วันเสาร์ที่ 2 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2562

Immortality Chapter 204 Water and fire transformation

Immortality Chapter 204 Water and fire transformation

 นิยาย เรื่อง อมตะ ตอนที่ 204 น้ำที่ลุกไหม้.




เนี่ยนโหยวโหยว? ชุดของนางดูเรียบร้อยสง่า,แต่กับทำให้เกิดความต้องการอย่างบ้าคลั่ง,หากว่าไม่เห็นกับตาแล้ว,แทบจะไม่เชื่อเลยว่าชุดที่นางสวมใส่นั้นจะทำให้พวกเขาเกิดความต้องการเช่นนี้.



"โหยวโหยว,ที่นี่มีแขกพิเศษที่ข้าเชิญมา,ก่อนหน้านี้ข้าเคยเอ่ยถึง,เจ้าลองดูว่า,เจ้าจะสามารถบอกได้หรือไม่."อ๋องจวีลู่เอ่ย.

เนี่ยนโหยวโหยวพยักหน้า,แสดงท่าทางเคารพนอบน้อมถ่อมตน,นางที่ได้รับการปฏิบัติอย่างดี,แน่นอน,หากว่านางเป็นสมบัติจิตวิญญาณที่หายาก,ตามที่อ๋องจวีลู่ได้กล่าวล่ะก็,นางก็ไม่มีเหตุผลที่ต้องแสดงท่าทางเคารพมากมายขนาดนั้น.
เนียนโหยวโหยวที่ก้าวออกไป,ที่ด้านซ้าย,จ้องมองไปยังซือจื่อหานจิวเผยยิ้มออกมาเล็กน้อยแล้วกล่าวว่า"นี่คือซือจื่อหานจิวของราชวงศ์ราชันย์ต้ากวง,สมคำเล่าลือ,ส่วนอีกสองคนที่อยู่ข้างๆ,คงจะเป็นเซียนเซิงโจวและเซียนเซิงโหยว,ใช่หรือไม่?"

ระหว่างพูด,สายตาของเนี่ยนโหยวโหยวนั้นหรี่เล็กเป็นรูปจันทร์เสียว,ราวกับจะดูดวิญญาณคนมอง,เซียนเซิงเจาและเซียนเซิงโหยวที่พยักหน้ารับ,ส่วนซือจื่อหานจิวที่เผยยิ้มออกมาอย่างนุ่มนวล.

เห็นท่าทางของซือจื่อหานจิวแล้ว,เนียนโหยวโหยวก็เผยยิ้มที่งดงามให้,สายตาที่ลวงหลอก,ราวกับจะตรึงซือจื่อหานจิวเอาไว้,ด้วยวิชาคาถาป่วนจิต,ไม่มีใครรอดพ้นจากเสน่ห์ของนางไปได้.

นางที่เดินก้าวต่อมายังฝั่งของกงจูเฉียนโหยวและจงซานและแสดงท่าทางสนใจ.

"โหยวโหยวคารวะกงจูที่ทรงภูมิปัญญาของต้าโหลว,องค์รักษ์คู่แฝดผู้กล้าหาญ,อาต้า,อาเอ้อ."เนี่ยนโหยวโหยวกล่าวออกมาด้วยเสียงที่แผ่วเบา.

อาต้าและอาเอ้อพยักหน้ารับ,ทว่ากงจูเฉียนโหยวที่เผยยิ้มออกมาเล็กน้อย.

"ทุกๆคนต่างก็เป็นคนที่โหยวโหยวรู้จัก,ส่วนอีกคนที่อ๋องจวีลูกล่าว,คงจะเป็นจงซานสำนักไคหยาง,ผู้ได้รับการรับรองจากสำนักไคหยางอย่างงั้นรึ?"เนี่ยนโหยวโหยวที่แสดงท่าทางสนใจจงซานขึ้นมาในทันที,นางชำเลืองมองไปยังจงซานอีกครั้ง.

ได้ยินคำพูดของเนี่ยนโหยวโหยวแล้ว,จงซานที่จ้องมองเขม็ง,ตะเกียบในมือแทบหักออกเป็นชิ้นๆ.

