วันเสาร์ที่ 2 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2562

Immortality Chapter 201 dragon liver phoenix heart

Immortality Chapter 201 dragon liver phoenix heart

นิยาย เรื่อง อมตะ ตอนที่ 201 ตับมังกร,หัวใจหงสา.



อี้เหยี่ยนที่บินไปไกลแล้ว,กงจูเฉียวโหยวที่จ้องมองอยู่เงียบๆ.

"เซียนเซิงทั้งสอง,เมื่อได้พบกับคนผู้นี้แล้ว,คิดว่าอี้เหยี่ยนเป็นอย่างไรบ้าง?"เฉียนโหยวที่จ้องมองไกลออกไป,สอบถามจงซานและสุ่ยจิงที่อยู่ด้านหลัง.

"ไม่มีน้ำรั่วแม้แต่หยดเดียว."เซียนเซิงสุ่ยจิงที่จ้องมองไกลออกไปขณะพูด.


"ถูกแล้ว."จงซานพยักหน้า.

"เป็นคนที่มีความสามารถท้าทายสวรรค์,ช่างน่าเศร้า,ด้วยความสามารถนั่นคงถูกสวรรค์อิจฉา,จึงทำให้ต้องป่วยหนัก,การป่วยของเขา,สวรรค์คงไม่ชื่นชอบราชวงศ์ต้ายวี."กงจูเฉียนโหยวที่กล่าวพลางถอนหายใจ.

"เฉียนโหยว,เจ้าบอกว่าที่เขาเจ็บป่วยหนัก?เพราะสวรรค์อิจฉาอย่างงั้นรึ?"กู่หลินที่ขมวดคิ้วและสอบถามออกมา.

"ความสามารถของคน,ที่สวรรค์ต้องอิจฉา,มีอะไรแปลก?"กงจูเฉียนโหยวที่ส่ายหน้าไปมา.
 ....
ห้าวันหลังจากนั้น,เมืองเทียนกง,ตำหนักสวนตะวันตก.

กงจูเฉียนโหยวและกู่หลินที่นั่งอยู่บนบัลลังก์,สุ่ยจิง,จงซาน,อาต้าและอาเอ้อที่นั่งอยุ่ข้างๆถัดลงมา,กงจูเฉียนโหยวที่โบกมือ,ให้เหล่าทูตจากไป.

เหล่าคณะทูตที่แสดงความเคารพและจากไป.

กงจูที่จ้องมองไปบนโต๊ะ,ในเวลานี้มีบัตรเชิญที่มีอักษรสองตัวที่ส่องสว่าง,"เชื้อเชิญ"

"บัตรเชิญ? อ๋องจวีลู่,อี้เหยี่ยน,พวกเขาทั้งคู่ต่างก็มีข้อเสนออย่างงั้นรึ? พวกเขาถึงส่งบัตรเชิญเช่นนี้?"กู่หลินขมวดคิ้วไปมา.

"ข้อเสนอใดล้วนไม่ใช่สิ่งสำคัญ,สิ่งสำคัญคือพวกเขาได้เชิญพวกเรา,มีใครบ้างที่เขาเชิญ? พวกเขามีความตั้งใจอะไร?"กงจูเฉียนโหยวที่หรี่สายตาจ้องมอง.

"เชิญใคร?ยังมีคนอื่นนอกจากพวกเราอย่างงั้นรึ,พวกเขาเชิญคนอื่นด้วยรึ?"กู่หลินที่กล่าวออกมาด้วยท่าทางประหลาดใจ.

"กงจูเฉียนโหยวที่จ้องมองไปยังกู่หลินพลางถอนหายใจเล็กน้อย,"อืม,ในอนาคตข้างหน้าอาจจะพบกับปัญหาใหญ่ได้,อาจมีแผนการอะไรบางอย่างซ่อนอยู่เบื้องหลังการเชิญนี้."

