วันพุธที่ 14 พฤศจิกายน พ.ศ. 2561

Miracle Throne Chapter 426 Detesting

Miracle Throne Chapter 426 Detesting

นิยาย บัลลังก์แห่งปาฏิหาริย์ ตอนที่ 426 ความเกลียดชัง


บทที่ 426 ความเกลียดชัง



ไซโหม๋วเออไม่เพียงแต่เป็นสุดยอดผู้เชี่ยวชาญในระดับต้นๆของลัทธิซือหลิง,ทว่าในเมืองลวีตีแห่งนี้ยังนับว่าเป็นผู้เชี่ยวชาญแถวหน้า,เผ่าโนมในเวลานี้มีเพียงแค่อาวุโสใหญ่เคอลาเคอเท่านั้นที่สามารถที่จะต่อกรกับไซโหม๋วเออได้,และแม้ว่าเขาจะชนะไซโหม๋วเออได้,แต่ก็ต้องบาดเจ็บหนักอย่างแน่นอน.



ความสามารถของจี่ซือซือหลิงนั้นร้ายกาจดุร้ายไร้ซึ่งความปราณี,พลังของพวกเขานั้นยากที่จะมีใครป้องกัน,และไม่มีใครกล้าดูหมิ่นพวกเขาอย่างแน่นอน.

ตอนนี้นะรึ?

รักษาการเจ้าเมืองที่ทุกคนต่างก็จ้องมองด้วยท่าทางดูถูกดูแคลน.

ชายหนุ่มเผ่ามนุษย์ผู้นี้ดูไม่สมเหตุสมผลเลยแม้แต่น้อย.

คาดไม่ถึงเลยว่าเขาจะสังหารไซโหม๋วเอออย่างง่ายดาย,และยังจัดการเพียงแค่ระยะเวลาสั้นๆเท่านั้น,เขาที่มีพลังเขตแดนภูติแท้ระดับ 1 ,กลับสามารถสังหารผู้เชี่ยวชาญเกินสองระดับโดยที่ไม่ได้รับบาดเจ็บอะไรเลย,เป็นการสังหารจี่ซือ ซือหลิง ไซโหมวเออที่มีเขตแดนภูติแท้ระดับ 3 ได้อย่างราบคาบ,ไม่สามารถที่จะมีใครบรรยายพรสวรรค์ของเขาออกมาได้เลย,มนุษย์ผู้นี้เกินกว่าสามัญสำนึกที่จะบอกได้,เป็นตัวตนที่ยิ่งกว่าสัตว์ประหลาดอย่างสมบูรณ์.

สายตาของโนมหลายพันที่เป็นพยานในการต่อสู้ในครั้งนี้.

เดิมทีมนุษย์ที่ราชาเอลฟ์ส่งมานั้นไม่ใช่ขยะอย่างที่พวกเขาคิด,แม้ว่าด้วยความแข็งแกร่งนี้อาจจะนับว่าไม่ได้มากมายสำหรับป่านิรันดร์,ทว่าความสามารถของเขานั้น,อย่างน้อยที่สุดก็เป็นหนึ่งในสิบของเมืองลวีตีแห่งนี้ได้เลย,ซ้ำเขายังมีอายุที่น้อยมาก,ในอนาคตข้างหน้าคงจะไม่ด้อยไปกว่าเหล่าจิ้งจอกเฒ่าป่านิรันดร์อย่างแน่นอน!

พรึบบบ!

ฉู่เทียนยังไม่หยุดมือ.

นอกจากนี้คงจะไม่มีใครที่จะไม่ตื่นตะลึงกับเหตุการณ์ที่เห็นในครั้งนี้.

ฉู่เทียนที่พุ่งเข้าไปด้วยความเร็วและพลังที่แข็งแกร่ง,ฟาดฟันศัตรูข้างหน้า,เหล่าซือหลิงซูซือหลายต่อหลายคนไม่สามารถที่จะต้านทานประกายแสงของกระบี่ที่ฟันออกไปได้เลย,เพลิงอเวจีที่ลุกโชนกลืนกินพวกเขาคนแล้วคนเล่า.

"ฆ่า!"

"ฆ่ามันซะ!"

เหล่าจี่ซือ ซือหลิงที่ตะเบ็งเสียงออกมาดังกลั่น.

