Immortality Chapter 170 The struggle of City Lord
นิยาย เรื่อง อมตะ Chapter 170 The struggle of City Lord
城主之争 การแข่งขันเป็นเจ้าเมือง.
ห้าวันหลังจากนั้น,จงซานที่เริ่มเข้าใจกับสถานการณ์ทั่วไป.
ราชวงศ์สวรรค์ต้าโหลวนั้นมีต้าไท่จื่อสี่คน,ทั้งสี่ต่างก็เป็นเฟิงหวัง(รัชทายาท)ด้วยกันทั้งสิ้น,ซึ่งแน่นอนว่าเฟิงหวังนั้นได้รับวาสนามรรคาระดับกลางสองเท่าเป็นการทับซ้อนของตำแหน่งซึ่งควรที่จะมีวาสนาระดับฝึกฝนเป็น
20 เท่า,ทว่ากลับมีความเร็วเพียง 15 เท่า,อย่างไรก็ตาม ก็มีความเร็วกว่าไท่จื่อทั่วไปที่มีระดับความเร็วการฝึกฝนสิบเท่า.
ทายาทของเหนือหัวนั้นมีอยู่มากมาย,ทว่าไท่จื่อนั้นมีแค่สี่คน,และสี่คนคือคนที่มีศักยภาพสูงที่สุด,ไม่จำเป็นที่ต้องเป็นบุตรของเขา,แม้แต่หลานก็ได้,ตราบเท่าที่มีสายโลหิตของเขา,ทุกคนล้วนมีโอกาส.
สำหรับกงจูดูเหมือนจะแตกต่างจากโลกปุถุชน,ลูกหลานของเหนือหัวที่เป็นหญิงนั้นจะเรียกว่า
จวินจู่ ซึ่งได้รับมรรคาที่อ่อนนุ่ม,มีเพียงแค่บางคนเท่านั้นที่จะได้รับบรรดาศักดิ์เป็นกงจูโดยเฉพาะ,และได้รับมรรคาระดับกลาง,ซึ่งมีความเร็วพลังฝึกตนสิบเท่า.
กงจูเฉียนโหยว,คือธิดาของต้าไท่จื่อ,เป็นหลานสาวของเหนือหัว,มีบรรดาศักดิ์เป็นกงจู,ได้รับวาสนามรรคาระดับกลาง,มีความเร็วในการฝึกฝนสิบเท่า.
สี่ต้าไท่จื่อนั้น,ล้วนแล้วแต่เป็นยอดฝีมือที่ร้ายกาจเต็มไปด้วยความความสามารถ,ต้าไท่จื่อ,บิดาของกงจูเฉียนโหยว,ไท่จื่อเจิ้งอี้,หรือเรียกอีกอย่างหนึ่งว่า
อ๋องเจิ้งอี้.
อ๋อง (อักษรจีน: 王; พินอิน:wáng) ซึ่งแปลว่า พระมหากษัตริย์
ทว่ากล่าวได้ว่าที่นี่เมืองอู๋ซวังนั้นเป็นดินแดนที่อยู่ภายใต้การปกครองของต้าไท่จื่อสองคน.
ไท่จื่อต้าเสวียน,หรือเรียกว่าอ๋อง
ต้าเสวียน,เป็นคนที่มีความสามารถที่น่ากลัวมาก,หากอิทธิพลทั้งหมดตกอยู่มือคนผู้นี้,เช่นนั้นคงยากที่จะต่อต้านราชวงศ์ราชันต์ต้ายวีได้.
กล่าวอีกอย่างหนึ่ง,เหล่าขุนนางและขุนพลทางการทหาร,เกือบทั้งหมดเป็นคนของอ๋องต้าเสวียน,ยกเว้นองเหนือหัวแล้ว,อิทธิพลของต้าเสวียนอ๋องนั้นมากที่สุด,ไม่มีใครสามารถเทียบเขาได้เลย.
หากเจ้าเมืองอู๋ซวังเป็นคนของอ๋องต้าเสวียนล่ะก็,กองกำลังทหารทั้งหมดก็จะกลายเป็นของอ๋องต้าเสวียน,ทว่าตอนนี้การปกครองทางการเมืองและการทหารยังแยกกันอยู่,โดยมีเฉิงตงสี่คนในการบริหารเมือง,เป่ยเฉิงตงเป็นคนของอ๋องต้าเสวียน,ทว่าหนานเฉิงตงเป็นคนของอ๋องเจิ้งอี้.
