Immortality Chapter 178 Who is not concerned about face!
นิยาย เรื่อง อมตะ Chapter 178 Who is not concerned about face!
谁更不要脸!
ใครจะไร้ยางอายกว่ากัน!
วันสุดท้ายของการเลือกตั้ง,ในวันนี้นับว่าเป็นวันสำคัญที่สุด,วันนี้จะมีเจ้าเมืองอู๋ซวังเป็นครั้งแรก,ใครกันจะเป็นเจ้าเมือง?
โม่ไป่หลี?สุ่ยเทียนหยา?
ในวันนี้,ประชาชนทั้งหมดแทบจะหยุดกิจกรรมทั้งหมด,ทุกคนต่างก็รอคอยผลลัพธ์ที่จะเกิดขึ้นด้วยกันทั้งนั้น..
สุ่ยเทียนหยา,ที่มีจุดยืนหาเสียง"วิกฤติสงคราม."ซึ่งทำให้ทุกคนตระหนักได้ทว่าราชวงศ์ราชันย์ต้ายวีนั้น,พร้อมที่จะก่อสงครามได้ตลอดเวลา.
โม่ไป่หลี,ผู้มีจุดยืนหาเสียง"ยุคแห่งความสงบสุข"
ด้วยการชูสัญญาสงบสุขที่เพิ่งเกิดขึ้น,และบอกว่าจะไม่มีสงครามอีกแล้ว,และโม่ไป่หลียังรับประกันความสงบสุขอย่างต่อเนื่องอีกด้วย.
ที่ประตูเมืองทิศใต้และทิศเหนือ,มีแผ่นหยกขนาดใหญ่,แสดงคะแนนของคนทั้งคู่แยกกันตามลำดับ.
โม่ไปหลี,4.3 ล้านเสียง
สุ่ยเทียนหยา 3.4 ล้านเสียง.
คะแนนต่างกัน 900,000
เสียง,ทั่วทั้งเมืองมีประชากรทั้งหมด 10 ล้านคน,เมื่อโม่ไป่หลีได้คะแนนเพิ่มอีก 700,000
คะแนน,หรือเท่ากับ 5 ล้าน,การเลือกตั้งนี้ก็จะถึงบทสรุป,เพราะว่าคะแนนจะทิ้งขาดในทันที.
ประชาชนมากมายต่างก็ออกมาจากที่อยู่อาศัย,เดินทางไปบนถนน,นอกจากนี้ไม่ว่าจะเป็นสถานที่ใหนก็มีผู้คนอยู่เต็มไปหมด.
เมืองใหญ่ที่มีคนมากมาย,การเลือกตั้งเจ้าเมือง,นับว่านี่คือเหตุการณ์ใหญ่,นี่ไม่ใช่การคัดเลือกทั่วไป,นี่คือผู้ปกครองที่จะกุมชีวิตของพวกเขา,จึงเป็นเรื่องที่ทุกคนต่างก็คาดหวัง.
ในวันนี้,ประตูใหญ่ทั้งสี่ทิศต่างก็ถูกปิดอย่างสมบูรณ์,เพื่อที่จะรอผลการเลือกตั้งในครั้งนี้.
...............
สถานที่ทำงานของหนานเฉิงตงทิศใต้.
ที่ด้านนอก,ในเวลานี้,มีเหล่านักรบมากมายนั่งอยู่บนสัตว์อสูร,มีพยัคฆ์ขนาดมหึมาหลากหลายขนาด,ขนาดใหญ่สุดมีความสูง
40 จั้ง,และยังมีขนาด 30
จั้งอีกมามาย,มีมากมายหลากหลายสี,ทั้งสีแดง,สีน้ำเงิน,สีดำและสี่ม่วง.
บนหัวของพยัคฆ์ขนาดใหญ่ตัวหนึ่งขนาด 40
จั้งสี่ดำ,ที่นำขบวน,แน่นอนว่ามันมีพลังอย่างต่ำคือระดับก่อตั้งวิญญาณ.
สัตว์อสูรคู่บารมีของราชวงศ์สวรรค์ต้าโหลวก็คือ,พยัคฆ์นั่นเอง.
