วันเสาร์ที่ 2 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2562

Immortality Chapter 208 Air/Qi Battle Array

Immortality Chapter 208  Air/Qi Battle Array

นิยาย เรื่อง อมตะ ตอนที่ 208  ค่ายกลสงครามเบิกโลกันตร์.



"อู๋หว่านลี,คนผู้นี้เป็นใครอย่างงั้นรึ?"จงซานที่ขมวดคิ้วสอบถามออกมา.

"เมืองอู๋ซวังเซียนเซิงก็ได้เห็นแล้ว,ราชวงศ์สวรรค์ต้าโหลวนั้นมีเมืองเป็นจำนวนมาก,หลายๆเมืองคนผู้นี้เป็นคนหนึ่งในการรับผิดชอบออกแบบโครงสร้างต่างๆของเมืองขึ้นมา,อู๋หว่านลี,อาจจะเรียกว่าขุนนางผังเมืองก็ได้."กงจูเฉียนโหยวตอบ.


"ขุนนางผังเมืองอย่างงั้นรึ?"จงซานที่หรี่ตาจ้องมอง,เมืองอู๋ซวัง?เมืองอู๋ซวังนับว่ามีขนาดใหญ่,ดูยิ่งใหญ่น่าเกรงขาม,จงซานเห็นมาแล้ว,เขาที่เป็นขุนนางผังเมือง,เป็นผู้สร้างเมืองต่างๆของราชวงศ์? นับว่าเป็นขุนนางที่สำคัญ?

ในเวลาเดียวกันนั้น,ภายในใจของจงซานราวกับว่ามีความคิดบางอย่างเกิดขึ้นพร้อมๆกัน,หากว่าได้เขาคนนี้มาสร้างราชวงศ์ต้าเจิ้งของเขาล่ะ,อาณาจักรต้าเจิ้งของเขาจะน่าเกรงขามขนาดใหน,มันจะยิ่งใหญ่ขนาดใหนกัน? ราชวงศ์ต้าเจิ้งนั้นจะพัฒนารวดเร็วขนาดใหน?

"ส่วนกระจกหมื่นนครนั้น,เป็นสมบัติวิเศษที่ทุกคนต่างต้องการ,ไม่เพียงแต่ราชวงศ์สวรรค์ต้าโหลวเท่านั้น,มันเป็นสมบัติตกทอดของราชวงศ์สวรรค์หลายยุคหลายสมัย,ภายในนั้นได้บันทึกโครงสร้างที่แตกต่างกันของเมืองนับหมื่นเมือง,ภูมิประเทศ,และแบบเมืองที่งดงาม,ถึงแม้ว่าว่าจะไม่สามารถอธิบายอะไรได้ในเวลานี้,ทว่าหลังจากที่อู๋หว่านลี้ถูกจับตัว,มันก็ตกไปอยู่ในมือของราชวงศ์ต้ายวี,ทว่านี่เป็นสมบัติที่อันตราย,โครงสร้างของเมืองราชวงศ์ต้าโหลวนั้น,ไม่สามารถปล่อยให้ไปอยู่ในมือของคนอื่นๆได้."กงจูเฉียนโหยวกล่าว.

"อู๋หวานลีแปรพักตร์ไปอยู่กับราชวงศ์ราชันย์ต้ายวีอย่างงั้นรึ?"

"ไม่สามารถบอกได้,ดังนั้นจึงต้องเข้าไปยังคุกเทียนกง,ก่อนหน้านี้ที่ข้าได้ขออนุญาตจากอ๋องจวีลู,ก็เพื่อหาโอกาสไปตรวจสอบที่คุกเทียนกง."กงจูเฉียนโหยวกล่าว.

"เข้าไปยังคุกเทียนกงอย่างงั้นรึ? ฮึ,เจ้านั่นมันเป็นอาชญากรติดคุกของต้ายวีก็ดีแล้วพวกเราจะนำมันออกมาทำไมกัน."กู่หลินที่ขมวดคิ้วไปมาขณะพูด.

"หืม,อู๋หว่านลี่ทำผิดอะไรอย่างงั้นรึ?"จงซานที่สอบถามออกมาด้วยความสงสัย.

