วันศุกร์ที่ 25 มกราคม พ.ศ. 2562

Immortality Chapter 189 The rain has turned over to the idea of nest empty city

Immortality Chapter 189  The rain has turned over to the idea of nest empty city

นิยาย เรื่อง อมตะ  Chapter 189  The rain has turned over to the idea of nest empty city

过归巢空城之
  รอฝนหยุดตก,ค่อยหวนคืนรัง,กลยุทธ์เมืองร้าง.
 กลยุทธ์เมืองร้าง คือกลยุทธ์ที่ใช้เมือฝ่ายจนอ่อนแอกว่าจึงเปิดเมืองให้ศัตรูเห็นว่าในเมืองเป็นเมืองร้างว่างเปล่าไม่มีผู้ใดอยู่ หากศัตรูช่างระแวงอยู่แล้ว,การกระทำเช่นนี้จะย่ิงทำให้อีกฝ่ายระแวงมากขึ้น,กลัวว่าในเมืองจะมีทหารซุ่มโจมตีอยู่ หากเข้าเมืองไปอาจถูกปิดล้อม,ทำให้ศัตรูไม่กล้าบุก.


"ราชวงศ์จักรพรรดิต้าเย่,ทุ่มกำลังทั้งหมด,เพื่อกำจัดสำนักต่างๆอย่างงั้นรึ?ไม่มีใครเหลือเลยรึ?"กงจูเฉียนโหยวสอบถาม.


"พวกเขานำกองกำลังจัดการกับทุกสำนัก,ทว่าไม่ใช่ว่าไม่เหลือ,ตราบเท่ายอมแพ้,หรือยอมให้จับกุมผู้ฝึกตน,พวกเขาจะคุมขังเหล่าผู้ฝึกตนทั้งหมดเอาไว้."หลิวสุ่ยเฟิงที่ขมวดคิ้วขณะพูด.

"จับกุมอย่างงั้นรึ?"กงจูเฉียนโหยวที่สอบถามออกมาด้วยความสงสัย.

"ใช่แล้ว,พวกเขาจับกุมผู้ฝึกตนทั้งหมดไป,ไม่มีใครรู้ว่าราชวงศ์จักรพรรดิต้าเย่ต้องการทำอะไร,หากตามที่อาวุโสกล่าว,เพื่อตราลัญจกรหยกราชวงศ์สวรรค์แล้ว,พวกเขาก็เพียงแค่ไล่ล่าสังหารคนไปทั้งหมด,ไม่น่าที่จะจับกุมคนเป็นจำนวนมากไปเลย.

"วูซซ."ในเวลาเดียวกัน,ที่ด้านนอกตำหนักยวีเหิงก็ปรากฏใครบางคนก้าวเข้ามา.

ดูเหมือนกับชายชราคนหนึ่ง.

"ผู้พิทักษ์สำนัก,คารวะอาวุโส."ชายชราที่เข้ามาในห้องโถงกล่าวออกมาในทันที.

ผู้พิทักษ์สำนักยวีเหิงอย่างงั้นรึ?

"ผู้พิทักษ์สำนัก?ท่านกลับมาเมื่อไหร่รึ?"กงจูเฉียนโหยวที่สอบถามออกมา.

เกี่ยวกับเรื่องภายในสำนักนั้น,หากว่ามีเรื่องใหญ่เกิดขึ้น,จำเป็นต้องมีอาวุโสเป็นที่ปรึกษาตัดสินใจ,ซึ่งผู้พิทักษ์ขุนเขาและผู้พิทักษ์สำนักต่างก็ปรากฏตัวขึ้นมา,ตอนนี้ปรากฏตัวเพียงแค่ผู้พิทักษ์สำนัก,อธิบายได้ว่าเขาเพิ่งกลับมาจากข้างนอกได้ไม่นาน.

"ขณะที่ข้ากลับมานั้น,เพิ่งเห็นหมาป่านับหมื่นถอนกำลังไป,ต้องขอขอบคุณอาวุโส,ข้าตอนนี้เพิ่งกลับมาจากทิศเหนือจากการสำรวจสำนักทั้งแปดที่ถูกกำจัดไป."ผู้พิทักษ์สำนักที่กล่าวออกมาทันที.