เมื่อเมืองหน้าด่านนี้ถูกยกระดับให้กลายเป็นเมืองใหญ่,แน่นอนว่าจะต้องมีการคัดเลือกเจ้าเมืองใหม่จากสี่เฉิงตง.
ตอนนี้,มีการเลือกตั้งโดยมีผู้รับการคัดเลือกสี่คน.
หลังจากฝ่ายขุนนางพิจารณา,ก็จะส่งรายงานแก่องค์เหนือหัว,และเหนือหัวก็จะทำการแต่งตั้งอย่างเป็นทางการ,และหากสถานการณ์เป็นไปเช่นนี้แล้วล่ะก็อาจกล่าวได้ว่าคนที่จะเป็นเจ้าเมืองนั้นก็คือโม่ไป่หลีอย่างไม่ต้องสงสัย.
อย่างไรก็ตาม,สถานการณ์ทางการเมืองนั้นซับซ้อน,ทุกคนเองก็ไม่หวังให้อ๋องต้าเสวียนนั้นได้ฐานอำนาจเพิ่มขึ้นอีก,แม้ว่าจะดูภายนอกที่ดูสดใสไม่มีปัญหา,แต่เหตุการณ์ภายในกลับยุ่งเหยิง,มีการโต้เถียง,ขัดแย้งกันขึ้นทุกทิศทุกทาง.
ต้าไท่จื่อทั้งสี่นั้นต่างก็มีกลยุทธ์และแผนการของตัวเอง,ทุกคนต่างก็มีศักยภาพที่ทัดเทียมกัน,แต่ละคนต่างก็มีกุนซือที่ไว้ใจในการวางแผน,สถานการณ์ภายในนั้นซับซ้อนแต่ละคนต่างก็มีแผนการที่สมบูรณ์แบบ,มีเขี้ยวเล็บที่แหลมคมซ่อนเอาไว้ไม่ให้ใครเห็น.
การการแข่งขันนี้ดูเหมือนว่ามันจะเป็นหนึ่งในพิธีการอย่างหนึ่ง,เป็นหนึ่งในเวทีของการคัดเลือก.
นอกเหนือจากราชสำนักแล้ว,องค์เหนือหัวที่คอยเฝ้ามองการแข่งขันนี้อยู่อย่างสุขุม,ในมุมมองของพระองค์นั้นเป็นเรื่องธรรมดา,นี่เป็นส่วนหนึ่งของการปกครอง,ซึ่งอาจจะมีความวุ่นวายบ้าง,แต่ก็เป็นการแข่งขันกันเพื่อต้าโหลว.
องค์เหนือหัวที่ควบคุมชะตาฟ้า,สามารถที่จะเคลื่อนผืนฟ้าและปฐพี,ควบคุมความเป็นไปทั้งหมดของราชวงศ์,หากแต่ด้วยมันสมองของคนๆหนึ่ง,ยากที่จะขับเคลื่อนผืนฟ้าและปฐพีไปจนถึงจุดสูงสุดได้,เพื่อการนั้น,จึงสร้างเหตุการณ์การแข่งขันเพื่อให้เป็นหนึ่งในการขับเคลื่อนราชวงศ์.
การจัดการแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น,ก็เป็นหนึ่งในเส้นทางต่อกรกับพลังของสวรรค์!
เมืองอู๋ซวังนั้น,เป็นเมืองหน้าด่าน,มีพื้นที่เชื่อมต่อกับเขตแดนของราชวงศ์ราชันต์ต้ายวี,เป็นเมืองที่มั่นคง,มีป้อมปราการและม่านพลังป้องกันที่ไม่ธรรมดา.
เจ้าเมือง,จะได้รับวาสนามรรคาที่อ่อนนุ่ม,ซึ่งถูกยกระดับจากเมืองหน้าด่านเป็นเมืองใหญ่,ซึ่งวาสนามรรคาระดับอ่อนนุ่มนี้,ไม่ได้ด้อยไปกว่าเจ้าเมืองใหญ่อื่นๆในราชวงศ์ต้าโหลวเลย.