"อู๋หวานลี่ได้เสริมความแข็งแกร่งให้กับเมืองสิบเมืองของราชวงศ์ราชันย์ต้ายวี,รวมทั้งเมืองเทียนกงด้วย,ทำให้เมืองทั้งสิบแข็งแกร่งไม่สามารถถูกทำลายได้,นับว่าได้สร้างปัญหาให้กับราชวงศ์สวรรค์ต้าโหลวเช่นกัน"กงจูเฉียนโหยวตอบ.

"ในเวลาเดียวกัน,เขาถูกจับเนื่องจากไม่ได้เปิดกระจกหมื่นนครให้กับต้ายวี,ความผิดของเขาก็ยังพอสามารถอภัยได้."เซียนเซิงสุ่ยจิงที่สะบัดพัดไปมากลางทอดถอนใจ.
 "อู่หว่านลีอยู่ในคุกเมืองเทียนกง,ส่วนสมบัติกระจกหมื่นนครนั้น,ไม่สามารถบอกได้ว่าอยู่ในส่วนใหนของตำหนักจวีลูอย่างงั้นรึ?"จงซานที่จ้องมองไปยังกงจูเฉียนโหยว.

"เซียนเซิงกล่าวถูกแล้ว."กงจูเฉียนโหยวกล่าวออกมาด้วยรอยยิ้ม.

"กงจูเฉียนโหยวได้ทำการค้นหาตำแหน่งของสมบัติกระจกหมื่นนครแล้วอย่างงั้นรึ?"เซียนเซิงสุ่ยจิงกล่าว.

"ดูภาพที่อาเอ้อบันทึกมา."กงจูเฉียนโหยวที่ชี้ไปยังด้านหน้าที่กำลังฉายภาพอยู่.

นี่เป็นภาพฉายรอบๆของตำหนักจวีลู,มีเหล่าองค์รักษ์มากมาย,นอกจากนี้ยังมีการลาดตะเวนเป็นระยะหนาแน่น,ตรวจสอบพื้นที่อย่างระเอียด.

"ขณะที่ฉายภาพ,พวกเราได้เข้าไปด้านในตำหนัก,อาเอ้อ,ที่ทำการสร้างจิตสำนึกพิเศษออกมาบันทึก,ขณะที่กำลังบันทึกภาพนั้น,ตำหนักจวีลูก็มีเสียงตะโกนว่ามีขโมยบุกรุก,เหล่าองค์รักษ์พวกเขาก็เปลี่ยนขบวนในทันที."กงจูเฉียนโหยวกล่าว.

"ขโมย? คาดไม่ถึงเลยว่าตำหนักจวีลูจะมีโจรกล้าเข้ามา?"กู่หลินที่กล่าวออกมาด้วยท่าทางประหลาดใจ.

"น่าจะเป็นคนที่กงจูส่งไป."เซียนเซิงสุ่ยจิงกล่าวด้วยรอยยิ้ม.

"เฉียนโหยว,เจ้าส่งคนออกไปอย่างงั้นรึ?"กู่หลินเอ่ยถาม.

"อืม,เป็นเพียงแค่สัญญาณ,บอกว่ามีขโมยบุกเข้ามาในตำหนักจวีลู่เท่านั้น,"กงจูเฉียนโหยวที่จ้องมองไปยังภาพฉายและพยักหน้ารับ.

"ขโมยกระจกหมื่นนครอย่างงั้นรึ? ขโมยได้แล้วรึ?"กู่หลินที่แสดงท่าทางดีใจในทันที.

"กระจกหมื่นนครนั้น,เป็นสมบัติวิเศษ,จะสามารถขโมยง่ายๆได้อย่างไร?"กงจูเฉียนโหยวที่ส่ายหน้าไปมา.

"น่าเสียดาย."กู่หลินที่ส่ายหน้าไปมาพลางถอนหายใจ.

เซียนเซิงสุ่ยจิงที่จ้องมองไปยังกู่หลินพลางถอนหายใจเบาๆเช่นกัน.

