วันศุกร์ที่ 21 ธันวาคม พ.ศ. 2561

Miracle Throne Chapter 463 Big Princess Zhou

Miracle Throne Chapter 463 Big Princess Zhou

นิยาย บัลลังก์แห่งปาฏิหาริย์ ตอนที่ 463 กงจูต้าโจว


บทที่ 463 กงจูต้าโจว




เฉินปิงยวีที่คำรามลั่น,แทบจะในทันที,พลังวิญญาณที่พลุ้งพล่านกำลังไหลบ่าออกมา,กลายเป็นพายุหิมะที่รุนแรงกวาดทุกสิ่งทุกอย่างทั่วทั้งห้องโถงแห่งนี้,อุณหภูมิที่ลดลงอย่างรวดเร็ว,ทำให้เกิดเสาน้ำแข็งมากมายหลายต้น,ความหนาวเย็นที่รุนแรง,ความรู้สึกกดดัน,ผู้คุมกฏทั้งสี่แทบจะไม่สามารถเข้าใกล้ได้เลย.



บุปฝาเหมันต์มากมายนับไม่ถ้วนส่องประกายวับวาว,ราวกับหิมะโปรยที่ฟุ้งระยิบระยับสะท้อนแสง,ทั้งงดงามและอันตรายไปพร้อมๆกัน,ปุพผาเหมันตร์ ภูติวิญญาณของเฉินปิงยวีซึ่งกำลังรวมตัวหมุนวนไปทั่วร่างของนาง,เป็นพลังที่ราวกับจะแช่แข็งทุกสิ่งทุกอย่าง.

ผู้คุมกฏทั้งสี่ที่ถูกขวางกั้น,พวกเขาที่ถูกผลักออกไป,พลังของเฉินปิงยวีนั้นทรงพลังเป็นอย่างมาก,เป็นพลังหิมะที่ราวกับจะบดขยี้ทุกสิ่งทุกอย่างให้ลอยออกไป,ในเวลานี้มันได้หมุนวนกลายร่างเป็นมังกรวารีเหมันต์ไปแล้ว,ฝ่ามือของนางที่ตวัดออกกระแทกผู้คุมกฏทั้งสี่.

หญิงสาวที่เงียบงันไม่เป็นที่สังเกต,ไม่คิดเลยว่าจะร้ายกาจและทรงพลังถึงเพียงนี้.

พลังกายานิรันดรขั้นแสงศักดิ์สิทธิ์ที่ดูคล้ายคลึงกัน,และยังมีพลังฝึกตนที่ล้ำลึกมาก.

เหมือนว่าพลังฝึกตนของนางได้ก้าวไปถึงเขตแดนภูติแท้ระดับ 2 แล้ว,เทียบกับตัวคั่นรายกายเช่นเมิ่งหยิงหยิงไม่สามารถนำมาเทียบกันได้เลย,ทักษะและพรสวรรค์การต่อสู้ที่น่าอัศจรรย์ใจ,ภูติวิญญาณที่เหนือล้ำสามารถที่จะดูแคลนคนอื่นๆได้.

แม้แต่ผู้คุมกฏทั้งสี่ยังยากที่จะต่อกร,พวกเขาทั้งหมดที่พยายามจะหลบเลี่ยง,ไม่คิดเลยว่าเฉินปิงยวีนั้นจะแข็งแกร่งขนาดนั้น,คนทั้งสี่ไม่สามารถเข้าไปใกล้ได้เลย,มังกรเหมันต์สองตนที่ระเบิดออกมาเป็นแท่งน้ำแข็ง,แปรเปลี่ยนเป็นบุปฝาเหมันต์กระจายไปทุกทิศทุกทาง.

บุปฝาเหมันต์ม้วนกลิ้งคล้ายเป็นภูเขากระบี่.

แท่งน้ำแข็งมากมายส่องประกายแสงวับวาว.