มรรคาที่อ่อนนุ่มนั้น,จะทำให้พลังฝึกตนเพิ่มขึ้นเป็นสามเท่า,ทว่าตำแหน่งเจ้าเมืองนั้น,น่าจะเพิ่มเป็น
3.5 เท่า,หรือแม้แต่สี่เท่าด้วยซ้ำ,หากว่าเจ้าเมืองอยู่ภายใต้อำนาจของอ๋องต้าเสวียน,แน่นอนว่าจะทำให้อ๋องต้าเสวียนได้รับวาสนาเพิ่มอีก.
แม้ว่าจะได้เพิ่มไม่มาก,แต่ก็ยังดีกว่าไม่ได้,เก็บ,สะสมอีกหลายแห่ง,เก็บเล็กผสมน้อย,หลายๆเมืองรวมกัน,ใครจะยอมพลาดโอกาสนี้ล่ะ?
ก็หมายความว่า,การแข่งขันในครั้งนี้,ยังเป็นการเพิ่มโอกาสเพิ่มวาสนา,คล้ายๆกับการเพิ่มโอกาสที่จะเป็นเหนือหัวคนต่อไป.
เกี่ยวกับการเลือกตั้งครั้งนี้,คัดเลือกจากเฉิงตงทั้งสี่,ด้วยการยกระดับเมืองหน้าด่านอู๋ซวังให้กลายเป็นเมืองใหญ่,ซึ่งเมืองทางการทหารตอนนี้จะเปลี่ยนเป็นเมืองทั่วไปอย่างเป็นทางการ,ด้วยการเลือกตั้งคัดเลือกเจ้าเมืองในครั้งนี้,ทำให้ประชาชนทุกคนพึงพอใจเลยทีเดียว.
อ๋องต้าเสวียนที่เชื่อว่าอิทธิพลของเขาในเมืองอู๋ซวัง,มีกองกำลังทหารเป็นจำนวนมากในปกครอง,เจ้าเมืองคนแรกนั้น,ย่อมต้องเป็นคนของเขาอย่างไม่ผิดเพี้ยน,ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง.
ส่วนอ๋องเจิ้งอี้,ก็มั่นใจเช่นกัน,เรื่องที่ดูเหมือนเป็นไปไม่ได้,ตอนนี้อาจจะเป็นไปได้,นอกจากนี้สุ่ยเทียนหยาหนานเฉิงตงยังเป็นคนของเขา,นอกจากนี้เขายังได้ส่งบุตรสาวที่ชาญฉลาดที่สุดออกมาช่วย,โอกาสเลือกตั้งครั้งนี้ย่อมมีโอกาสประสบผลสำเร็จ.
ต้าไท่จื่อคนอื่นๆตอนนี้กำลังหยุดนิ่งรอคอยเฝ้าดูอยู่ห่างๆ.
เมืองอู๋ซวัง,มีประชาชน,ทหารและขุนนาง,รวมๆกันแล้ว
10 ล้านคน,เป็นเมืองใหญ่ที่แข็งแกร่ง,มีทหาร 1.2 ล้านคน,เหล่าเจ้าหน้าที่ 50,000
คน,และประชาชนธรรมดาทั่วไป 8.75 ล้านคน.
จงซานที่เฝ้ามองข้อมูลในมือ,ทั่วทั้งร่างกำลังแช่อยู่ในน้ำร้อนที่มีกระแสไฟฟ้าที่แล่นไปมาไม่หยุด,บ่อน้ำร้อนนี้เปี่ยมไปด้วยพลังสายฟ้า.
หลายวันมานี้,กงจูเฉียนโหยวได้มอบทรัพยากรมากมาย,สร้างสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมในการฝึกฝนวิชาให้กับจงซาน.
ห้องฝึกฝนวิชาที่สร้างจากศิลาสายฟ้า,และยังมีผลไม้อสนี,รวมทั้งยังมีสุราหยาง,แม้แต่สาวงามมากมายคอยให้บริการ,บ่อน้ำร้อน,ที่ดูเหมือนธรรมดาแต่กับมีพลังสายฟ้าที่เข็มข้น,ทำให้พลังฝึกตนของจงซานเพิ่มขึ้นมาไม่น้อย.
