Immortality Chapter 192 Corpse ghost able to move unhindered
นิยาย เรื่อง อมตะ ตอนที่ 192 เจียงซือมากมาย.
尸鬼纵横
เจียงซือมากมาย.
เขตแดนมนุษย์
Ø โหวเทียน
เขตแดนเซียน
Ø อาณาจักรเซียนเทียน
Innate Stage 先天期
Ø อาณาจักรแกนทอง
Golden Core Stage金丹期
Ø อาณาก่อตั้งวิญญาณ. Nascent Soul Stage元婴期
Ø อาณาจักรหลอมกายธาตุ
Below
Body Fusion 合体期
Ø อาณาจักรเรือนสวรรค์
Heavenspan
通天,อาณาจักรจักรพรรดิแท้
皇极境
"จักรพรรดิต้าเย่,แข็งแกร่งมาก!"เซียนเซิงสุ่ยจิงที่สะบัดพัดไปมาขมวดคิ้วขณะพูด.
"จักรพรรดิต้าเย่,กำลังทำอะไร?
ทำไมถึงได้ส่งยอดเขาลอยออกมาเช่นนี้?"กู่หลินที่ขมวดคิ้วไปมา.
"เขาต้องการเตือนเหล่าคนนอก,เป็นการเตือนอย่างตรงไปตรงมา."เซียนเซิงสุ่ยจิงที่สบัดพัดไปมา.
"จักรพรรดิต้าเย่,อย่างน้อยที่สุด,น่าจะมีพลังฝึกตนอยู่ในระดับจักรพรรดิแท้.ไม่เช่นนั้นเขาคงไม่พร้อมที่จะก่อสงครามเช่นนี้,สามารถที่จะกำราบราชวงศ์ราชันย์ได้,แย่งชิงตราลัญจกรของราชวงศ์ราชันย์,เป็นไปได้ว่าเขามีพลังอาณาจักรจักรพรรดิแท้มีพลังเทียบเท่ากับพุทธะและมาร
อย่างงั้นรึ?
สุ่ยจิง,เจ้าเองก็ไม่ได้อยู่ในอาณาจักรจักรพรรดิแท้หรอกรึ?"กู่หลินที่ขมวดคิ้วไปมาสอบถาม.
"อยู่ในอาณาจักรจักรพรรดิแท้,ทว่าอาณาจักรจักรพรรดิแท้ก็แบ่งออเป็นหลายระดับ,อย่างเช่นระดับก่อตั้งวิญญาณยังแยกแยะเป็นหนึ่งถึงเก้า,ซึ่งมีพลังไม่เท่ากัน,จักรพรรดิต้าเย่,ที่มั่นใจในตัวเองขนาดนี้,ดังนั้นข้าคิดว่าทุกคนก็ควรที่จะระมัดระวัง,นอกจากนี้,เขายังแสดงว่าเขาพบพวกเราแล้ว,เหล่าผู้ฝึกตนหลายๆคนที่เข้ามาในเทือกเขาต้าหยินตอนนี้ต่างก็ได้รับการแจ้งเตือนด้วยยอดเขาบินกันทุกคน."เซียนเซิงสุ่ยจิงที่ขมวดคิ้วและตอบ.
เหนือระดับหลอมกายธาตุก็คือระดับจักรพรรดิแท้,ทุกคนที่อยู่ในอาณาจักรจักรพรรดิแท้,ล้วนแล้วแต่ถูกเรียกว่ายอดฝีมือ,และคนที่จงซานพบว่าน่าจะมีอาณาจักรจักรพรรดิแท้นั้น,ชิงอวิ๋นหลางเจียง,อาวุโสทั้งสามของของสำนักไท่ต่าน,แม่ทัพลำดับหนึ่งราชวงศ์ราชันย์ต้ายวี,เถี่ยเสวี๋ย,และอาวุโสจื่อซวิน,คนเหล่านี้,น่าจะอยู่ในระดับดินแดนจักรพรรดิแท้,เป็นยอดฝีมือที่แท้จริง.
อย่างไรก็ตาม,เหล่ายอดฝีมือ,ล้วนแล้วแต่หายาก,เป็นคนที่น่าเกรงขามเป็นอย่างมาก,สำหรับซานที่ได้พบเจอะเจอคนเหล่านี้มากมายนับว่าเป็นโชคแล้ว,ด้วยพลังฝึกตนเช่นเขา,แทบจะเป็นไปไม่ได้เลย,ที่จะได้เห็น.
"จักรพรรดิต้าเย่,เขาคงจะอหังการมาก."กงจูเฉียนโหยวที่ขมวดคิ้วและกล่าวออกมา.
