วันอาทิตย์ที่ 23 ธันวาคม พ.ศ. 2561

Immortality Chapter 151 Attack in spirit tide

Immortality Chapter 151  Attack in spirit tide

นิยาย เรื่อง อมตะ ตอนที่ 151   ทะลวงระดับในโพรงวิญญาณ.


บทที่ 151   ทะลวงระดับในโพรงวิญญาณ.




ด้านล่างยอดเขาไคหยาง,หุบเขาแห่งหนึ่ง,ในถ้ำแห่งหนึ่งที่เชื่อมต่อกับหุบเขาไคหยางนั้น.

ที่หุบเขาแห่งนี้นั้น,มีคนสองคนยืนอยู่,คนหนึ่งเมื่อแปดปีที่แล้วเขาเคยเข้าแข่งขันชิงมุกคงหลิง,และพ่ายแพ้จงซานกลับมา,หงหนิวนั่นเอง,อีกคนหนึ่งก็คือศิษย์ที่มีระดับแกนทอง,เป็นคนที่นำหงหนิวเข้ามายังสำนักแห่งนี้.



"อาจารย์."หงหนิวที่กล่าวกับหลิงเหรินเต๋า.

"เฮ้เฮ้,หลังจากนี้เจ้าต้องเรียกข้าว่าศิษย์พี่แล้ว."หลิงเหรินเต๋ากล่าวเอ่ยออกมา.

"ไม่ว่าอย่างไร,หงหนิวก็ต้องขอบคุณอาจารย์ที่ดูแล,ไม่เช่นนั้นแล้วคงไม่สามารถก้าวมาถึงวันนี้ได้."หงหนิวที่กล่าวออกมาด้วยความเคารพ.

"สำนักไคหยางแห่งนี้,ทุกคนต่างก็บำเพ็ญฝึกฝนด้วยตัวเอง,แน่นอนพรสวรรค์ของเจ้านั้นโดดเด่นยิ่งกว่าใคร,ที่เจ้ามาได้ถึงตรงนี้เป็นเพราะเจ้าต่างหาก."หลิงเหรินเต๋าเผยยิ้มออกมา.

"อาจารย์อย่าได้ถ่อมตัวเลย,หลายปีมานี้ภายในใจหงหนิวซาบซึ้งใจยิ่งนัก,ไม่ว่าอย่างไร,ทุกอย่างก็เกิดจากอาจารย์ทั้งนั้น."หงหนิวกล่าว.

"เอาล่ะ!หงหนิว,ครั้งนี้นับว่าเป็นโอกาสที่ดี,ตอนนี้โพงวิญญาณขาขึ้นใกล้เข้ามาแล้ว,เจ้าที่ก้าวไปยังระดับสิบเซียนเทียนอย่างคาดไม่ถึง,หนำซ้ำในเวลานี้,คนที่ก้าวไปถึงระดับสิบมีเพียงแค่สองคน,เจ้าจะต้องใช้โอกาสนี้ให้ดีที่สุด,ทะลวงผ่านระดับแกนทองให้ได้."หลิงเหรินเต๋าพูด.

"อาจารย์โปรดวางใจศิษย์จะทำสุดความสามารถ."หงหนิวกล่าว.

"อืม,อืม,หลายปีมานี้,เจ้าเรียกข้าว่าอาจารย์,แต่ข้าไม่มีสิ่งใดมอบให้เจ้าเลย,ยาเม็ดนี้จะสามารถช่วยให้เจ้าทะลวงผ่านระดับได้ง่ายขึ้น,"หลิงเหรินเต๋ากล่าวพร้อมกับนำขวดยาออกมาจากกำไลเก็บของและส่งขวดยาเล็กๆให้กับหงหนิว.

หงหนิวรับมาด้วยความสงสัย,ก่อนที่จะเปิดจุกจ้องมองด้านในก่อนที่จะชำเลืองมองดวงตาเบิกกว้าง,ใบหน้าที่เต็มไปด้วยความประหลาดใจและยินดี,"อาจารย์,เม็ดยายกระดับอย่างงั้นรึ?"

หลิงเหรินเต๋าเอ่ย."ถูกแล้ว,เม็ดยายกระดับ,เจ้าควรจะรู้ว่ามันล้ำค่าขนาดใหน.

"ครับ,หงหนิวทราบดี,เม็ดยายกระดับ,แม้ว่าจะเป็นเพียงเม็ดยาระดับสาม,ทว่าก็เทียบได้กับเม็ดยาระดับสี่ได้เลย,หรือแม้แต่เม็ดยาระดับห้า,กล่าวได้ว่าเป็นของล้ำค่า,แม้แต่สำนักไคหยางก็ยังยากที่จะหาเจอ."หงหนิวที่กล่าวออกมาด้วยความตื่นเต้น.