ดวงตาของฉู่เทียนที่เปลี่ยนเป็นสีขาวอีกครั้งแล้ว,รอบๆร่างกายของเขาเกิดเป็นมิติที่บิดเบี้ยวสั่นไปมาเล็กน้อย,เขาที่ก้าวออกไปเพียงหนึ่งก้าว,พร้อมกับหายไปในทันที,ก่อนที่จะมาปรากฏขึ้นที่ใจกลางของเหล่าซือหลิงซูซือ.

"วิชามิติอย่างงั้นรึ?สารเลว!"

ประกายแสงของกระบี่ขนาดยักษ์ที่กวาดออกไป,

เหล่าซือหลิง ซูซือที่ลอยละลิ่วถูกแผดเผาไปด้วยเปลวเพลิงแทบจะในทันที.

เหล่าองค์รักษ์ระดับสูงของลัทธิซือหลิง,ถูกฉู่เทียนสับขาดราวกับสับลูกแตงโมล่วงหล่นลงไปกองอยู่บนพื้นมากมาย.

จี่ซือ ซือหลิงหลายคนเวลานี้เร่งรีบร่ายคาถาอย่างรีบเร่ง,รูปปั้นศิลาผีดิบที่ไม่ขยับก่อนหน้านี้,กลับกลายมีชีวิตขึ้นมาในทันที,ปีกด้านหลังที่สะบัดไปมาพร้อมกับพุ่งตรงมายังฉู่เทียนในทันที.

รูปปั้นศิลาผีดิบเป็นศิลาเชิดของซือหลิงซูซือที่หลอมขึ้นมาอย่างระมัดระวัง,คล้ายกับหุ่นเชิดอาคมของซาแมน,และผู้พิทักษ์ลวีตี,อสูรศิลาผีดิบนั้นมีพลังไม่ได้ด้อยไปกว่าสัตว์อสูรปลุกดวงจิตระดับ 9 ขั้นปลายเลย,นอกจากนี้ทั่วทั้งร่างของมันยังมีอักระเวทย์แห่งความตายและคำสาบ,ถึงแม้ว่าจะเป็นคนที่มีพลังฝึกตนมากกว่าหลายระดับยังต้องหลีกหนี.

ผีดิบศิลา 300 ตน ถูกปลุกขึ้นมาเรียบร้อยแล้ว,ทำให้พลังโจมตีของพวกมันน่าหวาดกลัวขึ้นมาในทันที!

ผีดิบศิลา 300 ตนที่ตีปีกพุ่งเข้ามาพร้อมกัน,ประกายแสงสีเทากลายเป็นริ้วแสงลากยาวออกไป,ปกคลุมพื้นที่ขนาดใหญ่แทบจะในทันที,ต้นพืชใบหน้าและพื้นดินรอบๆที่ถูกประกายแสงลากผ่าน,พลังกัดกร่อนที่รุนแรง,คำสาบที่น่าหวาดกลัว,สามารถที่จะเปลี่ยนทุกสิ่งทุกอย่างกลายเป็นศิลาสีเทาทันที.

คำสาบให้เป็นหิน.

นี่คืออาคมอย่างหนึ่งที่สามารถทำให้สิ่งมีชีวิตหรือแม้แต่สิ่งของกลายเป็นศิลาได้!

หากแต่สำหรับฉู่เทียนแล้ว,คำสาบเหล่านั้นไม่มีผลต่อเขาแม้แต่น้อย,ปราณกระบี่ของเขายังถูกปล่อยออกไป,ฟาดฟันสับไปยังเหล่าซือหลิงซูซือไม่หยุด,เหล่าซือหลิงซูซือ คนแล้วคนเล่าที่ถูกสังหาร,พวกเขาเร่งรีบเรียกกำลังเสริมออกมามากขึ้นเรื่อยๆ,หลุมศพมากมายที่อยู่รอบๆวิหารตอนนี้มีบางอย่างผุดขึ้นมา,รูปร่างของศพศิลากำลังถูกปลุกขึ้นมา,ศพมากมายผุดขึ้นมาจากพื้นดิน,เป็นจำนวนมากมายนับไม่ถ้วน.

