ๋องจวีลู่กล่าว.
"ข้าหมายถึงจงซาน."อู๋อานกล่าว.
"จงซาน?จงซานแล้วอย่างไร?"อ๋องจวีลูที่กล่าวออกมาด้วยความสงสัย.
"ท่านอ๋อง,เรื่องนี้ผู้น้อยได้ยินมาโดยบังเอิญ,อุปราชคนก่อนอี้เหยี่ยน,เขาได้ให้ความเคารพต่อจงซานเป็นอย่างมาก,แม้แต่ยังยกย่องเชิญจงซานด้วยตัวเอง,และกล่าวว่าจงซานนั้นมีเชาว์ปัญญาที่ล้ำเลิศ."อู๋อานกล่าว.
"ใช่,แล้วอย่างไร?"อ๋องจวีลูที่ขมวดคิ้วไปมา,คิดใคร่ครวญกับคำพูดของอู๋อาน.
"ท่านอ๋อง,ไม่ใช่ว่าอุปราชคนใหม่ที่เหนือหัวเลือกจะเป็น....."อู๋อานสอบถามออกมา.
อู๋อานที่กล่าวออกมาไม่จบด้วยซ้ำ,ดวงตาของอ๋องจวีลูที่เบิกกว้างกลมโต."เจ้าหมายความว่า....."
อ๋องจวีลูที่คิดใคร่ครวญถึงเรื่องที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้,อี้เหยี่ยนที่บอกเขาให้จับตัวกงจูเฉียนโหยวและกล่าวย้ำกับเขาด้วยว่าต้องนำจงซานกลับมา,ห้ามทำร้ายเขาเด็ดขาด.
เหนือหัวตอนนั้นก็ทำตัวแปลกประหลาด,อี้เหยียนที่ลาออกจากตำแหน่งอุปราชแล้ว,ทว่ากลับไม่แต่งตั้งอุปราชคนใหม่อย่างงั้นรึ?บางทีอาจเป็นไปได้ว่ารอคนที่อี้เหยี่ยนแนะนำอยู่รึ?
ใครเป็นคนที่เขาแนะนำ? เป็นจงซานอย่างงั้นรึ?
คิดได้เช่นนี้,ภายในใจของอ๋องจวีลูที่รัดแน่น,ก่อนที่ดวงตาจะหรี่เล็กลง,ใบหน้าเป็นเป็นดำมืด.
"อู๋อาน,ถ่ายทอดคำสั่งข้าไป!"อ๋องจวีลูที่ขมวดคิ้วไปมา.
"รับทราบ"อู๋อานที่คุกเข่าลงข้างหนึ่งในทันที.
"ค้นหากงจูเฉียนโหยว,ค้นหาตระกูลลู่,ค้นหาจงซาน,จับตายจงซาน,หากใครที่สังหารจงซานได้,จะได้รับรางวัลเป็นศิลาวิญญาณระดับสูง
500,000 ."อ๋องจวีลูกล่าว.
"ครับ."อู๋อานที่ตอลรับในทันที.
.....
หลังจากนั้นห้าวัน,แม้ว่ากงจูเฉียนโหยวจะฟื้นขึ้นมาแล้ว,ทว่าก็ยังนับว่าอ่อนแอ,ในเวลานี้สามารถที่จะใช้ปราณแท้ได้แล้ว,ด้วยเหตุนี้,จงซานจึงได้ให้บัวพิสุทธิ์ไว้กับกงจูเฉียนโหยวเพื่อกระตุ้นขับพิษด้วยตัวเอง.
ให้กงจูเฉียนโหยวขับพิษภายในเกี้ยวด้วยตัวเอง,ส่วนจงซานเวลานี้ได้ออกมาด้านนอกแล้ว.
"เซียนเซิง,ไม่ได้การแล้ว,ตอนนี้กองกำลังของต้ายวีนั้นได้เคลื่อนทัพล่าพวกเราทุกทิศทางแล้ว,พวกเขาต้องการจับกงจูให้ได้,และนอกจากนี้..."อาต้าที่กล่าวออกมาด้วยท่าทางเป็นกังวล.
"มีอะไรอีกรึ?"จงซานที่ขมวดคิ้วพลางสอบถามออกไป.
"พวกเขาได้ประกาศจับตายเซียนเซิง,โดยให้ค่าหัวถึง
500,000 ศิลาวิญญาณระดับสูง."
"เฮ้เอ้,คาดไม่ถึงเลยว่าข้าจะมีค่าหัวแค่เพียง
500,000 ศิลาวิญญาณระดับสูง"จงซานที่เผยยิ้มออกมาเล็กน้อย.
