วันศุกร์ที่ 25 มกราคม พ.ศ. 2562

Immortality Chapter 183 Starting

Immortality Chapter 183  Starting

นิยาย เรื่อง อมตะ  Chapter 183  Starting

启程
  เริ่มเดินทาง.

เห็นท่าทางของจงเจิ้งแล้ว,จงซานก็รู้สึกพึงพอใจ.

ทว่าคนอื่นๆในเวลานี้กับรู้สึกตื่นเต้นไปด้วย,เพราะจากน้ำเสียงของจงซานแล้ว,ตอนนี้เริ่มตั้งเป้าหมายไปที่ทวีปศักดิ์สิทธิ์แล้ว.



"เรื่องของจงเจิ้งให้จงเจิ้งจัดการ,ทว่าเรื่องของพวกเจ้า,ตอนนี้ดินแดนภาคใต้ถูกรวมไปเรียบร้อยแล้ว,เช่นนั้น,พวกเรากำลังเล็งไปยังดินแดนภาคเหนือของเกาะหมาป่าสวรรค์."จงซานกล่าว.

"กูเหยี่ยเยี่ย,เตรียมที่จะรวบรวมดินแดนทุกอย่างของเกาะหมาป่าสรรค์แล้วอย่างงั้นรึ?"หยิงหลานถาม.

"ภาคเหนือเกาะหมาป่าสวรรค์นั้น,มีราชวงศ์จักรพรรดิหยินเยว่,และอีกสามราชวงศ์กษัตริย์,ตอนนี้อยู่ในสภาวะถดถอย,เจ้าจงเร่งรีบสั่งสมพลัง,เมื่อมีพลังเพียงพอ,พวกเราจะตัดสินเป็นตายกับอาณาจักรทั้งสี่,ท้ายที่สุด,ต้าเจิ้งของข้า,ก็จะกลายเป็นผู้พิชิตเกาะหมาป่าสวรรค์และกุมอิทธิพลทั้งหมดเอาไว้."จงซานกล่าว.

"กุมอิทธิพลทั้งหมด?ทางด้านทิศตะวันตกของเกาะหมาป่าสวรรค์มีสำนักต่างๆมากมาย?"หยิงหลานกล่าว.

"เฮ้เฮ้,พวกเขาจะยินดีเข้าร่วมกับราชวงศ์กษัตริย์ต้าเจิ้งนั่นคือทางเลือกที่ดีที่สุด,หากไม่ยินดี,พวกเขายังจะสามารถพักผ่อนอย่างสบายใจในสำนักได้อย่างงั้นรึ? มีเพียงแต่ต้องย้ายหนีออกไปยังที่อื่น,เมื่อถึงเวลานั้นพวกเราก็จะก้าวไปยังทวีปศักดิ์สิทธิ์."จงซานที่กล่าวออกมาด้วยรอยยิ้ม.

จงซานที่กล่าวเหมือนเป็นเรื่องธรรมดาทั่วไป,ทุกคนเองก็ฟังด้วยความรู้สึกปกติ,ทว่าหากเรื่องนี้กระจายไปทั่วแล้วล่ะก็,แน่นอนว่าเพียงแค่ไม่กี่วันคงจะวุ่นวายโกลาหลและถูกส่งไปยังสำนักเซียนเกือบทุกที่และราชวงศ์ต่างๆทั่วทางภาคเหนืออย่างแน่นอน.

"หยิงหลาน, ค่ายกลแปดประตูกุญแจทองของเจ้า,เป็นอย่างไรบ้าง? เมื่อครั้งนั้นไท่ซูจื่อเพียงแค่คนเดียวยังสามารถกักผู้ฝึกตนกว่าพันคนได้อย่างชะงัด."จงซานเอ่ย.