เพียงแค่ปีเดียว,จงซานก็สามารถเข้าใจเรื่องราวมากมาย,เผ่าพยัคฆ์,คืออาณาจักรคู่บารมีของราชวงศ์สวรรค์ต้าโหลว,เซิ้งซ่างของราชวงศ์สวรรค์ต้าโหลวได้ทำพันธะสัญญากับจื่อจุ้นเผ่าพยัคฆ์,ทำให้มีอาณาจักรพยัคฆ์เป็นอาณาจักรคู่วาสนานั่นเอง.
ที่ทำการหนานเฉิงตง,และที่ที่ทำการเป่ยเฉิงตง,มีนักรบประจำการฝั่งละห้าสิบคน,เพื่อสนับสนุนป้องกันและช่วยหาเสียงในวันนี้,และพยัคฆ์ขนาดมหึมาเหล่านี้ยังเคลื่อนที่ได้อย่างรวดเร็วจะทำให้พวกเขาเดินทางไปยังเขตต่างๆทุกเขตได้ทั่วถึงภายในวันเดียว.,
ในห้องลับของหนานเฉิงตง,ซึ่งมีค่ายกลปิดบังเสียงอย่างสมบูรณ์,ไม่มีใครสามารถได้ยินเสียงพูดคุยดังกล่าวได้แม้แต่น้อย.
จงซานที่จ้องมองไปยังสุ่ยเทียนหยา,และกล่าวออกมาด้วยรอยยิ้ม."ใต้เท้าสุย,จะประสบความสำเร็จหรือล้มเหลว,ขึ้นอยู่กับแผนการครั้งนี้,ขึ้นอยู่กับการแสดงของท่านแล้ว."
"เซียนเซิงโปรดวางใจ,ข้าเข้าใจแผนการทุกอย่างแล้ว."สุ่ยเทียนหยาพยักหน้ารับ.
"กลุ่มหาเสียงท่านล่ะ?"จงซานสอบถาม.
"เวลานี้พวกเขาพร้อมแล้ว,คนเหล่านี้เป็นคนเอาจริงเอาจัง,วันนี้เป็นวันสำคัญ,แน่นอนว่าพวกเขาจะต้องทุ่มสุดกำลังอย่างแน่นอน."สุ่ยเทียนหยากล่าว.
"ดี,โปรดจำไว้,ข้าและกงจู,ไม่สามารถกระทำอะไรได้แล้ว,กับเรื่องนี้,เจ้าจะต้องทำให้สำเร็จ,บุตรชายของท่าน,ท่านได้บอกให้ศิษย์พี่สุ่ยอู๋เหิน,เตรียมพร้อมแล้วรึยัง?"จงซานสอบถามออกมาอีกครั้ง.
"กับคำพูดที่เตรียมไว้,อู๋เหินท่องจำทุกวัน,ข้าได้ทำการตรวจสอบเขาทุกวันด้วย,เรื่องนี้ไม่มีทางผิดพลาดได้,หลังจากวันนี้,ไม่ว่าจะผิดพลาดหรือล้มเหลว,เทียนหยา,ขอบคุณกงจูและการทำงานหนักของเซียนเซิงด้วย,"สุ่ยเทียนหยาที่ยกมือคารวะด้วยความเคารพ.
"ขอบคุณข้าด้วยทำไมเล่า?เรื่องนี้เป็นฝีมือเซียนเซิงทั้งหมด."กงจูเฉียนโหยวกล่าว.
"ไม่,ไม่ใช่ว่าจะสำเร็จหรือล้มเหลว,เรื่องนี้จะต้องชนะ,โปรดจำไว้,เจ้าต้องชนะ,รักษาความรู้สึกนี้ไว้."จงซานกล่าวย้ำอีกครั้ง.
"ครับ,พวกเราต้องชนะ,ข้าต้องเป็นเจ้าเมืองอย่างแน่นอน."สุ่ยเทียนหยากล่าวออกมาในทันที.
"อืม,ไปได้แล้ว,เมฆดำตั้งเค้ารอฝนตกทั่วทั้งเมืองอู๋ซวังแล้ว."จงซานที่กล่าวออกมาพร้อมรอยยิ้ม.
"คับ."สุ่ยเทียนหยาที่ทำความเคารพ,จากนั้นก็ออกจากตำหนักไปในทันที.
"ที่ด้านนอกนั้น,สุ่ยอู๋เหินและขุนพลของสุ่ยเทียนหยาและผู้ร่วมงานทุกคนต่างก็รอคอยอย่างอดทน.
"เดินทางได้!"สุ่ยอู๋เหินกล่าว.
