วันจันทร์ที่ 11 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2562

Immortality Chapter 223 fights shockingly

Immortality Chapter 223 fights shockingly

นิยาย เรื่อง อมตะ  Chapter 223 fights shockingly

惊世大
  การต่อสู้ที่น่าตื่นตะลึง.

"หนึ่งร้อยปี,ข้ารับประกันว่าตระกูลเจ้าทั้ง 72 คน,จะก้าวไปสู่ระดับแกนทอง,เป็นอย่างไร?"จงซานที่เผยยิ้มให้กับลู่เจี้ยนปิง.

ลู่เจี้ยนปิงที่จ้องมองไปยังจงซาน,พร้อมกับท่าทางประหลาดใจและไม่แน่ใจไปพร้อมๆกัน.



"เจ้าคงคิดว่าหนึ่งร้อยปี,หากว่าพวกเจ้ามีพลังฝึกตนไปไม่ถึงดั่งที่ข้ากล่าวสินะ,ข้าก็ยังจะช่วยเจ้าเช่นเดิม,หนึ่งร้อยปีหลังจากนี้,หากว่าพวกเจ้าจะอยู่ต่อข้าก็ไม่ว่า,ขึ้นอยู่กับความต้องการของพวกเจ้า."จงซานกล่าวด้วยรอยยิ้ม.

ลู่เจี้ยนปิงที่จ้องมองไปยังจงซานแล้วกล่าวว่า."ได้,ตราบเท่าที่ตระกูลของข้าปลอดภัย."

แม้ว่าจงซานจะใช้วิธีสร้างบุญคุณกับเขาเพื่อข่มขู่เขาก็ตาม,ทว่าเพื่อชีวิตของคนทั้งหมดในตระกูล,นอกจากนี้ยังมีเรื่องของกองกำลังภายนอกอีกที่ยังสามารถข่มขู่ตระกูลของเขาได้.

"ตกลง,เชิญดูได้."จงซานที่นำหยกบันทึกส่งออกไปให้กับเขา,ซึ่งเป็นเหตุการณ์ต่อจากคู่หมั้นของเขาที่กำลังจะถูกสังหาร,ไปจนถึงนายน้อยเจาถูกฝ่ามือทำร้าย.

ลู่เจี้ยนปิงที่หันหน้ากลับไปมองจงซานด้วยท่าทางพึงพอใจเป็นอย่างมาก.

"ตระกูลของข้าล่ะ?"ลู่เจี้ยนปิงที่กล่าวออกมาอีกครั้ง.

"เจ้าก็รู้ว่า,พวกเรามาเพื่อพาตัวอาจารย์ของเจ้าไป,อู่หวานลี่ตายแล้ว,ไม่ว่าผลจะเป็นอย่างไร,ทุกอย่างย่อมมีผลต่อการมาของพวกเรา,ข้าจึงได้ไปเยือนตระกูลเจ้าก่อน,แน่นอนว่าหลังจากนี้ก็จะส่งเจ้าตามไปด้วย,หลังจากนี้ราชวงศ์ราชันย์ต้ายวีต้องตามสืบสวนแน่,และจะต้องไล่ตามเจ้าไปอย่างไม่ต้องสงสัยดังนั้น,ข้าจึงได้ย้ายตระกูลของเจ้าไปยังสถานที่ปลอดภัยแล้ว."จงซานเอ่ย.

"ตระกูลของข้าย้ายไปแล้วอย่างงั้นรึ?"ลู่เจี้ยนปิงกล่าว.

"อืม,เรียบร้อยแล้ว,หลังจากนี้เจ้าต้องรีบออกจากเมืองเทียนกงทันที,เดินทางไปยังเมืองทิศเหนือ 300 ลี้,เป็นเนินเขาร้าง,จะมีคนรออยู่ที่นั่น,และนำพาเจ้าไปยังพื้นที่ปลอดภัยของตระกูลลู่อยู่."จงซานกล่าวออกมาด้วยรอยยิ้ม.