"กงซือ,หลายวันมานี้,ข้ารู้ว่าพวกเขาจับตาพวกเราอยู่,ต้องมีอะไรอย่างแน่นอน."เซียนเซิงสุ่ยจิงที่กล่าวออกมา.

"เฮ้,พวกเขาแยกพวกเราออกเป็นสองกลุ่มอย่างงั้นรึ?"กู่หลินกล่าวออกมาทันที.

"อ๋องจวีลู่เชิญพวกเรา,ทว่าก็เชิญซือจื่อหานจิวของราชวงศ์ราชันย์ต้ากวงด้วย,ส่วนฝั่งของอี้เหยี่ยนนอกจากเชิญพวกเขา,ยังเชิญราชวงศ์ราชันย์อีกสามแห่งด้วย."เซียนเซิงสุ่จิงกล่าว.

"สามราชวงศ์ราชันย์อย่างงั้นรึ? มีถึงสามราชวงศ์ราชันย์เลยรึ? "กู่หลินสอบถาม.

"รอบๆราชวงศ์ศวรรค์ต้าโหลว,มีอยู่ด้วยกันสี่ราชวงศ์ราชันย์,หากไม่นับราชวงศ์ราชันย์ต้ายวี,อีกสามราชวงศ์ราชันย์ก็นับว่ามีขนาดใหญ่ไม่น้อย."เซียนเซิงส่วยจิงกล่าว.

"เป็นพวกเขาเองรึ?"กู่หลินที่ขมวดคิ้วไปมา.

"อืม,ราชวงศ์ของพวกเราได้ทำการเซ็นต์สัญญาพักรบกับราชวงศ์ราชันย์ต้ายวี,ส่วนอีกสามราชวงศ์ราชันย์ทั้งสามตอนนี้ก็ยังคงกระทบกระทั่งกันอยู่,การที่อี้เหยี่ยนจัดเตรียมงานเลี้ยงแล้วเชิญพวกเราไปร่วมกันกับพวกเขา,นับว่าเป็นเรื่องที่อ่อนไหวเป็นอย่างมาก."เซียนเซิงสุ่ยจิงที่ขมวดคิ้วคิดอยู่ชั่วขณะ.

"อี้เหยี่ยนนี่มันจิ้งจอกเฒ่าจริงๆ."กู่หลินที่ขมวดคิ้วและกล่าวออกมาทันที.

"งานเลี้ยงที่อี้เหยี่ยนจัดขึ้นมีอยู่ด้วยกันถึงห้ากลุ่มใหญ่,งานเลี้ยงเช่นนี้บางทีสำหรับห้าราชวงศ์ต้ายวีแล้ว,การจะควบคุมทุกคนได้ง่ายแค่นิดเดียว."เซียนเซิงสุ่ยจิงที่พยักหน้ารับ.

"แล้วฝั่งอ๋องจวีลู่ล่ะ? ดูเหมือนจะมีซือจื่อหานจิว,ไม่เห็นมีอะไรซับซ้อนเลย?"กู่หลินสอบถาม.

"ราชวงศ์ต้ายวี,ถูกคั่นกลางด้วยราชวงศ์ของพวกเราและราชวงศ์ราชันย์ต้ากวง,สามารถบอกได้ว่ายกเว้นราชวงศ์ราชันย์ต้ายวีที่คุกคามพวกเราแล้วยังมีราชวงศ์ต้าราชันย์ต้ากวงอีกแห่ง,หลายๆปีมีการต่อสู้ที่หนักหน่วงสร้างความเสียหายไม่น้อยไม่ได้ด้อยกว่าราชวงศ์ราชันย์ต้ายวีเลย,ทว่าราชวงศ์ต้ากวงและราชวงศ์ต้ายวีนั้นอยู่ค่อนข้างห่างกัน,ดังนั้นพวกเขาจึงไม่ได้มีความขัดแย้งกัน,ทว่าหากอ๋องจวีลู่ทำให้พวกเขามีความขัดแย้งกันกับต้ากวง,พวกเขาก็คงจะรู้สึกดี."เซียนเซิงสุ่ยจิงอธิบาย.