"ผู้พิทักษ์สำนักนั้น,ได้ออกไปสอดแนมความเป็นไปของราชวงศ์จักรพรรดิต้าเย่."หลิวสุ่ยเฟิงที่ตอบกลับมาในทันที.

ได้ยินคำอธิบายจากหลิวสุ่ยเฟิงแล้ว,กงจูเฉียนโหยวก็พยักหน้าให้.

"ที่ด้านนอกสถานการณ์เป็นอย่างไรบ้าง?"กงจูเฉียนโหยวกล่าว.

"ราชวงศ์จักรพรรดิต้าเย่,ตอนนี้ได้กำลังบุกสำนักทั่วทุกแห่งของเทือกเขาต้าหยิงไปหมดแล้ว,ทุกสำนักถูกจัดการเกือบหมดแล้ว,ตลอดทั้งยังรวบรวมเหล่าศพที่ตายไป,นำไปแช่ในแท่งน้ำแข็งอีกด้วย."ผู้พิทักษ์สำนักกล่าว.

"พวกเขากำลังรวบรวมศพอยู่อย่างงั้นรึ?แช่ในแท่งน้ำแข็ง? ราชวงศ์จักรพรรดิต้าเย่ต้องการทำอะไร?"หลิวสุยเฟิงที่แสดงท่าทางประหลาดใจ.

"ก่อนหน้านี้ 16 ชั่วโมง,กองทัพของราชวงศ์จักรพรรดิต้าเย่ได้ทำการทำลายล้างสำนักหนิงโหยว,ซึ่งสำนักหนิงโหยวนั้นมีศิษย์อยู่ 500 คน,ถูกสังหารไป 300 คน,และศพถูกนำไปแช่ในแท่งน้ำแข็ง,ส่วนศิษย์ที่เหลืออีก 200 คน,ถูกผนึกแกนแท้,และนำไปคุมขัง,ข้าไม่รู้เช่นกันว่าพวกเขาต้องการทำอะไร,ทว่าจากการคาดเดาแล้ว,อีกสามวัน,กองกำลังของพวกเขาจะต้องเคลื่อนมายังสำนักยวีเหิงอย่างแน่นอน."ผู้พิทักษ์สำนักกล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงที่เคร่งขรึม.

"สามวันอย่างงั้นรึ? สามวันจะเดินทางมาถึงอย่างงั้นรึ?"ใบหน้าของหลิวสุ่ยเฟิงที่แสดงท่าทางเป็นกังวล.

"ใช่แล้ว,อย่างช้าที่สุดคือสามวัน."ผู้พิทักษ์สำนักกล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงจริงจัง.

"ก่อนหน้านี้ 16 ชั่วโมง,พวกเขาได้กำจัดสำนักทั้งหมด,กองกำลังของราชวงศ์จักรพรรดิต้าเย่,จับกุมและสังหารเหล่าศิษย์ทั้งหมด,ทุกคนในสำนักทั้งหมดเลยรึ?"เซียนเซิงสุ่ยจิงที่สอบถามออกมาด้วยความสงสัย.

"ไม่ใช่ทั้งหมด,พวกเขาเก็บศพและจับกุม เฉพาะคนที่สำคัญๆเท่านั้น."ผู้นำสำนักกล่าวตอบ.

"กองกำลังของฝ่ายตรงข้ามมีความแข็งแกร่งขนาดใหน?"กงจูเฉียนโหยวสอบถาม.

