วันอังคารที่ 29 มกราคม พ.ศ. 2562

Immortality Chapter 191 Sacred place

Immortality Chapter 191  Sacred place

นิยาย เรื่อง อมตะ ตอนที่ 191 แดนเทวะ.


圣地
แดนเทวะ.

"มารฉู่ป้า!"

บนทิศที่สูงขึ้นไป,ทุกคนที่จ้องมองไปพร้อมๆกัน,บนยอดเขายอดแห่งหนึ่ง,ในเวลานี้มีนักบวชหัวโล้น,สวมชุดเฉวียงบ่า,เผยให้เห็นไหล่ซ้าย,ใบหน้าที่ดูมีความหมาย,แววตาที่แสดงการแจ้งเตือน.



ทันใดนั้นเหล่าทหารมากมายเข้ามาล้อมรอบอย่างรวดเร็ว,ทว่านักบวชคนดังกล่าวคาดไม่ถึงเลยว่าจะไม่ใส่ใจเหล่าทหารแม้แต่น้อย,ใบหน้าองเขายังส่งสัญญาณเตือนไปยังชายในชุดดำที่อยู่ในหุบเขา.

"วูซซ,วูซซ,วูซซซ..."

ทันทีที่เหล่าทหารเคลื่อนไหว,ชายหนุ่มในชุดดำและนักบวชอีกฝั่งก็ถูกล้อมกรอบด้วยทหาร,ทว่าพวกเขายังไม่สนใจเหล่าทหารแม้แต่น้อย,ทั้งสองฝ่ายยังจ้องมองหน้าหน้ากันและกัน.

นักบวชเห็นอย่างชัดเจนว่ามารฉู่ป้านั้น,เป็นเพียงแค่ข้ารับใช้ของชายหนุ่มด้านหน้า.

"พวกเจ้าเป็นใคร? โอหังนัก!"

ลึกเข้าไปในหุบเขา,เสียงที่น่าเกรงขามของขุนพลทหารที่ดังลั่น,เหล่านักรบหลายร้อยคนที่ถือหอกยาว,พุ่งออกมาทุกทิศทุกทาง,พวกเขาทุกคนเวลานี้ได้เข้ารอบยอดเขาทั้งสองแห่งเอาไว้.

"วูซซซ."

ที่ไกลออกไปนั้นก็มีร่างๆหนึ่งที่บินออกมา,เห็นได้อย่าชัดเจนว่ามีความรวดเร็วเป็นอย่างมาก.

หลังจากที่พุ่งออกมายืนที่อีกยอดเขาอีกแห่งหนึ่ง,เป็นชายผู้หนึ่งเป็นหนึ่งในผู้นำทหาร,เมื่อไม่นานมานี้,เขาเป็นหนึ่งในแม่ทัพพิทักษ์ดินแดนที่นำกองกำลังไปล้อมสำนักยวีเหิง.

"แม่ทัพเจียน."เหล่าหทารที่แสดงท่าทางเคารพ.

แม่ทัพพิทักษ์ดินแดนที่โบกมือไปมา,เหล่าทหารมากมายที่ถอนกลับไปในทันที,แม่ทัพพิทักษ์ดินแดนจ้องมองไปยังคนสองกลุ่มบนยอดเขา,หรี่ตามอง,พร้อมกับโค้งออกไป."ทุกๆท่านขอได้โปรด,อย่าได้เข้ามาทำลายแผนการเหนือหัวของพวกเรา."

คนทั้งสองยอดเขาที่จ้องมองไปยังแม่ทัพพิทักษ์ดินแดนเล็กน้อย,เผยยิ้มออกมาอย่างนุ่มนวล,ไม่ได้สนใจเขาแม้แต่น้อย,เห็นได้อย่างชัดเจนว่าพวกเขาไม่ได้ใส่ใจเลยด้วยซ้ำ.