"เซียนเซิง,ตอนนี้ทำอย่างไรดี,ตอนนี้มีทหารกระจายไปทั่วทุกเมือง,กองกำลังต้ายวีที่ยกทัพมาแล้ว,ทั้งกองกำลังทิศตะวันออกและทิศใต้,พวกเขาถอนกำลังมาหมด,พร้อมกับไล่ล่าพวกเขาทางทิศเหนือและทิศตะวันตก,พวกเราตอนนี้อยู่รัศมีของพวกเขา,อีกไม่กี่วันจะต้องมาถึงที่นี่แน่,อีกทั้งข่าวก็ยังส่งกระจายไปทุกเมืองหน้าด่านแล้ว,ที่ด้านหน้าพวกเรานั้นมีกองกำลังอีกมากมายดักรอพวกเราอยู่."อาต้าที่กล่าวออกมาด้วยท่าทางเป็นกังวล.
ได้ยินคำพูดของอาต้าแล้วจงซานที่คิดใครครวญและกล่าวออกมา"นี่คงเป็นเพราะว่า,ทีมของเซียนเซิงสุ่ยจิงได้ไปยังพื้นที่ปลอดภัยแล้ว,ต้ายวีตอนนี้จึงต้องการจับตัวกงจูเฉียนโหยวเพื่อที่จะนำไปแลกกับกระจกเงาหมื่นนคร,เรื่องนี้คงไม่ใช่ความคิดของอี้เหยียนแน่,เขาไม่มีทางเป็นเช่นนี้,นอกจากนี้ยังใจร้อนวู่วามต้องการสังหารข้าอย่างงั้นรึ?,ฮ่าฮ่า,เรื่องนี้เป็นอ๋องจวีลู่แน่."
"เซียนเซิง,ท่านรู้อะไรได้อย่างไร?"อาต้าที่ชำเลืองมองตาโต.
"โฮ้ว? เจ้ารู้แล้วอย่างงั้นรึ?"จงซานที่ขมวดคิ้ว.
"อืม,ข่าวนี้ข้าได้ยินมาจากทหาร,ทว่ายังไม่ได้กล่าวบอกเซียนเซิงเลย,คาดไม่ถึงเลยว่าเพียงแค่การรวมพลของกองทหารต้ายวี,ท่านกับคาดเดาได้ถูกต้องแล้ว."อาต้าที่กล่าวชื่นชม.
"เรื่องนี้ไม่ได้ยากที่จะคาดเดา."จงซานพยักหน้าให้ด้วยรอยยิ้ม.
ไม่ยากที่จะคาดเดาอย่างงั้นรึ?อาต้าที่แสดงท่าทางงงงวย.
"เซียนเซิง,ก่อนที่เหล่ทหารจะตามมาทันที,ก่อนที่ตำแหน่งของพวกเราจะเปิดเผย,พวกเรารีบหนีกันก่อนเถอะ."อาต้าที่กล่าวออกมาทันที.
"อืม,เอาล่ะ,อาต้า,ก่อนหน้านี้ข้าต้องการที่จะให้เจ้าไปยังตำแหน่งของตระกูลลู่,เจ้าเองก็น่าจะจดจำได้."จงซานกล่าว.
"พวกเขาอยู่ไม่ไกลจากพวกเรา,ลู่เจี้ยนปิงเองก็น่าจะไปถึงแล้ว,อย่างไรก็ตาม,เซียนเซิงท่านคงไม่วางแผนพาพวกเขาหนีไปด้วยหรอกนะ?"อาต้าที่เผยท่าทางไม่อยากเชื่อเลยแม้แต่น้อย.
"ทำไมล่ะ?"จงซานที่เผยยิ้มออกมา.
อาต้าและอาเอ้อชำเลืองมองตาโต,เพียงแค่พวกเขาสี่คนก็นับว่ายากที่จะหนีรอดแล้ว,ทว่านี้จะยังนำภาระอีกแปดสิบชีวิตไปด้วยอย่างงั้นรึ?ยกเว้นลู่เจี้ยนปิงแล้ว,คนอื่นๆนั้นมีพลังฝึกตนสุงสุดก็แค่ระดับเซียนเทียนเท่านั้น,นี่จะนำพวกเขาหนีไปด้วยรึ?
แล้วจะหนีรอดได้อย่างไร?
"เซียนเซิง,ท่านจะพาพวกเขาหนีไปด้วยจริงๆรึ?ไม่ได้ล้อเล่นใช่ใหม?"อาต้าที่ตื่นตะหนกตาค้างกล่าวสอบถามอีกครั้ง.
ที่มาจากhttps://lnmtl.com/novel/immortality
#นิยาย เรื่องอมตะ #Immortality#นิยายแปลไทย
Author(s)
สนใจสนับสนุนพวกเรา,เข้าร่วมกลุ่ม VIP ====> Click
***เว็ปฟรีอัพ สองวันหนึ่งตอน
***กลุ่มลับ อัพ 2-3 ตอนต่อวัน.
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น