"ราชวงศ์จักรพรรดิต้าเย่นั้นมีประวัติศาสตร์หลายพันปี,แม้ว่าจะเป็นเพียงราชวงศ์จักรพรรดิก็ตาม,ทว่าความแข็งแกร่งนั้นไม่ธรรมดาเลย,และยังได้รับการสนับสนุนจากสำนักใหญ่,มีเขตแดนเป็นพื้นที่ทิศตะวันออกทั้งหมดของขุนเขาต้าหยิน,ดังนั้น,จึงมีกองกำลังหทารมากมาย,ราชวงศ์จักรพรรดิต้าเย่นั้นมีพื้นที่ใหญ่ห้าดินแดน,พวกเขาได้ยกกองกำลังใหญ่สี่ดินแดนออกมา,แม่ทัพใหญ่สี่คน,ทุกคนล้วนแล้วแต่เป็นผู้ฝึกตนระดับหลอมกายธาตุ,และยังมีผู้ฝึกตนระดับก่อตั้งวิญญาณอีกมากมาย,มีกองกำลังระดับแกนทองสามหมื่น,สามารถกำจัดสำนักเล็กๆได้พริบตาเดียว."ผู้พิทักษ์สำนักกล่าว.

"30,000 ?"กู่หลินที่แสดงท่าทางเหยียดหยัน,เห็นชัดเจนว่าเขาดูถูกกองกำลังดังกล่าว.

เห็นท่างของกู่หลินแล้ว,จงซานถึงกับพูดไม่ออกทีเดียว,คนผู้นี้ซื่อบื้อเกินไปแล้ว!
草包 cǎobāo ถุงที่สานด้วยฟางข้าว อุปมาว่า คนที่ไร้ความสามารถ ซื่อบื้อ

"กับทหารระดับสูงเช่นนี้,เห็นได้ชัดเจนว่าพวกเขาไม่ได้ดูเร่งรีบนัก,ทั้งที่สำนักทั่วไปถึงร่วมมือกันก็ยากที่จะต้านทาน,แต่พวกเขากับค่อยๆทำลายสำนักทีละแห่งๆไป."กงจูเฉียนโหยวที่ขมวดคิ้วไปมา.

"อืม กองกำลังขนาดใหญ่เช่นนี้,หากว่าพวกเขาเคลื่อนที่เข้าใกล้สำนักยวีเหิง,ดูเหมือนว่าจะน่าพรั่นพรึงยิ่งกว่าภัยพิบัติหมาป่าล้อมสำนักอีก."เซียนเซิงสุ่ยจิงพยักหน้า.

"มีอะไรต้องกลัว,ในเมื่อข้าและเฉียนโหยวอยู่ที่นี่,ก็แค่เพียงราชวงศ์จักรพรรดิ,แน่นอนย่อมไม่กล้าเข้ามาจัดการสำนักยวีเหิง,เฉียนโหยวที่เป็นกงจูราชวงศ์สวรรค์ต้าโหลว,ถึงแม้ว่าจะเป็นข้า,พวกมันกล้าล่วงเกินอย่างงั้นเหรอ."กู่หลินที่กล่าวออกมาด้วยความมั่นใจ.

ทว่าจงซาน,เซียนเซิงสุ่ยจิงและกงจูเฉียนโหยวถึงกับตะลึงงันไปเหมือนกัน,คิดจะข่มขู่พวกเขาด้วยสถานะอย่างงั้นรึ?

"ซือจื่อ,ราชวงศ์จักรพรรดิต้าเย่นั้น,ไม่ได้เป็นผู้ใต้บังคับบัญชาของราชวงศ์สวรรค์ต้าโหลว,การจะใช้สถานะกดดันพวกเขานั้นไม่สามารถทำได้,นอกจากนี้ในครั้งนี้พวกเขายังเคลื่อนไหวด้วยเรื่องบางอย่าง,ไม่สนใจสถานะของพวกเราอยู่แล้ว,อีกอย่างการเคลื่อนไหวครั้งนี้พวกเขาก็ทำลายหลักฐานและพยานกำจัดศพ,ไม่มีหลักฐานเหลือแม้แต่น้อย."เซียนเซิงสุ่ยจิงที่ส่ายหน้าไปมา.

"เอ๋? แล้วจะทำอย่างไรดี? สุ่ยจิง,สุ่ยจิงรีบหาวิธีแก้ไขเร็วเข้า."กู่หลินที่ได้ยินคำพูดของสุ่ยจิงก็รู้สึกประหลาดใจ,ก่อนที่จะเปลี่ยนเป็นหวาดผวาไปในทันที.

