วันเสาร์ที่ 5 มกราคม พ.ศ. 2562

Immortality Chapter 164 Counter-attack of Mo Yanbing

Immortality Chapter  164  Counter-attack of Mo Yanbing

นิยาย เรื่อง อมตะ ตอนที่ 164   การตอบโต้ของโม่เหยี่ยนปิง.


บทที่ 164   การตอบโต้ของโม่เหยี่ยนปิง.




จงซานที่อยู่ในกระโจมจ้องมองขึ้นไปบนยอดเขาสีเหลี่ยม,บางทีการประชุมนี้คงเป็นความลับ,ดังนั้นจึงมีวิธีเก็บเสียงเป็นพิเศษ,สถานที่ดังกล่าวนี่ไม่มีเสียงเล็ดลอดออกมาแม้แต่น้อย.



ด้านล่างที่มีกองกำลังทหารล้อมรอบ,ย่อมไม่มีเหตุใดเกิดขึ้น,ตอนนี้ทำได้แค่รอให้การประชุมเสร็จสิ้น,จงซานไม่ได้ก้าวออกไปจากกระโจม,เพราะว่าในเวลานี้เขาไม่ต้องการที่จะเคลื่อนไหวโดยประมาท.

จวบจวนถึงเวลาเย็น,ดูเหมือนว่าการประชุมจะเสร็จสิ้นแล้ว,บนยอดเขา,แม่ทัพเถี่ยเสวี๋ยที่โบกมือไปมา.

เกี้ยวด้านล่างพร้อมกับคนหามทั้งสิบหกคนก็ลอยขึ้นไปด้านบนทั้งที.

จากนั้นไม่นาน,คงไม่มีการประชุมกันแล้ว,จงซานที่เห็นคนหามเกี้ยวทั้งสิบหกคนพร้อมกับขุนพลสองคน,ที่บินตรงไปยังทิศตะวันตกเฉียงใต้.

อี้เหยี่ยนไปแล้วอย่างงั้นรึ?

หลังจาที่อี้เหยี่ยนไปแล้ว,บนยอดเขา,คนทั้งสองฝ่ายเองกำลังแยกย้ายเช่นกัน.

แม่ทัพเถี่ยเสวี๋ยเองเริ่มสังหารไปยังขุนพล,โบกไม้โบกมือตะโกนสั่งการกองทัพเสียงดัง,ก่อนที่ทัพใหญ่จะเริ่มเคลื่อนย้ายออกไป.

หลังจากนั้นกองกำลังของราชวงศ์ต้าโหลวเองก็เริ่มสั่งการถอนทัพกลับเมืองอู๋ซวังเช่นกัน.

อย่างไรก็ตาม,กงจู่เฉียนโหยวและคนอื่นๆตอนนี้ยังไม่จากไป.

ที่บนขุนเขารูปสีเหลี่ยม,มีศิลาหยกสีขาวบริสุทธิ์,มีแผนที่วางอยู่,เป็นแผนที่ภูเขาและแม่น้ำ,บนเส้นสีแดงขีดตัดผ่านในแผนที,ดูเหมือนว่าการประชุมก่อนหน้านี้,จะมีทั้งได้กำไรและขาดทุนเป็นเรื่องธรรมดา.

กงจู่เฉียนโหยวและเซียนเซิงซือ,พร้อมกับคนอื่นๆที่จ้องมองไปยังแผนที.

ถึงแม้ว่าจะมีการถอนกองกำลังออกไปแล้ว,ทว่ากงจู่เฉียนโหยวยังคงจดจ้องคิดใคร่ครวญอะไรบางอย่างอยู่.

"ยินดีกับกงจูด้วย."เซียนเซิงซือกล่าวออกมาด้วยรอยยิ้ม.

"ยินดีกับกงจู่ด้วย."คนอื่นเองก็กล่าวแสดงความยินดีด้วยเช่นกัน.