"ขโมยสำเร็จ,ข้าไม่ได้คาดหวังว่าจะขโมยได้สำเร็จง่ายๆ."กงจูเฉียนโหยวกล่าวอย่างเคร่งขรึม.

"หาข้อมูลอย่างงั้นรึ?"กู่หลินที่กล่าวออกมาด้วยท่าทางประหลาดใจ.

"ข้าต้องการที่จะรับรู้ว่าอ๋องจวีลูนั้นได้ซ่อนกระจกหมื่นนครเอาไว้ที่ตรงใหน."กงจูเฉียนโหยวกล่าวออกมาด้วยรอยยิ้ม.

"พบสถานที่แล้วรึ?"กู่หลินที่เอ่ยถาม.

"ไม่,ทว่า,เกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงผลัดเวรขององค์รักษ์อาเอ้อได้บันทึกเอาไว้แล้ว,ข้าพอจะคาดเดาสถานที่ได้."กงจูเฉียนโหยวกล่าว.

"โอ้ว?"กู่หลินอุทาน.

"กระจกหมื่นนคร,ไม่สามารถเก็บเข้าในกำไลเก็บของได้,ดังนั้นทำได้แค่ซ่อนมันเอาไว้,นอกจากนี้ยังไม่มีใครรู้,มีเพียงแค่อ๋องจวีลูเท่านั้น,เรื่องนี้จึงทำให้อ๋องจวีลูเป็นกังวลว่ามันจะหายเป็นอย่างมาก,ดังนั้น,ในวันนั้นเขากับเร่งรีบออกไปจากงานเลี้ยง,เพื่อที่จะไปตรวจสอบ,เวลาแรกไม่มีใครรู้,ทว่าด้วยการกระทำของเขาในครั้งนั้น,จึงทำให้เผยพิรุธออกมา."กงจูเฉียนโหยวที่กล่าวอย่างมั่นใจ.

ด้วยเหตุนี้,ทุกคนจึงพอคาดเดาได้ว่าเหตุผลที่อาเอ้อบันทึกภาพเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นที่ตำหนักจวีลู่นั้นไว้เพราะเหตุใด.

"เซียนเซิงทั้งสอง,ท่านคิดว่าสถานที่ใดน่าสงสัย?"กงจูเฉียนโหยวที่จ้องมองไปยังจงซานและสุ่ยจิงด้วยรอยยิ้ม.

ถอนขนเส้นเดียว,ขนตั้งชั้นทั่วร่าง,ความเป็นจริงจงซานสามารถรับรู้ได้ในทันที,เช่นเดียวกับการเปลี่ยนแปลงของสินค้าในตลาด,ดังนั้นสิ่งที่สำคัญนั้นจึงจำเป็นต้องมีการควบคุมดูแลขององค์รักษ์หลวงอย่างระมัดระวัง,สามารถที่จะตรวจสอบสถานที่ดังกล่าวนั่นได้ตลอดเวลา.

"ที่ใหนอย่างงั้นรึ?"กู่หลินที่กล่าวสอบถามเซียนเซิงสุ่ยจิง.

"ครึ่งทางภูเขาลูกนี้."เซียนเซิงสุ่ยจิงที่ชี้ไปยังภูเขาลูกหนึ่งที่มียอดเขาสูงที่สุด.

จงซานที่เห็นเซียนเซิงสุ่ยจิงชี้ไปยังตำแหน่งดังกล่าว,เขาก็พยักหน้าให้เบาๆ.

"อืม,ที่นี่ล่ะ."กงจูเฉียนโหยวที่พยักหน้าด้วยรอยยิ้ม.

"แล้วอ๋องจวีลูไม่เปลี่ยนสถานที่แล้วรึ?"กู่หลินที่กล่าวออกมาในทันที.

"ไม่,ตอนนี้ยัง,มีเพียงแค่อ๋องจวีลูคนเดียวที่รู้,ทำให้เขาไม่จำเป็นต้องเปลี่ยน,นอกจากนี้การวางเหล่าผู้คุ้มกันยังแน่นหนาเพียงพอแล้ว,หากเขาเปลี่ยน,การลาดตะเวนและการวางกำลังต้องเปลี่ยนไป."กงจูเฉียนโหยวที่กล่าวยืนยัน.