"แม่นางเนี่ยนโหยวโหยวความจำดีเลิศ."จงซานที่พยักหน้าให้.

จงซานที่รับรู้ดีว่าแววตาของนางนั้นส่องประกาย,ประกายแสงสีทองนั้นไม่ได้สร้างมนสะกดต่อจงซานแม้แต่น้อย.

จงซานที่รู้สึกสับสนขึ้นมาในใจทันที,กับตัวตนของเนี่ยนโหยวโหยวผู้นี้.

จงซานสำนักไคหยาง? นางรู้จักคนของสำนักไคหยางอย่างงั้นรึ? ได้ยินจากอ๋องจวีลูเหรอ? ชัดเจนว่าเป็นไปไม่ได้,ก่อนหน้านี้เขาที่เห็นท่าทางใบหน้าของอ๋องจวีลู่ก่อนแล้ว,เขาไม่มีทางรู้พื้นเพของเขาแน่นอน,ก่อนหน้านี้เขาที่ออกมาจากเกาะหมาป่าสวรรค์,พร้อมกับอาวุโสจื่อซวิน,ซึ่งได้พบเพียงแค่แม่ทัพเถี่ยเสวี๋ยของราชวงศ์ราชันย์ต้ายวีเท่านั้น,เป็นไปไม่ได้ที่จะมีใครสนใจตัวตนที่เล็กน้อยเช่นเขา,ไม่มีทางที่คนเช่นนั้นจะใส่ใจ,นอกจากนี้เขาก็ยังไม่เคยแจ้งชื่อตัวเองกับแม่ทัพเถี่ยเสวี๋ยด้วยซ้ำ.

นั่นหมายความว่าอย่างไร?สำนักไคหยางเหรอ? นางรู้จักสำนักไคหยางมาก่อนเหรอ? นางกำลังสืบเรื่องของเขาอย่างงั้นรึ? เป็นไปไม่ได้,นางกล่าวว่าจงซานสำนักไคหยาง,และยังมีเรื่องอาวุโสศาลาเจ็ดดาวรับรอง? อธิบายว่านางนั้นรับรู้และคาดเดา,ทว่าไม่ยืนยันชื่อของเขาอย่างสมบูรณ์,ดังนั้นจึงได้ทอดสอบยืนยัน.

นางกำลังสืบเรื่อของเขาอยู่รึ? เขาไม่สามารถบอกได้เลยว่านางเป็นใคร,นางมีบุณคุณความแค้นอย่างไรยังไม่สามารถบอกได้ด้วย.

จงซานที่เต็มไปด้วยความครุ่นคิด,จงซานที่แสดงท่าทางสงสัยเป็นอย่างมาก,เขาไม่รู้จักเนี่ยนโหยวโหยว,แล้วนางจะรู้จักเขาได้อย่างไร? ในเกาะหมาป่าสวรรค์,ราชวงศ์ต้าเจิ้งเอง,ก็มีอำนาจเล็กน้อย,นางรู้จักเขาอย่างงั้นรึ? คิดว่าไม่ใช่ที่นั่น,จงซานที่คิดมากมายหลั่งเหงื่อที่เย็นเยือบออกมา,จ้องมองไปยังกงจูเฉียนโหยวเป็นนัยน์.

ทว่ากงจูเฉียนโหยวก็แสดงท่าทางสงสัยด้วยเช่นกัน.

"ทุกๆท่าน,เนียนโหยวโหยวนั้นเป็นจิตวิญญาณทรายทองแห่งปรารถนา,เป็นผู้เชี่ยวชาญที่ถูกสร้างและถูกกักขังเอาไว้ในภาพแห่งนี้,และจะสามารถกลายร่างเป็นเจินเหรินได้ในอนาคต,เสียดายที่นางยังอยู่แค่ระดับแรกเท่านั้น,อีกขั้นหนึ่งก็จะกลายเป็นเจ้นเหรินแล้ว,หากว่านางได้รับการยอมรับ,ก็จะสมบูรณ์ในขั้นสุดท้าย "อ๋องจวีลู่กล่าว.
(真人 เจินเหริน ในภาษาจีน หมายถึงผู้ที่เป็นเซียนหรืออริยบุคคลของเต๋า)

"โฮ้ว? จิตวิญญาณเจิ้นเหริน?"ซือจื่อที่กล่าวออกมาด้วยท่าทางประหลาดใจ.