"มีอะไรต้องยินดีด้วยล่ะ?ทุกอย่างก็เป็นเหมือนดังที่พวกเราได้คาดการณ์เอาไว้,ยอมเสียน้อยเพื่อรักษาส่วนมาก,อี้เหยี่ยน,ช่างเป็นคนที่ล้ำลึกที่ทำให้ราชวงศ์ราชันย์ต้ายวีมั่นคงอยู่ได้,เพียงแค่คนเดียวของราชวงศ์ราชันย์ต้ายวี,เทียบได้กับกองกำลังหนึ่งล้านคนเลย."กงจู่เฉียนโหยวที่สูดหายใจลึก.

"อย่างน้อยเป้าหมายเรื่องเวลาของพวกเราก็สำเร็จ,ข้อตกลง,ระหว่างสองราชวงศ์,ที่อย่างน้อยหนึ่งร้อยปีจะไม่มีการสู้รบ."กู่หลินที่อยู่ข้างๆเอ่ยออกมาในทันที.

กู่จูเฉียนโหยวที่จ้องมองไปยังกู่หลิน,พร้อมกับส่ายหน้าเบาๆ,กับคำพูดของเขา,หนึ่งร้อยปีอย่างงั้นรึ? นี่เป็นเรื่องราวที่เกิดขึ้นระหว่างกลุ่มคนและกลุ่มคน,ท่ามกลางความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นตลอดเวลา,กระดาษชิ้นนี้,ก็เป็นเหมือนกับคำปฏิญาณต่อสวรรค์และปฐพี,ทว่าก็เหมือนเหมือนกับเศษกระดาษด้วยเช่นกัน,เมื่อสังคมกำลังเสื่อมทรามถดถอยลงไป,สงครามก็ย่อมเกิดขึ้นตลอดเวลาได้เหมือนเดิม.

เห็นกงจูเฉียนโหยวที่ส่ายหน้าไปมา,กู่หลินที่ขมวดคิ้วไปมา,"มีปัญหาอะไร,ข้าพูดผิดตรงใหนอย่างงั้นรึ?"

"เจ้าไม่ได้พูดผิด,ข้อตกลงสำเร็จ,ภารกิจครั้งนี้ถือว่าสมบูรณ์."กงจู่เฉียนโหยวที่ส่ายหน้าไปขณะพูด.

ทว่าเซียนเซิงสุ่ยจิงที่อยู่ข้างๆก็ส่ายหน้าพร้อมกับเผยยิ้มออกมาด้วยเช่นกัน.

"เซียนเซิง,ท่านคิดว่ามันน่าพอใจแล้วรึ?"กงจูเฉียนโหยวที่ส่ายหน้ากล่าวต่อเซียนเซิงสุ่ยจิง.

"เฮ้เฮ้,สำหรับข้าแล้ว,เพียงเท่านี้ก็ถือว่าพอใจแล้ว."เซียนเซิงสุ่ยจิงพยักหน้าให้.

"อืม,เซียนเซิงคงจะพอใจแล้ว,เช่นนั้น,ก็เลยร่วมมือกู่หลินรุมรังแกสตรีเช่นข้า."กงจูเฉียนโหยวกล่าว.

"ข้าไม่นะ,เฉียนโหยว,ข้าไม่คิดที่จะรังแกเจ้าเลย."กู่หลินที่อยู่ใกล้ๆเร่งรีบกล่าวออกมาด้วยความกะวนกระวายใจ.

ได้ยินคำพูดของกู่หลิน,เฉียนโหยวเผยยิ้มออกมาอย่างนุ่มนวล,ชำเลืองมองไปยังกู่หลิน."ในเมืองอู๋ซวังข้ากำลังดิ้นรนอย่างหนักเลยในเวลานี้,เจ้าไม่คิดที่จะต่อให้ข้าบ้างรึ?"