"เช่นนั้นพวกเราต้องหาโอกาสในการขโมยอย่างงั้นรึ?"กู่หลินกล่าวออกมาด้วยรอยยิ้ม.

"ไม่,ตอนนี้ไม่สามารถขโมยได้,อ๋องจวีลูได้จัดเตรียมผู้เยี่ยมยุทธ์,รวมทั้งค่ายกลที่ทรงพลังเอาไว้อย่างแน่นอน,หากพวกเราดึงดันที่จะขโมย,นอกจากไม่ได้ของ,ยังเผยให้ศัตรูรู้ตัวด้วย."กงจูเฉียนโหยวกล่าว.

"แล้ว,จะเอามาได้อย่างไร?"กู่หลินที่มุมปากกระตุก,ถึงจะรู้สถานที่แล้ว?ก็ไม่สามารถทำได้อย่างงั้นรึ? ถึงคว้ามาได้แต่ก็ไม่สามารถหนีออกจากเมืองเทียนกงได้.

"พวกเราต้องลงมือแน่,ทว่า,ไม่ใช่ตอนนี้."กงจูเฉียนโหยวกล่าวด้วยรอยยิ้ม.

"ไม่ใช่ตอนนี้?แล้วเมื่อไหร่ล่ะ?"กู่หลินที่ขมวดคิ้วไปมาพลางสอบถาม.

"นั่นก็คือวันที่น่าหลานเพียวเสวี๋ยและจื่อจุ้นเทพมังกรสวรรค์ต่อสู้ประลองกันอย่างไรล่ะ."กงจูเฉียนโหยวกล่าวอย่างมั่นใจ.

ทุกคนที่พยัก,มีเพียงวันนั้นเท่านั้น,ที่จะสามารถขโมยและหนีได้!
................

เมืองเทียนกงนั้น,เกาะลอยฟ้าขนาดมหึมา.

บนเกาะลอยฟ้าเองก็มีทะเลสาบขนาดใหญ่,และยังมีศาลาตกกลางน้ำกระจายอยู่มากมาย,หลายๆแห่งเป็นเรือนไม้ที่ตั้งอยู่ตรงกลางบ่อ,และยังมีอีกหลายแห่งตามฝั่ง.

อุปราชอี้เหยียน,ในเวลานี้นั่งอยู่ในศาลา,ขนาดเล็ก,ที่ด้านข้างนั้นมีอาหารปลา,อี้เหยียนที่นั่งอยุ่บนศาลา,กำลังให้อาหารปลา.

ที่ด้านข้างของเขานั้นมีแม่ทัพลำดับหนึ่ง,เถี่ยเสวี๋ย.

"อุปราช,เหนือหัวไม่เห็นด้วยอย่างงั้นรึ?"เถี่ยเสวี๋ยที่กล่าวออกมาด้วยความเคารพ,พร้อมกับมองไปยังปลาที่อี้เหยี่ยนที่กำลังโยนอาหารลงไป.

"เหนือหัวไม่เห็นด้วย."อี้เหยียนกล่าวออกมาเบาๆ,ไม่ได้หันหน้ามา,ยังคงให้อาหารปลา.

เถี่ยเสวี๋ยเงียบไปชั่วขณะ.

"เถี่ยเสวี๋ย."อี้เหยียนที่ให้อาหารปลาและกล่าวออกมา.

"อยู่นี่แล้ว."เถี่ยเสวี๋ยกล่าวออกมาด้วยความเคารพ.

"ให้คนจัดเตรียมค่ายกลสงครามเบิกโลกันตร์ให้ข้า."อี้เหยียนกล่าวออกมาเบาๆ.

"อุปราช,ท่านกำลังขัดคำสั่งของเหนือหัว?ลอบสังหารกลุ่มของกงจูเฉียนโหยวอย่างลับๆอย่างงั้นรึ?"แม่ทัพเถี่ยเสวี๋ยที่แสดงท่าทางเป็นกังวลออกมา.

