วันพฤหัสบดีที่ 7 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2562

Immortality Chapter 212 Performs the human affairs to listen to the destiny

Immortality Chapter 212  Performs the human affairs to listen to the destiny

นิยาย เรื่อง อมตะ ตอนที่ 212 ความพยายามอยู่ที่คน ความสำเร็จอยู่ที่ฟ้า


尽人事听天命!
ความพยายามอยู่ที่คน ความสำเร็จอยู่ที่ฟ้า!

ภายในตำหนักสวนตะวันตก,งานเลี้ยงอาหาร.

กงจูเฉียนโหยวและกู่หลินได้เข้าประจำโต๊ะแล้ว,โดยมีเซียนเซิงสุ่ยจิง,จงซาน,อาต้าและอาเอ้อที่นั่งเรียงอยู่ฝั่งขวา,ส่วนฝั่งด้านซ้ายนั้นเป็นอ๋องจวีลู่,และเหล่าผู้ใต้บังคับบัญชาของเขา,ซึ่งมีชายหนึ่งและหญิงหนึ่งคน.



"เซียนเซิง,คนของอ๋องจวีลู่,พวกเขาเป็นมือสังหาร,คนเหล่านี้เคยลอบสังหารเหล่าขุนนางของราชวงศ์สวรรค์ของพวกเราไปเป็นจำนวนมาก,สามารถบอกได้ว่ามือของพวกเขาเปื้อนโลหิตเหล่าอาวุโสของราชวงศ์สวรรค์ต้าโหลวนับไม่ถ้วน."อาต้ากล่าวรายงานด้วยเสียงแผ่วๆ.

เห็นผู้ใต้บังคับบัญชาของอ๋องจวีลูที่นั่งนิ่งไร้อารมณ์,ดวงตาของจงซานหรี่ตาเล็กลง,พยักหน้าให้.

"ไม่รู้เลยว่ากงจู,ทำไมถึงได้เชิญข้ามาทันทีทันใดล่ะ?"อ๋องจวีลูที่เผยยิ้มออกมา,ภายในใจนั้นเต็มไปด้วยความกระวนกระวาย,ก่อนหน้านี้อาต้าที่เร่งรีบเดินทางไปหาเขาด้วยท่าทางเร่งรีบ,นอกจากนี้ยังขอให้เขามาร่วมทานอาหารในทันที? ดูเหมือนว่ากำลังมีเรื่องร้อนใจอย่างงั้นรึ?

"อ๋องจวีลู่,ต้าโหลวและต้ายวีนั้นได้เซ็นสัญญาสงบศึก,ระว่างสองราชวงศ์นั้นต่างก็แสวงหาความสงบสุข,และยังเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นไม่นาน,ทว่ากับมีบางคนพยายามที่จะทำลายพันธะสัญญานี้ไป."กงจูเฉียนโหยวที่ส่ายหน้าไปมา.

ได้ยินคำพูดของกงจูเฉียนโหยวแล้ว,ดวงตาของอ๋องจวีลูที่เปลี่ยนเป็นมืดคลึ้ม,ดวงตาหดเกร็งคิดถึงคนๆหนึ่ง,อี้เหยี่ยน,ไม่นานมานี้เขาเป็นคนกล่าวออกมาต่อหน้าฝ่าบาทด้วยซ้ำ,นี้มันเรื่องอะไรกัน? เรื่องนี้ถูกเปิดเผยแล้วรึ?

"ใคร..ใครกัน?ถึงได้ใจกล้าขนาดนี้?"ใบหน้าของอ๋องจวีลูที่มีท่าทางโกรธเกรี้ยวแฝงอยู่.

"ซือจื่อหานจิว."กงจูเฉียนโหยวที่กล่าวออกมาตรงๆ.

"ห่ะ? ซือจื่อหานจิว?"อ๋องจวีลู่ที่ตกตะลึงเล็กน้อย,เป็นเรื่องที่ต่างจากที่เขาคิด,ซือจื่อหานจิวอย่างงั้นรึ?