"รอข้าอยู่อย่างงั้นรึ?"ลู่เจี้ยนปิงที่ขมวดคิ้วไปมาจ้องมองด้วยความประหลาดใจกับจงซาน,เขาได้เตรียมการทุกอย่างเอาไว้แล้วจริงๆรึ?

"อืม,เมื่อออกนอกเมือง,ให้ไปตามการนำทางของไข่มุกราตรีนี้,จำเอาไว้,ไม่ว่าเจ้าจะมองเห็นอะไร,เจ้าต้องเชื่อมันเท่านั้น."จงซานกล่าวออกมาด้วยรอยยิ้ม.

"ไม่ว่าจะเจออะไรอย่างงั้นรึ?"ลู่เจี้ยนกล่าวออกมาด้วยความสงสัย.

"เจ้ารู้ว่าจุดที่ข้าได้ผ่านไปนั้น,ข้าได้สร้างค่ายกลพิเศษขึ้น,ตราบเท่าที่มีมุกราตรีนี้เจ้าจะสามารถเดินทางไปยังที่หมายได้."จงซานเอ่ย.

"ตกลง."ลู่เจี้ยนปิงที่พยักหน้ารับ.

"ได้,พวกเราจะต้องไปแล้ว,ฝากเจ้าจัดการใต้เท้าเฉียนด้วย,ทุกอย่างแล้วแต่เจ้า."จงซานกล่าวด้วยรอยยิ้ม,พร้อมกับเก็บธวัชกลับคืน,จากนั้นก็พาอาต้าเดินทางออกจากคุกเทียนกงอย่างรวดเร็ว.

เกี่ยวกับจงซานและอาต้า,ไม่มีใครกล้าขวาง,ทว่าพวกเขาก็สงสัยเช่นกันว่าทำไมใต้เท้าเฉียนไม่ออกมาด้วย.

จงซานและอาต้าที่เร่งรีบออกมา,ก่อนที่จะออกมาสั่งการเจ้าหน้าที่ต้าโหลวอีกครั้ง,และปลอมตัว,ตลอดจนเดินทางไปยังประตูทิศเหนือ,เตรียมที่จะเดินทางไปยังนัดหมาย.

ทว่าขณะที่อาต้าและจงซานเดินทางไปยังทิศเหนือ,ทันใดนั้น,บนท้องฟ้าเมืองเทียนกง,มังกรวาสนาเวลานี้กำลังหมุนวนไปมาด้วยท่าทางบ้าคลั่ง.

มังกรวาสนาที่ลอยอยู่บนเมือง,หมุนวน,คึกคัก,ดวงตาส่องประกายแสงสีทอง,พลังที่เพิ่มขึ้นสูง,ราวกับว่าเต็มไปด้วยจิตวิญญาณแห่งการต่อสู้.

"โฮกกกก!"

มังกรวาสนาที่คำรามเสียงดังสนั่น,ทั่วทั้งเมืองเทียนกงสั่นสะเทือน,ด้วยพลังที่ทรงพลัง,ในเวลานี้ทุกครั้งที่มังกรวาสนาคำราม,ทำให้ชาวเมืองต่างก็นั่งลงคุกเข่าลง,แสดงความเคารพราวกับรับบัญชาสวรรค์.

ไม่เพียงแต่ในเมืองเทียนกงเท่านั้น,เสียงคำรามของมังกรนั้นดังสนั่นกระจายออกไปรอบๆ.

จงซานและอาต้าสามารถสัมผัสได้ถึงพลังกดดันวิญญาณ,พลังที่น่าเกรงขามราวกับยอดเขาที่สูงชัน,ที่ใจกลางของพระราชวังหลวง,มีประกายแสงสีทองที่ถูกส่งออกมา,ส่องไปยังบนยอดเขาแห่งหนึ่ง,ในเวลานี้มีคนผู้หนึ่งที่สวมชุดสีทองปรากฏขึ้นในทันที.

