วันจันทร์ที่ 11 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2562

Immortality Chapter 230 Burden! Many burdens!

Immortality Chapter 230 Burden! Many burdens!

นิยาย เรื่อง อมตะ  230   ภาระ! ภาระมากมาย!


Chapter 230 Burden! Many burdens!
!更多累
  ภาระ! ภาระมากมาย!

"เซียนเซิง,นี่คือบัวหิมะพิสุทธิ์อย่างงั้นรึ?"กงจูเฉียนโหยวแทบไม่อยากเชื่อชำเลืองมองตาโต.



"อืม."จงซานพยักหน้า,ไม่ได้คิดจะปกปิดแต่อย่างใด.

"ยังมีความลับมากเท่าไหร่ของเซียนเซิงที่เฉียนโหยวไม่รู้?"กงจูเฉียนโหยวชำเลืองมองไปยังจงซาน,เผยรอยยิ้มนิดๆ.

"กงจูปกป้องจงซานไม่จากไป,ภายในใจจงซานย่อมรู้สึกขอบคุณ."จงซานที่กล่าวรับรอง.

"ในเวลานั้นไม่คิดเลยว่าเซียนเซิงจะเป็นที่สนใจของอี้เหยียน,ถึงแม้ว่าข้าจะไม่ปกป้องท่าน,เซียนเซิงตอนนี้ก็ยังคงปลอดภัยไม่ใช่รึ?"กงจูเฉียนโหยวที่เผยยิ้มออกมา.

"กงจูใยกล่าวเช่นนั้น?หากกงจูปลอดภัย,จะอย่างไรข้าย่อมถูกขัดขวางอยู่แล้ว,ทว่าหากกงจูตายไปล่ะ,ต้าโหลวจะปล่อยข้าไปรึ? อย่างน้อยอาต้าอาเอ้อคงจะลอบสังหารข้าเป็นแน่,ไม่มีทางที่ข้าจะรอดไปได้,ดังนั้นจงซานย่อมรู้สึกซาบซึ้ง,และยินดีเป็นอย่างยิ่ง."จงซานกล่าว.

"เซียนเซิงช่างมองการไกล,เฉียนโหยวไม่เคยคิดไปขนาดนั้น."ดวงตาของกงจูเฉียนโหยวที่เปล่งประกายกล่าวออกมาด้วยรอยยิ้ม.

เห็นท่าทางของกงจูเฉียนโหยวแล้ว,จงซานที่เผยยิ้มออกมาเล็กน้อย,"ไม่ว่าอย่างไร,ก็ต้องขอบคุณกงจูที่เชื่อใจข้า."

เชื่อท่าน?กงจูฉียนโหยวที่จดจำสัมผัสเสียงกระซิบนั่นได้,นางในอ้อมกอดของจงซานในเวลานั้น,สัมผัสแผ่วเบาของเขาที่ใบหูของนาง,สัมผัสยังจุดต้องห้ามของนาง.

"เซียนเซิง,เพลงดาบนั่น,ดูเหมือนว่าจะร้ายกาจมาก."หัวใจของกงจูเฉียนโหยวที่สั่นไหวเปลี่ยนหัวข้อไปในทันที.

"แค่โชคดี."จงซานที่ส่ายหน้าไปมา.

"ไม่ใช่โชคดี,เพลงดาบที่ใช้กับกระบี่,ข้าเพียงแค่กระต้นพลังไปยังกระบี่ในครั้งนั้น,พลังที่มีควรจะอยู่ในระดับก่อตั้งวิญญาณ,แต่เซียนเซิงกับทำให้มันมีพลังเพิ่มขึ้นถึงห้าเท่า,ทำให้มันมีพลังเหนือกว่าระดับก่อตั้งวิญญาณ,กลายเป็นพลังทำลายมหาศาล,ด้วยเพลงดาบของเซียนเซิง,ที่จริงควรจะอยู่ในระดับหลอมกายธาตุขั้นกลางด้วยซ้ำ,สามารถที่จะตัดร่างของแม่ทัพยวีเป็นสองท่อน,เป็นวิชาที่เซียนเซิงคิดค้นเองอย่างงั้นรึ?"กงจูเฉียนโหยวที่ชำเลืองมองไปยังจงซาน.