เหล่าศพมากมายที่เต็มไปด้วยรอยเย็บไม่ต่างจากครึ่งสัตว์ประหลาด,นี่คือเทคนิคหนึ่งในการสร้างศพทมิฬนั่นเอง,แม้ว่าจะมีร่างกายที่แข็งแกร่งแต่กลับมีความเร็วที่ช้ามากๆ,ทว่าภายในร่างของมันนั้นมีพิษและคำสาบมากมายถูกอัดแน่นอนอยู่,พลังโจมตีของมันนั้นน่าอัศจรรย์,แม้ว่าความแข็งแกร่งของมันไม่เท่ากับผีดิบศิลา,ทว่าจำนวนของพวกมันมีมากมายกว่าพันตนเลย!

ฉู่เทียนเมินเฉยไม่สนใจเหล่าศพทมิฬของพวกซือหลิงเลยแม้แต่น้อย,เขายังคงกวัดแกว่งตวัดกระบี่ฟันเหล่าซือหลิงซูซือขาดเป็นสองท่อนไปเรื่อยๆ.

คนเหล่านี้คือผู้เชี่ยวชาญปราณแห่งความตาย.

สามารถอัญเชิญอสุรกายผีดิบได้เป็นจำนวนมาก.

ความจริงแล้วมันไม่ได้มีค่าให้เขาต้องสนใจเลยแม้แต่น้อย,ซือหลิงซูซือหลายร้อยคน,และศพทมิฬหลายพันตัว,ไม่มีทางที่จะต้านทานฉู่เทียนได้เลย.

"สังหารมัน!"

"สังหารมันเร็วเข้า!"

ผีดิบศิลาที่ปล่อยพลังสีม่วงเข้มออกไป,เป็นลำแสงที่ถูกยิงออกจากตา,พลังของมันที่พุ่งเข้าหาฉู่เทียนแต่กับทะลวงผ่านร่างของเขาไป,ส่วนทางฝ่ายฉู่เทียนนั้นกับสามารถโจมตีฝ่ายตรงข้ามได้.

คลืนนน!

ร่างของผีดิบศิลาระเบิดออกมาราวกับปุยนุ่น.

เหล่าศพทมิฬเองก็ปล่อยบอลเพลิงและคมมีดสายลม,กรวยน้ำแข็ง,ศรพิษ พุ่งหลาวเข้ามาใส่ร่างของฉู่เทียนไม่หยุดหย่อน,หากแต่ทุกการโจมตีของพวกมันนั้นราวกับว่าพุ่งผ่านร่างกายของเขา,ราวกับว่าพุ่งผ่านอากาศก็ไม่ปาน,ไม่สามารถทำอันตรายให้กับฉู่เทียนได้เลยแม้แต่น้อย.

ฉู่เทียนที่ใช้วิชามิติหลบหนี,และทั่วร่างของเขาเองก็มีปราณพลังระยิบระยับรอบๆร่างกายของเขาอีกด้วย.

ถึงแม้ว่าบางครั้งอาจจะมีการโจมตีหลุดผ่านมายังร่างกายของเขาบ้าง,ทว่าด้วยพลังป้องกันกายแสงศักดิ์สิทธิ์,สามารถที่จะป้องกันคำสาบ,พลังความมืด,พลังกัดกร่อน,พลังเกือบทุกอย่างแทบจะไม่สามารถทำให้ฉู่เทียนได้รับบาดเจ็บแม้แต่น้อย.

สังหาร,พุ่งไปข้างหน้า,สังหารอีกครั้ง,และพุ่งไปข้างหน้าอีก!

ด้วยกระบี่ของฉู่เทียนทุกครั้งที่กวาดกระบี่ออกไป,ก็สังหารคนได้มากขึ้นและก็มากขึ้น.

ด้วยพลังที่ยากจะต่อต้านได้,ซือหลิงซูซือหลายสิบคนถูกสังหารด้วยกระบี่ของเขาแทบจะในทันที,และจี่ซือ ซือหลิงถูกเขาสังหารไปสองคน,ผีดิบศิลาอีกหลายตน,ศพทมิฬนับร้อย,ตั้งแต่ต้นจนจบฉู่เทียนยังไม่ได้รับบาดเจ็บเลยแม้แต่นิดเดียว.

ไม่ต้องพูดถึงเลยว่าซือหลิงซูซือ.

แม้แต่โนมยังเต็มไปด้วยความตื่นตะลึงเป็นอย่างมาก.

