วันพฤหัสบดีที่ 7 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2562

Immortality Chapter 215 Gu Lin wisdom

Immortality Chapter 215 Gu Lin wisdom

นิยาย เรื่อง อมตะ ตอนที่ 215   เชาว์ปัญญาของกู่หลิน.



เห็นจงซานที่กล่าวออกมาด้วยความ,"จงรักภัคดี" ทำให้ภายในใจกงจูเฉียนโหยวสั่นไหวเช่นกัน.

ผู้ใช้ความจริงใจสร้างความประทับใจให้กับผู้คน,ผู้คนก็จะสนองตอบเจ้าด้วยความจริงใจ.,เป็นความจริงที่เขาได้บอกนาง.



กงจูเฉียนโหยวจ้องมองไปยังจงซานแล้วกล่าวว่า"เซียนเซิง,เรื่องของกู่หลินอย่าได้เอามาใส่ใจ."

"ผู้น้อยไม่ได้เอามาใส่ใจแน่นอน."จงซานกล่าว.

"เฮ้เฮ้,ทว่ากู่หลินนั้นจ้องมองเซียนเซิงด้วยสายตาไม่ดีนัก,ข้ากังวลว่าจะทำให้ท่านรู้สึกไม่สบายใจ."กงจูเฉียนโหยวที่ส่ายหน้าพลางทอดถอนใจ.

"หืม?"จงซานที่กล่าวออกมาด้วยความสงสัย.

"เซียนเซิง,คงจะสงสัยแน่นอนว่าทำไมข้าต้องยอมกู่หลิน."กงจูเฉียนโหยวที่ฝืนยิ้มออกมา.

"ผู้น้อยไม่รู้."จงซนที่ส่ายหน้าไปมา.

"ที่จริงแล้ว,กู่หลินที่ท่านเห็นไม่ใช่กู่หลินจริงๆ."กงจูเฉียนโหยวกล่าว.

"ไม่ใช่กู่หลินจริงๆอย่างงั้นรึ?"ภายในใจของจงซานที่แสดงท่าทางประหลาด,ไม่ใช่อย่างไรรึ?

"ไม่,ร่างกายคือเขา,ทว่าปัญญาไม่ใช่เขา."กงจูเฉียนโหยวกล่าว.

"อย่างไรรึ?"จงซานที่แสดงท่าทางประหลาดใจ.

"อ๋องเจิ้งอี้คือบิดาของข้า,เป็นบุตรของเซิงซ่าง,ทว่าข้านั้นไม่ใช่สายโลหิตของอ๋องเจิ้งอี้,มารดาของข้านั้นเป็นหลานสาวของหลานชายเซิ่งซ่าง,ครอบครัวของข้านั้น,ประสบเหตุ,ขณะช่วยเหลืออ๋องเจิ้งอี้,ทำให้ทั้งคู่จากไป,อ๋องเจิ้งอี้รู้สึกสงสารเห็นใจข้า,จึงได้รับข้าเป็นบุตรสาวบุญธรรม,ซึ่งมีตำแหน่งเป็นจวินจู่เฉียนโหยว."กงจูเฉียนโหยวเอ่ย.
郡主 Jùn zhǔ (จวินจู) องค์หญิงในเชื้อพระวงศ์แต่ไม่สูงเท่าเจ้าหญิง(กงจู)

"หืม?"จงซานที่ฟังอย่างตั้งใจ.