นี่เป็นวิชาลับ,เพียงพริบตาเทียบนางก็ปลดปล่อย 5-6 กระบวนท่าออกมาแล้ว,แม้แต่อาวุโส,เฟิง,หัว,ซุย,ถู แทบจะไม่สามรถหลบได้เลย,ฝ่ามือบุปผาเหมันที่โจมตี,กระแทกให้ผู้คุ้มกฏทั้งสี่ถอยหลังออกไปหลายก้าว.

"ยอดเยี่ยม!"เมิ่งหยิงหยิงที่อดไม่ได้ตะโกนออกมาเสียงดัง"เจี่ยปิงร้ายกาจมาก!"

ยังมีอะไรต้องกล่าวอีก?นี่คือกลุ่มที่ฉู่เทียนฝึกฝนมากับมือ,ซึ่งมีหนานกงหยุนที่มีพรสวรรค์สูงที่สุด,มีภูติวิญญาณระดับเทพเจ้าที่มีทักษะเหนือล้ำเกินจะคาดเดา,แม้แต่ฉู่เทียนหากไม่ใช้ภูติวิญญาณหลักแล้วล่ะก็,พลังฝึกตนที่เท่ากันยากที่จะเหนือกว่านางได้.

ถัดมาก็จะเป็นเฉินปิงยวีและตงฟางเห่าเหรียน.

เฉินปิงยวีและหนานกงหยุนคือคนที่มีทักษะการต่อสู้ยอดเยี่ยมที่สุด,คนทั้งสองทีดูเหมือนแต่แตกต่าง,หนานกงหยุนคลั่งใคร่การต่อสู้หาแต่เป็นความแข็งแกร่งเกี่ยวกับทักษะการต่อสู้ล้วนๆ,ดังนั้นจึงเป็นนักสู้ประเภททะลวงตะลุยไปด้านหน้า,ส่วนเฉินปิงยวีที่มีความคลั่งใคร้เหนือล้ำยิ่งกว่าหนานกง,นางที่ศึกษาทักษะการต่อสู้ไปถึงแก่นของวิชาต่างๆอย่างแท้จริง,นางที่มีทักษะการต่อสู้ที่ครบเครื่อง,ดื่มด่ำในวิถีการต่อสู้อย่างสมบูรณ์.

นับตั้งแต่ที่นางเข้าร่วมหอการค้าปาฏิหาริย์,นางไม่เคยพลาดการเข้าร่วมฟังบรรยายห้องเรียนกิเลนเลยแม้แต่หลักสูตรเดียว,นางที่ศึกษาและรวบรวมวิชาลับทุกอย่างที่นางพอจะสามารถเก็บเกี่ยวได้,ทุกๆวันจะทำการเรียนรู้ปรับปรุงฝึกฝนศิลปะการต่อสู้และวิชาลับต่างๆมากมายจนไปถึงระดับล้ำลึก.

ในอนาคตข้างหน้าของเฉินปิงยวีอาจจะแข็งแกร่งมากหรือไม่ได้ด้อยไปกว่าหนานกงหยุนแน่นอน.

อย่างไรก็ตามหากกล่าวถึงประสบการณ์และความแตกฉานในวิชาต่อสู้ที่มากมายแล้วหนานกงหยุนไม่สามารถนำมาเทียบกับนางได้.

ทุกๆครั้งที่เฉินปิงยวีโจมตีออกไปนั้น,มีกระบวนท่าทางๆมากมายแปรเปลี่ยนไปทุกครั้ง,เพียงพริบตาเดียวนางใช้ทักษะและวิชาการต่อสู้ 4-5 อย่างออกไป,อาจจะกล่าวได้ว่านี้เป็นผลจากการได้รับการศึกษาจากฉู่เทียนบวกกับทฤษฏีการต่อสู้ต่างๆที่นางเรียนรุ้มา,วิชาการต่อสู้ของนางจึงหลากหลายโดดเด่น,สามารถที่จะฝึกฝนวิชาต่างๆมากมายจนก้าวไปถึงระดับสำเร็จขั้นใหญ่เป็นเอกลักษณ์เกือบทั้งหมด!

