วันเสาร์ที่ 2 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2562

Immortality Chapter 203 Nian Youyou

Immortality Chapter 203  Nian Youyou

นิยาย เรื่อง อมตะ ตอนที่ 203 เนี่ยนโหยวโหยว.  




เซียนเซิงจงซานเป็นคนบอกข้า!

ได้ยินคำพูดของกงจูเฉียนโหยวแล้ว,จงซานรู้สึกกระอักกระอวลใจเหมือนกัน,กงจูเฉียนโหยวสามารถที่จะกล่าวด้วยตัวนางเอง,นางกับเอ่ยชื่อเขาอย่างงั้นรึ?



"ข้าได้บอกจำนวนไปตั้งแต่ตอนใหนกัน?"อ๋องจวีลูที่กล่าวออกมาด้วยความประหลาดใจ.

ทุกคนต่างก็จ้องมองมายังกงจูเฉียนโหยวด้วยความประหลาดใจ,ใช่,อ๋องจวีลูได้บอกจำนวนมาตั้งแต่เมื่อไหร่? ทุกคนต่างก็จ้องมองเป็นสายตาเดียวกัน,ราวกับว่าพวกเขาเป็นคนหูหนวก,ทำไมพวกเขาไม่ได้ยินล่ะ?

"ทุกๆวันก็จะเพิ่มเม็ดทรายหนึ่งเม็ด,จนถึงสุดท้ายใส่เม็ดทราย,ในแต่ละวันจะบวกเพิ่มเท่ากับจำนวนวันจวบจนถึงวันสุดท้าย,นั้นก็เท่ากับว่าสามารถบวกจำนวนต่างๆเพิ่มขึ้นในวันถัดๆไป,ก็เหมือนกับ 18,275 เม็ดทรายที่เพิ่มขึ้นเป็นจำนวน 36,500 วัน,นั่นคือจำนวนเม็ดทราย."กงจูเฉียนโหยวกล่าวออกมาด้วยรอยยิ้ม.

"หืม?"ทุกคนที่นิ่งไปชั่วขณะ,ทว่าเหมือนจะเป็นจริงเช่นนั้น.

ความเป็นจริง,เกี่ยวกับการคำนวณนั้น,,ทว่าจำนวนที่ทั้งสองกล่าวออกมาทั้งซือจื่อหานจิวและกงจูเฉียนโหยวคำนวณอาจน่าจะได้ผลต่างกัน,ทว่าพวกเขากับได้จำนวนที่เท่ากับกับวิธีการดังกล่าวออกมาย่อมไม่มีผิดพลาดแน่.

"หานจิวรู้สึกชื่นชมนัก."ซือจื่อหานจิวที่พยักหน้าในทันที.

ความเป็นจริง,กงจูเฉียนโหยวใช้วิธีคำนวณซึ่งเป็นวิธีที่ง่ายที่สุด,มันง่ายกว่าการนับเม็ดทรายบนภาพ,ทว่าวิธีของนางนั้นคนส่วนมากจะคิดว่ามันน่าเบื่อหากต้องคำนวณกับตัวเลขมากมายเพื่อให้ได้คำตอบออกมา.

เห็นท่าทางความสามารถของซือจื่อหานจิวแล้ว,อ๋องจวีลูรู้สึกจริงจังขึ้นมา,อ๋องจวีลู่ไม่คาดหวังว่าทั้งสองราชวงศ์จะดูสุขุมเข้าใจเจตนาของเขาอย่างชัดแจ้ง,เรื่องนี้ยิ่งทำให้ราชวงศ์ราชันย์ต้ายวีอยู่ในอันตรายได้.

"ฮ่าฮ่า,กงจูเฉียนโหยวมีชื่อเสียงสมจริงดั่งคำเล่าลือ,เซียนเซิงจงซานของท่าน,ช่างโดดเด่นนัก,ตำหนักของพวกเราต้องใช้คนหลายคน,เขากับมีวิธีคิดที่ยอดเยี่ยม,ข้ารู้สึกชื่นชมนัก."อ๋องจวีลู่ที่หัวเราะออกมาทันที.