เห็นจากที่ไกลออกไปเห็นเพียงเพียงแค่จุดเล็กๆเท่านั้น,ทว่าจุดดังกล่าวแม้ว่าจะอยู่ไกลออกไป,จงซานกลับสามารถสัมผัสได้ถึงกลิ่นอายที่กว้างใหญ่ไพศาร,สัมผัสที่หนักแน่นรุนแรง,ราวกับเป็นความเข้มขึ้นของพลังฟ้าดิน,จุดดังกล่าว,ที่ดูเข็มข้นเป็นอย่างมาก,พร้อมกับปล่อยแสงเจิดจ้าอย่างที่สุด.

ร่างสีทอง,ความอหังการที่สามารถทะลวงหมู่มวลเมฆา,มังกรวาสนาขนาดมหึมา,ที่เป็นตัวแทนของพลังที่เกี่ยวโยงกับตัวเขา.

"ทรงพระเจริญ,องค์ราชันย์!"

"ทรงพระเจริญ,องค์ราชันย์!"

"ทรงพระเจริญ,องค์ราชันย์!"
......

เมืองเทียนกง,เสียงที่ทรงพลังน่าเกรงขามทำให้ทุกคนต้องแสดงความเคารพ.

จงซานหรี่ตาชำเลืองจากที่ไกลออกไป.

ราชันย์ต้ายวี,น่าหลานเพียวเสวี๋ย?

น่าหลานเพียวเสวี๋ยที่ราวกับว่าดูแคลนทุกสิ่งทุกอย่าง,ความอหังการที่สามารถทะลายหมู่มวลเมฆา,ทุกๆก้าวของเขา,เต็มไปด้วยพลัง,ขณะที่ย่างก้าวขึ้นไปบนท้องฟ้า,เหยียบไปบนอากาศเหมือนกับมีขั้นบันใด,มังกรวาสนาที่บินไปรอบๆเมือง,ตวัดหางไปมาแผ่พลังกดดันกระจายออกไปเป็นระลอก.

"โฮกกกก."

หลังจากมังกรคำราม,มังกรวาสนาตนนั้นได้พุ่งเข้าไปในร่างของน่าหลานเพียงเสวี๋ย,ก่อนที่เขาจะเหินบินไปยังทิศตะวันออกๆ,พื้นที่รอบๆส่องสว่างไปด้วยแสงสีทอง,เหมือนกับแสงอาทิตย์ที่ปกคลุมผืนปฐพี,ดูทรงพลังน่าเกรงขามเป็นอย่างมาก!

จงซานที่จ้องมองออกไป,พร้อมกับกำหมัดแน่น,แม้ว่าน่าหลานเพียวเสวี๋ยที่จะบินไปไกลแล้ว,อย่างไรก็ตามยังคงประทับลงหัวใจของจงซาน,ความน่าเกรงขาม,พลังที่ยิ่งใหญ่,เขาที่มีระดับแกนทองขั้นที่สี่,พลังที่ทรงพลังนั่นทำให้ร่างกายของเขาสั่นไปทั่วทั้งวิญญาณ,เมื่อไหร่เขาจะกลายเป็นตัวตนเช่นนั้นบ้าง?

น่าหลานเพียวเสวี๋ย?

"เซียนเซิง!"อาต้าที่เอ่ยออกมาข้างๆ.

"ไปเถอะ!"จงซานที่นำอาต้าตรงไปยังประตูทิศเหนือ.

ตอนแรกยังไม่มีคนออกนอกเมืองมากนัก,หลังจากน่าหลานเพียวเสวี๋ยออกนอกเมือง,คนมากมายก็หลั่งไหลออกนอกเมืองจนเนืองแน่น.