"สร้างความขัดแย้งระหว่างราชวงศ์ของพวกเราและราชวงศ์ต้ากวงอย่างงั้นรึ? ถึงแม้ว่าพวกเราจะมีความขัดแย้งกันแต่ก็ไม่เคยสร้างสงครามใหญ่กัน,อีกอย่างต้ากวงยังอยู่ห่างจากต้ายวีมาก,มันจะมีประโยชน์อะไรอย่างงั้นรึ?"กู่หลินที่กล่าวออกมาอย่างโง่งม.

จงซานที่ยังคงยกชาขึ้นจิบเบาๆ,เซียนเซิงสุ่ยจิงที่เงียบไปครู่หนึ่ง.

ที่จริง,เซียนเซิงสุ่ยจิงที่ได้ยินคำพูดของกู่หลินทำให้เขาตะลึงและเงียบไปในทันที.

"แน่นอนว่าเป็นประโยชน์,ศัตรูของศัตรูก็คือสหาย,ถึงแม้ว่าจะไม่ใช่สหาย,แต่หากว่าสร้างความได้เปรียบได้ล่ะก็ ย่อมมีความหมาย,หากราชวงศ์ของพวกเราและราชวงศ์ราชันย์ต้ากวงทำสงครามกัน,เมื่อนั้นต้ายวีอาจจะเปิดสงครามกับพวกเราไปพร้อมๆกันก็ได้,การต้องรับมือกับต้ากวงทำให้ลดทอนกำลังของพวกเราเป็นอย่างมาก,เช่นนั้นก็เป็นประโยชน์กับต้ายวียิ่งนัก."กงจูเฉียนโหยวที่อธิบาย.

"อืม."กู่หลินพยักหน้า.

จงซานที่จ้องมองไปยังกุ่หลินด้วยความสงสัย,เซียนเซิงสุ่ยจิงที่อธิบายให้เขาฟังเพราะว่าเขาทำงานให้กับอ๋องต้าเสวียน,ทว่ากงจูเฉียนโหยวทำไมต้องชี้แจงให้กับเขาด้วยล่ะ? จงซานที่ได้แต่ลอบมองนางปรกติแล้วนางที่เป็นคนอหังการ,กับคนซื่อบื้อเช่นนี้,นางควรที่จะตอกเขาหน้าหงายไปแล้ว,ถึงแม้ว่าเขาจะมีบรรดาศักดิ์ก็ตาม,การที่นางให้ความสำคัญกับกู่หลินเช่นนี้ มีความหมายแฝงหรือไม่?

จงซานที่ขมวดคิ้วแน่น,หากแต่ไม่ได้กล่าวสิ่งใด,ไม่มีความจำเป็นต้องถาม,อีกอย่างเขาก็ไม่มีสิทธิ์จะถามด้วย.

"พวกเราจะทำอย่างไร?มีบัตรเชิญสองใบพร้อมกัน,นอกจากนี้ยังวันเดียวกัน,จะแบ่งกันไปเช่นไร?"กู่หลินที่ขมวดคิ้วสอบถาม.

"ที่บัตรเชิญของอี้เหยี่ยนนั้น,มีการเอ่ยถึงเซียนเซิงสุ่ยจิง,นอกจากนี้ยังจำเป็นต้องรับมือกับราชวงศ์ใหญ่ทั้งห้าอีกด้วย,จำเป็นต้องเป็นหน้าที่เซียนเซิงสุ่ยจิงแล้ว,เจ้าและเซียนเซิงสุ่ยจิงไปตามคำเชิญของอี้เหยี่ยน,ข้าและเซี่ยนเซิง,จงไปตามคำเชิญของอ๋องจวีลู่เอง."กงจูเฉียนโหยวที่กล่าวออกมาอย่างมั่นคง.