"อ๋องต้าเสวียนนั้นเป็นหลานของเซิงซ่าง,และเป็นคนที่ค่อนข้างโดดเด่นเป็นอย่างมาก,เขาที่ได้ยกระดับตัวเองจนกลายเป็นไท่จื่อ,หลังจากนั้นอ๋องต้าเสวี่ยน,อายุไขของเข้านั้นลดลงเป็นอย่างมาก,ในเวลานั้นสถานะของเขาจึงด้อยกว่าคนอื่น,เพราะเหตุนั้นเขาจึงต้องการเชื่อมสัมพันธ์กับอ๋องเจิ้งอี้,อย่างไรก็ตาม,ไท่จื่อทั้งสี่นั้นแต่ละคนต่างก็ร้ายกาจเต็มไปด้วยความทะเยอทะยาน,ทุกคนต่างก็เข้าใจดี,ว่าพวกเขาได้ผูกสำพันธ์โดยให้เหล่าญาติพี่น้องแต่งงานเพื่อเชื่อมสัมพันธ์กันเอง."กงจูเฉียนโหยวที่อธิบาย.

"อืม."จงซานที่พยักหน้าด้วยความสงสัย,ทำไมไม่รู้นางถึงต้องเล่าเรื่องนี้.

"กู่หลินที่เป็นซือจื่อเขาเป็นหนึ่งในบุตรทั้งเก้าของอ๋องต้าเสวียน,ก่อนหน้านี้กู่หลินไม่ได้เป็นเช่นนี้,กู่หลินนั้นเป็นคนที่มีเชาว์ปัญญาสูงเป็นอย่างมาก,แม้แต่เฉียนโหยวในเวลานี้ยังด้อยกว่า."กงจูเฉียนโหยวกล่าว.

"โอ้ว?"จงซานที่แสดงท่าทางประหลาดใจ.

"อ๋องต้าเสวียนและอ๋องเจิ้งอี้,กล่าวได้ว่าทั้งสองเป็นคู่แข่งทางการเมือง,เวลานั้นกู่หลินมีอายุ 16 ปี,เพราะว่าเขาชื่นชอบข้า,ด้วยสถานะที่พิเศษของเขาและความสามารถของเขา,เป็นเรื่องที่ไม่คาดคิด,อ๋องทั้งสองกับเห็นด้วยทำการหมั้นหมายให้กับพวกเรา,เซียนเซิงย่อมรู้ว่าด้วยสถานการณ์ที่พวกเขาไม่ได้เป็นมิตรกัน,การหมั้นหมาย,เป็นเรื่องง่ายอย่างงั้นรึ?"กงจูเฉียนโหยวที่ยิ้มแบบขมๆ.

"16 ปี? ทำให้เกิดการหมั้นหมาย?"จงซานที่แสดงท่าทางประหลาดใจ,เช่นนั้น,กู่หลินผู้นี้,นับว่าฉลาดมาก.

"ใช่แล้ว,ทว่าหลังจากนั้นกู่หลินได้พบเข้ากับหายนะซะเอง,ไม่เช่นนั้นเฉียนโหยวตอนนี้คงเป็นเพียงแค่นางสนมของซือจื่อเท่านั้น."กงจูเฉียนโหยวกล่าว.

"หายนะ?หายนะอะไรอย่างงั้นรึ?"จงซานกล่าวออกมาด้วยท่าทางประหลาดใจ.

"ผู้ฝึกตนระดับจักรพรรดิแท้นั้น,จะต้องทำลายกายเนื้อ,และสร้างร่างเป็นกายทิพย์,ดวงวิญญาณจะครองกายทิพย์,ทว่าดวงวิญญาณของกู่หลินนั้นกับถูกฝังเข้าไปข้างใน,จิตสำนึกของกู่หลินติดอยู่ในเรือนโอสถ,กล่าวได้ว่าเชาว์ปัญญาส่วนใหญ่ของเขาถูกกักขังอยู่ในเรือนโอสถ,ไม่สามารถหลุดออกมาได้,การกลายร่างเป็นกายทิพย์นั้น,ไม่มีใครสามารถที่จะช่วยเขาได้,เพียงแค่รอให้จิตสำนึกของกู่หลินสามารถเอาชนะและหลุดออกมาจากเรือนโอสถได้เท่านั้น."กงจูเฉียนโหยวที่กล่าวอย่างเคร่งขรึม.