แม่ทัพพิทักษ์ดินแดนที่จ้องมองไปยังคนทั้งสามที่ไม่ได้สนใจเขา,ขมวดคิ้วไปมา,ดวงตาที่ดูมืดคลึ้ม,ทว่าเขาก็ไม่ได้กล่าวอะไรต่อไปอีก,หลังจากนั้นเขาก็บินลอยหายไปในทันที.

ที่ไกลออกไปนั้น,จงซานและกงจูเฉียนโหยวตลอดจนคนอื่นๆตอนนี้สามารถมองเห็นการเคลื่อนไหวที่ไกลออกไป,สายตาของจงซานที่หรี่เล็กลง,คนสองคนที่อยู่บนยอดเขาสูง,ใครกัน? เป็นไปได้อย่างไรที่จะรอดพ้นจากการฟังเสียงของเขา,ใครกัน,ปกติแม้จะอยู่ไกลไปก็ไม่เคยรอดพ้นการฟังเสียงของเขา,อย่างไรก็ตามเขากับไม่ได้ยินเสียงการมาของคนเหล่านี้เลย,จวบจนพวกเขาเคลื่อนไหวในตอนนี้.

ที่ไกลออกไปนั้น,ฉู่ป้ายืนอยู่ด้านหลังชายหนุ่ม,จ้องมองไปยังนักบวชที่อยู่ตรงข้าม.

"พุทธะโหลวฮาน."ฉู่ป้ากล่าวออกมาเบาๆ,อย่างไรก็ตาม,ดูเหมือนว่ามันเป็นเพียงแค่รายงานต่อนายน้อยเขาเท่านั้น.

นักบวชโกนศีรษะ,พุทธะโหลวฮาน,จ้องมองไปยังชายหนุ่มที่อยู่ด้านหน้าฉู่ป้า.

"มารน้อย? มารฉู่ป้า,คาดไม่ถึงเลยว่าจะกลายเป็น,ข้ารับใช้ของมารน้อยไปแล้ว."พุทธโหลวฮานที่เผยยิ้มออกมาเล็กน้อย,ท่าทางไม่เป็นมิตร.

"ปกป้องกงจื่อ,เป็นเกียรติต่อข้าฉู่ป้า,เจ้าควรจะจำได้ว่าเจ้ามีหน้าที่,ปกป้องวิญญาณดวงวิญญาณเจ้าเด็กเกิดใหม่นั่น,เหมือนกัน,เจ้าเองก็เป็นข้ารับใช้ไม่ใช่รึ?"ฉู่ป่าแค่นเสียง.

"พุทธะโหลวอานเขาไม่จำเป็นต้องปกป้องวิญญาณเด็กเกิดใหม่นั่น,เขาติดตามเทพจื่อจุ้นมังกรสวรรค์,ทว่าไม่รู้ว่าทำไมพุทธะโหลวฮานมาปรากฏตัวขึ้นที่นี้อย่างงั้นรึ?"ชายหนุ่มที่สอบถามออกมาทันที.

"เจ้าเป็นใคร?"พุทธะโหลวฮานชำเลืองมองไปยังชายหนุ่มคนดังกล่าว.

ชายหนุ่มที่ยิ้มอย่างชั่วร้าย."เจ้าไม่รู้จักแต่กับเรียกข้าว่ามาน้อยอย่างงั้นรึ?งั้นจำเอาไว้,ข้ามีนามว่า เซี่ยเหยี่ยน."

จงซานที่จ้องมองไปยังคนทั้งสามที่กำลังพูดคุยกัน,พร้อมกับขมวดคิ้วไปมาเล็กน้อย..

"สุ่ยจิง,พวกเขาเป็นใคร?"กู่หลินที่ขมวดคิ้วไปมา.

ได้ยินคำพูดของกู่หลินแล้ว,จงซานที่เงี่ยหูฟังอย่างตั้งใจ.