กับสภาพแวดล้อมเช่นนี้นับว่าเป็นอะไรที่ยอดเยี่ยมที่สุดของจงซาน,แน่นอนว่าเขาได้รับการดูแลอย่างดีเยี่ยม,นี่ก็เพราะว่าด้วยทักษะความสามารถเชาว์ปัญญาของจงซาน,หากว่าจงซานเป็นคนที่โง่งม,ถึงแม้ว่าจะมีพรสวรรค์ร่างกายที่ดี,ก็เพียงได้รับการดูแลทั่วไปเท่านั้น,แน่นอนว่าศักยภาพของแต่ละคนนั้น,ยังมีอีกหลายเรื่องที่ไม่ได้ด้อยไปกว่าพลังฝึกตน.
จงซานรู้สึกซาบซึ้งในตัวกงจูไม่น้อย,ก่อนหน้านี้ที่ค่ายกลแปดประตูกุญแจทองกงจูเฉียนโหยวดูแลเขาเป็นอย่างดี,แม้ว่าผลประโยชน์ครั้งนั้นจะเป็นพวกเขาได้รับ,แม้ว่าพลังของเขานั้นจะอ่อนด้อย,ทว่าก็ยังได้รับความโปรดปราณจากกงจูเฉียนโหยว,หากไม่เพราะนางในวันนั้น,หยิงหลานไม่มีทางได้รับสืบทอดจิตวิญญาณค่ายกล,ด้วยการได้รับการดูแลจากคนของนางในครั้งนั้น,ส่งผลให้พวกเขาได้รับผลประโยชน์เป็นอย่างมากเลยทีเดียว.
ดังนั้น,หลายวันมานี้,จงซานได้เค้นสมองรวมรวบความคิดเพื่อที่จะช่วยนางแก้ปัญหา.
เห็นได้อย่างชัดเจนว่าสุ่ยเทียนหยานั้นด้อยกว่า,กองกำลังทั้งหมดเลือกโม่ไป่หลี,และในเมืองอู๋ซวังเองก็ยังมีหลากหลายตระกูลที่ทรงอิทธิพล,กับเจ้าเมืองคนใหม่นี้,ทุกคนส่วนมากล้วนแล้วแต่มีความสัมพันธ์กับโม่ไป่หลี,สี่เฉิงตงที่ปกครองเมืองอู๋ซวังทั้งสี่เขต,แม้แต่เขตแดนทิศใต้เขตการปกครองของเขา,สุ่ยเทียนหยายังไม่สามารถยึดครองได้อย่างสมบูรณ์,การจะได้รับชัยชนะในครั้งนี้,ยาก! เป็นงานที่ยากมากๆ!
ร่างที่อาบไปด้วยบ่อน้ำร้อนไหลแปบๆ,จงซานที่ค่อยๆลึกขึ้นจากบ่อน้ำร้อน,และยังมีสาวใช้ที่งดงามเป็นอย่างมากค่อยดูแลซึ่งเป็นคนที่กงจูเฉียนโหยวส่งมาก,คอยรับใช้จงซาน,แม้แต่เช็ดตัวและสวมใส่เสื้อผ้า,จงซานที่แต่งการเสร็จก็เดินออกมาช้าๆ.
ขณะที่เขาเดินข้ามาถึงห้องรับรอง,ทันใดนั้นก็เห็นกงจูเฉียนโหยวที่กำลังดื่มชา,อาต้า,อ้าเอ้อยื่นอยู่ด้านหลัง,มีสุ่ยเทียนหยาที่นั่งอยู่อีกข้าง.
กงจู่เฉียนโหยวที่สวมชุดของบุรุษ,ทว่าก็ยังดูสง่างามเป็นอย่างมาก.
appearance.
"หืม?กงจูมาอย่างงั้นรึ?
ทำไมไม่บอกกล่าวเลยล่ะ?"จงซานที่กล่าวออกมาทันทีด้วยท่าทางละอายใจ.
"เซียนเซิงอาบน้ำอยู่,เฉียนโหยวย่อมไม่กล้ารบกวน,"กงจูเฉียนโหยวกล่าวออกมาด้วยรอยยิ้ม.