"ดี,มันเป็นเรื่องที่บังเอิญประจวบเหมาะเป็นอย่างมาก,หลายปีมานี้ข้าเดินทางไปมาหลายที,และได้ช่วยชีวิตคนๆหนึ่งไว้,เขาได้มอบเม็ดยายกระดับนี้ให้กับข้า,เจ้าจะต้องทะลวงผ่านระดับให้ได้,ไม่ว่าอย่างไร,เพื่อให้หนึ่งปีสามารถทะลวงผ่านระดับได้,ให้ใช้เม็ดยายกระดับนี้."หลิงเหรินเต่ากล่าวด้วยความจริงจัง.

"อาจารย์โปรดวางใจ,ศิษย์ทราบแล้ว."หงหนิวที่กล่าวออมมาด้วยความรู้สึกซาบซึ้ง.

"ไปได้แล้ว,ตอนนี้รักษาการณ์ประมุขคงจะกำลังมาปิดผนึกโพรงวิญญาณแล้ว."หลิวเหรินเต๋ากล่าว.

"ครับ,ท่านอาจารย์,"หงหนิวที่พยักหน้าก่อนที่จะเข้าไปในถ้ำด้านในของยอดเขาไคหยาง.

แววตาของหงหนิวนั้นเต็มไปด้วยความตื่นเต้น,หมัดที่กำแน่น,ดวงตาที่เต็มไปด้วยความมั่นคง,จะต้องเหนือกว่าจงซาน,จะต้องเหนือกว่าจงซานให้ได้.

หลังจากที่หงหนิวเข้าไปในถ้ำแล้ว,เสวียนซวินจื่อได้นำกู่ซวินจื่อเหินลงมายังหุบเขาดังกล่าว.

"คารวะรักษาการประมุข,คารวะรักษาการประมุขหญิง."หลิงเหรินเต่าที่แสดงความเคารพในทันที.

หลายปีมานี้,คาดไม่ถึงเลยว่ากู่ซ่างจื่อและเสวียนซวินจื่อจะกลายเป็นคู่บำเพ็ญไปแล้ว,บางทีหลังจาที่ได้ยินคำสั่งเสียของเทียนซวินจื่อ,ทั้งสองคนคงจะตระหนักได้ถึงความสุข.

"พวกเขาเข้าไปแล้วรึ?"กู่ซางจื่อที่สอบถามออกมา.

"หงหนิวเข้าไปแล้ว,แต่ข้ายังไม่เห็นจงซานเลย,ทว่าศิษย์พี่บอกว่าเขาได้เดินทางกลับมาแล้ว."หลินเหรินเต่ากล่าว.

"จงซานอยู่ด้านในแล้ว,อย่าได้เป็นกังวล,ข้าจะปิดผนึกเดียวนี้."เสวียนซวินจื่อที่กล่าวออกมาด้วยรอยยิ้ม,เห็นได้ชัดเจนว่าเขาได้ใช้สัมผัสเทวะกวาดตามองเข้าไปด้านในแล้ว.

"อืม."กู่ซ่างจื่อพยักหน้า.

 ด้วยการสะบัดมือหนึ่งครั้ง,ศิลาขนาดยักษ์ที่เคลื่อนที่มาปิดโพรงวิญญาณ,ซึ่งทั้งคู่ได้เข้าไปแล้วนั่นเอง,ก่อนที่เขาจะล้วงยันต์สีทองออกมาปิดผนึกถ้ำ,ทันทีที่ยันต์ถูกประทับลงไป,พลังของมันที่แผ่ออกมา,ทำให้ร่องรอยของปากถ้ำหายไปทั้งหมด,ผนังถ้ำที่ราบเรียบเป็นเนื้อเดียวกัน.

"ไปกันได้แล้ว."เสวียนซวินจื่อที่กล่าว.

"อืม."กู่ซ่างจื่อพยักหน้า.

หงหนิวที่ก้าวลึกเข้าไปด้านใน,ลึกเข้าไปในโพรงแห่งนี้,มีเส้นทางที่มีส่องประกายเป็นทาง,หงหนิวที่เดินตรงไปด้านหน้าไม่เร็วไม่ช้า.

เมื่อเขาเดินตามทางเดิน,ท้ายที่สุดหงหนิวก็เข้ามาถึงด้านในสุดและสามารถมองเห็นพื้นที่ด้านในได้อย่างชัดเจน.