"นักบวชนั่นมาจากแดนเทพพิสุทธิ์,พุทธโหลวฮาน,เขาเป็นผู้ติดตามของจื่อจิ้นเทพมังกรสวรรค์,ทำไมไม่รู้มาปรากฏตัวที่นี่."สุ่ยจิงที่ขมวดคิ้วไปมา.

"แดนเทวะ,เทพพิสุทธิ์อย่างงั้นรึ?"กู่หลินที่กล่าวออกมาด้วยความประหลาดใจ.

"ส่วนอีกฝั่ง,ชายหนุ่มข้าเองก็ไม่เคยเห็นเช่นกัน,ส่วนชายวัยกลางคนเขามีนามว่า"มารฉู่ป้า."คนของดินแดนเทพอเวจี."เซียนเซิงกล่าว.

"แดนเทวะ,เทพอเวจีอย่างงั้นรึ?"กู่หลินที่ขมวดคิ้วไปมาอัศจรรย์ใจยิ่งกว่าเดิม.

"อืม."เซียนเซิงสุ่ยจิงที่พยักหน้า.

"อะไรคือแดนเทวะ?"จงซานทีเอ่ยถามออกไปในทันที.

ได้ยินคำพูดของจงซาน คนอื่นๆก็นิ่งงันไปชั่วครู่,กู่หลินที่จ้องมองไปยังจงซานที่ราวกับเห็นคนโง่เง่า,ไม่รู้จักแดนเทวะอย่างงั้นรึ?

แน่นอนว่าจงซานนั้นถ้าไม่รู้ก็บอกว่าไม่รู้,เข้าไม่จำเป็นต้องแสร้งว่าเข้าใจ,กับสายตาท่าทางของกู่หลินนั้น,จงซานไม่ได้สนใจเลยแม้แต่น้อย.

กงจูเฉียนโหยวที่จ้องมองไปยังจงซานได้กล่าว่า"ด้วยการบำเพ็ญเกียรติยศนั้น,มีสามราชวงศ์วาสนาที่ยืนอยู่บนจุดสูงสุดคือสามราชวงศ์สวรรค์,ทว่าการบำเพ็ญกรรมเองก็มีสำนักที่ก้าวไปยืนอยู่บนจุดสูงสุดเช่นกัน,ไม่,พวกเขาไม่ใช่สำนักธรรมดา,แต่พวกเขาเรียกตัวเองว่าแดนเทวะ,ซึ่งแดนเทวะมีอยู่ด้วยกันสี่แห่ง,เทพพิสิทธิ์และเทพอเวจี,เป็นสองดินแดนเทวะที่มีผู้เชี่ยวชาญมากมาย,แม้ว่าพวกเขาจะไม่ได้มีจำนวนคนเทียบเท่ากับราชวงศ์สวรรค์ก็ตาม,ทว่าเหล่ายอดฝีมือที่พวกเขามีก็ไม่ได้ด้อยไปกว่าราชวงศ์สวรรค์,เป็นความสำเร็จที่แตกต่างกันของการบำเพ็ญเพียรนั่นเอง."

"พวกเขาไม่ต้องยึดครองดินแดนอย่างงั้นึ?"จงซานที่ขมวดคิ้วสอบถาม.

"นั่นก็เพราะว่ารูปแบบของการบำเพ็ญนั้นต่างกัน,การบำเพ็ญของพวกเขาภายใต้โลกใบนี้,ไม่จำเป็นต้องยึดครองดินแดน,ไม่จำเป็นต้องยึดครองอำนาจ."กงจูเฉียนโหยวกล่าวออกมาอย่างเคร่งขรึม.

"อืม."จงซานพยักหน้า.

ศาสตร์บำเพ็ญชื่อเสียง,มีสามราชวงศ์สวรรค์ที่ยืนอยู่บนจุดสูงสุด!