เห็นท่าทางของกู่หลินแล้ว,เซียนเซิงสุ่ยจิงที่ได้แต่ฝืนยิ้มออกมา.

"ภัยพิบัติในครานี้,ก็ไม่ได้ด้อยไปกว่าภัยพิบัติหมาป่านับหมื่น,เซียนเซิง,ท่านสามารถต่อรองกับพวกเขาได้หรือไม่?"กงจูเฉียนโหยวจ้องมองไปยังจงซาน.

ในครานี้,กงจูเฉียนโหยวที่เรียกจงซานว่าเซียนเซิงตรงๆ,ซึ่งก่อนหน้านี้นางยังคงปิดบังสถานะของเขาอยู่จึงไม่ได้กล่าว,เซียนเซิงสุ่ยจิงที่รับรู้เรื่องนี้อยู่แล้ว,ทว่ากู่หลินนั้นถึงกับจ้องมองตาโตแสดงท่าทางสงสัยอย่างหนัก.

จงซานที่เผยยิ้มออกมาอย่างข่มๆแล้วกล่าวอกมาว่า,"การต่อรองกับสัตว์อสูรนั้น,ไม่ใช่การต่อรอง,ทว่าเป็นเพียงการแก้ปัญหา,ทำให้สามารถคว้าโอกาสนั่นได้,ทว่ากองกำลังราชวงศ์จักรพรรดิต้าเย่นั้นดุจดั่งผ่าไม้ไผ่,เมื่อปล้องแรกๆแตกปล้องอื่นๆข้างล่างก็จะแยกแตกออกตามคมมีด,พวกเขาต้องการไล่ล่าสังหารและจับคนของทุกสำนักที่อยู่รอบๆ,มีสำนักมากมายถูกสังหารและถูกจับไม่มีเหลือ,เห็นได้อย่างชัดเจนว่านี้คือแผนการหนึ่งของราชวงศ์จักรพรรดิต้าเย่,เป็นแผนการที่ต้องการซ่อนสถานที่ลับ,ไม่สามารถเอามาเทียบกับหมาป่านับหมื่นได้,การจะเจรจากับพวกเขาจึงนับว่าเป็นเรื่องยาก,แทบจะไม่มีโอกาสสำเร็จเลย."

กงจูเฉียนโหยวที่สูดหายใจยาวคิดว่ามันเป็นเรื่องที่วิกฤติทีเดียว.

"เช่นนั้นคงจำเป็นต้องหาวิธีอื่นแล้ว."กงจูเฉียนโหยวกล่าว.

ในเวลานี้,ทุกคนต่างก็เงียบงัน,ทุกคนที่จ้องต้องคิดใคร่ครวญว่าควรจะจัดการกับสถานการณ์อย่างไร,หลังจากนี้สามวัน,กองกำลังทหารของราชวงศ์จักรพรรดิ์ต้าเย่จะต้องเคลื่อนที่มาถึงสำนักยวีเหิง,แน่นอนว่าพวกเขาคงจะไล่ล่าสังหารคนทั้งหมด,ถึงแม้ว่าจะยอมแพ้ก็ตาม,ก็ยังจำกัดจำนวน,คนที่อ่อนแอก็จะถูกสังหารทั้งหมดเช่นกัน.

ควรทำอย่างไรดี?

จงซาน,สุ่ยจิงและเฉียนโหยว,คนทั้งสามที่กำลังครุ่นคิด,ซึ่งไม่มีคนกล้ารบกวน,คนสามคนที่มีเชาว์ปัญญาที่น่าพรั่นพรึงจะต้องหาคำตอบได้อย่างแน่นอน.

กู่หลินที่จ้องมองไปยังกงจูเฉียนโหยว,สายตาที่เย็นชากวาดตามองไปยังจงซาน,และตั้งความหวังเมื่อมองมายังสุ่ยจิง.