ได้ยินคำพูดของอ๋องจวีลู่แล้ว,จงซานถึงกับต้องเพ่งพิศ,อ๋องจวีลู่ผู้มีหัวใจอสรพิษ,เขาเองเป็นเพียงคนไม่สำคัญ,ใยต้องยกเขาขึ้นมา,เพื่อให้คนอื่นเห็นอย่างงั้นรึ?ไม่ใช่ว่าใส่ใจผู้บังคับบัญชาของนางมากกว่าเหรอ,เหล่าผู้บังคับบัญชาของเจ้าล่ะ,หรือแม้แต่คนของซือจื่อหานจิวก็ตามที?

เป็นความจริง,ได้ยินคำพูดของอ๋องจวีลู่,ทำให้ซือจื่อหานจิวต้องมองไปยังจงซาน,ขมวดคิ้วไปมา,การพ่ายแพ้กงจูเฉียนโหยวไม่ได้เสียหน้าอะไรนัก,หากแต่เป็นผู้ใต้บังคับบัญชาของนางเขาย่อมรู้สึกกระอักกระอวลใจ.

"ท่านอ๋องชื่นชมเกินไปแล้ว,เซียนเซิงจงซานศึกษาเรื่องนี้มาโดยเฉพาะ,เกี่ยวกับการคำนวณ,ไม่ใช่เรื่องยากอะไรนัก,ทว่าท่านอ๋องนำภาพนี้มา,ไม่ทราบว่ามีจุดมุ่งหมายใดอย่างงั้นรึ?"กงจูเฉียนโหยวที่เปลี่ยนหัวข้อในทันที.

กงจูเฉียนโหยวที่จ้องมองไปยังอ๋องจวีลู่,จงซานสามารถสัมผัสได้ทุกคนต่างก็จ้องมองเป็นสายตาเดียวกัน,ราวกับว่ามันมีความหมายอะไร.

เป็นความจริง,หลังจากที่ได้ยินคำพูดของกงจูเฉียนโหยว,ก็ทำให้สายตาของซือจื่อหานจิวผ่อนคลายขึ้น,ศึกษาศาสตร์นี้อย่างงั้นรึ? ไม่น่าประหลาดใจ.

ได้ยินคำพูดของกงจูเฉียนโหยวที่รู้เท่าทันตัวเองทำให้อ๋องจวีลูใบหน้าเปลี่ยนเป็นดำมืดชั่วครู่,ก่อนที่จะเผยยิ้มออกมาอย่างรวดเร็ว,"เพียงแค่ภาพ,และการนับจำนวนเท่านั้น."

"ข้าต้องการให้กงจูและซือจื่อได้ร่วมสนุก."อ๋องจวีลู่ที่กล่าวขึ้นอีกครั้ง.

อ๋องจวีลู่นับว่าเป็นจิ้งจอกเฒ่าที่ร้ายกาจทีเดียว,แม้ว่าจะไม่สามารถเทียบกับอี้เหยี่ยนได้,ทว่าท่าทางและคำพูดของเขานั้นยากที่จะมีคนไล่ทัน,เขาต้องการแค่เพียงให้กงจูและซือจื่อเล่นสนุกอย่างงั้นรึ? จะเป็นไปได้อย่างไร? ที่คนทั้งสองที่จะสามารถตอบจำนวนได้เท่านั้น? ด้วยสถานะที่แตกต่างกัน,มารยาทที่แสดงกับคนทั้งสองต่างกัน,เขาที่มีคำตอบอยู่ในมือ,ไม่ว่าทั้งสองจะตอบสิ่งใด,คำตอบนั้นก็ขึ้นอยู่กับเขา,ปัญหาที่ยากเช่นนี้,จะสามารถหาคำตอบได้ตรงกันนับว่ายาก? เขาสามารถที่จะเลือกให้ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งถูกหรือใกล้เคียงสุดได้,เพื่อที่จะสร้างความไม่พึงพอใจกับอีกฝ่ายได้.

