วันศุกร์ที่ 25 มกราคม พ.ศ. 2562

Immortality Chapter 182 Nalan Piaoxue

Immortality Chapter 182  Nalan Piaoxue

นิยาย เรื่อง อมตะ  Chapter 182  Nalan Piaoxue

纳兰飘
  น่าหลานเพียวเสวี๋ย.

ยามไฮ่,สุ่ยเทียนหยาที่อยู่ในสภาพอ่อนแรง,เดินทางมายังตำหนักเจ้าเมือง.

ที่ด้านนอกตำหนักเจ้าเมืองนั้น,มีประชาชนมากมายรอคอยอยู่,ใบหน้าของโม่เหยียนปิงที่จ้องมองไปยังสุ่ยเทียนหยาที่ถูกประครองมาอย่างช่วยไม่ได้.



เจ้าเมือง!เจ้าเมืองเดินทางมาถึงด้วยตัวเอง,ตอนนี้เขาไม่ใช่คนไร้ประโยชน์แล้ว,ตอนนี้จากตงหลิงเมืองอู๋ซวัง,ได้กลายเป็นเจ้าเมืองคนใหม่แล้ว.

จากนี้เขาคือขุนนางระดับสี่,ได้รับมรรคาที่อ่อนนุ่น,วาสนาจากราชวงศ์สวรรค์,ทั่วร่างที่จะอาบไปด้วยวาสนาบำเพ็ญ,กับการเป็นเจ้าเมืองคนใหม่,วาสนาที่จะได้รับนั้นจะทำให้เขามีพลังฝึกฝนเพิ่มกลายเป็นสี่เท่า.

สุ่ยเทียนหยาที่นำร่างที่อ่อนแรง,เข้ามายังตำหนักเจ้าเมือง,ที่แห่งนี้จะ กลายเป็นที่อยู่อาศัยและที่ทำงานของเขานับจากนี้ไป.

"สุ่ยเทียนหยา,คารวะกงจูและซือจื่อ."สุ่ยเทียนหยาที่แสดงความเคารพขณะที่มีคนพยุงอยู่.

กงจูเฉียนโหยวที่เผยยิ้มออกมาเล็กน้อย,ทว่ากู่หลินนั้นใบหน้าดำมืด,ทำได้แค่พยักหน้าให้เท่านั้น.

หลังจากนี้,ในเมืองอู๋ซวังแห่งนี้,ยกเว้นกงจูและซือจื่อ,สุ่ยเทียนหยาจะมีตำแหน่งใหญ่ที่สุด.

สุ่ยเทียนหยาหลังจากที่คารวะคนทั้งสอง,จากนั้นก็ก้าวออกมายืนอยู่ด้านหน้าของเกาะลอยฟ้า,จ้องมองลงไปยังผุ้คนมากมาย,สูดหายใจลึก,ภายในใจที่เต็มไปด้วยความสุขอย่างที่สุด.

"เทียนหยาผู้นี้,ขอบคุณทุกท่านอย่างสุดซึ้ง,เมื่อข้าได้รับการแต่งตั้งอย่างเป็นทางการแล้ว,เทียนหยาจะทำการปกป้องเมืองอู๋ซวังด้วยชีวิต,เพื่อตอบแทนทุกท่านที่ลงคะแนนให้,ข้าจะทำให้ทุกคนได้รับรู้ว่า,ทุกท่านได้ตัดสินใจถูกต้องแล้ว!"สุ่ยเทียนหยาที่กล่าวออกมาด้วยความหนักแน่น.

ตำแหน่งที่เขายืนอยู่นั้น,มีค่ายกลวางไว้,เป็นค่ายกลกระจายเสียง,ทำให้ทุกคนทั่วทั้งเมืองได้ยินคำพูดของสุ่ยเทียนหยากันทุกคน.

"ใต้เท้าสุ่ย."

"ใต้เท้าสุ่ย."

แม้ว่าพื้นที่แห่งนี้จะเป็นพื้นที่หวงห้าม,สำหรับเจ้าเมือง,ทว่าเขากับสามารถได้ยินเสียงดังตะโกนที่อยู่ด้านล่างได้.

สุ่ยเทียนหยายิ้มแก้มปริ,จนบางคนถึงกับใบหน้าเปลี่ยนเป็นมืดมัวเมื่อมองเห็นรอยยิ้มของสุ่ยเทียนหยาแล้ว.