ใบหน้าของซือจื่อหานจิวที่จับจ้องไม่วางตา,อ๋องจวีลูที่เผยยิ้มออกมาอย่างนุ่มนวล"ใช่แล้ว,จิตวิญญาณเจิ้นเหริน,นอกจากนี้ยังงดงามหาใดเปรียบ,เป็นผลงานของสวรรค์,ครั้งหนึ่งเนียนโหยวโหยวผู้นี้,เคยเป็นร่างสถิตเทวะมาก่อน."

"ร่างสถิตอย่างงั้นรึ? หนึ่งในเก้าร่างสถิตระดับสูง?"กงจูเฉียนโหยวที่หรี่ตาจ้องมอง.

"ใช่แล้ว."อ๋องจวีลู่พยักหน้า,ดวงตาของเขาเองก็แสดงท่าทางคาดหวังด้วยเช่นกัน.

"ยังเหลือขั้นตอนอะไรถึงจะเสร็จสมบูรณ์อย่างงั้นรึ."ซือจื่อหานจิวที่กล่าวออกมาทันที,ดูเหมือนก่อนหน้านี้เขาจะได้ยินคำว่า,ร่างสถิต,ใบหน้าของเขาก็เปลี่ยนไปในทันที.

กงจูเฉียนโหยวที่จ้องมองไปยังอ๋องจวีลู,นางไม่รู้ว่าอ๋องจวีลูเร่งรีบกล่าวออกมาเกี่ยวกับเรื่องเรื่องสถิตเทวะหรือไม่?

ร่างสถิต?อะไรคือสิ่งที่เรียกว่าร่างสถิต? จงซานเองก็เคยอ่านข้อมูลมาอยู่บ้างเหมือนกัน,ร่างของสตรีนั้น,จะมีร่างสถิตทั้งเก้าที่ยอดเยี่ยมที่สุด,เป็นสิ่งที่ราวกับสวรรค์ได้ประทานมา,เป็นลักษณะทางร่างกายที่พิเศษกว่าคนอื่นๆ,ร่างสถิตทั้งเก้านั้นไม่เพียงแต่ทำให้นางมีคุณสมบัติพิเศษ,ยังเหมาะกับการรองรับธาตุของพลังฝึกตนที่เหนือล้ำยิ่งกว่าคนอื่นทำให้พัฒนาได้เร็วกว่าคนอื่นๆ,สิ่งสำคัญที่สุดยังเป็นที่ปรารถนาต่อเหล่าบุรุษที่เรียกว่า คู่บำเพ็ญ เนื่องด้วยร่างสถิตที่ยอดเยี่ยม,หากได้สตรีเป็นคู่ฝึกฝนแล้วล่ะก็,ด้วยร่างสถิตที่พิเศษของนาง,เมื่อใช้ทักษากายคู่,จะทำให้พัฒนาพลังฝึกตนเพิ่มขึ้นอีกหลายเท่า,ช่วยพัฒนาร่างกายของคู่บำเพ็ญ,คู่บำเพ็ญ,แน่นอนว่าไม่จำเป็นต้องเป็นชายหญิงเสมอไปก็ได้,อาจจะเป็นหญิงหญิงก็ได้ หากได้ฝึกฝนคู่กับกับร่างสถิตเหล่านั้น,จะทำให้พลังฝึกตนก้าวหน้าเพิ่มขึ้นอีกหลายเท่า,นี่คือความลึกล้ำของร่างสถิตพิเศษทั้งเก้า.

อย่างไรก็ตาม,คนที่มีร่างสถิตนั้น,มีอยู่น้อยมากๆ,แม้แต่ราชวงศ์สวรรค์ต้าโหลว,ยังแทบจะหาไม่ได้ด้วยซ้ำ.