"หานจิวคงจะต้องยอมรับความพ่ายแพ้ต่อกงจูแล้ว."ซือจื่อหานจิวดูเหมือนว่าจะรับรู้เจตนาของอ๋องจวีลูดี,จึงได้กล่าวออกมาเช่นนั้น.

"ขอบคุณ."กงจูเฉียนโหยวที่พยักหน้า.

กงจูเฉียนโหยวที่มองภาพอีกครั้งและกล่าวว่า,"มันมี 667,969,525 เม็ดทราย."

เมื่อเสียงสัญญาณ,ทุกๆคนที่ชำเลืองมองไป,ก่อนที่จะเห็นภาพดังกล่าวนั้นมีบางอย่างที่ลอยขึ้นจากทะเลทราย,ดวงตะวันที่ฉายแสงจ้า,อาบไปทั่วทะเลทราย,ทรายทั้งหมดส่องแสง,แสงสีทองที่สว่างจ้า,ปลดปล่อยแสงสีทองสว่างไปทั่วตำหนักทำให้อากาศบิดเบี้ยว,แผ่พลังที่ลึกลับออกมา.

ขณะที่ทุกคนกำลังรู้สึกประหลาดนั้น,บนภาพวาดตรงกลาง,ราวกับว่าเริ่มมีบางอย่างเปิดออกมา.

"คลืนๆๆ คลืนๆๆ.."

ทรายทุกเม็ดที่ส่องแสงสีทอง,คาดไม่ถึงเลยว่ามันจะค่อยๆล่วงหล่นไหลออกมาจากภาพ,หยดลงบนพื้นของห้องโถง.

ภาพทราย? ทุกคนทีมองด้วยความสนใจ,แม้ว่าจะรู้ว่ามันค่อนข้างน่าประหลาดใจ,ทว่าทุกคนก็ย่อมรับรู้ได้ว่าก่อนหน้านี้,อ๋องจวีลู่ได้กล่าวมาก่อนแล้วว่าภาพนี้มีอายุกว่าร้อยปี,การที่เห็นทรายไหลออกมาเช่นนี้,ไม่ใช่ว่าเป็นเรื่องที่แปลกประหลาดอย่างงั้นรึ?

ทรายมากมายที่กองอยู่บนบนพื้น,ส่องประกายแสงสีทองวับวาว,ทุกคนที่เฝ้ามองอย่างอดทน,ทรายสีทองที่ล่วงหล่นลงบนพื้นจนหมด,จากนั้นมันก็รวมตัวกันขึ้นในทันที,เหมือนกับอสรพิษยักษ์ที่เลื้อยตรงไปอยู่ข้างๆซือจื่อหานจิว,ทุกคนที่เต็มไปด้วยความอัศจรรย์ใจ,จากนั้นมันก็เลื้อยไปอยู่ด้านหน้ากงจูเฉียนโหยว,และเรื่อยไปอยู่ด้านหน้าของจงซาน.

จงซานที่หรี่ตาจ้องมอง,แม้ว่าจะเห็นว่าทรายนี้ดูลึกลับ,ทว่าก็รู้สึกเหมือนว่ามันกำลังแสดงท่าทางหยอกล้อกับทุกคนมากกว่า,ราวกับสมบัติวิเศษ,ที่มีความคิดเป็นของตัวเอง.

ดูเหมือนกับสิ่งมีชีวิตที่มีเชาว์ปัญญา,แม้แต่ซือจื่อหานจิวยังเผยสีหน้าตื่นเต้นเป็นอย่างมาก,ทว่ากงจูเฉียนโหยวที่กำลังตั้งตารอ.

"วูซซซซ..."

ทรายที่เลื้อยไปทั่วทั้งห้องโถง,จากนั้นก็มีหยุดอยู่ที่ตรงกลางห้อง,สายตาของทุกคนที่เผยท่าทางอัศจรรย์ใจ,ก่อนที่มันจะหมุนวนรอบตัวเองราวกับพายุทอนาโด,มีขนาดใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ,ก่อนที่จะรวมตัวเผยรูปร่างกลายเป็นคนๆหนึ่ง.