"เขามีพลังอย่างแน่นอน,ไม่เช่นนั้นคงจะไม่แสดงท่าทางอหังการเช่นนี้,"เซียนเซิงสุ่ยจิงทีกล่าวและจ้องมองไปยังทิศที่ไกลออกไป.
จงซานนั้นไม่สามารถมองเห็นจักรพรรดิต้าเย่ได้,จงซานมองเห็นแค่เพียงพุทธะโหลวฮานและมารฉู่ป้า,คนทั้งสองยังคงสุขุม,จ้องมองไปยังทิศตะวันตกเฉียงเหนือ,เหมือนๆกับเซียนเซิงสุ่ยจิง,ดูเหมือนว่าทุกคนจะมองเห็นจักรพรรดิราชวงศ์ต้าเย่แล้ว.
"ตอนนี้พวกเราจะทำอย่างไรดี?"กู่หลินที่เผยท่าทางเป็นกังวล.
"ซือจื่อโปรดวางใจตราบเท่าที่มีข้า,ถึงแม้ว่าจะไม่สามารถล้มจักรพรรดิต้าเย่ได้,ทว่าการจะปกป้องใตัวเองและซือจื่อด้วยนั้น,ไม่มีปัญหา."เซียนเซิงสุ่ยจิงกล่าว.
ได้ยินคำพูดของสุ่ยจิง,กู่หลินที่กำลังตื่นตะหนก
ก็รู้สึกวางใจ.
"เซียนเซิง."กงจูเฉียนโหยวที่กล่าวออกมา.
"อืม."จงซานที่พยักหน้า.
"หากว่ามีอันตราย,เซียนเซิงให้เร่งรีบถอยไปทันที,ให้ไปรวมตัวกับคนสำนักยวีเหิง."กงจูเฉียนโหยวกล่าว.
"ได้."จงซานที่กล่าวรับคำ.
"อาต้า."กงจูเฉียนโหยวที่เอ่ยออกมา.
"ครับ."อาต้าที่รับคำสั่งในทันที.
"จากนี้ไปเจ้ารับหน้าที่ในการปกป้องเซียนเซิงอย่างเต็มที,อย่าให้เซียนเซิงได้รับบาดเจ็บแม้แต่น้อย,หากว่ามีอะไรเกิดขึ้นล่ะก็,ข้าจะเอาเรื่องกับเจ้า."กงจู่เฉียนโหยวที่กล่าวด้วยเสียงที่เคร่งขรึม.
"ครับ."อาต้าที่รับคำในทันที.
วันต่อมาตอนเย็น,คืนวันเพ็ญแสงจันทราที่ค่อยๆขึ้นที่ขอบฟ้า,นี่คือกลางเดือน,ทุกคนเวลานี้ยังคงสงบ,ทว่าสภาพแวดล้อมของเทือกเขาต้าหยิงตอนนี้กำลังเริ่มเปลี่ยนไป.
ในวันนี้,จงซานที่ต้องขยับคิ้วไปมา
จ้องมองไปยังรอบๆด้วยความความระมัดระวัง,เหล่าคนของราชวงศ์จักรพรรดิต้าเย่ต้องการทำอะไรอย่างงั้นรึ?
จับคนเป็นมากมายมาทำอะไรกัน?และเหล่าศพมากมายที่ถูกแช่แข็งล่ะ.
บนเทือกเขาต้าหยิงที่ค่อนข้างเงียบวังเวง,วิศัยทัศมืดมัว,ดูแล้วน่าขนลุกเป็นอย่างมาก.
"โบ๋ๆๆ"
ทันใดนั้น,เสียงหมาป่าที่โหยหวนที่ดังขึ้น,มันเสียดแทนจนทำให้ขนลุกตั้งชัน,เข้ากับบรรยากาศเป็นอย่างมาก.
"พรึดดดด"
ทันใดนั้นทั่วทั้งเทือกเขาต้าหยิง,ปราณทมิฬที่กำลังปะทุขึ้นจากพื้นโลก,เป็นควันดำมืดมิดถูกปล่อยออกมาปกคลุมพื้นที่ทั้งหมด.
ปราณดำทมิฬที่ปะทุขึ้นมาราวกับกระแสน้ำพุที่พุ่งทะยานอย่างรุนแรง.
ปราณสีดำทมิฬราวกับหมึก,กระจายไปทุกทิศทุกทาง,บดบังวิศัยทัศน์,จนมองไม่เห็นพื้นที่รอบๆ,ได้ยินเพียงแค่เสียงเท่านั้น.