"ขั้นสุดท้าย,ยังไม่มีใครที่ทำสำเร็จจวบจนถึงตอนนี้,ที่จะได้เป็นเจ้าของเนี่ยนโหยวโหยว."อ๋องจวีลูที่เอ่ยถึงเนี่ยนโหยวโหยว.

ในเวลานี้,เนี่ยนโหยวโหยวที่นำม้วนภาพลงมา,ก่อนที่จะสะบัดเบาๆ,ม้วนภาพก่อนที่จะเปลี่ยนเป็นว่างเปล่า,และกลายเป็นบ่อน้ำขนาดใหญ่ขึ้นมาแทน,เป็นบ่อน้ำที่ใสเป็นอย่างมาก.

บ่อน้ำที่วางอยู่กลางห้อง,ดูเหมือนกับแท่นบูชามากกว่า,เป็นภาพของบ่อน้ำ,แต่มีลักษณะที่เหมือนกับบ่อน้ำจริงๆ,และยังมีคลื่นน้ำไหลกระทบขอบเป็นระยะๆ.

"โหยวโหยวนั้นสามารถออกมาจากภาพวาดได้ในทุกๆวันเพียงวันล่ะสองชั่วโมงเท่านั้น,สุดท้ายนางก็ต้องเข้าไปอยู่ด้านในถูกคุมขังเอาไว้ในภาพวาดดังกล่าว,เว้นเสียแต่มีคนสามารถทำลายกฎเกณฑ์ของภาพวาดนี้ได้เท่านั้น,โหยวโหยวจึงจะสามารถออกจากภาพวาดนี้ได้ตลอดไป."โหยวโหยวที่แสดงท่าทางขมขื่นออกมา.

รอยยิ้มของนางที่เผยสีหน้าท่าทางน่าสงสาร,จนทำให้คนทั้งห้อง,ต้องการที่จะเข้าไปปกป้องเต็มเปี่ยมไปด้วยความเศร้ากับนาง.

"กฏที่ทรงพลังไม่สามารถทำลายได้,แล้วมีกฏเกณฑ์ที่พิเศษอย่างไร?"ซือจื่อหานจิวกล่าว.

"อืม,ภาพที่วางอยู่บนพื้นห้องนั้น,มีบ่อๆหนึ่ง,ตราบเท่าที่สามารถเผาน้ำที่อยู่ในบ่อนั้นได้หมด,โหยวโหยวก็สามารถออกมาได้,บ่อน้ำที่อยู่ในภาพน้ำคือบ่อน้ำจริงๆ,เพียงแค่เผามันได้,โหยวโหยวยินดีที่จะติดตามคนผู้นั้นตลอดไป,จะให้เป็นช้างเป็นวัวเป็นควายก็ยังได้."เนี่ยนโหยวโหยวกล่าว.

เผาน้ำในบ่อน้ำอย่างงั้นรึ? ก่อนหน้านี้ทุกคนต่างเดือดพล่าน,คาดหวังอยู่ในใจ,ก่อนที่จะชะงักอยู่ข้างในเช่นกัน,เผาน้ำในภาพนั้นอย่างงั้นรึ? น้ำสามารถไหม้ได้ด้วยรึ? ไม่ต้องเอ่ยเลยว่ามันเป็นเรื่องที่ลึกลับมาก?

น้ำและไฟ,ต่างก็เป็นตัวตนที่ขัดแย้งกัน,ต้องการให้ใช้ไฟเผาน้ำ?เป็นไปไม่ได้?

"อ๋องจวีลู่,ที่เนี่ยนโหยวโหยวกล่าวมาเป็นเรื่องจริงอย่างงั้นรึ?"กงจูเฉียนโหยวที่ขมวดคิ้วไปมา.

"ใช่แล้ว,นี่คือบุคคลที่โดดเด่น,หากใครสามารถเผาไหม้น้ำในบ่อนั่นได้,ก็สามารถนำตัวเนี่ยนโหยวๆไปได้,ตัวข้าจะไม่ห้ามแม้แต่น้อย."ใบหน้าของอ๋องจวีลู่กล่าวออกมาด้วยความมั่นใจ.

เมื่อได้รับการยืนยันจากอ๋องจวีลู่แล้ว,ทุกคนต่างก็มองไปยังเนี่ยนโหยวโหยว.