"เจ้าไม่ทำอย่างงั้นรึ?"อี้เหยียนที่กล่าวออกมาเบาๆ.

"ไม่,ข้ารับคำสั่งของอุปราช,เถียเสี๋ยไม่เคยหวาดหวั่น,ยินดีพร้อมที่จะทำทุกคำสั่ง."เถี่ยเสวี๋ยกล่าวออกมาในทันที,ทว่าใบหน้าแววตาของเขาก็ยังแสดงท่าทางเป็นกังวล.

"ดูเหมือนว่าเจ้ามีอะไรอย่างพูด?"อี้เหยียนที่กล่าวออกมาด้วยรอยยิ้มที่นุ่มนวล.

ได้ยินคำพูดของเอี้เหยียน,แม่ทัพเถี่ยเสียพยักหน้าทันที.

"ครับ,อุปราช,หากเป็นการอุปราชในอดีต,ท่านย่อมไม่ลอบสังหารกลุ่มของกงจูเฉียนโหยวอย่างแน่นอน,ท่านเองก็รู้ว่ากลุ่มของกงจูเฉียนโหยวนั้นเดินทางไปมาไร้ทิศทิศ,หากเป็นเมือก่อน,อุปราชคงจะล่อพวกเขาไปยังสถานที่อื่น,ยกตัวอย่างให้พวกเขาเดินทางไปยังราชวงศ์ต้ากวง,จากนั้นค่อยสังหาร,ไม่มีทางที่จะเป็นเมืองเทียนกง,เพราะว่าอุปราชเองรับรู้สถานการณ์ของราชวงศ์ต้ายวีมากยิ่งกกว่าใครๆ,แน่นอนว่าท่านไม่มีทางที่จะทำอะไรที่เป็นการเสี่ยงต่อสถานที่แห่งนี้แน่!"แม่ทัพเถี่ยเสวี๋ยกล่าว.

"แค๊ก แค๊ก แค๊ก แค๊ก"

อี้เหยียนที่ได้ยินคำพูดของเถี่ยเสวี๋ย,ทำให้เขาไอติดๆต่อกัน,มือของเขาทื่ถือหารปลาสั่นไปมาล่วงหล่นลงบนทะเลสาบ,ดูเหมือนว่าเขายากที่จะควบคุมร่างกายของตัวเองได้.

"อุปราช."เถี่ยเสวี๋ยที่ก้าวออกไปประคองอี้เหยียนในทันที,ใบหน้าที่ตื่นตระหนก.

อี้เหยียนที่นำผ้าเช็ดปก,หลังจากที่หยุดไอซึ่งมีโลหิตกระจายอยู่ทั่วผาเช็ดหน้า,เถี่ยเสวี๋ยที่เห็นเช่นนั้นก็ยิ่งแสงดท่าทางเป็นกังวล.

หลังจากที่ไอเสร็จนั้น,อี้เหยียนที่สูดหายใจเข้าไปด้านใน,ฝืนยิ้มออกมาและกล่าวว่า"ข้าตอนนี้เริ่มอาการหนักขึ้นทุกวัน! เช่นที่เจ้าเห็น,เจ้าคิดว่าข้าจะมีชีวิตอยู่ได้อีกนานเท่าไหร่? หนึ่งปี?สองปี?สิบปี?หรือยี่สิบปี?"

"ไม่,อุปราชจะต้องมีชีวิตอยู่นับพันปี,หมื่นปี,ท่านจะต้องเป็นเซียนแท้ได้แน่,ท่านจะมีชีวิตเป็นอมตะ."เถี่ยเสวี๋ยกล่าวออกมาในทันที.