"กู่เหยี่ยเยี่ย,โปรดวางใจ ค่ายกลแปดประตูกุญแจทองในเวลานี้,แม้แต่ผู้ฝึกตนระดับก่อตั้งวิญญาณเข้ามา,ก็ต้องตายอย่างไม่ต้องสงสัย."หยิงหลานที่กล่าวออกมาอย่างมั่นใจ.

"อืม,หากเป็นเช่นนี้แล้วล่ะก็,เจ้าก็ต้องเตรียมตัวให้พร้อม,และฝึกฝนไปให้ถึงระดับก่อตั้งวิญญาณ,ศัตรูจึงจะได้ตายอย่างไม่ต้องสงสัย."จงซานที่กล่าวออกมาด้วยรอยยิ้ม.

ได้ยินคำพูดของจงซานแล้ว,ใบหน้าของหยิงหลานที่ซีดลง"กู่เหยียเยี่ยใช่ว่าทุกคนจะมีความสามารถต่อต้านสวรรค์เช่นท่านได้,พลังฝึกตนของพวกเราและข้าตอนนี้อยู่ในระดับเซียนเทียน,ไม่ได้คิดที่จะมีพลังขนาดนั้น,หากสามารถก้าวไปถึงระดับแกนทอง,ก็นับว่าดีเยี่ยมแล้ว,มีเหรอที่จะมุ่งหวังว่าจะก้าวไปถึงระดับก่อตั้งวิญญาณ."

"ฮ่าฮ่า,เจ้าสามารถก้าวไปถึงได้แน่."จงซานที่กล่าวออกมาด้วยรอยยิ้ม.

"หลินเซียว,เจ้าจงพยายามฝึกฝนมือธนูเอาไว้,ให้พวกเขาเตรียมพร้อม,อีกไม่กี่ปี่หลังจากนี้,ข้าจะเปลี่ยนให้กองกำลังต้าเจิ้งของพวกเราใช้ศรปราณทะลวง,หากว่ามีอาวุธเช่นนั้นแล้วล่ะก็,แม้แต่ผู้ฝึกตนก่อตั้งวิญญาณ,ก็ยากที่จะหนีพ้น."จงซานกล่าว.

"ครับ."หลินเซียวที่พยักหน้าตอบรับในทันที.

"ไท่จง,แท่นบูชาสวรรค์ ให้เจ้าเป็นคนจัดการ,เตรียมมันให้พร้อม."จงซานที่กล่าวต่อเหว่ยไท่จง.

"ครับ."เหว่ยไท่จงพยักหน้า.

แท่นบูชาสวรรค์,ก็คือสิ่งก่อสร้างรองรับวาสนาตาม"แปลนศาลสวรรค์"แน่นอนว่านับเป็นสิ่งสำคัญสำหรับจงซาน.

จากนั้น,จงซานที่มอบหมายงานให้กับทุกคน,ภายใต้สายตาของหยิงหลานที่ตัดใจไม่ลง,ก่อนที่ทุกคนจะแยกย้าย.

ในห้องโถงหลักเวลานี้,มีเพียงร่างแยกจงซานและเชวียนเป่าเอ๋อสองคน.

"อันหวง."จงซานที่เอ่ยออกมา.

จากมุมมืด,ร่างเงาที่ค่อยๆปรากฏขึ้นมาช้าๆ.

"ครับ,เหนือหัว,"อันหวงที่กล่าวออกมาในทันที.

จงซานที่จ้องมองไปยังอันหวงเผยยิ้มออกมาอย่างนุ่มนวล."คาดไม่ถึงเลยว่าพลังฝึกตนของเจ้าจะรวดเร็วขนาดนี้,ไม่คิดว่าจะก้าวไปถึงระดับแกนทองแล้ว,ทว่า,นี่ก็ถือว่ายอดเยี่ยม,เมื่อเจ้าไปถึงระดับแกนทอง,ข้าก็รู้สึกวางใจมาก,นอกจากนี้เจ้ายังเคลื่อนไหวได้อย่างรวดเร็วในเงามืด."