"แม่นางเนี่ยนโหยวโหยว,น้ำที่อยู่ในบ่อนั้นเป็นน้ำอะไร?"ซือจื่อที่จ้องมองไปยังบ่อน้ำด้านหน้า.

"นี่คือน้ำที่บริสุทธิ์ที่สุด,ไร้ซึ่งสิ่งเจือปน,บริสุทธิ์ยิ่งกว่าน้ำในแม่น้ำอีก."ใบหน้าของเนี่ยนโหยวโหยวที่ราวกับมองไปยังซือจื่อหานจิวด้วยความคาดหวังว่าเขาจะช่วยนางออกจากที่คุมขังได้.

"ให้พวกเราได้ปรึกษากันก่อน."ซือจื่อหานจิวกล่าว.

"ขอบคุณซือจื่อ."เนี่ยนโหยวโหยวที่ชายตามองอย่างอ่อนโยน.

ซือจื่อที่นำคนทั้งสองออกไปมุ่มหนึ่ง,หารือกันสามคนเป็นการส่วนตัว.

ฝั่งกงจู่เฉียนโหยว,นางที่หันหน้าไปจ้องมองจงซานเช่นกัน.

"เซียนเซิง,น้ำได้รับความเย็นเปลี่ยนเป็นน้ำแข็ง,ได้รับความร้อนก็กลายเป็นน้ำเช่นเดิม,และได้รับความร้อนอีกครั้งก็จะกลายเป็นหมอก,ไม่ว่าอย่างไรก็ยังเป็นน้ำอยู่ดี,ไม่ว่าจะเปลี่ยนสิ่งใด,ก็ไม่มีทางที่จะเปลี่ยนเป็นน้ำมันได้และถูกเผาไหม้ได้,น้ำและไฟ ต่างก็เป็นธาตุที่ต่อต้านกันและกัน,ธาตุไฟ,และน้ำไม่สามารถเข้ากันได้,ไม่ว่าจะเป็นเพลิงที่พิเศษหรือน้ำแบบใด,ไม่เช่นนั้นแล้วคงจะเป็นเรื่องที่ฝืนสวรรค์,เซียนเซิงคิดว่าข้ากล่าวถูกต้องใหม?"กงจูเฉียนโหยวที่จ้องมองไปยังจงซาน,เห็นได้ชัดเจนว่ามันเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้,หากว่าสามารถเผาไหม้ได้,ไม่ใช่ว่ามันผิดธรรมชาติหรอกรึ,จะทำลายครรลองสวรรค์ได้อย่างไร.

เห็นท่าทางของกงจูเฉียนโหยวแล้ว,จงซานแสดงท่าทางประหลาดเล็กน้อย,ใบหน้าของเขาราวกับว่าสามารถทำได้.

เห็นใบหน้าของจงซานแล้ว,กงจูเฉียนโหยวที่นิ่งไปชั่วครู่,จากนั้นก็ชำเลืองตาโต,กล่าวต่อจงซานว่า,"เซียนเซิง,เรื่องนี้เป็นไปได้..."

จงซานพยักหน้า,แววตาของเขาไม่ได้แสดงท่าทางประหลาดใจอะไรนัก,ราวกับว่ามันเป็นเรื่องทั่วๆไป,แน่นอนว่าในสังคมบางแห่ง,เรื่องเช่นนี้นับว่าเป็นเรื่องที่เป็นไปได้ยาก,ยิ่งมีพลังฝึกตนสูง ก็ยิ่งทำให้เพิกเฉยต่อความรู้พื้นฐาน.

เห็นจงซานพยักหน้าให้,กงจูเฉียนโหยวไม่อยากเชื่อแม้แต่น้อย,จงซานสามารถที่จะเผาน้ำได้อย่างงั้นรึ? จะทำให้น้ำติดไฟได้อย่างไร? เป็นไปไม่ได้? จงซานหลายปีก่อนที่มีระดับเซียนเทียน,ด้วยพรสวรรค์ทางร่างกายของเขาที่ควรจะมีอายุเพียงแค่สองร้อยปี,แต่เขากลับสามารถเลื่อนระดับก้าวข้ามเรื่องเหล่านั้นได้,หรือว่าเขาสามารถทำได้จริงๆรึ?