เสียงหมาป่าที่หอนดัง,เสียงของภูติผีที่โหยหวน,ราวกับเป็นเสียงคำรามของเจียงซือ,เป็นเสียงสะอึกสะอื้นของหญิงสาวที่ได้รับความขมขืน.
"ฮือๆๆ" "โบ๋ๆๆ"............
พริบตาเดียวเท่านั้น,บรรยากาศรอบๆเต็มไปด้วยปราณสีดำทมิฬ,เสียงที่น่าหวาดกลัว,แสงจันทราที่ส่องกระทบกับปราณความมืด,ป่าแห่งนี้อุณภูมิลดลงอย่างรวดเร็ว,ทำให้ขนตั้งชันเสียวสันหลังโดยไม่รู้ตัว.
ปราณสีดำที่ทมิฬยังคงพุ่งทะยานขึ้นไปหลายพันจั้งก่อนที่จะหยุดลง,และรวมตัวกันเห็นเป็นรูปร่างของเทือกเขาต้าหยิง.
"โฮกกก"
"โฮกกก"
......
เสียงคำรามของมังกรทั้งเก้า,ดังสนั่นหวั่นไหว,ดังลั่นสั่นสะเทือนผืนปฐพี,เสียงดังรุนแรงจนทำให้ปราณทมิฬถึงกับกระจายออกไปรอบๆ,สั่นสะท้าน,ดูแล้วไม่ต่างจากที่เคยเห็นจากหยกบันทึกของสำนักยวีเหิงก่อนหน้านี้เลย,มังกรทั้งเก้าตัวที่เกิดจากปราณหยิน,คำรามก่อให้เกิดคลื่นที่บ้าคลั่ง,มังกรที่กำลังแหวกวายลอยตัว,ความยาวกว่าหมื่นจั้งจากหัวไปจนถึงหาง,หัวของมันที่มีขนาดใหญ่มาก,ดวงตาสีแดงฉาน,แต่ไม่มีประกาย,ราวกับมังกรตาบอดที่ลอยอยู่บนฟ้า.
สายตาของจงซานเวลานี้ที่นิ่งงันกลืนน้ำลายลงช้าๆ,แววตาที่แสดงท่าทางตื่นตะลึงเป็นอย่างมาก,เขาควรที่จะเข้าใจหรือไม่?
ในเวลานี้ไม่ต้องบอกเลยว่าที่ด้านในนั้นมีอันตรายที่ไร้ที่สิ้นสุดอย่างแน่นอน,ต้องรู้ว่าหลิวสุ่ยเฟิง,ที่มีพลังฝึกตนก่อตั้งวิญญาณ,การจะเข้าไปด้านในยังยากลำบากเลย,เขาเองเวลานี้ต้องบอกเลยว่าอันตรายอย่างที่สุด,กับสภาพแวดล้อมเช่นนี้,จงซานหากจะบอกว่าไม่รู้ผลที่ตามมา,เรื่องนี้คงจะเป็นเรื่องลวงหลอก,ทว่าเวลานี้เขามีอาต้าคอยปกป้อง,กับสภาพแวดล้อมที่เลวร้ายเช่นนี้,ไม่ว่าเป็นใครก็คงจะไม่ได้เปรียบนัก.
"เร็วเข้า,เข้าไปด้านใน!"ที่ไกลออกไปนั้นเสียงๆหนึ่งที่ดังขึ้นในทันที.
เห็นเพียงแค่จักรพรรดิต้าเย่สั่งเหล่าทหารมากมาย,ให้คุมตัวเหล่าผู้ฝึกตนที่พวกเขาจับมาก่อนหน้านี้เข้าไปด้านใน,ตรงเข้าไปในพื้นที่ดำมืดในทันที.
"ไป,ยังไม่รีบอีก?"เสียงดังโหวกเหวกโวยวาย,เหล่าผู้ฝึกตนที่ถูกผนึกพลังฝึกตนเอาไว้,ตอนนี้ถูกฉุดลากบังคับเดินเข้าไปด้านใน,รามทั้งศพในแท่งน้ำแข็งด้วย,ถูกนำเข้าไปด้านในพร้อมๆกัน.
จงซานที่สูดหายใจลึก,เรื่องเช่นนี้เขาไม่สามารถทำอะไรได้,แม้ว่าภายในใจจะรู้สึกสงสาร,ทว่าเขาก็ไม่ได้มีพลังพอ,ทำได้แค่ถอนหายใจและรู้สึกขุ่นเคืองเท่านั้น.
"เอาล่ะ,พวกเราก็ไปได้แล้ว."กงจูเฉียนโหยวที่เอ่ยปากกล่าวออกมา.