"อืม!"กู่หลินที่พยักหน้า.
 ...
หลังจากนั้นสิบวัน,กงจูเฉียนโหยวที่นำจงซาน,อาต้าและอาเอ้อ,ภายใต้การนำของคนกลุ่มหนึ่งของราชวงศ์ต้ายวีที่ถูกส่งมา,ได้พาพวกเขาไปยังเกาะลอยฟ้าแห่งหนึ่งซึ่งเป็นพื้นที่หวงห้าม.

ในเวลานี้ในเขตแดนลับ,มีชายคนหนึ่งสวมชุดสีเขียวเข้มดูมีสง่า,ยืนรอพวกเขาอยู่.

ทันทีที่กงจูเฉียนโหยวเข้ามา,ชายคนดังกล่าวก็ก้าวออกมาต้อนรับทันที.

คนผู้นี้ดูสูงโปร่งกำยำ,มีเคราขึ้นรอบๆแต่ไม่ได้ยาวนัก,บนศีรษะมีมงกุฏหยกทอง,มีสง่าราศีที่สูงส่งแผ่ออกมา.

"กงจูเฉียนโหยว,ตำหนักจวีลู่ของข้ารู้สึกเป็นเกียรติยิ่งนัก,ก่อนหน้านี้ครึ่งเดือน,มีเรื่องมากมาย,ต้องขออภัยที่ไม่ได้ไปต้อนรับ,ทว่าวันนี้ข้าได้เตรียมทุกอย่างเพื่อชดเชยแล้ว."ชายคนดังกล่าวได้กล่าวออกมาด้วยยิ้มในทันที.

"อ๋องจวีลู่อย่าได้เกรงใจ,เฉียนโหยวมิกล้า."กงจูโยนโหยวที่กล่าวถ่อมตน.

"กงจูเชิญ."อ๋องจวีลู่กล่าว.

"อืม."กงจูเฉียนโหยวที่พยักหน้าให้ด้วยรอยยิ้ม.

ที่ด้านในนั้นมีการตกแต่งเหมือนกับตำหนักสวนบนเกาะตะวันตก,อ๋องจวีลู่ได้นำคนทั้งหมดมายังห้องโถงขนาดใหญ่.

ภายในตำหนักอ๋องจวีลู่นั้นได้มีการจัดแสดงงานรื่นเริงต่างๆเพื่อต้อนรับแขกเหมือนกับงานเลี้ยงทั่วไป.

บนโต๊ะฝั่งทิศเหนือนั้น,มีผลไม้จิตวิญญาณชั้นดีวางอยู่.

ด้านสองข้างๆของห้องมีการจัดวางโต๊ะอาหารเป็นสองแถว,และมีเหล่าขุนนางต่างๆนั่งรอยู่กันอยู่แล้ว.

"กงจูเฉียนโหยว,เชิญนั่งก่อน,สำหรับแขกผู้มีเกียรติคนอื่นๆที่ยังมาไม่ถึง,ข้าจะรอคอยต้อนรับเขาอีกครั้ง."อ๋องจวีลู่ที่เอ่ยออกมาด้วยรอยยิ้ม.

"อืม."กงจูเฉียนโหยวพยักหน้าให้.

จากนั้นเหล่าสาวใช้ก็เริ่มรินสุราจากฝั่งด้านโต๊ะด้านทิศเหนือเรียงไปทุกโต๊ะ.

ดูเหมือนว่าพวกนางจะเริ่มคลานเข่ารินสุราไปรอบๆ,เป็นธรรมเนียมของพวกเขา,ซึ่งแน่นอนว่ามีความแตกต่างกันไป.

กงจูเฉียนโหยวไม่ได้ใส่ใจมากนัก,นางที่เข้าไปประจำที่ยังตำแหน่งที่เตรียมเอาไว้,จงซานที่นั่งยังโต๊ะถัดมา,ตามด้วยอาต้าและอาเอ้อในตำแหน่งที่สามและสี่.