ศาสตร์บำเพ็ญกรรม,มีสี่แดนศักดิ์สิทธิ์ที่ยืนอยู่บนจุดสูงสุด!

การบำเพ็ญฮวงจุ้ยล่ะ? ศาสตร์บำเพ็ญฮวงจุ้ย,มีเพียนคนไม่กี่คน,บนทวีปศักดิ์สิทธิ์นี้,มีจำนวนเท่าไหร่กัน.

(ปล.เกี่ยวกับแดนศักดิ์สิทธิ์และราชวงศ์สวรรค์นั้น อ้างอิงจาก"บันทึกการเดินทางไปชมพูทวีป"มีความเกี่ยวข้องกับวัดต้าเหล่ยหยินและแปลนศาลสวรรค์,เพียงแต่หากกล่าวถึงความแข็งแกร่ง,ราชวงศ์สวรรค์ไม่ได้อ่อนแอกว่าแดนเทวะ,)

"เซียนเซิงสุ่ยจิง,ท่านคิดว่าทำไมพวกเขามาปรากฏตัวขึ้นที่นี่ล่ะ?"กงจูเฉียนโหยวขมวดคิ้วสอบถาม.

"พุทธะโหลวฮานนั้นเป็นผู้ติดตามจื่อจุ้นเทพมังกรสวรรค์,ในเวลานี้,จื่อจุ้นเทพมังกรสวรรค์ไม่ได้มา,มีเพียงเขา,นอกจากนี้ยังมีฉู่ป้าอยู่ที่นี้ด้วย,คงเป็นเรื่องบังเอิญ,เห็นได้ชัดเจนว่า,การมาที่นี่นั้นไม่ได้มีเรื่องสำคัญอะไรนัก,เป็นไปได้ที่สุดคือ,พวกเขาผ่านมาพบกันที่นี่โดยบังเอิญ."เซียนเซิงสุ่ยจิงที่วิเคราะห์.

"อืม,น่าดูชม,เพียงแค่ผ่านมา,ดูเหมือนว่าแดนเทพพิสุทธิ์จะมีความสัมพันธ์กับบางสำนัก,จึงทำให้ดึงพุทธะโหลวฮานเข้ามา."กงจูเฉียนโหยวกล่าว.

"เช่นนั้น,มารฉู่ป้าและพุทธะโหลวฮาน,เป็นยอดฝีมือ,จักรพรรดิต้าเย่บางทีคงจะอดปวดหัวไม่ได้."เซียนเซิงสุ่ยจิงที่เผยยิ้มออกมา.

"ไม่ดีอย่างงั้นรึ?"กงจูเฉียนโหยวที่เผยยิ้ม.

ยิ่งคนมากเท่าไหร่ก็ยิ่งดีขึ้นเท่านั้น."เซียนเซิงสุ่ยจิงพยักหน้า,เห็นได้อย่างชัดเจนยิ่งคนมากก็ยิ่งวุ่นวาย,เหมาะที่จะกวนน้ำจับปลา,ต้องรู้ด้วยว่าราชวงศ์จักรพรรดิต้าเย่นั้นมีกำลังที่เหนือกว่า,กลุ่มของกงจูเฉียนโหยวมาก,ซึ่งโดยรวมแล้วทำให้กลุ่มพวกนางนั้นค่อยข้างอันตรายทีเดียว,การเข้ามาสำรวจที่นี้ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย.

ที่ไกลออกไป,ทันใดนั้นกงจูเฉียนโหยวและเซียนเซิงสุ่ยจิงถึงกับต้องเพ่งพิศ.

"พบแล้วอย่างงั้นรึ?"กงจูเฉียนโหยวที่กล่าวออกมาด้วยท่าทางประหลาดใจ.

ในเวลาเดียวกันนั้น,จงซานที่สามารถมองเห็นได้,ว่าบนอากาศที่สูงขึ้นไปนั้น,มีจุดเล็กๆนับร้อยจุด.