เขาที่ครุ่นคิด,ก็ทำให้อ๋องจวีลูตื่นตระหนกเหมือนกัน,ซือจื่อหานจิวที่เป็นตัวแทนของราชันย์ต้ากวงอย่างงั้นรึ?เขาเดินทางมาที่แห่งนี้เพื่อต่อรองกับราชวงศ์ต้าโหลวในดินแดนของต้ายวีอย่างงั้นรึ?

"ใช่แล้ว,ซือจื่อหานจิวนั้นได้ส่งคำเชิญมาหาข้า."กงจูเฉียนโหยวที่นำบัตรเชิญของนางส่งให้กับอ๋องจวีลูได้ดู.

อ๋องจวีลูเต็มไปด้วยความสงสัยเช่นกัน,ทันทีที่เห็นข้อความเชิญด้านใน,แม้ว่าจะไม่ได้เขียนอย่างชัดเจน,แต่ก็ไม่ยากที่จะคาดเดาความหมายถึงความมุ่งหมาย การขอเจรจาเป็นพันธมิตรกับต้าโหลวได้.

เห็นข้อความดังกล่าว,อ๋องจวีลูที่สูดหายใจยาว,ดวงตาที่มีแววความโกรธแฝงอยู่,เขาที่จ้องมองไปยังกงจูเฉียนโหยวด้วยท่าทางประหลาดใจ.

"ทำไมกงจูเฉียนโหยวจึงได้บอกกล่าวต่อข้าล่ะ?"อ๋องจวีลู่ที่สอบถาม,ภายในใจของเขา,ราวกับว่านางมีจุดมุ่งหมายอะไรซ่อนอยู่หรือไม่?

"ต้าโหลวและต้ายวีได้ผูกสัมพันธ์กันก่อน,พวกเราจะให้องค์ราชันย์เข้าใจผิดได้อย่างไร? เฉียนโหยวที่ได้รับคำเชิญมา,ทว่าภายใต้การปรึกษาหารือกับเซียนเซิงจงซานหลายครั้ง,จึงได้ตัดสินใจที่จะเชื่อใจในคำพูดของอ๋องจวีลูและขอความเห็นกับท่านสักหน่อย."กงจูเฉียนโหยวกล่าว.

"เซียนเซิงจงซาน?"อ๋องจวีลูที่จ้องมองไปยังเซียนเซิงจงซาน,จับจ้องใส่ใจเขาเป็นพิเศษ.

ทว่าท่าทางของสายตาของกู่หลินที่จ้องมองมายังจงซานด้วยความเย็นชา,อ๋องจวีลูเต็มไปด้วยความสงสัย,เขาเชื่อว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องจริง,หากว่ามีการพูดคุยเรื่องของสองราชวงศ์,เมื่อมีการถูกขัดจังหวะด้วยจงซาน,หากเขาเป็นซือจื่อ,จะไม่ให้รู้สึกขุ่นเคืองได้อย่างไร?

"เรียนอ๋องจวีลู่,กงจูของพวกเรานั้นเป็นคนที่มีความชอบธรรม,สองราชวงศ์เพิ่งจะลดความตรึงเครียดกับการสู้รบลงเมื่อไม่นาน,ทำไมต้องปลุกระดมขึ้นมาอีกล่ะ?"จงซานที่กล่าวออกมาทันที.

จงซานที่กล่าวออกมาทั่วๆไป,ทว่าคำพูดของเขากับทำให้กู่หลินนั้นโกรธเกรี้ยว,ความเป็นจริงก่อนหน้ามันเริ่มเบาบางลงแล้ว,ทว่าตอนนี้มันได้ลุกขึ้นครั้ง,กงจูของพวกเรา? ใครเป็นกงจูของเจ้ากัน?

แม้ว่าจะเป็นแค่เพียงคำพูด,ทว่าเมื่อมันเป็นคำพูดของจงซาน,เพียงแค่นิดเดียวก็ทำให้กู่หลินรู้สึกแล้ว,เพียงเชื้อไฟเล็กน้อย,เปลวเพลิงก็ลุกโชน

กู่หลินที่ค่อนข้างไร้เหตุผลจ้องมองไปยังอ๋องจวีลู,เห็นท่าทางของกู่หลินที่ดูโกรธเกรี้ยวขนาดนี้,อ๋องจวีลูได้แต่คิดว่านี้คงเป็นโอกาสทองของกู่หลินแต่กลายเป็นว่าได้ถูกจงซานทำลายไป,ภายในใจเขาเชื่ออย่างสนิทใจ.