เหล่าขุนนางทุกๆคนต่างก็ให้ความเคารพกงจูเฉียนโหยวเป็นอย่างมาก,กงจูเฉียนโหยวที่โค้งเล็กน้อยทว่าก็ไม่ได้ใส่ใจนัก,ดูเหมือนว่าคนเหล่านี้,จะเป็นเพียงแค่เพียงเพื่อให้ครบองค์พิธีเท่านั้น.

จงซานที่นั่งลงนั้นจ้องมองด้วยสายตาประหลาดใจที่โต๊ะของกงจูเฉียนโหยว,ดูเหมือนว่ามันจะแตกต่างกับโต๊ะของเขา,จงซานที่จ้องมองไปยังด้วยสายตาประหลาดใจ,เพราะว่าอาหารที่บนโต๊ะของกงจูเฉียนเฉียนโหวนั้นแตกต่างจากของเขาเป็นอย่างมาก.

ไม่ใช่แค่แตกต่าง,แต่ยิ่งกว่ายิ่งแตกต่าง,รวมของกงจูเฉียนโหยว,มีเพียงแค่สามโต๊ะเท่านั้นที่มี,กงจูเฉียนโหยว,อ๋องจวีลู่และอีกหนึ่งที่อยู่ตรงข้ามกงจูเฉียนโหยว,ซึ่งแน่นอนว่าน่าจะเป็นโต๊ะของจื่อซือหานจิวราชวงศ์ราชันย์ต้ากวง.

ตอนแรกจงซานก็ไม่ได้สนใจที่จะกินอะไรนัก,อาหารของกงจูเฉียนโหยวนั้นนอกจากผลไม้วิญญาณ,อาหารสองจานนับว่าพิเศษเป็นอย่างมาก.

ประกายแสงสีทอง,ส่องประกาบวับวาว,อาหารจานหลักทั้งสองนั้นมันแผ่พลังวิญญาณที่หนาแน่นออกมา,พลังวิญญาณที่อัดแน่นจนกลายเป็นของเหลว.

อาหารสองจานนี้มันคืออะไรกัน?

เห็นท่าทางที่สงสัยของจงซานแล้ว,กงจูเฉียนโหยวที่กล่าวต่อสาวรับใช้,"จานของข้าเปลี่ยนให้กับเขา."

"เรื่องนี้..."สาวใช้ที่ใบหน้าเต็มไปด้วยความกระอักกระอวลใจ.

ในเวลาเดียวกันนี้,หัวหน้าขันทีที่เดินข้ามา,ได้ยินคำสั่งของกงจูเฉียนโหยว"กงจู,ผู้น้อยจะจัดอีกสำรับหนึ่งให้กับเขาอีกชุด."

"อืม."กงจูเฉียนโหยวที่พยักหน้า.

อย่างไรก็ตาม,ด้วยท่าทางของกงจูเฉียนโหยวแล้ว,หัวหน้าขันทีสามารถบอกได้ในทันที,จงซานผู้นี้เป็นคนที่กงจูเฉียนโหยวให้ความสำคัญเป็นอย่างมาก.

จากนั้น,สำรับอาหารของจงซานก็ถูกเปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว.

"เซียนเซิง,ไม่จำเป็นต้องประหลาดใจสำหรับตำหนักจวีลู่,เพราะว่าอาหารสองสำรับนี้,ถึงแม้ว่าจะเป็นราชวงศ์สวรรค์ต้าโหลว,ยังนับว่าเป็นอาหารชั้นยอด."กงจูเฉียนโหยวตอบ.

"อย่างไรรึ?"จงซานทีเอ่ยออกมาด้วยท่าทางประหลาดใจ.

"จานสีทองคือตับมังกร,จานสีแดงคือหัวใจหงสา."