จุดหลายร้อยจุดที่พุ่งตรงลงมาราวกับสายฝน,กระจายไปทั่วบริเวณเทือกเขาต้าหยินหลายร้อยพื้นที่,และตำแหน่งหนึ่งที่พุ่งตรงลงมายังตำแหน่งกลุ่มของจงซาน,มีความเร็วเป็นอย่างมาก,พริบตาเดียวก็มาถึงพวกเขาแล้ว.

ภูเขาลูกหนึ่ง,ยอดเขาขนาดใหญ่,ที่ล่วงหล่นลงมายังตำแหน่งของจงซานด้วยความเร็วสูง,เป็นยอดเขาที่ส่องประกายแสงวับวาว,เคลื่อนที่ล่วงหล่นลงมา.

"ย๊ากกๆ"

อาต้า,อาเอ้อคำรามเสียงดัง,ทั้งคู่กำหมัดแน่นพร้อมกับกระโดดออกไปอย่างรดเร็ว,กล้ามเนื้อขยายใหญ่เล็กน้อย,หมัดของพวกเขาที่ต่อยออกไปยังยอดเขาที่พุ่งลงมาในทันที.

"ตูมมมมม"

หมัดของพวกเขากระแทกไปยังยอดเขาบินด้านหน้าเสียงดัง,เกิดเสียงทึบด้าน,ยอดเขาขนาดใหญ่ที่ยังบดขยี้,ส่องแสงสว่างจ้า,พลังของยอดเขาบินนั้นทรงพลังแข็งแกร่งมาก,หนำซ้ำยังมีน้ำหนักมหาศาล,ดูเหมือนว่ามันจะถูกปล่อยออกมาโจมตีใส่เหล่ายอดฝีมือที่เข้ามาในเทือกเขาแห่งนี้.

ภายใต้พลังของยอดเขาบินที่ล่วงลงมานั้น,จงซานยังรับรู้ได้ถึงแรงกดดันวิญญาณ,แรงกดดันที่มองไม่เห็น,กำลังกดลงมาทุกทิศทุกทาง,แข็งแกร่งเป็นอย่างมาก,ราวกับเป็นพลังสวรรค์ที่ยิ่งใหญ่,ถึงกับทำให้จงซานย่อเข่าลงทีเดียว.

ทว่าจงซานที่รับกับแรงกดดันมหาศาลนี้,เขาที่กัดฟันแน่น,เส้นโลหิตที่บวมปูดขึ้นมาบนหน้าผากเลยทีเดียว.

แข็งแกร่งมาก,อาต้าและอาเอ้อสองคนที่อยู่ในระดับก่อตั้งวิญญาณขั้นปลาย,ยังไม่สามารถต้านทานได้ทั้,พลังมหาศาลที่กดดันลงมาจากบนฟ้า,ยอดเขาบินที่กำลังบีบอัดลงมาด้านล่าง.

ในเวลาเดียวกัน,เขาที่เห็นเซียนเซิงสุ่ยจิงขมวดคิ้วเล็กน้อย,พัดของเขาที่สะบัดออกไปเบาๆ.

นี่เป็นศาสตร์การใช้พัดที่จงซานเพิ่งเคยเห็น,ทันใดนั้นก็ปรากฏประกายแสงสีน้ำเงินที่พุ่งออกไป,บินตรงไปกระแทกไปยังยอดเขาบิน,ทำให้มันหยุดนิ่งไม่กดลงมาอีก.

ทว่าหลังจากนั้นไม่นาน,ประกายแสงสีทองที่อาบไปทั่วยอดเขาบินก็สลายหายไป,หลังจากนั้นดูเหมือนว่าพลังของอาต้าและอ้าเอ้อก็เพิ่มขึ้นมาทันที,ก่อนที่จะสามารถกระแทกยอดเขาให้ลอยออกไป.