สุ่ยเทียนหยาที่อยู่ข้างๆกงจูเฉียนโหยวจ้องมองไปยังกู่หลินด้วยเช่นกัน,ทว่าดูเหมือนว่าใบหน้าของโม่ไป่หลีอยู่ข้างๆกับกลายเป็นร้อนรนเช่นกัน.

"เรื่องนี้,ข้าไม่สามารถทำได้"กู่หลินที่พูดติดๆขัด,ที่จริงเขาต้องการที่จะรับปากกงจูเฉียนโหยว,ทว่าเมื่อคิดถึงบิดาของเขาที่กล่าวกับตัวเขาแล้ว,ใบหน้าของเขาก็เผยท่าทางอักอ่วนอออกมาเช่นกัน.

"อืม,ข้ารู้."กงจงจูเฉียนโหยวที่ไม่หันหน้าไปมองกู่หลินอีกต่อไป,ทว่านางที่หันหน้ามาจ้องมองแผนที่ต่อ.

กู่หลินที่จ้องมองไปยังกงจูเฉียนโหยว,ซึ่งในดวงตามีท่าทางกระวนกระวายใจเหมือนกัน,ก่อนที่เขาจะจ้องมองคนของเขาและกล่าวออกมาว่า"กลับ!"

กู่หลินที่ก้าวขึ้นไปบนเมฆสีขาวพร้อมกับลอยออกไป,ตรงไปยังเมืองอู๋ซวัง,เซียนเซิงสุ่ยจิง,โม่เป่ยหลีและคนอื่นๆเองก็บินตามเขาไปในทันที.

ตั้งแต่ต้นจนจบ,กงจู่เฉียนโหยวไม่สนใจกลุ่มคนของกู่หลินเลยแม้แต่น้อย,ทว่านางยังคงจ้องมองลงไปในแผนดี,คิดใคร่ครวญหลายๆอย่างไปมา.

ซึ่งมีอาต้า,อาเอ้อและสุ่ยเทียนหยาอยู่ด้านหลัง.

"กงจู."สุ่ยเทียนหยาที่เอ่ยออกมา.

"เยี่ยมอี้เหยี่ยน,ไม่คิดเลยว่าจะร้ายกาจขนาดนี้,ที่จริงตั้งแต่แรกต้องการทำเช่นนี้สินะ,ซ่อนอันตรายเอาไว้,ข้าคิดไว้แล้วแผนที่นี่ต้องมีปัญหา,จริงๆด้วย,มีจริงๆด้วย."กงจูเฉียนโหยวที่ทำการจ้องมองบนโต๊ะหยกและลุกขึ้นในทันที.

"ตูมมม,ตูมมม,ตูมมม"

ทันใดนั้นที่ด้านล่างหุบเขาก็ได้ยินเสียงการต่อสู้เกิดขึ้นในทันที.

เสียงต่อสู้ที่ดังขึ้น,พร้อมกับรบกวนความความคิดของกงจูเฉียนโหยวในทันที,นางที่ขมวดคิ้วเล็กน้อย,ก่อนที่จะหันหน้าไปมองยังมุมหนึ่งด้านล่าง,ซึ่งสถานที่ดังกล่าวมีการต่อสู้เกิดขึ้น.

ที่ด้านกระโจมนั่น,มีกองกำลังจำนวนหนึ่ง,ซึ่งกำลังลอบกรอบคนกลุ่มหนึ่งที่เหมือนว่านางจะดูคลับคล้ายคลับครา.
.....

"ตอนนี้พวกเราไม่สามารถกลับได้อย่างงั้นรึ?"หนานป่าเทียนที่ขมวดคิ้วไปมา.

"นี่คือกระโจมบิดาของข้า,ทว่าไม่มีใครถอนกำลังไป,อธิบายได้ว่าท่านพ่อยังอยู่บนภูเขาด้านบน,รอก่อน,ปัญหาเล็กน้อยเช่นนี้ข้าจะไปสอบถามท่านพ่อ."สุ่ยอู๋เหินที่กล่าว.

"อืม."จงซานที่พยักหน้า,ไม่ได้รีบร้อนอะไร.