เป็นความสามารถในการเข้าใจที่สูงมากๆ!

ผู้คุมกฏทั้งสี่ไม่คาดคิดเลยว่าจะต้องร่วมมือกันป้องกันหญิงสาวผู้นี้,ทันใดนั้นก็แสดงท่าทางอับอายจนกลายเป็นโทสะ"มันอะไรกัน? สี่หยินสี่ธาตุ,จะต้านไม่ได้รึอย่างไร!"
羞成怒 ( nǎo xiū chéng nù ) "อับอายกลายโทสะ" ภาษาอังกฤษ  to be ashamed into anger ภาษิตนี้พบบ่อยในนิยายกำลังภายในโดยส่วนใหญ่แปลเป็น"อับอายกลายโทสะ" หมายถึงคนที่โกรธเมื่อมีคนมาชี้ความผิดของตน หรือตนเองกระทำเรื่องไร้เหตุผล มักเป็นคนที่มีมิจฉาทิฏฐิ  อวดดื้อถือดี ฟาดงวงฟาดงา ไม่รับฟังคำตักเตือนของผู้อื่น

ผู้คุมกฏทั้งสี่เห็นได้ชัดเจนว่ากำลังร้อนรน,พวกเขาแต่ละคนนั้นมีพลังที่ไม่ได้ด้อยไปกว่าหยางเหมี่ยวเลย,ลำพังวิชาธาตุหยินเฉพาะของผู้คุ้มกฏแต่ละคน,วิชาที่มีธาตุแตกต่างกัน,สามารถที่จะปกปิดกลบจุดอ่อนของกันและกันจนกลายเป็นวิชาที่สมบูรณ์แบบ,เช่นนั้นพลังที่พวกเขามีนั้นเหนือล้ำกว่าปกติทั่วไปถึงสองเท่า,แม้แต่ผู้เชี่ยวชาญภูติแท้ระดับ 3 ยังไม่ใช่คู่มือ.

หากแต่สถานการณ์ของพวกเขาทั้งสี่เวลานี้,กับต้องหวาดกลัวต่อหญิงสาวจากอาณาจักรบ้านนอกอย่างงั้นรึ?

พวกเขานั้นเป็นถึงผู้คุ้มกฏที่ร้ายกาจ,ดังนั้นจะปล่อยให้คนอื่นมาดูหมิ่นได้อย่างไร,ต้องไม่ลืมว่าพวกเขานั้นเป็นผู้เชี่ยวชาญที่มีชื่อเสียงมากๆ,หากเรื่องที่ถูกระรานนี้เผยแพร่ออกไป จะเสียชื่อเสียงขนาดใหน.

ผู้คุมกฏทั้งสี่เมินเฉยต่อฉู่เทียนและเมิ่งหยิงหยิงโดยสิ้นเชิง,เพราะว่าพวกเขาคิดว่าคนทั้งสามนั้น,เฉินปิงยวีที่มีพลังฝึกตนสูงที่สุด,เพียงแค่สังหารนางได้,คนอื่นๆก็ไม่จำเป็นต้องกังวลอะไรอีก.

หนึ่งคนพลังวายุที่แข็งแกร่งเป็นแสงสีเขียวเข้มหมุนวนร่างกาย.

หนึ่งคนพลังเพลิงที่ลุกโชนสีแดงม่วงคำรามลั่น.

หนึ่งคนพลังวารีสีเทาที่เชี่ยวกรากพวยพุ่ง.

และอีกหนึ่งคนเปลือกศิลาสีทองเข้มปกคลุมไปทั่วร่างกาย.