ที่ด้านในสุดนั้น,อยู่ใจกลางของยอดเขาไคหยางนั่นเอง,สถานที่แห่งนี้มีพื้นที่รัศมีหลายร้อยเมตร,ผนังด้านนอกนั้นมีไขมุกประดับส่องประกายแสงวับวาว,นับว่าเป็นโพรงที่มีขนาดใหญ่มาก,และลึกลงไปด้านล่างมีความลึกกว่าห้าร้อยเมตร,ทว่ามีบันไดที่หมุนวนลงไปด้านหน้า,และดูเหมือนว่าจะมีเส้นทางสองเส้นอยู่ด้านข้างของผนัง,มีความสูงราวๆสิบเมตร.และที่ตรงกลางนั้นมีเสาที่ยกสูงขึ้นมาสองแห่ง,เสาทั้งสองแท่งนั้นมีแท่นเหยียบที่มีขนาดสิบเมตรวางอยู่ด้านบน.

ยกเว้นเส้นทางที่เขาเข้ามา,สองช่องทางนั้นหงหนิวรู้ดี,เป็นเส้นทางที่เชื่อมมาจากขุนเขาเหยี่ยนซานและขุนเขาเสวี๋ยจู๋นั่นเอง.

อย่างไรก็ตาม,เรื่องดังกล่าวนั้นไม่ใช่เรื่องสำคัญ,เรื่องที่สำคัญก็คือแท่นบนเสาสูงนั่นต่างหาก,หงหนิวที่เห็นใครคนหนึ่ง,เป็นคนที่เขารู้จัก,จงซานอย่างงั้นรึ?

จงซานที่นั่งสมาธิอยู่บนแท่นเสาต้นหนึ่ง,ดวงตาที่ปิดแน่น,มือทั้งสองข้างวางไว้ที่หน้าท้องน้อย,นิ้วที่ประสานกัน,ดวงตาปิดแน่นบำเพ็ญควบคุมลมหายใจ.

ศิษย์อีกคนก็คือจงซานอย่างงั้นรึ?เขาก้าวไปถึงระดับสิบเซียนเทียนแล้วอย่างงั้นึ? จงซานก้าวเข้ามาเท่ากับเขาแล้ว,เขามีพรสวรรค์ทางร่างกายไม่ดีอย่างงั้นรึ?

หงหนิวที่ขมวดคิ้วไปมา,ทว่าก็ไม่ได้กล่าวอะไรออกไป,เขาที่ประหลาดใจเป็นอย่างมาก,เป็นจังหวะดีเขาจะต้องก้าวไปถึงระดับแกนทองให้ได้ก่อนจงซานให้ได้.

หงหนิวที่ก้าวเข้าไป,ก่อนที่จะกระโดดขึ้นไปบนแท่นเสาหินอีกต้น,พร้อมกับนั่งบำเพ็ญเหมือนดั่งเช่นจงซาน.

ในเวลาเดียวกัน,จงซานที่ลืมตาขึ้นมาเล็กน้อย,จ้องมองออกไปคนที่เข้าร่วมทะลวงระดับกับเขา,เป็นหงหนิวนั่นเอง,จงซานที่พยักหน้าเพื่อทักทายเขาเล็กน้อย,หงหนิวเองก็พยักหน้าให้กับเขาเช่นกัน.

จากนั้นคนทั้งสองก็ไม่กล่าวอะไรต่อกันอีกต่อไป,ตอนนี้พวกเขากำลังรอการมาถึงพลังวิญญาณขาขึ้น.

หลังจากที่รอคอยอยู่ราวๆครึ่งชั่วโมง,ท้ายที่สุดก็ถึงเวลา.

จากช่องทางอุโมงค์จากยอดเขาเหยี่ยนซานและอีกเส้นจากยอดเขาเสี๋ยจุ่,ตอนนี้เอ่อล้นไปด้วยพลังวิญญาณที่โถมกระหน่ำ,รวบรวมมาอยุ่ที่ใจกลาง.

ไม่ใช่กระแสลมทั่วไป,แต่เป็นพลังวิญญาณ,พลังวิญญาณมากมายจากขุนเขาเหยียนซานและขุนเขาเสี๋ยจู่,เป็นพลังหยางและหยินที่ถูกส่งเข้ามานั่นเอง.

กระแสพลังวิญญาณที่เอ๋อล้นขึ้นมาในทันที,ซัดกลิ้งไปทั่วบริเวณ,จงซานและหงหนิวสามารถสัมผัสได้ถึงกระแสพลังที่หมุนวนขึ้นด้านบน.