เหล่าผู้ใต้บังคับบัญชาที่กำลังจากไปมากขึ้นเรื่อยๆ,ตอนนี้เหลือเพียงแค่กระโจมเดียวแล้ว.

ทว่าในเวลานั้น,จงซานก็รับรู้ได้ถึงความผิดปกติ,ทว่าสุ่ยอู๋เหินกลับยังไม่สามารถมองเห็นได้.

"หนีเร็วเข้า."จงซานทีก้าวออกไปจากกระโจมอย่างรวดเร็ว.

สุ่ยอู๋เหินและหนานป่าเทียนที่ก้าวตามจงซานออกมาติด.

ทว่าเพียงแค่พริบตาเดียว,ก็มีกลุ่มคนจำนวนหนึ่งได้เข้ามารอบกรอบกระโจมของพวกเขาเอาไว้ก่อนแล้ว,ในเวลานี้พวกเขาอยู่ในวงล้อม.

ชายสามคนที่อยู่ในชุดที่หรูหรา,โม่เหยี่ยนปิงที่พวกเขาเคยไปหาเรื่องมาก่อนหน้านี้,ตอนนี้เขาได้นำทหารกว่าห้าสิบคนเข้ามาล้อมกรอบ,ล้อมรอบกระโจมของพวกเขาอยู่,ตอนนี้รอคอยคำสั่งจากโม่เหยี่ยนปิงอยู่.

"โม่เหยียนปิง."สุ่ยอู่เหินทันทีที่ก้าวออกมาก็กล่าวออกมาเสียงดัง.

"ฮ่าฮ่า,สุ่ยอู๋เหิน ,เจ้าจงซาน,มันกล้ามาหลอกลวงข้า,ไม่เคยมีใครกล้ามาหลอกลวงโม่เหยี่ยนปิง,ไม่เคยมีใครหาเรื่องข้าแล้วปลอดภัย,ตอนนี้พวกเจ้าถูกล้อมไว้แล้ว,ยังคิดว่าจะหนีได้อย่างงั้นรึ? แส่หาความอัปยศมาให้กับตังเองจริงๆ."โม่เหยี่ยนปิงหัวเราะชอบใจ.

"โม่เหยียนปิง,เจ้ากล้าล่วงเกินข้าอย่างงั้นรึ?"สุ่ยอู๋เหินแค่นเสียงเย็นชา.

"สุ่ยอู๋เหิน,เจ้าโปรดวางใจพวกเรามีมิตรภาพที่ดีต่อกันมานาน,ข้าไม่ทำให้เจ้าต้องรู้สึกลำบาก,ตราบเท่าที่เจ้าไม่แส่มายุ่งเรื่องของข้า."โม่เหยียนปิงแค่นเสียง.

"เจ้าพวกลิ่วล่อโม่เหยี่ยนปิง,พวกเจ้ากล้าหาเรื่องข้าอย่างงั้นรึ?"สุ่ยอู๋เหินที่แค่นเสียงอย่างเย็นชา.

ในเวลานั้นชายสองคนที่ยืนอยู่ข้างๆโม่เหยียนปิงที่เผยยิ้มยิ้มออกมาอย่างนุ่มนวล."สหายสุ่ย,ในเวลานี้คงต้องล่วงเกินแล้ว,ในเมื่อสหายโม่เอ่ยปากขอร้อง,พวกเราก็จะต้องช่วยเขา,ขอเพียงแค่เจ้าไม่ลงมือพวกเราก็จะไม่ลงมือเช่นกัน."

ได้ยินชายสองคนที่แต่งตัวหรูหรากล่าวทำให้สุ่ยอู๋เหินขมวดคิ้วไปมา.

"พวกเขาเป็นใคร?"จงซานที่สอบถามออกมา.