"ครับ."ทุกคนที่รับปากในทันที.
จากนั้น,กองกำลังกลุ่มหนึ่ง,ที่ยืนอยู่บนหัวของพยัคฆ์ขนาดกว่า
40 จั้งก็พุ่งตรงไป,ซึ่งมีคนอื่นๆรวมทั้งสุ่ยอู๋เหินด้วย,ยืนอยู่บนหลังพยัคฆ์ขนาด
30 จั้ง.
กองกำลังหนานเฉิงตง,จงซานที่จ้องมองไปยังกงจูเฉียนโหยวและอาเอ้อ,"กงจูพวกเราก็เดินทางไปรอฟังข่าวที่ตำหนักเจ้าเมืองเถอะ."
"เซียนเซิง,เชิญ."กงจูเฉียนโหยวกล่าวออกมาด้วยรอยยิ้ม.
....
ตำหนังเป่ยเฉิงตง,ห้องที่ดูเงียบสงบ.
"ใต้เท้าโม่,จะสำเร็จหรือไม่,ขึ้นอยู่กับการหาเสียงครั้งสุดท้ายแล้ว,ขึ้นอยู่กับท่าน."เซียนเซิงสุ่ยจิงกล่าว.
"ครับ."โม่ไป่หลีกล่าว.
"สุ่ยจิง,พวกเราก็ไปรอที่ตำหนักเจ้าเมืองด้วยกันเถอะ,นานแล้วไม่ได้พูดคุยกับเฉียนโหยว."กู่หลินกล่าว.
"ไม่,ซือจื่อ,ท่านไปก่อนเถอะ,ข้ายังต้องสั่งการกองกำลังเป่ยเฉิงตงอีก,หากว่ามีเหตุการณ์เปลี่ยนแปลง,ข้าจะได้ช่วยเหลือใต้เท้าโม่เพื่อต่อกรกับสุ่ยเทียนหยาได้ทัน,ข้าจะตามไปทีหลัง."เซียนเซิงสุ่ยจิงกล่าว."
"ดี,เจ้ารีบตามมาก็แล้วกัน,ข้าไปก่อน,โม่ไปหลี,เจ้าจัดการทุกอย่างให้เรียบร้อย."กู่หลินกล่าว.
"ครับ."โม่ไป่หลีตอบรับในทันที.
"เซียนเซิง,ข้าได้เตรียมพร้อมแล้ว,ทุกคนเองก็พร้อมแล้ว,คงต้องขอลาก่อน."โม่ไป่หลีกล่าว.
"อืม."เซียนเซิงสุ่ยจิงพยักหน้า.
จากนั้น,โม่ไป่หลีก็ออกไป,ยืนอยู่บนพยัคฆ์ขนาดสี่สิบจั้ง,ดูน่าเกรงขามเป็นอย่างมาก,และนำขุนพลคนอื่นๆยืนอยู่บนพยัคฆ์ขนาดสามสิบจั้ง,ก้าวตามโม่ไป่หลี่,ตระเวนหาเสียงในเมืองอู๋ซวัง,ทว่ากู่หลินนั้นได้พุ่งตรงเข้าไปยังใจกลางเมืองอู๋ซัง,ตำหนักเจ้าเมืองนั่นเอง.
เซียนเซิงสุ่ยจิงที่ยังอยู่ในห้องโถง,นั่งอยู่บนโต๊ะ,พร้อมกับยกน้ำชาขึ้นจิบ,จ้องมองดูยังข้อมูลที่มีอยู่,ครุ่นคิดอะไรบางอย่าง,รอคอยการเคลื่อนไหวของฝ่ายตรงข้าม.
สุ่ยเทียนหยางที่ยืนอยู่บนหัวพยัคฆ์,ที่ก้าวไปข้างหน้าอย่างมั่นคง,เป็นที่สนใจต่อผู้คนเป็นอย่างมาก,ตลอดเส้นทางที่สุ่ยเทียนหยาผ่าน,เขาที่จะต้องเดินทางไปทั่วทั้ง
72
เขต,พยัคฆ์ตัวใหญ่นี้เคลื่อนที่เร็วเป็นอย่างมาก,พาเขาผ่านเขตต่างๆ,ได้ตามกำหนดการของเขา.
เขตแรกที่พวกเขาผ่าน.
เป็นถนนคนเดินขนาดใหญ่.