"จิตสำนึกส่วนใหญ่ถูกขังอยู่ในเรือนโอสถ,ตอนนี้เขายังถูกสกัดกลั้นไม่ให้กลายเป็นผู้เชี่ยวชาญอยู่อย่างงั้นรึ? ตอนนี้เหลือเพียงแค่ภูมิปัญญาเล็กน้อยที่พอสามารถควบคุมกายเนื้อเท่านั้น?"จงซานถึงกับสั่นสะท้านทีเดียว.

"ใช่แล้ว,ถึงแม้ว่าจะเหลือจิตสำนึกเพียงแค่เล็กน้อย,แต่ก็ยังทำให้เขาเป็นเหมือนกับคนทั่วไป,ไม่ได้บ้าหรือโง่เง่าไปเลย,ตอนนี้จำเป็นต้องรอให้เขาเอาชนะเรือนโอสถได้เท่านั้น."กงจูเฉียนโหยวที่กล่าวยืนยัน.

"ชนะ?หากไม่ชนะล่ะ?"จงซานที่ขมวดคิ้วสอบถาม.

"หากไม่ชนะ,เขาก็ยังมีร่างกายที่แข็งแรงเป็นผู้ฝึกตนทั่วๆไป,แต่หากเขาเอาชนะได้,ไม่เพียงแต่สามารถฟื้นฟูเชาว์ปัญญาในอดีตกลับมา,จิตสำนึกของเขายังได้รับการหล่อเลี้ยงจากจิตวิญญาณเทวะ,บางทีเมื่อนั้นเขาอาจจะเหนือกว่าในอดีตก็ได้,ดังนั้นแม้ว่ากู่หลินจะยังไม่สำเร็จในเวลานี้,ทว่าก็มีคนมากมายในราชวงศ์สวรรค์ต้าโหลวคาดหวังกับเขา,รวมทั้งเซิ่งซ่าง,แม้แต่บิดาของเขา,อ๋องต้าเสวียน."กงจูเฉียนโหยวกล่าว.

ทว่าจงซานในเวลานี้,ขมวดคิ้วไปมา,ตั้งแต่แรกแล้ว,กู่หลินไม่ได้ซื่อบื้อ,ในอนาคตยังไม่รู้เลยว่าเขาจะเป็นหยกน้ำงามขนาดใหน.

"กงจูเฉียนโหยวจะแต่งงานกับเขาอย่างงั้นรึ?"จงซานที่สอบถามอีกครั้ง.

"เฮ้เฮ้,เป็นคู่หมั้น,กู่หลินตอนนี้เองก็เป็นอย่างที่เห็น,ทว่า,เฉียนโหยวกับกู่หลินนั้น,เป็นเพียงแค่พี่ชายน้องสาวเท่านั้น,ธรรมเนียมของราชวงศ์สวรรค์ต้าโหลวนั้น,ต้องการให้ซือจื่อและกงซือ,เป็นคู่บำเพ็ญ,เพื่อที่จะไม่เผยความลับไปสู่คนภายนอก,ถึงแม้ว่าจะเป็นสายโลหิตเดียวกัน,ดังนั้นข้าจึงได้ถอนหมั้นไปเรียบร้อยแล้ว."กงจูเฉียนโหยวที่ฝืนยิ้มออกมา.

"หลายปีมานี้,ภายในใจกงจูถึงได้รู้สึกผิดอยู่สินะ."จงซานพยักหน้า.

เป็นความจริง,แม้ว่ากงจูเฉียนโหยวไม่ได้รู้สึกชอบพอกับกู่หลินก็ตาม,ทว่าการที่กู่หลินประสบภัยพิบัติ,สายตาทุกคนย่อมมองกงจูเฉียนโหยวในแง่หนึ่ง,การที่นางถอนหมั้นไป?เพียงเพราะว่ากู่หลินไม่ได้มีมันสมองที่ยอดเยี่ยมอีกแล้ว,เลยทำให้นางรู้สึกผิดเป็นธรรมดา?