คงจะไม่มีใครรู้,สุ่ยเทียนหยาหนึ่งในเฉิงตงทั้งสี่,ทว่ากับอ่อนแอที่สุด,ไม่ได้มีพลังอำนาจเทียบกับคนอื่นๆได้เลย,หากไม่เพราะจงซาน,กุ่หลิน,กงจูเฉียนโหยวและเซียนเซิงสุ่ยจิงทั้งสี่คนเข้ามาพัวพัน,กับการหาเสียงในครั้งนี้,สุ่ยเทียนหยาเป็นไปไม่ได้ที่จะได้รับชัยชนะ.

อย่างไรก็ตาม,ตอนนี้สุ่ยเทียนหยาแตกต่างออกไป,ด้วยวิธีการหาเสียงที่แหวกแนว,เขาที่ถูกทำร้ายบาดเจ็บล้มต่อหน้าทุกคน,ตงเฉิงตงและซือเฉิงตง,ที่สนับสนุนโม่ไป่หลี,สุ่ยเทียนหยาที่ต้องดวลกับคนทั้งสาม,คาดไม่ถึงเลยว่าจะได้รับชัยชนะ,หนำซ้ำชัยชนะในครั้งนี้,ยังมากมายเหนือกว่าอีกฝ่ายมากกว่าหนึ่งล้านคะแนน,นับเป็นตัวเลขที่น่าเกรงขามมาก.

ในวันนี้,สุ่ยเทียนหยาได้กลายเป็นคนที่โชติช่วงชัชวาลที่สุด,อย่างน้อยในสายตาของจงซาน,สุ่ยเทียนหยาคงจะก้าวไปถึงจุดสูงสุดของชีวิตแล้ว,เพราะว่าด้วยภูมิปัญญาที่เขามีนั้น,การเป็นเจ้าเมืองคือขีดจำกัดของเขาแล้ว,ต้องการที่จะก้าวข้ามระดับต่อไป,นับว่ายาก,ถึงยากมากๆ.

หนึ่งเดือนหลังจากนั้น.

บนเกาะลอยฟ้า,ที่พักของจงซาน,อาต้าที่อาบไปด้วยฝุ่น,ทรงผมของจงซานเองก็กระเซอะกระเซิง,ที่มุมปากมีโลหิตไหลออกมา,คนทั้งคุ่ที่เดินก้าวออกมาจากสถานที่ฝึกพร้อมกัน.

"อาต้า,เจ้าใช้พลังฝึกตนมากเกินระดับ,เกินกว่าจะดูแลข้าอย่างงั้นรึ?"จงซานที่เดินและกล่าวออกมา.

"วิชาของเซียนเซิงนั้นแปลกประหลาด,อาต้าไม่มีทางเลือก."อาต้าที่กล่าวออกมาอย่างบริสุทธิ์ใจ.

"อืม,ดูเหมือนว่าเจ้าจะยังไม่สามารถควบคุมพลังได้ดีนะ,จะต้องฝึกมากกว่านี้."จงซานทีกล่าวออกมาด้วยรอยยิ้ม.

"ครับ,เซียนเซิง."อาต้าพยักหน้าด้วยรอยยิ้ม,เขารู้ดีว่าจงซานไม่ได้โกรธ,ในแต่ละครั้งที่เขาโจมตีจงซาน,เป็นเพราะว่าเขาถูกกดดันอย่างหนัก.

ระดับสองแกนทองอย่างงั้นรึ? กับระดับก่อตั้งวิญญาณระดับหนึ่งขั้นปลาย,แม้ว่าเซียนเซิงจะจงใจ,ทว่าบางจังหวะก็ทำให้เขาถูกกดดันอย่างหนักเหมือนกัน.

กงจูเฉียนโหยวที่นั่งอยู่ไม่ไกลบนโต๊ะศิลายกชาขึ้นดื่ม,อาเอ้อและสุ่ยเทียนหยาที่ยืนอยู่ด้านข้าง.

"อาต้า,เจ้าพ่ายแพ้เป็นครั้งแรกอย่างงั้นรึ?"กงจูเฉียนโหยวที่กล่าวออกมาด้วยรอยยิ้ม.

"ครับ,กงจู."อาต้าพยักหน้า,แสดงท่าทางเขินอายเหมือนกัน.

กงจูเฉียนโหยวที่เผยยิ้มออกมาอย่างนุ่มนวล.

จงซานที่ยกน้ำชาบนโต๊ะศิลาขึ้นดื่ม,ชาวิญญาณนี้ช่วยในการรักษาร่างกาย,นับว่ามีคุณสมบัติไม่ต่างจากเม็ดยาเลยทีเดียว,แน่นอนว่าจงซานที่ยกขึ้นดื่มโดยไม่เกรงใจ.