ร่างกายของคนทั้งสี่ตอนนี้กลายเป็นภูติอสูรขึ้นมาในทันที,ร่างกายทั้งสี่ที่พุ่งออกมาเห็นเป็นริ้วแสง,เป็นคลื่นแสงสี่สี,กระจายตัวออกไปรอบด้านกลายเป็นค่ายกลอย่างหนึ่งขึ้นมา,เฉินปิงยวีที่ยืนอยู่กลางค่ายกลของพวกเขา,โดยมีผู้คุ้มกฏทั้งสี่ยืนอยู่ในตำแหน่งต่างๆกัน

"ค่ายกลของผู้คุมกฏทั้งสี่นิกายจันทราทมิฬของข้านั้น,แข็งแกร่งโดยธรรมชาติ,ไม่มีจุดอ่อน,พลังที่แตกต่างกันทั้งสี่ธาตุที่ส่งเสริมพลังของกันและกัน,ไม่ว่าจะมีวิชาอะไร,มีความแข็งแกร่งเท่าไหร่ก็ไม่สามารถทะลวงค่ายกลนี้ได้,"อู๋จี๋ที่เห็นค่ายกลถูกสร้างขึ้น,ทันใดนั้นก็รู้สึกโล่งใจ,"เจ้าพวกกระจอก,คิดว่าจะสามารถล้มผู้คุมกฏทั้งสี่ของนิกายจันทราทมิฬได้อย่างงั้นรึ?"

ผู้คุมกฏทั้งสี่ทุกคนล้วนแล้วแต่เป็นกลุ่มคนที่มีภูติวิญญาณหายากด้วยกันทั้งหมด.

ภูติวิญญาณของคนเหล่านี้ยากที่จะจัดการจริงๆ,ลำพังด้วยการผสานกำลังของธาตุทั้งสี่ก็แทบจะไร้จุดอ่อน,เฉินปิงยวีที่รู้สึกราวกับว่าพลังของนางถูกยับยั้งเอาไว้,พายุหิมะของนางในเวลานี้กำลังอ่อนกำลังลง,คาดว่าคงเป็นผลจากค่ายกลของคนทั้งสี่อย่างแน่นอน.

"นี่คือความสามารถที่แท้จริงของนิกายจันทราทมิฬเหรอ!"เมิ่งหยิงหยิงที่แสดงท่าทางไม่พอใจ"คิดใช้คนมากต่อกรคนน้อย,บางทีเจี่ยปิงอาจจะแย่ก็ได้."

"ไม่ต้องกระวนกระวายไป!"ที่จริงแล้วฉู่เทียนค่อนข้างดูแคลนทักษะของสำนักจันทราทมิฬเหมือนกัน,เพียงแค่ความแข็งแกร่งของเฉินปิงยวีหยวีนั้นเพียงพอที่จะจัดการคนทั้งสี่ได้ไม่ยากเย็น,ทว่าด้วยการร่วมมือกันของพวกเขาก็ถือว่าสมบูรณ์แบบ,จึงทำให้ตึงมืออยู่เหมือนกัน,ถึงแม้ว่าจะเป็นเช่นนั้น,เขาก็คิดว่ายังไม่จำเป็นต้องลงมือ,เพราะว่าเขาเชื่อว่าเฉินปิงยวีนั้นมีความสามารถเพียงพอที่จะจัดการได้,"เจี่ยปิงไม่พ่ายแพ้ง่ายๆแน่นอน!"

พลังวิญญาณของเฉินปิงยวีในเวลานี้ได้ปะทุขึ้นกลายเป็นพายุที่รุนแรง,ความหนาวเย็นที่กัดกินไปถึงกระดูก,ในเวลานี้มันได้โบกพัดไปทั่วทั้งห้องโถง,ผู้คุมกฏทั้งที่ที่กำลังควบคุมนางให้อยู่ภายในค่ายกลพร้อมกับโจมตีออกมาไม่หยุดทว่าการโจมตีของพวกเขาก็ไม่สามารถที่จะผ่านการป้องกันกายานิรันดร์ของเฉินปิงยวีได้,ในเวลานี้จึงทำให้นางยังคงปลอดภัยไร้ซึ่งรอยแผล.