อี้เหยียนหันหน้าไปมองเถี่ยเสวี๋ยพลางฝืนยิ้มออกมา."ร่างกายของข้า,ข้าย่อมรู้ดี,ข้ารู้ว่าราชันย์นั้นเชื่อใจในตัวข้า,แต่ข้าไม่สามารถที่จะนำพาต้ายวีให้ก้าวไปข้างหน้าได้,ตอนนี้นอกจากกลุ่มของกงจูเฉียนโหยวเดินทางมาที่นี่แล้ว,หลังจากนี้ข้าไม่สามารถรอได้,ไม่สามารถรอที่จะจัดการได้อีกแล้ว,ข้าจะต้องเร่งรีบจัดการให้เร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้,หากว่าสามารถสร้างโอกาสให้ราชวงศ์สวรรค์ต้าโหลวถูกกำจัดได้,ด้วยสี่ราชวงศ์ราชันย์ที่กำลังรุมเร้าพวกเขา,เรื่องนี้ย่อมมีโอกาสสำเร็จแน่,ตราบเท่าที่กำจัดราชวงศ์สวรรค์ต้าโหลวไปได้,ดินแดนศักดิ์สิทธิ์ภาคตะวันออก,จะเหลือเพียงแค่ราชวงศ์ราชันย์,ราชวงศ์ราชันย์ต้ายวีของพวกเราจะสามารถมั่นคงอยู่ไดอีกนับพันปี โดยที่ไม่ต้องห่วง,ถึงข้าจะอยู่ในนรกก็ยังทำให้ข้าเบาใจ,กลุ่มอื่นๆรู้ดี,หากข้าตายไป,ราชวงศ์ราชันย์ทั้งสี่เองก็พร้อมที่จะสร้างปัญหา,ยิ่งหากราชวงศ์สวรรค์ลงมือ,ในเวลานั้น,ต้ายวีของพวกเรามีแต่อันตรายรอบด้าน! ข้ายังไงก็ต้องตาย,ไม่มีความจำเป็นที่ต้องเกรงกลัวต่อการลงโทษของเหนือหัว,ตราบเท่าที่สามารถกำจัดต้าโหลวได้,ทำให้ต้ายวีคงอยู่ได้อีกพันปี,ข้าก็พร้อมที่จะทำทุกอย่างที่จะทำได้."

อี้เหยียนที่กล่าวออกมาด้วยท่าทางมั่นคงหนักแน่น,จนทำให้ดวงตาของแม่ทัพเถี่ยเสวี๋ยถึงกับคลอเบ้า.

"อุปราช!"แม่ทัพเถี่ยเสวี๋ยที่กล่าวออกมาด้วยความเศร้า,ดูเหมือนว่าชีวิตของอุปราชนั้นกำลังจะจากไปในไม่ช้านี้แล้ว.

"ไปได้แล้ว!"อี้เหยียนที่จ้องมองไปยังแม่ทัพเถี่ยเสวี๋ย,เผยรอยยิ้มอย่างนุ่มนวล.

เห็นอุปราชในเวลานี้แล้ว,เขาไม่ได้คำนึงถึงชีวิตของตัวเองลย,ถึงแม้ว่าเขาจะถูกลงโทษ,แต่เพื่ออนาคตวันข้างหน้าของราชวงศ์ราชันย์ต้ายวี,เขาพร้อมจะทำทุกอย่าง,แม่ทัพเถี่ยเสวี๋ยที่โค้งคำนับด้วยความเคารพ.

"ข้าจะเชื่อฟังท่าน."แม่ทัพเถี่ยเสวี๋ยที่กล่าวออกมาเบาๆ,จากนั้นก็ออกไป,เพื่อสั่งการให้ผู้ใต้บังคับบัญชาจัดเตรียมค่ายกลสงครามเบิกโลกันตร์


เห็นแม่ทัพเถี่ยเสวี๋ยจากไปแล้ว,อี้เหยี่ยนที่เผยยิ้มออกมาอย่างนุ่นนวล,เขาที่จ้องมองไปยังทะเลสาบ,พร้อมกับให้อาหารต่อ,จ้องมองไปยังปลามากมายที่แย่งชิงอาหารกันและกัน.




ที่มาจากhttps://lnmtl.com/novel/immortality

#นิยาย เรื่องอมตะ #Immortality#นิยายแปลไทย
Author(s)


สนใจสนับสนุนพวกเรา,เข้าร่วมกลุ่ม VIP ====> Click

***เว็ปฟรีอัพ สองวันหนึ่งตอน
***กลุ่มลับ อัพ 2-3 ตอนต่อวัน.

 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น