"เทียนหยาที่ขอบคุณความกรุณาจากเซียนเซิง."สุ่ยเทียนหยาที่ก้าวออกมาและกล่าวออกมาทันที.

"โอ้ว,ใต้เท้าสุ่ยท่านได้รับการแต่งตั้งเป็นทางการแล้วรึ?"จงซานที่วางแก้วน้ำชาลงพลางสอบถาม.

"ครับ,เมื่อเช้านี้."สุ่ยเทียนหยาที่กล่าวออกมาด้วยความตื่นเต้น.

"ได้รับการแต่งตั้งก็ดีแล้ว,หลังจากนี้ทุกอย่างใต้เท้าสุ่ยต้องเป็นคนจัดการด้วยตัวเอง."จงซานที่กล่าวออกมาด้วยรอยยิ้ม.

"กับคำพูดที่ได้รับจากเซียนเซิงและยังมีข้อแนะนำอีกหลายอย่าง,เทียนหยาจะพยายาม."สุ่ยเทียนหยาที่กล่าวออกมาในทันที.

"อืม,เอาล่ะ,ข้าจะให้ข้อแนะนำเป็นครั้งสุดท้าย."จงซานกล่าว.

"เชิญชี้แนะ."สุ่ยเทียนหยาที่ยืนตรง,คำแนะนำของจงซาน? นับเป็นเรื่องที่สำคัญมาก.

"การจะควบคุมเมืองอู๋ซวัง,อย่างแรกคือจะต้องครอบครองกองกำลังเมืองอู๋ซวัง."จงซานเอ่ย.

"ครับ,เทียนหยาเข้าใจถึงเหตุผลดี."สุ่ยเทียนหยาที่รับคำในทันที.

"อืม,สุ่ยเทียนหยา,ท่านมีงานยุ่งไปจัดการก่อนก็แล้วกัน."กงจูเฉียนโหยวกล่าว.

"ครับ."สุ่ยเทียนหยาพยักหน้า,และจากไปในทันที.

"เซียนเซิง,ตอนนี้พลังฝึกตนเป็นอย่างไรบ้าง?"กงจูเฉียนโหยวจ้องมองไปยังจงซาน.

"หนึ่งปี,ระดับสองแกนทองขั้นปลาย,ด้วยวาสนาที่ได้รับและสภาพแวดล้อมที่เหมาะสม,ตลอดทั้งอาต้าที่คอยเป็นคู่มือให้,แต่ในเวลานี้คงเร็วไปที่จะสามารถทะลวงผ่านระดับได้."จงซานที่ส่ายหน้าพลางทอดถอนใจไปด้วย.

อย่างไรก็ตาม,ภายในใจจงซานถือว่าพึงพอใจ,เพราะว่านี่คือในระดับแกนทอง,แม้แต่ระดับเซียนเทียนก็ยังต้องเวลามากกว่าหนึ่งปี,การที่เขาก้าวไปถึงระดับสองแกนทองได้นั้นถือว่าคาดไม่ถึงแล้ว,นี่ยังคิดที่จะทะลวงผ่านระดับอีก.

"ข้าจะรอคอยเซียนเซิงครึ่งปี."กงจูเฉียนโหยวกล่าว.

"หืม?รอคอยครึ่งปี?อีกหกเดือนหลังจากนี้จะมีอะไรเกิดขึ้นอย่างงั้นรึ?"จงซานที่สอบถามออกมาด้วยความสงสัย.

"ถึงแม้ว่าจะมีการแต่งตั้งสุ่ยเทียนหยาอย่างเป็นทางการแล้วก็ตาม,องค์เหนือหัวก็ยังได้มอบราชโองการแก่ข้า."กงจูเฉียนโหยวกล่าว.

"ราชโองการ?"จงซานสอบถามด้วยความสงสัย.

"อืม,สองปีหลังจากนี้,ต้าตี้ราชวงศ์ราชันย์ต้ายวี,อายุครอบ 3 พันปี,ข้าและกู่หลินจึงจำเป็นต้องเดินทางไปแสดงความยินดี."กงจูเฉียนโหยวกล่าว.

"หืม?ต้าตี้ต้ายวี? น่าหลานเพียวเสวี๋ย? ครบรอบวันเกิด 3000 ปี? เกี่ยวกับเรื่องนี้,ไม่เห็นกงจูต้องไปด้วยตัวเองไม่ใช่รึ?"จงซานที่ขมวดคิ้วสอบถามด้วยความสงสัย.