จงซานและอาต้าจึงได้อาศัยจังหวะดังกล่าว,เดินทางออกนอกเมือง,มุ่งหน้าไปยังพื้นที่พิเศษที่ได้นัดหมาย.

บินตรงไปยังทิศเหนือ.

พวกเขาเคลื่อนที่ไปด้วยความเร็ว,จวบจนถึงที่หมาย,จึงได้หยุดลง.

อาต้าและจงซานที่ยืนอยู่บนพื้นที่แห่งหนึ่ง,จ้องมองไปยังพื้นที่ไกลออกไป.

"เซียนเซิง,ภารกิจของกงจูจะสามารถลุล่วงหรือไม่?"อาต้ากล่าว.

"แน่นอน,เมืองเทียนกงในเวลาการคุ้มกันเริ่มอ่อนลง,เมื่อไหร่ที่กงจูขโมยกระจกเงาหมื่นนคร,จะสามารถหนีออกมาได้อย่างเร็วไว,จากนั้นก็จะมาสมทบกับพวกเราที่นี่."จงซานที่กล่าวรับรอง.

"อืม,ทว่าน่าเสียดายที่การประลองของน่าหลานเพียวเสวี๋ยและจื่อจุ้นเทพมังกรสวรรค์ ต่อสู้กันในครานี้,พวกเราไม่ได้รับโชคให้ดู."อาต้าที่กล่าวพลางทอดถอนใจ.

"อืม!"จงซานที่พยักหน้าเสียดายเช่นกัน.

คลื่นทะเลจิงเต่า,ที่พุ่งสูงราวกับคลื่นสึนามิ,พุ่งกระจายออกไปทุกทิศทาง,กระแทกชายฝั่งเสียงดังสนั่น.

เหล่าผู้ฝึกตนมากมายที่ร่ายล้อมรอบๆทะเลจิงเต่า,ตอนนี้ต่างก็เฝ้ามองอย่างใจเย็น,การต่อสู้ที่ยากจะหาเจอ,ตอนนี้กำลังจะเริ่มแล้ว,ภายในใจของทุกคนเวลานี้เต็มไปด้วยความตื่นเต้น.

เกือบทุกคนในเวลานี้ต่างก็เงยหน้าขึ้นสูง,จากตะวันตกไปยังตะวันออก,มีประกายแสงสีทองลากยาวไป,เวลานี้เริ่มเห็นร่างของคน ผู้หนึ่งแล้ว,พลังกดดันที่รุนแรง,แสงสีทองที่อาบไปทั่วผืนปฐพี.ความเข้มข้นสีทองที่หมุนวนเอ่อล้นออกมาจากร่างกาย.

ราชันย์ต้ายวี,น่าหลานเพียวเสวี๋ย.

น่าเหลานเพียวเสวี๋ยที่มาถึงเป็นคนแรก,ซึ่งเวลานี้เขายืนอยู่บนผืนน้ำของทะเลจิงเต่าที่มีคลื่นใหญ่ซัดสาด,ทะเลที่กำลังบ้าคลั่ง.

หากแต่ตำแหน่งที่เขายืนอยู่นั้น,คลื่นยักษ์ที่บ้าคลั่งนั่นกับหยุดนิ่งอยู่กับที่,มันถูกซัดม้วนกวาดออกไปรอบๆคลื่นยักษ์ที่สูงใหญ่เท่ากับภูเขาที่กวาดออกไปด้านนอก,บนผืนทะเลที่กว้างใหญ่,พื้นที่ใจกลางนั้นกับเงียบสงบราวกับผิวของกระจกเงาก็ไม่ปาน.

ผิวทะเลที่เงียบงันกระจายออกไปรอบๆ,จนท้ายที่สุดคลื่นต่างๆก็หายไปทั้งหมด.

เหล่าผู้คนมากมายต่างก็ต้องสูดหายใจลึก.