จากนั้นเมฆสีขาวก็ร่อนลงบนพื้น,ด้วยเวลานี้ไม่สามารถมองเห็นบรรยากาศรอบๆ,การอยู่บนพื้นถือว่าปลอดภัยที่สุด.
จงซานที่นำดาบยักษ์ออกมาเฝ้าระวังป้องกันตัวเองด้วย,ทว่ากู่หลินกับเผยยิ้มอย่างเหยียดหยันให้กับเขา,เห็นท่าทางของกู่หลินแล้ว,เซียนเซิงสุ่ยจิงและกงจูเฉียนโหยวที่ทำได้แต่ส่ายหน้า,หากมีอันตรายที่ไม่คาดฝัน,พวกเขาไม่สามารถป้องกันเขาได้,แต่เขาก็ไม่คิดจะป้องกันตัวเองเลยรึ?
จงซานที่ไม่สนใจท่าทางเยาะเย้ยของกู่หลิน,ทุกคนมีความคิดที่แตกต่างกัน,แน่นอนว่าแม้จะมีผู้เยี่ยมยุทธ์คอยปกป้อง,ทว่าเรื่องของตัวเองก็ต้องจัดการด้วยตัวเอง,หากหวังพึงแต่คนอืนมีแต่จะต้องตายไม่ช้าก็เร็ว.
ด้วยปราณทมิฬที่หนาแน่น,แทบจะไม่สามารถมองเห็นอะไรเลยด้วยซ้ำ,พวกเขาที่ก้าวเข้ามาทีละก้าวๆ,ผ่าความมืดมิด,ยิ่งด้านนอกเป็นเวลากลางคืน,แม้แสงจันทราจะส่องสว่าง,แต่ก็ไม่สามารถช่วยอะไรได้,ต้องไม่ลืมด้วยว่าจงซานมีระดับแกนทองเท่านั้น,ทำให้เขารู้สึกป่าแห่งนี้เต็มไปด้วยความมืดที่ไร้ที่สิ้นสุด.
อย่างไรก็ตาม,จงซานก็พบเข้ากับเรื่องที่แปลกประหลาด,ดูเหมือนสภาพพื้นที่ของเทือกเขาต้าหยิงจะหายไป,ไม่มีลักษณะเหมือนเทือกเขาอีกแล้ว,พื้นที่ด้านในปราณทมิฬนี้เปลี่ยนไป?
สถานะที่แห่งนี้เป็นเหมือนกับพื้นที่ราบที่กว้างสุดลูกหูลูกตาอย่างงั้นรึ?
เป็นเช่นนี้ได้อย่างไร? ภาพลวงตาอย่างงั้นรึ?
ที่ใจกลางของพื้นที่ราบกว้างนี้มีดอกไม้มากมายหลายพันดอกที่ขึ้นเต็มไปหมดกระจายเรียงรายเป็นรูปร่างมงกุฎ
จงซานรู้ดีในโลกปุถุชน,เขาเห็นดอกไม้เหล่านี้อยู่บ่อยๆ.
ชื่อดอกไม้,ดอกแมงมุมโลหิต,อีกชื่อ,"ดอกไม้แห่งความตาย"
มันมักจะเกิดขึ้นบนหลุมศพ,ทว่าดูเหมือนว่า,ดอกแมงมุมโลหิตนี้จะมีขนาดใหญ่กว่าปกติ,นอกจากนี้ยังมีแสงสีน้ำเงินแผ่ออกมา,เป็นกลิ่นอายปิศาจที่รุนแรงมาก.
เสียงโหยหวนน่าหวาดกลัว,ที่จริงแล้วเป็นดอกแมงมุมโลหิต,หรือดอกไม้แห่งความตายส่งเสียงออกมาอย่างงั้นรึ?
ที่ด้านบนดอกไม้แห่งความตาย,จงซานสามารถมองเห็นภูติปิศาจมากมายที่ค่อยๆคืบคลานออกมาจากดอกไม้,ภูติปิศาจ,ที่มีรูปร่างหน้าตาโหดเหี้ยม,น่าหวาดกลัวอย่างที่สุด,กำลังร้องโหยหวนออกมาไม่หยุด,แสดงท่าทางหิวโหย,ต้องการอาหารอยู่.
ภูติปิศาจอย่างงั้นรึ?
ดูเหมือนว่าจะเต็มไปด้วยความพยาบาท,ดูเหมือนว่าจะไม่ใช่แค่ภูติปิศาจ,เจียงซือ,มีเจียงซือมากมายที่กระจายไปทั่วทุกทิศทุกทาง,พวกมันกำลังออกมาจากสวนดอกไม้แห่งความตาย,กระจายไปยังพื้นที่รอบๆ.