"อืม,หากเพียงแค่วันเกิดสามพันปีของน่าหลานเพียวเสวี๋ยล่ะก็,ไม่จำเป็นที่ข้าต้องไปก็ได้,ทว่า,วันนั้น,ในงานวันเกิดจะมีงานประลองกันระหว่างจื่อจุ้นเทพมังกรสวรรค์และน่าหลานเพียวเสวี๋ย,ทั้งคู่คือผู้ถือครองมรรคาระดับกลาง,นอกจากนี้ยังเป็นยอดฝีมือในโลกหล้า,เป็นเทพสงครามไร้พ่าย,ถึงแม้ว่าเหนือหัวจะไม่ออกราชวงการมา,ข้าเองก็ต้องการไปชม,โอกาสในรอบพันปีที่จะได้เห็น."กงจูเฉียนโหยวกล่าวออกมาด้วยความตื่นเต้น.

"จื่อจุ้นเทพมังกรสวรรค์?หนานเพียวเสวี๋ย? สองปีหลังจากนี้?"จงซานขมวดคิ้วด้วยความสงสัย,ภายในใจเองก็แอบคาดหวังเช่นกัน.

เทพ?ต้าตี้? สุดยอดฝีมือในโลกหล้า,มีการประลองกัน,แน่นอนว่ามันย่อมเป็นเรื่องน่าสนใจ,ตลอดจนมียอดฝีมือมามายเดินทางมาชม,ภายในใจจงซานก็แอบตื่นเต้นไปด้วย.

"สองปีหลังจากนี้,พวกเราจะรอเซียนเซิงครึ่งปี,ไม่ว่าอย่างไรเซียนเซิงจะต้องทะลวงผ่านระดับภายในครึ่งปี,ในเวลานั้นพวกเราจะเดินทางไปยังราชวงศ์ราชันย์ต้ายวีพร้อมกัน."กงจูเฉียนโหยวกล่าว.

"อืม."จงซานพยักหน้ารับคำ.

แม้ว่ากงจูจะบอกว่าเพื่อเขา,ทว่าจงซานรู้ดี,ด้วยเกียรติของนางแล้วเป็นไปไม่ได้เลยที่นางจะมาเสียเวลารอเขา,การที่นางยังรั้งรออยู่ที่นี่,แทบจะเป็นไปไม่ได้เลย,นอกจากเหนือหัวแล้ว,นางไม่มีทางที่จะใส่ใจใคร,กับการเดินทางไปยังราชวงศ์ราชันย์ต้ายวีนั้น,แม้ว่าจะบอกเพื่อตนเอง,แม้ว่านางบอกว่าต้องการจะไป,ทว่าดูเหมือนว่าจะมีอะไรบางอย่างซ่อนอยู่อย่างไม่ต้องสงสัย,ไม่ใช่เรื่องธรรมดาทั่วไป,ทว่ากับเรื่องที่นางคิดอยู่เวลานี้,ก็ไม่ใช่เรื่องจำเป็นที่ผู้ใต้บังคับบัญชาที่จะเข้าไปยุ่ง,เขาเป็นเพียงผู้ใต้บังคับบัญชา,ที่อาจจะพอมีประโยชน์ก็เท่านั้น.

ภายในใจจงซานเข้าใจดี,เขาเองไม่ควรที่จะเปิดเผยตัวตน,ต้องไม่ลืมว่า,เขาไม่ได้สนใจในสถานะใดเลยแม้แต่น้อย,กล่าวอีกอย่างหนึ่งแผนการการเลือกตั้งในเมืองอู่ซวังครั้งนี้,หรืออาจจะรวมก่อนหน้านี้เมื่อครั้งอยู่ในค่ายกลแปดประตูกุญแจทอง,ทุกอย่างเป็นการสร้างความสนใจกับนางเท่านั้น.

จงซานสามารถคาดเดาได้ว่าการเดินทางไปยังราชวงศ์ราชันย์ต้ายวีในครั้งนี้,ไม่ใช่แค่เพียงแสดงความยินดีในวันเกิดแน่หรือว่าเข้าชมการประลองแต่อย่างใด,แน่นอนว่ายังมีคำสั่งลับอีก,ทว่ากงจูเฉียนโหยวไม่ได้กล่าว.

อย่างไรก็ตาม,สำหรับตัวตนของจงซาน,ด้วยสถานะของเขานั้นไม่มีเหตุผลที่ต้องรู้,ยิ่งรับรู้เรื่องราวมาก,ก็จะยิ่งทำให้ตัวเขามีอันตราย,ตอนนี้ทางที่ดีที่สุด,ควรฝึกฝนอย่างแข็งขัน,บำเพ็ญพลังให้เร็วไว,นี่คือเรื่องที่เขาควรจะทำ.
....

เกาะหมาป่าสวรรค์,ราชวงศ์กษัตริย์ต้าเจิ้ง.