นี่คือราชันย์น่าหลานเพียวเสวี๋ย? เพียงแค่พลังกดดันวิญญาณก็สามารถกำราบทะเลได้แล้ว?

ในเวลาเดียวกัน,จากผืนทะเลที่เงียบสงบ,จากวิหารชิงหลิง,บุคคลในชุดนักบวชที่สง่างาม,มีหมวกรูปดอกบัวสวมอยู่,ในมือของจื่อจุ้นเทพมังกรสวรรค์นั้นมีคทานักบวชสีทองม่วง,เขาที่ก้าวออกมาช้าๆ,ทุกๆหนึ่งก้าว,ร่างกายของเขาจะหายไป,พร้อมกับมาโผล่ในพื้นที่ไกลออกมา,เป็นการก้าวที่ยากจะมีคนทั่วไปทำได้,ทุกๆก้าวที่เขาก้าวออกมาเต็มไปด้วยพลัง,ทุกๆก้าวที่เขาก้าวไปราวกับเต็มไปด้วยพลังชีวิตที่เต็มเปี่ยม,ทำให้สิ่งมีชีวิตใกล้ๆถึงกับเต็มไปด้วยพลังชีวิต,ราวกับว่าจะเติบโตขึ้นมาในทันที.

จื่อจุ้นเทพมังกรสวรรค์ในเวลานี้ได้เดินทางมาถึงทะเลสาบจิงเต่าแล้ว.

ที่ห่างออกไปยังฝั่งทะเล,มีเหล่าผู้คนของแต่ละฝั่งกำลังจับจ้องมองลงไปยังทะเล.

การประลองกำลังจะเริ่มแล้ว,ในเวลาเดียวกัน,เหล่าคนของทั้งสองฝั่งเองก็ประจำพื้นที่ของพวกเขาเช่นกัน.

พุทธะฮุยกวงมาถึงนานแล้ว,ตอนนี้เขายืนอยู่บนภูเขาลูกหนึ่ง,สายตาที่เย็นชากวาดตามองยังเหล่ากระโจมที่พักที่มีเหล่าทหารคอยอารักขา.

"ราชวงศ์สวรรค์ต้าโหลว,กงจูเฉียนโหยว?"พุทธะฮุยกวงที่กล่าวออกมาด้วยเสียงที่แผ่วเบา.

ในเวลาเดียวกันยังมีอีกคนที่ดูจะสนใจพื้นที่ดังกล่าวเช่นเดียวกัน,อุปราชต้ายวี,อี้เหยี่ยน.

อี้เหยี่ยนตอนนี้จ้องมองไปยังกระโจมที่ปิดม่านแน่นหนา,พลางขมวดคิ้วไปมา,คิดใคร่ครวญอยู่ครู่หนึ่งก่อนที่จะนำแม่ทัพเถี่ยเสวี๋ยเดินทางไปยังกระโจมดังกล่าว.

"อุปราช!"ขุนพลต้ายวีที่คอยรักษาความปลอดภัยพื้นที่รอบๆ.

"ไปแจ้งกงจูเฉียนโหยว,บอกว่าอี้เหยี่ยนต้องการเข้าพบ."อี้เหยี่ยนกล่าว.

การประลองจะเริ่มต้นแล้ว,ทำไม?ทำไมม่านกระโจมของกงจูเฉียนโหยว ยังคงปิดแน่น? ไม่,มันไร้เหตุผลเกินไป.

"ครับ."ขุนพลคนดังกล่าวรับคำ,ก่อนที่จะวิ่งตรงไปในทันที.

ทว่าก่อนที่ขุนพลดังกล่าวจะเข้าไปรายงาน,ทูตคนหนึ่งที่ได้ยินบริเวณใกล้ๆก็แสดงท่าทางประหลาดใจ,จากนั้นก็ก้าวเข้ามาหาในทันที.

"คารวะอุปราช."ทูตต้าโหลวที่กล่าวออกมาทันที.