"วูซซซ"

ยอดเขาบินที่กลายเป็นฝุ่น เป็นกองเศษหินที่ถูกบดขยี้,ไม่,จากที่จงซานเห็น,ยอดเขาบินนั่นไม่ได้ถูกอาต้าและอาเอ้อบดขยี้,ทว่าเป็นเซียนเซิงสุ่ยจิงต่างหาก,ด้วยลำแสงสีน้ำเงินที่พุ่งออกไปเป็นเหมือนกับแส้ที่คมกริบ,สามารถที่จะบดขยี้ยอดเขาบินจนแหลกออกเป็นเสี่ยงๆ,เพียงแค่สะบัดพัดออกไปเบาๆก็สามารถทะลายทุกอย่างได้อย่างงั้นรึ?

อาต้าและอาเอ้อที่มีพลังระดับก่อตั้งวิญญาณขั้นปลาย,คนทั้งสองยังไม่สามารถต้านยอดเขาบินได้,หากแต่เพียงพัดที่สะบัดออกไปเบาๆ,ของเซียนเซิงสุ่ยจิงที่เหมือนกับบัณฑิตผู้นี้,กับทรงพลังขนาดนี้เลยรึ? ยอดเขาถูกบดขยี้ออกเป็นผุยผง?

ในเวลาเดียวกัน,ที่ไกลออกไปจงซานที่จ้องมองไปยังตำแหน่งของพุทธะโหลวฮานและตำแหน่งของมารฉู่ป้า,ยอดเขาสองแห่งก็บดขยี้มายังพวกเขาเช่นกัน,คนทั้งสองที่เหวี่ยงหมัดออกไป.

"ตูมม"  "ตูมมม"

ยอดเขาที่ลอยออกไป,ด้วยหมัดของพวกเขา.

พุทธะ? มาร? นี่คือความแข็งแกร่งของพุทธะ? และความแข็งแกร่งของมารอย่างงั้นรึ?

คนสองคนที่สะกัดกั้นยอดเขาบิน,ด้วยตัวคนเดียว,นอกเหนือจากตำแหน่งของพุทธะโหลวฮานแล้ว,ยังมีอีกหลายร้อยตำแหน่งที่ยอดเขาพุ่งลงมา,หล่นลงมากระจายไปทั่ว,หากว่านี้ถูกเล็งไปยังเหล่าผู้ฝึกตนต่างๆทั่วทั้งเทือกเขาต้าหยินล่ะก็,คาดไม่ถึงเลยว่าจะมีคนอื่นๆที่แอบเข้ามามากมายขนาดนี้.

"นานแล้วไม่เคยเห็นเซียนเซิงลงมือ,นับว่าเซียนเซิงยังทรงพลังไม่เปลี่ยนแปลง."กงจูเฉียนโหยวที่ถอนหายใจเบาๆ.

"กงจู,ยกย่องเกินไปแล้ว."เซียนเซิงสุ่ยจิงที่ส่ายหน้าไปมาแสดงท่าทางถ่อมตัว.

"เฮ้,ทรงพลังมาก,ยอดเขาเหล่านั้นมันมาจากใหนกัน?"กู่หลินที่ตะโกนออกไปเสียงดัง,ใบหน้าที่แสดงท่าทางประหลาดใจ.

"น่าจะเป็นฝีมือของจักรพรรดิต้าเย่,ที่ลงมือ."สายตาของกงจูเฉียนโหยวที่หรี่เล็กแสดงท่าทางจริงจัง.






ที่มาจากhttps://lnmtl.com/novel/immortality

#นิยาย เรื่องอมตะ #Immortality#นิยายแปลไทย
Author(s)


สนใจสนับสนุนพวกเรา,เข้าร่วมกลุ่ม VIP ====> Click

***เว็ปฟรีอัพ สองวันหนึ่งตอน
***กลุ่มลับ อัพ 2-3 ตอนต่อวัน.

 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น