"กงจูเฉียนโหยวทำไมถึงได้คิดเช่นนั้นล่ะ?"จงซานที่ขมวดดิ้วไปมา.

"เมื่อครั้งอยู่ในเมืองอู๋ซวัง,เฉียนโหยวเห็นเซียนเซิงเหวี่ยงมันครั้งหนึ่ง,ทำให้สายน้ำหลีกหนีการฟัน,ครั้งนั้นดูเหมือนมันไม่ได้แข็งแกร่งนัก,การเหวี่ยงในเวลานั้นคาดว่าน่าจะอยู่ในขั้นแรก,ตอนนี้ดูเหมือนว่ามันจะเติบโตแล้ว."กงจูเฉียนโหยวที่กล่าวตอบ.

เมื่อได้ยินคำพูดของกงจูเฉียนโหยว,จงซานเผยยิ้มออกมาเล็กน้อย,ไม่ได้ตอบนางแต่อย่างใด,กงจูเฉียนโหยวนับว่าฉลาดเป็นอย่างมาก.

"พลังเพิ่มขึ้นห้าเท่า,มันควรที่จะเป็นวิชาลับ,แต่ก็ไม่รุ้ว่าใช่หรือไม่?"กงจูเฉียนโหยวที่กล่าวออกมาด้วยท่าทางเป็นกังวล,ต้องไม่ลืมว่าการเพิ่มพลังขึ้นมาทันทีนั้นส่วนมากเป็นวิชาลับ,ซึ่งมักมีผลสะท้อนกลับอย่างแน่นอน.

"ในเวลานั้นการโจมตีในครั้งนั้น,สามารถที่จะเปลี่ยนวิกฤติให้เป็นโอกาสได้,ทำให้ข้าสามารถทะลวงไปยังระดับห้าแกนทองได้."จงซานที่กล่าวออกมาด้วยรอยยิ้ม.

"ก้าวไปถึงระดับห้าแกนทองอย่างงั้นรึ? เซียนเซิงก่อนหน้านี้อยู่ในระดับสี่ขั้นปลาย,สามารถที่จะทำตามเป้าหมายได้,ยินดีกับเซียนเซิงด้วย."กงจูเฉียนโหยวกล่าว.

"อืม,แต่เป้าหมายนั้นยังอีกไกล!"จงซานที่กล่าวด้วยท่าทางหดหู่อยู่เหมือนกัน,ขั้นแรกเขาต้องการที่จะก้าวไปถึงระดับก่อตั้งวิญญาณ.

"เซียนเซิง,ตอนนี้พวกเราอยู่ที่ใหนอย่างงั้นรึ?"กงจูเฉียนโหยวกล่าว.

"ในป่าทึบแห่งหนึ่ง,นี่คือเกี้ยวเจ้าสาว."จงซานกล่าว.

"เกี้ยวเจ้าสาวอย่างงั้นรึ?"กงจูเฉียนโหยวที่กล่าวออกมาด้วยความสงสัย,ที่จริงนางไม่เข้าใจว่าจงซานได้เตรียมเกี้ยวเจ้าสาวนี้เอาไว้ทำไม?

"ข้าเตรียมมันเพื่อไปรับภรรยาของข้า."จงซานที่คิดครู่หนึ่งและกล่าวออกมา.

"ภรรยาของเซียนเซิง?"กงจูเฉียนโหยวที่ขมวดคิ้วไปมา,แววตาที่แสดงท่าทางประหลาดใจ.

"นางคือเทียนหลิงเอ๋อ,ก่อนหน้านี้ท่านเคยเห็นนางมาก่อน."ใบหน้าของจงซานที่เผยยิ้มที่หวนรำลึก.