เกี่ยวกับสิ่งที่จงซานได้วางเอาไว้,ถนนขนาดใหญ่นั้นเต็มไปด้วยผู้คนมากมาย.
"สนับสนุนใต้เท้าสุ่ย,รับประกันความปลอดภัยเมืองอู๋ซวัง"
"สนับสนุนใต้เท้าสุ่ย,รับประกันความปลอดภัยเมืองอู๋ซวัง"
ไม่รู้ว่าเป็นใครที่ตะโกนออกมาเป็นคนแรก,จากนั้น,ก็มีคนอีกหลายคนที่ตะโกนตาม,จากนั้นก็จะมีคนอีกมากมายที่สนับสนุน,จนทำให้คนที่อยู่รอบๆสัมผัสได้ถึงบรรยากาศที่ครุกรุ่นก่อนที่จะเริ่มตะโกนตาม,ซึ่งทำให้ผู้คนที่อยู่รอบๆตื่นตะลึงเป็นอย่างมาก,มีคนไม่น้อยที่เดิมทีอยู่ข้างโม่ไป่หลี,ก่อนที่จะเปลี่ยนเป็นสุ่ยเทียนหยาในทันที.
แม้ว่าคนที่ตะโกนออกมานั้นจะไม่ถึงหนึ่งเปอร์เซ็นด้วยซ้ำเมื่อเทียนกับคนจำนวนมากในเขตนั้น,แต่ก็เป็นจำนวนกว่า
1 พันคนเช่นกันที่ตะโกนออกมา เสียงดังสร้างความสนใจ,จนทำให้คนไม่น้อยเปลี่ยนเป็นมาสนใจสุ่ยเทียนหยา.
กลยุทธ์ของสุ่ยเทียนหยาที่ใช้เสียงดังเป็นหลัก,ด้วยเสียงตะโกนดังกระหึมทำให้คนสนใจ,เสียงที่ดังสร้างความฮึกเหิมให้คนเป็นจำนวนมาก,จนทำให้คนที่อยู่รอบๆลุกขึ้นมาร้องตะโกนตาม.
ที่ทำการเป่ยเฉิงตง.
"เซียนเซิง,ไม่ได้การแล้ว,สุ่ยเทียนหยาน่าไม่อายจริง,พวกเขาให้เหล่าลูกน้องรับผิดชอบช่วยกันหาเสียง,ตะโกนเสียงดังเพื่อสนับสนุนสุ่ยเทียนหยา,ตอนนี้แต่ละเขตต่างก็มีเสียง,สนับสนุนสุ่ยเทียนหยาอย่างบ้าคลั่ง,จนทำให้คะแนนของพวกเขาเพิ่มขึ้นอย่างบ้าคลั่งแล้ว,"โม่เหยียนปิงที่เร่งรีบวิ่งมารายงานที่ห้องโถงด้านใน.
"เฮ้เฮ้,คนที่ไร้ยางอายคือคนไร้เทียมทาน,เจ้าคือบุตรชายของโม่ไป่หลีอย่างงั้นรึ?"เซียนเซิงสุ่ยจิงที่กล่าวออกมาด้วยรอยยิ้ม.
"ครับ."โม่เหยี่ยนปิงที่ตอบรับในทันที.
"เช่นนั้น,ทั้ง 72 เขต,เจ้าจงนำคนไปกระทำการเหมือนพวกเขา,ตะโกนออกมาให้เสียงดัง,ในเมื่อพวกเขาไร้ยางอาย,ทำไมพวกเราจะทำไม่ได้ล่ะ?ไป,ให้ทุกคนได้เห็น,พวกเรามีคนมากกว่าเขาถึงสามเท่า,ไปทำเรื่องที่หน้าอายนั่นให้มากกว่าสุ่ยเทียนหยา."เซียนเซิงสุ่ยจิงกล่าว.
ได้ยินคำพูดของเซียนเซิงสุ่ยจิงแล้วโม่เหยียนปิงถึงกับพูดไม่ออก,เรื่องนี้มันน่าอายอย่างที่สุด,อย่างไรก็ดี,ไม่ว่ามันจะน่าอายอย่างไร,ตราบเท่าที่บิดาของเขาได้กลายเป็นเจ้าเมือง,ทุกอย่างก็จะกลายเป็นดีเอง.
"ครับ."โม่เหยียนปิงที่รับคำและจากไปในทันที.