คนทั้งสามที่ครุ่นคิด,กับแผนการที่จะรับมือในครั้งนี้,ทุกคนที่กำลังจ้องมองไปยังพวกเขาด้วยท่าทางคาดหวัง.

"สุ่ยจิง,เจ้ามีวิธีการใดรีบกล่าวออกมเร็วเข้า."กู่หลินที่เร่งรีบกล่าวออกมาในทันที.

ราวกับกลัวว่าจงซานจะสามารถหาวิธีการได้ก่อน.

กงจูเฉียนโหยวที่จ้องมองไปยังกู่หลิน,พลางขมวดคิ้วเล็กน้อย,ทว่าจงซานที่เผยยิ้มออกมาอย่างนุ่มนวล,กู่หลินผู้นี้,แท้จริงแล้วเป็นคนที่โง่เง่าเป็นอย่างมาก.

เซียนเซิงสุ่ยจิงที่ส่ายหน้าฝืนยิ้มออกมา.

"เซียนเซิงสุ่ยจิง,ในเมื่อกู่หลินกล่าวว่าเจ้ามีวิธีก็กล่าวออกมาเถอะ."กงจูเฉียนโหยวที่เผยยิ้มจ้องมองไปยังเซียนเซิงสุ่ยจิง.

"ใช่ๆ,มีอะไรไม่รีบพูดมาล่ะ?"กู่หลินที่ขมวดคิ้วบ่นออกมาทันที.

เซียนเซิงสุ่ยจิงที่ฝืนยิ้มออกมา,กล่าวออกมาเล็กน้อย,"กองกำลังของราชวงศ์จักรพรรดิต้าเย่นั้นจะมาถึงหลังจากนี้สามวัน,ทุกคนในสำนักยวีเหิงต้องตายอย่างไม่ต้องสงสัย,ยากที่จะสามารถต่อต้านได้,มีเพียงแค่อย่างเดียวเท่านั้นเวลานี้,คือจะต้องละทิ้งสำนักแล้วจากไป."

"ละทิ้งสำนัก?"ใบหน้าของหลิวสุ่ยเฟิงที่ขมวดคิ้ว.

ภายในใจของหลิวสุ่ยเฟิงนั้นสั่นไหว,ที่นี่คือบ้านของพวกเขา,จะบอกให้ล่ะทิ้งไปได้อย่างไร? นอกจากสำนักยวีเหิงนั้น,การจะย้ายสำนักยวีเหิงไม่ได้ง่ายขนาดนั้น,สถานที่แห่งนี้เป็นจุดสำคัญเป็นหนึ่งในศาลเจ็ดดาว,เป็นหนึ่งในจุดดาวที่อยู่ในดินแดนทวีปศักดิ์สิทธิ์.

" รอฝนหยุดตก,ค่อยหวนคืนรัง,กลยุทธ์เมืองร้างอย่างงั้นรึ?"กงจูเฉียนโหยวที่เผยยิ้มออกมา,ทว่าจงซานที่อยู่ข้างๆก็พยักหน้าให้.

"พวกเราจะต้องจากสำยวีเหิงไปอย่างงั้นรึ?"หลิวสุ่ยเฟิงที่ขมวดคิ้วสอบถามออกมา.

"ไม่ได้จากไป,ทว่าเพียงแค่ปลดค่ายกลของสำนักยวีเหิงออก,พร้อมกับเตรียมตัวจากไป,ไม่ใช่สิ,น่าจะนำคนไปหลบซ่อน ,ทำให้กองกำลังราชวงศ์ต้าเย่,คิดว่าสำนักยวีเหิงนั้นหวาดกลัวและแตกพ่ายหนีกระจัดกระจายไปแล้ว."เซียนเซิงสุ่ยจิงกล่าว.

"ทว่ากฎเกณฑ์ของสำนักยวีเหิงจะไม่พังทลายอย่างงั้นรึ?"หลิวสุ่ยเฟิงที่เผยสีหน้ากระอักกระอ่วน.