กงจูเฉียนโหยวที่จ้องมองไปยังท่าทางของกู่หลินแล้ว,ก็ขมวดคิ้วไปมาเล็กน้อย.

"อ๋องจวีลู,ต้องขออภัยด้วย."กงจูเฉียนโหยวที่กล่าวขอโทษกับท่าทางของกู่หลินในทันที.

"ไม่มีปัญหา,กงจูช่างเป็นคนมีคุณธรรม,ไว้ข้าจะกราบทูลต่อฝ่าบาทรายงานเรื่องนี้อย่างแน่นอน,เรื่องนี้จะตำหนิพวกท่านได้อย่างไร? ว่าแต่นี่เป็นคำเชิญของซือจื่อหานจิวจริงๆงั้นรึ?"อ๋องจวีลูที่กล่าวต่อกงจูเฉียนโหยว.

"อ๋องจวีลูสามารถส่งคนไปดูได้,ซือจื่อหานจิวได้ออกนอกเมืองไปแล้ว,ท่านไม่ลองแสร้งเป็นข้าและเดินทางไปตามนัดหมายยังทะเลสาบม่านหมอก,เพื่อดูผลลัพธ์ล่ะ."กงจูเฉียนโหยวกล่าว.

"ปลอมตัวอย่างงั้นรึ? คงไม่ดีกระมั้ง!"ภายในใจของอ๋องจวีลูสั่นไหว,แม้ว่าเขาต้องการพิสุทธิ์แต่ก็ต้องปฏิเสธเป็นมารยาทก่อน.

"ไม่มีปัญหา,ท่านส่งผู้ใต้บังคับบัญชา,ปลอมเป็นพวกเราเป็นจำนวนหกคนเดินทางไปยังทะเลสาบม่านหมอก,แต่ต้องรีบหน่อยเพราะว่ายิ่งนานไป,ซือจื่อหานจิวอาจจะจากไปก่อน."กงจูเฉียนโหยวที่กล่าวยืนยัน.

"ตกลง!"อ๋องจวีลู่ที่ตอบรับในทันที,ในเมื่อเจ้าเอ่ยปากเอง,ข้าก็จะสนองตอบก็ได้.

"พวกเจ้า,หลังจากนี้ให้ออกนอกเมือง,ปลอมตัวเป็นกลุ่มของกงจูเฉียนโหยวเดินทางไปยังทะเลสาบม่านหมอก,ต้องไม่ลืมว่าพื้นที่แห่งนั้นมีหมอกหนา,พวกเขาไม่สามารถมองเห็นรูปร่างของพวกเจ้าได้ชัดเจนแน่,เพียงแค่ไปตรวจสอบดูว่า,ซือจื่อหานจิวรอคอยอยู่ที่นั่นหรือไม่."อ๋องจวีลู่สั่งการผู้ใต้บังคับบัญชาของเขาที่อยู่ข้างๆซึ่งเป็นมือสังหาร.

"ครับ/ค่ะ" ทุกคนที่ตอบรับในทันที.

"กงจูได้เตรียมชุดให้กับทุกคนเรียบร้อยแล้ว."จงซานที่นำชุดจำนวนหนึ่งส่งให้กับพวกเขา.

"หืม?"อ๋องจวีลู่ชะงักงันเล็กน้อย,เรื่องนี้,มีการเตรียมการเอาไว้แล้วสินะ.

"ได้!"อ๋องจวีลูที่กล่าวตอบรับในทันที.

"ครับ"ผู้ใต้บังคับบัญชาของอ๋องจวีลูรับชุดไป.

"ไว้ออกนอกเมืองแล้วค่อยเปลี่ยนชุด,เพื่อป้องกันไม่ให้เหล่าทหารประจำประตูเมืองสงสัย."จงซานที่เอ่ยออกไปด้วยรอยยิ้ม.

"ทำตามเซียนเซิง."อ๋องจวีลูเอ่ย.