"บุตรชายของซีเฉิงตง(ขุนนางตะวันตก)และตงเฉิงตง(ขุนนางตะวันออก),พวกเดียวกับโม่เหยียนปิง,"สุ่ยอู๋เหินแค่นเสียง,เห็นได้อย่างชัดเจนว่าคนทั้งสองเองก็มีสถานะเท่ากับสุ่ยอู๋เหิน,ตราบเท่าพวกเขาขวางสุ่ยอู๋เหินไว้,ก็สามารถปล่อยให้เหล่าคนใช้ของพวกเขาจัดการได้.

จงซานที่เผยยิ้มออกมาอย่างนุ่มนวล,บนใบหน้าไม่ได้แสดงท่าทางเป็นกังวล,ทว่ายังดูสงบนิ่ง.

"โม่เหยี่ยนปิง,เจ้าช่างกล้ามากนะ."จงซานทีเอ่ยออมาเสียงดัง.

"เจ้าคิดว่าจะมาหลอกข้าครั้งที่สองอย่างงั้นรึ? เจ้าพวกบ้านนอกสำนักไคหยางจากเกาะหมาป่าสวรรค์,เป็นแค่ศิษย์น้อง,ยังมีหน้าพูดจาใหญ่โต คิดว่าตัวเองเป็นไคร? สวะ!"โม่เหยียนปิงแค่นเสียง.

"สามหาม,เจ้ากล้าสังหารขุนนางราชวงศ์อย่างงั้นรึ? ตามกฎหมายแล้ว,เจ้าต้องถูกสังหารเก้าชั่วโคตร."จงซานที่ตะโนออกไปเสียงดัง.

ดวงตาของจงซานที่คมกล้าเผยท่าทางสะกดข่ม,เหล่าลิ่วล่อห้าสิบคนแสดงท่าทางลังเล,ไม่มีใครกล้าลงมือ,ทุกคนที่จ้องมองไปยังโม่เหยี่ยนปิง.

"เจ้า,เจ้ากล้าเกินไปแล้ว,เพียงแค่แอบอ้างว่าตัวเองเป็นขุนนาง,เพียงแค่นี้ข้าก็สามารถสังหารเจ้าได้แล้ว."โม่เหยียนปิงที่ตะโกนออกไปเสียงดัง.

จงซานที่ยิ้มอย่างเย็นชา,ก่อนที่จะนำเหรียญตราวงกลมออกมา,แสดงด้านหนึ่งให้กับโม่เหยียนปิงและคนอื่นๆได้เห็น.

"เบิ่งตาดูซะพวกตาถั่ว,นี่คืออะไร."จงซานทีกล่าวออกมาเสียงดังฟังชัด.

เขาไม่จำเป็นต้องกล่าวอะไรมากมายนัก,เพราะว่าจงซานตอนนี้ต้องการแสดงท่าทางสะกดข่มแสดงตำแหน่งที่เหนือกว่า,พร้อมกับกล่าวออกมาด้วยความเหยียดหยัน,เพื่อที่จะทำลายความหาญกล้าของคนเหล่านี้ไป.

"ศาลาเจ็ดดาว?"ชายที่แต่งตัวหรูหราคนหนึ่งที่อยู่ข้างๆโม่เหยียนปิงที่ขมวดคิ้วไปมา.

"ศาลาเจ็ดดาว,สำนักไคหยาง? นี่คือคนที่อาวุโสไคหยางรับรองอย่างงั้นรึ? เขาเป็นขุนนางระดับห้าของราชวงศ์สวรรค์ต้าโหยว?"ชายที่แต่งตัวหรูหราอีกคนอุทานออกมา,ราวกับว่าเขาสามารถเข้าใจเรื่องทุกอย่างได้ในทันที.

กับคำพูดดังกล่าวนั้น,ทำให้เหล่าผู้ติดตามเวลานี้ระวังมากยิ่งขึ้น ไม่รู้ว่าควรจะทำต่อหรือว่าถอยหนีกัน.