"ขอบคุณเหนือหัว."อันหวงที่เอ่ยตอบรับ.

"ในเวลานี้,ให้ส่งองค์รักษ์เงา,ไปลอบโจมตีคนสำคัญของราชวงศ์จักรพรรดิหยินเยว่และสามราชวงศ์กษัตริย์ทั้งสามทางภาพเหนือ,เปิดทางให้ข้าบุกเบิกดินแดนใหม่."จงซานเอ่ย.

"ครับ."อันหวงกล่าวตอบรับ.

"อืม,แต่มีคนผู้หนึ่ง,พวกเจ้าต้องระวังเป็นพิเศษ,."จงซานที่คิดใคร่ครวญและกล่าวออกมา.

"ใครกันรึ?"อันหวงกล่าว.

"เขามีนามว่าเซียนเซิงซือ,ของราชวงศ์จักรพรรดิหยินเยว่,เมื่อองค์รักษ์เงาไปถึงแล้ว,ให้พวกเขาสอดแนมคนผู้นี้เอาไว้,คนผู้นี้มีวิชาที่ไม่ธรรมดา."จงซานที่กล่าวบอก.

"เขามีวิชาที่ไม่ธรรมดาอย่างงั้นรึ?"อันหวงที่กล่าวออกมาด้วยความสงสัย.

"อืม,ข้าได้เจอคนผุ้นี้อยู่หลายครั้ง,แม้ว่าคนนี้จะทำงานให้กับราชวงศ์จักรพรรดิหยินเยว่,ทว่าดูเหมือนว่าเขาจะมีเบื้องหลังไม่ธรรมดา,ไม่ได้รับใช้ราชวงศ์จักรพรรดิหยินเยว่แต่อย่างไร,นอกจากนี้เขายังมีวิชาทีแปลกประหลาด,จงระวังเอาไว้ให้ดี."จงซานที่กล่าวออกมาอย่างเคร่งขรึม.

"เป็นวิชาอะไรอย่างงั้นรึ?"อันหวงสอบถาม.

"ควบคุมเจียงซือ."จงซานตอบ.

"ควบคุมเจียงซืออย่างงั้นรึ?"อันหวงที่กล่าวออกมาด้วยความประหลาดใจ.

"อืม,เขาสามารถควบคุมเจียงซือได้เป็นจำนวนมาก,และยังเป็นเจียงซือที่น่าเกรงขามมาก,ไมเพียงแต่สามารถบินได้,ทว่ายังสามารถดำดินได้อีกด้วย,หากว่าพบกับคนผู้นี้แล้ว,ระวังตัวเอาไว้."จงซานกล่าว.

"ครับ."อันหวงที่ตอบรับในทันที.
.......

หกเดือนหลังจากนั้น,ทวีปศักดิ์สิทธิ์,เมืองอู๋ซวัง,เกาะลอยฟ้าของจงซาน.

จงซานในห้องฝึกฝน.

ห้องฝึกนั้นเต็มไปด้วยปราณสายฟ้ามากมาย,เพราะว่าได้มีการวางค่ายกลสายฟ้าเอาไว้,ทำให้เต็มไปด้วยปราณสายฟ้า.

ภายในห้องฝึกฝนนั้น,มีกระแสไฟฟ้าแล่นแปบๆ,สว่างวาบเป็นระยะ,ดูน่าหวาดกลัวเป็นอย่างมาก.

ภายนอกห้องนั้น,กงจูเฉียนโหยวสวมชุดสีม่วงแบบบุรุษ,มือของนางถือพัด,ขมวดคิ้วจ้องมองไปยังสายฟ้าที่ลั่นแปบๆ,ยืนอยู่ข้างๆอาต้าและอาเอ้อ,ซึ่งสีหน้าของทั้งสองคนเผยท่าทางเป็นกังวลอยู่.

"กงจู."อาต้าที่ขมวดคิ้วไปมา.