"ใครบอกว่าสำนักยวีเหิงพ่ายแพ้? ราชวงศ์จักรพรรดิต้ายวีนั้น,พวกเขาเพียงต้องการสังหารและจับผู้คน,เมื่อไม่มีคน,พวกเขาจะจับใคร? ไม่ใช่ว่าพวกเขาต้องการจับกุมคนและศพหรอกรึ? เมื่อพวกเขาจากไปหมดแล้ว,จากนั้นพวกเราก็ค่อยกลับมา,ตราบเท่าที่คนของสำนักยวีเหิงยังอยู่,สำนักยวีเหิงก็ยังคงอยู่เช่นกัน."เซียนเซิงสุ่ยจิงกล่าว.

"อืม,แค่อพยพจากไปชั่วระยะเวลาหนึ่งเท่านั้น,ทำไมจะทำไม่ได้ล่ะ?"กงจูเฉียนโหยวที่พยักหน้า.

"แล้วพวกเราจะย้ายคนของสำนักยวีเหิงไปที่ใหนล่ะ?"หลิวสุ่ยเฟิงที่ทอดถอนใจ,พยักหน้ายอมรับหากอาวุโสเห็นด้วยเขายังจะมีอะไรกล่าวอีกล่ะ,มีแต่จะต้องจัดการเท่านั้น.

"แผ่นดินกว้างใหญ่,จะไม่มีที่ซ่อนเลยรึ? เดินทางไปยังทิศตะวันออก,เมื่อเรื่องทุกอย่างจบสิ้นแล้ว,เช่นนั้นค่อยกลับมา."เซียนเซิงสุ่ยจิงกล่าว.

"อืม."หลิวสุ่ยเฟิงพยักหน้า.

ใบหน้าของกู่หลินนั้นแสดงท่าทางพอใจ,ราวกับว่าเขานั้นเป็นคนคิดวิธีดังกล่าวนั่นได้,จ้องมองจงซานด้วยสายตาที่เย้ยหยัน.

จงซานที่เห็นสายตาของกู่หลิน,แทบต้องมองบน,ซื่อบื้อ,ถั่วงอก!
***
翻白眼 fan1 bai2 yan3 ฟาน ไป๋ เหยี๋ยน
แปลว่า พลิก(สิ่งที่เป็นแผ่นๆ เช่น หนังสือ หรือการพลิกลำตัว) กลอก(ดวงตา)
白眼แปลว่า ตาขาว
รวมกันแล้วคือกลอกตาขาวขึ้นบน หรือการมองบน นั่นเอง
***

"เซียนเซิง,ท่านคิดว่าอย่างไร?"กงจูเฉียนที่สอบถามจงซานในทันที.

"ข้าคิดว่าแผนการของเซียนเซิงสุ่ยจิงเป็นเรื่องดีมาก,หลังจากฝนหยุด,ค่อยกลับเข้ารัง,กลยุทธ์เมืองร้าง,ถือว่ายอดเยี่ยม,เพียงแต่ข้าต้องการเสริมอะไรนิดหน่อย,เพื่อที่จะไม่ทำให้เหล่าศิษย์สำนักยวีเหิงเมื่อจากสำนักไปต้องเกิดแผลใจ."จงซานที่คิดใคร่ครวญและกล่าวออกมา.

เพื่อรักษาแผลใจของศิษย์สำนักยวีเหิงอย่างงั้นรึ?ทุกคนต่างก็จ้องมองมายังจงซานด้วยท่าทางแปลกๆ,แผลใจ? เป็นความจริง,ที่นี่ก็เหมือนกับบ้านของศิษย์ทุกคนของสำนักยวีเหิง,เมื่อต้องหลบหนีจากสำนักเพื่อหลีกเลี่ยงสงคราม,ภายในใจย่อมรู้สึกเศร้าและเสียใจอย่างไม่ต้องสงสัย,บางทีแม้แต่คนทั่วไป,การต้องจากบ้านไป,ย่อมไม่สามารถทำได้โดยง่าย,เป็นใครย่อมรู้สึกเสียใจไม่ใช่รึ?แม้ว่าพวกเขาจะไม่เอ่ยออกมา,ทว่าภายในใจต้องรู้สึกขมขื่นอย่างถึงที่สุด.