"ครับ."ผู้ใต้บังคับบัญชาที่เป็นมือสังหารได้รับคำ,จากนั้นพวกเขาก็ออกไปจากตำหนักสวนตะวันตกในทันที.

จากนั้น,พวกเขาทั้งหมดเวลานี้ทำได้เพียงแค่รอคอย,รอผลที่จะออกมา.

หลังจากนั้นสามชั่วโมงผ่านไป,งานเลี้ยงอาหารที่ตำหนักสวนตะวันตกก็จบลงเรียบร้อยแล้ว.

อ๋องจวีลู่,กงจูเฉียนโหยว,กู่หลิน,เซียนเซิงสุ่ยจิง,อาต้าและอ้าเอ้อ,ตอนนี้ยืนอยู่บนเกาะลอยฟ้า,ตอนนี้ยังคงรอคอยเหล่ามือสังหารของอ๋องจวีลูกลับมา,ทว่า,จวบจนถึงตอนนี้,ยังไม่มีใครกลับมาแม้แต่คนเดียว.

อ๋องจวีลูที่ขมวดคิ้วไปมาด้วยท่าทางร้อนใจ,ทันใดนั้นก็เรียกผู้ใต้บังคับบัญชาอีกคน,"เจ้ารีบไปยังทะเลสาบม่านหมอกด้วยความเร็ว,ไปดูซิว่าเกิดสิ่งใดขึ้น."

"ครับ."ผู้ใต้บังคับบัญชาคนดังกล่าวที่รับคำสั่งและจากไปอย่างรวดเร็ว.
......

เกาะลอยฟ้าที่พำนักของราชวงศ์ต้ากวง.

ซือจื่อหานจิวที่อาบไปด้วยโลหิต,ได้รับบาดเจ็บสาหัส,แขนด้านซ้ายที่มีโลหิตไหลออกมาเป็นระยะ,เต็มไปด้วยความความกลุ้มอกกลุ้มใจเป็นอย่างมาก,และที่ด้านหลังของเขามีเซียนเซิงโจวและเซียนเซิงโหยวที่ได้รับบาดเจ็บสาหัสเช่นกัน,บินตามมาช้าๆ.

ใบหน้าของคนทั้งสามเต็มไปด้วยความเคียดแค้น.

"ซือจื่อ,ซือจื่อเป็นอย่างไรบ้าง?"เหล่าคณะทูตขุนนางคนอื่นๆที่เร่งรีบออกมารับพวกเขา,ใบหน้าที่เต็มไปด้วยความกระวนกระวายใจ.

"กงจูเฉียนโหยว,เจ้าช่างใจร้ายนัก,ต้องการให้ข้าตายในราชวงศ์ต้ายวี,เพื่อที่จะทำให้ต้ายวีและต้ากวงเกิดความเกลียดชัง,เพื่อที่จะทำให้ราชวงศ์สวรรค์ต้าโหลวได้ประโยชน์.ฮึมๆๆ"ซือจื่อหานจิวที่แค่นเสียงเย็นชา.

"ซือจื่อ,กงจูเฉียนโหยวลอบโจมตีพวกท่านอย่างงั้นรึ?แล้วกงจูเฉียนโหยวล่ะ?"เจ้าหน้าที่คนหนึ่งที่สอบถามออกมาในทันที.

"ที่ป่าหมื่นต้นท้อนั้น,พวกเขาบังคับข้าไล่ต้อนข้าเข้าไปติดกับภูเขา,ฮึๆ,ต้องการให้ข้าตาย,แต่ข้าก็ทำให้นางได้ตายก่อน,ข้าได้ระเบิดภูเขาไฟ,ทำให้กลุ่มพวกนาง,ตาย,ตาย,ตายไปหมดเลย."ซื่อจื่อหานจิวที่แค่นเสียงอย่างเย็นชา.

"แล้วตอนนี้พวกเราจะทำอย่างไร?"เหล่าขุนนางที่กล่าวออกมาด้วยท่าทางเป็นกังวล.

"พวกเจ้า,รีบไปเชิญอ๋องจวีลู่และอุปราช,บอกว่าซือจื่อได้รับบาดเจ็บสาหัส,ให้ทั้งคู่รีบมาให้เร็วที่สุด."เซียนเซิงโจวที่ออกคำสั่งในทันที.