"มีอะไรอย่างงั้นรึ?"กงจูเฉียนโหยวที่จ้องมองไปยังห้องสายฟ้า,พร้อมถามออกมา.

"เซียนเซิงที่ฝึกวิชาเช่นนี้?กับสายฟ้ามากมายขนาดนี้,เซียนเซิงจะสามารถทนได้อย่างงั้นรึ?"อาต้าที่กล่าวออกมาด้วยความเป็นกังวล.

"หากเป็นคนทั่วไปย่อมไม่สามารถทนได้,ทว่าเซียนเซิงนั้นแตกต่างออกไป.เซียนเซิงเป็นคนที่เหนือกว่าคนทั่วไป,ไม่เช่นนั้นเจ้าคิดเหรอด้วยพรสวรรค์ทางร่างของเขา,เพียงแค่เก้าปี,ในเกาะหมาป่าสวรรค์ที่ห่างไกล,จากระดับสี่เซียนเทียนจะก้าวไปถึงระดับแกนทองได้?ด้วยเชาว์ปัญญาที่หายากเช่นนั้น,เป็นเรื่องธรรมดา,ที่พรสวรรค์ทางร่างกายถึงไม่สามารถขวางเขาได้,เขาต้องสามารถทำได้แน่."กงจูเฉียนโหยวที่สะบัดพัดไปมา.

"ทว่า,ด้วยสายฟ้ามากมายขนาดนี้,อาจจะสังหารเขาได้นะ."อาต้าที่กล่าวด้วยความกังวล.

"เฮ้ เฮ้,เซียนเซิงมีเชาว์ปัญญามากว่าเจ้า,ทำไมเขาจะไม่ได้คิดเอาไว้ก่อนล่ะ? เจ้าไม่มีความจำเป็นต้องเป็นกังวล,คิดว่าสายฟ้าที่มีนี้จะสังหารเซียนเซิงได้อย่างงั้นรึ? นอกจากนี้,เซียนเซิงย่อมมีวิธีในการต้านทาน,ที่เจ้าไม่รู้."กงจูเฉียนโหยวที่หรี่ตาจ้องมองห้องสายฟ้า.

"ครับ,อาต้าทราบแล้ว."อาต้าที่กล่าวออกมาในทันที.

"เฮ้เฮ้,อาต้าดูเหมือนว่าเจ้าจะเป็นห่วงเซียนเซิงเป็นพิเศษนะ."กงจูเฉียนโหยวที่ขมวดคิ้วขณะพูด.

"อาต้าภัคดีต่อกงจูตลอดไป,เพียงแต่เมื่อเร็วๆนี้,ขณะที่เป็นคู่มือฝึกฝนให้กับเซียนเซิง,เซียนเซิงได้แนะนำอะไรหลายอย่างทำให้ข้าได้รับประโยชน์ไม่น้อย,ดังนั้นจึงรู้สึกซาบซึ้ง."อาต้าที่กล่าวออกมาในทันที.

"อืม,เซียนเซิงเป็นคนที่ระเอียดรอบครอบ,เกี่ยวกับความแข็งแกร่งของเจ้า,สามารถที่จะรีดเร้นพลังออกมาได้จนถึงจุดสูงสุด,แน่นอนสิ่งเหล่านี้เจ้าจึงไม่เคยเห็นมาก่อน."กงจูเฉียนโหยวพยักหน้า.

ขณะที่อาต้ากำลังจะกล่าวอะไรออกมา,ทันใดนั้นคนทั้งสามก็หันหน้าจ้องเขม็งไปยังทิศทางของห้องสายฟ้าไปพร้อมๆกัน.

"ย๊ากๆๆ!"

ภายในห้องสายฟ้านั่น,ได้ยินเสียงคำรามของจงซานดังออกมาในทันที.