"เฮ้เอ้,เซียนเซิงดูเหมือนว่าจะเข้าใจเฉียนโหยวดี."กงจูเฉียนโหยวที่เผยยิ้มออกมา.

"กงจูไม่เห็นจำเป็นต้องใส่ใจในสายตาคนอื่นเลย."จงซานกล่าว.

"อืม,ข้านั้นใยต้องใส่ใจสายตาของคนอื่นอย่างงั้นรึ? ข้าใส่ใจตัวเองต่างหาก,ก่อนนี้ถึงกู่หลินไม่ยอมเฉียนโหยวก็สามารถถอนหมั้นได้,ทว่าตอนนี้,ข้านั้นกับรู้สึกผิดกับกู่หลินเหมือนกัน,ในอดีตกู่หลินได้ช่วยเฉียนโหยวไม่น้อย,ดังนั้นกับการกระทำของกู่หลิน,เฉียนโหยวจึงได้ยอมปล่อยให้เขาติดตามเท่าที่พอที่จะยอมได้."กงจูเฉียนโหยวกล่าว.

"อืม."จงซานพยักหน้า,แต่ไม่รู้ว่านางเล่ามาทั้งหมดนี้,เพื่ออะไร.

กงจูเฉียนโหยวที่จ้องมองไปยังจงซานและกล่าวว่า."กู่หลินที่รู้สึกเป็นปฏิปักษ์ต่อเซียนเซิง,ทำให้เฉียนโหยวรู้สึกกระอักกระอวลเช่นกัน,การจะละทิ้งกู่หลินไปก็ยาก,ถึงปล่อยเป็นเช่นนี้ก็ไม่ง่าย,เฉียนโหยวรู้สึกละอายไม่น้อย,เช่นนั้น,เวลานี้เพื่อแก้ไขเรื่องนี้,เฉียนโหยวจึงมีเรื่องที่จะให้เซียนเซิงทำ."

"หืม?"จงซานที่กล่าวออกมาด้วยความสงสัย.

"เจ็ดเดือนหลังจากนี้,พวกเราจะต้องเดินทางหนีจากเมืองเทียนกง,เฉียนโหยวจึงต้องการให้เซียนเซิงใช้โอกาสนี้เดินทางไปรอบๆเมืองเทียนกง,เพื่อสำรวจเส้นทางที่ปลอดภัยที่สุด,เมื่อเซียนเซิงกลับมาอีกครั้ง,ท่าทางโกรธเกรี้ยวของกู่หลินคงจะหายไป,สถานการณ์ความตึงเครียดคงจะเบาบางลงบ้าง."กงจูเฉียนโหยวกล่าว.

จงซานที่จ้องมองไปยังกงจูเฉียนโหยว,ภายในใจที่ได้แต่ถอนหายใจเบาๆ,กงจูเฉียนโหยวนับว่าเต็มไปด้วยเชาว์ปัญญา,ให้เขาไปสำรวจเส้นทาง,ยิงนกสี่ตัวด้วยหินก้อนเดียว.

อย่างแรก,ให้เขาสำรวจเส้นทาง,เพื่อที่จะหาเส้นทางที่ปลอดภัย,และยังให้ตัวเขาคิดแผนกำหนดวิธีการหนีที่เหมาะสมโดยอิงลักษณะเด่นของสภาพแวดล้อมทางภูมิศาสตร์ที่แตกต่างกัน.

ข้อต่อมา,เพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้กู่หลินต้องระคายเคืองใจ.

อีกทั้งยังช่วยลดความริษยาของกู่หลิน,บรรเทาความอิจฉาของเขาลง.

ท้ายที่สุด,ที่สำคัญ,คือไม่ให้อี้เหยี่ยนสามารถติดต่อเขาได้อีกครั้ง,หลีกเลี่ยงไม่ให้อี้เหยี่ยนเอาชนะใจเขา,ต้องไม่ลืมว่าอี้เหยี่ยนนั้นร้ายกาจมาก,การเล่นแง่ในเมืองเทียนกงถิ่นของเขานั้น,ย่อมทำให้เขาได้เปรียบเป็นอย่างมาก.