ที่จริง,หลังจากผ่านเขตที่หนึ่ง,โม่ไป่หลีก็ไม่ได้คิดอะไร,ทว่าหลังจากผ่านไปที่เขตที่สอง,ทันใดนั้น,ก็มีเสียงดังลั่นตะโกนสนับสนุนเขาอย่างบ้าคลั่ง,ในคราแรก,โม่ไป่หลีรู้สึกตื่นเต้นเป็นอย่างมาก,คิดว่าเขาช่างได้รับความนิยมจริงๆ,ทว่าเขาที่เห็นผู้บังคับบัญชาของเขาที่เป็นคนนำตะโกนเสียงดังลั่น,ก็รู้แล้ว่าเกิดอะไรขึ้น.
แน่นอนว่าต้องเป็นแผนการของเซียนเซิงสุ่ยจิง,แม้ว่าภายในใจจะผิดหวังเล็กน้อย,แต่ก็ให้ความร่วมมืออย่างดี.
ที่จริง,ทั้งสุ่ยเทียนหยาและโม่ไป่หลีต่างก็ตื่อเต้นเป็นอย่างมากว่าในแต่ละเขตมีคนสนับสนุนเขามากมาย.
ในกลุ่มผู้ฝึกตน,มีคนมากมายที่ทำการตรวจสอบ,คนเหล่านี้กวาดตามองสำรวจเขตต่างๆ,กับเสียงดังที่ตะโกนดังลั่น,ดูเหมือนว่าเมืองแห่งนี้จะดูคึกคักขนาดนี้เลยรึ?
เมืองอู๋ซวัง,ใจกลางเมือง,เป็นเกาะลอยฟ้าขนาดใหญ่ที่สุดในดินแดนแห่งนี้ลอยอยู่.
ม่านสีแดงที่ปกคลุมไปทั่วทั้งเกาะ,ที่ด้านในนั้นมีสิ่งก่อสร้างมากมาย,และยังมีตำหนักขนาดใหญ่ที่มีการป้องกันอย่างเข้มงวด,เห็นได้อย่างชัดเจนว่านี่คือพื้นที่หวงห้ามที่สำคัญที่สุดของเมืองอู๋ซวัง,ตำหนักเจ้าเมือง.
หลังจากนี้,หลังจากที่การแข่งขันของสองเขตสิ้นสุด,จะมีคนที่ก้าวขึ้นมาทำงานยังเกาะลอยฟ้าแห่งนี้,และจะเป็นคนที่มีเกียรติยศที่สุด.
เกาะลอยฟ้าที่ลอยนิ่ง,ตำหนักขนาดใหญ่ด้านใน,มีป้ายที่สลักเอาไว้ว่า"เฉิงจู่"(เจ้าเมือง)
ที่ด้านหน้าตำหนักนั้น,มีลานขนาดใหญ่,ซึ่งมีขุนนางกว่าร้อยคนยื่นอยู่,ทว่า,ขุนนางทั้งร้อยคนนี้ไม่มีใครสักคนที่กล้าเอ่ยอะไรออกมา,เพราะว่าที่ด้านหน้านั้น,มีกงจูเฉียนโหยวของราชวงศ์สวรรค์ต้าโหลวยืนอยู่,และมีคนสองคนยืนอยู่ด้านหลังซ้ายขวา,คนหนึ่งคือจงซานอีกคนคืออาเอ้อนั่นเอง.
กงจูเฉียนโหยวที่ยืนอยู่บนเกาะลอยฟ้าพร้อมกับจ้องมองไปยังหยกขนาดใหญ่ที่อยุ่ไกลออกไป,พร้อมกับจับจ้องคะแนนเสียงที่กำลังเปลี่ยนแปลง.
"เฉียนโหยว."ไม่ไกลออกไปนั้นเสียงที่ดูตื่นเต้นดีใจของกู่หลินก็ดังขึ้นมาในทันที.
ที่มาจากhttps://lnmtl.com/novel/immortality
#นิยาย เรื่องอมตะ #Immortality#นิยายแปลไทย
Author(s)
สนใจสนับสนุนพวกเรา,เข้าร่วมกลุ่ม VIP ====> Click
***เว็ปฟรีอัพ สองวันหนึ่งตอน
***กลุ่มลับ อัพ 2-3 ตอนต่อวัน.
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น