ใบหน้าของกงจูเฉียนโหยวที่เผยยิ้มไปมา,ยกมือขึ้นปิดสายฟ้าสีน้ำเงินที่แผ่ออกมาจากภายในห้องสายฟ้าดังกล่าว.

แสงสีน้ำเงินที่แผ่ออกมาจากภายในห้องสายฟ้า,ปกคลุมทั่วบริเวณอยู่ชั่วครู่ก่อนที่จะหายไป,ก่อนที่ศิลาสีดำทั่วห้องจะหลายเป็นดำมืด,และมีอักษรรูนมากมายที่ลั่นแปบๆจากที่เคยสว่างจ้า,จากนั้นก็ค่อยๆจางลงอย่างรวดเร็ว.

"เซียนเซิงทะลวงผ่านระดับแล้ว,เขาก้าวไปยังระดับแกนทองขั้นสามแล้ว."อาต้ากล่าวออกมาด้วยรอยยิ้ม.

"เข้าไปถึงที่ซึ่งอันตรายที่สุดแล้วจะรอด***,นี่คือวิชาที่น่าสะพรึงกลัวจริงๆ,ยากจะได้เห็น."กงจูเฉียนโหยวพยักหน้าพร้อมรอยยิ้ม.
***至于死地而后生Zhìyú sǐdì ér hòushēng สิ้นอายุขัยกลับสู่ผืนดินแล้วเกิดใหม่จากผืนดิน
....
จากนั้นเวลาก็ผ่านไปอีกสิบวัน.

ทางทิศใต้เมืองอู๋ซวัง ระยะทาง 80,000 ลี้.

บนเมฆสีขาว,มีคนยืนอยู่หกคน,และยังมีผู้คุ้มกันอีกกลุ่มหนึ่งบนกระบี่เหินและเมฆสีขาวตามมาด้วย.

จงซาน,กงจูเฉียนโหยว,เซียนเซิงสุ่ยจิง,กู่หลิน,อาต้า,และอาเอ้อและ,คณะทูต,เหล่าองค์รักษ์หลวงกว่าร้อยคนที่ตามมาคุ้มกัน.

ในเวลานี้,คนกว่าร้อยคน,เดินทางเข้ามาในดินแดนของราชวงศ์ราชันย์ต้ายวี.

"เฉียนโหยว,ทำไมจงซานถึงมายืนอยู่ข้างๆอ้าต้าและอาเอ้อล่ะ?"กู่หลินที่อยู่ข้างๆจับจ้องมองไปยังจงซานด้วยท่าทางไม่สบอารมณ์.

"เขาคือองค์รักษ์ของข้า,แน่นอนว่าต้องอยู่ข้างกายข้า,"กงจูเฉียนโหยวสายตาขุ่นเคืองมองกลับไป.

"เขามีระดับแกนทอง,เขาไม่คู่ควร..."กู่หลินที่ขมวดคิ้วและกล่าวออกมาอีกครั้ง.

"กู่หลิน,ข้าจะบอกเจ้าอีกครั้ง,เรื่องของข้า,ไม่จำเป็นให้เจ้ามาจัดการ,ข้าจะใช้คนเช่นไรไม่จำเป็นต้องรายงานเจ้า."กงจูเฉียนโหยวที่กล่าวตัดบทในทันที.

"ข้าไม่พูดก็ได้."กู่หลินที่ทำเป็นไม่รู้ไม่เห็น,แต่สายตาของเขาที่จ้องมองไปยังจงซาน,แสดงท่าทางไม่พอใจเป็นอย่างมาก,เห็นได้อย่างชัดเจนว่ากงจูเฉียนโหยวสนับสนุนเขาเป็นอย่างดี,จะไม่ให้เขารู้สึกโกรธเกรี้ยวจงซานได้อย่างไร.

เซียนเซิงสุ่ยจิงที่สะบัดพัดไปมาพร้อมรอยยิ้ม,ทว่าจงซานที่ยืนนิ่งไม่ได้ขยับหรือแสดงท่าทางใดๆออกมา.