"กงจูอย่าได้เกรงใจ"จงซานส่ายหน้าไปมาพร้อมเผยยิ้มออกมา.
"เซียนเซิง,เรื่องเลือกตั้งเจ้าเมืองนั้น,เริ่มเป็นรูปเป็นร่างแล้วรึยัง?"กงจูเฉียนโหยวที่กล่าวสอบถามออกมา.
จงซานที่ก้าวเข้ามานั่งยังเก้าอี้ตรงข้ามกับกงจูเฉียนโหยวอย่างนุ่มนวล.
"กงจูเฉียนโหยว,ช่วยบอกเรื่องราวของเซียนเซิงสุ่ยจิงให้ฟังได้หรือไม่?
ข้าคิดก่อนหน้านี้แล้ว,ก่อนอื่นควรจะรู้เรื่องของฝ่ายตรงข้ามให้มากกว่านี้สักหน่อย."จงซานกล่าว.
"เซียนเซิงสุ่ยจิง,นอกเหนือจากท่านพ่อแล้ว,ฝ่าบาทเอง,ก็ยังเรียกเซียนเซิงด้วยเช่นกัน,เฉียนโหยวชื่นชมเซียนเซิงสุ่ยจิงไม่น้อย,เคยติดต่อกับเซียนเซิงสุ่ยจิง,ก็รับรู้ว่าเขาคือคนที่มีความสามารถที่หายากในโลกหล้า,เป็นกุนซือที่น่าเกรงขาม,ทว่าดูเหมือนว่าจะยังคงปกปิดความสามารถของเขาเป็นความลับ,เพราะว่าเขาคือคนที่พิเศษของตำหนักอ๋องต้าเสวียน,เคยเคยเชื้อเชิญเขาอยู่หลายครั้ง,แต่ก็ไม่สามารถได้รับการตอบรับเลย."กงจูเฉียนโหยวกล่าว.
ได้ยินคำพูดของกงจูเฉียนโหยวแล้วทำให้จงซานขมวดคิ้วไปมา,หลังจากที่ได้พูดคุยกับนางมาหลายวัน,จงซานสามารถบอกได้ว่ากงจูเฉียนโหยวนั้นเป็นคนที่ชาญฉลาดเป็นอย่างมาก,นอกจากนี้ยังมีความภาคภูมิอหังการมั่นใจในตัวเอง,แม้ว่านางจะเรียกเขาว่าเซียนเซิง,ทว่านั่นก็เป็นเพียงเหตุผลทางการเมืองเท่านั้น,ไม่ได้ชื่นชมเขาอย่างลึกซึ้งจากภายในหัวใจ,ทว่าสำหรับเซี่ยนเซิงสุ่ยจิงแล้ว,กับทำให้นางกล่าวออกมาด้วยความชื่นชมขนาดนั้นเลยรึ?
"เซียนเซิงสุ่ยจิงและกู่หลิง,เดินทางมาถึงเมืองอู๋ซวังก่อนข้าสามวัน,สามวันนี้,เซียนเซิงสุ่ยจิงได้โน้มน้าว,ตงเฉิงตงและซีเฉิงตง,ให้ทั้งสองยอมแพ้กับการเลือกตั้งนี้,และให้ช่วยเหลือเป่ยเฉิงตงโม่ไป่หลีได้สำเร็จ."กงจู่เฉียนโหยวกล่าวพร้อมขมวดคิ้ว.
"กล่าวอีกอย่างหนึ่ง,ตอนนี้เขตแดนตะวันออก,ตะวันตกและทิศเหนือ,ต่างก็ช่วยเหลือโม่ไป่หลี,ทว่าใต้เท้าสุ่ยมีเพียงแค่เขตใต้เพียงเขตเดียว,และยังไม่สามารถที่จะยึดครองเสียงทั้งเขตได้สำเร็จอย่างงั้นรึ?"จงซานที่สูดหยใจยาว.
"อืม."สุ่ยเทียนหยาที่พยักหน้าพลางถอนหายใจ,สถานการณ์เวลานี้ไม่ค่อยดีนัก.
"กงจูเวลานี้มีการจัดเตรียมอย่างไรรึ?"จงซานสอบถามออกไป.