สถานการณ์ตอนนี้ดูไม่ดีนัก.

อัตราการใช้พลังวิญญาณของคนทั้งสี่เองดูเหมือนว่าจะเพิ่มขึ้นมาอีกหลายเท่า!

หากว่ายังคงเป็นเช่นนี้แล้วล่ะก็,พลังวิญญาณของพวกเขาต้องหมดก่อนแน่นอน.

ในเวลาเดียวกันนั้นอาวุโสคุมกฏเฟิงได้ตวัดคมมีดสายลมโจมตีออกมา,ขณะที่เฉินปิงยวีหลบเลี่ยงออกมาด้านข้าง,หน้ากากสีดำของนางกับถูกคมมีดสายลมสะบัดพัดปลิวออกมา,เผยให้เห็นความงดงามที่สง่าเป็นหญิงสาวที่สวยงามมากๆ.

เฉินปิงยวีที่มีอายุ 30 ปีแล้ว,ทว่ากลับดูหน้าตายังไม่ถึง 20 ด้วยซ้ำ,ด้วยพลังฝึกตนและอายุของนาง,ในอาณาจักรต้าโจวยังนับว่าหาได้ยากยิ่ง.

อู๋จี๋ที่นั่งลงบนบัลลังก์กล่าวออกมาเสียงดัง"ดูเหมือนว่าจะมีความสามารถบ้างเล็กน้อย,หากยินดีภัคดีต่อนิกายจันทราทมิฬแล้วล่ะก็,ข้าจะไว้ชีวิตไม่ให้ต้องตายไป."

"ชิ!"

ดวงตาทั้งสองข้างของเฉินปิงยวีที่ลุกเป็นไฟด้วยความโกรธเกรี้ยว,พายุของบุพผาเหมันต์ที่โคจรอย่างหนักหน่วงรุนแรง,คาดไม่ถึงเลยว่าจะกลายร่างเป็นดอกบัวขนาดมหึมาขึ้นมา,บอลวารี,คมมีดสายคม,สว่านปฐพี,เพลิงพิโรธ,ไม่สามารถที่จะเข้ามาย่างกายร่างของเฉินปิงยวีได้,ราวกับว่าเมื่อเข้ามาใกล้ร่างของนางก็ถูกแช่แข็ง,สูญเสียพลังไปในทันที.

เฉินปิงยวีที่ประทับมือทั้งสองข้างเปิดผนึกในทันที.

ที่หน้าผากของนางนั้นส่องประกายวับวาวกลายเป็นสัญลักษณ์ดอกบัวสีขาว.

ในเวลานี้ราวกับว่านางได้คลายผนึกความแข็งแกร่งของนางออกมา,พลังมหาศาลที่พวยพุ่งปลดปล่อยออกมาอย่างรุนแรงเพียงแค่พริบตาเดียวก็ทำให้พลังวิญญาณของนางเพิ่มขึ้นมาอีกหลายเท่า,พลังในเวลานี้หนาแน่นรุนแรงยิ่งกว่าผู้เชี่ยวชาญภูติแท้ระดับ 2 ซะอีก.

นีมันเรื่องอะไรกัน?

มีเรื่องที่แปลกประหลาดอยู่ไม่น้อย,ผมที่ดูดำขลับสวยงามของนาง,ตอนนี้ได้เปลี่ยนเป็นสีขาวเงินที่สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า.

"เอ๊ะนี่มัน!"ฉู่เทียนที่รู้สึกประหลาดใจ,"นี่คือพลังแฝงสายโลหิตอย่างงั้นรึ?ดูเหมือนเจี่ยปิงจะมีพลังแฝงของสายโลหิต,นางที่ติดตามอยู่เคียงข้างกายของเขาเป็นเวลานาน,ไม่คาดคิดเลยว่าจะปกปิดเอาไว้อย่างมิดชิดขนาดนี้! เป็นหญิงสาวที่ร้ายกาจจริงๆ!"