"เอาล่ะ,กู่หลินเจ้านำคณะทูตเดินทางไปยังเมืองหลวงของราชวงศ์ราชันย์ต้ายวีก่อนเลย,ข้าจะกลับไปยังสำนักยวีเหิงก่อนชั่วคราว."กงจูเฉียนโหยวที่กล่าวออกไป.

"เจ้าจะกลับไปยังสำนักยวีเหิงอย่างงั้นรึ?"กุ่หลินที่กล่าวออกมาด้วยท่าทางกระวนกระวาย.
„Good, Yu Heng Sect go back Sect Protector to a Seven Stars Hall please elder, just I must pass by, go back to have a look, exactly what happened, you are leading these ritual officers, first walks.”
"ใช่แล้ว,ผู้พิทักษ์สำนักได้เดินทางไปยังศาลาเจ็ดดาวเพื่อร้องขอให้อาวุโสกลับไปยังสำนักยวีเหิง,มันเป็นเส้นทางผ่าน,ข้าย่อมต้องกลับไปดู,ว่ามีอะไรเกิดขึ้น,เจ้านำกองกำลังทั้งหมดเดินทางล่วงหน้าไปก่อนเลย."

"ข้า,ก็จะไปกับพวกเจ้าด้วย, ให้เหล่าองค์รักษ์และคณะทูตเองตามพวกเราไปด้วยก็ได้,ถึงเวลานั้นจะได้เดินทางไปที่เมืองหลวงราชวงศ์ราชันย์ต้ายวีพร้อมๆกันเลย."กู่หลินที่กล่าวออกมาทันที.

"ไม่ได้,คณะทูตนั้นไม่สามารถล่าช้าได้,"กงจูเฉียนโหยวที่ส่ายหน้าไปมา.

"งั้นให้คณะทูตเดินทางไปก่อน,ข้าและสุ่ยจิงขอตามเจ้าไปด้วย."กู่หลินที่ร้องขอ.

กงจูเฉียนโหยวที่ขมวดคิ้วไปมา,จ้องมองไปยังกู่หลิน,จากนั้นก็จ้องมองไปยังเซียนเซิงสุ่ยจิง,ท้ายที่สุดก็ตัดสินใจ,พยักหน้าให้"ก็ได้,แต่อย่างสร้างปัญหาให้ข้าก็แล้วกัน."

"ได้,เจ้าโปรดวางใจได้เลย."กุ่หลินที่กล่าวออกมาด้วยความตื่นเต้น.

จากนั้นที่บนอากาศ,กงจูเฉียนโหยวก็ได้ให้คณะทูตและองค์รักษ์เดินทางไปยังราชวงศ์ราชันย์ต้ายวีก่อน.

ทว่ากงจูเฉียนโหยว,เซียนเซิงสุ่ยจิง,อาต้า,อาเอ้อ,กู่หลินและจงซาน,มุ่งหน้าไปยังทิศตะวันตกเฉียงใต้แทน.


จงซานที่ขมวดคิ้วไปมา,ยืนอยู่บนเมฆสีขาว,ผู้พิทักษ์สำนักยวีเหิงอย่างงั้นรึ? พวกเขาเองก็มีผู้พิทักษ์สำนัก?พวกเขาคือหนึ่งในสำนักที่ปฏิญาณตนต่อศาลาเจ็ดดาว,มีตัวตนเช่นไร?ทำไมดูเหมือนคลับคล้ายคลับคลา?



ที่มาจากhttps://lnmtl.com/novel/immortality

#นิยาย เรื่องอมตะ #Immortality#นิยายแปลไทย
Author(s)


สนใจสนับสนุนพวกเรา,เข้าร่วมกลุ่ม VIP ====> Click

***เว็ปฟรีอัพ สองวันหนึ่งตอน
***กลุ่มลับ อัพ 2-3 ตอนต่อวัน.

 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น