พลังวิญญาณ,เป็นพลังวิญญาณที่หนาแน่นเป็นอย่างมาก,เป็นกระแสของพลังวิญญาณที่หนาแน่นมากมายขนาดนี้เลยรึ? ต้องรู้ด้วยว่าพลังวิญญาณนั้นเป็นสิ่งว่างเปล่าไม่มีรูปร่าง,เป็นเหมือนกับพรจากฟ้าดิน,ที่ไม่สามารถจับต้องได้.

กระแสงพลังวิญญาณที่เริ่มหนาแน่นขึ้นเรื่อยๆ,เวลานี้เริ่มที่จะเห็นว่ามันเปลี่ยนเป็นเมฆสีแดงเรื่อๆ,และอีกฝั่งหนึ่งก็กลายเป็นเมฆสีน้ำเงินเรื่อๆ,หนึ่งเพลิง,หนึ่งหิมะ,ตอนนี้กำลังกระแทกเข้ามายังจุดศูนย์กลาง.

ทว่าเป็นเรื่องที่แปลกประหลาด,พลังวิญญาณทั้งสองนั้นไม่ได้ปะทะกัน,แต่กำลังเคลื่อนที่เข้าหากันอย่างนุ่มนวล.

ศิลาวิญญาณมากมายด้านล่างถูกรวบรวมตัวขึ้นเรื่อยๆ,กองพะเนินขึ้นเรื่ยยๆ,อย่างรวดเร็ว,ทั้งสองคนยังคงนั่งสมาธิรวบรวมพลังหยินหยางอย่างต่อเนื่อง,พวกเขาทั้งสองที่เป็นเหมือนกับปลาที่กำลังแหวกว่ายอยู่ในทะเล,มันกำลังไหลเข้ามาภายในร่างกายไม่หยุดหย่อน.

พลังวิญญาณ,เป็นพลังวิญญาณที่น่าพรั่นพรึงมาก,คนทั้งสองสามารถสัมผัสได้ถึงพลังวิญญาณมากมายที่ถูกกระแทกเข้ามาในร่างอย่างบ้าคลั่ง,ดูเหมือนว่ามันจะสามารถทะลวงผ่านเข้ามาในจุดชีพจรทั้งหมดของพวกเขาอย่างรวดเร็ว.

พลังวิญญาณที่จำเป็นต้องสกัดกลั่น,คนทั้งสองที่กำลังแผ่พุ่งพลังสกัดกลั่นจุดชีพจรของตัวเองอย่างบ้าคลั่ง,ดูดซับพลังวิญญาณที่มีอยู่มากมาย,โพลงวิญญาณขาขึ้น,หากว่าฝึกฝนบำเพ็ญเพียรในสถานที่นี้ได้ตลอด,จะทำให้พลังฝึกตนเพิ่มขึ้นรวดเร็วขนาดใหนกัน.

สถานที่พิเศษของสำนักไคหยางนี้,ด้วยเหตุการณ์โพรงวิญญาณขาขึ้นนี้,ไม่เพียงแต่สามารถใช้ในการทะลวงผ่านไปยังระดับแกนทอง,ยังเหมาะที่จะใช้ในการทะลวงผ่านไปยังระดับก่อตั้งวิญญาณอีกด้วย,สถานที่แห่งนี้นับว่าเป็นขุมทรัพย์ที่หายากเลยทีเดียว.

ด้วยพลังวิญญาณมากมายที่ใช้ในการหล่อเลี้ยง,เป็นพลังที่เกินจำเป็น,คนทั้งสองเวลานี้จำเป็นต้องทะลวงผ่านระดับอย่างเต็มที,หนึ่งปี,พวกเขาจะต้องฉวยโอกาสนี้เอาไว้ให้ได้.

หกเดือนหลังจากนั้น,หงหนิวที่ลืมตาขึ้นมาช้าๆ,พื้นที่รอบๆนั้นยังเต็มไปด้วยพลังวิญญาณมากมาย,หงหนิวที่เริ่มลังเล,เพราะว่าหนึ่งเดือนที่แล้ว,หงหนิวที่เริ่มก้าวเข้าสู่ระดับแกนทองก้าวหนึ่งแล้ว,อย่างไรก็ตามหลังจากผ่านมาหนึ่งเดือน,เขาก็ยังไม่สามารถทะลวงผ่านระดับได้,หากเป็นเช่นนี้อาจจะต้องใช้เวลาอีกถึงหกเดือนถึงจะสามารถทะลวงผ่านระดับแกนทองได้,หากว่าเขาใช้เม็ดยายกระดับในเวลานี้,สิบวันหลังจากนี้เขาอาจจะทะลวงผ่านระดับก็ได้,หากว่าเป็นเช่นนั้น,ด้วยสภาพแวดล้อมเช่นนี้,เมื่อเขาทะลวงผ่านระดับได้แล้ว,อาจจะสามารถก้าวไปถึงระดับหนึ่งแกนทอง,ไม่,อาจจะเป็นระดับสองแกนทองได้เลย.