พลังแฝงสายโลหิตนั้นเป็นพลังที่มีมาฝั่งอยู่ในสลายโลหิตเป็นพลังที่ได้มาจากบรรพบุรุษ.

ยกตัวอย่างเช่นตระกูลหนานกงของอาณาจักรหนานเซี่ยที่มีพลังแฝงของหงส์เพลิง,ซึ่งแน่นอนว่าบรรพชนของพวกเขานั้นมีความเกี่ยวข้องกับหงส์เพลิง,ดังนั้นสายโลหิตที่มีพลังแฝงในสายเลือดจึงถูกส่งมาจากรุ่นสู่รุ่นตั้งแต่ยุคบรรพกาลจนถึงปัจจุบัน,แน่นอนว่ามันเป็นพลังที่แฝงอยู่ในสายโลหิตจะไม่แสดงออกมาในทันที,มันจะถูกฝังลึกจมอยู่ในสายโลหิตของพวกเขา,เป็นไปไม่ได้เลยที่จะสามารถปลุกขึ้นมาด้วยวิธีการธรรมดาทั่วไป.

เฉินปิงยวีนั้นไม่เพียงแต่มีพลังแฝงของสายโลหิต,ไม่คิดเลยว่า ยังเป็นพลังแฝงที่สืบทอดพลังความแข็งแกร่งมากจากบรรพกาล,หลังจากที่นางปลุกสายโลหิตขึ้นมา,ก็ทำให้พลังของนางเพิ่มขึ้นมาอีกมากมายหลายเท่า.

"ธารเหมันต์ก่อเกิด!"

ประกายแสงที่หน้าผากของนางที่ส่องประกายมากขึ้นและก็มากขึ้น,แขนที่ประณีตขาวเนียนของนางถูกปกคลุมไปด้วยปราณสีคราม,พลังกดดันวิญญาณที่รุนแรงกดดันไปทั่วทุกสารทิศ,ธารน้ำแข็งที่หนาแน่นไหลบ่าปกคลุมไปทั่วพื้นที่,ทุกคนที่รู้สึกราวกับว่ากำลังจะถูกแช่แข็ง,พื้นที่แห่งนี้ราวกับถูกปิดผนึกไปทั้งหมด.

"ถอยก่อน!"

ฉู่เทียนที่พาหยิงหยิงถอยออกมาด้วยวิชาเคลื่อนมิติห่างออกมาหลายร้อยเมตร,พื้นที่ตำแหน่งก่อนหน้าของพวกเขาถูกแช่แข็งเป็นธารน้ำแข็งไปในทันที,พลังวิญญาณที่สามารถแช่แข็งทุกสิ่งทุกอย่างเอาไว้,ไม่ว่าจะเป็นอะไรล้วนแล้วแต่ถูกแช่แข็ง,พื้นที่ดังกล่าวตอนนี้ถูกปิดผนึกเอาไว้อย่างสิ้นเชิง,อาวุโสหลายคนตลอดจนสองพี่น้องเหยี่ยนโก่ยและปิงโม่เองถูกแช่แข็งอยู่ในธารน้ำแข็ง,ทุกคนถูกผนึกเอาไว้ในน้ำแข็งที่น่าเกรงขาม.

คนเหล่านี้ยังไม่ตาย.

พวกเขาเพียงแค่ถูกผนึกเอาไว้เท่านั้นเอง.

ผู้คุมกฏทั้งสี่เองแม้ต้องการจะหนีแต่ก็ไม่มีเวลาเพียงพอ.

ผลึกน้ำแข็งมากมายนับไม่ถ้วนส่องประกายวับวาวกักขังทุกคนเอาไว้,ไม่มีแม้แต่โอกาสให้หนีไป,สายตาของทุกคนในเวลานี้ที่เบิกกว้างเต็มไปด้วยความความหวาดกลัว.