ภายในห้องโถง.

ร่างแยกเงาจงซาน,เชวียนเป่าเอ๋อ,เหว่ยไท่จง,หยิงหลาน,จงเจิ้งและหลินเซียว,รวมตัวกันอยู่ที่นี่.

"เป่าเอ๋อ,ค่ายกลที่สร้างขึ้นมาเป็นอย่างไรบ้าง?"จงซานเอ่ย.

"รับประกันได้เลยว่าไม่มีเสียงดังผ่านออกไปแน่."เชวียนเป่าเอ๋อกล่าวออกมาด้วยความมั่นใจ.

"อืม."จงซานพยักหน้าด้วยความพึงพอใจ.

"กู่เหยี่ยเยี่ย,ท่านเรียกพวกเรามาพร้อมกัน?มีเรื่องสำคัญอะไรอย่างงั้นรึ?"หยิงหลานที่กล่าวออกมาในทันที.

เกี่ยวกับจงซานนั้น,มีเพียงแค่หยิงหลานที่ต่อหน้าผู้อื่นนางจะเรียกฝ่าบาท,ทว่าอยู่ในที่ลับตา,จะเรียกเขาว่ากู่เหยี่ยเยี่ย,แน่นอนว่าที่นี่ตอนนี้มีเฉพาะคนกันเอง,นางจึงไม่จำเป็นต้องมีพิธีรีตรองอะไรนัก.

จงซานที่จ้องมองไปยังหยิงหลานด้วยความเอ็นดูพร้อมกับเผยยิ้ม."แน่นอน,ไม่เช่นนั้นคงไม่ทำเป็นความลับ?"

"มีอะไรอย่างงั้นรึ?"หยิงหลานกล่าว.

"มีเรื่องที่ต้องเตรียมการหลายอย่างที่จะบอกพวกเจ้า."จงซานกล่าว.

"หืม?"ทุกๆคนที่จับจ้องมองไปยังจงซาน.

"เรื่องแรก,จงเจิ้ง."จงซานที่จ้องมองไปยังจงเจิ้ง.

"ฟู่หวง."จงเจิ้งที่ก้าวออกมาด้านหน้าในทันที.

"เจ้าจงวางแผนที่จะขยายตลาด,เลือกคนกลุ่มหนึ่งที่ซื่อสัตย์มาฝึกฝนเพื่อต้าเจิ้ง,และสนับสนุนด้วยเม็ดยาที่ได้การสนับสนุนจากสำนักไท่ต่าน,ฝึกพวกเขาไปให้ถึงระดับแกนทองให้เร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้."จงซานกล่าว.

"หืม?ฟู่หวง,ต้องการให้พวกเขาทำอะไรอย่างงั้นรึ?"จงเจิ้งสอบถามออกมาด้วยความสงสัย.

"เมื่อพวกเขาก้าวไปถึงระดับแกนทองเมื่อไหร่,ข้าจะให้เจ้านำกลุ่มคนเหล่านั้นเดินทางไปยังทวีปศักดิ์สิทธิ์,สร้างหอการค้าขึ้นมา,เพื่อเตรียมทรัพยากรให้พร้อม,ก่อนที่ราชวงศ์กษัตริย์ต้าเจิ้งจะย้ายไปยังทวีปศักดิ์ได้."จงซานที่กล่าวอย่างแข็งขัน.

"ครับ,บุตรจะไม่ทำให้ฟู่หวงผิดหวัง."ใบหน้าของจงเจิ้งที่กล่าวออกมาอย่างมั่นคง.

"อืม,คนที่เจ้าเลือกนั้น,ความสามารถให้เป็นเรื่องรอง,ความภัคดีให้เป็นเรื่องแรก,จงเลือกคนอย่างใจเย็น,คนเก่าคนแก่ทีเคยช่วยเหลือข้า,มอบยาให้พวกเขา,ฝึกฝนให้พวกเขากลับมาสู่วัยหนุ่มสาว,คนที่จะไม่จากพวกเราไป."จงซานที่กล่าวอย่างจริงจัง.

"ครับ,บุตรจะจำเอาไว้."จงเจิ้งที่รับปากในทันที.




ที่มาจากhttps://lnmtl.com/novel/immortality

#นิยาย เรื่องอมตะ #Immortality#นิยายแปลไทย
Author(s)


สนใจสนับสนุนพวกเรา,เข้าร่วมกลุ่ม VIP ====> Click

***เว็ปฟรีอัพ สองวันหนึ่งตอน
***กลุ่มลับ อัพ 2-3 ตอนต่อวัน.

 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น