"ครับ."จงซานที่รับคำ.

"อาต้าจะเดินทางไปกับท่าน,ปกป้องเซียนเซิงให้ปลอดภัย."กงจูเฉียนโหยวกล่าวออกมาด้วยรอยยิ้ม.

"อืม."จงซานที่พยักหน้ารับคำ.
.....

พระราชวังหลวง,ห้องโถงลับ.

ราชันย์น่าหลานเพียวเสวี๋ย,นั่งอยู่บนบัลลังก์,มีอ๋องจวีลู่ด้านข้าง,ส่วนอีกด้านหนึ่งเป็นอี้เหยี่ยน.

"อี้เหยี่ยน,เจ้ากำลังต้องการทำสิ่งใด?"น่าหลานเพียวเสวี๋ยจ้องมองตาโต.

อ๋องจวีลูที่อยู่ข้างๆเผยท่าทางเหยียดหยัน,คาดไม่ถึงเลยว่าอี้เหยี่ยนกล้าฝ่าฝืนคำสั่งเหนือหัว,ได้ทำการวางแผนสังหารกลุ่มของกงจูเฉียนโหยวเป็นการส่วนตัว,เจ้าเป็นประมุขต้ายวี,หรือต้องการตัดสินใจแทนราชันย์ต้ายวีอย่างงั้นรึ?

อี้เหยี่ยนที่ไร้ซึ่งอารมณ์,แม้ว่าน่าหลานเพียวเสวี๋ยกำลังตะคอกใส่อยู่ก็ตาม."เฉินรู้ว่าทำผิด!"

"เจ้าสำนึกผิดอย่างงั้นรึ?"น่าหลานเพียวเสวี๋ยที่คำรามด้วยความโกรธ.

"เฉิน,แม้ว่าจะขัดคำสั่งต่อฝ่าบาท,ทว่าเฉินก็ทำไปด้วยปรารถนาดี,เพื่อฝ่าบาท,เพื่อประชาชนของต้ายวีของเรา."อี้เหยี่ยนกล่าวออกมาเบาๆ.

"สิ่งสำคัญที่สุด,กงจูเฉียนโหยวไม่เป็นอะไรเลยแม้แต่น้อย,ทว่าพวกเรากับได้สร้างความเกรี้ยวโกรธต่อราชวงศ์ราชันย์ต้ากวง."อ๋องจวีลูที่ทำตัวแปลกประหลาด,เห็นได้อย่างชัดเจนว่าแผนการครั้งนี้ทำให้คนของเขาตายไปหลายคน,ภายในใจของเขารู้สึกไม่พอใจเป็นอย่างมาก.

"หากไม่เพราะว่าอ๋องจวีลูไม่ห้ามไว้,เหนือหัวยอมให้เฉินสังหารพวกเขาในเมืองเทียนกง,เรื่องดังกล่าวนี้มีเหรอที่จะไม่สำเร็จ?"อี้เหยี่ยนที่จ้องมองไปยังอ๋องจวีลู่ที่แสดงท่าทางขุ่นเคือง.

"อี้เหยี่ยน."ราชันย์น่าหลานที่ตะโกนออกไปด้วยความโกรธ.

เขาที่หันหน้าไปทางราชันย์น่าหลาน,จ้องมองเขาที่เต็มไปด้วยความโกรธ,ทำให้อี้เหยี่ยนฉุนเฉียวเหมือนกัน.

"แค๊ก แค๊ก แค๊ก แค๊ก!"

ขณะที่เขาโกรธเกรี้ยว,ทำให้ร่างกายของเขาถูกกระตุ้น,ทำให้เขาไอออกมาอย่างรวดเร็ว,เป็นกาiไอที่หนักหนายากลำบาก,เขาที่ใช้ผ้าเช็ดหน้าปิดปาก,เปื้อนไปด้วยโลหิตที่ไหลออกมา.