หงหนิวที่ขมวดคิ้วไปมาเล็กน้อย,คิดใครครวญก่อนที่จะจ้องมองไปยังฝั่งของจงซาน.

ขณะที่หงหนิวขมวดคิ้วครุ่นคิดอยู่นั้น,ที่ไกลออกไปนั้นจงซานเองดูเหมือนว่าจะตื่นขึ้นมาเช่นกัน,ทว่าจงซานไม่ได้มองมายังฝั่งของหงหนิว,เขาที่สะบัดมือหนึ่งครั้ง,นำขวดยาขนาดเล็กออกมา,กับการกระทำเช่นนั้นทำให้ดวงตาของหงหนิวเบิกกว้างด้วยความไม่อยากเชื่อเลยแม้แต่น้อย,คาดไม่ถึงขวดยานั่น,เม็ดยายกระดับอย่างงั้นรึ?

เม็ดยายกระดับอย่างงั้นรึ?เป็นไปได้อย่างไร,เขาเองก็มีอย่างงั้นรึ?

จงซานที่ไม่สนใจหงหนิว,หลังจากกินเม็ดยายกระดับไปแล้วก็นั่งบำเพียรต่อ,หงหนิวที่จ้องมองออกไปด้วยความหวั่นเกรง.

วันถัดมา,หวงหนิวที่ยังไม่ตัดสินใจที่จะใช้,เขาที่ยังคงเฝ้ามองผลว่าจงซานจะทะลวงระดับผ่านหรือไม่,เขาที่จับจ้องมองไปยังจงซานอีกครั้ง,ดวงตาของเขาแทบถลนออกมา,จงซานที่นำขวดยาขนาดเล็กออกมาอีกครั้ง,เป็นเม็ดยายกระดับอย่างงั้นรึ?

ดวงตาของหงหนิวที่จ้องมองกลมโต,จงซานใช้เม็ดยายกระดับ สองเม็ดเลยรึ?

วันที่สาม,ขณะที่หงหนิวเฝ้ามอง,จงซานก็ยังนำเม็ดยายกระดับขึ้นมากินอีกครั้ง,หงหนิวในเวลานี้กลายเป็นว่างเปล่าราวกับว่าเขากำลังมองเห็นภาพลวงตา.

สามเดือนถัดมา,หงหนิวที่เฝ้ามองจงซาน,ดวงตาที่เบิกกว้างชะงักงัน,เม็ดยายกระดับ? จงซานผู้นี้,ไปได้เม็ดยายกระดับจากใหนกัน? มีเม็ดยายกระดับมากมายขนาดนี้เลยรึ? เขาได้ไปปล้นสำนักปรุงยามาก่อนรึอย่างไร?

หงหนิวสะบัดมือเบาๆพร้อมกับนำขวดยาขนาดเล็กออกมาจากกำไลเก็บของ,เขาที่จ้องมองไปยังเม็ดยาในมือ,ความฮึกเหิมที่มีอยู่ในใจ,ผ่านมาแค่ครึ่งปี,เขาก็ถูกเปลี่ยนให้เป็นความห่อเหี่ยวใจ,เม็ดยายกระดับ,เม็ดยายกระดับเป็นของล้ำค่าจริงๆรึ?

ในเวลานี้,หงหนิวเลือกที่จะใช้เม็ดยายกระดับแล้ว,เพราะว่าสามเดือนมานี้เขาเห็นจงซานใช้เม็ดยาเป็นจำนวนไม่น้อย,จงซานทำให้เขาตื่นตะลึงอยู่แต่เพียงผ่ายเดียว,เขาจะต้องเร่งรีบทะลวงผ่านระดับให้เร็วที่สุด,เขาไม่สามารถที่จะลากเวลาไปอีกต่อไปแล้ว.



ที่มาจากhttps://lnmtl.com/novel/immortality

#นิยาย เรื่องอมตะ #Immortality#นิยายแปลไทย
Author(s)


สนใจสนับสนุนพวกเรา,เข้าร่วมกลุ่ม VIP ====> Click

***เว็ปฟรีอัพ สองวันหนึ่งตอน
***กลุ่มลับ อัพ 2-3 ตอนต่อวัน.

 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น