ชายผู้นี้,ไม่เห็นว่าเขาจะหลบการโจมตีเลยแม้แต่น้อย,หากแต่แม้แต่ขนเส้นเดียวของเขาก็ไม่ได้รับความเสียหาย,ซ้ำฝ่ายตรงข้ามยังถูกเขาสังหารแบบไร้ซึ่งทางต่อสู้.

เผ่าโนมที่สอบถามออกไปด้วยความลังเล"อาวุโสใหญ่,ซือหลิงซูซือถูกสังหารไปหมดเช่นนี้,บางทีคนของพวกเรา..."

"ตอนนี้สถานการณ์ไม่สามารถเปลี่ยนไปได้แล้ว,คงทำได้แค่เพียงค่อยหาวิธีอื่นแก้ปัญหาเท่านั้น"และแล้วเคอลาเคอก็ออกคำสั่งออกไป"อย่างแรก,ต้องล้มล้างวิหารซือหลิงก่อนค่อยว่ากันอีกที!"

แม้ว่าจะไม่ได้รับบาดเจ็บก็ตามที,ทว่าพลังวิญญาณที่ใช้ไปก็นับว่ามากมายมหาศาลทีเดียว.

ขณะที่พลังโจมตีของฉู่เทียนที่ค่อยๆอ่อนลง,ในเวลานั้นเผ่าโนมก็เข้าจู่โจมในที่สุด,ฉู่เทียนที่เข้าโจมตีซือหลิงซูซือจนวุ่นวายไปก่อนแล้ว,ในเวลานี้เมื่อเหล่าโนมเข้าจู่โจม,จึงทำให้พวกเขาแตกพ่ายไม่สามารถตั้งรับได้,ทำให้พวกเขาวิ่งหนีเอาตัวรอด,เข้าไปในวิหารเพื่อไม่ให้ถูกสังหาร.

เหล่าซือหลิงซูซือนั้นถูกสังหารไปเหลือน้อยกว่า 40 ตนด้วยซ้ำ,ทว่าเมื่อพวกเขาหนีเข้าไปในวิหารได้,ก็ทำการเปิดม่านพลังป้องกันสีม่วงกันเอาไว้ในทันที,เป็นม่านพลังที่กางเอาไว้ถึงสองชั้นทีเดียว.

"พวกอันธพาลพวกนี้,ไม่ใช่ว่าต้องการให้ข้าตายรึอย่างไร?"ฉู่เทียนที่เริ่มหมดแรงเล็กน้อย,ทว่าสายตาของเขานั้นยังเต็มไปด้วยประกายแสงที่น่าเกรงขาม,ทำให้เหล่าซือหลิงซูซือรู้สึกหวาดกลัวอยู่เหมือนกัน,"ต้องการสังหารข้าจริงๆเหรอ,ทำไมหดหัวอยู่ในกระดองกัน?"

ม่านพลังวิหารแห่งนี้แข็งแกร่งไม่น้อย.

บางทีในระยะเวลาอันสั้นคงไม่สามารถเปิดได้.

แต่ถึงกระนั้นไม่ว่าอย่างไรในเวลานี้,ซือหลิงซูซือไม่มีทางที่จะหลบหนีไปใหนได้แล้ว.

"พวกเจ้าฟังให้ดี,ข้าจะให้โอกาสพวกเจ้ามีชีวิตอยู่อีกสักครั้ง!"เคอลาเคอที่กล่าวออกไปด้วยเสียงที่จริงจัง"รีบบอกวิธีรักษาโรคระบาดออกมาเดี๋ยวนี้,ไม่เช่นนั้นแล้ววิหารแห่งนี้จะต้องกลายเป็นเถ้าถ่านในทันที!"

"ฮ่า ฮ่า!"จี่ซือ ซือหลิงที่หัวเราะเสียงดัง"เจ้าคิดจริงๆรึว่าพวกเราจะบอกเจ้า? เมืองลวีตีแห่งนี้จะต้องถูกทำลาย,พวกโนมจะต้องตายทั้งหมด,และพวกเราจะเปลี่ยนสถานที่แห่งนี้เป็นดินแดนแห่งความตาย,พวกเรากำลังจะก้าวไปสู่อ้อมแขนของเทพแห่งความมืด,ส่วนพวกเจ้านั้นจะต้องเจ็บปวดทรมาน,ราวกับตกนรกก็ไม่ปาน!"