ทุกคนที่จับจ้องมายังจงซาน.

"ราชวงศ์จักรพรรดิต้าเย่ที่เข้าสังหารทุกคนสำนักต่างๆ,ไม่หยุด,จากสำนักหนึ่งไปยังสำนักหนึ่ง,เต็มไปด้วยความดุร้าย?หนำซ้ำยังเข้ามาปล้นสมบัติทุกอย่างไปจนเกลี้ยง,ซึ่งมีทั้งสิ่งที่นำไปได้และนำไปไม่ได้,เหมืองศิลาวิญญาณที่มีอยู่ตอนนี้,หากว่ามอบให้กับเหล่าศิษย์,สิ่งของเหล่านี้ยังดีกว่าให้คนอื่นนำไป,เมื่อมีการเคลื่อนย้ายสมบัติเล็กๆน้อยไปแล้ว,กองกำลังดังกล่าวก็จะไม่เข้ามาในสำนักทำลายข้าวของ,สมบัติที่เคลื่อนย้ายได้อย่างน้อยก็เพื่อบำรุงขวัญและใช้จ่ายขณะเดินทาง."จงซานที่กล่าวตอบ.

"หืม?"ทุกคนจ้องมองไปยังจงซานด้วยความงงงัน.

กวนน้ำจับปลา,ทว่า คำที่พูดออกมาจากจงซาน,ราวกับว่ามันเป็นความชอบธรรมที่เป็นเหมือนกับเรื่องธรรมดา,หลิวสุ่ยเฟิงที่ไม่สามารถยอมรับได้ชั่วขณะ,ส่วนกู่หลินเองก็กลายเป็นงงงวยด้วยเช่นกัน.
乘火打劫Chéng huǒ dǎjié กวนน้ำจับปลา ความหมายถึงการฉกฉวยยึดเอาผลประโยชน์ของคนอื่นมาขณะเกิดความวุ่นวาย.

มีเพียงแค่กงจูเฉียนโหยวและเซียนเซิงสุ่ยจิงที่พยักหน้า,ภายในดวงตาที่มีแววตาถอนหายใจ.

เซียนเซิงสุ่ยจิงที่คิดถึงแผนการหาเสียงต่างๆที่เกิดขึ้นในเมืองอู๋ซวังขึ้นมาทันที,แผนการที่ไร้ยางอายอย่างไร้เทียมทาน มาจากคนผู้นี้จริงๆ.

กงจูเฉียนโหยวที่ถอนหายใจให้กับจงซาน,คาดไม่ถึงเลยว่าเขาจะเปลี่ยนการตั้งรับเป็นการรุก,เปลี่ยนสถานการณ์ที่ดูยากกลายเป็นนุ่มนวล.ราวกับเป็นเรื่องธรรมดาทั่วไป,สำนักยวีเหิงเอง,ก็ไม่ได้เสียหายแต่อย่างใด,ดังนั้นจึงจำเป็นที่ต้องคว้าผลประโยชน์ไปให้ได้มากที่สุด,อย่างน้อยสำหรับศิษย์ระดับต่ำ,ตราบเท่าที่มีความกล้า,กล้าที่จะฉกฉวย,ไม่เพียงแค่ศิลาวิญญาณเท่านั้น,ยังมีสมบัติวิเศษอีกมากมายนับไม่ถ้วน.

 "เอาล่ะ,ตัดสินใจตามนี้."กงจูเฉียนโหยวที่พยักหน้าเห็นด้วย.




ที่มาจากhttps://lnmtl.com/novel/immortality

#นิยาย เรื่องอมตะ #Immortality#นิยายแปลไทย
Author(s)


สนใจสนับสนุนพวกเรา,เข้าร่วมกลุ่ม VIP ====> Click

***เว็ปฟรีอัพ สองวันหนึ่งตอน
***กลุ่มลับ อัพ 2-3 ตอนต่อวัน.

 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น