เมิ่งหยิงหยิงที่จ้องมองไปยังห้องโถงแห่งนี้,ถึงกับอ้าปากกว้าง,"ร้ายกาจมาก,เพียงแค่กระบวนท่าเดียว,สามารถที่จะเปลี่ยนตำหนักแห่งนี้เป็นน้ำแข็งได้!"

"เจ้า,เจ้า..."รองประมุขจันทราทมิฬอู๋จี๋ที่ไม่คิดไม่ฝันสะดุ้งตกใจเต็มไปด้วยความโกรธ,ทว่าเมื่อจ้องมองไปยังเฉินปิงยวีที่ลอยอยู่บนอากาศผมสีขาวเงินที่พริ้วไหวร่ายรำตามสายลมที่พัดโบกถึงกับทำให้ต้องอุทานออกมา"เจ้าคือ กงจู่ ของราชวงศ์ต้าโจวที่หายไปเมื่อ 18 ปีที่แล้ว!"

公主 ความหมายคือ (gōngzhǔ)เจ้าหญิง


"นึกไม่ถึงรึไง!"ผมสีขาวเงินที่โบกสะบัดไปมา,ดวงตาทั้งคู่ที่เต็มไปด้วยความเย็นชา,"ราชวงศ์ต้าโจวถูกพวกเจ้าสังหาร,จนเหลือเพียงแค่คนเดียวและยังมีชีวิตจนถึงทุกวันนี้ได้."

"ดี,ดี, 18 ปีที่แล้วเจ้ารอดไปได้,วันนี้กลับกล้าเดินเข้ามาหาความตายด้วยตัวเอง!"อู๋จี๋ที่ตะโกนออกมาอย่างโกรธเกรี้ยว,พลังวิญญาณที่ถูกยิงขึ้นไปบนท้องฟ้า,ปรากฏเป็นอสูรที่ดุร้ายพร้อมกับตวัดฝ่ามือลงมายังทิศทางของเฉินปิงยวีอย่างรุนแรง"ข้าจะสังหารเจ้าในทันที!"

ตูมมมม!

พลังฝึกตนของอู๋จี๋นั้นอยู่เขตแดนภูติแท้ระดับ 3.

เฉินปิงยวีในเวลานี้ไม่มีพลังที่ต่อต้านแน่นอน,นางที่ถูกกระแทกออกไปลอยไปตามแรงฝ่ามือของอู๋จี๋,ทว่าโชคดีพลังของศัตรูนั้นไม่ได้เกินกว่าที่พลังกายานิดรันดร์,ทำให้นางได้รับบาดเจ็บเพียงเล็กน้อยเท่านั้น.

"โง่,เจ้ามันโง่จริงๆ,อุตสาหนีจากต้าโจวได้อย่างยากลำบาก,มันจะบังเอิญอะไรขนาดนี้ถึงกับเดินมาหาความตายถึงต้าโจว,"อู๋จี๋ที่ก้าวออกไป,พร้อมกับพุ่งเข้ามาอย่างรวดเร็ว,ทั่วทั้งร่างของเขาเต็มไปด้วยปราณอสูรที่ทรงพลัง"ในเมื่ออยากตายนัก,ข้าก็จะช่วยเอง!"

มือของอู๋จี๋ที่ยกขึ้นสูง,ควบรวมกลายเป็นดาบปิศาจสีน้ำเงินเข้มปรากฏขึ้นมา.

เคล้ง!

เสียงของกระบี่และดาบกระแทกเข้าหากัน!

ฉู่เทียนที่ปรากฏขึ้นมาด้านหน้าเฉินปิงยวี,กระบี่อเวจีที่ป้องกันการโจมตีดังกล่าวไว้,พร้อมกับกระแทกให้อู๋จี๋ถอยออกไป.,พร้อมกับเข้ามาประครองเฉินปิงยวีซึ่งอีกข้างเป็นหยิงหยิงที่พยุงนางลุกขึ้นมา,"เป็นอะไรหรือไม่?"