ประกายแสงสีทองที่อาบไปทั่วห้อง,ก่อนที่จะจะเริ่มเปลี่ยนแปลงอีกครั้ง,เริ่มเห็นรูปร่างของคนผู้หนึ่งมากยิ่งขึ้น.

ทรายสีทองในเวลานี้ท้ายที่สุดก็กลายเป็นหญิงสาวผู้หนึ่งที่ดูงดงามเป็นอย่างมาก.

สาวงามที่ค่อยๆยืนมือออกมาด้านหน้า,แขนที่เรียวขาวเรียบเนียนราวกับหยกสลัก,บนศีรษะมีเครื่องประดับสีทองที่หรูหรา,ดวงตาปิดแน่น,เหนือขอบตาที่สีดำเข้มขนตายาว.

แม้แต่เหล่าขุนนาง,ก็มองออกไป,หลายๆคนที่นิ่งงัน,กลืนน้ำลายลงคอเสียงดัง.

จงซานที่ขมวดคิ้วแน่น,หัวใจบีบรัด,ไม่ใช่! ดูเหมือนว่าแม้แต่ซือจื่อหานจิวยังมองเป็นตาเดียว,กงจูเฉียนโหยวเองก็ราวกับว่ากำลังคิดอะไรบางอย่าง,อ๋องจวีลู,ที่เผยยิ้มให้กับกงจูเฉียนโหยวและซือจื่อหานจิว,บางครั้งบางครายังจ้องไปที่นางด้วยท่าทางคาดหวัง.

จงซานที่หรี่ตาจ้องมอง,ไม่ใช่,แสงสีทองที่หญิงสาวคนนี้เปล่งออกมา,แม้ว่านางจะงดงาม,ทว่าหน้าตายังเทียบกับกงจูเฉียนโหยวไม่ได้,ดูเหมือนว่าจะเกี่ยวกับสภาพจิตใจ,กำลังถูกป่วนจิตอยู่อย่างงั้นรึ? ใครก็ตามที่จ้องมองนาง,จะถูกขับด้วยแรงปรารถนา? คนผู้นี้เป็นใคร?

กงจูเฉียนโหยวที่ดูจมจ่อมคราแรก,ทว่านางก็ดึงสติกลับมา,ขมวดคิ้ว,จ้องมองไปยังคนอื่นๆ,หัวใจที่บีบรัดทีเดียว.

ซือจื่อหานจิวที่อยู่ฝังตรงข้าม,เวลานี้ยังเริ่มหลั่งเหงื่อออกมา,ดวงตาที่เต็มไปด้วยความสนใจ.

"ลืมบอกไปก่อนหน้านี้,ภาพดังกล่าวมีชื่อว่า,"ทรายสีทองแห่งความปรารถนา" ตัวอักษรสีทองนั้นนับว่าเป็นสมบัติล้ำค่าที่มีหญิงสาวที่เลือกเจ้านายด้วยตัวเอง."อ๋องจวีลู่ที่ตอบทุกคนในทันที.

กับคำพูดของอ๋องจวีลู่นั้น,เหมือนกับว่านางกลายเป็นสาวงามที่ได้สร้างความสนใจให้กับทุกคนในห้องโถง,จนทำให้เขารู้สึกเสียดายอยู่ในแววตา,ดวงตาของเขาที่ราวกับว่ามีอะไรบางอย่างที่ลึกล้ำอยู่ในนั้น,ความรู้สึกวาบหวาม,ความใคร่ของบุรุษที่มีอยู่ในใจชายทุกคน.

แขนทั้งสองข้างของนางที่ยืนออกมา,ก่อนที่จะค่อยๆก้าวออกมาช้าๆ,ด้วยประกายแสงสีทองอาบไปทั่วร่าง,ทำให้นางดูโดดเด่น,เป็นสาวงามที่โดดเด่นไร้ที่เปรียบ.

ทรายสีทองที่หมุนวนรอบๆร่างกายนางไม่หยุด,ร่ายรำไปมาส่องประกายแสงสีทองระยิบระยับ.