"อืม."กงจูเฉียนโหยวพยักหน้า.

ดูเหมือนเรื่องนี้จะดูสะเทือนใจของเขา,นางไม่ควรที่จะถามออกมา,นี่อาจเป็นเรื่องส่วนตัว,ที่เขาไม่ต้องการที่จะเอ่ยออกมาด้วยเหมือนกัน.

"กงจู,ตอนนี้มีพลังฝึกตนระดับใหน?"จงซานที่สอบถามออกมา.

เฉียนโหยวที่ฝืนยิ้มออกมา."ตอนนี้ไม่ต่างจากปุถุชนทั่วไป,ทว่ายังพอสามารถใช้ปราณแท้ได้บ้าง,หนอนไหมทองทมิฬนั้น,ในแดนเทพพิสุทธิ์เป็นหนึ่งในยาพิษชั้นยอด,ถึงแม้ว่าจะมีบัวหิมะพิสุทธิ์,ก็จำเป็นต้องใช้เวลาหนึ่งร้อยวันเพื่อฟื้นฟู."

"ข้าได้ขับพิษของกงจูมาหลายวันแล้ว,อีกไม่กี่วัน,พิษคงจะสลายไปหมด."จงซานที่กล่าวออกมา.

"เซียนเซิงเชื่อใจเฉียนโหยวอย่างงั้นรึ?"ดวงตาคู่งามของกงจูเฉียนโหยวที่ชำเลืองมองมายังจงซาน.

จงซานเผยยิ้มจ้องมองไปยังกงจูเฉียนโหยว,"ข้าคิดว่ากงจูคงไม่ตัดสัมพันธ์กับข้าเพียงเพราะอยากได้ดอกบัวพิสุทธิ์ของข้าหรอกมั้ง."

"มันก็ไม่แน่."สายตาของกงจูเฉียนโหยวที่ดูเปล่งประกาย,เผยสีหน้าแววตาที่ทรงเสน่ห์ ยากจะมองเห็น.
........

ตำหนักอ๋องจวีลู่.

"สืบแล้วได้ความอย่างไร?"อ๋องจวีลูที่ขมวดคิ้วไปมา.

"ท่านอ๋อง,ผู้ใต้บังคับบัญชาของข้าได้รายงายว่า,ตลอดหลายเดือนพวกเขาได้ตระเวนไปหลายแห่ง,เขาได้พูดคุยกับคนหลายคน,พวกเราสามารถยืนยันได้ว่า,มีคนกลุ่มหนึ่งที่ได้หายไป."อู๋อานกล่าวออกมาด้วยความเคารพ.

"โฮ้ว?"อ๋องจวีลูที่แสดงท่าทางสงสัย.

"ที่เมืองแห่งหนึ่ง,ตระกูลลู,ได้หายไปทั้งตระกูลเลย."อู๋อานกล่าว.

"ตระกูลลูอย่างงั้นรึ?"อ๋องจวีลู่ที่กล่าวออกมาด้วยความสงสัย.

"ครับ,คนของตระกูลลู่,มีนามว่าลู่เจียนปิง,ข้าสืบทราบว่า,เขาทำงานเป็นผู้คุ้มกันในเรือนจำเทียนกงของพวกเรา,ก่อนหน้านี้ได้ยินมาว่าเขาอยู่ในเหตุการณ์ที่อู๋อหวานลีตายไป,ทว่าเมื่ออู๋หวานลี่ตายไปแล้ว,ลู่เจี้ยนปิงก็หายไปในทันที,ผู้ใต้บังคับบัญชาของเขาสงสัยว่าเขาอาจจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับกงจูเฉียนโหยว."อู๋อานกล่าว.

"หายไปทั้งหมดเลยรึ?เป็นไปไม่ได้ที่จะหายไปทั้งหมดในทันที,ถูกสังหารยกตระกูลเลยรึ?"อ๋องจวีลูที่กล่าวออกมาด้วยความสงสัย.