"ตับมังกร,หัวใจหงสา?"จงซานที่โพลงออกมา.

กงจูเฉียนโหยวพยักหน้าให้.

ทว่าในเวลาเดียวกัน,ที่ด้านนอกอ๋องจวีลู่ได้รอคอยแขกคนสุดท้าย,ซือจื่อหานจิว.

"ซือจื่อหานจิว,เชิญๆ."อ๋องจวีลู่ที่หัวเราะเสียงดัง,เข้าไปต้อนรับจื่อซือหานจิว.

ซือจื่อหานจิวนำผู้รับใช้มาสองคน,ซือจื่อหานจิวที่มีมงกุฏหยกสีดำสวมชุดสีดำ,มือของเขาที่สะบัดพัดไปมา,ใบหน้าที่แสดงท่าทางมั่นใจเป็นอย่างมาก,ดวงตาที่ฉายแสงคมกล้าเต็มไปด้วยความหลักแหลม,เดินเข้ามาภายในห้องโถง,สายตาที่จับจ้องมองไปยังเหล่าขุนนาง,ท้ายที่สุดก็ไปจบลงที่กงจูเฉียนโหยว.

กงจูเฉียนโหยวที่เผยยิ้มให้เล็กน้อย,ซือจื่อหานจิวที่โค้งให้เล็กน้อยเช่นกัน,พร้อมกับกวาดสายตาคนที่กงจูเฉียนโหยวนำมา,หลายคนที่สวมชุดที่แตกต่างกัน,เขาจำได้ดี,ขณะที่เขากวาดตามองอาหารสองจานบนโต๊ะ,ซือจื่อหานจิวที่นิ่งงันไปในทันที,เพราะว่าเขาเห็นคนผู้หนึ่งที่กำลังถือตะเกียบในมือ,เขาที่ขมวดคิ้วแน่น,ราวกับว่าอยู่ในสถานการณ์คับขัน,ขณะที่เขาทำการวิเคราะห์สิ่งที่เห็น คาดไม่ถึงเลยว่าเขาจะใช้ตะเกียบ.

ไม่แปลกสำหรับจงซานที่ทำเช่นนี้,กับอาหารตับมังกรหัวใจหงสานี้,เขาได้ยินมาบ้าง,ทว่าเคยเห็นเป็นครั้งแรก,นอกจากนี้มันยังอยู่ต่อหน้าเขาแล้ว,นี่คือกระยาหารชั้นยอด,จงซานเองนับว่าเป็นอาหารที่เขาเคยกินครั้งแรกเช่นกัน.

"ซือจื่อหานจิว,เชิญนั่ง."อ๋องจวีลู่ที่เชิญซือจื่อหานจิวนั่งยังอีกฝั่ง.

ส่วนอ๋องจวีลู่แน่นอนว่าเขาจะต้องนั่งหัวโต๊ะ,ในตำแหน่งที่ทรงเกียรติ.

"วันนี้ได้เชิญ,กงจูเฉียนโหยวและซือจื่อหานจิว,จวีลู่รู้สึกเป็นเกียรติ,ขอดื่มให้กับคนทั้งสองหนึ่งจอก,ขอให้ต้ากวง,ต้ายวีและต้าโหลว,ทั้งสามราชวงศ์,เป็นพันธมิตรกันไปตลอดการ,"อ๋องจวีลู่ที่ยกแก้วเชิญทุกคนดื่ม.


ทำให้จงซานต้องวางตะเกียบ,และเริ่มดื่มไปกับทุกคน.




ที่มาจากhttps://lnmtl.com/novel/immortality

#นิยาย เรื่องอมตะ #Immortality#นิยายแปลไทย
Author(s)


สนใจสนับสนุนพวกเรา,เข้าร่วมกลุ่ม VIP ====> Click

***เว็ปฟรีอัพ สองวันหนึ่งตอน
***กลุ่มลับ อัพ 2-3 ตอนต่อวัน.

 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น