"กงจูได้ให้ข้านำผู้ใต้บังคับบัญชา 1000
คน,รวมทั้งประชาชนทั่วไป,ได้ออกหาเสียงไปทั่วเมืองอู๋ซวัง,และทำให้ประชาชนทั่วไปรู้จัก,ตราบเท่าที่ข้าได้รับตำแหน่ง,จะทำการลดภาษี,และยังเปิดโอกาสให้ประชาชนทั่วไปกำหนดนโยบายการปกครอง,เพื่อรวบรวมคะแนนเสียงจากประชาชนทั่วไป."สุ่ยเทียนหยากล่าว.
"การกระทำของกงจู,ผู้น้อยชื่นชมนัก."จงซานกล่าวออกมาทันที.
การโฆษณานั้น,นับว่าเป็นหนึ่งที่ช่วยในการหาเสียง,แม้ว่าสิ่งนี้จะเป็นแค่เรื่องพื้นฐานที่ดี,ทว่าก็ไม่สามารถใช้ได้กับทุกคน.
"เซียนเซิงล้อข้าแล้ว,ข้าเองได้พยายามที่จะเพิ่มฐานเสียง,ทว่าเซียนเซิงสุยจิงเองก็ทำเช่นกัน,หนำซ้ำโม่ไป่หลียังมีคนมากกว่าในเมืองอู๋ซวัง."กงจูเฉียนโหยวที่สายหน้าไปมา.
"เฮ้ เฮ้,การหาเสียงนั้นเป็นเรื่องปกติ,ทว่าหากใช้เป็นระยะเวลานั้น,ก็เป็นไปไม่ได้ที่จะสามารถเปลี่ยนฐานเสียงได้อย่างรวดเร็ว,เรื่องนี้,ข้าเพิ่งมีความคิดบางอย่าง,ที่จะแนะนำกงจู."จงซานที่กล่าวออกมาด้วยรอยยิ้ม.
ได้ยินว่าจงซานมีความคิด,กงจูเฉียนโหยวดวงตาเป็นประกายทีเดียว,กงจูเฉียนโหยวนั้นมีกุนซือกว่าสิบคนในเวลานี้,ทว่ากลับไม่มีใครมีความคิดดีๆเลย,แต่จงซานที่ปรากฏตัวไม่กี่วันมีแผนการอย่างงั้นรึ?
สุ่ยเทียนหยาที่ชำเลืองมองไปยังจงซาน,ไม่รู้ว่าเขามีความคิดจริงๆอย่างงั้นรึเหรอ!
จงซานที่นำหมากรุกจีนออกมาวางไปบนโต๊ะน้ำชา,จัดวางหมากหมากสีขาวยังฝั่งทิศใต้,ทิศเหนือ,วางหมากสีดำแทนตัวฝั่งทิศเหนือล้อมรอบทิศตะวันออก,ทิศใต้,และทิศตะวันตกและทิศเหนือ.
จงซานที่หยิบหมากสีดำหนึ่งหมากและหมากสีขาวหนึ่งหมาก,ก่อนที่จะกล่าวออกมาอย่างนุ่มนวล,"ตอนนี้หากราชวงวงศ์ราชันย์ต้ายวีได้เข้าโจมตีเมืองอู๋ซวังในทันที,กงจู,ท่านคิดว่าหมากสีดำทิศใต้ควรที่จะทำอย่างไรดี?"
กับคำถามของจงซานนั้น,สุ่ยเทียนหยาไม่เข้าใจเลยแม้แต่น้อย,ทำได้แค่มองไปยังหมากสีดำที่อยู่ในมือของจงซาน,ใบหน้าที่เต็มไปด้วยความสงสัย,ทว่าทันใดนั้นกงจูเฉียนโหยวก็วางแก้วชาลงบนโต๊ะ,พร้อมกับลุกขึ้นยืนพรวดพลาดด้วยความตื่นเต้น.
ที่มาจากhttps://lnmtl.com/novel/immortality
#นิยาย เรื่องอมตะ #Immortality#นิยายแปลไทย
Author(s)
สนใจสนับสนุนพวกเรา,เข้าร่วมกลุ่ม VIP ====> Click
***เว็ปฟรีอัพ สองวันหนึ่งตอน
***กลุ่มลับ อัพ 2-3 ตอนต่อวัน.
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น