"โม่เหยียนปิง,ข้าไม่ได้หลอกเจ้า,พวกเราสามคนคือขุนนางระดับห้า,เจ้าต้องการที่จะสังหารขุนนางระดับห้าของราชวงศ์ต้าโหลวอย่างงั้นรึ?,หากเจ้ากล้า,ก็ลองสังหารพวกเราดูสิ."จงซานที่ตะโกนออกไปเสียงดังฟังชัด.

โม่เหยียนปิงที่ตื่นตะลึง,สังหารขุนนางของราชวงศ์อย่างงั้นึ? แม้ว่าโม่เหยียนปิงจะเป็นเด็กเอาแต่ใจของเมืองอู๋ซวังก็ตาม,ทว่าเรื่องนี้เขาย่อมไม่กล้า,นอกจากนี้ยังเป็นขุนนางระดับห้าอีก.

"เส้าเหยีย,พวกเขาเพิ่งเดินทางมาถึงเมืองอู๋ซวังเอง,น่าจะยังไม่ได้ตำแหน่ง,ตอนนี้ยังไม่ได้เป็นขุนนางอย่างเป็นทางการ,ดังนั้นตาบเท่าที่พวกเขาไม่ตาย,ก็น่าจะ..."ผู้ใต้บังคับบัญชาของโม่เหยียนปิงที่กล่าวออกมาในทันที.

จงซานที่ได้ยินคำพูดลิ่วล่อของโม่เหยียนปิง,ดวงตาที่ชำเลืองมองออกไป,เขาจำได้,นี่คือคนรับใช้คนสนิทของโม่เหยียนปิง,ที่มีนามว่าเสี่ยวซาน.

เป็นความจริง,ได้ยินคำพูดของเสี่ยวซาน,ดวงตาของโม่เหยียนปิงเป็นประกาย,ที่มุมปากยกขึ้นมาด้วยรอยยิ้มที่ชั่วร้าย.

"ต้าเหรินจง,ท่านมีตราประทับขุนนางราชวงศ์สวรรค์ต้าโหลวหรือยัง?"โม่เหยียนปิงแค่นเสียง.

"หากไม่มีล่ะก็,ข้าขอล่วงเกินล่ะ."โม่เหยียนปิงกล่าวออกมาอีกครั้ง.

"ฟรึบๆๆ"

จงซานที่ชักดาบ"ฝันร้ายออกมา."ในเวลาเดียวกัน,หนานป่าเทียนที่นำ"ง้าวยักษ์ออกมา"ส่วนสุ่ยอู๋เหินได้ชักกระบี่ยาวสีเขียวออกมาเช่นกัน.

"ลงมือ!"โม่เหยียนปิงที่ออกคำสั่งในทันที.

คนหลายสิบคนที่พุ่งเข้าหาจงซานในทันที.

ทว่าจงซานที่จ้องมองไปยังคนเหล่านี้,ไม่ได้หลบแต่อย่างใด,ที่มุมปากเผยยิ้มออกมาด้วยท่าทางเหยียดหยัน.


จงซานที่สามารถบอกได้ว่าคนเหล่านี้มีระดับแกนทอง,จงซานจึงไม่ได้รู้สึกหวาดกลัวแต่อย่างใด,เพราะว่าด้วยพลังที่เขามีในตอนนี้,และสถานะที่เขาได้แจ้งออกไป,ทำให้คนเหล่านี้ไม่กล้าลงมือเต็มที,ไม่กล้าสังหารเขาอย่างแน่นอน,ซึ่งนั่นการที่จะให้เขากำราบคนเหล่านี้ได้อย่างไม่ยากนัก.

ที่มาจากhttps://lnmtl.com/novel/immortality

#นิยาย เรื่องอมตะ #Immortality#นิยายแปลไทย
Author(s)


สนใจสนับสนุนพวกเรา,เข้าร่วมกลุ่ม VIP ====> Click

***เว็ปฟรีอัพ สองวันหนึ่งตอน
***กลุ่มลับ อัพ 2-3 ตอนต่อวัน.

 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น