ท้ายที่สุด,ผีร้ายตนหนึ่งที่จงซานสามารถเห็นได้ชัดเจน,เป็นเหมือนคนธรรมดาทั่วไป,ผีร้าย,ที่มีรูปร่างเหมือนกับเจียงซือ,ทว่าดวงตากรวงโบ๋,เห็นเพียงหมอกสีดำ,ไม่มีลูกตา.
ที่แห่งนี้มีเจียงซืออยู่มากมาย.
เหล่าเจียงซือนับไม่ถ้วนและปิศาจร้ายที่ออกมาจากสวนดอกไม้แห่งความตาย,ดูเหมือนว่าเจียงซือและปิศาจร้ายเหล่านั้นจะมีเส้นแสงสีน้ำเงินเชื่อมอยู่กับดอกไม้แห่งความตาย.
เหล่าเจียงซือ,ที่กระจายออกไปทั่วทุกสารทิศ,บางตัวสามารถบินได้ด้วยซ้ำ,บวกกับพื้นทีรอบๆเป็นสีดำทมิฬ,รู้สึกว่าราวกับอยู่ใต้ดินแดนนรกอเวจี.
พวกมันถูกดอกไม้แห่งความตายควบคมอย่างงั้นรึ?
จงซานที่ทำได้แค่กลืนน้ำลาย,คนอื่นๆเองก็เต็มไปด้วยสีหน้าตื่นตะลึงไปต่างกัน,เป็นภาพที่น่าหวาดผวา,มีดินแดนเช่นนี้ในโลกใบนี้ด้วยรึ?
"กงจู,พื้นทีรอบๆนี้,ท่านรู้สึกอะไรใหม?ที่นี่เป็นโลกลวงตาหรือไม่?"เซียนเซิงสุ่ยจิงสอบถาม.
"ข้าเองก็ไม่เข้าใจเช่นกัน,พื้นที่รอบๆเทือกเขาต้าหยิงราวกับว่ามันหายไป,บรรยากาศรอบๆนี้ดูเหมือนจริงเป็นอย่างมาก,กับสิ่งที่เกิดขึ้นนี้,ข้าไม่รู้ว่านี่คือค่ายกลฮวงจุ้นหรือไม่,ดูเหมือนนค่ายกล,แต่ก็ไม่สามารถบอกสิ่งที่เกิดขึ้นได้,แล้วคนก่อนหน้านี้พวกเรายังไม่เห็นพวกเขาเลย,ดินแดนแห่งนี้กลายเป็นภาพลวงตาหรือไม่จึงทำให้ข้าไม่แน่ใจ."กงจูเฉียนโหยวที่กล่าวออกมา,นางเองก็ไม่เข้าใจเช่นกัน.
"นั่นคือดอกอะไร?"กู่หลินที่ชี้ไปยังตรงกลางที่มีดอกไม้ขนาดพันจั้งเกิดอยู่.
"นี่น่าจะเป็นต้นกำเนิดพลังของฮวงจุ้ยนี้,เป็นตำแหน่งทางเข้าสุสาน,เป็นดอกไม้แห่งความตาย,ทว่า,จะเปิดอย่างไร,ข้าไม่รู้,บางทีจักรพรรดิต้าเย่คงจะรู้,ต้องไม่ลืมว่าเขาจับตัวผู้ฝึกตนมากมายเข้ามา,เหมือนกับว่านำมาใช้ในการเปิดสุสาน."กงจูเฉียนโหยวที่ขมวดคิ้วไปมา.
"ถ้าเป็นเช่นนั้น,พวกเราก็คงต้องรอให้จักรพรรดิต้าเย่เปิดสุสานแห่งนี้ซะก่อน,"เซียนเซิงสุ่ยจิงที่สูดหายใจยาว.
"ศาสตร์ฮวงจุ้ยนั้น,มีคนรู้น้อยมาก,ดังนั้นจึงมีข้อมูลต่างๆน้อยมากไปด้วยเช่นกัน,พวกเราคงทำได้แค่รอ."กงจูเฉียนโหยวที่พยักหน้า.
ที่มาจากhttps://lnmtl.com/novel/immortality
#นิยาย เรื่องอมตะ #Immortality#นิยายแปลไทย
Author(s)
สนใจสนับสนุนพวกเรา,เข้าร่วมกลุ่ม VIP ====> Click
***เว็ปฟรีอัพ สองวันหนึ่งตอน
***กลุ่มลับ อัพ 2-3 ตอนต่อวัน.
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น