เห็นท่าทางของจงซาน,กงจูเฉียนโหยวทีกระซิบเบาๆ,"เช่นนั้นหญิงสาวคนนี้ต้องเป็นของเซียนเซิงแล้ว."ในเวลาเดียวกันจงซานที่จ้องมองอย่างเข้มขรึมไปยังนาง.

เห็นแววตาของกงจูเฉียนโหยวแล้ว,จงซานหลับตาครึ่งหนึ่งเปิดตาครึ่งหนึ่ง,แน่นอนว่าเขารู้ว่ากงจูเฉียนโหยวหมายถึงสิ่งใด.

"แม่นางเนียนโหยวโหยว,ข้ามีวิธี."ไม่ไกลออกไปนั้นซือจื่อหานจิวที่เอ่ยปากออกมาในทันที.

"อย่างไรรึ?"ภายในห้องโถง,ทุกๆคนต่างก็จับจ้องมองไปยังซือจื่อหานจิว,เขามีวิธีอย่างงั้นรึ? จงซานเองก็รู้สึกประหลาดใจจ้องมองไปยังซือจื่อหานจิวเช่นกัน,เขาที่ปรึกษาพูดคุยกับคนของเขาลับๆมีวิธีอย่างงั้นรึ?

สุราในมือของอ๋องจวีลูถึงกับกระฉอกไปเลยทีเดียว,แววตาของเขาที่แสดงท่าทางประหลาดใจ,ขมวดคิ้วไปมา,เขาไม่คิดว่าจะยังมีวิธีอยู่อีก.

"โฮว?จริงๆรึ?"ใบหน้าของเนียนโหยวโหยวที่แสดงท่าทางประหลาดใจ.

"อืมใช่แล้ว,ตราบเท่าที่ข้าใส่บางอย่างลงไปในบ่อ,น้ำในบ่อย่อมสามารถไหม้ได้."ซือจื่อกล่าวออกมาด้วยความมั่นใจ.

"อะไร?"เนียนโหยวโหยวที่ชำเลืองมองตาโตไปยังซือจื่อหานจิว,แสดงท่าทางคาดหวัง.

"น้ำมันไง,ตราบเท่าที่ข้าใส่น้ำมันลงไปด้านใน,ย่อมทำให้มันไหม้ไฟช้าๆ,เมื่อเปลวเพลิงไหม้ไปทุกทิศ,ภาพนี้ก็จะถูกทำลายอย่างรวดเร็ว."ซือจื่อที่กล่าวอย่างมั่นใจ,ผุ้ช่วยของเขาเองก็รู้สึกพึงพอใจ,กับวิธีที่พวกเขาคิดออกมาเช่นกัน.

"ขอถามซือจื่อ,สิ่งที่ติดไฟนั้นคือน้ำมันหรือว่าน้ำกัน? น้ำที่ท่านเห็นนั้นอยู่ด้านใน."เนียนโหยวโหยวที่ส่ายหน้าไปมาเห็นได้อย่างชัดเจนว่าวิธีนี้นางก็ได้คิดมาแล้ว.


เมื่อเติมน้ำมันลงในน้ำ,สิ่งที่ไหม้นั้น,เป็นเพียงน้ำมัน,น้ำเพียงแค่ระเหยไปด้วยความร้อนเท่านั้น,จะกล่าวได้ว่าน้ำติดไฟได้อย่างไร?เงื่อนไขที่นางต้องการคือ,จุดน้ำให้ลุกไหม้ด้วยเปลวเพลิง,ไม่ใช่ให้มันกลายเป็นไอน้ำ.




ที่มาจากhttps://lnmtl.com/novel/immortality

#นิยาย เรื่องอมตะ #Immortality#นิยายแปลไทย
Author(s)


สนใจสนับสนุนพวกเรา,เข้าร่วมกลุ่ม VIP ====> Click

***เว็ปฟรีอัพ สองวันหนึ่งตอน
***กลุ่มลับ อัพ 2-3 ตอนต่อวัน.

 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น