"ไม่น่าเป็นเช่นนั้น,จากข้อมูลที่พวกเราสืบทราบได้,พวกเขาได้ทำการเตรียมสะเบียงในทุกๆวัน,ดูเหมือนว่าพวกเขาต้องการที่จะเดินทางออกไปด้านนอก,บางทีอาจจะไปพบกับกลุ่มของกงจูเฉียนโหยว."อู๋อานกล่าว.

"ไปพบกับกงจูเฉียนโหยวอย่างงั้นรึ?คนเหล่านั้นมีพลังฝึกตนเป็นอย่างไร?"อ๋องจวีลูสอบถาม.

"สูงสุดคือระดับเซียนเทียน."

"ฮ่าฮ่า,ระดับเซียนเทียน,ไปหาว่าคนเหล่านั้นหนีไปที่ใหน,ลู่เจี้ยนปิงจะต้องเกี่ยวข้องอะไรกับอู๋หว่านลี่แน่,บางทีเขาอาจจะรู้วิธีในการเปิดกระจกเงาหมื่นนครด้วยก็ได้,ดี,ในเมื่อเป็นเช่นนั้น,ก็ค้นหาพวกเขาด้วย,ไม่เพียงแต่กงจูเฉียนโหยว,ยังมีตระกูลลู่,ซ้ำยังมีเพียงแค่ระดับเซียนเทียน,เรื่องนี้จะทำให้พวกเราค้นหาได้ง่ายขึ้นอีก."อ๋องจวีลูที่กล่าวออกมาด้วยรอยยิ้ม.

"ครับ,เกี่ยวกับกงจูเฉียนโหยวและคนอื่นๆ,ท่านอ๋องเตรียมจะทำอย่างไรกับพวกนาง?"อู๋อานที่สอบถามออกมาด้วยรอยยิ้ม.

"ทำอะไร?แน่นอนว่าต้องจับไปแลกกับกระจกเงาหมื่นนครนะสิ."อ๋องจวีลู่กล่าว.

"ข้าหมายถึงจงซาน."อู๋อานกล่าว.

"จงซาน?จงซานแล้วอย่างไร?"อ๋องจวีลูที่กล่าวออกมาด้วยความสงสัย.

"ท่านอ๋อง,เรื่องนี้ผู้น้อยได้ยินมาโดยบังเอิญ,อุปราชคนก่อนอี้เหยี่ยน,เขาได้ให้ความเคารพต่อจงซานเป็นอย่างมาก,แม้แต่ยังยกย่องเชิญจงซานด้วยตัวเอง,และกล่าวว่าจงซานนั้นมีเชาว์ปัญญาที่ล้ำเลิศ."อู๋อานกล่าว.

"ใช่,แล้วอย่างไร?"อ๋องจวีลูที่ขมวดคิ้วไปมา,คิดใคร่ครวญกับคำพูดของอู๋อาน.

"ท่านอ๋อง,ไม่ใช่ว่าอุปราชคนใหม่ที่เหนือหัวเลือกจะเป็น....."อู๋อานสอบถามออกมา.

อู๋อานที่กล่าวออกมาไม่จบด้วยซ้ำ,ดวงตาของอ๋องจวีลูที่เบิกกว้างกลมโต."เจ้าหมายความว่า....."

อ๋องจวีลูที่คิดใคร่ครวญถึงเรื่องที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้,อี้เหยี่ยนที่บอกเขาให้จับตัวกงจูเฉียนโหยวและกล่าวย้ำกับเขาด้วยว่าต้องนำจงซานกลับมา,ห้ามทำร้ายเขาเด็ดขาด.