คาดไม่ถึงเลยว่าคนพวกนี้จะบ้าคลั่งได้ถึงขนาดนี้?

"เจ้ามนุษย์โง่,เจ้าคิดว่าพวกเราพ่ายแพ้แล้วอย่างงั้นรึ?"จี่ซือ ซือหลิงที่กลับหลังหันก่อนที่จะจ้องมองไปยังแท่นบูชาขนาดใหญ่"ตอนนี้ข้าจะให้พวกเจ้าต้องพบกับสิ่งที่เรียกว่าความตายและความหวาดกลัวที่แท้จริง!"

ฉู่เทียนที่เผยสีหน้าประหลาดใจ.

กลิ่นอายแห่งความตายที่ปกคลุมไปทั่วทั้งวิหารแห่งนี้.

แท่นบูชาและเทวรูปหลายแห่งระเบิดออกมาพร้อมกัน,ก่อนที่ผนึกบางอย่างปลดปล่อยกลิ่นอายแห่งความตายแผ่ออกมาอย่างบ้าคลั่ง,คาดไม่ถึงเลยว่าวิหารแห่งนี้เต็มไปด้วยพายุปราณแห่งความตาย,พลังพายุดังกล่าวนั้นกวาดทุกสิ่งทุกอย่างให้แตกละเอียด,ราวกับว่ามันกำลังจะระเบิดสถานที่ดังกล่าวได้ในทุกเวลา.

ใบหน้าของเคอลาเคอถึงกับเปลี่ยนสี,"พลังแห่งความตายหนาแน่นมาก,พวกมันกำลังจะระเบิดตัวเองอย่างงั้นรึ?ถอยเร็วเข้า!"

"ไม่,ห้ามถอยเด็ดขาด,นี่คือพิธีกรรมบางอย่าง."ฉู่เทียนที่ตะโกนบอกเคอลาเคอและคนอื่นๆ"ขัดขวางพวกเขาเอาไว้!"

สายเกินไปแล้ว.

พิธีกรรมดังกล่าวนั้นมีความรวดเร็วเกินกว่าที่ฉู่เทียนจะจินตนาการถึงได้.

เทวรูปของซือหลิงซูซือหลายสิบอันที่กำลังบิดเกลียวหมุนวนไปมาในพายุ,รอบๆพายุที่แตกกระจายนั่นแขนขาของพวกมันที่แตกหักไปค่อยรวมตัวกันขึ้นมาใหม่,ที่ใจกลางของพายุเศษชิ้นส่วนต่างๆมากมายกำลังหมุนวนไปมาพร้อมกับประกอบกัน,รวมร่างกลายเป็นยักษ์ใหญ่สูงแปดเมตร.

"นี่มันคืออะไรกัน?"

เหล่าโนมต่างตื่นตะลึงตาค้าง.

ร่างที่ใหญ่ยักษ์สูงแปดเมตรนี้เกิดจากศพหลายร้อยตนมารวมกัน,หัวขนาดใหญ่ที่กำลังถูกบีบให้เป็นรูปเป็นร่าง,ไหล่ที่กำลังปรากฏออกมา,หน้าอก,ท้อง,และใบหน้าที่น่าหวาดกลัว,แขนและขาพร้อมกับลำตัว,เป็นเหมือนกับเนื้อบดที่กำลังรวมตัวกันขึ้นมานั่นเอง.

นี่คือการประกอบรวมร่างกันของซือหลิงซูซือที่โกรธแค้นหลายสิบตน,พลังความมืดและความเกลียดชัง,รวมทั้งเหล่าสาวกคนอื่นๆอีกหลายร้อยคนก็แหลกสลายและกลับมารวมร่างกัน,เป็นเหมือนกับภูเขาของเนื้อบด,ที่ถูกปะติดปะต่อด้วยพลังงานแห่งความมืด,เพื่อมอบให้กับกลิ่นอายที่น่าหวาดกลัวนั่นเอง.

"เซิ้งหวู่?!"
Zēngwù  กลุ่มก้อนความเกลียดชัง

ใบหน้าของฉู่เทียนถึงกับเปลี่ยนเป็นซับซ้อนไปเลยทีเดียว.