เห็นผ้าเช็ดหน้าที่เปื้อนไปด้วยโลหิต,น่าหลานเพียงเสวี๋ยที่โกรธเกรี้ยวอย่างหนักก็ค่อยๆบรรเทาลง,ทว่าฝ่ายตรงข้ามอ๋องจวีลู่นั้นเต็มไปด้วยท่าทางเหยียดหยัน.

"เอาล่ะ,ซือจื่อหานจิวก็กลับไปแล้ว,อี้เหยี่ยนเจ้าไม่ต้องวางแผนอะไรใหม่อีกแล้ว."ราชันย์น่าหลานที่ได้แต่ถอนหายใจ.

"รับด้วยเกล้า."อี้เหยี่ยนพยักหน้า.

"อืม,ข้าจะปิดตัวฝึกฝน,ตอนนี้อยู่ในช่วงสำคัญ,ก่อนหน้านี้ข้าออกมาทุกๆห้าวัน,ตอนนี้จะเปลี่ยนเป็นทุกๆสิบห้าวัน."น่าหลานเพียวเสวี๋ยกล่าว.

"ครับ."คนทั้งสองที่รับคำสั่งในทันที.

อี้เหยี่ยนที่กลับตำหนักอุปราช,ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความกังวลไม่จางหาย.

"อุปราช."เถี่ยเสวี๋ยที่ออกมาต้อนรับ.

"เข้าไปคุยด้านใน."อี้เหยี่ยนกล่าวออกมาเบาๆ.

"ครับ."เถี่ยเสวี๋ยที่รับคำ,พร้อมกับเข้ามาประครองอี้เหยี่ยน,เดินเข้าไปในตำหนักอุปราชในทันที.

เขาที่เดินเข้าไปด้านใน,ที่ศาลากลางน้ำ,เถี่ยเสวี๋ยกล่าวออกมา."อุปราช,ท่านให้ข้าจับตาจงซานนั้น,เมื่อเช้านี้,จงซานได้นำอาต้าออกไปนอกเมืองแล้ว."

"อะไร?ออกไปนอกเมือง?"อี้เหยี่ยนที่ขมวดคิ้วไปมา.

"ครับ,ข้าได้ส่งคนติดตามพวกเขาไปเรียบร้อยแล้ว."แม่ทัพเถี่ยเสวี๋ยรายงาน.

"กงจูเฉียนโหยว,เรื่องนี้คงเป็นฝีมือนาง."อี้เหยี่ยนขมวดคิ้ว,แววตาของเขาที่แสดงท่าทางเป็นกังวล.

"อุปราช,มีอะไรอย่างงั้นรึ?"แม่ทัพเถี่ยเสวี๋ยที่สอบถามออกมา.

"ไม่มีอะไร,เจ้าส่งคนไปจับต้าจงซานและอาต้า,ดูพวกเขาเดินทางไปที่ใหน,พวกเขาใช้เส้นทางใหน."อี้เหยี่ยนที่คิดและกล่าวออกมา.

"ครับ."แม่ทัพเถี่ยเสวี๋ยที่ตอบรับในทันที.

"พวกเขาพักที่ใหน,คุยกับใคร,เจ้าบันทึกไว้ทั้งหมด,จากนั้นค่อยกลับมารายงานข้า."อี้เยี่ยนที่กล่าวเสริม.


"ครับ."แม่ทัพเถี่ยเสวี่ยที่รับคำสั่ง.




ที่มาจากhttps://lnmtl.com/novel/immortality

#นิยาย เรื่องอมตะ #Immortality#นิยายแปลไทย
Author(s)


สนใจสนับสนุนพวกเรา,เข้าร่วมกลุ่ม VIP ====> Click

***เว็ปฟรีอัพ สองวันหนึ่งตอน
***กลุ่มลับ อัพ 2-3 ตอนต่อวัน.

 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น