"ครับ."ขุนนางคนดังกล่าวพยักหน้ารับและเร่งรีบจากไปในทันที.
..................

ตำหนักอุปราช.

อี้เหยียนยังคงให้อาหารปลาอยู่,ทว่าสายตาของเขาเวลานี้ไม่ได้มองไปยังทะเลสาบเลย,ภายในใจที่ไม่สงบ,รอคอยฟังข่าวจากแม่ทัพเถี่ยเสวี๋ย.

"ตุ๊บ..."

เสียงของคนที่ย่ำลงบนพื้นของศาลา,อี้เหยียนที่หันหน้ากลับหลัง,เหล่าปลาที่แตกกระเจิง,เป็นแม่ทัพเถี่ยเสวี๋ยนั่นเอง.

"อุปราช,อุปราช."เถี่ยเสวี๋ยกล่าวเสียงดัง.

"เป็นอย่างไรบ้าง."อี้เยียนแม้ว่าจะสุขภาพไม่ดี,ทว่าก็ลุกขึ้นก้าวไปหาเถี่ยเสวี๋ยด้วยท่าทางกระวนกระวาย.

เห็นอี้เหยียนที่ก้าวเข้ามา,แม่ทัพเถี่ยเสวี๋ยเร่งรีบเข้าไปประครองอี้เหยียนอย่างรวดเร็ว.

"อุปราช,สัมฤทธิผล,ซือจื่อหานจิวได้รับบาดเจ็บหนัก,ก่อนหน้านั้น,เขาได้ตะโกนออกไปเสียงดัง,ว่าเฉียนโหยว,วายร้ายลอบสังหารเขา."แม่ทัพเถี่ยเสวี๋ยที่กล่าวออกมาด้วยความตื่นเต้น.

"ภูเขาล่ะ?"อี้เยียนที่กล่าวสอบถามในทันที.

"หลังจากที่ภูเขาระเบิด,ค่ายกลสงครามเบิกโลกันตร์ก็ถูกเปิดใช้งาน,ด้วยภูเขาไฟที่ปะทะออกมาอย่างรุนแรง,ทะเลสาบม่านหมอกได้หายไปหมดแล้ว,ตอนนี้กลายเป็นทะเลลาวาไปหมด,แผนการเรียบร้อยแล้วอย่างแน่นอน."แม่ทัพเถี่ยเสวี๋ยที่กล่าวออกมาด้วยความตื่นเต้น.

"อืม,เจ้าทำได้ดีมาก,แล้วกลุ่มของกงจูเฉียนโหยวล่ะ?เป็นอย่างไรบ้าง?"อี้เหยียนที่สอบถามออกมา.

"กลุ่มของกงจูเฉียนโหยวเข้าไปในทะเลสาบม่านหมอกแน่นอน,พื้นที่แห่งนั้นมีหมอกปกคลุมอย่างแน่นอน,ทว่าคนของพวกเราที่ควบคุมค่ายกลสงครามอยู่นั้น,เห็นพวกเขาเข้าไปอย่างแน่นอน,และตายไปไอย่างไม่ต้องสงสัย,กลุ่มของกงจูเฉียนโหยว,ตายไปไม่เหลือซาก."แม่ทัพเถี่ยเสวี๋ยที่กล่าวออกมาด้วยความตื่นเต้น.

"อืม,ดี,ทำได้ดีมาก,มีใครอยู่บ้างที่อยู่ข้างกายกงจูเฉียนโหยว?เซียนเซิงสุ่ยจิงตายไปด้วยหรือไม่?"อี้เหยียนที่กล่าวออกมาด้วยความตื่นเต้น.

"เซียนเซิงสุ่ยจิง? ควรจะอยู่ข้างใน,ในเวลานั้น,ข้าจำได้ว่าคนเหล่านั้นมีกันหกคนเหมือนเมื่อครั้งที่ข้าคุ้มกันพวกเขามาจากเมืองป้าหวง."เถี่ยเสวี๋ยที่คิดอยู่ครู่หนึ่งและกล่าวออกมา.