เซิ้งหวู่ นั้นเป็นอสุรกายผีดิบที่พิเศษเป็นอย่างมาก,พวกมันเกิดจากความรู้สึกที่เกลียดชัง,กระหายโลหิต,ความตาย,ความรู้สึกด้านลบมากมายมารวมตัวกัน,อาจจะเรียกได้ว่าเป็น กลุ่มก้อนความเกลียดชังนั่นเอง.

เหล่าอสูรผีดิบเหล่านี้เกิดจากการสังเคราะห์แบบหนึ่ง,ถึงแม้ว่าจะไม่ใช่รูปแบบการรวมกันของสิ่งมีชีวิตก็ตาม,แต่ก็นับเป็นสิ่งมีชีวิตแห่งความตาย,ที่มีการเชื่อมต่อกันด้วยอสูรผีดิบจำนวนมาก,และยังมีพลังแห่งความตายที่หมุนวนอยู่ในร่าง,ยากที่จะขับออกมาด้วยวิธีการธรรมดา,ดังนั้นจึงอาจบอกได้ว่าเป็นวิชาแห่งความตายวิชาหนึ่งก็ได้,เซิ้งหวู่ นี้ก็เหมือนๆกับหุ่นเชิดตนหนึ่งนั่นเอง.

พลังของ เซิ้งหวู่ นั้นมีมากมายไม่มีจำกัด,วัตถุดิบในการเซิ้งหวู่ขึ้นมานั้น ก็คล้ายๆกับการสร้างศพทมิฬ,หากแต่เซิ้งหวู่นั้นมีความร้ายกาจกว่ามาก.

เซิ้งหวู่ ตนนี้เกิดจากการรวมตัวกันของซือหลิงซูซือและเหล่าสาวกอื่นๆอีกกว่าหนึ่งร้อยชีวิต,ด้วยการผสานร่างเข้าด้วยกัน,เพียงพอที่จะสร้างหายนะต่อเมืองลวีตีได้เลย,เซิ้งหวู่ตนนี้แม้ว่าจะยังไม่รวมตัวกันอย่างสมบูรณ์,ทว่าก็มีความสามารถในการใช้อาคมพิเศษได้,ซึ่งนับว่าเป็นตัวอันตรายที่ยากจะจัดการ.

"เคอลาเคอ..."เซิ้งหวู่เริ่มพูดออกมา,ปากของพวกมันนับสิบปากที่เริ่มพูดพร้อมๆกัน,"เจ้าเลือกตัวเลือกที่โง่งมที่สุด,สำหรับตัวเลือกข้อนี้,คือเจ้าและคนของเจ้าจะต้องตายไปพร้อมกับเมืองแห่งนี้.

เสียงที่ซ้อนทับกันมากมาย,เกิดเสียงสะท้อน,ทำให้คนที่ได้ยินถึงกับหวาดผวา.

ความจริงแล้วเคอลาเคอไม่ได้หวาดกลัวเซิ้งหวู่,ทว่าคนที่กล่าวออกมานี้,ไม่ใช่เจตจำนงของเซิ้งหวู่,เพราะว่าเซิ้งหวู่นั้นไม่ได้มีความคิดเป็นของตัวเอง,มีคนบางคนที่กำลังควบคุมเซิ้งหวู่จากระยะไกล,ตอนนี้ร่างของเซิ้งหวู่นั้นถูกคนผู้นั้นควบคุมอยู่นั่นเอง.

ไม่จำเป็นต้องคาดเดาเลยว่าเป็นใคร,แทบจะหนึ่งร้อยเปอร์เซ็นคนผู้นั้นก็คืออู๋เหยานั่นเอง.


อู๋เหยาในเมืองลวีตี,เขาใช้เซิ้งหวู่เหล่านี้มาสู้,โดยการแลกเปลี่ยนกับชีวิตของคนเหล่านี้แทน!



ที่มาจากhttps://lnmtl.com/novel/miracle-throne

#นิยาย บัลลังก์แห่งปาฏิหาริย์ #Miracle throne#นิยายแปลไทย



สนใจสนับสนุนพวกเรา เข้าร่วมกลุ่ม VIP (สถานปัจจุบัน แปลจบ 658 แล้ว)==>  Click


-เว็ปฟรี วันละหนึ่งตอน

-กรุ๊ป vip ลงครบทุกลุ่มแล้ว

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น