ทันทีที่เห็นทูตต้าโหลวก้าวเข้ามา,อี้เหยี่ยนรู้สึกสังหารใจไม่ดีในทันที,เพราะว่าทูตดังกล่าวที่ไม่เข้าไปแจ้งกงจูเฉียนโหยวเลย,ตัดสินใจเข้ามาขวางทางพวกเขาเลย,บางทีกงจูเฉียนโหยวไม่ได้อยู่ข้างในอย่างงั้นรึ?

"รบกวนแจ้งไปยังกงจูเฉียนโหยวด้วยว่า,อี้เหยี่ยนต้องการเข้าพบ."อี้เหยี่ยนกล่าวออกมาอีกครั้ง.

"เรียนอุปราช,ก่อนหน้านี้,บางทีอาจเป็นเพราะพลังกดดันวิญญาณขององค์ราชันย์,กงจูเฉียนโหยวที่สัมผัสได้,ดังนั้นจึงต้องการปิดตัวฝึกฝนชั่วคราว,ซือจื่อและคนอื่นๆเองก็คอยคุ้มกันให้,ดังนั้นจึงได้สั่งการไม่ให้ใครเข้าไปรบกวน,ต้องขออภัยอุปราชด้วย."ทูตคนดังกล่าวกล่าวด้วยความเคารพ.

สัมผัสได้ถึงพลังกดดันวิญญาณอย่างงั้นรึ?อี้เหยี่ยนที่เผยยิ้มอย่างเย็นชา,จ้องเขม็งไปยังทูตต้าโหลว,ดวงตาที่แสดงท่าทางไม่เชื่อแม้แต่น้อย.

"ใต้เท้ากล่าวจริงๆอย่างงั้นรึ?"อีเหยี่ยนที่ชำเลืองจ้องมองไปยังทูตต้าโหลว.

เห็นอี้เหยี่ยนที่แสดงท่าทางไม่อยากเชื่อทูตต้าโหลว,เขาที่เร่งรีบกล่าวรับรองในทันที,"ผู้น้อยย่อมกล่าวความจริง,ไม่กล้าที่จะโกหกแน่นอน."

ได้ยินคำพูดของทูตแล้วอี้เหยี่ยนก็ไม่รออีกต่อไป,เขาที่นำแม่ทัพอี้เหยี่ยนจากไปในทันที.

เห็นท่าทางของอี้เหยี่ยนจากไปแล้ว,ทูตต้าโหลวที่แสดงท่าทางประหลาดใจเป็นอย่างมาก,อุปราชรับรู้แล้วรึ?

ขณะที่ทุกคนกำลังเดินอยู่นั้น,เถี่ยเสวี๋ยเร่งรีบกล่าวออกมาทันที."อุปราช,มีอะไรอย่างงั้นรึ?"

"ไปเตรียมทหาร,กลับไปยังเมืองเทียนกงพร้อมกับข้า,กงจูเฉียนโหยวและคนอื่นๆตอนนี้ได้กลับไปยังเมืองเทียนกงแล้ว."อี้เหยี่ยนที่กล่าวออกมาในทันที.

"ครับ"อี้เหยี่ยนที่รับคำในทันทีแววตาไม่เข้าใจแม้แต่น้อย,ทว่าคำพูดของอุปราชที่กล่าวต่อกงจูเฉียนโหยวกลับเมืองเทียนกง,แน่นอนว่าพวกเขาก็ต้องเร่งรีบกลับไปด้วยเช่นเดียวกัน.




ที่มาจากhttps://lnmtl.com/novel/immortality

#นิยาย เรื่องอมตะ #Immortality#นิยายแปลไทย
Author(s)


สนใจสนับสนุนพวกเรา,เข้าร่วมกลุ่ม VIP ====> Click

***เว็ปฟรีอัพ สองวันหนึ่งตอน
***กลุ่มลับ อัพ 2-3 ตอนต่อวัน.

 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น