ที่มุมปากของนางมีคาบโลหิตอยู่,สายตาของนางขยับไปมาเล็กน้อย"โชคยังดี,ขอบคุณ!"

"ท่านเป็นกงจู่เหรอ,ข้านี่มันตาบอดจริงๆ!"

"เจ้าอย่าล้อข้าเลย."

สายตาของเฉินปิงยวีที่เต็มไปด้วยความข่มขื่นและเจ็บปวด,ฉู่เทียนรู้ดีว่าเฉินปิงยวีจะต้องพบเจอกับประสบการณ์ที่เลวร้ายเกินธรรมดา,ตอนนี้ไม่ควรจะถามอะไรให้มากความ.

"เจี่ยปิงให้เป็นหน้าที่ของข้าเอง!"เมิ่งหยิงหยิงที่ก้าวออกไปด้านหน้า"ผู้ฝึกตนด้านนอกนั้นมีมากจนเกินไป,พวกเราคงจะไม่สามารถชนะได้ทั้งหมด,พวกเราควรที่จะถอยไปตั้งหลักกันก่อน."

"ถอย?เจ้าโง่รึง!"ฉู่เทียนออกมา,"ไม่ใช่ว่าพวกเราได้เปรียบแล้วเหรอ?ตอนนี้ผู้คุมกฏของพวกเขาต่างก็อยู่ในกำมือของพวกเราแล้ว! ตอนนี้มีแต่ต้องฉวยผลประโยชน์เท่านั้น,ทำไมต้องหนีกัน? ดูแลเจี่ยปิงให้ดี,ข้าจะทุบเจ้าคนนี้ก่อนแล้วค่อยพูดกัน!"

ฉู่เทียนที่ให้เมิ่งหยิงหยิงดูแลเฉินปิงยวี,ก่อนที่จะก้าวออกมาด้านหน้า,พร้อมกับเงื้อกระบี่ขึ้น,พร้อมกับยืนประจันหน้ากับอู๋จี๋,พร้อมกับกล่าวออกไปเสียงดัง"ฮ่า ฮ่า,สำนักจันทราทมิฬก็แค่สำนักทั่วไป! ไม่คิดว่าผู้คุมกฏเองจะอ่อนแอถึงเพียงนี้,เช่นนั้นข้าขอดูหน่อยเถอะว่ารองประมุขจะสักเท่าไหร่กัน!"

กล่าวจบ.

ร่างกายของฉู่เทียนก็หายไปทันที,ก่อนที่จะเกิดประกายแสงปราณกระบี่นับไม่ถ้วนถูกส่งไปยังร่างของอู๋จี๋.

ผู้เชี่ยวชาญหนุ่มสาวจากอาณาจักรต้าเซี่ย,คาดไม่ถึงเลยว่าจะหาญกล้าบุกเข้าโจมตีหนึ่งในหกนิกายที่มีชื่อเสียงที่สุดของอาณาจักรต้าโจว!"


"ใจกล้าดีนี!"อู๋จี๋ที่คำรามออกมาพร้อมกับหัวเราะ,"ผู้เชี่ยวชาญภูติแท้ระดับ 1 หาญกล้าท้าทายข้า,มีเจ้าเป็นคนแรก!"


ที่มาจากhttps://lnmtl.com/novel/miracle-throne

#นิยาย บัลลังก์แห่งปาฏิหาริย์ #Miracle throne#นิยายแปลไทย



สนใจสนับสนุนพวกเรา เข้าร่วมกลุ่ม VIP (สถานปัจจุบัน แปลจบ 658 แล้ว)==>  Click


-เว็ปฟรี วันละหนึ่งตอน

-กรุ๊ป vip ลงครบทุกลุ่มแล้ว

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น