ทุกก้าวที่นางก้าวไป,ทรายสีทองที่จะกระเซ็นเป็นจังหวะต่อหน้าทุกคน,ราวกับกำลังร่ายรำสร้างประกายแสงสีทองเพื่อสนับสนุนความงามของนาง.

ทรายที่ระเอียดมากมายมันได้ปรากฏขึ้นมาอีกครั้ง,มันที่เคลื่อนย้ายไปกับนาง,ราวกับว่าเป็นส่วนหนึ่งที่คอยสนับสนุนนาง.

"วิ้ง!" "ฟิ้ว!" "วิ้ง!" "ฟิ้ว!" "วิ้ง!" "ฟิ้ว!"


ทรายที่ประณีตสัมผัสเสียดสีไปกับพื้นสร้างเสียงนุ่มเนียนไพเราะเสนาะหู.

หญิงสาวที่สมส่วนสมบูรณ์แบบ,กำลังร่ายรำไปกับทราย,ทุกๆคนที่จับจ้องมองนางด้วยแรงปราณนา,ทุกคนในห้องโถง,จ้องมองเป็นสายตาเดียวกันกับการร่ายรำพร้อมกับทรายสีทองของนาง,สาวสวยที่กำลังเคลื่อนไหวเลื่อนไหลไปพร้อมกับทะเลทรายสีทอง.

สายตาของทุกคนเวลานี้ราวกับร้อนรุ่ม,เต็มเปี่ยมไปด้วยแรงปราณนา,นับว่าเสน่ห์ของนางแทบจะสามารถสะกดทุกคนเอาไว้ได้.

ใบหน้าของจงซานที่เย็นเยือบ,บนหน้าผากบัวหงหลวนที่ส่องประกายแสง,นี่คือวิชาสะกดจิตอย่างงั้นรึ? เป็นวิชาป่วนจิตสร้างภาพลวงตา? เขาที่เพ่งพิศออกไป,กงจูเฉียนโหยวที่ดูเงียบขรึม,ก่อนที่จะเปลี่ยนเป็นถอนหายใจ,อาต้าและอาเอ้อ,จ้องมองตาไม่กระพริบ,แม้ว่าจะไม่ถูกลวงด้วยภาพลวงตา,ทว่าสายตาก็ถูกดึงดูดไปเช่นกัน.

ส่วนซือจื่อหานจิวที่หรี่ตาจ้องมองสะบัดพัดไปมา,แม้ว่าเขาจะไม่เปี่ยมไปด้วยความปรารถนาเหมือนคนอื่นๆ,ทว่าก็ยังมีแววตาความใคร่เกิดขึ้นอยู่เหมือนกัน.

ส่วนอ๋องจวีลู่เวลานี้,เต็มไปด้วยความปรารถนาในตัวนางอย่างถึงที่สุด,แม้ว่าจะไม่แสดงอะไรออกมา,แต่ก็เต็มไปด้วยความคาดหวัง.

"ฟรึบ!"

ขณะที่นางทำให้ทุกคนเต็มเปี่ยมไปด้วยความปรารถนาอยู่นั้น,ทรายสีทองก็พุ่งไปยังตรงกลาง,ก่อนที่จะหายไปอย่างรวดเร็ว,กลับเข้าไปอยู่บนภาพที่แขวนไว้บนหิ้ง,หญิงสาวที่ร่ายรำเสร็จ,ก็มาปรากฏอยู่ด้านหน้าอ๋องจวีลู่,"เนี่ยนโหยวโหยว,คารวะอ๋องจวีลู่."


เสียงของนาง,ที่ราวกับจะหลอมใจชาย,เป็นเสียงกระเส่า,ที่ยั่วยวนอย่างที่สุด.



ที่มาจากhttps://lnmtl.com/novel/immortality

#นิยาย เรื่องอมตะ #Immortality#นิยายแปลไทย
Author(s)


สนใจสนับสนุนพวกเรา,เข้าร่วมกลุ่ม VIP ====> Click

***เว็ปฟรีอัพ สองวันหนึ่งตอน
***กลุ่มลับ อัพ 2-3 ตอนต่อวัน.

 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น