เหนือหัวตอนนั้นก็ทำตัวแปลกประหลาด,อี้เหยียนที่ลาออกจากตำแหน่งอุปราชแล้ว,ทว่ากลับไม่แต่งตั้งอุปราชคนใหม่อย่างงั้นรึ?บางทีอาจเป็นไปได้ว่ารอคนที่อี้เหยี่ยนแนะนำอยู่รึ? ใครเป็นคนที่เขาแนะนำ? เป็นจงซานอย่างงั้นรึ?

คิดได้เช่นนี้,ภายในใจของอ๋องจวีลูที่รัดแน่น,ก่อนที่ดวงตาจะหรี่เล็กลง,ใบหน้าเป็นเป็นดำมืด.

"อู๋อาน,ถ่ายทอดคำสั่งข้าไป!"อ๋องจวีลูที่ขมวดคิ้วไปมา.

"รับทราบ"อู๋อานที่คุกเข่าลงข้างหนึ่งในทันที.

"ค้นหากงจูเฉียนโหยว,ค้นหาตระกูลลู่,ค้นหาจงซาน,จับตายจงซาน,หากใครที่สังหารจงซานได้,จะได้รับรางวัลเป็นศิลาวิญญาณระดับสูง 500,000 ."อ๋องจวีลูกล่าว.

"ครับ."อู๋อานที่ตอลรับในทันที.
 .....
หลังจากนั้นห้าวัน,แม้ว่ากงจูเฉียนโหยวจะฟื้นขึ้นมาแล้ว,ทว่าก็ยังนับว่าอ่อนแอ,ในเวลานี้สามารถที่จะใช้ปราณแท้ได้แล้ว,ด้วยเหตุนี้,จงซานจึงได้ให้บัวพิสุทธิ์ไว้กับกงจูเฉียนโหยวเพื่อกระตุ้นขับพิษด้วยตัวเอง.

ให้กงจูเฉียนโหยวขับพิษภายในเกี้ยวด้วยตัวเอง,ส่วนจงซานเวลานี้ได้ออกมาด้านนอกแล้ว.

"เซียนเซิง,ไม่ได้การแล้ว,ตอนนี้กองกำลังของต้ายวีนั้นได้เคลื่อนทัพล่าพวกเราทุกทิศทางแล้ว,พวกเขาต้องการจับกงจูให้ได้,และนอกจากนี้..."อาต้าที่กล่าวออกมาด้วยท่าทางเป็นกังวล.

"มีอะไรอีกรึ?"จงซานที่ขมวดคิ้วพลางสอบถามออกไป.

"พวกเขาได้ประกาศจับตายเซียนเซิง,โดยให้ค่าหัวถึง 500,000 ศิลาวิญญาณระดับสูง."

"เฮ้เอ้,คาดไม่ถึงเลยว่าข้าจะมีค่าหัวแค่เพียง 500,000 ศิลาวิญญาณระดับสูง"จงซานที่เผยยิ้มออกมาเล็กน้อย.

"เซียนเซิง,ตอนนี้ทำอย่างไรดี,ตอนนี้มีทหารกระจายไปทั่วทุกเมือง,กองกำลังต้ายวีที่ยกทัพมาแล้ว,ทั้งกองกำลังทิศตะวันออกและทิศใต้,พวกเขาถอนกำลังมาหมด,พร้อมกับไล่ล่าพวกเขาทางทิศเหนือและทิศตะวันตก,พวกเราตอนนี้อยู่รัศมีของพวกเขา,อีกไม่กี่วันจะต้องมาถึงที่นี่แน่,อีกทั้งข่าวก็ยังส่งกระจายไปทุกเมืองหน้าด่านแล้ว,ที่ด้านหน้าพวกเรานั้นมีกองกำลังอีกมากมายดักรอพวกเราอยู่."อาต้าที่กล่าวออกมาด้วยท่าทางเป็นกังวล.