ได้ยินคำพูดของเถี่ยเสวี๋ยอี้เหยี่ยนที่ขมวดคิ้วไปมา,"เจ้าแน่ใจรึ?เรื่องนี้จะผิดพลาดไม่ได้,เจ้าส่งคนไปยืนยันรึยัง?"

"อุ่ปราช,ข้าคิดว่าเป็นพวกเขาแน่,ถึงแม้ว่าจะอยู่ไกลอกมา,แต่ก็สามารถมองเห็นได้,ชุดของคนทั้งหกนั้น,เหมือนกันกับเมื่อครั้งข้าได้คุ้มกันพวกเขากลับมาจริงๆ,ต้องเป็นพวกเขาแน่,ไม่มีทางผิดพลาด."แม่ทัพเถี่ยเสวี๋ยที่กล่าวออกมาทันที.

"สวมชุดเหมือนกันอย่างงั้นรึ?"อี้เหยียนที่สอบถามอีกครั้ง.

"เหมือนกันจริงๆ,ข้าจำได้ว่าเป็นชุดๆเดียวกันเมื่อครั้งที่พวกเขาเดินทางมาจากเมืองป้าหวงแน่,ไม่ผิดตัว"แม่ทัพเถี่ยเสวี๋ยกล่าวยืนยันอีกครั้ง.

"เจ้ากล่าวว่าคนทั้งหกนั้น,เหมือนกันทุกคนเลยจริงๆเหรอ,เป็นชุดเดียวกันที่สวมมาเมื่อครั้งเดินทางมาจากเมืองป้าหวงรึ? "อี้เหยียนที่แสดงท่าทางเป็นกังวลขึ้นมาทันที.

"ครับ."แม่ทัพเถี่ยเสวี๋ยที่ราวกับว่าตระหนักถึงอะไรได้,ทว่าก็พยักหน้ารับ.

เหมือนกันทุกคนเลยรึ? คนทั้งหกที่เดินทางมายังเมืองเทียนกงหลายวันแล้ว,พวกเขาไม่เปลี่ยนชุดเลยรึ,ถึงแม้ว่าจะเปลี่ยนชุด,เป็นไปได้เหรอที่จะซ้ำกันขนาดนั้น,ราวกับว่าตั้งใจให้เหมือนกับวันนั้นหรือไม่?

เป็นความจริง,เป็นความตั้งใจของจงซานที่ต้องการให้ทุกคนเห็นและจดจำตัวตนของพวกเขาได้,จึงจงใจที่จะใช้เสื้อผ้าเมื่อครั้งเดินทางมา,ซึ่งเสื้อผ้าชุดดังกล่าวนั้นหลังจากที่ถูกเปลี่ยนพวกเขาก็ไม่ได้สวมใส่อีกเลย,ดังนั้นจึงได้จัดเตรียมไว้ให้กลุ่มผู้ใต้บังคับบัญชานักฆ่าอ๋องต้ายวี,จงซานคงจะไม่คิดเช่นกันว่า,เพียงแค่รายละเอียดเล็กน้อยนั่นจะทำให้อี้เหยียนเกิดความระแวง,และกลายเป็นข้อบกพร่องขนาดใหญ่.

"แค๊ก แค๊ก แค๊ก แค๊ก."อี้เหยียนที่เริ่มไอออกมาด้วยความเป็นกังวล.

"อุปราช."แม่ทัพเถี่ยเสวี๋ยที่เต็มไปด้วยความเป็นกังวล.


"ที่ทำได้,ก็ทำไปหมดแล้ว,ความพยายามอยู่ที่คน ความสำเร็จอยู่ที่ฟ้า!" อี้เหยี่ยนที่หยุดไอ,ก่อนที่จะกล่าวปลอบใจตัวเอง.




ที่มาจากhttps://lnmtl.com/novel/immortality

#นิยาย เรื่องอมตะ #Immortality#นิยายแปลไทย
Author(s)


สนใจสนับสนุนพวกเรา,เข้าร่วมกลุ่ม VIP ====> Click

***เว็ปฟรีอัพ สองวันหนึ่งตอน
***กลุ่มลับ อัพ 2-3 ตอนต่อวัน.

 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น