ได้ยินคำพูดของอาต้าแล้วจงซานที่คิดใครครวญและกล่าวออกมา"นี่คงเป็นเพราะว่า,ทีมของเซียนเซิงสุ่ยจิงได้ไปยังพื้นที่ปลอดภัยแล้ว,ต้ายวีตอนนี้จึงต้องการจับตัวกงจูเฉียนโหยวเพื่อที่จะนำไปแลกกับกระจกเงาหมื่นนคร,เรื่องนี้คงไม่ใช่ความคิดของอี้เหยียนแน่,เขาไม่มีทางเป็นเช่นนี้,นอกจากนี้ยังใจร้อนวู่วามต้องการสังหารข้าอย่างงั้นรึ?,ฮ่าฮ่า,เรื่องนี้เป็นอ๋องจวีลู่แน่."

"เซียนเซิง,ท่านรู้อะไรได้อย่างไร?"อาต้าที่ชำเลืองมองตาโต.

"โฮ้ว? เจ้ารู้แล้วอย่างงั้นรึ?"จงซานที่ขมวดคิ้ว.

"อืม,ข่าวนี้ข้าได้ยินมาจากทหาร,ทว่ายังไม่ได้กล่าวบอกเซียนเซิงเลย,คาดไม่ถึงเลยว่าเพียงแค่การรวมพลของกองทหารต้ายวี,ท่านกับคาดเดาได้ถูกต้องแล้ว."อาต้าที่กล่าวชื่นชม.

"เรื่องนี้ไม่ได้ยากที่จะคาดเดา."จงซานพยักหน้าให้ด้วยรอยยิ้ม.

ไม่ยากที่จะคาดเดาอย่างงั้นรึ?อาต้าที่แสดงท่าทางงงงวย.

"เซียนเซิง,ก่อนที่เหล่ทหารจะตามมาทันที,ก่อนที่ตำแหน่งของพวกเราจะเปิดเผย,พวกเรารีบหนีกันก่อนเถอะ."อาต้าที่กล่าวออกมาทันที.

"อืม,เอาล่ะ,อาต้า,ก่อนหน้านี้ข้าต้องการที่จะให้เจ้าไปยังตำแหน่งของตระกูลลู่,เจ้าเองก็น่าจะจดจำได้."จงซานกล่าว.

"พวกเขาอยู่ไม่ไกลจากพวกเรา,ลู่เจี้ยนปิงเองก็น่าจะไปถึงแล้ว,อย่างไรก็ตาม,เซียนเซิงท่านคงไม่วางแผนพาพวกเขาหนีไปด้วยหรอกนะ?"อาต้าที่เผยท่าทางไม่อยากเชื่อเลยแม้แต่น้อย.

"ทำไมล่ะ?"จงซานที่เผยยิ้มออกมา.

อาต้าและอาเอ้อชำเลืองมองตาโต,เพียงแค่พวกเขาสี่คนก็นับว่ายากที่จะหนีรอดแล้ว,ทว่านี้จะยังนำภาระอีกแปดสิบชีวิตไปด้วยอย่างงั้นรึ?ยกเว้นลู่เจี้ยนปิงแล้ว,คนอื่นๆนั้นมีพลังฝึกตนสุงสุดก็แค่ระดับเซียนเทียนเท่านั้น,นี่จะนำพวกเขาหนีไปด้วยรึ? แล้วจะหนีรอดได้อย่างไร?


"เซียนเซิง,ท่านจะพาพวกเขาหนีไปด้วยจริงๆรึ?ไม่ได้ล้อเล่นใช่ใหม?"อาต้าที่ตื่นตะหนกตาค้างกล่าวสอบถามอีกครั้ง.


ที่มาจากhttps://lnmtl.com/novel/immortality

#นิยาย เรื่องอมตะ #Immortality#นิยายแปลไทย
Author(s)


สนใจสนับสนุนพวกเรา,เข้าร่วมกลุ่ม VIP ====> Click

***เว็ปฟรีอัพ สองวันหนึ่งตอน
***กลุ่มลับ อัพ 2-3 ตอนต่อวัน.

 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น